เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    แหม คุณเด็กโชว์พาว น่าอิจฉาจัง ได้เบอร์สาวด้วย อิอิ
     
  2. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ตอนนี้ไม่ค่อยสบาย คงเพราะอากาศเปลี่ยนแปลง+ร้องเพลงมากไปหน่อย เจ็บคอ ปวดหัว ตัวร้อน
    จะว่าไปช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้มาเล่าความฝันเลย เพราะไม่ค่อยได้บู๊ในฝันล่ะ
    บางคืนก็มีฝันไม่ดี ฝันว่าฟันหัก ถ้าเป็นความเชื่อของคนอื่น ๆ เค้าต้องว่าญาติพี่น้องจะต้องเสียชีวิต
    นกก็ไม่สนใจหรอก เราเปลี่ยนความเชื่อเท่านั้นเอง ไม่ได้จดจ่อ ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
    บางคืนฝันดีมาก ๆ ฝันถึงพระพิคเณศ พระแม่อุมา เวลาเราฝันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เนี่ย ก็เกิดความรู้สึกปลื้มใจ มีความสขมาก ๆ เหมือนกันเนอะ

    ที่พี่meadอยากให้เล่าความในใจเกี่ยวกับห้องวิทย์นี้
    นับไปก็ไม่นานเท่าไหร่นะที่ได้เข้ามา แต่รู้สึกเหมือนเป็นปี ๆ เลย
    รักและผูกพันกับพี่ ๆ ทุกคนในห้องนี้ ไม่ว่าบางคนอาจจะยุ่งแล้วห่างหายไปบ้าง
    แต่ทุกคนที่เข้ามาแล้ว เหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน

    หนังสือของอาจารย์อนาลัยมีค่ามากที่สุด สอนให้นกเองเปลี่ยนความเชื่อในทุก ๆ เรื่อง และเป็นไปในทางที่ดีขึ้นมาก
    ขอบคุณพี่นักเขียนมากที่สุด ที่ได้มาขยายความและให้ความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น เหมือนเป็นคุณครูที่คอยสอนให้เรามีทิศทาง

    รักทุกคนที่สุดเลย
     
  3. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    ได้อ่านเรื่องราวของคุณจินตวดีแล้ว ต้องขอขอบคุณ ที่นำเรื่องของตนเองมาแบ่งปันให้ทราบ นับเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม รู้สึกดีที่ได้อ่านเรื่องของคุณ ได้เข้าใจถึงความพยายามที่จริงจังและตั้งใจ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ คุณคงได้เรียนรู้มากมายเลยนะคะ ขอแสดงความยินดี กับการพัฒนาในระดับจิตวิญญาณ ผ่านการเรียนรู้โลกภายในของตัวคุณเอง ยินดีด้วยความจริงใจค่ะ
    เรื่องของคุณเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากค่ะ
     
  4. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    เมื่อคืนฝันว่าอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง เหมือนซุ้มที่หลังคาโล่งๆ
    คุณซูโม่กิ๊กกำลังนำผู้คนให้ต่อต้านกลุ่มคนที่ต่อต้านรัฐบาล
    พูดผ่านไมโครโฟนด้วยความฉุนเฉียว
    ปลุกระดมให้คนออกมาต่อต้านกลุ่มที่จะจัดสัมมนาทางการเมือง
    ต่อมาก็มีการขว้างปาท่อนไม้ที่เหมือนทำไว้เป็นฟืน
    มีบางคนขว้างขวดเข้ามาไปกระทบกับพื้นปูนทำให้ปากขวดแตก
    แต่มีเสียงร้องปรามว่าห้ามขว้างขวด
    แต่ไม้ฟืนที่ว่ากลับมีอยู่เต็มหลังคาที่เป็นซุ้ม
    สถานการณ์วุ่นวายและกลุ่มคนที่ผมอยู่ด้วยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
    สงสัยจะอินการเมืองไปหน่อย
    แต่แปลกตรงที่ว่า ตื่นมารู้สึกเจ็บที่ศีรษะ เอามือไปคลำดู คราบเลือดเต็มเลย
    มีแผลเป็นทางแต่ไม่รุนแรง โอ๊ะโอ ฝันโหดจัง
     
  5. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    พี่นักเขียนขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านทั้งนอกห้องวิทย์ฯและในห้องวิทย์ฯ ที่เป็นกำลังใจให้เสมอๆ ด้วยการแสดงความคิดเห็นให้พี่นักเขียนทราบว่า หนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัย มีความหมายและให้ประโยชน์สุขกับพวกเราอย่างไรบ้าง

