พุทธโอวาทองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา

องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดาหรือ พระยะโฮวา พระอัลเลาะห์ God หรือต่างๆนานาที่สุดแท้แต่คนจะเรียกท่านนะครับ ความจริงแล้วคือองค์เดียวกันหมด ผมนำมาจากหนังสือพลังแสงทิพย์อริยธรรม ของคุณแม่เกษร บ้านทิพย์ปฏิบัติธรรม ถ้าเคยมีคนนำมาลงหรือหลายท่านเคยอ่านแล้วก็ขอโทษด้วยนะครับ

องค์สมเด็จพระบรมธรรมบิดาวิสุทธิพุทธโอวาท
พลังแสงทิพย์อริยธรรมเป็นวิถีธรรมทางลัดตัดตรงเข้าอริยมรรคอริยผลได้รวดเร็วง่ายดาย ลูกรักทั้งหลายอย่าได้ระแวงสงสัยในความรัก เมตตา อย่างแท้จริงของพ่อ พ่อไดสร้าง นรกโลก มนุษย์ เทวพรหมโลก สามโลกนี้รวมกันเข้าเป็น สรรพโลกียธรรม หรือ สุญตาธรรม เป็นความว่างเปล่า(เป็นเลข 0)ส่วน มหาอมตะอริยธรรม เป็นเลข 1คือจิตทิพย์นิพพานของลูกที่ไม่ยึดติดทั้งสามโลก จิตของลูก ก็เป็นอิสรภาพ ไม่ต้องเป็นทาสของกิเลส ตัณหา อวิชชา พ้นเวียนว่ายตายเกิด อย่าลืมลูกรักพ่อขอย้ำ อย่าเอาจิตนิพพานของเรา ตัวจริงเราไปหลงรัก กายคน กายเทพ กายพรหม เป็นของมายาสมมุติทั้งนั้น ถ้าหลงรัก จิตเจ้า จะเศร้าหมองรู้ไม่เท่าทันกิเลส ตัณหา อุปาทาน บาปกรรม ทำให้จิตลูก เป็นทุกข์ พ่อช่วยเจ้ามากที่สุดแล้วคือประทานพลังแสงทิพย์อริยธรรม ปิดกั้นประตูอบายภูมิทั้ง 4 คือ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน นำจิตทิพย์นิพพานที่มีอภิญญาสมาบัติเลิศล้ำ กลับบ้านนิพพาน ตลอดกาลนาน


บัดนี้และกาลต่อไป ไม่มีสถานที่ใดๆในโลกที่เป็นสุขและปลอดภัยจากภยันอันตารยร้ายใหญ่จากภัยธรรมชาติ จากโรคภัยหลายหมื่นชนิด รวมถึงภัยจากนิวเคลียร์ที่มนุษย์สร้าง ระเบิดร้ายอรงขีปนาวุธเป็นอาวุธเข่นฆ่ากันเอง คนและสัตว์ล้มตายก่อนอายุขัย พ่อได้ประทานพลังแสงทิพย์อริยธรรมรวมกับแสงฉะพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายร้อยใหญ่ให้แก่ลูกๆทุกชาติ ศาสนา ไม่ว่าจะคนหรือสัตว? ให้รีบบอกสิ่งประเสิรฐสุดนี้ต่อๆกันไป ลูกจะอยู่ในโลกนี้อย่างเป็นสุข ไม่ทุกข์เดือดร้อนจนเกินไป ก่อนตายพลังแสงทิพย์อริยธรรม ของพ่อจะนำลูก เข้าสู่ สวรรค์นิพพานได้ง่ายๆ เป็นการปิดกั้นอบายภูมิทั้ง 4 บาปกรรมไม่สามารถติดตาม หรือฉุดกระชากลูกลง นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานได้ ให้ลูกทั้งหลายมั่นใจในพลังแสงทิพย์อริยธรรมนี้เถิดลูกจะประสบพบแต่ ความสุขกายสุขใจ กิเลส ตัณหา อวิชชา อุปาทาน อกุศลกรรมก็จะเบาบางลง ตามบุญบารมี คือกำลังใจที่ดีงาม ในความตั้งใจที่จะเข้าพระนิพพานของลูกทุกคนที่มีจิตเป็นพุทธะ

