ความลึกลับของสติปัญญา!!!

ปรบมือให้ลุงมหาค่ะ.

 

ขอโมทนาบุญ

ขออนุญาตครับ

เขียนมาจนอยากจะเลิกเขียน กลับมาพบว่า ที่ได้เขียนไป มีคนมีบุญ เข้ามาอ่าน มาเข้าใจเหมือนกัน

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ข้าวสุก1เมล็ด ยังเกิดประโยชน์แก่สิงมีชีวิตเล็กๆมากมาย สิ่งที่ท่านมหาทำมันยิ่งกว่านั้น เพียงแต่ในเมื่อสิ่งนั้นมันดีของมันอยู่แล้ว ออกมาจากภายในและความแจ้งของท่านเอง ผมอ่านแล้วก็ทำได้เพียงปรบมือภายในใจมานาน วันนี้ขอปรบมือดังๆ เป็นกำลังใจในสิ่งที่ท่านมหาทำต่อไปนะครับ ภายในทุกอย่างก็ยังสามารถเพิ่มได้มากขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ
อนุโมทนาครับ

 

การท่องจำ การอ่านจากตำรา แม้นว่าจะไปใช่ตัวบ่งบอกว่าจะทำให้เกิดปัญญา แต่มันก็เหมือนบันได เหมือนหน้าต่าง ที่เปิด ที่ก้าวขึ้น ไม่มีสิ่งใดไม่มาจากฐาน จากจุดเริ่ม แม้นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้สุด แต่มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เริ่ม ให้เปิด
แม้ว่าวันนี้ เหล่าๆๆท่านๆทั้งหลาย ไม่ได้เริ่มมาเช่นนั้นเหมือนกัน ก็ ไม่มาถึงจุดที่ เข้าใจว่า มาถูกทางถูกวิถี... วันนึง เขาจะเรียนรู้เอง เพราะอย่างน้อยสิ่งที่เขาทำวันนี้ ก็ได้เปิดตาเขาให้กว้างในอนาคต เปิดโลกให้เขาได้สัมผัส เพื่อที่จะได้ รู้ ได้เปรียบเทียบ กับ อดีต ที่เขาจะได้ก้าวต่อไป ถ้ามันผิดก็ผิดที่ คนยุคก่อน ยัดเยียดสิ่งนี้ให้เขานั้นแล ทั้งที่เขาก็ไม่รู้ แต่ต่อไปเขาจะรู้ได้เอง เหมือน ท่านๆๆนั้นล่ะ เพียงแต่กว่าจะรู้ มันจะเสียเวลามากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

 

สติปัญญา เกิดขึ้นได้จากการเป็น คนปกติครับ ^ ^

 

ขออนุญาตครับ
เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค.59 เกิดเหตุเพลิงไหม้ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ภายในปั๊ม ปตท.ดอนยาง ในพื้นที่ บ.ดอนยาง ม.4 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ฝั่งขาขึ้นหาดใหญ่ มีความอัศจรรย์ใจอย่างนึง ที่อยากให้เห็น
เครดิตภาพ จนท. Eod/
ขอโมทนาบุญ
ลุงมหา

 

กาย เวทนา จิต ธรรม

ขออนุญาตครับ

ผมเคยบอกเคยเล่าว่า "ธรรมมันอยู่ในจิต แม้ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่า ผมรู้อะไรบ้าง"
"เมื่อมีผู้มาถาม เมื่อผมตอบ ธรรมนั้นมันจะหลั่งใหลออกมาเอง"

เมื่อไม่มีผู้มาถาม ถ้ามีสัมผัสอะไร ผมก็เขียนไปตามนั้น
ถ้าไม่มีสัมผัสอะไร ผมก็หยุดเขียน
และผมก็ยังเชื่อว่าจะมีผู้มีบุญที่เป็นสมาชิกเว็บพลังจิต ติดตามไล่อ่าน ไล่พิจารนา ไล่วิเคราะห์ ในสิ่งที่ผมได้เขียนเอาใว้แล้ว

