กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    เพื่อใจเอาไว้ก่อน ถ้ายังไม่สาย
    นิทานการเข้าป่า เข้าถ้ำ

    ๑.ธรรมชาติของป่า
    ถ้าเข้าใจธรรมชาติของมัน
    ก็จะได้รักษาร่างกายตนเองได้
    เช่น ที่นอนที่ต้องระวังเรื่องน้ำ
    เรื่องปรอท ตลอดจนความรู้ทางด้านสมุนไพร
    ๒.ธรรมชาติเหนือวิสัย
    เช่น ข้ามต้นไม้บางอย่าง
    ที่ทำให้ตาเห็นทิศเห็นดวงอาทิตย์ตรงข้าม
    อย่างเครืออะไรหลงๆ

    หรือบางแห่งสมุมติเราผ่านเขตเค้า
    พวกนี้อาจทำร้ายร่างกายเราได้
    ส่วนมากเป็นพวกที่อยู่มาก่อนยุคพุทธกาล
    เป็นภูมิเปรต อสูรกายมีฤทธิ์มาก
    ย้ำเน้นทำร้าย (เหมือนเคยเล่าไปแล้ว)
    แต่ถ้าพนานาค มักจะบำเพ็ญตบะ
    จะออกแนวรำคาญคนที่เข้าไปรบกวน

    แต่ว่า ถ้าเป็นเมืองซ้อนทับ หรือมิติทับซ้อน
    ที่เขตความสูงพอๆกับมิติโลกเรา
    ซึ่งมีมากมาย และมากนิสัย ถ้าเจอที่ดีก็ยัง
    พอทน แต่ถ้าเจอประเภท เห็นคนผ่านมา
    แล้วยืนเท้าสะเอวรอโดยเฉพาะพวก(คนธรรพ์) ส่วนตัวเรียกพวกเด็กแนว
    ขอบใส่ขุดแบบคล้ายฮูด หรือมีคลุมศรีษะ
    แสดงว่าต้องระวัง
    ยิ่งประเภทคิดเหมือน
    จะเอาหรืออยากได้อะไร
    พวกนี้จะอ่านใจได้ อาจถูกหลอกด้วยเสียง
    ให้ตามเข้าไปในเขตของเค้า
    ถ้าเข้าไปแล้ว ด้วยทิพย์คิกคุ
    จะไม่สามารถมองเห็นได้
    คือมีความสามารถในการบังตา
    ทั้งนี้แล้วแต่ว่าเค้าจะปล่อยไม่ล่อยนั่นแล

    นิทานเฉยๆ บางเรื่องก็เป็นไป
    เพราะขาดความเข้าใจธรรมชาติ
    บางเรื่องเพราะเป็นไปตามธรรมชาติ
    ในใจตนเป็นตัวสร้างเหตุ

    สุดท้ายอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้
    เป็นที่ธรรมชาติของป่าเท่านั้นเอง

    แต่ควรเพื่อใจไว้บ้าง
    และอุเบกขารับรู้ให้เป็น
    นักข่าวมองคนละมุมกัน
    กับนักปฎิบัติเน้อ
    พิธีกรก็คือกัน ไม่ใช่นักร้อง
    จึงไม่มีอารมย์แฝงในตัวอักษร



    ปล มองทางธรรมชาติของป่าไว้ก่อน
    เรื่องอื่นๆ นิทานครับนิทาน


     
  2. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    เจนเชื่อคะอาจารย์
    ว่าสิ่งที่อาจารย์เล่ามา มีแน่นอน
    ได้แต่ ภาวนา ขอให้เด็กๆ และโค้ช
    ออกมาได้

    กรณี เดินเข้าป่า หลงไปแดนลับแล
    ขอเล่าย้อนไป เมื่อนานพอควร เกิน10กว่าปีได้คะ
    มีคนหาย ไม่แน่ใจว่า ที่จังหวัดเลย หรือ ที่อุดร
    แม่เจน และทีมงานเมธา (บ้านแม่เจนเป็นมูลนิธิคะ)
    เขามาขอกำลังเข้า ช่วยคนหาแนวราบ
    แม่ให้เจนเฝ้าบ้านกับพ่อ แม่ไปกับลูกน้องแม่

    ทางเจนลุ้นที่บ้าน
    สุดท้าย น่าจะเป็นเกือบ สัปดาห์ ค่อยหาเจอ
    แต่สภาพลุงแก แม่บอก หนวดยาวรุงรังมาก
    ลุงไปหาของป่า
    ลุงเขาเล่ามาว่า เขาแอบทหารในป่า ที่โขดหิน
    มีสองผัวเมียมาพาเขาไป เข้าในหมู่บ้านนี้ละคะ
    ถ้าจำไม่ผิด แต่ตอนเจอลุง แม่เล่าว่า
    ทั้งพระอาจารย์ ที่บ้านเจนเคารพ ไปทำพิธี
    เดินหาจนทั่ว ไม่เจอ สุดท้ายก็เจอแกเดินออกมาหา
    แม่ว่ามาคะ แต่ผิดถูกประการใดไม่แน่ใจ
    จากที่แม่เล่ามา และรูปถ่ายลุง (แม่เก็บไว้ ที่แฟ้มข่าวของแม่)
    ลุงแก ผอม ผมยาว หนวดยาวมาก

    เจนแปลกใจที่ แค่ไม่ถึงสัปดาห์
    ผม หนวด ยาวผิดปกติ
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    เล่าเป็นนิทานแล้วกันเด้อ....
    เรื่องการเปลี่ยนแปลงเวลาไม่ต้องแปลกใจหรอก
    เด่วจะเทียบให้ดูพอคร่าวๆ จากที่พอมีประสบการณ์นะ..
    จากเมื่อก่อนเคยแวะๆโฉบๆไปดู กับบางที
    เค้าก็เชิญไปและให้ไปทำอะไรบ้างอย่างให้เค้าดู
    บ้างที่ก็พาไปเที่ยวชมป่านว่า เราเป็น นายก อบต. ๕๕๕๕
    หมายถึงในเขตทับซ้อนนะ..
    บางเขตเนี่ย ๒ วินาทีเค้าทางโลกผ่านไป ๒ ชั่วโมงเลยก็มีแนะ
    นี่หละ สาเหตุที่ลูกศิษย์เอาอาจารย์ไปเผา เพราะคิดว่ามรณะภาพ
    แล้ว....สาเหตุหนึ่ง......