    พี่นักเขียนเชื่อว่า ผู้อ่านแต่ละท่านย่อมตระหนักได้ไม่มากก็น้อยว่า การได้อ่านหนังสือชุดนี้เป็น โอกาส โชค หรือแม้แต่ความบังเอิญที่มีความหมาย ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ บางคนรู้สึกเสมือนว่า ถูกหนังสือเลือกให้อ่าน เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยรู้จักหนังสือชุดนี้ แม้จะเดินผ่านทุกวันก็ไม่เคยมอง แม้จะมองก็ไม่เห็น แม้จะเห็นก็ไม่อ่าน แม้จะได้รับเป็นของขวัญก็ยกให้ผู้อื่น โดยไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า นำสิ่งใดไปยกให้เขา มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่อยากจะได้ครอบครองหนังสือชุดนี้ แต่ก็หาซื้อไม่ได้เลยสักเล่ม ในทางตรงกันข้ามมีผู้ที่ครอบครองหนังสือชุดนี้จนฝุ่นจับก็ไม่เคยอ่าน

    เมื่อเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงหลายอย่างที่เราเคยรู้อย่างคลุมเครือมาก่อน เมื่อได้ศึกษาจากหนังสือชุดนี้ เราจะตระหนักในความเป็นจริงนั้นได้ชัดเจนขึ้น ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นจริงเหล่านั้นได้อีกต่อไป และรู้ว่ามันเป็นความเป็นจริงที่ลบล้างไม่ได้ เพราะมันคือความรู้ที่จะทำให้จิตวิญญาณของเราพัฒนาต่อไปได้

    ในส่วนลึกของเราแต่ละคน เรามีความปรารถนาที่จะถ่ายทอดความเป็นจริงที่เราเรียนรู้ให้กับคนรัก คนใกล้ตัว ไม่มากก็น้อยด้วยกันทั้งสิ้น แต่เราก็ไม่สามารถจะทำให้ทุกคนรู้สึกนึกคิดหรือปรารถนาในข้อมูลความรู้เหล่านี้ได้อย่างที่เราคาดหวังเสมอไป เพราะแต่ละคนมาถือกำเนิดด้วยทางเลือก และเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่จะแสวงหาธรรมชาติความเป็นจริงเหล่านี้หลากหลายเส้นทางด้วยกัน

    แม้ว่าพี่นักเขียนจะทำหน้าที่ล่ามและเลขา ผู้รับและนำข้อมูลความรู้เหล่านี้มาถ่ายทอดด้วยการเขียนเป็นหนังสือ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่เรียกได้ว่าเป็น messenger หรือผู้ส่งสารที่รับสารยามหลับ และนำมาส่งมอบให้ผู้อ่านในยามตื่น
    [​IMG]
    แต่ผู้อ่านทุกท่านที่มีโอกาสได้อ่านและตระหนักในคุณค่าของข้อมูลความรู้ที่ปรากฏในหนังสือ คงจะตระหนักถึงความเป็นจริงอีกข้อหนึ่งด้วยว่า ผู้อ่านทุกท่านคือ messenger หรือผู้ส่งสาร ไม่น้อยไปกว่าพี่นักเขียน ไม่ว่าเราแต่ละคนจะส่งสารด้วยการพูด เขียน หรือการทำตนเป็นตัวอย่าง เราต่างก็มีหน้าที่ไม่น้อยไปกว่ากันด้วยการส่งมอบข้อมูลความรู้ และธรรมชาติความเป็นจริงที่จิตวิญญาณของเราเรียกร้องและพบคำตอบแล้วไม่มากก็น้อย ให้กับจิตวิญญาณทั้งหลายที่แสวงหาและเรียกร้องเช่นเดียวกับเรา เพราะผู้ที่มีโอกาสได้อ่านและตระหนักในคุณค่าของข้อมูลความรู้เหล่านี้ มีจำนวนเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับจำนวนผู้คนมากมายที่เราแต่ละคนรู้จักพบเห็นในชีวิตประจำวัน ที่เต็มไปด้วยคำถาม

    พี่นักเขียนเชื่อว่า ผู้อ่านทุกท่านที่เต็มใจที่จะทำหน้าที่ messenger เช่นเดียวกับพี่นักเขียน ย่อมจะได้รับพลังใจที่ทำให้ตระหนักได้ว่า หน้าที่ของเรามีคุณค่า และพบกับความสุขที่เติมเต็มจิตวิญญาณของเราอย่างหาสุขใดมาเปรียบเทียบไม่ได้ ไม่น้อยไปกว่าที่พี่นักเขียนกำลังได้รับพลังใจและความสุขจากพวกเราอยู่ ณ วันนี้

