เรื่องเด่น มีวิธีเช็คยังไงครับว่าเป็นพระโพธิสัตว์ที่รับพยากรณ์แล้ว

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ทอนเงิน, 28 มีนาคม 2017.

  1. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    พระโพธิสัตว์องค์ไหญ่ที่ว่าท่านอยู่จังหวัดกาฬสินหรือจังหวัดไหนครับ
     
  2. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    ค่ะ คิดว่าเป็นสัญญลักษณ์ของผู้ปราถนานางแก้วนะคะ

    เป็นไปได้ไหมค่ะว่า ปราถนาพระโพธิสัตว์ แต่ทำกรรมไว้จึงเกิดมาเป็นหญิง และคิดว่าตนเองปราถนานางแก้วแทน
     
  3. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    องค์ที่ผมเล่าคือที่ลพบุรีนะครับ ซึ่งก็มีนิตยที่จังหวัดนี้ก็มีหลายองค์แล้วครับที่ถึงระดับ ปรมัตถบารมี หรือใกล้ระดับปรมัตถบารมี จังหวัดอื่นๆ ผมก็เห็นเป็นพระกันมากครับ
     
  4. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    ออครับขอบคุณที่ไห้ข้อมูลดีๆครับ
     
  5. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    เป็นไปได้ครับ ผมอดีตเมื่ออสงไขยก่อนก็เคยเป็นหญิง แถมได้เคยตามช่วยนิตยองค์ใหญ่ในฐานะผู้หญิงก็มีหลายชาติ แต่นางแก้วแท้ของท่านก็เคยมาช่วยผมทำปรมัตถบารมีอยู่หลายครั้งครับ
     
  6. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    ท่านยังมีชีวิตอยู่ไหมค่ะ. เผอิญรู้จักผู้ที่ปราถนาพระโพธิสัตว์ในลพบุรีหลายคน ไม่แน่ใจว่าท่านเป็นนิยตหรือเปล่าค่ะ
     
  7. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    เรื่องฤทธิ์ของพวกนิตย ไม่ได้มีทุกชาติ ถ้าชาติไหนไม่ได้บวชหรือเจริญณานจนชำนาญก็ไม่มี ถ้าหากจะมีก็อาจมีไม่ครบ ที่เก่งจนขนาดเหาะได้คงต้องทำจนเหนื่อยถ้าอยู่ยุคนี้


    เพราะสภาพแวดล้อมของพระ/นักบวชในปัจจุบันต้องข้องแวะกับคนมาก ถ้าจะเอาขนาดเหาะได้ คงต้องเข้าป่า แต่ถ้าแค่หูทิพย์ตาทิพย์ เป็นพระบ้านก็ทำได้
     
  8. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    พูดไปใครจะเชื่อ ประกาศไปก็เปลืองตัว หลายท่านจึงอยู่แบบสงบๆดีกว่า ถ้าจะบอกก็จะบอกเฉพาะพวกเดียวกัน หรือคนที่สัมพันธ์กัน หรือที่สนิทจริงๆเท่านั้น (ขนาดพ่อแม่พี่น้องเขายังไม่บอกกันเลย)

    แถมถ้าประกาศไปแล้วไม่ใช่นิตย ก็มีแต่ผิด มีแต่บาป

    ดังนั้นเงียบแหละดี ทำงาน ภาวนา โปรดญาติโยมไปเรื่อยๆ มีความสุขและสะดวกกว่าเยอะ

    แต่ขอให้มั่นใจเลยว่า นิตยที่มาเกิดนะเยอะ. เพราะช่วงนี้คือช่วงนาทีทอง. ที่จะมาเร่งความเพียร สร้างบุญบารมี

     
  9. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    ได้รับรู้เรื่องราวการบำเพ็ญพระโพธิสัตว์จากท่าน "ณฉัตร" อีกแง่มุมหนึ่งที่ผมไม่เคยอ่านเจอจากหนังสือเล่มไหนมาก่อนเลยครับ ขอบคุณนะครับ

    ปล.เพึ่งสมัครมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ5555
    :)
     
  10. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    อนุโลมญาน ที่ว่าคือกระบวนขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะจิตจะตัดกิเลส ไม่ใช่จิตไปเห็นพระนิพพาน คนที่เห็นนิพานมีเพียงพระอริยเจ้าเท่านั้นตั้งแต่พระโสดาขึ้นไป