    ถ้าเราเข้าไปอยู่ในเขตเค้าประมาณ ๒๐ วินาที
    การเปลี่ยนแปลงทางโลกต่อกายเราจะประมาณ ๒ ชั่วโมง
    ดังนั้นถ้าอยู่ในนั้น ๑ นาที การเปลี่ยนแปลงทางโลกต่อกาย(ต่อไปจะย่อว่า ปปลก.) ประมาณ ๓ ชั่วโมง....
    ถ้าอยู่ในนั้นประมาณ ๑ ชั่วโมง หรือ ๖๐ นาที
    ปปลก.จะประมาณ ๑๘๐ ชั่วโมง หรือ ประมาณ ๗.๕ วัน
    ถ้าอยู่ในนั้น ๒๔ ชั่วโมง หรือ หนึ่งวันในนั้น
    ปปลก. ทางโลกก็จะประมาณ ๒๔ x ๗.๕ วัน เท่ากับ ๑๘๐ วัน

    ทางโลก. ๑ ชั่วโมงมี ๖๐ นาที.
    ใครบอกมี ๖๑ นาทีเด่วบ๊องหูเลย ๕๕.
    ๑ นาที มี ๖๐ วินาที
    และ มี ๒๔ ชั่วโมง ดังนั้นวันหนึ่ง
    ทางโลกจึงมีเวลา เท่ากับ ๒๔ x ๖๐(นาที)
    เท่ากับ ๑,๔๔๐ นาที
    ดังนั้นเทียบในนั้น ๑ วัน
    ปปลก. ทางโลกจะเท่ากับ ๑.๔๔๐ นาที x ๓ / ๒๔ ชั่วโมง
    ก็จะประมาณ ๑๘๐ วันเช่นกัน

    พูดง่ายๆ ๑ วันในความรู้สึกเรา
    แต่การ ปปล.ทางโลกท่างร่างเค้าเมื่อเข้าไปอยู่ในนั้น
    จะเท่ากับตอนอยู่บนโลกผ่านไปประมาณ ๑๘๐ วัน
    ดังนั้นถ้าเรารู้สึกว่า เค้าหายไป ๗ วัน
    แต่ว่า ปปลก เค้าจะเปลี่ยนไปประมาณ ๑.๒๖๐ วัน
    หรือมีพัฒนาไปประมาณ ๓.๕ ปีนั่นเอง..........

    ปล.ถึงบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลก
    มันเป็นคนละมิติ ที่อยู่ในระดับความสูง
    ใกล้เคียงกันเท่านั้นเอง เรื่องธรรมดา.....
    ขึ้นอยู่กับว่าไปอยู่ในมิติและชั้นความสูงระดับใด....


     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    ...1 วันของเขาเท่ากับ180 วันของโลกเรา
    เป็นมิตินิรนามที่น่าทึ่งมากๆ
    ...นานแล้วผมเคยดูหนังฝรั่งในแนวประมาณนี้
    ผมจึงคิดว่า...
    "การสร้างหนังแต่ละเรื่อง
    นอกจากสร้างจากจินตการ
    บางเรื่องก็สร้างจาก*เรื่องจริง*
    หรือสร้างจากเรื่องจริงครึ่งๆ

    อย่างเช่นจานบินจานผีที่โผล่ให้เห็นๆ
    เมื่อ 20 กว่าปีก่อนผมเคยคิด
    และค่อนข้างมั่นใจว่า...
    ที่เห็นนั่นส่วนหนึ่งเป็นวัตถุลึกลับจริง
    ซึ่งมาจากนอกโลก และต่างมิติ

    *อีกส่วนหนึ่งน่าจะเป็นวัตถุลึกลับ(จานบิน)
    ที่บางประเทศมหาอำนาจสร้างขึ้นมาเอง
    แต่ปกปิดไว้เป็นความลับ
    เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง*

    ...เรื่องนี้สหรัฐก็เกิดหวาดระแวง
    เมื่อ 10 ปีที่แล้วถึงกับต้องดำเนินโครงการ
    ...ค้นหาภัยทางอวกาศระดับสูง
    เพื่อตรวจสอบวัตถุลึกลับบนท้องฟ้า
    ในหลายๆเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น

    **ซึ่งเรื่องลึกลับ ลี้ลับหรือเรื่องพลังจิต**
    ประเทศมหาอำนาจที่วิทยาศาสตร์ไปไกล
    ยังเชื่อเลยครับ และหันมาศึกษาอย่างจริงจัง
    เพียงแต่ไม่ค่อยอยากเปิดเผย
    ...สักแต่ว่าค่อยๆแย้มออกมา

    เพราะกลัวจะเสียฟอร์ม(อายชาวโลก)




    ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเรื่องพลังจิตเรื่องลึกลับ
    หรือแนวๆมิติทับซ้อนตามที่ท่านอ.นพเล่า
    ฝรั่งอาจแอบๆศึกษามา30-40ปี
    ...แต่ไม่นำมาเปิดเผย
    เพราะเกี่ยวกับด้านความมั่นคง
    ...ตอนนี้คงไปไกลพอสมควร

    ...สงครามโลกครั้งที่ 3
    ถ้าหากเกิดขึ้นอีก
    พลังจิต และอิทธิฤทธิ์เวทมนต์ต่างๆ
    อาจนำมาใช้ร่วมกับอาวุธนิวเคลีย
    *ใครจะไปรู้*

    เช่นใช้พลังจิตไปบังคับผู้นำประเทศต่างๆ
    หรือสะกดจิตคนที่จะกดปุ่มอาวุธร้ายแรง
    ...จนไม่สามารถทำอะไรได้
    หรือใช้พลังจิตไปสำรวจข้อมูลลับ
    คลังเก็บขีปนาวุธหรือที่ตั้งทหาร
    หรือใช้พลังจิตไปบิดเบี้ยวข้อมูล
    ...โดยไม่ต้องอาศัยไวรัส

    จำได้ว่าเมื่อ 30 ปีก่อนเคยมีข่าวว่ารัสเซีย
    ได้ทุ่มงบหลายร้อยล้านวิจัยด้านพลังจิตอย่างจริงจัง
    จนสหรัฐร้อนฉ่าเหมือนกินพริกกระเหรี่ยง
    จึงต้องออกมาเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด

    วันนี้พลังจิตรัสเซียก้าวไปถึงขั้นไหนแล้ว ?
    ????????
    แต่เห็นหลายปีนี้หมี่ใหญ่กร้าวเหลือเกิน
    จนมะกันรู้สึกขยาด แบบต้องเกรงใจบ้าง