ตัดมาบางส่วนนะครับ ยกเครดิตให้หนังสือพลังแสงทิพย์อริยธรรม ของคุณแม่เกษร บ้านทิพย์ปฏิบัติธรรม ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้เถิด

 

รูปภาพส่วนหนึ่งจากงานบูชาพระคุณพระรัตนตรัย

8 และ 15 กรกฏาคม พ.ศ.2549
ณ บ้านทิพย์ปฏิบัติธรรมเชียงใหม่ และ กรุงเทพฯ

​

<TABLE id=fpGalleryTable_9999 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle> <TR><TD vAlign=top noWrap align=middle> <TR><TD vAlign=top noWrap align=middle> <TR><TD vAlign=top noWrap align=middle> <TR><TD vAlign=top noWrap align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.sangthip.com/​

 

มันส์ละท่านผู้ชม คุณฐานัฏฐ์ เอารูปมาแปะ ก็ช่วยตอบคำถามที
ว่าในรูปแรก ที่เป็นงานบูชานั้น ทำไมใช้ฉัตร 9 ชั้น ซึ่งหมายถึงเศวตฉัตร

 

ก่อนตายพลังแสงทิพย์อริยธรรม ของพ่อจะนำลูก เข้าสู่ สวรรค์นิพพานได้ง่ายๆ เป็นการปิดกั้นอบายภูมิทั้ง 4 บาปกรรมไม่สามารถติดตาม หรือฉุดกระชากลูกลง นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานได้



...


นิพพานที่ไหนอะ ?

 

ขอดูอยู่เงียบๆก่อน...ฮื่ม
ให้คุณจรรยาตอบดีกว่า 555++

 

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

(เปลี่ยนทางมาจาก นพปฎลเศวตฉัตร)
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
<!-- start content -->พระมหาเศวตฉัตร หรือ นพปฎลมหาเศวตฉัตร (นพ=เก้า ปฎล=ชั้น เศวต=สีขาว) เป็นฉัตรผ้าขาว 9 ชั้น มีระบาย 3 ชั้น ขลิบทอง แผ่ลวด และมียอด เป็นราชกกุธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์ที่สำคัญที่สุด มีที่ใช้คือ ปักที่พระแท่นราชอาสน์ราชบัลลังก์ กางกั้นเหนือพระแท่นที่บรรทม ปักพระยานมาศ และแขวนกางกั้นพระโกศทรงพระบรมศพ เป็นต้น แต่โบราณมาไทยถือเศวตฉัตร เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เศวตฉัตร หมายถึง ความเป็นพระราชามหากษัตริย์ เช่นเดียว กับมงกุฎของชาวยุโรป
ตามประเพณีของพราหมณ์แต่เดิม เป็นเศวตฉัตร 6 ชั้น อันหมายถึง สวรรค์ 6 ชั้น ตั้งแต่ชั้นจตุมหาราชิกาจนถึงชั้นปรนิมมิตวสวัตดี ความหมายของฉัตร 9 ชั้นที่ใช้ในปัจจุบันหมายถึง ผู้ที่ชนะทั้ง 8 ทิศ ชั้นล่างสุด หมายถึงพระมหากษัตริย์ที่จะต้องทรงแบกภาระอันใหญ่หลวงในการดูแลประชาชนทั้ง 8 ทิศ
ปัจจุบัน มีพระมหาเศวตฉัตรแห่งรัชกาลปัจจุบัน อยู่จำนวน ๗ องค์ อันได้แก่ ๑. พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (ท้องพระโรงกลางเหนือพระที่นั่งพุดตานถม) ๒. พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท (เหนือพระแท่นราชบัลลังก์ประดับมุก) ๓. พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย (เหนือพระแท่นราชบัลลังก์ เบื้องหน้าพระที่นั่งบุษบกมาลาฯ) ๔. พระที่นั่งไพศาลทักษิณ(เหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์) ๕. พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน (มี ๒ องค์ คือ เหนือพระแท่นราชบรรจถรณ์) ๖. พระที่นั่งอนันตสมาคม (ท้องพระโรงกลาง

 

จะตอบได้ไง คุณฐา ฯ
แบบว่า .. ยังสงสัย... สวรรค์นิพพานนี่ ใช่แดนนิพพานไหม
ทำไม แสงทิพย์ จะพาไปได้

ฌานหรือ
ฌานเราเอง หรือ ฌานใคร ไปได้ไง ..??

