พระพุทธเจ้า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย คุณ วัชรพงษ์, 26 มีนาคม 2008.

  1. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    พระพุทธเจ้า (Buddha) เป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา พุทธศาสนาทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายานนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นศาสดาของตนเหมือนกันแต่รายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน ฝ่ายเถรวาทให้ความสำคัญกับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันคือพระโคตมพุทธเจ้า และกล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอดีตกับในอนาคตบ้างแต่ไม่ให้ความสำคัญเท่า ฝ่ายมหายานนับถือพระพุทธเจ้าของฝ่ายเถรวาททั้งหมดและมีการสร้างพระพุทธเจ้าเพิ่มเติมขึ้นมาจนบางองค์มีลักษณะคล้ายเทพเจ้าของศาสนาฮินดู
    ตามคัมภีร์ฝ่ายพุทธ ถือกันว่า พระพุทธเจ้า (พระโคตมพุทธเจ้า) พระองค์ดำรงพระชนม์ชีพอยู่ระหว่าง 80 ปีก่อนพุทธศักราช จนถึงเริ่มพุทธศักราชซึ่งเป็นวันปรินิพพาน ตรงกับ 543 ปีก่อนคริสต์กาลตามตำราไทยอ้างอิงปฏิทินสุริยคติไทยและปฏิทินจันทรคติไทย และ 483 ปีก่อนคริสตกาลตามปฏิทินสากล

    ความหมายของคำว่าพุทธะ
    ในพระพุทธศาสนา พุทธะ (ภาษาบาลี พุทฺธ แปลว่า "ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน") หมายถึงบุคคลผู้ตรัสรู้อริยสัจ 4 แล้วอย่างถ่องแท้ ในชั้นอรรถกถา จำแนกพุทธะออกเป็น 3 จำพวกด้วยกันได้แก่
    1. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บางทีเรียกเพียง "พระพุทธเจ้า" คือบุคคลที่ตรัสรู้ด้วยตนเองและสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม ตามคัมภีร์ฝ่ายพุทธนั้น พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ (พระโคตมพุทธเจ้า) เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    2. พระปัจเจกพุทธะ,อีกอันหนึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้า คือบุคคลที่ตรัสรู้ด้วยตนเองแต่จำเพาะผู้เดียว มิได้สอนให้ผู้อื่นรู้ตาม
    3. อนุพุทธะ คือบุคคลที่ตรัสรู้เนื่องด้วยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม
    ในอรรถกถาบางแห่งจำแนกเป็น 4 ดังนี้
    1. พระสัพพัญญูพุทธะ (พระสัมมาสัมพุทธเจ้า)
    2. ปัจเจกพุทธะ
    3. จตุสัจจพุทธะ (สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ได้บรรลุอรหัตตผล)
    4. สุตพุทธะ (ผู้เป็นพหูสูตร)
    คำที่ใช้กล่าวเรียกพระพุทธเจ้า
    มีหลายคำดังจะกล่าวต่อไปนี้
    • พระบรมโพธิสัตว์, พระโพธิสัตว์ หมายถึง ท่านผู้ที่กำลังบำเพ็ญ บารมี 10 คือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐาน เมตา อุเบกขา และ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
    • อังคีรส หมายถึง ท่านผู้มีรัศมีแผ่ออกมาจากพระกาย
    • สิทธัตถะหมายถึง ท่านผู้ที่มีความเพียรพยายาม เมื่อต้องการสำเร็จ เป้าหมายที่ประสงค์จะทำ
    • พระมหาบุรุษ เป็นคำที่ใช้เรียก พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ อีกความหมายหนึ่งคือ บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
    • ตถาคต เป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสถึงพระองค์เองมี ความหมาย 8 อย่างคือ
      1. พระผู้เสด็จมาแล้วอย่างนั้น
      2. พระผู้เสด็จไปแล้วอย่างนั้น
      3. พระผู้เสด็จมาถึงตถลักษณะ
      4. พระผู้ตรัสรู้ตถธรรมตามที่มันเป็น
      5. พระผู้ทรงเห็นอย่างนั้น
      6. พระผู้ตรัสอย่างนั้น
      7. พระผู้ทำอย่างนั้น
      8. พระผู้เป็นเจ้า
    • ตถาคตโพธิสัทธา หมายถึง การเชื่อถือปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคต
    • ธรรมกาย หมายถึงท่าน ผู้มีธรรมในกาย
    • ธรรมราชา หมายถึง ท่านผู้เป็นราชาแห่งธรรม
    • ธรรมสวามิศร, ธรรมสามิสร หมายถึง ท่านผู้เป็นใหญ่โดยเป็นเจ้าของธรรม
    • ธรรมสามี หมายถึง ท่านผู้เป็นเจ้าของธรรม
    • ธรรมิศราธิบดี หมายถึง ท่านผู้เป็นอธิปดีในธรรม เป็นคำกวีหมายถึงพระพุทธเจ้า
    • บรมศาสดา, พระบรมศาสดา หมายถึง ท่านผู้เป็น ศาสดาอันยอดยิ่ง พระผู้เป็นครูสูงสุด พระบรมครู
    • พระผู้มีพระภาคเจ้า
    • พระพุทธเจ้าหมายถึง ท่านผู้รู้ดี รู้ชอบ ด้วยตนเองก่อนแล้ว สอนประชุมชนให้ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
    • พระศาสดา หมายถึง ท่านผู้ทรงสอนชนทั้งปวง
    • พระสัมพุทธเจ้า, พระสัมมาสัมพุทธเจ้า]], พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า, สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
    • ภควา หมายถึง ท่านผู้เป็นผู้มีโชค หรือ ท่านผู้จำแนกแจกธรรม
    • มหาสมณะ
    • โลกนาถ, พระโลกนาถ หมายถึง พระผู้เป็นที่พึ่งแห่งโลก
    • สยัมภู, พระสัมภู หมายถึง ท่านผู้ตรัสรู้ได้โดยตนเอง ไม่มีใครมาสั่งสอน
    • สัพพัญญู, พระสัพพัญญูสัมพุทธเจ้า หมายถึง ท่านผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
    • พระสุคต, พระสุคโต หมายถึง ท่านผู้เสด็จไปดีแล้ว
    พระพุทธเจ้าตามความเชื่อของฝ่ายเถรวาท
    [​IMG] [​IMG]
    พระพุทธรูปปางประทับยืน พบที่ปากีสถาน ศิลปะคันธาระสมัยพุทธศตวรรษที่ 5-6


