จิตไม่ส่ายแส่ ก็ทุกข์ได้เพราะอะไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 9 พฤศจิกายน 2016.

  1. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ใจร้อนก็สติและปล่อยวาง อากาศร้อนก็อาบน้ำ ใจกระทบเพราะไม่รู้จักจัดการความเกิด-ความดับ ท่องในใจ เกิด-ดับๆหลายๆเที่ยว รู้ รู้แล้วปล่อย วาง ดับ อุเบกขา
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เบียร์เย็นๆ สักเหยือก
     
  3. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ฟางว่านชอบแบบกระป๋องมากกว่า อร่อย
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    กระป๋องคล่องตัวถอยหรือจู่โจมก็ได้
    เวลาเทศน์จะนุ่มนวลน่าฟัง
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ใจที่เป็นสุขเกิดจากทาน ศีล ภาวนา
     
  6. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ถ้าพูดแบบวิชาการก็อาจจะคล้ายกับที่ลุงกล่าว แต่จริงๆตอนไปเห็นเข้า การเห็นนี้ไม่คาดคิดมาก่อน ไม่ตั้งใจ ไม่เจตนา เห็นแล้วหมดกัน นี่เราโดนหลอกมาตลอดเลยเหรอนี่ ขันธ์ ธาตุ อายตนะ ฌาน ญาณอะไรนี่ คนละส่วนกับอายตนะนั้นทั้งหมด ใช้คำว่าอายตนะ ผมเพิ่งมาใช้คำนี้ภายหลังจากพิจารณาตามนี่แหละ เหมือนมีคำตอบง่ายๆออกมา โดยคำว่าอายตนะนั้นโผล่ขึ้นมา คือเกิดจำได้ขึ้นมาว่า พระพุทธองค์ทรงตรัสเรียกว่า อายตนะนั้นมีอยู่ ไม่ใช่การมาการไปการหยุดอยู่ฯ แค่นั้นล่ะ ผมเลยเอามาใช้ ง่ายดี คำของพระองค์เหมาะเจาะและหมดจด พอดิบพอดีจริงๆ ไม่ต้องคิดมากอะไรเลย

    มีอะไรถามได้นะครับ ต่อไปคงจะไม่ได้พูดมากแล้ว ถ้าไม่มีใครถามตรงๆ ผมจะเลิกนำเสนอแล้ว มันไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่
     
  7. ได้คับ

    ได้คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +106
    อย่าเห็นสิ่งใดๆเป็นศัตรูครับ ความร้อนไม่ใช่ศัตรูของเราความร้อนจะกลายเป็นร้อนเหมือนเดิม แต่ที่ต่างไปคือความสงบนิ่งภายใน เป็นความว่างจากตัวเราของเรา
     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ขอแสดงความเห็นด้วยคน

    ธรรมชาติของดวงจิตพิสดารมาก
    พอเราฝึกได้ระยะหนี่ง มันจะนิ่ง ไม่สนกับอารมณ์ การปรุง ความคิด

    มันอยู่โดยอิสระของมัน ได้ทั้งวัน
    ไม่มีกิเลสตัวไหนแสดงตัว มีแต่นิ่งของมันอย่างเดียว
    เกิดความพอใจขึันมา

    ถ้ามีผู้ชี้แนะ เขาจะชี้แนะให้ระวังจิตนิ่ง

    เคยมีมาแล้ว มึอาจารย์กับลูกศิษย์

    ลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์
    ผู้เป็นอาจารย์ทำจิตนิ่งตลอด แล้วถือตัวไม่ฟังใคร

    ลูกศิษย์หาอุบาย เตือนอาจารย์
    ให้อาจารย์เนรมิตภาพหญิงสาวสวยเจ็ดคน ฟ้อนรำ

    แล้วให้เพ่งดู...
    จนกามาสวะแสดงตัวออกมาจากจิตผู้เป็นอาจารย์

    ลูกศิษย์จึงอาจารย์ อย่าประมาทกเลิสที่ฝังตัวในดวงจิตเจ้าของ...
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เข้าใจครับ....จึงต้องมีวิชชาสำหรับปหานกิเลสให้ดับดิ้น
    ตัณหาจึงจะไม่หวนกลับ
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ดูที่ความคิดขณะไปเห็นสิ่งรอบข้างมากระทบ
    แล้วเกิดปรุงแต่งอะไร ปรุงทำไมและหยุดปรุงได้ไหม
    จิตจะได้ไม่ต้องขุ่นๆ มัวๆ
    จิตจะสะสมพลังความสงบเพิ่มขึ้นได้
    ต้องไม่ให้กระทบกับ
    การเห็น การได้ยิน ที่เร้าความคิดใหม่ๆขณะปัจจุบัน
    สัปปายะจึงจำเป็นสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมีตะบะเดชะ
    จึงต้องหลีกเร้นแวดล้อมที่วุ่นๆ
    รบกับความวุ่นในสัญญาก็เกินพอจะรับไหว
    อยู่แล้ว
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    อะไรที่ระลึกขึ้นได้
    นึกขึ้นได้
    คิดขึ้นได้
    ปรุงแต่งกับมันได้
    ให้เฉยๆไม่อะไรกับอะไรกับมัน
    อย่าไปพยายามกด ข่ม บังคับ
    ด้วยวิธีการใดๆ ความพยายาม
    เป็นอวิขชาอย่างหนึ่งที่ทำให้เรา
    ยังเวียนอยู่ในไตรภพได้อย่างคาดไม่ถึง
    ไม่อะไรกับอะไรให้เป็น
    เฉยๆไม่อะไรกับอะไรให้เป็น
    อะไรมันจะมีก็ปล่อยมันมีไปของมันเอง
    ไม่ว่าสติ ปัญญา สมาธิฯลฯ
    จะได้จบเป็น วางเป็น
    เด่วถึงวาระ มันจะวาง จะว่าง
    แล้วจะจบได้ของมันเอง
    โดยธรรมชาติ
    ของมันเองครับ
     