ตายแล้ว เอานิพพานเป็นอารมณ์หรือ ยากนะ

แล้วถ้าไม่ใช่นิพพานจริงนี่ ไม่ใช่รพระอริยะนี่ (ไปดุสิตบ้าง สวรรค์ชั้นอื่น หรือพรหม...ฯลฯ)

ไม่รู้เลย จะไปโผล่ที่ไหน

 

นิพพาน ทันใจ เป็นอย่างไรครับ

 

คุณจรรยา ณ ปลาย ต้องลองไปรับแสงดูครับ

 

โอ... แบบนี้ เอ่ยพระนามพระมหาโพธิสัตต์ คงง่ายกว่า
หรือเอ่ยพระนามพระอมิตาภะเจ้า ..ดีกว่า..


พระอมิตพุทธ ขอพระองค์ทรงพระเมตตา (อาจได้ไปอยู่แดนสุขาวดี)



(f)

 

ขอตอบข้อข้องใจของคุณ เอกวีร์นะครับ คือฉัตรหรือ เศวตฉัตรที่คุณเห็นน่ะ เป็นฉัตรที่เอาไว้ประดับข้างๆตู้กระจกที่มีพระวิสุทธิพุทธรังสีบรมธรรมบิดาอยู่ครับซึ่งมีมาตั้งแต่เริ่มแรกก่อนงานบูชาอีกครับ ซึ่งขนาบไว้ทั้ง 2 ข้าง ทอง-เงิน อย่างละยอด ซึ่งไม่เกี่ยวกับงานบูชาแต่อย่างใด ก็เหมือนเราบุชาพระครับ เราก็นิยมเอาฟักเงิน-ฟักทอง หรือ ต้นไม้เงิน-ต้นไม้ทอง ไว้ข้างๆท่าน ฉันใดก็ฉันนั้นแหละครับ เข้าใจนะครับ

 

นิพพาน ทันใจ เป็นอย่างไรครับ
ตอบ นิพพานและยาแก้ปวด

ปวดกระบาลกับพวกบ้าที่สุด

 

......

 

ต้องฝึกมโนมยิทธิครับ นี่เป็นการอ้างอิงของคุณแม่เกษร คุณแม่เกษรท่านนั่งมโนมยิทธิแล้วท่านได้พบพระผู้เป็นเจ้า มีอยู่บทความหนึ่งกล่าวว่า เมื่อฝึกมโนมยิทธิแล้ว จะได้พบกับพระพุทธเจ้า หรือไม่ก็พระผู้มีพระภาคเจ้า นี่แหละครับจำได้ไม่ถนัดเมื่อนั้นเราสามารถถามปัญหาต่อท่านได้ท่านก็จะเมตตาตอบ

อาจจะมองดูว่าแปลกเพราะมันนอกตำรา ผมบอกเลยว่า ผมเป็นชาวพุทธแท้แน่นอนครับ ไม่มีใจเป็นศาสนาอื่น ไม่ได้แฝงตัวมาเหมือนอย่างคนที่เรียกตัวเองว่า ใบไม้นอกกำมือ อะจึ๋ยมีพาดพิง คนคนนี้ผมเซ็งเขามากๆอยากตบกบาลเขาสักฉาก แต่พอเมื่ออ่านบทความแล้วผมว่า เราควรเคารพทุกศาสนานะครับ และเปิดใจยอมรับ อย่าเพิ่งคิดว่าสิ่งที่คุณไม่เห็นมันจะไม่มี นิพพานก็คือนิพพานครับ อาจจะเรียกแตกต่างกันบ้างก็ช่างปะไร ความหมายย่อมเหมือนกัน แดก กิน ทาน รับประทาน ก็ความหมายเดียวกันแต่ทำไมเรียกต่างกัน อย่างนี้แหละครับ

ผมว่าจะเริ่มปฏิบัติมโนมยิทธิดู เพื่อพิสูจน์ ยังไม่ต้องเชื่อก็ได้แต่อย่าปรามาสครับ ผมก็ไม่เชื่อ 100% เพราะมันไม่มีในตำรา ยังเชื่อไม่ได้ แต่ไม่ควรปรามาส จนกว่าเราจะพิสูจน์ด้วยมโนมยิทธิครับ