    ขอบคุุณจากใจจริงค่ะ(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2008
  6. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เมื่อคืนตั้งใจจะอ่าน "สนทนากับพระเจ้า" ต่อให้เสร็จ ไป ๆ มา ๆ ก็กลับไปหยิบธรรมชาติชาติภพ บทขยายความมาอ่านแทน นี่นับว่าเป็นการเริ่มต้นรอบที่สอง และในการอ่านรอบที่สองนี้ กลับพบความจริงบางอย่างที่การอ่านครั้งแรกมองข้าม และไม่เข้าใจ ตอนนี้เลยเข้าใจแล้วที่ อาจารย์ได้กล่าวถึงว่า ถ้าเธอไม่เข้าใจก็ให้อ่านรอบแล้ว รอบเล่า คำตอบของทุกคำถาม อยู่ในหนังสือชุดนี้

    และแล้วการอ่านรอบที่สองก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังอีกครั้ง
     
  7. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่านรอบสองแล้วเหรอครับเนี่ย

    หลังๆ ที่มาคุย ได้เกิดคิดขึ้นมาว่าความมุ่งมั่นที่เรามีนั้น เรามีแค่ไหน อย่างตอนก่อนนอนที่ถ้าเราอยากจะรู้เรื่องไหน เราก็ต้องตั้งจิตมุ่งไปเรื่องนั้น

    เลยมาดูว่าตอนที่เราทำนั้นเรามุ่งมั่นแค่ไหน กับเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ด้วย จึงมาคิด มาเห็น อะไรบางอย่างกับความมุ่งมั่นในชีวิตตัวเอง สิ่งที่ทำมีหลายอย่าง แต่สิ่งไหนที่ต้องมุ่งมั่น และต้องขนาดไหน ถ้าเปรียบเป็นตัวเลข ค่าความมุ่งมั่นของตัวเองมันอยู่ระดับไหน?

    สิ่งที่ต้องทำกับสิ่งที่ควรทำ..?

    ขอบคุณกับทุกๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามา
     
  8. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    คุณ Veggie คะ อย่าลืมนะคะว่า

    จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่ - เป็นอยู่ - ดำเนินไปเป็นภาวะนั้น พร้อมด้วยรูปกายที่คล้องจองกับภาวะนั้น

    ลองเปลี่ยนมุมมองทางการเมืองใหม่ดูค่ะ..(y)
     
  9. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    มีความรู้สึกแปลกๆจะเล่าให้ฟังอ่ะครับ ผมฝันว่าโดนใครสักคนนี่แหละใช้ให้ทำงานที่ร้านแห่งหนึ่งแล้วสักพักก็โดนเจ้าของร้าน(รู้สึกว่านะ)ดุๆเอาแล้วสักพักผมก็รู้สึกตัวได้ว่าตัวเองฝัน พอดีจำบทนึงของอาจารย์อนาลัยได้ที่เขียนประมาณว่าถ้าเจอเหตุการณ์ในฝันไม่ดีให้คิดว่ามันจะสลายไป จากนั้นผมก็คิดครับ สักพักรอบตัวของผมก็เปลี่ยนไปเหมือนกับผมอยู่ท่ามกลางห้วงแห่งกาลเวลาครับ ยังกะช่องว่างระหว่างเวลาเลย แล้วก็ความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูงคล้ายๆตกฌานน่ะครับแต่ก็ไม่เหมือนเท่าไหร่ ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังหล่นลงไปแต่ว่าตัวเรายืนตรงน่ะครับ พอสักพักผมก็ตกใจเลยตื่นมาคาวนี้จิตก็ตื่นก่อนกายอีกครั้งนึง แต่ยังไม่อยากลองลุกขึ้นมาเท่าไหร่เพราะว่าคราวที่แล้วเหมือนโดนใครขู่ไว้ว่าจะสะกดวิญญาณ ผมเลยกำหนดให้ตัวผมตื่นมา มันก็ตื่น พอตื่นยังรู้สึกถึงอาการตึงตรงกลางคิ้วอยู่เลยครับ
    คราวนี้เจออะไรในฝันแปลกอีกแล้ว
     
  10. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    การใช้สติสัมปชัญญะจดจ่อกับสิ่งรอบกายโดยไม่วอกแวก คงไม่ต่างอะไรกับการกำหนด เวทนา กาย จิต คือ การเจริญสติปัฐฐานสี่ นั่นเอง
     