    //คงกลัวถูกเล่นงานด้วยพลังจิตแทนขีปนาวุธ//


    5555 วันนี้ผมเล่าเรื่องสนุกๆให้ฟัง
    แต่ซ้อนความเครียดไว้ลึกๆ
    เมื่อสหรัฐ"จำใจ"จับมือกับหลีเหนือ
    เพราะเห็นหมีขาวกอดคอยิ้มร่ากับจีน

    นี่แหละเซียนเหยียบเมฆแห่งขั้วมหาอำนาจ

    พี่ไทยเราไม่ต้องไปสนใจมาก
    "พลังจิต เวทมนต์เราเหนือกว่าชัวร์"
     
  5. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    เจนถามรูปถ่ายกับแม่ไปอยู่คะอาจารย์
    แม่ว่าเดี๋ยวหาให้ ไม่รู้เอาไว้ตรงไหน
    น้ำท่วมบ้าน เลยย้ายของเก็บ
    เรื่องแปลกๆ ของโลกเรา นี้ก็เยอะแยะเหมือนกันนะคะอาจารย์
     
  6. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    เมื่อวานนี้เจนก็เปิดหนังการ์ตูนเรื่องหนึ่งดูอยู่คะอาจารย์9
    เกี่ยวกับ เด็ก ที่สามารถ สั่งการสมองคนอื่น ให้ทำตามที่ตัวเองสั่ง
    น่ากลัวมาก มันคือ การคุกคามทางจิต
    เหมือนเราไม่สามารควบคุมตัวเองได้
    แต่รู้สึกตัว ตอนแรกเปิดดู นึกว่า การ์ตูนเด็กธรรมดา
    ดูไปดูมา มันคือ การ์ตูน แนวผู้ใหญ่เลย
    มีฉาก บังคับสมองคนอื่น ฆ่าตัวเองตาย
    น่ากลัว มากคะ เดี๋ยวเจนไปหาชื่อเรื่องมาบอกนะคะอาจารย์9
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    ...ผมมาเล่าความฝันเมื่อคืนให้ฟัง
    ...ไม่รู้ว่าจะเป็นลางบอกเหตุตามฝัน
    ...สำหรับประเทศไทยหรือเปล่า
    ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง 3 กรณี

    1.บอกเหตุในทางร้าย
    2.บอกเหตุในทางที่ดี
    3.แค่เพียงฝันเฟื่องธรรมดาๆ

    เวลาฝันน่าจะประมาณตี 2.25 นาที
    เพราะฝันใดที่แปลกๆผมจะต้องดูนาฬิกา
    จากนั่นคือจะส่งบุญให้ท่านที่ทำให้ฝัน
    (อันนี้ผมเพิ่งมาทำ หลังจากที่ท่านอาจารย์นพชี้แนะ)

    **บางอย่างไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ**

    เพราะตั้งแต่ที่ผมทำตามอาจารย์นพ
    ปรากฏว่าผมจะฝันถี่ขึ้น
    ประมาณอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
    แต่ส่วนมากจะฝันสั้นๆ
    ...แต่ได้ใจความเพราะฝันชัดเจน

    จากเดิมหลายปีที่ผ่านมา
    เดือนหนึ่งผมฝันแค่ 2-3 ครั้ง
    ...หรือบางเดือนไม่ฝันเลย
    ผมยังแปลกใจตัวเองว่า "ผิดปกติหรือป่าวเรา"
    หรือเพราะผมฝันแล้วแต่จำไม่ได้
    ...สงสัย "อัล ซม." เริ่มมาเยือนแน่เลย
    (ผมเคยกังวลเช่นนี้จริงๆ)

    (ขอรบกวนถามอาจารย์นพว่า...
    ทำไมฝันแล้วส่งบุญกุศลทันที
    ทำให้ฝันบ่อยขึ้นเพราะอะไรครับ)


    (ต่อความฝันเมื่อคืน)
    ผมฝันว่าขับรถล่องใต้(ถนนเพชรเกษม)
    ช่วงระหว่างปราณบุรี-ประจวบ-ทับสะแก-บางสะพาน-ชุมพร
    ระหว่างขับเพลินๆ...จู่ๆถนนทั้งสาย
    ...ค่อยๆทรุดตัวลงมาและมีรอยแยกเล็กน้อยเป็นช่วงๆ
    จากนั่นผมเห็นมีไอระเหยบางๆลอยขึ้นมาตรงรอยแยก
    ....พร้อมกลิ่นคล้ายน้ำมัน
    พอมองไปรอบๆเห็นชาวบ้านต่างถือถังและขันคนละใบ
    ตักน้ำมันขึ้นมาจากรอยแยก
    ขณะที่ไอระเหยจางๆยังคงฟุ้งไปทั่วบริเวณ....
    .................................

    เอ้า...เสียดายจัง
    ผมตื่นจากฝันแล้วครับ

    ถ้าเป็นข้อ 1.
    ลางบอกเหตุทางร้าย...คืออะไร
    (ผมไม่กล้าเดาและไม่อยากเดา)

    ถ้าเป็นข้อ 2.
    ลางบอกเหตุในทางที่ดี
    ผมถอดความฝันได้ดังนี้
    "บริเวณใต้ถนนเพชรเกษมตลอดสาย
    และบริเวณรอบๆรัศมีไกลออกไป
    ถึงชายหาดถึงกลางท้องทะเล
    ตั้งแต่ปราณบุรี-ประจวบ-ทับสะแก-บางสะพาน-ชุมพร
    จะพบแหล่งน้ำมันและแก๊สขนาดใหญ่...
    ...ประมาณดับเบิ้ลมหึมา แบบinfinity
    ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น...
    อภิมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก
    (โอมเพี้ยง..ขอให้ความฝันนี้กลายเป็นจริง)

    แต่ถ้าเป็นข้อ 3. แค่ฝันเฟื่องธรรมดาๆ


    ผม...ก้อขอราตรีสวัสดิ์เพียงแค่นี้

    5555 ง่วงแล้วจร้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2018
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    นิทาน...
    จะว่าไปเรื่องมิติทับซ้อนก็ไม่ใช่แปลกอะไรหรอก
    มันมีอยู่แล้ว แต่ว่ามนุษย์เราเองยังเข้าไม่ถึง

