แจ้งเตือนเรื่อง ฝนที่ตกโปรยปรายอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ ฝนตามฤดูกาล แต่เป็น ฝนนิรมิต

นิทานหลังนอน


พระยาธรรมิกราช ได่ถวาย แตงโม
ซึ่งเป็นของที่ตนเองชอบกิน แก่
พระสมณโคดมพระโพธิสัตเจ้า
รวมกันทั้งสิ้น 7 ลูก
ส่งผลให้ ต่อไปในภายภาคหน้า
จะได้เป็น พระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง
ในอนาคตข้างหน้า

แต่มีแตงโมอยู่ลูกหนึ่ง ได้โดนกัดกินแล้ว
มีรอยแหว่ง ทำให้ผลบุญไม่บริสุทธิ์ เต็มที่
เมื่อมาเกิด ทีไร ก็มักจะมีแผลเป็นที่หัว อยู่เสมอ
แผลเป็นนั้น จะเจ็บปวดอยู่เสมอ
เพราะเป็น แผลสด มาก่อน

และการที่ได้ไปเหยียบเงา ของ นิตยโพธิสัตว์
ทำให้เกิดมา ไม่ค่อยมีใครรัก คนรอบข้างตั้งข้อรังเกียจ
โดยเฉพาะ กับ ญาติพี่น้องของตนเอง
เวลาทำสิ่งใด จึงต้องแอบทำ แอบอยู่ แอบกิน
เกิดมาตัวขาว แต่ตกระกำลำบาก จนกระทั่งตัวดำเมีี่ยม
และ ขี้โรค ไร้ญาติขาดมิตร คอยช่วยเหลือ
ต้องทำอะไรด้วยตนเอง
ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนหมดตัว ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร
หากไม่บวชก็คงเอาตัวไม่รอด ตั้งแต่เด็ก

 

ตอนนี้ท่านมาเกิดหรือยังฮะพญาธรรม

 

สัมผัสได้ไหมครับว่าท่านมาจุติหรือยัง

 

พระยาธรรม กำลังฝึกฝน พระโพธิสัตว์ ให้ทำงานให้อยู่

ใครที่อยู่ใกล้ตัวท่าน มีอายุมาก แต่ หน้าอ่อน
แต่ ภูมิธรรมสูง จนท่านเอง ยังคาดเดาไม่ได้เลย สูงส่งยิ่ง
แบบนี้แหละ ผู้ที่เข้าข่าย พระยาธรรม

 

จุติหรือไม่ ก็ไม่สำคัญแล้วครับ
พระยาธรรม เข้าทำงานแล้ว
แต่ยังไม่รับตำแหน่ง ทางธรรม เท่านั้น

แต่ตำแหน่งทางโลก เริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อก่อน พระยาธรรมไปที่ไหน
ฝนจะตกลงมา ในบริเวณนั้น

แต่ขณะนี้ เมื่อ พระยาธรรม ไปที่ไหน
จากฝนตก จะเป็น ฟ้าเปิด ทันที

 

เยี่ยมเลยครับ

 

เรื่องเล่าจากปู่อินทร์ตาทิพย์

​

ปู่อินทร์ตาทิพย์ ผู้ได้บารมีจากท้าวสักกะเทวราช บอกเล่าเรื่องที่“ในหลวง ร.๙ ได้เคยเตือนคนไทยถึงภัยในปี 2560 และวิธีพ้นภัยได้ด้วยศีลธรรม ความดี"

ปู่อินทร์ตาทิพย์เขาตำแย คือท่านผู้เฒ่าที่อายุมากกว่า 115 ปี แล้วมีการกล่าวไว้ว่า ท่านเป็นมนุษย์ผู้ที่ได้รับญาณบารมีของท่านท้าวสักกะเทวราช และยังดำรงร่างกายเดินเหินใช้ชีวิตได้ตามปกติ เมื่อได้สนทนากับท่าน ก็จะรู้ว่าท่านมีสติสมบูรณ์มิได้หลง หรือเลอะเลือนเช่นคนชราทั่วๆ ไป ท่านบอกว่าท่านยังตายไม่ได้ เพราะบ้านเมืองมีปัญหา และยังต้องอยู่รอให้ถึงปี 2562 ก่อน และเมื่อเหตุการณ์ภัยพิบัติจบลงในปี 2562 ท่านจะให้พระยาธรรมมิกราชมาปรากฏ ในปี 2563 เราก็จะได้พบกับสามร่มโพธิ์ศรี จากนั้นท่านจะพิจารณาอีกทีว่าจะอยู่ต่อหรือจะละร่างนี้

