พบพระพุทธเจ้า ถามเฉพาะ คนที่ได้พบนะครับ คนที่เข้ามาแนะนำอะไรไม่ต้องเข้ามานะครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย รักษ์11, 28 สิงหาคม 2016.

  1. รักษ์11

    รักษ์11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +516
    ตามนั้นเลยครับ จะพบพระพุทธองค์ ด้วยวิธีไหน แบบไหน

    ได้ทั้งนั้นเลย จะเป็นนักเจริญกกรมฐาน หรือไม่ได้เป็นอะไร

    เชิญมาคุยกัน ขอบคุณมากนะครับ

    ..หมู่พวกคณะ ละวางไม่ยึดติด ว่าหลงบ้าง อะไรบ้างไม่ต้องเข้ามานะครับ

    ไม่ได้เชิญ หวังเข้าใจกันนะครับ
     
  2. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452
    ๑. ทานบารมี
    ๒. ศีลบารมี
    ๓. เนกขัมมบารมี
    ๔. ปัญญาบารมี
    ๕. วิริยบารมี
    ๖. ขันติบารมี
    ๗. สัจจบารมี
    ๘. อธิษฐานบารมี
    ๙. เมตตาบารมี
    ๑๐. อุเบกขาบารมี

    รักษาให้ครบ
    ผมเคยได้สัมผัสพลังท่าน พลังพุทธานุภาพ

    ท่านอยู่เหนือโลกทั้ง3 ซึ่งเรียก แดนพนะนินพาน

    ไปหาท่านได้ตลอด ถ้าศีลคุณพร้อม ภาวนาถึง

    นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว พระอรหันต์ ทุกท่าน ทุกองค์

    คุณก็ไปหาท่านได้ เอาตัวของทา่นจริงไปนะ

    ไม่ใช่ร่ายกายพุพัง ท่ีท่านมาอาศัย อยุ๋ชั่วคราวนี้ ที่รอวันเน่า เข้าโรงผี

    ถอดกายในไปเลย พบได้จริงครับ ฟันธง
     
  3. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452
    ศีล สมาธิ ปัญญา แค่นี้แหละครับ

    บวก อิทธิบาท 4 ถ้าทำได้จริง ก็พบทา่นได้จริงครับ
     
  4. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ การพบพระพุทธเจ้า "ของพวกเรา" นั้นใช้วิธี ดังนี้

    1. ฝึกทำลายจิต (ความเป็นตน) ให้รุนแรงที่สุด เท่าที่จะทำได้ แรก ๆ จะเป็นอาการ (ดับตน ความเป็นตนสลายคลายตัว ปล่อยให้มันคลายตัวจนถึงที่สุด)
    2. เมื่อชำนาญแล้ว พวกเรามักจะใช้การ "ระเบิดความเป็นตน" ทิ้งไป ซึ่งจะทำให้ "อัตราการสลายคลายตัว" นั้นเจิดจ้ามาก จากนั้นจึงปล่อย "แช่" อาการ "จ้า" ไว้เฉย ๆ

    +++ ปรากฏการณ์ของ "พระพุทธะปรากฏ" จะมีมาเอง เป็นมาเอง แทบทุกครั้ง ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำได้ "พระพุทธองค์ย่อมปรากฏมาเอง"
    +++ ผู้ใดที่ "รู้จักความเป็น ตน" แล้ว จะทดลองทำดูก็ได้ นะครับ
     
  5. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต...