    ''จินตนาการของมนุษย์ไปไกลกว่าจำเป็นจริงๆเสมอ"
    เอาคำพุดอดีตนักดาราศาสตร์ท่านหนึ่งมา
    เมื่อก่อนก็ว่าโลกแบน ตามด้วยกลม ตามด้วยมีแต่ดวงจันทร์
    ตามด้วยดาวในระบบสุริยะนี้ ดาวกฤษดวงเดียว กาแลคซี่เดียว
    ปัจจุบัน ก็ค้นพบเพิ่มขึ้นอีกไม่รู้ตั้งเท่าไร พวกนี้เป็นไปตาม
    เทคโนโลยีทั้งนั้น. สิ่งที่รู้อาจจะเป็นที่สุดวันนี้
    แต่ไม่ใช่สำหรับในอนาคต...วิวัฒนการโลกเป็นประมาณนี้

    เรื่องภพภูมิเรื่องมิตซ้อนทับก็เช่นกัน ตอนนี้ก็ยังไม่เป็นสากล
    ในอนาคตก็ไม่แน่.... เป็นไปได้ทั้งนั้น....

    หมีขาวสร้างสถานีอวกาศได้ก่อนใครในโลก
    พี่หมียิง U2 ตกได้ทั้งที่ มันบินได้สูงกว่า
    เพดานบินของเครื่องบินขับไล่ถึง ๒ เท่า
    ให้ พี่กัน แกงงเล่นๆ ไปก่อน...

    พี่กันใช้นักพลังจิต ในการค้นหา ตำแหน่ง
    ที่จะมีการวางระเบิดล่วงหน้า...
    แต่ว่า พี่หมี มีคน ๒ คนออกจากป่ามา
    อายุร่วมหลายร้อยปี เมื่อ ๔ ถึง ๕ ปีก่อน
    ประหนึ่งคล้ายๆ พระในดง ทางบ้านเรา.....

    พี่หมีขู่จะเปิดเผยเรื่องต่างดาว
    หากพี่กันยังสงวนท่าทีทำเป็นเงียบอยู่....

    อุกาบาตลูกบะเริ่มที่ตกในรัสเซีย
    โดยความเร็วมากๆนั้น เห็นไหมว่า
    มีวัตถุลึกกลับ ไปยิงให้มันเล็กลงได้ซะงั้น
    นี่หละเรื่องของวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี.....

    โลกไม่จำเป็นต้องรู้. แต่โลกรู้ได้ในเฉพาะที่สิ่ง
    ที่เค้าต้องการให้โลกรู้........ทั้งๆที่มันก็อยู่บนโลกใบนี้

    ภพภูมิมิติทับซ้อนก็เช่นกัน....โลกไม่มีความจำเป็นจะต้องรู้
    แต่คนที่ควรจะรู้ก็มีอยู่บนโลกนี้....
    การจะรู้อะไรในโลกนี้ได้...
    มีอย่างเดียวคือ ทำตัวให้เหนือโลกไว้นั่นเอง....

    เหมือนคำที่ ท่านผู้พลิกนามธรรม
    เป็นรูปธรรมท่านหนึ่งได้กล่าวไว้

    ด้วยข้าพเจ้าเคยถามท่านว่า....
    ทำไมอาจารย์ ถึงได้รู้เรื่องในตำราต่างๆได้
    บอกถูกว่า เล่มไหน หน้าที่เท่าไร
    ทั้งๆที่ อาจารย์ ไม่เคยอ่านมาก่อน....

    ท่านบอกว่า. '' ถ้าเองอยากรุ้ทุกเรื่องในโลก
    เอ็งก็ต้องทำตัว ให้อยู่เหนือโลก ''

    ป้าดโถ่คมแท้ ก็เพียงได้แค่ฟัง.

    จบ นิทาน พี่หมี กับ พี่กัน เอาไว้ก่อน


     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    นิทาน ต่อมา ว่าด้วย มิติทับซ้อน หรือจะซ้อนทับ..
    ไม่ว่าจะเคยได้ยินว่า เมือง บังบด
    เมืองลับแล เมืองพ่อหม้าย แม่หม้าย ฯลฯ
    แต่ประเด็นหลักๆก็คือ ระดับความสุงอยู่ใกล้เคียง
    กับมนุษย์โลกเรานี่หละ....

    ถามว่า แล้วใครบ้างหละที่อยุ่ในมิตินี้
    ก็กลุ่มดวงจิตที่ คิดหรือมีแนวทาง
    ความคิดอะไรที่คล้ายๆกันนั่นหละครับ

    เช่น ถ้าชอบทำบุญในลักษณะคล้ายๆกัน
    เวลาตาย กระแสของดวงจิตมันก็จะดึงกัน
    เข้ามาหากันนั่นเอง.....เช่น บางกลุ่มสมัยก่อน
    คล้ายๆทางจีน ชอบเดินแถวหน้ากระดานถือตำรา
    สวดมนต์. บางกลุ่มก็ชอบการละเล่นๆบางอย่าง
    บางกลุ่มก็อยุ่เป็นหมู่บ้าน บางกลุ่มก็อยู่เพราะ
    ช่วงระหว่างทางของสงคราม อย่างในถ้ำที่เด็ก
    นั่นก็มีกลุ่มนี้อยู่ ความจริง ตามภูเขาที่ไม่สูงมาก
    ก็พอมีให้เห็นเยอะแยะ...บางกลุ่มก็ชอบอยู่เงียบๆสันโดน
    ไม่ค่อยชอบยุงเกี่ยวกับทางโลก ก็มี...
    อย่าลืมว่า สมัยก่อน ยึดถ้ำเป็นที่อยู่อาศัย.......


    แล้วเราจะเห็นเค้าได้ไง มันก็หลายวิธี
    ทั้งที่แบบตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ.....
    ไม่ได้ตั้งใจก็อย่างเช่น ในระหว่างทางของสมาธิ
    หรือในฝัน หรือ ในระหว่างเดินทางผ่านเขตนั้นพอดี....


    แล้วพวกนี้เค้าออกมาได้อย่างไร
    แน่นอน มันต้องมีทางออก ที่เรารู้จักกัน
    ในนาม ว่า ประตูมิติที่เป็นวงกลมนะ
    สงสัยไหมว่าทำไมมันต้องเป็นวงกลมเท่านั้น

    โม้ต่ออีกหน่อย เพราะในระยะทางของการเดินทาง
    ระหว่างมิติหรือจักรวาลมาเวลนั้น(แต่งเพิ่ม)
    มันจะมีเส้นสายพลังงานแบ่งเป็นเส้นเวลาและมิติ
    เป็นตะแกรงคล้ายสี่เหลื่ยมอยู่
    แต่ไม่รู้ว่า ทางวิทยาศาสตร์เค้าเรียกเส้นพวกนี้ว่าอะไรนะ...