    ในพระไตรปิฏกกล่าวว่า ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว 25 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 25 และพระพุทธเจ้าองค์ถัดไปคือพระศรีอารยเมตไตรย ในทัสศนะเถรวาทถือว่าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ที่เหนือกว่าคนทั่วไปคือพระองค์พบทางดับทุกข์ได้ด้วยพระองค์เอง และเผยแพร่หนทางนั้นต่อสรรพสัตว์ ทรงเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ เมื่อทรงดับขันธปรินิพพาน คือดับไปโดยไม่เหลือเชื้อใดๆ ผู้จะเป็นพระพุทธเจ้าต้องทำความดี (บารมี) มาในชาติก่อน ๆ นับชาติไม่ถ้วน (ก่อนที่จะเป็นพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระโพธิสัตว์)

    ประเภทของพระพุทธเจ้า
    ในพระไตรปิฎกจะแบ่งประเภทของพระพุทธเจ้าไว้ดังนี้
    การแบ่งประเภทของพระพุทธเจ้าตามวิธีการสร้างบารมี<SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP>,
    1. ปัญญาพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้าที่สร้างบารมีโดยใช้ปัญญาเป็นตัวนำ ใช้เวลาบำเพ็ญบารมี นับแต่ได้รับพยากรณ์ครั้งแรก ๔ อสงไขยกัป กับอีก ๑๐๐ ๐๐๐ กัป
    2. ศรัทธาพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้าที่สร้างบารมีโดยใช้ศรัทธาเป็นตัวนำ ใช้เวลาบำเพ็ญบารมี นับแต่ได้รับพยากรณ์ครั้งแรก ๘ อสงไขยกัป กับอีก ๑๐๐ ๐๐๐ กัป
    3. วิริยะพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้าที่สร้างบารมีโดยใช้วิริยะเป็นตัวนำ ใช้เวลาบำเพ็ญบารมี นับแต่ได้รับพยากรณ์ครั้งแรก ๑๖ อสงไขยกัป กับอีก ๑๐๐ ๐๐๐ กัป
    พระพุทธเจ้าในอดีต
    ในหลักฐานฝ่ายเถรวาทกล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอดีตไว้ 25 พระองค์ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระโคดมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ได้ทรงพบและ พระโคดมพุทธเจ้าทรงได้รับคำพยากรณ์ ว่าจะได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรานิยมนับรวมพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน โดยเรียกว่า "พระพุทธเจ้า 25 พระองค์"
    <TABLE class="" style="WIDTH: 100%; BACKGROUND-COLOR: transparent" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="50%">
    </TD><TD vAlign=top align=left width="50%">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หากแบ่งตามกัปป์ โดยการนับอสงไขยในที่นี้ จะนับอสงไขยแรกโดยเริ่มนับจากช่วงเวลาที่ อดีตชาติของพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า เริ่มสร้างบารมี โดยการอธิษฐานในใจต่อหน้าพระพักตร์ของพระสัมมาพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก จะมีพระพุทธเจ้าในอดีตดังต่อไปนี้
    • กัปแรกในต้นอสงไขยที่ 17 เป็นสารมณฑกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 4 พระองค์<SUP class=reference id=cite_ref-1>[2]</SUP>
      1. พระตัณหังกรพุทธเจ้า
      2. พระเมธังกรพุทธเจ้า
      3. พระสรนังกรพุทธเจ้า
      4. พระทีปังกรพุทธเจ้า
    • กัปหนึ่งในอสงไขยที่ 18 เป็นสารกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
      1. พระโกณฑัญญะพุทธเจ้า
    • กัปหนึ่งในอสงไขยที่ 19 เป็นสารมณฑกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 4 พระองค์
      1. พระสุมังคละสัมมาสัมพุทธเจ้า
      2. พระสุมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      3. พระเรวตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      4. พระโสภิตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
    • กัปหนึ่งในอสงไขยที่ 20 เป็นสารวรกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์
      1. สมเด็จพระอโนมทัสสีสัมพุทธเจ้า
      2. สมเด้จพระปทุมะสัมพุทธเจ้า
      3. สมเด็จพระนารทะสัมพุทธเจ้า
    • ช่วงเศษแสนมหากัป ของ อสงไขยปัจจุบัน[3]
      1. กัปหนึ่งมีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์. บางตำราว่าเป็นมัณฑกัป บางตำราก็ว่าเป็นสารกัป.
        1. พระปทุมมุตระพุทธเจ้า
      2. สูญกัป (กัปที่ไม่มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น) 30,000 กัป
      3. มัณฑกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์
        1. พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      4. สูญกัป 60,000 กัป
      5. วรกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์