    กระบวนการคือ จิตเข้าอรูปณาน(8) แล้วถอยมาที่ณาน4 ตอนที่ถอย จิตจะเห็นบางสิ่งเกิดดับ 2-3 ขณะ(อาจจะเห็นว่าวิญญานหรือจิตผู้รู้เกิดดับ หรือเห็นนิมิตภาพเกิดดับ)

    จากนั้นจิตจะถอยมาออกมาจากณานทันที สิ่งที่รู้(บางสิ่ง/นิมิตภาพ) เมื่อถอยมาจะจำไม่ได้ว่าคืออะไร รู้เพียงแค่มีบางสิ่งเกิดและดับ 2-3 ขณะ ไม่สามารถย้อนระลึกได้ว่าคืออะไร
     
  11. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ขอบคุณครับ

    แต่อยากให้ขยายความ ตอนที่จิตเข้าฌาณ ๘ และถอยมาฌาณ ๔ โดยละเอียดครับ ว่าเป็นประมาณไหน เพื่อผมจะได้พิจารณาต่อไปครับ
     
  12. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ผมเล่าในมุมของผมนะครับ ตอนเด็กๆ นะครับ

    ผมอ่านปฐมโพธิกถาแต่เด็ก มีศรัทธามากแต่ยังไม่ได้ทราบอะไรมากกว่านั่น เมื่อโตขึ้นรู้สึก สัมผัสได้เลยว่า เรื่องในปฐมโพธิกถาๆ หรือในพระไตรปิฎกเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องที่ในปัจจุบัน คนยุคนี้ ต้องคิดในใจไม่มากก็น้อยว่า เป็นเรื่องแต่งเติม จนถึงขั้นที่คิดได้ว่า มีจริงหรือ ยิ่งโดยระบบศาสนาในอินเดียที่มีการศึกษากัน จะรู้สึกเลยว่า นักศาสนาแต่งเรื่องในอุดมคติเท่านั่นหรือเปล่า ก็แค่คำสอนให้คนทำดีแค่นั่น จะต้องสรรเสริญให้อลังการไปทำไหม นอกจากนี้ คนในยุคนี้ ทำให้คิดเลยว่า คนดีจริงๆ คงไม่มีหรอกครับ ไม่ต้องถึงขั้นพระพุทธเจ้าเลย แค่พระโสดาบันยังไม่เห็นกันเลยในสังคมที่เราอยู่กัน

    แล้วผมในฐานะที่เป็นเด็ก ผมรู้สึกว่า การที่เราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า เป็นความปรารถนาที่ไม่มีวันเป็นจริงเลย ถูกต้องครับ ไม่มีวันเป็นจริงในชาตินี้อย่างแน่นอน แล้วเราจะไปหวังทำไมครับ กับสิ่งที่เรารู้ว่า เป็นไปไม่ได้

    ความทุกข์ในชีวิตของคนเรา ทำให้เราอยากพ้นทุกข์ แต่เราไม่ได้มีปัญญาเอง ที่จะหลุดพ้นได้เองกันเลย

    ผมต้องหลงทางอยู่หลายวัน กว่าจะเจอวัดที่ปฏิบัติธรรมจริงๆ เป็นวัดป่า แต่เมื่อปฏิบัติก็ทราบว่า การที่เราทำอย่างนั้นต่อให้เป็นปี เราก็เหมือนคนที่อยู่ที่วัดบ้านครับ คือเราก็ปฏิบัติของเราได้ พิจารณาของเราได้ ระงับทุกข์ของเราได้ตามสมควร ก็เหมือนที่โรงเรียนสอนเรานั้นแหละครับ

    แต่เมื่อตัดสินใจจะกลับไปเรียนต่อ หลวงพี่ท่านพูดคำหนึ่งว่า เณรก็มาอยู่เกือบเดือนแล้ว รออีกสักวันสองวันให้พบพระอาจารย์ก่อนเถอะ อย่าให้เสียเที่ยวเลย ผมก็อยู่ต่อ อีกสองคืนต่อมา และจากนั้น ผมจึงทราบว่า