ท่านปู่อินทร์ตาทิพย์ เขาตำแย ท่านได้บอกเตือนเกี่ยวกับการเกิดภัยต่างๆในปี 2560 ไว้ เพราะเกิดจาก ปัจจุบันนี้ผู้คนไม่มีศีลธรรม ไม่ละอายแก่บาป เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กรรมของใครๆ แต่นี่คือ วัฎจักรของโลก บ้านเมืองเจริญขึ้น แต่จิตใจมนุษย์เจริญลง ยิ่งการสมสู่มนุษย์ต่อกันเดียวนี้ไม่มีเลือกผัวเลือกเมียหรือลูกหลาน นี่แหละกลียุคตามคำทำนายขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธโคดม เหตุดังกล่าวจะเบาลงและสิ้นสุดปี 2562 ผู้คนที่รอดพ้นจากภัยพิภัย คือผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ในศีลธรรม กตัญญูต่อบิดามารดา ละอายแก่บาป จงเป็นผู้รู้ในกิเลส และผู้ตื่นจากกิเลส สุดท้ายก็ไกลจากกิเลส

ภัยพิบัติที่จะเกิด เมืองไทยจะมีการเตือนภัยล่วงหน้า จากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรา (พูดแบบภาษาธรรม พระองค์ท่านในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีสื่อจากผู้ดูแลมนุษย์ในโลกนี้ จะบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้คนเตรียมตัวหนีจากภัยที่จะเกิด) ส่วนเส้นทางหลบหนีปู่บอกว่าผู้คนจะหนีมุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ และรถจะติดมากผู้คนต่างแย่งกันโกลาหลน่าดู และสุดท้ายหางแถวจะหนีไม่รอดนั้นเอง สระบุรีตั้งที่องค์พระนั่งสูง ตรงนั้นแผ่นดินจะยุบตัวลง เพราะข้างล่างเป็นบ่อน้ำใต้บาดาล ส่วนถนนที่พอจะรอดก็คือ กบินทร์-นครราชสีมา,นครนายก หรือเส้นทางอื่นๆที่ไม่ใช่มิตรภาพ แต่ส่วนมากผู้คนจะเลือกเส้นทางมิตรภาพมาก เพราะไปได้ทั้งเหนือและอีสาน ขอเตือนไม่จำเป็นจะต้องไปอีสานอย่างเดียวนะครับ ภาคเหนือก็ไปได้
(ปู่บอกแล้วเตือนแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่บุญของเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติธรรมส่วนมากจะรอด ) มนุษย์จากตัวใหญ่ลงมาถึงตัวเล็ก และกำลังเปลี่ยนแปลงจากเล็กไปหาใหญ่เรื่อยๆ สังเกตุจากลูกหลานจะเริ่มสูงใหญ่กว่าพ่อแม่แล้ว และค่อยเป็นค่อยเปลี่ยนไปตลอด

เรียบเรียงโดย
กิตติ จิตรพรหม

ที่มา http://www.tnews.co.th/contents/335465

 

ไม่ต้องหนีหรอก ภัยที่น่ากลัวที่สุกคือภัยจากมนุษย์ที่เเย่งเอาชีวิตรอด

 