แม้ตัวผมเองเมื่อได้อ่านในสิ่งที่ตนเองได้เขียนเอาใว้แล้ว
ก็ยังนำไปสู่ การแตกแขนง ต่อยอดออกไป อย่างยากจะจบได้

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ครับท่านมหา เป็นอย่างที่ท่านกล่าวไว้ ข้าว 1 เมล็ดอยู่ที่ใครมอง และเขาวางตัวเองเอาไว้ตรงไหน ทุกอย่างคือธรรมย่อมแสดงออกมาโดยตัวของมันเอง
สำหรับคนที่เข้าใจ มันสามารถแตกออกได้นับเป็นอนันต์อยู่ที่เข้าใจได้มากแค่ไหน
เช่นมนุษย์ยังมองไม่เหมือนกัน พ่อค้า นักวิทยาศาสตร์ นักเรียน
สัตว์และแมลงก็ยังมองเห็นแตกต่างกัน
มันจึงมีค่าอย่างนับไม่ได้และยังคงไร้ค่าสำหรับคนที่มองไม่เห็นมันอยู่ดี
จึงย้อนกลับมาที่คำว่า ความลึกลับของสติปัญญา แหละครับ ว่าเราสามารถรู้เข้าใจและใช้มันได้มากแค่ไหนเพื่อใช้มันพัฒนาตัวเองอย่างไร
ซึ่งผมก็พยายามเดินและทำในสิ่งที่ทำได้ และพยายามศึกษาจากผู้เดินทางในรูปแบบที่แตกต่างกันครับผม

 

ขออนุญาตครับ

คำว่าในรูปแบบที่ต่างกัน สดุดใจผมนัก
แม้จะมีรูปแบบที่ต่างกัน แต่พระพุทธองค์ได้ทรงสอนว่า พระองค์ทรงสะสม กำลังสติ+กำลังสมาธิ ด้วยการพิจารนาลมหายใจ เข้า และ ออก

เนื่องจากในสมัยพุทธกาล นักบวชพราหมมีเป็นจำนวนมาก และมีการ สะสมกำลังสติ+กำลังสมาธิ หลากหลายรูปแบบ

อยู่ก่อนแล้ว

พระพุทธองค์ จึงได้ทรงรวบรวมให้เป็นหมวดหมู่ว่า กรรมฐาน 40 กอง

ผู้ปฏิบัติในยุคปัจจุบัน จึงสมควรเดินตามรอยที่ดีที่สุดที่พระพุทธองค์ ได้ทรงพาดำเนินใว้

คือ การพิจารนา ลมหายใจ เข้า-ออก

ซึ่งองค์หลวงตามหาบัว ได้ทรงสอนตอกย้ำให้อีกว่า ต้องมีคำภาวนาด้วย คือ พุทธ พร้อมๆกับการหายใจเข้า และ โธ พร้อมๆกับการหายใจออกพระพุทธองค์ก็ดี องค์หลวงตามหาบัวก็ดี ต่างก็ทรงเสียเวลาอย่างมาก ไปกับ การหารูแแบบที่ดีที่สุด จนได้พบ จนได้สรุปว่า

การพิจารนาลมหายใจ เข้า-ออก
ต้องมีคำภาวนาตอกย้ำเข้าไปอีกว่า พุทธ หายใจเข้า โธ หายใจออก

ซึ่งคำภาวนานี้ องค์หลวงปู่มั่นท่านใช้คำว่า อัฐฐิ พร้อมเอาจิตไปใว้ที่ แผ่นกระดูกที่หน้าผาก เพื่อให้โน้มนำให้เกิดการเห็นร่างกายของท่านเป็นโครงกระดูกได้ง่ายขึ้ึ้น