    ความในพระไตรปิฎก ในหลายอย่างไม่ได้เว่อร์วังอลังการแต่อย่างใด อย่างเช่น ที่กล่าวว่า เมื่อพระโพธิสัตว์พบพระพุทธเจ้าครั้งหนึ่ง ท่านก็มีศรัทธาปสาทะและเกิดปีติขนลุกขนชันตั้งอยู่เจ็ดวันบ้าง สิบห้าวันบ้าง สามเดือนบ้าง อันนั่น ก็เกิดขึ้นกับผมกว่าสามเดือน ธรรมที่ไม่คิดว่าจะทำได้ก็มีกำลังใจทำได้ มีปัญญาทำได้เพราะศรัทธาในจิตอันบริสุทธิ์ของท่าน โดยไม่ต้องมีใครมาสอนเลย คือเห็นท่านก็คิดเอาเองว่า ต้องทำอย่างไร คือ แผ่เมตตาอันประมาณไม่ได้ไปในโลกธาตุทั้งสิ้น ฯลฯ (ในตอนเด็กนั่นยังไม่ได้อ่านกรรมฐานข้อนี้)

    ในระยะทางที่ยาวไกลกว่าจะเจอพระพุทธเจ้านี้ยากนักหนา บางครั้งตลอดอสงไขยก็ไม่มีพระพุทธเจ้าเลยก็มี ในมหายานกล่าวว่า การพบพระโพธิสัตว์ก็ดุจดั่งเจอพยานหลักฐานว่า มีพระพุทธเจ้าอยู่นะ

    แต่ผมพาคุณพ่อมาพบ ท่านกลับเฉยนะครับ ผมเลยทราบว่า นอกจากบารมีของท่านแล้ว ตัวผมเองก็ได้ตามรอยพระอาจารย์ผมมาไม่น้อยทีเดียว

    ข้อ ๒ ที่ถามนั้น อยากบอกว่า องค์ใหญ่ท่านไม่บอกกับใครง่ายๆ หรอกครับ มีคราวหนึ่งเพื่อนผมไปอยุธยา พระอาจารย์องค์หนึ่งท่านเล่าเหตุการณ์ครั้งสมัยอยุธยา ขึ้นมาต่อหน้าผม เพื่อนผมบอกว่า ผมมากราบท่านหลายเพลา ท่านไม่ได้เล่าทำนองนี้เลย นอกจากนี้ องค์ใหญ่ท่านมักจะอยากไปนิพพานเสียเลย แต่ผมเห็นแล้วท่านไม่มีทางไปได้ครับ ดังนั้น ถึงท่านจะรู้แต่ส่วนนั้นมันอยู่ลึกครับ แต่ส่วนบนๆ ผิวๆ นี้มุ่งนิพพานกันเลย ดัวนั้น จะหวังให้ท่านประกาศตัว คงยาก ท่านองค์หนึ่งยังเคยว่า ผมหลงพุทธภูมินี่ล่ะถึงต้องสึกออกมาเป็นฆราวาสให้ทุกข์โศก แล้วตัวท่านเองยิ่งไม่มีทางบอกหรอกว่า ตัวท่านปรารถนาพุทธภูมิ ท่านบำเพ็ญเพื่อนิพพานกันเลย แต่ท่านไม่ได้ตั้งจิตอธิษฐานลาพุทธภูมิกันเป็นกิจลักษณะ ก็ไม่มีทางลากันได้หรอกครับ
     
  13. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    หากเจริญวิปัสนาถูกต้อง โพธิปักขิยธรรมสมบูรณ์

    จิตจะตัดเข้าสู่กระบวนการบรรลุธรรม กระบวนการนี้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่จิตดำเนินด้วยตัวของจิตเอง ถ้าตั้งใจ/เฝ้าดู/คาดหวังกระบวนการจะหยุดลงทันที

    โดยพุทธภูมิที่เที่ยงได้รับพยากรณ์แล้วบางส่วนจะหยุดที่อนุโลมญานขันตอนคร่าวๆคือ

    เมื่อเกิดอนุโลมญาน จิตจะเข้าณาน 8 จะเข้าเองแบบฉับพลัน อารมณ์คล้ายหลับลึกๆ แต่ยังมีสติรู้ตัวบางๆ กึ่งๆรู้ตัว ในนั้นไม่มีเวลา จำอารมณ์ได้แค่เสี้ยวเวลาตอนก่อนที่จะออกจากณาน8

    ตอนที่ถอยมาณาน 4 เสี้ยววินาทีนั้นจิตจะมีผู้รู้เต็มที่ (ณาน 4จิตไม่มีการรับรู้ทางกาย)

