โทษของการก้าวล่วงต่อพระอริยเจ้าเป็นอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 18 มิถุนายน 2017.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    โทษของการก้าวล่วงต่อพระอริยเจ้าด้วยเจตนา
    เพราะเข้าใจผิด
    หรือมีเจตนาอย่างนั้น
    หรือด้วยการพลั้งเผลอ
    ด้วยว่าการพูดถกธรรมที่มีการโต้แย้งมักยกเอา
    คำสอนอันมีที่จากพระอริยเจ้าต่างๆ
    มาเป็นตัวอย่างบ้าง
    มาเปรียบเทียบกันบ้าง
    ทำให้อีกฝ่ายเกิดการเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนแลัวมีวาจาก้าวล่วง
    กรรมปัจจุบ้นและที่จะเกิดขึ้นแตกต่าง หนักเบามีอย่างไรบ้าง
    ครับ
     
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    การก้าวล่วง ก้อเริ่มจากเหตุที่เป็นกลลวง
    คือการหลอกลวงตัวเองก่อนให้เชื่อก่อน แล้วจึงไปสร้างกลลวงให้ผู้อื่นต่อ
    ผลของกลลวงนั้น เรานั้นย่อมผิดศีลก่อน แล้วจึงค่อยขยับขยายกลลวงต่างๆเหล่านั้น
    ให้ผู้อื่นได้รับการผิดศีลต่อๆกัน

    เสมือนกับดารา นักแสดง ที่ใช้กลลวงว่าตนเองนั้นได้อยู่บทบาทเป็นตัวละครนั้นๆจริงๆก่อน
    แล้วจึงแพร่ขยายกลลวงนั้นๆ ให้ผู้ที่รับชมได้เชื่อถือในบทบาทนั้นๆว่าเขาเป็นตัวละครนั้นจริงๆ

    หากดึงเอาธรรม ต่างๆมาเพื่อให้มาบรรจบกับตัวเองโดยที่คนผู้นั้นไม่ได้อยู่จุดนั้นจริงๆ
    ก็เป็นการลวงตัวเองว่ามีธรรมนั้นๆ คนทำอย่างนั้นย่อมผิดศีล

    การเข้าใจผิดนั้น เป็นผลพลอยได้จากการที่เราเชื่อกลลวงนั้นๆไปแล้ว
    ความเข้าใจผิดจึงตามมาอีกที และเมื่อเข้าใจผิด ก็ย่อมมีการผิดศีลเป็นเรื่องธรรมดา
    เพราะศีล มีไว้สำหรับผู้มี สติปัญญา

    เมื่อผิดศีล สมาธิหรือการจดจ่อในการงานของเขา ย่อมไปหาสิ่งที่ไม่มีสาระว่าเป็นสาระ
    และเมื่อไปหาสิ่งที่มีสาระเขาก็จะว่าไม่มีสาระ
    และเมื่อถึงคราวเปรียบเทียบหรือเทียบเคียง ย่อมนำสิ่งที่ไม่ใช่สาระเอามาเทียบกับสิ่งที่เป็นสาระ
    เป็นการเปรียบเทียบที่หาข้อลงตัวกันไม่ได้ เพราะสาระก็คือสาระ ไร้สาระก็คือไร้สาระ

    ฟุ้งซ่าน ก็มาจากเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นสาระ พบเห็นอะไรไปเอามาขบมาคิดไปเสียหมด
    เรื่องไหนไม่เป็นสาระ ก็ไม่ควรเอามาขบเอามาคิด มันจะเป็นการเพิ่มภาระตัวเองเสียเปล่าๆ
    เพราะรู้ทันเขาไม่เป็นสาระเท่ากับรู้ทันตัวเอง หากจะไปรู้ทันเขาก็เป็นการไปตีเสมอเขา
    ไม่ไปตีเสมอเขาก็ไม่เกิดการก้าวล่วง เป็นการลวงตัวเองไว้ก่อนหากไม่เสมอเขาก็เหนือกว่าเขา
    ญาณหยั่งรู้อนาคต เรามีหรือไม่มีเรานั้นย่อมรู้อยู่แก่ใจ หากไม่มียังไงๆเสียเราก็รู้ตามหลังเขาอยู่ดี
    เขาคิดอยู่ก่อนแล้ว เราไปนั่งฟังความคิด ฟังคำพูดของเขาตามหลังเขามาอีกทีหนึ่ง