หนังเรื่อง แมตทริก สอนถึงการบรรลุธรรมแบบ มหายาน
หากพระอริยะเจ้าดู ก็จะรู้ว่า นีมันเรื่องของ ผู้ตื่น หรือ
ผู้ที่บรรลุธรรม นั่นเอง ตามความหมายของ อนัตตลักขณสูตร
หากใครดูแล้ว ไม่เข้าใจ แสดงว่า ศึกษาเรื่องหลักอนัตตา น้อยเกินไป
ทำให้ไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าเป็นสายท่านพุทธทาส
จะดูได้เข้าใจมากกว่า ดูออกว่า นี่เป็นเรื่องของนายนีโอ
ที่ตื่นขึ้นมาจากการถูกหลอกลวงจาก วัฏฏะ หรือ วัฏจักร
หรือจากสิ่งที่ฝ่ายมารคอย ล่อลวง หรือ คอยหลอกล่อ
ให้หลงยึดติด ในสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นมา

 

ขอบคุณที่มาขยายไห้ครับแจ่มชัดมากผมดูแต่เขาหลบกระสุนอิอิ

 

นิทานหลังนอน


พระ-
ถึงเวลาแล้ว ที่ พระโพธิสัตว์ หรือ พวกโพธิจิต
จะได้ทำงานใหม่

เรา+
แต่เกล้ากระผมยังขี้เกียจอยู่เลยขอรับ
ท่านก็รู้ว่า กระผมเป็น พวกปัจเจกะ
เรื่องสอนสั่ง เป็นเรื่องน่าเบื่อ สำหรับพวกเรา

พระ-
ครั้งนี้ไม่ใช่สอนคน แต่เป็น เรื่อง พุทธบริษัทสี่ที่หายไป
ให้ช่วยกันตามหา ภิกษุณี จนกว่าจะสถิตสถาพรในเมืองไทย

รับทราบครับ จะบอกต่อแค่นั้น
จะสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องพื่ง เหล่า พุทธภูมิ แล้ว

 

"ภิกษุณี" ที่ประกาศตัวอย่างชัดเจน ในปัจจุบันนี้ได้ปรากฏขึ้นแล้ว

วิปัสนู หรือวิปัสนา อ อัจฉราวดี วงศ์สกล สนทนากับพญายมราช
เผยแพร่เมื่อ 30 ม.ค. 2018​

 

จิตใจของท่านดีมาก อินทรีย์ห้า ก็แก่กล้าดี
สัมผัสได้จริงทั้ง พระพุทธเจ้า และ พญามาร
เสียดายไม่มีครูบาอาจารย์วัดป่าคอยควบคุม
จึงมักถูก จอมมาร หลอกให้ทำงานให้เค้า
โดยแลกกับ แก้วแหวนเงินทอง จึงหลง
น่าเสียดายจริงๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัว
ท่านไปอ้างเอา พระยาธรรม มาเป็นของตน
ทุกคนจึงรุมกันมา ร่วมพิสูจน์ท่าน
ตัวคนเดียวย่อมทนได้ยาก
ของสูง ย่อมไม่คู่ควรกับ คนทั่วๆไป
ครอบครองไป ตัวเองต่ำต้อย ย่อมลำบาก

 

บทสรุปเป็นยังไงครับอาจารย์นิรการ

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้สั่งไว้เรียบร้อยแล้วครับ
เมื่อเค้าเจอเหตุคับขัน ให้ตามหา อาจารย์
จาก สายมโนมยิทธิ ของท่าน
ซึ่งน่าจะเป็น พระอาจารย์เล็ก
และ ยังมีอีกคณะในเวปนี้ ที่สอนได้
แต่เค้าไม่ทำตามคำสั่งเอง จะโทษใคร
ก็ต้องเนิ่นช้าต่อไป งานของพระยาธรรมก็จะช้าไปอีก
หากใครเห็นว่าจะสงเคราะห์ได้ ก็ลองดูได้ครับ
ทุกอย่างมีเอาไว้ให้ลองทั้งนั้น

พวกเล่นฤทธิ์ ก็ต้องเจออาจารย์ที่เล่นฤทธิ์เหมือนกัน
จึงจะสมน้ำสมเนื้อ ลูกศิษย์จึงจะไม่ข่มอาจารย์
หากท่าน อาจารย์อ้อย เตโชวิปัสสนา
ยอมก้มกราบพระอาจารย์เล็ก ไม่เกินสามเดือน
จะบรรลุธรรมอย่างแน่แท้

 