หลักการปฏิบัตคือ กาย เวทนา จิต ธรรม

พิจารนากาย เพื่อ สะสมกำลังสติ+กำลังมาธิ
พิจารนาเวทนา เมื่อ เกิดเวทนาขึ้น เพื่อ ระงับเวทนานั้นให้ดับลง
เวทนานี้ องค์หลวงปู่แหวน ท่านสอนว่า ผู้มีกามกิเลส น้อย มักจะเกิด กายเวทนาน้อยตามไปด้วย

จึงไม่ต้องไปหมายไปรอให้เกิดเวทนาใหญ่ก่อน จึงก้าวต่อไป ข้ามได้ให้ข้ามไปเลย

จิต เมื่อ สะสมกำลังสติได้มากพอ ก็จะเกิด การมองเห็นจิตของตน คือ

เห็น ความคิด เห็น จุดเริ่มต้นของความคิด เห็นการดำเนินไปของความคิด เห็นการสิ้นสุดของความคิด ในแต่ละเรื่อง ในแต่ละช่วง

ซึ่งเรียกว่า เห็นการเกิด-ดับ นั่นคือการเห็น ธรรม นั่นเอง

การเลือกเส้นทาง สมควร เลือกเส้นทางที่ดีที่สุด อย่าได้หลงไปเลือก เส้นทางที่หลากหลายให้เสียเวลา

อดไม่ได้ ที่จะขอยกตัวอย่าง ไฮโซฟ้า ที่มีคลิปการเสพกามแพร่ไปทั่ว
ด้วยบุญบารมีอันสูงส่งที่ท่านได้เคยสะสมมาแล้วในอดีตชาติ
ส่งผลให้ท่าน เข้าสู่ทางธรรม ด้วยวิธีที่พิศดารยิ่ง ในยุคปัจจุบัน

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ครับท่านมหา สุดท้ายคือการเห็นการเกิดดับของธรรมเป็นเรื่องธรรมดาของธรรมชาติครับอาจจะมีส่วนอื่นที่มันพิศดารแต่ถ้าไปพิศดารตามโดยที่เราตามไม่ทันก็ต้องมาพิจารณากันแหละครับอะไรที่เรายังด้อยอยู่
แต่ที่กล่าวผมหมายถึงรู้และเข้าใจแล้วว่าทุกอย่างในธรรมชาติมันเป็นของมันอย่างนั้น แต่ภายในก็ยังพัฒนาขึ้นได้อีกไม่ได้หยุดไม่ได้พอใจในสิ่งนั้น(ซึ่งส่วนใหญ่ผมเห็นหลายท่านถึงจุดนี้ก็หยุด คิดเองว่าจบแล้ว) และก็ยังเห็นหลายๆท่านยังทำอยู่ยังพัฒนาอยู่ใช้ธรรมทุกตัวที่ได้เรียนรู้ยกระดับจิตใจตัวเองไปเรื่อยๆซึ่งอาจจะเหนื่อยจะเบื่อบ้างแต่ก็ยังทำโดยรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง ซึ่งมาจากภายในเนื้อแท้ของท่านเหล่านั้นเอง
ผมจึงขออนุญาติอนุโมทนาให้ท่านมหาและนักเดินทางทุกท่านด้วยนะครับ
ขอบคุณ

 

กิเลสมันก็มีปัญญา มันจึงสามารถปกครองทุกดวงจิตในฝั่งสมมุติ

เขาเรียกปัญญากิเลส

 

เส้นทางชาวพุทธ

ขออนุญาตครับ

เส้นทางชาวพุทธนั้นมีอยู่แล้ว

-เส้นทางอริยะ มุ่งไปสู่ โสดา สกิทาคา อนาคา อรหันต์
-เส้นทางพุทธภูมิ มุ่งไปสู่ บารมี 10 ทัศ 20 ทัศ 30 ทัศ การจุติเป็นพระพุทธเจ้า
-เส้นทางพุทธภูมิย่อย มุ่งสู่ ปัญเจกะพุทธเจ้า