 

สุบินนิมิตข้อที่ 11 : นำพระธรรมมาขายกิน

พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นคนพวกหนึ่ง เอาแก่นจันทร์แดงที่มีค่าราคาแพง ไปแลกกับนมเปรี้ยวหม้อเดียว ซึ่งไม่สมค่าราคากันเลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนพวกหนึ่ง จะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตรา จะเขียนเป็นตำราเพื่อออกจำหน่าย ขายกิน หารายได้เพื่อเลี้ยงชีวิต เอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ทำเป็นการแสดง แต่งกลอน เพื่อผลประโยชน์ในกัณฑ์เทศน์ แสดงธรรมเพื่อเห็นแก่ค่าจ้างรางวัล อันเป็นอามิส ไม่สมค่าราคากันเลย สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นในช่วงปลายศาสนาของเราตถาคตโน้น

 

สุบินนิมิตข้อที่ 15 : แวดล้อมด้วยพระทุศีล

พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นหงส์สีทองทั้งหลาย ไปห้อมล้อมอีกา อีกาไปไหน ฝูงหงส์สีทองทั้งหลาย ก็ห้อมล้อมเป็นบริวาร พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น พระเณรผู้บวชใหม่ ใจยังมีความบริสุทธิ์อยู่ในศีลในธรรม จะห้อมล้อมพระที่ทุศีลทุธรรม จะยกให้เป็นครูอาจารย์เพื่อเคารพกราบไหว้อย่างเหลือเฟือ อีกาฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยมในการหาอาหารฉันใด พระทุศีลทุธรรมเหล่านี้ก็ฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยมในการหาลาภสักการะได้ฉันนั้น และแบ่งลาภสักการะให้แก่หงส์เล็กหงส์ใหญ่ได้อย่างทั่วถึง ฝูงหงส์ทั้งหลาย จึงให้ความสำคัญในอีกาเป็นอย่างมาก ในยุคต่อไปช่วงปลายศาสนาโน้น การเปลี่ยนไปในสังคมของสมณะก็จะเป็นอย่างนี้ พระที่ทุศีลทุธรรมจะเพิ่มมากขึ้น พระเณรที่ขาดการศึกษา จะไม่รู้ธรรมวินัย ไม่เข้าใจว่าอะไรควร อะไรไม่ควร อะไรผิดศีล อะไรผิดธรรม จะไม่รู้หน้าที่ของตน เพียงบวชกันตามประเพณีเท่านั้น เหตุการณ์อย่างนี้ ก็จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

 

สุบินนิมิตข้อที่ 6 : พระธรรมคำสอนถูกเหยียบย่ำ

พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นมีหมู่มนุษย์ ถือถาดทองคำอันมีค่ามหาศาล ไปวางไว้สุนัขจิ้งจอกถ่ายอุจจาระถ่ายปัสสาวะใส่ พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น กลุ่มคนที่โง่เขลาปัญญาทราม จะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ไปให้ลัทธิต่างๆ เหยียบย่ำทำลาย แล้วถ่ายทอดลัทธิของเขา เอาคำสอนของเขาที่สกปรกโสโครกด้วยกิเลสตัณหา มากลบเกลื่อนในคำสอนของเรา แล้วดัดแปลงแก้ไขคำสอนของเรา ให้เข้ากันกับลัทธิของเขา แล้วประกาศว่า คำสอนของเราตถาคต เป็นส่วนหนึ่งในลัทธิของเขา ให้คนทั้งหลายมีความเข้าใจผิดว่า คำสอนของเราเข้ากันได้กับของเขา ถือว่าเป็นอันเดียวกัน ลัทธิเหล่านั้นก็จะไม่รู้คุณค่าของคำสอนของเราตถาคตแต่อย่างใด มนุษย์อย่างนี้ก็จะมีในเมื่อเราตถาคตนิพพานไปแล้ว และจะมีลัทธิต่างๆ มาอวดอ้างว่าเป็นศาสนาเป็นจำนวนมาก

 