  11. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ผมกำลังซุ่มอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย ครับ
    ธรรมชาติ ของชาติภพ ใกล้จบแล้ว ไชโย วันนี้จบแน่ๆ
    จะต่อด้วย อิสระแห่งความปรารถนาครับ

    คิดถึงพี่นักเขียนและเพื่อนร่วมห้องทุกคนเช่นกันครับ

    [​IMG]
     
  12. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    เมื่อคืนฝันว่า พี่นักเขียนมาเข้าฝันผม แต่จำไม่ได้ว่าคุยอะไรกัยผมมั่ง
    และฝันว่า เห็นแมงมุมตัวใหญ่ ผมจับใส่ถุง และมันก็พ่นพิษใส่ผมด้วยครับ หมายถึงอะไรครับ

    และอบากถามพี่นักเขียนว่า บางครั้งเราอยากจะทำอะไรแต่มักลังเลใจ คือแบบสองจิตสองใจว่าจะเลือกทำอย่างไหนดี จะมีวิธีไหนที่เราจะตัดสินใจโดยเลือกทางที่ถูกต้องครับ มีคนเคยบอกว่าให้เชื่อความคิดแวบแรกของเรา ไม่ทราบว่าจะจิรงแค่ไหนครับ
     
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ใช่เด็กคนนี้หรือเปล่าครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • baby.gif
      baby.gif
      ขนาดไฟล์:
      57.4 KB
      เปิดดู:
      27
  14. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    Mee too

    ขอร่วมสมทบกับคำถามนี้ด้วยครับ
    ผมนี่แหละจอมลังเลคนหนึ่งเลย
    รบกวนพี่นักเขียนช่วยให้แนวทางในการตัดสินใจด้วยครับ
     
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เมื่อคืนฝันว่ามีคนหน้าตาน่ากลัวเดินเข้ามาเหมือนจะทำร้าย คิดถึงน้องเด็กโชว์พาวที่เล่าให้ฟังถึงการสลายความฝัน จินตวดีนึกได้ก็เลยคิดลองทำบ้าง ก็เพียงแค่คิดว่าฉันไม่ต้องการให้มันหายไปเท่านั้นเอง ภาพทั้งหลายเริ่มบิดเบือนเลือนลาง แล้วก็กลายเป็นความว่าง ไม่มี หลังจากนั้นจำไม่ได้ หรือไม่เห็นไม่รู้สิ แต่รู้ว่าไม่มี ภาพมันหายไป เดี๋ยวคืนนี้เอาใหม่ จะตั้งใจใหม่
     
  16. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    จินตวดีเจอข้อความนี้ของคุณ ยุทธกัลยา ในห้องภัยพิบัติ เลย ก๊อปปี้เอามาให้ดู จินตวดีคิดว่า สำหรับบางท่านที่ยังมีข้อสงสัยว่าข้อความของหนังสือชุด โนวาอนาลัย จะขัดแย้งกับพุทธศาสนาหรือไม่ ข้างล่างน่าจะตอบได้
     
  17. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    คือผมว่านะครับเท่าที่อ่านวิเคราะห์มาในหนังสือ ถ้าเราทำให้มันสลายได้อีกหน่อยเราน่าจะคิดแล้วทำให้ตัวเองพาไปเจอเหตุการณ์ต่างๆในอดีตปัจจุบันอนาคตได้นะครับหรืออาจจะท่องไปนอกโลกได้ ถ้าเกิดโชคดีอาจได้ไปถึงจุดนั้นที่อาจารย์บอกก็ได้ จุดที่จะมองเห็นอดีตปัจจุบันอนาคต
    จะว่าไปภาวะก็เหมือนฌาน 4 จริงๆนั่นแหละ
     
  18. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ถนัดใช้สมองซึกใด?

    วันนี้พี่นักเขียนขอนำบททดสอบมาให้พวกเราลองทดสอบกันว่า เราเป็นผู้ที่ถนัดใช้สมองซึกขวา หรือ ถนัดใช้สมองซึกซ้าย

    [​IMG]

    หากผู้ใดเห็นภาพ animation ผู้หญิงคนนี้หมุนตัวตามเข็มนาฬิกา - แสดงว่ากำลังใช้สมองซึกขวา

    หากผู้ใดเห็นภาพผู้หญิงคนนี้หมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา - แสดงว่ากำลังใช้สมองซึกซ้าย

