นิพพานธาตุ มีคุณสมบัติอย่างไร สามารถเป็นตัวผู้รู้ได้หรือไม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Prasit5000, 16 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    น้า จร ลองเปลี่ยน กรอบ อธิบาย ขันธ์5 ไปในแนว หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ดู

    จะได้รู้ว่า หากน้าจรกล่าวถึง วิญญาณ ถึง สัญญา ในแบบ ภาษาชาวบ้าน

    ร้อยละร้อย

    ผมจะไม่เหนื่อยเลย ปล่อยให้ จุกกรู๊ ทุกเช้า ทุกเย็น แบบ นักงับเงา เบย
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    มันจะ ลง ได้ไงหละฮับ

    คุณ เอาจิต ไปใช้เปลือง ในเรื่องอื่นอยู่ นิ

    กำหนดรู้ทุกข์ ไม่ถูก ไม่มีการดำริจะออก จะเกิด สิ่งนึงมันสะเทือน แล้ว ต้าน

    คุณไปเชื่อ สิ่งนั้น ธรรมที่เป็น นิรามิส มันก็ หยั่งลงจิตไม่ได้

    ได้แต่ สงสัยว่า คาถาเงินล้าน พระให้สวดทำไม เพื่อรวยรึ หรือว่า เพื่อทวนกระแส
    ไปเห็นอะไร ที่มันพามา ปฏิบัติธรรมเพื่อแล่นไปเพื่อการนั่น

    แทนทีจะรวย เลย ไม่รู้ว่า รวย

    ปล. ระวังไว้ด้วย คนที่บอก สายโน้น สายนี้ สอนผิด อย่างงั้นอย่างงี้
    จริงๆ คือ เขาไม่เข้าใจ อุบาย ที่พระท่าน สอนให้กำหนดรู้ทุกข์

    มันเป็น อุบาย ที่อนุโลมไปตาม ธาตุ ....อย่างคุณ ใส่ใจเรื่องรวยไม่รวย

    หากมาปฏิบัติธรรมเพื่อรวย สังเกตเลย จะยิ่งจน ทำไมเป็นแบบนั้น
    [ เว้นแต่ โลกจะจับตัวไว้ สวดแล้วจะถูกหวย รวยไม่เลิก ฯลฯ ]

    เพราะว่า ท่านจะให้อุบายเข้าไป สัมผัส ทุกข์ แบบชัดๆ แล้ว กำหนดรู้
    หาอุบายนำออก ซะโดยไว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2017
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็ความเข้าใจ มันประกอบด้วย...คำว่า รู้แล้ว
    ถ้ายังไม่รู้....มันจะเอาความเข้าใจ มาจากไหน
    มันไม่ใช้จิต...ในการเข้าใจ เขาเรียกเข้าใจ....ไม่ไช่เข้าจิต
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ฮึ.....เปลี่ยนตามคนอื่น เพื่อหวัง จุกรู๊ เนี่ยนะ....ไม่หรอก ไม่ชอบธรรมหลวงปู่ดุลย์ เพราะ...ไม่ชอบเหล่าสิดนกแก้วนกขุนทองของท่าน...
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สมัยก่อน ตอนโน้น ที่ ชอบยก มาอ้าง เรื่อง ทุกข์สมุทัยนิโรธมรรค อะไรนั่น
    ที่ ท่องกันเจื้อยแจ้ว...อะไรนะ จำไม่ได้...ผมล่ะเบื่อสุดๆ
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อีกคำนึง..ที่ว่า...ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ คือ ของปลอม....เนี่ยก็เบื่อสุดๆ

    หรือ คนดีเขาไม่กัดใคร...ประมาณนี้ ..เบื่อสุดๆ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แล้วกัน

    โลกเขาไปถึงไหนแล้ว

    คนของ น้าSA เขาก็เอา สัทธรรมของพระพุทธองค์ ไปตั้งเป็น สมมติฐาน

    เขาต่อยอดจาก ธรรมที่ " หลวงปู่ดูลย์ ฝากไว้ "

    คนของ NAซ่า เขาเลยไม่ได้ โง่ ง่มโข่ง อยู่กับ จิตที่เป็นพลังงาน ขาวใส สว่าง

    เขาเลยค้นพบ สสารมืด พลังงานที่เป็นความมืด แสงมืด ก็คือ แสง และแสง
    มืดนี่ ยังมีความเป็น "ผืน" แผ่คลุมล้านๆๆๆๆๆๆๆ จักรวาล อยู่แล้ว ไม่ต้อง
    เคลื่อนไปไหน แต่มัน แปรสภาพได้ เมื่อถูก สังเกตุ ........[ ซตClip ]