มันมีชื่อนี้อยู่ด้วยเหรอ พระ...บิดาอะไรนี่ นี่มันพวกจับแพะชนแกะแล้วครับ
ยายเกษร นี้ เพี้ยนไปแล้ว ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องสงสัย
จับเอาคริสต มาปนพุทธ เอาพระพุทธเจ้ามาปนกับพระบิดา
นี่เข้าขั้น ทุเรส ที่สุดแล้ว ใบไม้เขาก็ไม่ขนาดนี้นะ นี่มันหนักมาก

เออดี ผมได้มีงานทำสนุกๆ ต่อ ไล่ด่าพวกบ้าต่อ


สมัยก่อน ผมโดนมารรังควาน จะไปท่าไหน มันมารังควานตลอด มาทุกรูปแบบไม่ต้องเล่าหรอกนะ ว่าทุกรูปแบบนี้ ในด้านไหน ทั้งด้านอัศจรรย์พันลึก และ ทั้งด้าน จิต

มันทำหนักเข้าๆ มันจะให้เรากลัว มันจะมาทั้งทรง ทั้งอะไรบ้าบอ
เราเลยยกคำ หลวงตามหาบัวมา เลยบอกมันไปว่า ให้มึงยกมาทั้งโคตรเลย
ธรรมอยู่ตรงนี้ จะไปกลัวอะไร

เชื่อมะ หายหัวไปหมด
ทุกวันนี้เลยกล้าด่าหมด พวกมิจฉาทิฎฐิเนี่ย ก็ขอยกธรรมหลวงตามหาบัวมาอีก

สามแดนโลกธาตุนี้ ไม่เคยกลัวอะไร และไม่เคยยอมอะไรนอกจาก ธรรม

ก็เล่าให้ฟัง เผื่อใครเจออะไรไม่ดี ให้ยึดธรรม ไว้

แต่นี่มันมาเหนือชั้น เราว่าเรายึดพระพุทธ มันก็อ้างเป็นพระพุทธ
เราว่าเรายึดพระธรรม มันก็อ้างว่าเป็นพระธรรม
เรายึดพระสงฆ์ มันก็อ้างตัวว่าเป็นสงฆ์

แล้วเราจะยึดอะไรดี ในวิกฤติแบบนี้

ตอบว่า ยึด คำว่า อะไรไม่สะอาด อะไรสะอาด อะไรผ่องใส

ก็ อะไรคือ การทำกุศล อะไรคือการละอกุศล และอะไรคือการทำจิตให้ผ่องใส

เท่านั้น อย่างที่ โฆษณาชวนเชื่อ ว่ารับแสงแล้วจะก้าวเข้าสู่อริยะ นี่มันไม่ได้ทำอะไร ใน สามข้อหลักอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนาเลย
ก็ให้ พิจารณากันให้มาก

 

มีอีกบทความนึงครับเดี๋ยวพิมให้อ่านครับ 50-50 ไว้นะครับ รอพิสูจน์ก่อนค่อยเชื่อ นำมาให้อ่านเพราะว่ามันแปลกดี อ่านสนุกๆครับ

ท่านผู้ใดไม่เห็นดี คัดค้านคิดว่าธรรมะอะไรจะง่ายเกินไป ก็ขอให้ปล่อยวางไม่สนใจเสีย อย่าเพิ่งเก็บไปวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิติเตียน


เอามา 2 บรรทัดครับ ไม่เอามาหมดเดี๋ยวจะไม่สบายใจกัน ผมว่าท่านแม่เกษรท่านเป็นหัวหน้าปฏิบัติมโนมยิทธิที่บ้านทิพย์ปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังสอนลูกศิษย์เก่ง(ว่ากันอย่างนั้นคนรู้จักของผมก็ไปฝึกซึ่งไม่ช้าผมก็จะไปบ้าง) ผมว่าท่านคงไม่พูดอะไรที่ไม่เป็นความจริงเพราะมันจะทำให้เกิดอกุศลเสียเปล่าๆ

แต่ผมนำมาให้อ่านสนุกๆกันนะครับ อย่าคิดมาก ผมก็ไม่เชื่อ 100% เชื่อไม่ได้ ยังไม่ได้พิสูจน์ ต้องพิสูจน์ด้วยตนเองครับ ศาสนาพุทธเน้นเรื่องการพิสูจน์เห็นจริง