    พร้อมขณะที่เกิดจิตผู้รู้จิตจะแสดงบางสิ่งให้เห็นว่ามีการเกิดดับทันที 2-3 ขณะ บางครั้งเป็นแค่ผู้รู้(รู้สึกตัวเฉยๆ)แล้วเกิดดับ. บางครั้งจิตจะสร้างนิมิตบางประการ เกิดดับๆ 2-3 ขณะจิต จากนั้นจิตจะถอยมาที่อุปจาระทันที

    ขั้นตอนที่จิตแสดงการเกิดดับใกล้เคียงประมาณ 1 วินาที ตอนที่ถอยมาจากณาน4 ถ้าเป็นการรู้ถึงนิมิตภาพจะจำนิมิตไม่ได้รู้แต่ว่าจิตสร้างบางสิ่งขึ้นและเกิดดับให้เห็น
     
  14. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ขอบคุณครับ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
     
  15. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    ขอบคุณครับไม่ต้องหาไกลละในนี้หลักๆก้มีแต่เรา3คนครับและผมก้คิดว่าเป็นสายปัญญาด้วยกันทั้ง3คนครับเรา3คนอาจจะเคยสร้างบารมีร่วมกันมาครับถึงได้มาแนะนำสิ่งดีไห้เกิดขึ้นตอนนี้กระทู้นี้มีคนเข้ามาอ่าน700กว่าคนละครับผมขออนุโมทนาในธรรมทานกับทุกท่านนะครับที่ได้ไห้สิ่งดีๆและผมขออนุโมทนาในมหาปณิธานที่ทุกท่านตั้งใจไว้ขอไห้ทุกท่านจงสำเร็จดังมหาปณิธานครับและผมเชื่อว่าในอนาคตพวกเราก็จะได้อนุเคราะกันไปอีกเรื่อยๆครับ
     
  16. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    เงียบไปหลายวันละรบกวนเล่าประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ไห้ฟังบ้างก็ดีนะครับเพื่อผมจะได้ปัญญาและธรรมะปีติครับเห็นเงียบไปนานระครับ
     
  17. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    อย่าคาดหวังผมมากเลยครับ กิเลศยังเยอะเหมือนคนปกติ

    เรื่องจะเล่าก็คิดมาหลายวันว่าจะเล่าดีไหม เพราะมันจะพิสูจน์หรือแสดงให้คนเชื่อมันยาก

    ตัวผมเป็นสมาชิกมานานมาก เข้ามาอ่านเรื่อยๆ แต่ไม่กล้าประกาศตนว่าเป็นพระโพธิสัตว์ เพราะไม่มันใจ100% และถึงจะเป็น แต่ใจก็คิดว่าถ้ายังพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้รับพยากรณ์ ก็จะไม่ประกาศออกไป เพราะไม่เห็นประโยชน์ เพราะหากยังไม่ได้รับพยากรณ์อนาคตก็ไม่แน่นอน จะเลิกเมื่อไรก็ได้

    โดยตัวผมพึ่งจะมั่นใจเมื่อไม่กี่ปีนี้เองขอไว้เล่าที่หลัง

    ตัวผมตอนแม่ท้อง ก็ฝันว่ามีคนนำช้างมาให้ (ชื่อบุญมี) พอ 7 ขวบได้ไปพบรูปวาดพระพุทธเจ้าปางตรัสรู้ นับแต่นั้นก็สนใจศาสานาแบบมุ่งมั่น ตอนนั้นก็งงๆ แต่ใจมันชอบศึกษา พุทธประวัติ รวมถึงประวัติครูอาจารย์ตั้งแต่เด็กๆ

    อายุ 12-15 ใจก็อยากเป็นพระอรหันต์มาก ตอนนั้นก็เริ่มหัดนั่งสมาธิ หาตำรามาอ่าน ช่วงนี้พึ่งรู้ว่าพระพุทธเจ้ามีหลายพระองค์ และมีพระโพธิสัตว์ ใจจึงคิดปราถนาพุทธภูมิ แบบปัญญาธิกะ

    แต่ความคิดระหว่าง เป็นพระอรหันต์และปราถนาพุทธภูมิมันกำกึ่งมาก สุดท้ายจึงตัดใจว่า ไม่ว่าจะเป็นโพธิสัตว์หรือไม่ตนเองก็จะขอลาเข้าพระนิพพาน แต่ใจลึกๆมันวนเวียนเกี่ยวกับพุทธภูมิมันไม่ขาดเสียที

    เคยจุดธูปต่อหน้าพระเพื่อขอลาพุทธภูมิ หรือขอความชัดเจนในเรื่องนี้ ก็ไม่ได้อะไร นอกจากเคยฝันว่ามีหนอนสีขาวไต่เต็มหน้าขา