    คือถ้ามี อะไรไปกระทบ มันจะ เปลี่ยนสภาพ

    นักวิทย์เขา บ้าจี้ ระบุว่า เพราะการ ถูกสังเกต ของอะไรไม่รู้ พลังงานมืด
    มันเลยก่อนตัวเป็น รูปมะนุด และ ไม่ใช่ คนเดียวหน่าครับ เขาว่า เกิดเป็น
    16 ภาค ขนานกัน และ แตกต่างกัน แต่จะมี สัญญาอย่างเดียวกัน กายต่างกัน
    หรือ มีสัญญาต่างกัน กายเดียวกัน เก้ารอเก้า

    พอคิดต่อไม่ออก น้าSA ของน้าจร เลย เหมาเข่ง ฮิกซโปซอล ไปก่อน

    แต่ถ้า น้าจร สนใจธรรมของหลวงปู่ดูลย์ เขาจะตั้งชื่อ ทฤษฏี หรือ อะต่อน
    เป็น อนุภาคจรอิ๊อิ๊( John HigHig eleเหม็นท์ ) ก็ได้

    มะสนเหรอ

    ลองดู

    อธิบาย ธาตุรู้ คือ การแปรปรวนของบางสิ่ง ที่ถูกกระทบจากสิ่งภายนอก(ผัสสะ นามรูป นิทาน ฯลฯ)
     
  8. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    การที่จะรู้นิพพาน นั้นมีแต่พระอรหันต์เท่านั้นที่จะแจ้งได้
    สาวกในระดับอื่นทำได้เพียง ประมาณเอาจาก สถานะของตนเอง

    โดยประมาณเอาจาก กิเลสเบาบางไป จิตใจก็ปรากฎแจ้งมากขึ้น รู้มากขึ้น นิพพานธาตุก็ปรากฎแจ้งขึ้น ตรงกันข้าม เมื่อกิเลสบังจิตนี้ จิตใจก็คับแคบตีบตัน วนเวียนอยู่ในเฉพาะเรื่อง บ้างก็วนเวียนอยู่กับ โลภะ โทสะ โมหะ
    เมื่อ สางกิเลสออกไป ก็จะเห็นว่า จิตนี้สว่างไสว เห็นสัจธรรม เห็นสิ่งต่างๆเบิกกว้างไปไม่มีประมาณ เมื่อถึงที่สุดแล้ว จิตใจนี้จะครอบโลกธาตุทั้งปวง เป็นความบริบูรณ์ที่ไม่ต้องพูดอะไรอีก
    ตัวรู้จึงไม่ใช่นิพพาน เพราะตัวรู้นี้รู้เฉพาะเรื่อง เข้าไปรู้อะไรก็ติดในภพนั้น
     
  9. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :) พทธวจน..ท่านตัดทิ้งหมด อภิธรรม 12 บท เป็นธรรมที่แต่งขึ้นใหม่หมด..โดยสาวก คุณพูดแล้วดูหล่อจริงๆทั้งที่ตัวเองไม่หล่อเลย อิอิ
    :p นิพพาน ก็คือนิพพาน เป็นสภาวะ..อสังขตธาตุ การเกิดไม่ปรากฏ แต่คุณมาบอกมีนิพพานธาตุ ก็แสดงว่า นิพพานมีรูปจับต้องได้ในลักษณะ เป็นธาตุ..ที่จับต้องได้..เอาไงครับ
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ถามจริง...นิวรณ์....ทำไมแกต้องพยายามลากชั้นให้ไปอ่านธรรมของหลวงปู่ดุลย์ด้วย....มันมีอะไรน่าสนเหรอ....

    ผมไม่รู้จักหลวงปู่ดุลย์ วัดไหน ที่ไหน เทศอะไรไว้ เคยได้ยินแค่ เห็นผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้....แค่นั้น
     
  11. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    ....ผมพยายามอ่านทุกโพส แต่ไม่เห็นใครตอบตรงๆ เลยว่า

    .....ในตัวเรามีนิพพานธาตุ อยู่หรือเปล่า ถ้าไม่มีนิพพานธาตุอยู่ในตัวเรา แล้วทำไม พระอภิธรรม ถึงได้บอกว่า มี จิต เจตสิค รูป นิพพาน
    .....ถ้าท่านไม่เชื่อว่านิพพานธาตุไม่มีในตัวเรา ด้วยเหตุผลได

    .....ผมไม่ได้ถามว่า นิพพานเป็นอันตาหรือไม่เป็น ผมถามว่า ถ้ามีนิพพานธาตุในตัวเรา แล้ว ธาตุชนิดนี้จะคุณสมบัติอย่างไร