อย่าได้กล่าวว่า ท่านใดท่านหนึ่ง ปฏิบัติไปแล้ว หยุด ปฏิบัติ หยุด พัฒนา

ตราบใดที่เราไม่ทราบว่า เส้นทางชาวพุทธ ของท่านมุ่งไปที่ใด ท่านกำลังสร้างบารมีอันใดอยู่

ขอให้ระลึกนึกถึงคำสอนขององค์หลวงปู่มั่น

พระมหากษัตริย์์ไทยทุกๆพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงทุกๆพระองค์ ล้วนเป็นหน่อพุทธภูมิ

ขอให้ดูตัวอย่าง องค์ รัชกาลปัจจุบัน พระองค์ทรงปฏิบัติธรรมพอประมาณ
แต่การสร้าง การสะสมบุญบารมีของพระองค์ท่าน ช่างสูงส่งเหลือประมาณ มีผลต่อคนไทยทุกผู้ทุกคน ยังเผื่อแผ่ไปถึงชาวต่างชาติด้วย

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

พุทธ

ขออนุญาตครับ

กฏสูงสุดของจักรวาล คือ กฏแห่งกรรม

ธรรมก็มีสองสาย สายเทพ และ สายมาร

สายเทพก็มุ่ง สร้างคุณงามความดี รู้จักอโหสิ รู้จักให้อภัย ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าสายเทพ

สายมารก็มีธรรมของสายมาร ใครทำกรรมชั่วอะไรใว้ ต้องชดใช้ไปตามนั้น ไม่มีอโหสิ ไม่มีการให้อภัย ไม่มีการยกเว้น

เป็นบุญของชาวจักรวาลนี้ ที่ผู้ดูแลกฏแห่งกรรม ที่เราพากันเรียกท่านว่า ท้าวเวสสุวรรณ องค์ท่านเป็นพระอนาคามี อยู่พรหมโลกชั้น 16

ส่วนอีกองค์คือองค์พ่อพญายมราช องค์ท่านก็เป็นเทพอยู่พรหมโลกชั้น 14

ซึ่งทั้งสองท่านต่างก็ทั้งเมตตา ทั้งเที่ยงธรรมยิ่ง

ในรอบ 38 พุทธกาล จะมีพระพุทธเจ้าสายเทพมากถึง 36 พระองค์

และมีพระพุทธเจ้าสายมารเพียงแค่ 2 พระองค์เท่านั้น

แสดงว่าจักรวาลนี้ มีคุณงามความดีสูงส่งอยู่แล้ว
แม้ในยุคที่ไม่มีีพระพุทธเจ้า แต่ก็ยังคงมีเทพมีพราหม มาส่งเสริมคุณงามความดี

ใครจะเดินสายเทพ ใครจะเดินสายมาร เลือกกันเอาเอง

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ขอบคุณครับท่านมหา พิจารณาแล้วซึ่งท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้หยุดจริงๆเพียงแต่
อาจจะยังพักหรือยังหาทางก้าวต่อไปยังไม่ได้ซึ่งยังไงก็ต้องเริ่มเดินต่ออยู่ดี
หัวใจภายในขององค์ท่านยิ่งใหญ่เหลือประมาณครับไม่รู้จะกล่าวเช่นไรครับ

 

ขออนุญาตินะครับในความคิดเห็นของผม
กิเลสคือความมากมายที่เกินพอดีเกิดจากตัวตนบุคคลเราเขาสร้างขึ้นมาให้เกิดทุกข์ และก็ไม่เท่ากันในแต่ละบุคคลบางท่านทำได้อย่างมากมายโดยไม่เกิดทุกข์ในใจเลย บางท่านทำนิดเดียวก็ทุกข์ใจแล้ว
ส่วนเรื่องสมมุติทั้งปวงผมก็ไม่ได้แยกจากคำว่าวิมุติเลย ทำสมมุติให้ดีมันก็วิมุติของมันเองอยู่แล้วนี่ครับ ถ้าสมมุติเปรียบเสมือนราก กิ่ง ใบ วิมุติคือดอก
ไม่มีสมมุติจะวิมุติได้ก็คงยากครับผม