    ง่ายมั๊ยครับ
     
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    พบมีสองแบบ คือแบบชั่วคราวและแบบถาวร

    วิธีการก็ต่างกัน แต่ไม่ว่าจะแบบใด พื้นฐานที่ต้องมีเหมือนกัน

    เมื่อใดที่ทำพื้นฐานได้แล้ว ย่อมไปพบพระพุทธเจ้าได้ครับ

    แต่ถามหน่อย จะไปพบพระพุทธเจ้าเพื่ออะไร อยากได้อะไรหรอครับ
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    เห็นทุกข์คือเห็นธรรม คือเห็นตถาคต แค่เห็นยังไม่สามารถพบปะพูดคุยกับท่านได้

    ก็อย่างที่ผมเคยกล่าวมา ท่านต้องทำพื้นฐานให้ได้ก่อน ครับ สาธุ

    เพราะพื้นฐานทางจิต ที่ทำนั้นจะเป็นเครื่องส่งจิตให้มีกำลังมากพอนั่นเองครับ

    กำลังแห่งจิตเกิดได้เพราะอาศัย จิตเข้าถึงพระธรรม ชำระอาสวะออกไปทำลายสิ่งห่อหุ้มฉุดรั้งจิต

    เมื่อนั้นพื้นฐานทางจิตท่านทำได้สำเร็จแล้ว ท่านก็ย่อมไปถึงครับ
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    พบแบบไม่จริงก็มีเยอะนะครับ แต่ก็ถือว่าได้พบ

    นึกเอาเองปรุงแต่งไปเองว่าฉันได้พบ และเห็นท่านงดงามอย่างนั้นอย่างนี้ ได้ยินเสียงท่านเปล่งออกมาด้วยนะ ท่านเปล่งวาจาอย่างนั้นอย่างนี้

    จริงเท็จไม่รู้ รู้แต่ว่า อันไหนดีก็น้อมนำมาอันไหนไม่ดีก็สำเนียกปรับปรุงแก้ไข แล้วอย่าไปหลงดีใจ หรือพอกหนากิเลส อัตตาหรือปรุงแต่งใดๆให้จิตตนครับ รวมทั้งการโอ้อวดมันไม่ได้มีส่วนชำระจิตตนแต่อย่างใด

    ไม่ได้ว่าหรือตำหนิใคร เพียงแต่ อยากให้เข้าถึงแก่นแท้

    ของจริงมันจะปรากฏของมันเอง ผู้มีสติปัญญาย่อมรู้แจ้งปลาบปลื้มปิติและปล่อยวาง ก็เท่านั้นครับ สาธุ
     
  9. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ถ้าบรรลุธรรมเสียแล้ว คงไม่รู้สึกอยากพบท่านหรอกครับ ในยุคพุทธกาลมีหลายคนที่ได้พบปะเจอพระพุทธเจ้าต่อหน้า ได้สนทนากัน แต่หลายๆคนก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วยเพราะเหตุ 2 ประการหลักๆคือ

    1.มีบุญบารมีน้อย เป็นพวกบัวใต้โคลนตม คนกลุ่มนี้จะไม่สามารถเข้าใจธรรมอะไรใดๆได้เลย ดังนั้นพระพุทธเจ้าจะบอกสอนอะไรไปเขาก็ไม่สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามได้

    2.พอจะมีบุญบารมีสามารถเข้าถึงธรรมได้ แต่มีมิจฉาทิฏฐิหนักรุนแรงเกินไป พระพุทธเจ้าท่านจะไม่อยากเสียเวลากับคนพวกนี้นัก ถ้าคนๆนั้นไม่มีวิสัยบรรลุธรรมชั้นสูงถึงขั้นเป็นพระอนาคามีหรือพระอรหันต์ได้ ท่านก็ไม่อยากจะเสียเวลาไปโปรด

    เพราะธรรมะคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ถือเป็นของล้ำค่า มีค่ามาก การเอาไปบอกไปสอนให้กับผู้ที่ไม่ศรัทธาแล้วธรรมะนั้นโดนย่ำยีจึงดูเป็นการไม่สมควร ถ้าท่านตัดสินใจจะสอนใครแล้วคนๆนั้นต้องได้บรรลุธรรม
     
  10. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ตอนไปที่ซอยสายลม เห็นเค้าฝึกมโนมยิทธิเข้าเฝ้าพุทธองค์กันเลยครับ

