สงสัยมากครับ การแยก-รูป-นาม-จะแยกไปเพื่ออะไร..ในเมื่อ..

นี้ไง เจริญมรรคมีองศ์ 8 ที่พระพุทธเจ้าบอกสายกลาง เป็นปัตจัตตังรู้ได้ด้วยตัวเอง

 

พุทธเจ้า ท่านไม่มีอุปนิสัยเหยียดสัตว์โลก หรอกฮับ
ท่านทรงจำแนกไว้ บัวแค่สามเหล่า
ส่วน เหล่าที่สี่นั้น
เป็นพวกอัดดะกะละแมจาร มาบัญญัติที่หลังครับ
ฟิ้ว ๆ ๆ

 

ข้อต่อมานะครับ

ก็ถ้าคุณรู้ไม่ทันตัณหา ซึ่งมันมีปัจจัยก่อนหน้ามาตามลำดับ (ไล่ตามที่คุณว่ามานั่นแหละครับ) ขนาดตัณหายังไม่ทันเลย แล้วปัจจัยที่เกิดก่อนหน้านี้มันจะทันจริงๆเหรอครับ มันจะไม่ใช่เป็นการหลงนั่งคิดเอาเองทั้งหมดเหรอครับ แล้วไม่เห็นเหรอครับว่า ผมแค่ทวนเหตุปัจจัยให้คุณดูแค่ชั้นเดียวคือ เวทนา คุณไม่เก็ทหรอกเหรอครับ ว่าผมหมายถึงคุณยังไม่รู้จักปฏิจจสมุปบาทจริงหรอกครับ ไม่งั้นผมจะพูดทำไมล่ะครับว่า ปฏิจจฯไม่ต้องเสียเวลาไปพูดถึง ไม่เป็นก้าวแน่ๆ ก็เอาแค่ตัณหายังดูไม่ออก ว่าเผลอมีความหลงเหนี่ยวรั้งหรือผลักไสอยู่หรือไม่ ยังดูไม่ออก หรือไม่รู้เลยด้วยซ้ำครับว่ากำลังหลงอยู่

 

คือคุณจะสั่งสมสุตตะ คุณก็สั่งสมไป ผมไม่ได้ว่า แต่พอผมพูดถึงการปฏิบัติ คือผมขยับเข้ามาศึกษาในส่วนที่เป็นกริยาที่เป็นนามธรรมที่สุตตะเคยมีกล่าวไว้ คุณกลับค้าน และค้านแปลกๆเสียด้วย โดยคุณมาบอกผมว่า "คุณจะทำใจ-จิต-ให้มัฌชิมาปฏิปทาได้ยังไงครับ-ในเมื่อตัวคุณยังเต็มไปด้วยกิเลส-เลือกข้าง-แบ่งฝ่าย-ทำมาหากิน..ฯล" แปลกไหมคือ จะให้เขาย่ำอยู่กับที่

และจากประโยคที่คุณบอกว่า

"ผมตอบขยายให้เลยนะครับ ว่าใช่เลย..การตัดวงจรปฏิจจะสมุปบาทได้ ในปัจจุบัน ตัดผัสสะแล้วรีบดึงจิตกลับมาเสาเขื่อน-เสาหลัก-ที่ลมหายใจหรือกาย..นี่คือ การละนันทิ-ละอกุศล-ละสังโยชน์ได้บางตัว-ละความเพลินติดใน การคิด."

ก็แปลว่าคุณเข้าใจว่าทำแบบคุณแล้วจะละสังโยชน์ได้บางตัวไง ซึ่งจริงๆคุณมีท่าทีอย่างนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เขาถึงได้มาพูดมาบอกกันว่าไม่ใช่แค่ที่คิดนะ แต่คุณก็จะเลี่ยงคือโกหกนั่นแหละว่า คุณแค่ศึกษาปริยัติ ยังไม่ได้ปฏิบัติเลย ยังไม่ได้ปฏิบัติ แต่พูดไปถึงละสังโยชน์ได้บางตัว??