        1. พระปียทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระอัตถทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
        3. พระธรรมทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
      6. สูญกัป 24 กัป
      7. สารกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
        1. พระสิทธัตถะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      8. สูญกัป 1 กัป
      9. มัณฑกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์
        1. พระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระมหาปุสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      10. สารกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
        1. พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
      11. สูญกัป 60 กัป
      12. มัณฑกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์
        1. พระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระเวสสภูสัมมาสัมพุทธเจ้า
      13. สูญกัป 30 กัป
      14. กัปปัจจุบัน เป็น ภัทรกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์
        1. พระกกุสันธะสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระโกนาคมสัมมาสัมพุทธเจ้า
        3. พระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
        4. พระศรีศากยมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
        5. พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
  2. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    พระพุทธเจ้าในอนาคต
    ในคัมภีร์ทางเถรวาทนั้น ที่กล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอนาคตได้ระบุว่าจะมีทั้งสิ้น 10 พระองค์ ดังนี้ <SUP class=reference id=cite_ref-2>[3]</SUP>
    พระพุทธเจ้าตามความเชื่อของฝ่ายมหายาน
    นิกายมหายานยอมรับพระพุทธเจ้าตามคัมภีร์ฝ่ายเถรวาททั้งหมดและยังสร้างพระพุทธเจ้าอีกมากมาย ทั้งที่เป็นมนุษย์และมีสถานะเหมือนเทพเจ้าในศาสนาฮินดู นิกายมหายานเชื่อว่าเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วไม่ดับสูญแต่ไปประทับ ณ พุทธเกษตรซึ่งเป็นดินแดนที่งดงามกว่าสวรรค์ พระพุทธเจ้าตามคติมหายานแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
    1. อาทิพุทธะ ถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าที่อุบัติมาพร้อมกับโลกและประทับอยู่กับโลกเป็นนิรันดร์ มีบทบาทคล้ายพระพรหมในศาสนาฮินดูที่เป็นผู้สร้างโลกและจักรวาล
    2. พระมานุสสพุทธะ เป็นพระพุทธเจ้าที่อวตารมาจากอาทิพุทธะมาเกิดในโลกมนุษย์และบำเพ็ญเพียรในฐานะพระโพธิสัตว์จนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อปรินิพพานแล้วจะไปอยู่กับอาทิพุทธะ คล้ายกับคติของศาสนาฮินดูที่เมื่อทำความดีถึงขั้นสูงสุดจะกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของมหาพรหม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจจุบัน ทางมหายานเรียกว่าพระศากยมุนีพุทธเจ้า เป็นพระมานุสสพุทธะด้วยเช่นกัน
    3. พระธยานิพุทธะ เป็นพุทธะที่อวตารมาจากอาทิพุทธะเช่นกันแต่สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าด้วยอำนาจฌาน (ธยาน) ของอาทิพุทธะไม่ได้ผ่านการบำเพ็ญเพียรในโลกมนุษย์ พุทธะเหล่านี้ประทับบนสวรรค์ ในสภาวะกายทิพย์ มีเฉพาะพระโพธิสัตว์ที่มองเห็นได้
    4. พระพุทธเจ้าอื่นๆ เช่น พระสัทธรรมวิทยาตถาคต พระไภษัชยคุรุทั้ง 7 พระสหัสประภาราชาศานติสถิตยตตถาคต พระประภูตรัตนะ
    จำนวนของพระพุทธเจ้า
    ในคัมภีร์ของทางมหายานนั้นได้ระบุนามของพระพุทะเจ้าไว้เป็นจำนวนมาก มีทั้งพระพุทธเจ้า 35 พระองค์ พระพุทธเจ้า 53 พระองค์ และที่มากที่สุดคือพระพุทธเจ้า 3,000 พระองค์ โดยแบ่งเป็น <SUP class=reference id=cite_ref-3>[4]</SUP>
    อ้างอิง
    1. <LI id=cite_note-0>^ [1] <LI id=cite_note-1>^ [2] <LI id=cite_note-2>^ ประชุมพงศาวดารฉบับราษฏร์ ภาค 3 อนาคตวงศ์. กทม. อมรินทร์วิชาการ. 2542
    2. ^ ภิกษุจีนวิศวภัทร. พระพุทธเจ้าและพระธรรมสูตรฝ่ายมหายาน. กทม. หมื่นคุณธรรมสถาน.2549
    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 112/1000000Post-expand include size: 3828/2048000 bytesTemplate argument size: 0/2048000 bytes#ifexist count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:673-0!1!0!!th!2 and timestamp 20080322172332 -->
     