    ลวงตัวเองไปมาก ก็จะหลงตัวเองไปมาก เป็นผู้วิเศษ เป็นผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้ที่มีแต่คนนับถือ
    เป็นผู้มีความเข้าอกเข้าใจในธรรมชั้นสูงๆ เป็นบุคคลที่หายากมาก บลาๆๆ

    มีความเห็นมาแจมเท่านี้ครับ
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ขอความรู้เรื่องโทษ
    ที่เกิดจากการก้าวล่วงพระอริยะบุคคล
    ตามโจทย์ที่ตั้งกระทู้ครับ
     
  4. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    เห็นสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ เห็นสิ่งไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ
    เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด เป็นเรื่องของความหลง

    พระอริยะ คือผู้ที่ปฏิบัติถูกทางแล้ว ปรามาสได้ก็มีแต่ โมหะ/หลงผิด แล้วจะไปโทษว่า
    หลงผิดในตัวพระอริยะเจ้าก็ไม่ได้ เพราะมันก็ต้องเริ่มจากหลงผิดในตัวเองก่อน
    จากหลงนิดๆหน่อยๆ แล้วค่อยหนักขึ้นเรื่อยๆ


    ถามถึงโทษหรือเห็นกงจักรเป็นดอกบัว
    คือจากไกล้ๆจะค่อยๆเริ่มออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ จากหลงหน่อยๆกลายเป็นหลงออกไปมาก
    จากจะได้พิมพ์สั้นๆ ก็ต้องพิมพ์ออกไปยาวๆ และยาวจนออกนอกทางไป

    ถามถึงคุณหรือเห็นดอกบัวเป็นดอกบัว เห็นกงจักรเป็นกงจักร
    คือจากทางที่ต้องวนเวียนไปไกลๆ ก็จะเหลืออยู่แค่ทางสั้นๆ
    จากจะต้องพิมพ์ยาวๆให้ออกไปไกล ก็เหลือเพียงแค่ สติ ศีล สมาธิ ปัญญา

    ถามถึงโทษ แต่จะกระชับให้เข้ารูปเข้าลอย จะเข้ารูปเข้าลอยได้อย่างไร
    ขึ้นชื่อว่าโทษ ก็มีแต่จะชวนหลงออกไปนอกลู่นอกทางเท่านั้น

     
  5. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ พระอริยะบุคคล คือ บุคคลที่เดินทางอยู่ใน "มรรคผล นิพพาน"

    +++ ส่วนบุคคลที่ตั้งตัวเป็น "ปฏิปักษ์" กับพระอริยะบุคคล (ไม่ว่าจะรู้หรือไม่ก็ตาม) ก็ย่อมเดินกันคนละทางอยู่ดี

    +++ ดังนั้น ผู้ที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพระอริยะบุคคล ย่อมปิดกั้น "สวรรค์ รวมทั้ง มรรคผลนิพพาน" ไปในตัว

    +++ ตัวอย่างง่าย ๆ คือ ถ้าเราไม่ชอบใคร นอกจากจะไม่คบด้วยแล้ว ก็อาจถึงขั้น ทำตัวเป็นตรงกันข้ามกับคนนั้นก็ได้

    +++ หากผู้หนึ่ง เดินเข้าสู่ มรรคผลนิพพาน อีกผู้หนึ่งก็ย่อม เดินเข้าสู่ อบายและนรกภูมิ โดยอัตโนมัติ เป็นต้น