    บางคนจะแลเห็น ผู้หญิงคนนี้หมุนตัวทั้งสองทาง คือตามเข็มนาฬิกาบ้าง ทวนเข็มนาฬิกาบ้าง สลับกันไป - แสดงว่าเราใช้สมองทั้งสองซึกสลับกันไป

    การทดสอบแสดงให้เห็นความแตกต่างของสมองทั้งสองซึก ซึ่งรับผิดชอบการใช้ความคิดในทิศทางที่แตกต่างกัน

    Left Brain Right Brain

    Logical - Random
    Sequential - Intuitive
    Rational - Holistic
    Analytical - Synthesizing
    Objective - Subjective
    Looks at parts - Looks at wholes


    คนส่วนมากมีสไตล์การคิด อย่างใดอย่่างหนึ่ง คือ หากไม่ชินกับการคิดด้วยสมองซึกซ้าย ก็มักชินกับการคิดด้วยสมองซึกขวา ระบบการศึกษามักนิยมให้เด็กๆพัฒนาด้วยการใช้สมองซึกซ้ายคิดเป็นเหตุ-เป็นผล คำนวณ เป็นลำดับ ซึ่งทำให้สมองซึกขวาถูกใช้งานน้อยลงไปเรื่อยๆจนแทบจะไม่ได้ใช้เลย

    ผู้ที่พัฒนาสมองซึกซ้าย มักเป็นผู้ที่ใช้ความคิดเป็นเหตุ-เป็นผล ตามลำดับ จดจ่อกับความแม่นยำ การวิเคระห์
    ส่วนผู้ที่พัฒนาสมองซึกขวา มักเป็นผู้ที่ใช้ความรู้สึก จดจ่อกับความสุนทรีย์ และการสร้างสรรค์ หรือการสังเคราะห์

    พี่นักเขียนเริ่มต้นด้วยการจ้องดู animation แล้วพบว่าเห็นผู้หญิงคนนี้หมุนตามเข็มนาฬิกา แต่เมื่อจ้องต่อไปอีกหลายนาที โดยจดจ่อเพียงจุดเดียวคือที่เท้าข้างเดียว ปรากฏว่ามองเห็นผู้หญิงคนนี้หมุนกลับทางเป็นหมุนทวนเข็มนาฬิกา

    เมื่อจ้องต่อไปจนคุ้นเคยกับการจดจ่อ ทีนี้พี่นักเขียนลองจ้องแล้วกะพริบตา จะสามารถแลเห็น animation หมุนกลับทิศได้ตามต้องการทุกครั้ง

    ทดลองดูนะคะ ได้ผลอย่างไรเล่าให้ฟังกันบ้าง

    พี่นักเขียนเห็นว่าการทดลองนี้มีประโยชน์มาก เพราะช่วยทำให้เราสามารถบังคับการเปลี่ยนทิศการใช้สมองทั้งสองซึกได้อย่างรวดเร็ว และจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนคลื่นการใช้ประสาทสัมผัสได้อย่างง่ายดาย

    การใช้สมองซึกซ้าย- เป็นภาวะที่เราใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าได้โดยตรง
    การใช้สมองซึกขวา -เป็นภาวะที่เราใช้ประสาทสัมผัสภายในได้โดยตรง

    หากเราสามารถเปลี่ยนทิศการใช้สมองซึกขวาไปซ้าย ซ้ายไปขวาได้คล่องตัวเมื่อใด
    เราจะสามารถเปลี่ยนทิศการใช้ประสาทสัมผัสภายนอก ไปสู่ ประสาทสัมผัสภายในได้เช่นเดียวกัน

    ในขณะที่ทดลอง ขอให้ลองจับความรู้สึกของตนเองด้วยค่ะว่า
    เมื่อมองเห็น animation หมุนตามเข็มนาฬิกา (ใช้สมองซึกขวาอยู่) เรารู้สึกอย่างไร - คิดอะไร -อย่างไร
    เมื่อมองเห็น animation หมุนทวนเข็มนาฬิกา (ใช้สมองซึกซ้ายอยู่) เรารู้สึกอย่างไร - คิดอะไร -อย่างไร

    หากเราสามารถมองเห็นการหมุนได้สองทาง ด้วยสมองซึกซ้ายและ ขวา ได้ตามต้องการแล้ว ทีนี้ให้ทดลองมองด้วยหางตา? แล้วตอบคำถามพี่นักเขียนหน่อยค่ะว่า animation นี้ แท้จริงแล้ว หมุนตามความเป็นจริงอย่างไร จึงทำให้เราเห็นได้สองทิศทางดังกล่าว ใครตอบได้มีรางวัลค่ะ(rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ATT00001.gif
      ATT00001.gif
      ขนาดไฟล์:
      204 KB
      เปิดดู:
      8,887
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2008
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    การขยายตัวของสติสัมปชัญญะ