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขอบคุณครับ
    ปล.คุณวัชรพงษ์ เห็นต้นไม้ในอนาคตกาลรึยังครับ
    โลกใบนี้ ยังไงก็ต้องมีธรรมชาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2008
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    [​IMG]



    <DD>3. กระทิง Calophyllum inophyllum Linn. <DD>วงศ์ Guttiferae <DD>ชื่ออื่น กระทิง, กากะทิง (ภาคกลาง), สารภีแนน (ภาคเหนือ), ทิง (กระบี่), เนาวกาน (น่าน), สารภีทะเล (ประจวบฯ) <DD>ชื่อสามัญ Alexandrian Laurel, Borneo Mahogany <DD>กระทิงเป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 5-12 เมตร เรือนยอดแผ่เป็นพุ่มกลมทึบ เปลือกสีน้ำตาลปนเทา ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่กลับ กว้าง 4-8 ซม. ยาว 8-15 ซม. ใบคล้ายใบสารภีแต่กว้างกว่า ปลายกลมหรือเว้าเล็กน้อย โคนสอบ เส้นใบถี่และขนานกัน ใบมียางสีขาว ดอกสีขาว กลิ่นหอมคล้ายกลิ่นสารภี ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอก 5-6 กลีบ เมื่อบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-2.5 ซม. เกสรเพศผู้สีเหลืองมีจำนวนมาก ผลรูปกลมสีเขียวขนาดประมาณ 2 ซม. เมื่อผลแก่จะแห้ง ผิวย่น มีสีน้ำตาล สามารถปลูกได้ทั่วไป มีเขตการกระจายพันธุ์แถบป่าชายทะเล และตามป่าชื้นทั่วไปที่สูงจากระดับน้ำทะเล 5-50 เมตร <DD>แก่นไม้มีสีน้ำตาลอมแดง มักมีเส้นสีแก่กว่าสีพื้นหนักปานกลาง ใช้ในน้ำได้ทนทาน เลื่อยไสกบ ตกแต่งไม่ยาก ไม้ใช้ทำเรือ กระดูกงูเรือ สร้างบ้านเรือน ทำตู้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้จุดตะเกียง ผสมทำเครื่องสำอาง ในสรรพคุณยาไทยใช้ใบสดขยำแช่น้ำเอาน้ำล้างตา แก้ตาฝ้า ตามัว ตาแดง น้ำมันใช้ทาถูนวด แก้ปวดข้อ เคล็ด บวม ดอกปรุงเป็นยาหอม บำรุงหัวใจ