    +++ คงพอเป็นที่เข้าใจได้ นะครับ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    จะดึงกระแสจร หรือ วิบาก
    (กระแสที่ทำให้ เรานึกขึ้นได้ ระลึกได้ คิดขึ้นได้ ปรุงแต่งได้ฯลฯ)
    และทำให้เราไม่วาง ไม่ลืม ซักที ให้เข้ามารวมกับจิต
    ของเราครับ กระแสพวกนี้คืออุปสรรค
    ในการพัฒนาจิต ไม่ว่าทางด้านไหนๆครับ...
    ความรวมคือ มันจะขวางการคลายตัวของจิตเราเอง...
    ทำให้ทำอะไรไม่สำเร็จ เพราะวกวนในกระแสจร
    พวกนี้นั่นเองครับ

    เมื่อจิตไม่คลาย กระแสพวกนี้จากการปรุงแต่งฯลฯ
    มันก็จะส่งผลต่อกาย กลายเป็นเวทนาทางกายใน
    ลำดับต่อมาครับ

    ปล.อริ คือ ศัตรู. ยะ คือ ห่างไกล
    ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ไม่ใช่กิเลสนะครับ
    มันเป็นสิ่งที่มีอยู่ภายนอกเป็นปกติ...

    แต่ โลภะ โทสะ โมหะ ในใจเรา ที่จะไปดึง
    ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อย่างใดอย่างหนึ่งเข้า
    มารวมกับจิตเป็นกิเลสครับ...

    เรื่องนามธรรม อยากรู้ต้องสร้างเครื่องมือไปรู้มัน
    คือ สติทางธรรม ที่ได้จากการเจริญสติในชีวิตประจำวัน
    ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆก็ตาม ขอให้มีฐานอยู่ที่กายครับ ลุงแมว
    เล่าให้ฟังเฉยๆครับ
     
  7. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    วิบากอย่างที่เบาที่สุด ตัวอย่างเช่น
    ยามฝึกปฏิบัติภาวนาในเบื้องแรกมีวิบากคือมีจิตคิดปรามาสพระรัตนตรัย
    ในขณะพยายามบำเพ็ญเพียรในอิริยาบทต่างๆถามว่าทุกข์มั้ย
    หลายๆท่านคงทราบคำตอบดีอยู่แล้ว
    ส่วนวิบากที่หนักมากขึ้นตามลำดับนั้น
    ขออย่าได้วิตกวิจารณ์มากเกินไปจนเป็นปริโพธเครื่องกังวลใดๆ
    เนื่องจากเป็นอจินไตย
    ขอเพียงตั้งมั่นใน ทาน ศีล ภาวนา และกุศลกรรมบท๑๐
    ยึดถือคำสอนของผู้รู้ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานและท่านอื่นๆโดยปริยาย
    จริงๆแล้ววัดก็มีเยอะแยะทั่วไป
    แต่ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะข้ออ้างมากกว่าครับ
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เกี่ยวกับวัดด้วยหรือฮะ
    การก้าวล่วงพระอริยะบุคคล
     
  9. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    หมายถึงสถานที่สงบวิเวกและมีท่านผู้รู้คอยชี้แนะให้คำว่ากล่าวตักเตือนสั่งสอนครับ
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อ่อ
     
  11. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    กรรมปัจจุบันคือ จิตเศร้าหมอง (อย่าปล่อยให้ปัจจุบันอยู่กับความเศร้าต่อไป)
    ให้ก้าวหน้าต่อไปดีกว่า ความพลาด ขาดสติยั้งคิดเป็นเรื่องธรรมดา
    ทำตัวให้เป็นพระอริเจ้าเช่นกัน ก็จะดีกว่า ทำจิตให้ทรงตัวมีสติผ่องใสยับยั่งไปสู่การดับซึ่งกิเลส
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เยี่ยมครับ เป็นความเห็นที่เป็นมรรค ครับ
     