 

การเป็นอรหันต์เป็นได้ครั้งเดียว

ขออนุญาตครับ

สายอริยะย่อยมีอีกคือ อัครสาวก และ เอกทัคคะ เมื่อเป็นเช่นนี้ มีหลายท่านที่แสดงความปรารถนาเอาใว้ จึงต้องชะลอเอาใว้
เพื่อรอไปสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในยุคพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคต ตามที่ปรารถนาเอาใว้

เมื่อต้องรอเวลา ขณะที่บุญบารมีก็สร้างก็สะสมไป ท่านเหล่านี้ จึงสูงส่ง เลยเนยยะไป

เนยยะนั้น ปฏิบัติด้วยความยากลำบาก ช้า แต่ถึง
ส่วนที่บุญบารมีสูงส่งเลยเนยยะไป ก็จะสำเร็จได้ง่าย เป็นประเถท รู้ง่าย เข้าใจง่าย สำเร็จเร็ว

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ครับ กฎแห่งโพธิญาณ คือสร้างบารมีสิบประการ อย่างต้น อย่างกลาง อย่างสูง

การบำเพ็ญเพื่อโพธิญาณ ต้องอาศัยทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว
้
ต้องเรียนรู้ทุกอย่างเพื่อเป็นพุทธะ..ผู้แจ้งโลก

 

ความเข้าใจของผม

พระพุทธเจ้าบอกไว้
ท่านเป็นลูกไก่ตัวแรกทีออกมาจากเปลือกไข่

จิตวิมุติเหมือนลูกไก่
เปลืกไข่เหมือนอาสวะกิเลสห่อหุ้มดวงจิต

ต้องอาศัยแม่ไก่ฝักไข่...ให้ลูกไก่ออกจากเปลือกไข่

 

เส้นทางการสะสมบุญบารมี

ขออนุญาตครับ

พระพุทธองค์ได้ทรงสอนให้ ละชั่ว ประพฤติดี ในเส้นทางการเวียนว่ายตายเกิดของการสะสมบุญบารมีนั้น

ความชั่วใดๆเราล้วนทำมามากแล้วในยุคที่โลกไม่ก้าวหน้าอย่างในยุคปัจจุบัน
เช่น จะหาอาหารก็ต้องออกไปล่าไปฆ่าสัตว์
จะสร้างบ้านแปลงเมืองก็ต้องรบราฆ่าฟัน

ความชั่วใดๆเราล้วนทำมาแล้ว ในยุคที่ไม่รู้จักปาบบุญคุณโทษ ในยุคที่ไม่มีพุทธศาสนา

เมื่อมีพระพุทธศาสนาแล้ว เมื่อรู้บาปบุญคุณโทษแล้ว
ก็ต้องสร้างบุญบารมี สะสมคุณงามความดีไป

ลด ละ เลิก ความชั่วทั้งปวง ตามสถานะปัจจุบันของตน

ดูอย่างในหลวงของเรา พระองค์ทรงเลือกมาจุติในยุคนี้
เพราะสามารถสร้างบุญบารมีได้มาก ไม่มีการออกรบราฆ่าฟัน

เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า พุทธภูมิระดับสูงที่สุด ที่เราได้เห็นจะจะ

ว่าพระองค์ได้ทรงทำอะไรใว้บ้าง

ขนาดว่าเอาคนทั้งประเทศมาบอกมาเล่า เป็นปีๆ ก็ไม่มีวันจบ

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ครับ เห็นด้วยในหลักคำสอนพระศาสดา

ทำดี ละชั่ว ทำจิตให้บริสุทธ์

แต่ที่เขียนนั้น หมายถึง การได้มาชึ่งพระโพธิญาณ