    นึกภาพตาม สมมุติว่า มีสี่เหลี่ยมที่มีตะแกรงย่อยๆขนาด
    เท่ากันแบ่งช่องว่างพอดีๆ
    สมมุติขนาด ตะแตรงนี้ มีความกว้างยาวขนาด40x40 ซม.
    ก็จะมีตะแกรงสี่เหลี่ยมย่อยด้านในมากมาย

    ที่ด้านซ้ายสุดเป็นเส้นสี่เหลี่ยม
    สมมุติว่า เป็นพิกัดของดาวโลก
    ที่ด้านขวาสุดเป็นพิกัดของเมืองบังบดเมืองหนึ่งอยู่....
    โดยที่ระทางระหว่างตะแกรงถ้าเดินทางปกติอาจจะใช้
    เวลานับล้านปีแสงพูดเทียบกับไปดาวอื่น แต่กรณีซ้อนทับ
    อาจจะต้องใช้การเดินทางผ่านเวลาในความเร็วมากกว่าแสง
    ระยะเวลาหลายร้อยปีกว่าจะไปถึงพิกัดนั้นได้ พูดง่ายๆ
    ว่าตายไปแล้วถึงจะไปได้
    ถ้าไปด้วยเทคโนโลยีบนโลก.......

    ไอ้ประตูมิติวงกลมนี้นี่หละ
    มันก็จะทำหน้าที่เชื่อมระหว่าง ต้นทางด้านซ้าย
    และปลายทางด้านขวา แล้วมิติและเวลามันสั้นลงมา
    ได้อย่างไร. นึกภาพตาม มันก็จะทำการบิดไอ้
    ตะแกรงสี่เหลี่ยมย่อย ที่อยู่ระหว่างด้านซ้ายด้านขวา
    บิดโค้งเข้ามาจนกระทั้งจุดซ้ายและขวามันมาเกือบจะชนกัน
    ลองนึกภาพการบิด ตะแกรงสี่เหลี่ยมอันหนึงดู
    จับไว้จุดหนึ่งแล้วค่อยๆบิดมันเข้ามา บิดคนละทิศทางนะ
    ก็จะพบว่า ไอ้ตะแกรงที่อยู่ระหว่างทาง ที่มันถูกบิดไป
    คนละทิศทางนั้น มันก็จะหดลงมาเป็นคล้ายๆวงกลม
    ในขณะที่ จุดซ้ายและขวาที่ริมมันก็จะเข้ามาใกล้กันนั่นเอง
    ตรงนี้ ส่วนตัวเรียกว่า การย่นย่อเวลา ไอ้คล้ายๆวงกลม
    ตรงนี้ ไม่แน่ใจว่า ทางวิทย์เค้าเรียกตัวหนอนหรือเปล่า.....
    ตรงนี้นี่เองเป็นที่มาของการเดินทางข้ามมิติและเวลา....
    เพียงแต่ว่า ในปัจจุบัน มนุษย์โลก ยังมีพัฒนาไปเพียงพอ
    ที่จะนำวัตถุที่แข็งตัว ให้ผ่านเข้าประตูมิติทางด้านหนึ่ง
    ไปปรากฏได้อีกทางด้านหนึ่งโดยที่มันยังเสถียร์อยู่นั่นเอง
    นี่หละ ที่เรายังไปไม่ถึง พวกมะนาวต่างตู๊ด......
    ที่เล่าคือหยาบๆ แต่จะบอกว่า. พวกประตูมิติแบบนี้

    ทางพุทธฯเรา รู้และทำได้แบบชิวๆมาตั้งแต่ยุคพุทธกาลแล้ว....
    ด้วยการสั่งให้ประตูนี้เปิด เปิดตรงหน้าตนเอง
    และไปเปิดที่ปลายทาง และก็ดึงมันมาเชื่อมกัน.....

    แล้วก็ผ่านประตูมิติตรงนี้ ก็จะไปยังจุดปลายทางที่ต้องการ
    ได้นั้นเอง...บ้านเราน่าจะคุ้น กับคำว่า ย่นย่อเวลา..
    ที่บางคนอาจงงๆ ว่าเห็นพระเกจิท่านนี้ ที่จังหวัดนี้ แต่ทำไม
    ในเวลาต่างกันไปนาน พบว่าท่านไปอยู่อีกที่หนึ่งได้
    แบบให้งงๆกันเล่นๆ..ว่าท่านมาได้อย่างไร....


    เพียงแต่ต้องเข้าใจว่า การเปิดและเชื่อมต่อประตูมิติ
    ไม่ใช่เรื่องยาก และการผ่านประตูก็ไม่ยากเช่นกัน
    ในกรณีที่ไม่มีกายเนื้อผ่านเข้าไป คือ ผ่านในรูปแบบ
    การส่งดวงจิตตนเองผ่านไป แล้วไปอุปโลกน์สร้างกาย
    อะไรก็ได้ในอีกสถานที่แห่งหนึ่ง....ซึ่งการไปแบบ
    อุปโลกน์สร้างกายนั้น ข้อดีคือ สามารถทำได้
    พร้อมๆกันหลายๆกายในเวลาเดียวกัน...
    เราอาจจะเคยได้ยิน คนพูดกันว่า เห็นท่านเดียวกัน
    ในเวลาเดียวกัน แต่ต่างสถานที่นั่นเอง

    แต่การจะยกทั้งกายเหนือไปได้นั้น
    เป็นคุณสมบัติของดวงจิตที่ส่วนตัวเรียกว่า
    สำเร็จระดับจิตธาตุจะทำกันได้เป็นปกติเท่านั้น....