  13. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +60
    ขออณุญาติเจ้าของกระทู้ตั้งคำถามเพิ่มเติมนะครับ เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวผมเอง เริ่มแรกตอนที่ผมขับรถผ่านพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆในวัดหนึ่ง สวยงามมาก แต่ใจผมกลับคิดเลยเถิดถ้ามีใครไปฉี่รดขึ้นมา จะบาปขนาดใหนน้าาาา เสตปต่อมานานเข้า ก็คิดว่าถ้าเราไปทำแบบนั้น จะตกนรกขุมใหนน้าาา จนนานวันเข้า เจอพระ เจอเทวรูปที่ใหนก็คิด คล้ายจะติดเป็นนิสัยซะแล้ว(ไม่เคยคิดทำจริงนะครับ คิดเพียงว่าถ้าเกิดทำ)เลยกกลัวบาปครับ เป็นแบบนี้มา 3ปีแล้วครับ แต่ช่วงนี้น้อยลง เพราะบังใจได้ป็นส่วนมาก ผมเป็นคนรักศาสนาครับ เคารพบูชา พระพุทธเจ้าสุดชีวิต แต่ดันมีความคิดชั่วๆที่ถอนยังไม่ออก ก็กลัวจะลงไปอยู่กับ เทวทัตย์น่ะครับ พี่ๆลองแนะนำหน่อยครับ
     
  14. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ถ้าไม่เจตนา ก็โยนความผิดให้กิเลสไปสิครับ ไม่ใช้จิตเเท้ของเรา เเล้วหันมาชำระกิเลสต่อไป

    สู้ๆ นะ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    มันเป็นกะแสภายนอกครับ
    ไม่ใช่ความคิดเรา จะดูว่าเรา
    จะเล่นด้วยหรือเปล่าครับ
    มาจากข้างบนอ้อมท้ายทอย
    ยิงตรงมาที่จิต เพียงแต่ตอนนี้
    เรายังสังเกตุไม่ทันครับ
    เลยคิดว่าเป็นความคิดเรา
    เด่วกำลังสติทางธรรมมากกว่านี้
    จะเข้าใจและเริ่มสังเกตุ
    ที่ข้าพเจ้าพูดให้ฟังได้เองครับ
    ปล ปกติให้เฉยๆ คิดระลึกนึกเมื่อไร
    ให้อุทิศส่วนกุศลเป็นการแก้ได้ชั่วคราว
    แต่ถ้าเผลอปรุงไปแล้วให้ขอขมากรรมครับ
     
  16. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +1,481
    พระอริยะเจ้าทั้งหลายมีความเมตตาเป็นบาทใหญ่หากไม่ใช่ผู้มีวาสนาต่อกันไม่มีเหตุต้องแก้ไขอะไรใดใดให้ผู้หลงผิดเพียงระลึกรู้อย่างแน่ใจและศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริงผลกรรมจะผ่อนจากหนักเป็นเบา...อุปมาเหมือนบุคคลเมื่อรู้ว่าไฟนั้นร้อนย่อมทำให้เกิดแผลผุพองไหม้ไม่แช่หรือลนอยู่นั้นเอาตัวออกและเรียนรู้แก้ไขผลของพิษแห่งไฟนั้นยังปรากฏแต่จะไม่ทุกข์ทุรนทุรายเมื่อเทียบกับยังอยู่ในกองไฟนั้น...จึงต้องเรียนรู้...เท่านั้นที่จะบอกได้
     
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คงจะทำให้บางคนที่ปากไม่มีหูรูด ใจชื้นและกระหยิ่ม
    ยิ้มย่องขึ้นมาบานพะเรอครับ
     
  18. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ใครนิพระอริยะที่ลุงแมวคิดวาดฝัน เอาชัดๆสิครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...