ไตรภูมิ36ชั้น

ไตรภูมิทั้ง36ชั้น
​

มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม หากมีความตั้งใจจริงที่จะบำเพ็ญเพียรให้เกิดตบะอันแรงกล้า ก็สามารถกระทำได้ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกชั้น ทุกวรรณะ ทุกเวลา ทุกชาติไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาใดก็ตาม
บุคคลใดหากประพฤติ ปฏิบัติ ธรรม บำเพ็ญเพียรจนตบะแก่กล้าครั้นเมื่อละจากโลกมนุษย์ไปย่อมนำไปเกิดในภพภูมิที่ควรไปเช่นเทวโลกและพรหมโลกได้โดยเกิดเป็นเทพในแต่ละชั้นฟ้า

ในความเชื่อของคนแถบเอเชียแบ่งเทพเป็น 3 ชนิด คือ
1.สมมุติเทพ คือบุคคลผู้ซึ่งเป็นเจ้าครองแผ่นดินหรือพระมหากษัตริย์ พระมเหสี ราชกุมาร เป็นต้น
2.อุปปิตติเทพ คือเทพผู้กำเนิดเป็นเทพโดยมิได้กำเนิดเป็นมนุษย์มาก่อน เช่น พระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม เป็นต้น
3.วิสุทธิเทพ เทพผู้บริสุทธิ์คือพระอรหันต์ทั้ง 3 ประเภท วิสุทธิ์เทพ มักจะไม่ลงมาประทับทรงมนุษย์ อย่างเด็ดขาด
ถึงแม้เราจะแบ่งเทพท่านออกเป็น 3 ชนิดก็ตาม เทพเจ้าท่านก็ได้แบ่งชั้นของท่านออกเป็น​

 

ท่านนำคติศาสนาใดแบ่งภูมิครับ จึงได้เป็นแบบนี้

ถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกว่าศาสนาพราหมณ์จะแบ่งชั้นสวรรค์ออกเป็น 4 ชั้นด้วยกัน ได้แก่
ชั้นที่ 1 สวรรค์ (swrga) เป็นที่อยู่ของพระอินทร์จอมเทวดา,
ชั้นที่ 2 ไกรลาส (kailasa) เป็นอยู่ของพระศิวะ,
ชั้นที่ 3 ไวกูณฑ์ (vaikuntha) เป็นที่อยู่ของพระวิษณุ (พระนารายณ์) และ
ชั้นที่ 4 สัตยโลก (sttaya-loka) ตั้งอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ เป็นที่อยู่ของพระพรหม

แต่หากเป็นไตรภูมิพระร่วง ทำไมถึงถี่มากขนาดนี้ ไม่รู้ไปเอามาจากไหน ท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะหน่อยครับ เพราะสงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว

 

ที่ผมเสนอไปเบื้องต้นนั้นเป็นความรู้จากศาสนาพราหมณ์
ของ "พ่อครูพราหมณ์ ป.เลี่ยมเพ็ชรรัตน์"


ตามหลักพุทธศาสนาแล้ว
พระอินทร์ท่านจะอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
อันเป็นชั้นต้นๆ(นับจากล่าง)
คือประมาณชั้น3
ส่วนคำว่าไกรลาสนั้นคือคือชื่อภูเขา
ผมไม่แน่ใจว่าจะคือเขาพระสุเมรุหรือไม่
ส่วนพระนารายณ์อยู่ชั้นไหนผมไม่ทราบ
ผมเคยทราบแต่ว่าพระองค์ประทับที่เกษียรสมุทร
ส่วนพระพรหมนั้นมีอยู่หลายพระองค์และหลายชั้นด้วยกัน
ผู้ที่จะเป็นพระพรหมนั้นตามหลักพระพุทธศาสนา
คือเมื่อเป็นมนุษย์สำเร็จฌาณเมื่อตายแล้ว
จึงไปเกิดเป็นพรหมตามอำนาจของแต่ละฌาณ
ส่วนเขาพระสุเมรุนั้นคือภูเขาอันเป็นรอยต่อระหว่าง
มนุษย์โลกกับเทวโลก เป็นสถานที่ๆมีความหลากหลาย
เช่นป่าหิมพานต์ เป็นที่อยู่ของคนธรรพ์ กินร กินรีเป็นต้น

 