นิทานหลังนอน


มานพน้อยหน้าอ่อน แต่มีอายุห้าสิบปีกว่าๆ
เฝ้าคนหา พระยาธรรม ตามคำบอกเล่าว่า
หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว จะกำเหนิดผู้นำพุทธศาสนา
ที่มีศักดิ์เหมือน พระราชาผู้ปกครองโลก
แต่ผู้นี้จะปกครองไปถึง สามโลก
ท่านทำงานให้ทั้ง อบายภูมิ โลกาภูมิ และ เทวาภูมิ
โดยไม่เลือกว่า สัตว์เหล่านั้น จะอยู่พิภพไหน
ท่านก็ส่งจิตไปสงเคราะห์ทั้งนั้น

วันหนึ่งนอนหลับไปแล้วฝันไปว่า
พระพุทธเจ้า มาสงเคราะห์ท่าน
บอกกับท่านว่า พระยาธรรมที่ท่านตามหาอยู่ที่นี่
แล้วก็ยื่นกระจกอันหนึ่งให้ท่านรับไปดู
ท่านรับกระจกนั้นไปดู ด้วยความดีใจว่า
จะได้มีวาสนาพบ พระยาธรรม เสียที

แต่พอท่านส่องกระจกดู้
กลับไม่เห็นใคร นอกจากตัวท่านเอง
ท่าผิดหวัง ถึงกลับนั่งลงร้องไห้ฟูมฟาย
แล้วหันไปทางพระพุทธองค์ ด้วยความผิดหวัง

พระพุทธองค์ จึงกล่าวว่า เจ้านั่นแหละคือพระยาธรรม
ตำแหน่งพระยาธรรม ก็เป็นเพียงแค่ตำแหน่ง
คนที่ตามหาพระยาธรรม
ย่อมเจอกับพระยาธรรมเข้าซักวันหนึ่ง
คนที่ทำงานของพระยาธรรม ก็คือ พระยาธรรมนั่นเอง
คนไหนครองตำแหน่งพระยาธรรมอยู่
แต่ไม่ทำงานของพระยาธรรม
ไม่นานก็จะถูกเปลี่ยนตัว
ตัวเจ้าเอง หากทำงานของพระยาธรรม
เจ้าก็จะได้ครองตำแหน่ง พระยาธรรม
หากวันไหนเจ้าหยุดทำงาน
ไม่นานก็จะถูกเปลี่ยนตัว ให้คนอื่นมาทำแทน
เพราะฉนั้น หากยังไม่ทำงาน มั่วแต่นั่งดูอยู่เฉยๆ
ไม่นาน จะต้องหลุดออกจากคณะทำงานของ พระยาธรรม

 

เรียนท่านนิรการ

เรื่องยักษ์นอกศาสนา ที่ต้องรบราฆ่าฟันกันจนตายไปฝ่ายละครึ่ง ตามพุทธทำนายนั้น เหตุการณ์นี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว จริงหรือไม่ครับ

 

ยักษ์นอกศาสนา ฝ่ายหนึ่ง คือ คริสเมกา กับ ชาวคณะยิว
อีกฝ่านหนึ่งคือ คณะอิสลาม ที่โดนถล่มอยู่ฝ่ายเดียว
โดย คริสเมกา ถือกฏที่ว่า หากฝ่ายเราตายหนึ่งคน
ฝ่ายตรงข้ามจะต้องเสียเมือง 1 เมือง

ฝ่ายตรงข้ามตอบโต้ ด้วยการหลอก และ บังคับ จนถึงใช้ยาเสพติด
หลอกล่อให้เด็กน้อย และ วัยรุ่น ไปตาย โดยอ้าง สงครามศาสนาบังหน้า
แล้วแอบฉกฉวยผลประโยชน์เงินทองของบริจาค จากสงครามครั้งนี้
พอรบแพ้ที่นี่ ก็หนีไปก่อสงครามที่อื่น เพื่อผลประโยชน์ตัวเองกันทั้งนั้น