    ......ท่านเข้าใจว่า ตัวท่านประกอบด้วย ขันธ์ห้าเท่านั้นหรือ


    .....ผมเชื่อว่า มีนิพพานธาตุ ในตัวเราจริงๆ
    .....ตัวนิพพานธาตุในตัวเรานี้แหละ คือ ตัวรับรู้อีกตัวหนึ่ง

    ....ถ้าเราทำ สติปัฏฐาน โดยสร้าง สติ ตามด้วยสัมปชัญญะ มันจะเกิดคลื่น สลับกัน ระหว่างตัวผุ้รู้ สองตัว คือ จิต สลับ กับ นิพพานธาตุ ถ้าทำอย่างต่อเนื่อง ตัวสัมปชัญญะจะมองเห็นการทำงานของ จิต และขันธ์ห้า อย่างต่อเนื่อง

    .....สิ่งที่มีผู้กล่าวว่า ของจริงเป็นไบ้ ของจริงก็ตัวญาณ นั้นเอง มิใช่จิต

    ....แม้แต่การดูจิต แท้จริง มิได้เอาจิตไปดูจิต ตัวสัมปชัญญะต่างหาก ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปดูการทำงานของจิต

    .....ถ้าผมจะกล่าวเสียใหม่ว่า ผลของการที่เกิดญาณเห็นจิต อย่างแจ่มแจ้งคือนิโรธ นั้นสิถูกต้อง การเข้าใจสิ่งที่ถูก เรียกว่า ความเห็นที่ถูก

    .........สงครามยังไม่จบอย่างเพิ่ง บอกให้ผมยอมแพ้

    ....อีกอย่างหนึ่ง บางท่านกล่าวว่าผม ไม่มี อุตริมนุสธรรม ไม่ควรมาโพส ผมไม่ผิดหรอกครับ ท่านกล่าวว่า ผู้มีศิลห้าครบ มีไตรสรณะคม ก็พอเพียงแล้วที่จะกล่าวธรรมะของพระพุทธเจ้าได้
     
  12. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    พระศาสดาทรงชี้ให้เห็นว่าไมมีเราเขา เพื่อไม่ให้ยึด เพื่อเปิดทางสู่ความวาง เมื่อเรายังไม่มี แล้วจะมีอะไรในเรา
     
  13. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    .....บทที่ว่า "
    ดูกรพาหิยะ ในกาลใดแล เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อ
    ทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในกาลใด ท่านไม่มี ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ย่อมไม่มีในโลกหน้า
    ย่อมไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์
    ฯ"

    ......ตรงกับคำที่ว่า มีสติ มีสัมปชัญญะ ละความยินดียินร้ายในโลกเสียได้ ใช่หรือไม่

    .....คำสอนบางคำเป็นอุบาย ให้ผู้ฟัง ที่พระองค์สอนได้เข้าใจถึงการบรรลุธรรม

    .....การที่ออกจากจิต อย่างที่ผมอธิบาย ถ้า ทำให้สัมปชัญญะเกิดอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การออกจากจิต ไปสู่โลก ที่ไม่มีจิต

    .....การเห็น การได้ยิน ก็จะไม่มีความหมายได นั้นเอง
     
  14. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    ลองไปค้นอภิธรรม. จะไม่มีเลยที่บัญญัติว่านิพพานมีในเรา
     
  15. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ถ้าท่านถืออภิธรรม น่าจะทราบว่า สติ เป็นเจตสิค เป็นเจตสิคฝ่ายดี จัดเป็นสังขารขันธ์

    นิพพาน ในเบื้องต้นท่านก็ทราบว่า นิยามอย่างหนึ่ง คือ อสังขตธรรม หรือคือ สิ่งที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง

    พื้นฐานที่ท่านศึกษา ก็บอกอยู่แล้วว่า สติสัมปชัญญะ ไม่ใช่นิพพาน ไม่ใช่อสังขตธรรม แล้วจะสรุปได้อย่างไรว่า สัมปชัญญะเป็นกริยาของนิพพาน

    นอกจากนี้ ท่านควรศึกษาเรื่อง สักกายทิฏฐิ กับอรูปราคะด้วย แม้พวกเราจะยังไม่อาจตัดสังโยชน์ได้แม้สักข้อ ก็ศึกษาก่อนได้ เพื่อจะได้นำมาประกอบความเข้าใจเบื้องต้นในการปฏิบัติธรรม
     
  16. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ถ้าว่ากันโดยซื่อตรงต่อภาษา อภิธรรมท่านแยกว่า จิต เจตสิก รูป นิพพาน แยกอย่างนี้ ไม่ใช่ จิต เจตสิก รูป นิพพานธาตุ นะครับ ผมว่าความหมายนัยห่างกันมากเลยทีเดียว ระหว่างคำว่านิพพาน กับ นิพพานธาตุ