    พี่นักเขียนนำบททดสอบการใช้สมองซึกขวา กับ การใช้สมองซึกซ้าย มาให้พวกเราลองทดสอบและฝึกฝนดู

    หากเราสามารถสับเปลี่ยนการใช้งานสมองจากซึกขวา -ไป- ซึกซ้าย หรือจาก ซีกซ้าย -ไป- ซึกขวา ได้ตามต้องการอย่างง่ายดาย เราจะสามารถเปลี่ยนวิถึการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะ จากภาวะที่จดจ่อกับโลกภายนอก ไปสู่ โลกภายใน ได้ง่ายดาย ไม่ต่างกัน

    พวกเราคุยกันเรื่องความฝัน และ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความฝัน คุณเด็กโชว์พาวสามารถเปลี่ยนวิถึีการจดจ่อในความฝันได้ตามต้องการ เพื่อสลายความฝัน หรือย้ายฐานออกจากสภาพแวดล้อมในโลกแห่งความฝันที่ไม่พึงปรารถนาได้

    ในโลกของความฝัน คำว่าอดึต อนาคต ปราศจากความหมาย เพราะโลกของความฝันเป็นโลกที่อยู่นอกเหนือกฏของช่องว่าง-ระยะทางและการเวลาอยู่แล้วตามธรรมชาติ การทำให้ฝันสลายได้ หรือย้ายฐานออกจาสภาพแวดล้อมหนึ่งๆได้ตามต้องการอย่างฉับพลันในความฝัน ไม่ได้มีความยากหรือง่าย แตกต่างไปจากการเปลี่ยนวิถีจดจ่อของจิตวิญญาณไปสู่ภาวะ หรือสภาพแวดล้อมที่เราเรียกว่า อดีึต หรือ อนาคต

    คุณเด็กโชว์พาว สามารถสลายสถานการณ์ความฝันที่ไม่พึงปรารถนา หรือเรียกได้ว่าสามารถเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณ หรือย้ายฐานการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่่ภาวะอื่นๆได้อย่างฉับพลัน การกระทำดังกล่าวเรียกได้ว่า ย้ายฐานไปสู่อดีต สู่อนาคต หรือสู่ปัจจุบันอื่นๆ ซึ่งไม่มีความแตกต่างกันในมิติของความฝัน

    ภาวะที่เรารู้เห็นอดึต ปัจจุบัน อนาคต พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน เป็นภาวะที่เรารู้เห็นได้ด้วยประสาทสัมผัสภายใน หรือใช้สมองซึกขวาอย่างเต็มที่ โดยปราศจากการขัดขวางของสมองซึกซ้าย คือปราศจากวิตก วิจารณ์ ปราศจากการคิดเป็นเหตุ เป็นผล และเป็นภาวะที่รู้เห็นสิ่งต่างๆเป็นภาพรวมทั้งหมด

    สมองซึกขวารู้เห็นเป็นภาพรวม รวมอดีึต ปัจจุบัน อนาคต เข้าด้วยกันเป็นปัจจุบัน
    เมื่อใดที่เรารู้เห็นความฝันหลายความฝัน เป็นไปพร้อมๆกันมากกว่าหนึ่งเหตุการณ์
    เมื่อตื่นขึ้น แม้เราจะรู้สึกได้ว่า ความฝันหลายเรื่องเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นตามลำดับ และเราก็ไม่อาจลำดับได้อย่างถูกต้องว่าเหตุใดเกิดขึ้นก่อน เหตุใดเกิดขึ้นทีหลัง แต่เราก็ไม่สามารถเล่าหรือกล่าวเป็นคำพูดได้โดยปราศจากลำดับ

    ในส่วนลึกของความจำ ความรู้ ความรู้สึก เราจะตระหนักได้ว่า เราเผชิญกับภาวะที่เรียกได้ว่า มองเห็น อดึต ปัจจุบัน อนาคต เป็นไปพร้อมกันหมด

    ปัจจัยที่ทำให้เรารู้เห็นภาวะดังกล่าวไม่ได้ หรือเห็นก็ไม่รู้ว่าเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อคืน คือ ความเชื่อที่ว่า เวลาดำเนินไปเป็นลำดับ เราจึงพยายามบรรจุเหตุการณ์ทั้งหมดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เรารู้จัก และพยายามลำดับทุกสิ่งที่เราเผชิญให้เป็นเหตุเป็นผล