    แต่ถ้าไม่ต้องการสายมโนมยิทธิเพราะติติงว่า มโนเอาเอง

    การฝึกพุทธานุสติ และวางจิตตรงต่อนิพพานหรือโพธิญาณ ก็พบได้ครับ ถ้าเราติดขัดและอยู่บนทางแห่งความเพียร ซึ่งผมว่า มโนมยิทธิก็ใช้หลักเดียวกัน ถ้าไม่ยึดติดคิดติติงว่า มโนมยิทธิ คือการมโน ก็ไปหาพระอาจารย์สอนได้เลย เร็วกว่า

    แต่ถ้าปล่อยตามธรรมชาติ ฝึกบารมีตามธรรมชาติของเรา ไม่มีอาจารย์ก็นานหน่อยกว่าจะพบ และไม่เสถียร คือ ไม่พบได้ดั่งใจที่ฝึกฝนอย่างมโนมยิทธินะครับ

    แต่ก็อย่างที่มีผู้ตอบไปครับ การเห็นธรรมนั้นดีที่สุดครับ คือ การเห็นพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง การเห็นเป็นนิมิต ไม่จัดว่าเห็นพระพุทธเจ้าครับ

    ปล. การฝึกมโนมยิทธิ หรือกรรมฐานกองใด สุดท้ายก็คือเพื่อให้จิตเข้าถึงธรรมะนั้นเองครับ ซึ่งเมื่อนั้น ท่านจะเห็นพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ไม่มีวันสงสัยว่า คือ การมโน หรือหลงไปนะครับ
     
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เห็นทั้งประพุทธเจ้า ทั้งในหลวง


    วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไร?
     
  12. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คุณพ่อของดิฉันเคยได้พบค่ะ ท่านเสด็จมาโปรด

    แต่ดิฉันได้อภิสิทธิ์มากกว่าการเข้าพบ ^~^
     
  13. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    สิ่งสำคัญเมื่อได้พบท่านแล้ว เราต้องละกิเลสเพื่อพ้นทุกข์ให้ได้ค่ะ (สำหรับผู้ตัดสังโยชน์ได้บ้างแล้ว) ท่านจะชี้ทางให้รับกระแสพระนิพพานอย่างเดียว เวลาจมทุกข์ แต่ถ้ารุ้สึกไม่ไหวจริงๆ ท่านจะทรงแผ่พระเมตตาเจาะจงเราเลยค่ะ

    เมื่อจิตปราศจากนิวรณ์ กิเลส และความทะยานอยาก จิตจะได้เสวยวิมุตติรส
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ธรรมะ ไม่ใช่เรื่อง การประจบ สอพลอ แล้วได้ธรรม

    การเจอ ไม่ใช่ ใบเซอร์การันตีว่า มีธรรม


    พระพุทธองค์ทรงตรัสถึง วิธีการเข้าเฝ้า เยี่ยม
    เยือนในหลายพระสูตร ล้วนแต่ตรัสถึง การปฏิบัติ
    ที่เรียกว่า วิหารธรรม

    เช่น

    หากต้องการเข้าเฝ้าบ่อยๆ ให้อยู่ด้วย อานาปานสติ อันชื่อว่าตถาคตวิหาร

    หากต้องการเข้าเฝ้าแบบแนบสนิท ให้อยู่ด้วย อเนญชาสมาบัติ

    สองวิหารธรรมนี้ เปน การอยู่ที่ปราศจาก ความคิด การพูด การเสวนา และ ดับสนิทซึ่งนิมิต

    ดังนั้น หากยังไม่พบ หรือพบแล้วก็ข้าฯทิ้งเสีย
    ก็ดูก่อนว่า อยู่ด้วย อานาปานสติหรือเปล่า ถ้า
    เปนนักกสิณ ก็ลุถึงอเนญชาสมาบัติ หรือเปล่า

    การไม่เห็น จะเปนการเห็นตามฏีกา ที่พระพุทธทรง
    ชี้สัจจหนึ่งเดียว ไม่มีสองเอาไว้