    ซึ่งมีเยอะแยะมากมายในสมัยยุคพุทธกาล
    ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่พราหม์หรือหลายๆท่านยุคนั้น
    ซึ่งการเดินทางข้ามมิติและเวลาผ่านประตูมิติ
    แบบนี้ ปัจจุบันก็ยังมีให้พบเจออยู่
    เป็นวิธีการที่ ครูบาร์อาจารย์ มีชื่อหลายท่าน
    ที่อยู่ตั้งแต่ยุคพุทธกาล ท่านใช้เพื่อมาสอน
    ใครหรือลูกศิษย์ท่านหรือไปหาใครนั่นหละครับ
    และเป็นวิธีที่ครุบาร์อาจารย์เก่งๆปัจจุบัน ท่านก็ใช้อยู่
    เวลาท่านไหนมาไหน หรือแม้ไปกรณีหาศิษย์
    เหมือนท่านที่อยู่ตั้งแต่พุทธกาล
    ถามว่า ทำไมเกิดขึ้นได้ เพราะมันเป็นเส้นสาย
    พลังงานที่เป็นเส้นมิติและเวลาและมิติ
    มันเลยเหนือคำว่า มิติและเวลานั่นเอง...
    นี่คือเรื่อง ประตูมิติ ที่เป็นวงกลมต่างๆ


    ....ประตูมิติง่ายๆมันก็คือ
    ประตูที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่าง ๒ มิติเวลาที่
    แตกต่างกัน ความจริง ในประเทศไทย
    ตามวัดดังๆที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ศักดิ์สิทธิ์
    เราจะพบเห็นประตูพวกนี้ได้ บริเวณแถว ๓ แยก
    สูงกว่าพื้นดินประมาณ ๒ ถึง ๓ เมตรเป็นปกติ
    เพราะเค้าชอบมาไหว้พระเช่นกัน...
    ส่วนถ้าตามเมืองซ้อนทับ ประตูนี้จะเปิดในระดับ
    เดียวกับความสูงบนโลกเรานี่หละครับ....


    ไม่ใช่การบังตา ก็คือ การทำให้สายตาบนโลก
    มองเห็นโลกเหมือนปกติหรือเห็นในมุมที่แตกต่างออกไป
    เหมือนๆที่เป็นข่าวตอนนี้
    ซึ่งต้องแล้วแต่อารมย์ว่า เค้าจะเปิดให้เมื่อไรนั่นเองครับ

    ส่วนเรื่อง น้ำมัน อดีตหลวงพ่อ มีชื่อ ที่ จ.อุทัยธานี ดังมากๆ
    ท่านได้พูดเรื่องนี้ไว้แล้วตั้งแต่ปี ๒๕๓๘
    รวมทั้งสายแร่ทองคำ แต่ส่วนตัวไม่ทราบว่า
    มีจังหวัดใดบ้าง..ลองค้นดูอาจจะมีฮาได้....

    จบนิทาน....
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    โม้มากจนลืมบอก.
    สวดคาถา พระมหาจักรพรรดิ
    แนะนำว่า ให้ท่องในใจให้ได้
    และลืมตาสวดอย่าขยับซ้าย(เพราะจะคิดเรื่องใหม่)และขวา(เพราะจะคิดเรื่องเก่า)
    และให้มองผ่านนิ้วกลาง
    ที่พนมมือตรงหน้าอก
    สูงประมานหนึ่งนิ้ว(มองผ่าน)
    ถ้าล้าสายตาก็พัก

    ให้สวดไปเรื่อยๆ
    ไม่ต้องสนใจเรื่องวรรคตอน
    และหายใจเข้าออกให้ลึกถึงท้อง
    แต่ทำความรู้สึกว่าลมหายใจหยุด
    ที่ปลายจมูกพอ.


    ทำไปเรื่อยอย่าตกใจ
    ถ้าเห็นอากาศรอบตัว
    มันเคลื่อนไหวได้ ไม่ว่าสีอะไร อย่าสน
    ให้ทำจนเห็นว่ามันใส ด้วยตาเปล่าๆนั่นหละ
    เเละเร็ว วิ่งขึ้นบนได้
    ถือว่าใช้ได้

    ปล ทำได้แล้ว ต่อไปไม่ต้องนาน
    ครั้งละนาที สองนาที
    ผลก็มากกว่าท่องบ่นเป็นชั่วโมง
    ที่พูดเป็นเทคนิคคอลเทอม
    ใช้ก่อนสวมวัถตุมงคลได้หมด
     
  11. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    ว้าววว สาธุๆ คะอาจารย์
    เจนจะฝึกให้ได้คะอาจารย์
     
  12. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    พอดีนึกขึ้นได้เกี่ยวกับ มิติ ประตู กลมๆ
    เป็นฝัน ขอเล่าแบบนิทาน นะคะ อาจารย์
    ฝันนี้ น่าจะ 3-4เดือนที่ผ่านมา แต่ปี 61 นี้แน่นอน

    เจนวิ่งๆ คือเหมือนกำลังวิ่ง วิ่งแบบเร็วๆมาก
    วิ่งไป คุยกับ ผู้ชาย ไม่รู้ใคร เพราะได้ยินแต่เสียง
    น่าจะ แก่ แต่ไม่เห็น ตัวตน ไม่เห็นรูปร่าง
    ได้ยินแต่เสียง ที่ดังมาจาก ขวามือ ในฝัน
    เพราะ ตัวเจน วิ่ง อยู่ริมแม่น้ำโขง
    ซึ่งเขาทำ ริมน้ำ เป็น ทางเดิน มีรั่วขอบกั้น กันตก
    เจนวิ่งไปข้างหน้า ซ้ายมือเจน จะเป็น แม่น้ำโขง
    พอวิ่งไปสักพัก เจนไม่เหนื่อยเลย แต่คุยกับชายปริศนาว่า
    เมื่อไหร่จะหยุดวิ่ง วิ่งอะไรเร็วจัง
    อยากเดินแล้ว อยากชมวิว

    พักหนึ่ง มองออกไป ที่ฝั่งลาว ประเทศเพื่อนบ้าน
    มีกลุ่มควัน ตรงพื้นน้ำ เป็นควันสีต่างๆ เหมือนสีรุ้ง
    วนๆ เป็นลงกลม อยู่ตรงนั้น ใหญ่มาก
    เจนตกใจจึงหยุดดู เสียงปริศนา พูดขึ้นมาว่า
    เร็วๆ นั้น ประตูเปิดแล้ว
    เจนเลยถามต่อ ประตูอะไรหนะ ทำไม เป็นเหมือนม่านควัน
    แล้วทำไม ต้องอยู่ตรงแม่น้ำโขง แล้วทำไมต้องเป็นฝั่งนั่น

    เขาบอกให้เจนรีบไป ประตูเปิดแล้ว
    เจนบอกไปไม่ได้ ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ไปหรอก
    อยู่ตั้งไกล ในใจ คิดถึง ลูกชายสองคนคะ