    หากเราทดลองใช้สมองซึกขวาให้บ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนด้วยการทำสมาธิ การวาดภาพ และสร้างสรรค์งานศิลปะใดๆอย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถก้าวข้ามปัจจัยที่ขัดขวางการใช้งานสมองซึกขวาอย่างเป็นธรรมชาติออกไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ

    เราจะพบว่า เราตระหนักได้ว่า ความฝันปราศจากอดีต ปัจจุบัน อนาคต ความฝันดำเนินไปหลายเรื่อง หลายเหตุการณ์ - พร้อมกันหมด ยิ่งเราจดจำและบันทึกความฝันได้มากมายหลายเรื่องในหนึ่งคืน และจดได้อย่างสม่ำเสมอ เราจะพบว่า การรู้เห็นความฝันสามารถทำให้สติสัมปชัญญะขยายตัว

    การขยายตัวของสติสัมปชัญญะ หมายถึงการสามารถครอบคลุมรู้เห็นได้หลายขณะจิต หลายสภาพแวดล้อม หลายสถานการณ์ พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน

    การขยายตัวของสติสัมปชัญญะเกิดขึ้นเสมอๆตามธรรมชาติในความฝัน เกิดขึ้นกับทุกคน หากเราพบกับภาวะของการขยายตัวของสติสัมปชัญญะ ซึ่งครอบคลุมได้กว้างขึ้นในความฝันบ่อยๆ ต่อไปเราจะคัุนเคยกับภาวะนี้ และสามารถเผชืญกับภาวะนี้ได้ในยามตื่น ไม่แตกต่างกันค่ะ (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2008
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ความคิดแว้บแรก

    (*) ขอบคุณที่ฝันถึงค่ะ หวังว่าคงจะเป็นคืนที่แต่งตัวหล่อก่อนเข้านอนนะคะ (*)
    พี่นักเขียนเคยได้ยินคำเตือนที่ว่า "You better dress up before you go to bed, because you never know whom you'll meet in your dreams."
    [​IMG]
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏในความฝัน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สิ่งของ สถานการณ์ สภาพแวดล้อม ล้วน เป็นสัญญลักษณ์ที่แสดงออกซึ่งภาวะจิตของเรา และมีความหมายจำเพาะสำหรับแต่ละบุคคล

    แมลงมุมมีความหมายอย่างไรต่อคุณรักไร้พ่าย แมลงมุมในความฝันก็คือสัญญลักษณ์ที่ทดแทนซึ่งสิ่งนั้นสำหรับคุณรักไร้พ่าย และอาจมีความหมายอื่นๆที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชืงสำหรับพี่นักเขียนและท่านอื่่นๆค่ะ

    แม้พิษของแมลงมุม คุณรักไร้พ่ายก็ต้องตีความหมายไปตาม ความรู้สึก ที่สัมผัสได้ในความฝันขณะนั้นๆว่า เมื่อเผชิญกับการพ่นพิษของมัน เรารู้สึกอย่างไร ความรู้สึกที่เรามีต่อบุคคล สิ่งของ สถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในความฝัน คิือปัจจัยที่จะทำให้เราเข้าใจความหมายของสัญญลักษณ์เหล่านี้ได้ถูกต้องค่ะ แม้ความรู้สึกในความฝันจะขัดกับความเป็นจริงยามตื่น ยกตัวอย่างเช่น แม้จะถูกพิษของแมลงมุม แต่ในความฝันรู้สึกว่าดี พอใจ พิษนั้นก็เป็นสัญญลักษณ์ของสิ่งที่ดี ทั้งที่มันขัดกับยามตื่นซึ่งการคิดเป็นเหตุ-เป็นผลของเรา อาจตีความหมายไปตามเหตุผลว่า เป็นสิ่งที่เป็นอันตราย เป็นต้น

    เราทุกคนล้วนมีทางเลือกเสมอ ไม่มีสิ่งใดในโลกก็ว่าได้ ที่ปราศจากทางเลือก เมื่อใดที่เราเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกเสมือนว่า หมดทางเลือก จนมุม หรือปฏิเสธไม่ได้ เราไม่ได้ปราศจากทางเลือกโดยสิ้นเชิง แต่เราปราศจากการต่อต้านทางเลือกอื่นๆ