    <DD>กากทิงค์ คือพรรณไม้ตรัสรู้ของพระศรีอาริยเมตไตรย <DD>ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 84 ของ ส.ธรรมภักดี กล่าวว่า พรรณไม้ที่ชื่อบาลีว่า กากทิงค์ จะเป็นไม้ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นามว่าพระศรีอาริยเมตไตรย บางท้องที่ในภาคกลาง เรียกกระทิงว่า กากะทิง



    <DD>กะลาจากผลกระทิงใช้หยอดขนมครก <DD>คนบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ใช้กะลาของผลกระทิงมาตักแป้งหยอดขนมครก โดยนำมาทำเป็นกระบวยแล้วใช้ไม้สักทำด้าม จะทำให้ได้ขนมครกที่ไม่หนาจนเกินไป และมีความกรอบพอเหมาะ โดยจะหยอดแป้งโรยไปตามขอบ ๆ หรือเทลงแล้วเอาก้นกระบวยเกลี่ยแป้งไปตามขอบ ประมาณปี พ.ศ. 2490-2495 มีขนมครกที่หยอดด้วยกระบวยกระทิงขายหน้าวัดมหาธาตุฯ ในกรุงเทพมหานคร (ข้อมูลจากการสัมภาษณ์บุคคล)

    refer : http://www.ku.ac.th/e-magazine/november45/agri/flower.html

    </DD>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2008
  5. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    ครับ...ขอบคุณครับ
     
  6. amakig

    amakig Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +69
    นี่แหละความรุ้จริงๆเลยเรื่องพระพุทธเจ้า
    ไม่มีปั่นแต่ง
    ไม่ใช่ว่าอ้างนุ่นอ้างนี่ว่าคนนุ้นเป็นคนนี้เป็น(ในเวปเห็นเยอะกันจัง)
    อนุโมทนาสาธุ
     
  7. อกนิษฐกา

    อกนิษฐกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +117
    สาธุ พุทธังสะระณังคัจฉามิ ธัมมังสะระณังคัจฉามิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มีนาคม 2008
  8. คนไชยา

    คนไชยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +171
    อะระหังสัมมาสัมพุทโธภะคะวา

    พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระอรหันต์ บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย ได้ตรัสรู้ถูกถ้วนดีแล้ว

    อิเมหิสักกาเรหิตังภะคะวันตังอภิปูชะยามิ

    ข้าพเจ้าบูชาซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้


    เคยได้ยินกันบ้างมั้ยครับนี่คือส่วนหนึ่งของบทสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย
    ที่ไชยาใช้กันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  9. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    กทม. ก็ใช้แต่บทสวดนี้แหละครับ
     
  10. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    เจ้าของกระทู้ เขาคงจะคิดแบบเดียวกับคุณ amakig แน่ ๆ

    เปิดดูไฟล์ 299356
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มิถุนายน 2008
  11. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    พระพุทธเจ้า ท่านสอนไว้ว่า อย่าเชื่ออะไรโดยที่ยังไม่ได้พิจารณา ใช้วิจารณญานในการรับฟังและรับรู้ ก่อนที่จะศรัทธา หรือเชื่อในสิ่งนั้นๆ อย่าหลงอย่าเชื่อโดยงมงาย
     
  12. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    อยู่ตรงนี้มั้ง
     
  13. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขอบคุณครับ
     
  14. โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม

    โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    639
    ค่าพลัง:
    +573
    1เมตรนี่เท่ากับกี่ศอกอะครับ??

    แล้วคนในอนาคตจะสูงถึง80ศอกเลยหรอครับ!!
     
  15. โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม

    โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    639
    ค่าพลัง:
    +573
    ขอพลังจงอยู่กับท่าน
     
  16. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    1 เมตรเท่ากับ 2 ศอกครับ 80 ศอกก็สูง 40เมตร
     
  17. bingping

    bingping เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2005
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +391
    ได้ยินมาว่า มีพระพุทธเจ้าภาคโปรดและภาคปราบด้วย
    และยังไม่ภาคดำ ภาคขาว ภาคไม่ดำไม่ขาว
     
  18. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    ช่วยเล่าให้ฟังสักนิดเถอะครับ น่าสนใจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...