    อันตัวข้าเจ้าหายใจตลอดเวลา เลยภูมิใจกับ
    การได้เห็นพระพุทธองค์ แม้นมีบ้างจะเกิด
    นิมิตเหนเปนรูป แต่นิมิตนั้นจะไม่พูด แถม
    ทรงดำเนินเข้าไปหลังดวงแสงสว่างจ้า ดับพรึ้บ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2016
  15. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    การพบของกระผม จะพบทา่นได้ก็ต่อเมื่อ ละวางทางโลกได้จริงๆนะ

    ถ้าทำสมาธิ เฉยๆ ได้ฌาณสมาบัติ จับลมได้อย่างละอียด ก็ไม่พบนะ

    และการพบของผม ก็ไม่ได้ อยาดกพบ ตั้งใจจะพบ หรือปราถนาจะพบ

    จะพบก็ต่อเมื่อกระผม วางใจ ละ ปล่อย ไม่ยึดมั่นถือมั่น โลกธรรม8ได้จริง

    ละนานได้แคไหน ก็พบ พบพระพุทธองค์ได้นานแต่นั้น

    ยึดหลักธรรมคำสอน ของพระองค์ท่าน เจริญอริยสัจจสี่ เจริญวิปัสสนา

    พบเองนะครับ และก็ไมไ่ด้ยึดติดอะไร

    แต่แปลก พอได้พบท่าน การวาง การไม่ยึดติด ทำได้เร็ว

    อาจจจะได้รับ พุทธานุภาพ หรือพระรัศมี แห่งการปล่อยวาง ของพระองค์องค์
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    มโนมยิทธิ หรืออภิญญาอื่นๆ มันเป็นโลกัยะสภาวะ

    ผมถึงบอกเสมอว่า ท่านต้องทำพื้นฐานให้ได้ก่อน ถ้าท่านทำพื้นฐานไม่ได้ สมาธิและจิตท่านยังสกปรกมาก แล้วท่านจะเอากำลังที่ไหนไปละ

    ถ้าท่านทำพื้นฐานได้แล้ว อภิญญา และญาณย่อมเกิดมีกับจิตท่าน ท่านย่อมไปไหนก็ได้ ไปรู้อะไรก็ได้ ท่องไปทั้งในทั้งงนอก จนต้องกลับมาอยู่ในที่ของมัน เพราะบ้านของมันคือความว่างครับ
     
  17. ดินหอม

    ดินหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +188
    "ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต""ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ ในวักกลิสูตรที่ว่าไว้ดั่งพระพุทธองค์ดำรัส พระวักกลิ เป็นผู้ที่หลงใหลในรูปลักษณ์ความงดงามของพระองค์มาก จนกระทั่งพระพุทธองค์ต้องขับออกจากสำนักไป เนื่องจากไม่ฝักใฝ่ในธรรมะอย่างแท้จริง

    ด้วยความโทมนัสจึงจะไปกระโดดหน้าผาตาย พระพุทธองค์ตามไปพบเทศนาสั่งสอนเรื่อง "ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต" เพื่อให้พระวักกลิถ่ายถอน ความยึดมั่นถือมั่นในตัวพระองค์ หันมาน้อมนำในพระธรรมคำสั่งสอนแทน จนสามารถบรรลุธรรมได้ในบัดนั้น..

    การเห็นอย่างธรรม คือเห็นให้ลึกและกว้าง เห็นแบบธรรมชาติ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การเข้าใจหลักแห่ง ปัจจยตา เมื่อมีสิ่งนั้นย่อมมีสิ่งนี้

    การเห็นเช่นนี้ สัมผัสได้ทุกอณูของร่างกาย ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะแบบไหน อริยาบถ 4 ยืน เดิน นั่ง นอน มีสติและปํญญาระลึกได้อยู่ตลอด ต้องปฎิบัติเองครับ..ใครกินใครอิ่ม....การเข้าใจธรรมมี 2 นัยยะ

    1. เห็นแบบกะพี้....เปลือกนอก..ประเภทพิธีกรรม+อภินิหาร+ลาภสักการะ ไม่มีทางเข้าใจได้....... บัวเกิดมาแต่ตม แต่พอโผล่พ้นน้ำก็ไม่มี ขี้ตม..ติดมาให้เห็น..แปลกแต่จริงนะครับ..การพิจารณาคน..กับบัว 4 เหล่าจึงชาญฉลาดมาก