    เจนก็มองอยู่นานพอควร เป็นควัน ที่ลอยอยู่กับที่
    มีหลายสี ดูแล้วเพลินตา
    ควัน วนๆไปมา มีละอองควัน รอบๆ
    เหมือนควันในคอนเสิร์ต แต่มีหลอกสี
    จะว่าหมอกก็ไม่ใช่ เพราะมันวนๆ อยู่เป็นวงกลมกับที
    จากนั้นก็ตื่น แบบ งงๆ คะ

    ฝันไหนจำได้ จะจำดีมาก
    บางฝัน จำว่าฝันนะ แต่ลืมคะอาจารย์
    55555
    เล่ามาซะยาว จบนิทานน้อย
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    แบบนั้นหละประตูมิติ
    ดีแล้วเคยฝันเห็น...
    พอเห็นคนนั่งพนมมือแบบท่าคุกเข่ากำลังไหว้
    แถวๆนั้นบ้างไหม ญ นะ...

    แต่ถ้าดันมาอยู่บนที่ดินหรือตรงบ้านใคร
    ความซวยจะมาเยือน
    คือ จะมีคนไหลตาย
    ถ้าไม่มีดวงตาย ก็เจ๊บป่วยอีก...
    เพราะมันมีการไหลผ่านของพลังงานร้อนมากไป
    แต่บ้านเราจะเรียกง่ายๆทางผีผ่าน
    จบนิทานน้อย...
     
  14. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    เจนมอง ไม่มีบ้านคนตรงนั้นคะอาจารย์
    แต่เป็น หาดทราย ตรงต้นไม้เกิดเยอะๆ
    ส่วนผู้หญิง ตอนเจนมองดู เจนมองแต่กลุ่มควันประตูมิติ
    ไม่ได้สังเกตอย่างอื่นเลยคะ
    คือแบบว่า ยังอึ้งอยู่ 55555
     
  15. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    วันนี้ มีคำถามมาถามอาจารย์นพ อาจารย์9คะ
    อาจารย์นพบอกว่า ก่อนตื่นนอน ให้หลับตา ทำสมาธิ คิดถึง
    สิ่งที่ผ่านมาในฝัน

    เจนก็หลับตาคะ และหลับไปชั่วขณะ 5555
    เจนรู้สึกถึงเสียงเรียก “ตื่นเทิดชาวไทย” (สามีปลุกคะ)
    ระหว่างเสียงสามีปลุก
    มีภาพหนึ่งแว๊บมาในฝันนิดๆ ช่วงนั้น
    เป็น ภาพเกล็ด เกล็ดพญานาคมั้ยไม่แน่ใจคะ
    คือเจนเห็น เหมือนภาพนี้โฟกัสที่เกล็ด รอบๆคือมืดไปหมด
    เกล็ดสีขียวแก่ มีระยิบระยับออกรุ้งๆด้วยคะ
    และเสียงคนพูดว่า “ศิริบนบานนาคราชองค์ใน”
    และมี7เศียร
    จนท่องๆจำ ในใจ หลายรอบ
    กลัวลืม จนลืมตา รีบคว้าโทรศัพท์ มาจดในโน้ต

    เจนแปลกใจ ชื่ออะไร แปลกมากมาย
    หรือ คนบอก ย้น ให้เรามาตีความเอง
    หรือเจนคิดไปเอง
    หรือวันนี้ที่ฝัน กินข้าวเยอะไป ก็ไม่ได้ดูหนังเยอะน๊า~~
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    ก็ชื่อประมาณนั้นหละไม่แปลกหรอก...
    มีบารมีทางด้านการช่วยเหลือคน
    จากการขอ..หมายถึงคนไปขอเป็นเรื่องๆไป..
    เพราะมีวาจาสิทธิ์

    ปล.ฝันเนาะ...
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    จะนำสาระที่ท่านอาจารย์นพเขียนไว้ข้างบน
    (ลำดับที่ #346 และ #354)
    เกี่ยวกับเวลาเข้าป่า-เข้าถ้ำ

    ความคิดเห็นของผมก็คือ
    *13 ชีวิตที่ตอนนี้ยังหาไม่พบ*
    ทำให้เป็นข่าวใหญ่ดังไปทั่วโลก
    ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับทับซ้อน
    ....ตามข้างล่างนี้หรือไม่

    ผมอ่านแล้ว 2 รอบ
    ผมว่า "น่าคิด" นะครับ
    จึงขออนุญาตนำมาย่อให้อ่าน...
    ...ดังนี้


    ""ธรรมชาติของป่า
    ถ้าเข้าใจธรรมชาติของมัน
    ก็จะได้รักษาร่างกายตนเองได้
    ข้ามต้นไม้บางอย่าง
    ที่ทำให้ตาเห็นทิศเห็นดวงอาทิตย์ตรงข้าม
    อย่างเครืออะไรหลงๆ

    หรือบางแห่งสมมุติเราผ่านเขตเค้า
    พวกนี้อาจทำร้ายร่างกายเราได้
    ส่วนมากเป็นพวกที่อยู่มาก่อนยุคพุทธกาล
    เป็นภูมิเปรต อสูรกายมีฤทธิ์มาก

    แต่ถ้าพนานาค มักจะบำเพ็ญตบะ
    จะออกแนวรำคาญคนที่เข้าไปรบกวน

    แต่ว่า ถ้าเป็นเมืองซ้อนทับ
    หรือมิติทับซ้อน
    ...ยืนเท้าสะเอวรอ
    โดยเฉพาะพวก(คนธรรพ์)
    ส่วนตัวเรียกพวกเด็กแนว
    พวกนี้จะอ่านใจได้ อาจถูกหลอกด้วยเสียง
    ให้ตามเข้าไปในเขตของเค้า
    มีความสามารถในการบังตา
    ทั้งนี้แล้วแต่ว่าเค้าจะปล่อยไม่ปล่อยนั่นแล

    นิทานเฉยๆ บางเรื่องก็เป็นไป
    เพราะขาดความเข้าใจธรรมชาติ

    สุดท้ายอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้
    เป็นที่ธรรมชาติของป่าเท่านั้นเอง