มีจริงภพภูมิที่ท่านว่า แต่มันมี32 ภูมิเท่านั้นแหละ

 

ไม่มั่วหรอกครับ
ถ้ามั่ว
มั่วอย่างไร
ชี้แจงด้วยครับ

 

สวรรค์ ในพระพุทธศาสนา
สวรรค์ ในความเชื่อทางพระพุทธศาสนา แปลว่า ภูมิหรือดินแดนที่มีอารมณ์เลิศด้วยดี จำแนกออกได้เป็น 6 ชั้น คือ จตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และ ปรนิมมิตวสวัตดี
สวรรค์ คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของเทวดา เป็นโลกที่อยู่อาศัยของกายละเอียดอันเป็นทิพย์ ที่มีรัศมีสว่างไสวรอบกายตลอดเวลา เหตุที่ทำให้มาเกิดเป็นเทวดาเพราะได้ สร้างบุญกุศลไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ เมื่ออุบัติขึ้นก็ตั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาวทันที งดงามตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเวลาจุติ ไม่มีความแก่บังเกิดขึ้นเหมือนในเมืองมนุษย์ วิมานปราสาทคือที่อยู่อาศัยของเทวดา ล้วนมีความวิจิตรงดงาม มีขนาดแตกต่างกัน มี ความเป็นอยู่สะดวกสบาย มีอาหารทิพย์บังเกิด ขึ้น มีบริวารคอยรับใช้ใกล้ชิด เสื้อผ้าเป็นทิพย์ วิจิตรงดงาม บังเกิดขึ้นให้สวมใส่ กิจกรรมแต่ละวันก็มีการเที่ยวเพลิดเพลินบันเทิงอยู่กับการชมสวน การสังสรรค์กันระหว่างทวยเทพทั้งหลาย ส่วนจะอุบัติขึ้น ณ สวรรค์ชั้นไหน เป็น เทวดาประเภทใด และอยู่ในฐานะอะไรนั้น ก็ ขึ้นอยู่กับบุญที่ตัวเองสั่งสมมาเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ซึ่งได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 37 เรื่อง ทานสูตร สรุปย่อได้ดังนี้
สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา มีจาก หลายสาเหตุ คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญไม่ค่อยเป็น ไม่รู้หลักการทำบุญ และไม่ค่อยได้สั่งสม บุญ นานๆ ทำครั้งหนึ่ง เมื่อทำก็ทำน้อย หรือ ทำบุญเอาคุณ บุญที่ได้ก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่สมบูรณ์ บาปในตัวก็มีอยู่ แต่ว่าบุญมากกว่า เมื่อละโลกใจนึกถึงบุญก่อนก็ไปสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสิเนรุ สวรรค์ชั้นนี้จะมีความหลากหลายมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ชิดกับพื้นมนุษย์มากกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ และมีบางส่วนที่มีที่อยู่ซ้อนกับภูมิมนุษย์ ที่ได้ชื่อสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา เพราะมีเทพผู้เป็นใหญ่ครองสวรรค์ชั้นนี้อยู่ 4 ท่าน คือ ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร(พิทยาธร) กุมภัณฑ์ ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม เป็นสิ่งที่ควรทำ กระทำแล้วก็สั่งสมบุญ สั่งสมเทวธรรม มีหิริ โอตตัปปะด้วย เมื่อละโลกก็จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าตัดของเขาสิเนรุ ที่ชื่อว่า ดาวดึงส์ เพราะเป็นที่อยู่ของเทพผู้ปกครองภพถึง 33 องค์ โดยมี สมเด็จอมรินทราธิราช หรือพระอินทร์ เป็นประธาน และที่สำคัญมีพระธาตุจุฬามณี ซึ่งทุกวันพระเทวดาจะมาประชุมกันที่สุธรรมาเทวสภา เพื่อรับฟังโอวาทจากท้าวสักกะ
สวรรค์ชั้นยามา เกิดบนสวรรค์ชั้นยามา คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะอยากจะสืบทอดและรักษาประเพณีแห่งความดีงามนั้นไว้ ทำนองว่าวงศ์ตระกูลสร้างสมความดีมาอย่างไร ก็อยากจะรักษาประเพณีไว้ หรือผู้หลักผู้ใหญ่สอนอย่างไร บรรพบุรุษทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำกันไปตามธรรมเนียม เช่น เห็น ปู่ย่าสร้างโบสถ์ บำรุงวัด สร้างพระประธาน ก็ทำตามนั้นด้วย หรือพระภิกษุที่รักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ที่พระต้องมีหน้าที่รักษาพระพุทธศาสนา เมื่อละโลกแล้ว ส่วนใหญ่จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไป
สวรรค์ชั้นดุสิต หรือในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันเรียกกันว่า ดุสิตบุรี คือ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ทำบุญเพื่อปรารถนาสงเคราะห์โลก ปรารถนาให้ชาวโลกมีความสุข มีความคิดที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อตนเองอย่างเดียว แต่เพื่อสงเคราะห์โลก เพื่อนมนุษย์ และสรรพ-สัตว์ทั้งหลายด้วย เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสวรรค์ ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงถัดจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป
สวรรค์ชั้นนิมมานรดี คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เห็นผู้อื่นทำบุญแล้วได้รับ การยกย่อง ส่งเสริม จึงอยากจะทำบุญนั้นบ้าง อยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง เมื่อละโลกแล้ว จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป
สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญด้วยความเลื่อมใส เคารพในทาน ทำแล้วมีความรู้สึกปลื้มใจ ในบุญที่ทำนั้น เมื่อละโลกแล้วจะบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไป

อ้างอิง

• มก. อุโปสถสูตร เล่ม 34 หน้า 382

 

นำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบทีละชั้นแล้วกัน

สวรรค์ในคติศาสนาพุทธแตกต่างไปจากศาสนาพราหมณ์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ เขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นศูนย์กลางจักรวาล

สวรรค์ทั้ง 6 ชั้น ในคติของชาวพุทธ ได้แก่
ชั้นที่ 1 จตุมหาราชิกา มีท้าวจตุโลกบาลประทับอยู่ในสวรรค์ชั้นนี้ ประกอบด้วย ท้าวธตรฐ (เจ้าแห่งภูติและคนธรรมพ์) ท้าวกุเวร (เจ้าแห่งยักษ์) ท้าววิรุณหก (เจ้าแห่งกุมภัณฑ์) และท้าววิรูปักข์ (เจ้าแห่งนาค) จตุโลกบาลเหล่านี้อยู่บนยอดเขายุคธร ซึ่งเป็นเขาลูกแรกจากเจ็ดลูกที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ โดยปกครององค์ละเมือง สี่เมืองในแต่ละทิศ,
ชั้นที่ 2 ดาวดึงส์ (ไตรตรึงส์) พระอินทร์จอมเทวดาอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุมีไพชยนต์ปราสาทเป็นที่อยู่,
ชั้นที่ 3 ยามา เป็นเทวดามีวิมานลอยฟ้า ไม่ได้อยู่ยอดเขาใด,
ชั้นที่ 4 ดุสิต เป็นวิมานของพระโพธิสัตว์ ใครก็ตามที่จะมาตรัสรู้ธรรมเป็นพระพุทธเจ้าต้องอยู่ชั้นนี้ก่อน เป็นวิมาลอยฟ้า ไม่ได้อยู่บนยอดเขาใด,
ชั้นที่ 5 นิมานรดี เป็นเทวดาจากเหล่ามารที่ได้บำเพ็ญเพียรกุศลแล้วเกิดเป็นเทวดา มีวิมานลอยฟ้า ไม่ได้อยู่ยอดเขาใด และ
ชั้นที่ 6 ปรนิมมิตวสวดี เป็นมารเทวดาบำเพ็ญบุญสูงกว่าเทวดานิมานรดี อยู่วิวมานลอยฟ้าเหมือนกัน

ที่กล่าวมา คุณไชยา ช่วยตรวจสอบหน่อย ถูกต้องไหมครับ

 

คุณไชยา

ลืมบอกไป พระนารายณ์อยู่สองแห่งครับ ทิพย์พิมานแห่งแรกคือ เกษียรสมุทร, และแห่งที่สองเรียกว่า สวรรค์ชั้นไวกูณฑ์ ส่วนของพระศิวะจัดว่าเป็นชั้นสวรรค์เช่นกัน เรียกว่า ชั้นสวรรค์ทิพย์พิมานไกรลาส แห่งหิมาลัย ครับ