    เมื่อใดก็ตามที่เราเผชิญกับทางเลือกที่ทำให้ตัดสินใจไม่ถูก มันเป็นเพราะเราเชื่อว่า ทางเลือกสองทางหรือมากกว่านั้น มีผลสืบเนื่องที่เราไม่รู้ได้ทั้งสองทาง เพราะหากเรารู้แน่ว่าผลสืบเนื่องเป็นอย่างไร เราก็ย่อมต้องเลือกทางเลือกที่ให้ผลสืบเนื่องที่เป็นไปตามปรารถนา

    แต่เรามักจะไม่ได้ตระหนักว่า บ่อยครั้ง แม้เราจะเลือก เรากลับเลือกทางเลือกที่เราเชื่อว่าผลสืบเนื่องนั้นๆ จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าอภิรมย์ด้วยซ้ำไป เราไม่ได้เลือกสิ่งที่จะส่งผลสืบเนื่องในทิศทางที่น่าอภิรมย์เสมอไป เมื่อเราเลือกไปแล้ว บางคนโกรธตนเอง ?โกรธผู้อื่น โทษโชคชะตา ฯลฯ แต่แท้จริงแล้ว เราตระหนักในผลสืบเนื่องไม่มากก็น้อยด้วยกันทุกคน เพียงแต่เรามักจะนำจิตของเราไปจดจ่อกับความคิดที่ว่า เราเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แม้เราจะคิดว่ามันไม่ดี มันอาจส่งผลสิบเนื่องในแง่ลบมาสู่ตนเองและผู้อื่น หรือแม้แต่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด แต่เราเลือกมันเพียงเพราะคิดว่า เราอาจจะเอาตัวรอดได้ มันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด หรือคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทาย

    ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า
    เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง
    ทางเลือกทุกทางจึงเป็นของเรา เมื่อเราเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว เราก็ควรจดจ่อด้วยความเชื่อที่มีเจตนาและความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ เพื่อเหนี่ยวนำสิ่งที่พึงปรารถนามาสู่ความเป็นจริงในอนาคต หากเราเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเลือกทำการใดๆในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แล้วมัวจดจ่ออยู่กับความกลัว ความล้มเหลว จดจ่อกับผลสืบเนื่องในแง่ลบ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ ย่อมเหนี่ยวนำผลสืบเนื่องในแง่ลบมาสู่ตน

    สรุปได้ว่า การตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง คือการเลือกในสิ่งที่เราเชื่อว่า จะทำให้เรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวก และสามารถจดจ่อกับความรู้สึกในแง่บวกได้เสมอ เพราะมันย่อมเป็นทางเลือกที่เหนี่ยวนำแต่สิ่งที่พึงปรารถนาหรือผลลัพธ์ในแง่บวกมาสู่ตนเองค่ะ

    ความคิดแว้บแรก มักเป็นไปตามอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความปรารถนาและความเชื่อส่วนบุคคล โดยปราศจากวิตกวิจารณ์ ปราศจากการใช้เหตุ-ผล ตามวัฒนธรรม ตามสังคม ตามค่านิยมของคนหมู่มาก ตามการศึกษาและความเชื่อของผู้อื่น ความคิดแว้บแรกจึงมักเป็นสิ่งที่เมื่อเราเลือกหรือทำตามแล้ว มักจะคล้องจองกับความปรารถนาและความเชื่อของเรา มันจึงทำให้เราจดจ่อได้นาน จดจ่อได้มาก และสามารถเหนี่ยวนำมาสู่ความเป็นจริงได้เสมอ

    หากเราไม่เชื่อความคิดแว้บแรก และกลับเลือกหรือตัดสินใจด้วยเหตุผล หรือด้วยความคิดอื่นๆที่ตามมาภายหลัง เราจะพบว่า กว่าเราจะตัดสินใจได้ เรามักใช้เหตุผลมากมาย วิตกวิจารณ์มากมาย และในที่สุดอาจตัดสินใจไปตามความเชื่อและความปรารถนาของผู้อื่น แทนที่จะเป็นความปรารถนาและความเชื่อของตนเอง เราจึงมักจะพบกับความล้มเหลว เพราะเมื่อเราเลือกในสิ่งที่ไม่ตรงกับความปรารถนาและความเชื่อของตนเอง เราก็ปราศจากพลังที่จะจดจ่อ และมักจะท่วมท้นไปด้วยวิตก วิจารณ์ หรือแม้แต่ความกลัว ความกังวล ว่ามันจะไม่ส่งผลส์ืบเนื่องที่พึงปรารถนา และมันก็มักจะเป็นไปเช่นนั้นจริงๆ เพราะ เราทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง(rose)

     

แชร์หน้านี้

Loading...