    ต่อมา ว่าด้วย มิติทับซ้อน เมืองบังบด
    เมืองลับแล ระดับความสูงอยู่ใกล้เคียง
    กับมนุษย์โลกเรา
    ถามว่า แล้วใครบ้างหละที่อยุ่ในมิตินี้
    ก็กลุ่มดวงจิตที่ คิดหรือมีแนวทาง
    ความคิดอะไรที่คล้ายๆกันนั่นหละครับ

    แล้วพวกนี้เค้าออกมาได้อย่างไร
    แน่นอน มันต้องมีทางออก
    ที่เรารู้จักกันในนาม ว่า ประตูมิติ

    ....ประตูมิติง่ายๆมันก็คือ
    ประตูที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่าง
    ๒ มิติเวลาที่แตกต่างกัน
    ทำให้สายตาบนโลก
    มองเห็นโลกเหมือนปกติ
    หรือเห็นในมุมที่แตกต่างออกไป

    เหมือนๆที่เป็นข่าวตอนนี้
    ซึ่งต้องแล้วแต่อารมย์ว่า
    เค้าจะเปิดให้เมื่อไรนั่นเองครับ

    ---------------------------------------

    (คคห.ผม...คิดว่า)
    หลังจากค้นหา 13 นักบอลพบแล้ว
    คงจะมีเรื่องเล่ามากมาย
    โดยเฉพาะเรื่องลี้ลับ ทับซ้อน

    ต่อไป...ถ้ำขุนน้ำนางนอน
    ซึ่งเชื่อมต่อกับถ้ำหลวงเชียงราย
    คงจะถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
    เพื่อเปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้าไป
    ...ส่วนหนึ่งไปท่องเที่ยวโดยตรง
    ...ส่วนหนึ่งไปพิสูจน์ความลี้ลับด้วย

    *ถนนโคลนที่เห็นคงได้โอกาสราดยาง
    หรือทำให้เป็นถนนคอนกรีตตลอดสาย*

    ...ถึงตอนนั่น
    ผมก็ไม่แน่ใจว่า...
    จะไปรบกวน...
    สิ่งเร้นลับลี้ลับทั้งหลาย
    เมืองบังบด เมืองมิติทับซ้อน
    และเหล่าพญานาค
    จนเกิดความรำคาญ...หรือไม่
    ????
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2018
  18. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    ว้าวววว
    เดี๋ยวเจนจะลองขอดูบ้างคะ อิอิ
    ของวดนี้ จะได้มั้ยน้อ
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    นิทาน
    พนานาครำคาญแค่หาเรื่องไล่ไปที่อื่น
    เปรตอสูรกายยุคพุทธกาลเอาตาย
    ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมหรือพระ
    แต่โดนพระป่ายุคก่อนเคลียร์แล้ว
    ทหารเก่าก็รอผู้มากบารมีมาโปรด

    กรณีที่เป็นข่าวเป็นพวกที่
    บ้างเรียกเมืองบังบดหรือซ้อนทับ
    แต่ส่วนตัวเรียกว่า คนธรรพ์
    (พอมีเพื่อนเป็นพวกนี้บ้าง)
    เพราะบางทีใส่อะไรคล้ายฮูด
    นิสัยออกเด็กแนวหน่อยๆ
    จะว่ากวนบาทาก็พอได้
    มีฤทธิ์พอตัว
    ที่บังตาเป็นผู้ชายทำ ไม่ใช่เจ้าอะไร
    ที่ดังๆนะครับ
    บุคคลิกผอมๆสูง แต่ดูไหล่กว้าง
    ที่ยืนเท้าสะเอวนั้นหละ
    ปกติพวกนี้ ถ้าไม่คิดเอาอะไร
    หรือทำอะไรพิเรน มักไม่ค่อยมายุ่งครับ
    พวกนี้เค้าสมบัติเยอะพวกคล้ายๆ
    อัญมณีนอกจากอื่นๆ
    คล้ายๆคนมีเมืองแล้วเราจะไปเอาอะไร
    เค้าก็อาจมองคล้ายๆขโมยนั่นหละครับ
    ส่วนตัวองว่าคงเจ้าไปไม่ลึกถึงข้างใน
    ที่ต้องถึงคลานผ่านเข้าไปหรอก

    แต่ก็อาจเป็นด้วยภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ
    ที่วิทยาศาสตร์ยังเข้าไม่ถึงก็เป็นได้
    อาจจะไม่มีเลยก็ได้ครับ

    แต่ถ้าระดับครูบาร์องค์ล่าสุด
    ท่านไปเคลียร์ก็อาจจะออกมา
    ในทางที่ดีได้ครับ

    แต่อย่างที่บอก นิสัยพวกนี้
    ด้วยเป็นพวกมีฤิทธิ์เป็นทุน
    และนิสัยออกแนวๆ
    ก็แล้วแต่เค้าว่าจะออกมาแนวไหน

    ยังไงท้ายนี้ คนไทยก็เป็นกำลังใจให้
    ไม่ว่าจะเหตุจากธรรมชาติที่เรายังเข้าไม่ถึง
    หรือเหตุจากเรื่องเหนือวิสัยก็ตาม
    สุดก็คงภาวนาให้ปลอดภัยกันทุกคนครับ

    แต่ก็ให้เพื่อใจไว้บ้าง
    ส่วนตัวเชื่อว่า ที่ดังๆเป็นข่าว
    ในประเทศไทย ยังไม่มีใครพอมี
    คุณสมบัติมี่จะมีอาวุธทิพย์ที่จะใช้
    เปิดทางในกรณีถูกบังตาได้
    เหมือนทางครูบาร์มีชื่อครับ

    ธรรมชาติควรสมบูรณ์
    เรื่องฝนไม่มีอะไร
    แม้หน้าร้อน บริเวนนั้นก็ตก
    นี้เข้าหน้าฝนจึงไม่แปลก
    ที่ครูบาร์หนุ่มอีกรูปท่านว่า
    ทำพิธีไล่ฝนให้นะถูกแล้ว
    ธรรมชาติเป็นไปตามเหตุที่พอเพียง
    อยู่อย่างนั้นจะดีกว่าครับ
    พอสมเหตุสมผลพอ
    จบนิทาน พอขำๆ

    ฟังหูไว้หูเด้อ
     
  20. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    วันก่อนๆฝันว่าเข้าไปในถ้ำเห็นหลวงพ่อไปด้วย เห็นพระพุทธรูปเรียงอยู่ผนังถ้ำ เดินดูอยู่ เหมือนท่านบอกเลขด้วย 2 ตัว ว่าจะลองเสี่ยงดูมีโอกาสมั้ยคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...