ถึงกับหลอกผู้คนที่ยืนดู ยืนเชียร์ รวมทั้ง UNHCR ด้วย
ให้ลงมาร่วมเล่นกับ การแสดงหลอกๆนี้
โดนตบตา ด้วยการแสดงว่า ผู้นำประเทศที่ทำสงครามกับยาบ้า
ซึ่งคล้ายๆกับ ผู้นำเสื้อแดงในบ้านเรา แต่อาศัยฆ่าคนไปมากมาย
จะต้องโดนลงโทษ หากเป็นอย่างนั้นจริง ยาบ้าคงเต็มโลกไปหมด
แล้วยูเอ็น จะแก้ปัญหาด้วยตนเองไหวมั้ย

คริสเมกา ฆ่าคนในสงครามแต่ละครั้ง หลายล้านคน
แต่ช่วยกันมุบมิบออกข่าว แค่หลักร้อยหลักพัน
อันนี้เป็นที่น่าแปลกใจ สำหรับผู้ที่เคยทำการรบมาก่อน
ที คริสเมกาทำสงคราม ไม่เห็นมีใครมาอ้างตัวเลขที่เป็นจริง
รวมทั้ง ผู้ที่บ้านช่องถูกทำลายด้วย ทำไมไม่ให้เงินช่วยเหลือ

แต่พอ พุทธเมียนมาร์ ทำสงครามกับ อิสลามโรฮิงจา
ไม่กี่แสนคน คริสเมกา กับ พวกอิงลิส กับอ้างว่า ทำลายล้างเผ่าพันธ์
ทั้งที่ ความจริง คือ อิสลามโรฮิงจา ถุกพวกตนเองมอมยา
แล้วหลอกให้สู้รบ กับ พุทธเมียนมาร์
เลยเถิดไปจนถึงขนาด ข่มขืนผู้หญิง ชาวโรฮิงจาก่อน
ต่อมาก็เหิมเกริม เพราะ ชาวพุทธเมียนมาไม่อยากจะทำสงครามสร้างกรรมเวร
แต่นักรบติดอาวุธโรฮิงจา ไม่สนใจ กับขมขื่น ผู้หญิงเมียนมาร์
ทั้งที่เป็น พุทธ คริส อิสลาม มอญ กระเหรี่ยง ชาวชนเผ่าอื่นๆ
เจอผู้หญิงที่ไหน ข่มขืนฆ่าไปหมด ซึ่งผิดหลักสงครามด้วย
พระเมียนมาร์ จึงทนไม่ไหวอีกต่อไป ยอมมอบกายถวายชีวิตนี้
เพื่อเป็นเครื่องพลี แก่พระศาสนา
ด้วยบทเรียนที่ว่า หากไม่ทำอะไรเลย
ชาวพุทธในเมียนมาร์ ก็คงถูกทำลายด้วย อิสลาม
เหมือนที่เกิดขึ้นในแดนพุทธภูมิ

สงครามศาสนา จึงเกิดขึ้นแล้ว ด้วยประการฉะนี้

ข้อคิดคือ พระเมียนมาร์ทำอย่างนี้ก็เพื่อบำเพ็ญเพียรเป็น โพธิจิต เต็มขั้น
นี่คือ หนทางของมหายาน ย่อมถูกต้องด้วยประการทั้งปวง ควรค่าแก่การสรรเสริญ
แต่กับหินยาน ย่อมไม่อาจจะใช้วิธีการนี้ได้
ของเราจะต้อง ปล่อยวาง เท่านั้น
ห้ามพระหินยาน ยุ่งเกี่ยวกับ สงคราม เด็ดขาด
แม้แต่การส่งกำลังใจไปช่วยก็ห้ามทำ
วิธีที่ถูกต้องที่สุด คือ ปล่อยวาง ทุกสิ่ง

 

ขอบคุณท่านนิรการที่ให้ความกระจ่างครับ สงครามศาสนาที่ประเทศพม่าน่าเป็นห่วงมาก เพราะพม่าก็มีอาวุธนิวเคลียร์ซะด้วย ถ้าการสู้รบรุนแรงมากขึ้น ประเทศไทยคงไม่แคล้วต้องโดนหางเลขไปด้วย

 

ตะลึง! พม่ากำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์​

เผยแพร่เมื่อ 4 มิ.ย. 2010​