    ปรากฏการณ์ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ไม่ใช่ผู้ว่า มีแต่ความหลงที่ว่าไปเอง ต่างๆ นานาเพียงข้างเดียวครับ กลับมาระลึกรู้ ดูความหลงเกิดดับดีกว่า


    ...มิได้เอาจิตไปดูจิต ข้อนี้ขออธิบายอีกมุมว่า มีจิตก็คือมีภพ การตั้งภพไว้ในใจ ต้องมีเหตุมาจากความหลงพอใจไม่พอใจ (วิญญาณจึงมีที่ตั้งอาศัยอยู่ได้ เมื่อวิญญาณมีที่ตั้งอาศัยจึงเป็นปัจจัยให้ ...ตัณหามี อุปาทานมี ภพมี...) การกระทำไปตามความพอใจไม่พอใจจึงเป็นเรื่องส่งเสริมความมีอัตตาตัวตน เป็นเรื่องของการเอาจิตเที่ยวแสวงหาจิต จิตไปดูจิต จิตเกิดไม่รู้ว่าจิตเกิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2017
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    นี่ ประสิด ห้าร้อยย.....อ่านยังไงถึงสรุปว่าไม่มีใครตอบว่า นิพพานธาตุมีในตัวเราหรือไม่ มีตาอ่านมั้ย อ่านแล้วมีสมองเข้าใจมั้ย

    ผมก็บอกอยู่นี่ไง ว่า ทำ รูปจิตเจตสิกให้นิพพาน ...คือทำกายใจให้มีคุณสมบัติเป็นนิพพานธาตุ....ถ้าโง่ขนาดนี้ อย่ามา ตั้งกระทู้คุยเลยครับ

    เสียเวลาคุยกับ...พวกไม่มีปัญญาครับ
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    หัดอ่าน หัดคุย หัดดู ให้มันเหมือนคน มีปัญญามั่งนะ
    อย่าสรุปมั่ว ตามแต่ตนเองจะคิดเอาได้....คุยกันแบบนี้ คุณไปคุยอยู่คนเดียว จะดีกว่ามั้ย...ทำเหมือนคน ละเมอเพ้อเจ้อ...
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อสังขตธาตุ ที่เขาเสวนากัน แปลเปนไทยว่า ธรรมอันไม่มีปัจจัยในการเกิด

    แปลแล้วก้ งง เพราะเปนเชิง นิเสธ ซ้อน นิเสธ

    เอาแบบง่ายๆ ธรรมที่ปราสจากอาหาร ปราสจากอารมณ์(สิ่งที่ถูกรู้ หรือ ไม่มีการส่งออก)

    จิต เปนธรรมเกิดจากอาหาร โดย ตัวจิตเอง
    ก้วนรอบเปนปัจจัยให้เกิดจิต เรียก วิญญานาหาร

    อสังขตธรรม อยู่ดีๆ ต้องไปอาสัยในจิต มันเหมือน
    คนเอาถาดทอง ไปรองหมาเยี่ยว

    ทำจิตให้นิพพาน ทำกายให้นิพพาน

    ไม่ใช่เรื่อง ถาดทอง แระ

    น่าจะเปน จานลายพอกส์เลน
     
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    จขกท มั่วได้ใจจริงครับ
    คือมั่วมากทั้งภาคตำราแบบเอามาปน
    และแทรกความคิดตัวเองไปเสริม
    และภาคปฎิบัติแบบคิดเอาเองว่าจะต้อง
    เป็นอย่างโน้นนี่นั้น
    ก็มั่วได้อีกยอมรับว่ามั่วจริงๆครับ

    ไม่ใช่ผลของญานเห็นจิตอะไรที่พูดแบบมั่วๆ
    นิโรธ มันเป็นสภาวะดับแล้ว
    ไม่เกี่ยวกับกายและจิตเลย
    ญานที่ไปรู้เหตุแห่งการก่อตัว
    มันคือปัญญาญาน
    เห็นจิตใช้สมถะมันก็เห็นได้ทั่วโลกนั่นหละ

    มาฟอร์มเดิม อ้างสูงๆประกอบ
    อ้างโน้นอ้างนี่
    เพื่อเอามาแย้งคนที่เห็นต่างกับตน
    จะไม่ให่คนอื่นเห็นต่างได้ไง
    ก็มั่วทั้งภาคตำราและภาคปฎิบัตินิครับ
    แถมคิดว่าตัวเองถูกอีกนะ

    เอาระดับพื้นๆให้ได้ก่อนดีไหมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...