อีกประการหนึ่งที่สังสัย

ทำไมหลุดจากพรหมไปแล้ว จึงไปพระโพธิสัตว์ นิพพาน พุทธภูมิ เพราะคติศาสนาพราหมณ์เมื่อหลุดพ้นแห่งโมกษะย่อมไปอยู่กับพระเจ้าของตนแห่งพรหมัน

แล้วทำไม คติพุทธจึงต้องวางฐานแล้วต่อยอดจากพรหมไปละ คติใครก็คติมันไม่ใช่หรือ ปนกันยุ่งไปหมด

งงมากๆๆๆๆ

คุณใบไม้อยู่ไหนครับ ช่วยสงเคราะห์หน่อย

 

ชั้นสูงสุด คือ.... ผมไม่อยากพิมพ์ถึงครับ จบ

1.มนุษย์
สุขคติภูมิมี 6 ภพภูมิ
1.จาตุมหาราชิกา
2.ดาวดึงส์
3.ยามา
4.ดุสิต
5.นิมมานรตี
6.ปรนิมมิตวสวัตตี
รูปพรหม16ชั้นมีรูปขันธ์อยู่fficeffice" /><O></O>

1. พรหม ปริสัชชา<O></O>
2. พรหม ปุโรหิตา<O></O>
3. มหา พรหมมา<O></O>
4. พรหม ปริตตาภา<O></O>
5. พรหม อัปปมาณา<O></O>
6. พรหม อาภัสสรา<O></O>
7. พรหม ปริตตาสุภา<O></O>
8. พรหม อัปปะมาณสุภา<O></O>
9. พรหม สุภกิณหา<O></O>
10. พรหม เวหัปผลา<O></O>
11. พรหม อะสัญญสัตตา<O></O>
12. พรหม อวิหา<O></O>
13. พรหม อตัปปา<O></O>
14. พรหม สุทัสสา<O></O>
15. พรหม สุทัสสี<O></O>
16. พรหม อกนิฏฐา<O></O>

อรูปพรหม4 ไม่มีรูปร่างกายมีเพียงนามขันธ์4<O></O>

1. อรูปพรหม อากาสานัญจายตนะ<O></O>
2. อรูปพรหม วิญญานัญจายะตนะ<O></O>
3. อรูปพรหม อากิญจัญญายตนะ<O></O>
4. อรูปพรหม เนวะสัญญานาสัญญายตนะ<O></O>

อบายภูมิมี 4 ภพภูมิ
1. เดรัจฉาน
2.เปรต
3.อสูรกาย
4.สัตว์นรก

รวม 32 ภพภูมิครับ

 

ไม่สมควรนำคติของ2ศาสนามารวมกันอย่างยิ่งครับ เพราะอาจทำให้คนอ่านเกิดความสับสน และผู้ที่ยังไม่เคยอ่านเกิดความเข้าใจผิดได้

และ ในพระพุทธศาสนา กล่าวไว้ว่าภพภูมิทั้งหมด มี 31 ภพภูมิ ครับ คือ
ทุคติ 4 - นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
มนุษยภูมิ 1
สวรรค์ 6 - จตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวดี
รูปพรหม 16 - ตั้งแต่ ปาริสัชชา ถึง อกนิฏฐาภูมิ
อรูปพรหม 4 - ตั้งแต่อากาสานัญจายตนะ ถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะ
รวม 31 ภพภูมิ

ขออนุญาตเขียนเพิ่มอีกนิดนะครับ คือ คุณคนไชยา คุณหนะนับถือศาสนาอะไรกันแน่ครับ ขอโทษนะครับที่ผมจะใช้คำว่า คุณกำลังพยายามที่จะบิดเบือนคำสอนของพระพุทธศาสนา(อาจด้วยความไม่ตั้งใจ) ตั้งแต่ผมอ่านไตรภูมิมา ผมไม่เคยเจอคำว่า พระนารายณ์ พระวิษณุ หรือคำว่า พระศิวะ เลยแม้เพียงตัวอักษรเดียวในไตรภูมิพระร่วง หรือในพระไตรปิฎก ก็ตามที