    2. เห็นแบบแก่น เข้าถึงอย่างจริงจัง รู้และเข้าใจหลักของธรรมชาติดีว่า มีความผันแปรไป ไม่มีอะไรเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวครับ

    สัมผัสได้แห่งองค์ความรู้ของตนเอง..กาย วาจา ใจ ไม่ใช่ในเชิงนิยามตามหลักวิทยาศาสตร์.
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    พบพระพุทธรูป พูดได้ครับ
     
  19. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ เป็นเช่นนั้น ไม่มีกองลมทั้งปวง ไม่มีนึกคิดปรุงแต่งทั้งปวง ไม่มีรู้สึกทั้งปวง มีแต่ "รู้ และ สภาวะเจิดจ้าของสติ" เท่านั้น อย่างอื่นไม่มี

    +++ เป็นเช่นนั้น "พระพุทธองค์ย่อมปรากฏมาเอง" ท่านมาของท่านเอง "พุทธะปรากฏมาเอง"

    +++ เป็นเช่นนั้น "เจตนาที่จะพบ ไม่มี" ณ ขณะนั้น ๆ "ไม่ว่าเจตนาใด ๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย" ตรงนี้เป็นจุด "ชี้ขาด

    +++ เป็นเช่นนั้น มันเป็นการ "แช่อยู่" กับสภาวะอัน "เจิดจ้าของสติ" อันเป็นอาการที่เรียกว่า "พรรณรังสี"

    +++ สภาวะธรรมที่เป็น "สัมปะยุตตาธัมมา" นั่นเอง จึงเป็น สะพานอันเชื่อมต่อ สอดคล้องให้ ถึงกันได้

    +++ เป็นเช่นนั้น ไร้เจตนาในการเจอ เมื่อลาท่านแล้ว ก็ไม่มีอะไรยึดติดอีก

    +++ การพบนี้ "เป็นการพบที่ไม่ใช่ มโน นิมิต ถอดกาย ถอดจิต เจตนา" ทั้งหมดที่คนทั่วไปเข้าใจ

    +++ เป็นเช่นนั้น "อานุภาพของ ฉัพพรรณรังสี ของพระพุทธองค์" เป็นเช่นนั้นจริง ๆ บารมีของ สัพพะพุทธานุภาเวนะ (ทุกพระองค์) "ช่วย" ให้เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

    +++ สำหรับผู้ที่ "ต่อต้าน" การพบพระพุทธองค์ ก็คงกล่าวได้แค่ว่า "ซวยแบบถึงที่สุด หาจุดจบไม่เจอ" ด้วยกรรมของเขาเอง นั่นแล

    +++ ตั้งแต่เข้าเวปนี้มา ก็เพิ่งเจอ "คุณ พรานป่า" เท่านั้น ที่ชี้อาการของตรงนี้ได้

    +++ ยินดีกับคุณ พรานป่า ด้วยนะครับ ที่ยังมีผู้ "ปฏิบัติ" ที่สามารถมาถึงตรงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นคนไทยที่ "ปฏิบัติตามทางของศาสนาพุทธ" ด้วยกัน
     
  20. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ได้ไปพบพระพุทธองค์มาแล้ว ยังกลับมาพูดจายกตนข่มคนอื่น ช่างน่าเวทนาเสียจริงครับ มโนก็เก่งด้วย เฮ้อ! คนเรามันน่าสงสารตรงที่ชอบหลอกตัวเอง นี่แหละซวยของจริงครับ

    ถ้าแค่ไม่รู้จักคำว่าปรินิพพาน ก็จงหยุดหลอกตัวเองเถอะครับ ยังกล้ามาบอกว่าปฏิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจเลยว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ให้ทำอะไร เพื่ออะไร ถ้าคิดว่าท่านมาหาจริงๆก็จงหลงอยู่อย่างนั้นต่อไปเถอะครับ ซวยไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...