  12. ไม่มีเพศ

    ไม่มีเพศ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    134
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +66
    เพราะโดยธรรมชาติของจิตเป็นทุกข์อยู่แล้วมั้งคับ
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    จิตมีโทสะ เพราะเกิดเวทนายินร้าย  จิตมีราคะ เพราะเกิดเวทนายินดี  จิตมีโมหะ เพราะเกิดเวทนาเฉยๆ  ถ้าสติสติระลึกไม่ทัน
    จิตก็ไหลไปรวมกับอารมณ์เวทนา ก็เป็นทุกข์บ้าง สุขบ้าง เฉยๆ บ้าง
     
  14. ไม่มีเพศ

    ไม่มีเพศ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    134
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +66
    ผมเคยได้ยินพระรูปนึงเทศน์ว่ายิ่งปฏิบัติมากเข้าจะยิ่งมีแต่ความทุกข์แต่ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆแล้วจะสุขเอง อันนี้ตรงกับพระพุทธเจ้าท่านทรงสอนมั้ยคับ หรือมันเป็นการเล่นคำที่ทำให้สาวกเข้าใจผิดได้ง่าย รบกวนท่านทั้งหลายอธิบายด้วยคับ
     
  15. ไม่มีเพศ

    ไม่มีเพศ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    134
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +66
    และผมยังมีความสงสัยอีกว่า คำว่าจิตที่อยู่เหนือสุขเหนือทุกข์คืออะไรคับผม ใช่จิตที่เข้าฌานสมาบัติรึเปล่าคับ ขอบพระคุณสำหรับทุกคำตอบคับผม
     
  16. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    "...ดูกร อานนท์ บุญกับสุขเป็นอันเดียวกัน เมื่อมีบุญก็ถือว่ามีสุข บาปกับทุกข์ก็เป็นอันเดียวกัน เมื่อมีบาปก็ถือว่ามีทุกข์

    ดูกร อานนท์ หากรู้ว่าตายแล้ว จะได้รับความสุขหรือความทุกข์ ให้สังเกตุดูอารมณ์จิตของเรา ขณะยังมีชีวิตอยู่..."

    คิริมานนทสูตร เรียบเรียงโดยท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาสฯ กรุงเทพฯ

    ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ยิ่งปฏิบัติมาก ยิ่งเห็นทุกข์มาก ถูกแล้ว

    เพราะทุกข์ที่กำหนดรรู้ได้มากนั้น คือ ทุกขสัจจ

    ถ้ายังกำหนดรู้ทุกขสัจจไม่ได้ ย่อมยังต้องเวียนว่ายตายเกิด

    หากยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ก้ยังต้องคอยดูตายแล้วจะไปไหน กังวลในบุญ ในบาป ร่ำไปด้วยอุปทาน

    การกำหนดรู้ทุกขสัจจได้ จึงชื่อ เหนือทุกข์ เหนือสุข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2016
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไม่ใช่สมาบัติ

    แต่ การเสพสมาบัติได้ จะอนุโลมว่า โน้มไปมหาสมุทร

    สมาบัติทุกชนิด จัดเปน ภาวนามัยปัญญา


    แต่เฉพาะที่ สัมมาทิฏฐิประกอบ ไม่ใช่สมาบัติ
    ที่ปัจจุบันคน พระ เอาไว้โชว ทำการตลาด

    ****

    มีเทวดาองค์หนึ่ง เสวยผลบุญมาช้านาน สำคัญตน
    ว่า เปนอรหันต์ ก็ไปหาพระพุทธองค์ ผู้สำเร็จ
    ทีหลัง เพื่อไปอนุโมทนาผลสำเร็จ

    เลยทักทายว่า ท่านข้ามโอฆะได้อย่างไร

    พระพุทธองค์ประสงค์จะตักเตือน สัตวที่ลอยอยู่เพราะบุญ จึงตรัสว่า

    เราถึงฝั่งได้เพราะไม่เพียร ไม่พัก

    ถ้ายังเพียรอยู่ ก้ลอยอยู่ เพราะบุญ
    ถ้าพัก ก้จมอยู่ เพราะบาป

    เทวดาได้ยิน ก้สังเกตตัวเองได้ว่า งง ไม่เข้าใจ ไม่รู้การกำหนดรู้ทุกขสัจจ

    และทราบชัดทันที ตนกำลังหมดบุญ ในขณะนั้น
    เพราะบาปมหาศาลกำลังให้ผล

    จึงได้สติ มีสัมปชัญญะ กำหนดรู้สิกขาบท

    อรรถกถาจารย์ จึง อธิบายว่า ได้โสดาบัน ก่อนอันตรทานหายไปจากสวรรคิ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2016

แชร์หน้านี้

Loading...