ในอดีต พระพุทธศาสนาในอินเดียได้เจริญขึ้นถึงระดับหนึ่ง จนพวกที่นับถือศาสนาพราหมณ์ได้เกิดความอิจฉา จึงได้หาทางทำลายพระพุทธศาสนา โดยได้แต่งคัมภีร์ใหม่ขึ้น โดยยกให้พระพุทธเจ้า เป็นแค่ส่วนหนึ่งของร่างอวตารของพระนารายณ์ นามว่า พุทธาวตาร และได้ผนวกพระพุทธศาสนาเข้ากับศาสนาของตน กลายเป็น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ทำให้ชาวพุทธในอินเดียหลงเชื่อหันกลับไปนับถือ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อีกครั้ง จนเป็นเหตุให้ศาสนาพุทธในอินเดียได้เสื่อมลงเรื่อยๆ ๆ ๆ ๆ
เฮ้อ แล้วคนไทยเราจะกลายเป็นแบบคนอินเดีย ไม๊น้า.... น่าคิดนะครับ

( ถ้าทางเวปมาสเตอร์ เห็นว่าไม่เหมาะสม รบกวนลบความเห็นผมทิ้งได้เลยนะครับ )

อ๊ะ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ ( อย่าเพิ่งเชื่อเรื่องที่ฟังตามๆกันมา )

 

ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับสวรรค์
ของทุกๆคน ทุกๆท่านที่สละเวลามาให้ความคิดเห็นกัน
ผมเองชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นคนไชยา
ดินแดนอันเจริญรุ่งเรืองด้วยพระพุทธศาสนา
ดินแดนแห่งนครหลวงของอาณาจักรศรีวิชัย
ดินแดนแห่งพุทธบารมีขององค์พระบรมธาตุไชยา
ดินแดนแห่งร่มเงาธรรม
ดินแดนแห่งพระสงฆ์ผู้มีชื่อเสียงก้องโลก
ดินแดนแห่งอาจารย์พุทธทาสบุคคลสำคัญของโลก
ผมขอยืนยันว่าผมมีสายเลือดแห่งพระพุทธศาสนาเต็มตัวครับ

สำหรับเรื่องสวรรค์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมนำเอามาจากศาสนาพราหมณ์
เพราะผมคิดว่าเรารู้เรื่องศาสนาพุทธกัน
จึงอยากให้ทุกท่านนำมาเปรียบเทียบกัน
นำมาวิเคราะห์กันว่า ทำไมเรื่องของสวรรค์จึงมีอยู่หลายตำรา
ผมไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนศาสนาแต่อย่างใดครับ

สำครับข้อคิดเรื่องพราหมณ์กลืนพุทธนั้น
ผมก็มีความคิดเห็นตรงกับคุณไฟราคะครับ
ผมว่าถึงเวลาแล้วครับที่เราต้องทำให้
พุทธเป็นพุทธ
ธรรมเป็นธรรม
สงฆ์เป็นสงฆ์
อย่างแท้จริงครับ

 

ใช่หรอ

พรหม นั่นมีเพียงวิมานและกายแก้ว มีเพศเดียวเท่านั้น ไม่ใช่หรอ ???

 

ครับสำหรับพระพรหมนั้น
มีอยู่หลายจำพวกด้วยกัน
บางพวกก็มีกายทิพย์ กายแก้ว

ผมรู้มาว่ามีพรหมชนิดหนึ่งคืออกนิฎฐาพรหมหรือพรหมลูกฟัก
คือพรหมชนิดนี้จะหลับอยู่แต่ในลูกฟักตลอด
จนกว่าท่านจะหมดบุญจากชั้นนี้
ผู้ที่จะถือกำเนิดบนชั้นนี้คือผู้ที่ตายขณะเขาฌาณ

 

สวรรค์อยู่ในอก

นรกอยู่ในใจ

 

ก็ใครสามารถไปเที่ยวนรกสวรรค์ได้ช่วยมาบอกเล่าหน่อยสิ
ข้าพเจ้าเชื่อว่าภูมิในจิตแบ่งภพแบ่งภูมิ
ในปัจจุบันเห็นผู้คนยิ่งมีจิตแบ่งแยกแตกต่างกันมากขึ้น
ภพภูมิต่างๆน่าจะมีมากขึ้นหรือเปล่านะคิดเอานะ
ไม่ได้เอามาจากตำราไหนทั้งนั้นไม่มีที่อ้างอิงด้วยแค่รำพันเฉยๆนะ