    มีคราวไปเที่ยวเกาะเสม็ดกับเพื่อนตอนปี 44 ขากลับพายุเข้า พวกผมนั่งสปีดโบทกลับพร้อม กับคนอื่นๆราว 20 ตอนอยู่กลางทะเล เครื่องยนต์เรือเสีย ท่ามกลางคลื่นสูง 2-2.5 เมตร พวกผมเมาเรือหนักมากอาเจียรไม่หยุด ตอนนั้นอยู่ๆผมก็ตังสัจจะในใจว่า "ถ้าตัวเองจะได้เป็นพระพุทธเจ้าขอให้คลื่นสงบ" ผลคือคลื่นลมสงบลงทันที

    เมื่อ4 ปีก่อน เคยเล่นกับหมาแล้วมองหน้ามันผมพูดขึ้นมาเล่นๆว่า"ถ้าพี่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พี่จะพาข้ามสงสารด้วย" ปรากฏว่าจิตมันสะเทือนจากกลางอกเหมือนแผ่นดินไหวน้อยๆ ตอนนั้นก็งงเพราะเราแค่พูดเล่นๆ แต่ด้วยสัจจะบารมีมันก็ส่งผลให้เรารับรู้ได้

    แต่ทั้งหมดผมก็ไม่ปักใจเชื่อ ยังคิดจะลาพุทธภูมิอยู่ดีแม้ใจลึกๆก็คิดว่าอาจจะลาไม่ขาด(กรณีอนิตยะ) หรือลาไม่ได้(กรณีนิตยะ)

    ขอจบแค่นี้ก่อนครับ คราวหน้าเล่าเรื่องการภาวนา และสิ่งที่มั่นใจว่าได้รับพยากรณ์แล้ว
     
  18. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    อนุโมทนาสาธุครับประสบการณ์ก้คล้ายๆกันกับผมครับไงก้ฝากเล่าเรื่องสมาธิไห้ฟังด้วยนะครับ
     
  19. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    การเปล่งวาจาประกาศตนว่าเป็น พระโพธิสัตว์ นั้น สำคัญอย่างยิ่งแก่อนิตยโพธิสัตว์ และสำคัญอย่างยิ่งกว่าแก่นิตยโพธิสัตว์ เป็นการเปล่งขณะที่โพธิจิตเกิดขึ้น อันเป็นเหตุปัจจัยให้ถึงสภาวะแห่งพุทธภูมิ

    การเปล่งวาจาว่า ปรารถนาพุทธภูมิ มีนัยสำคัญคือ ประกาศให้ทราบถึงความมีอยู่ของพระนิพพาน และความมีอยู่ของแดนพุทธภูมิ ผู้ประกาศเองและผู้ฟังประกาศที่มีจิตอันเลื่อมใสศรัทธา ย่อมถึงแดนสุขาวดี(ชั้นดาวดึงส์) ผู้ประกาศที่โพธิจิตขึ้นถึงขีดสุด ย่อมถึงแดนดุสิต

    การเปล่งวาจาประกาศตนว่าเป็น พระโพธิสัตว์ ที่เป็นไปโดยธรรมชาตินั้น ย่อมมีอานิสงค์อีกประการคือเป็นการตั้งจิตอธิษฐานพุทธภูมิ ดวงจิตนั้นมีกำลังมากเมื่อเปล่งวาจาขณะทำปรมัตถบารมี

    ตลอดระยะเวลาอันยาวนานการตั้งจิตอธิษฐานขณะเปล่งวาจา และการตั้งจิตอธิษฐานโดยไม่เปล่งวาจาก็ดี จะส่งผลเป็นเหตุปัจจัยนำทางบุคคลไปในทางพุทธภูมิต่อไป

    การอธิษฐานนี้มีผล พระท่านจึงสอนให้ถอนคำสาบาน คำอธิษฐานที่ไม่ดีงาม พยายามให้ถอนบ่อย ๆ เพราะอะไรที่อธิษฐาน สาบานไปแล้ว ไม่ใช่จะถอนกันได้ง่าย ๆ

    การที่บุคคลจะตัดพุทธภูมิจึงไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ จึงต้องทำกรรมฐานเท่านั้น และต้องทำให้ถึงด้วยนะครับ
     
  20. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    ครับเวลาผมเปล่งทีไรขนลุกจนน้ำตาไหลก้มีครับขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...