ตรงไปตรงมาหน่อยดีไหมครับ ถ้าไม่ซื่อตรงต่อความจริง เรื่องที่จะเข้าถึงสัจธรรมความจริงย่อมเป็นไปไม่ได้เลย คุณจำเอาไว้อุปนิสัยของคนที่จะเข้าถึงความจริง หรือสัจธรรมความจริงได้ คนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่อความสัตย์จริงเป็นเบื้องต้นให้เป็นก่อน เขาถึงได้มีคำว่า ยอมตายดีกว่าศีลขาดไงครับ นั่นคือเขาขอซื่อตรงต่อความสัตย์จริงไงครับ ไม่ยอมเห็นแก่ตัว ไม่เอาตัวรอดโดยยอมเสียสัตย์ไงครับ

ผมไม่ได้โกรธอะไรคุณหรอกนะ แค่มาเพิ่มการสังเกตให้กันแค่นั้นเอง ทุกอย่างอยู่ที่คุณเองแหละ

 

พระสัมมาสอนสัตว์ทั้ง 4เหล่านั่นแหล่ะ
แต่เหล่าที่4 ปทะปรมะ
สดับแล้วย่อมไม่เข้าใจได้ แต่ก็จะได้อุปนิสัย
ติดไปเพื่อพัฒนาต่อยอดใน
ภพชาติถัดๆ ไป
เป็นพระมหากรุณาฮับ
ไม่มีอะไรเหยียดสัตว์ฮับ

 

พระพุทธองค์ ตำแนกสัตว์เป็นบัว 4 เหล่า
ผมอ้างอิงแค่นี้
ส่วนคำว่า เป็นอาหารเต่าปลาปลาเท่านั้น
แมวพูดเองฮับถ้าไม่เหมาะสมต้องกราบขอขมา
ต่อพระรัตนตรัย "สัพพังอัปราทัง อุกาสะขมามิภันเต"

 

สุดท้ายครับ

มีเหตุผลอะไรต้องไปนั่งแยกรูปแยกนาม อธิบายไปหมดแล้ว เป็นไปตามกำลังแห่งพละทั้ง 5 เอง มันเป็นทางผ่าน เป็นภาคบังคับ เป็นปัญญาสัมมาทิฏฐิเบื้องต้นที่จะทำให้แยกแยะระหว่างความหลงหรือไม่หลงออก เข้าใจในอุปาทานขันธ์ 5 เข้าใจในทุกข์ ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ์ทั้ง 5 เป็นตัวทุกข์ ใครปฏิเสธการแยกรูปแยกนามคนนั้นยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ ยกเว้นกรณีของคนที่ไม่รู้คำบัญญัติมาก่อน แต่การเข้าใจในกริยาอาการแห่งทุกข์ย่อมไม่แตกต่างกัน

 

ดูท่าคุณ-จะคุยไม่รู้เรื่องซะแล้ว ไปข้างๆคูๆได้ พอนะครับ ผมไม่อธิบายแล้ว พูดไปหมดแล้ว คุณก็เอาคำเดิมๆมาโต้อีก หาจุดจบไมไ่ด้ พอนะคัรบ.

 

โกหก-คุยธรรมทำไมต้องโกหก-คุณเข้าป่าไปใหญ่พอจบครับ...เพราะอธิบายไปหมดแล้ว..

ดูท่าคุณ-จะคุยไม่รู้เรื่องซะแล้ว ไปข้างๆคูๆ-ออกทะเลไปเรื่อย-พอนะครับ ผมไม่อธิบายแล้ว พูดไปหมดแล้วก็เอาคำเดิมๆมาโต้อีก หาจุดจบไมไ่ด้ พอนะคัรบ..หาว่าโกหกอีกเฮ้อออ...

 

รูป เราเห็นเหตุว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป นามเราเห็นว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ละได้ทั้งความพอใจและความไม่พอใจ ไม่เพ่งเล็งพยาบาท อย่าถือในกริยาอาการคน เรามีสติ ตั้งตนชอบ เป็นตัวของตัวเอง อยากเป็นพระโสดาบันในเบื้องต้นต้องศรัทธาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และถือศีล 5 และไม่เห็นเหตุว่าเป็นตัวตน ไม่ถือ ไม่ถือในอาการธรรม

 

คุณ..คุยไม่รู้เรื่องแล้วครับ คนอื่นเขาอ่านเข้าใจมากมายมีแต่คุณนี่แหละ ยึดแต่ความเห้นตนเอง จะให้เป็น "มัฌชิมา" ให้ได้ทั้งที่ยังไม่ลงมือทำเลย พอนะครับ ผมงดตอบคุณละ

ละความเพลินติดในความคิดได้ เป็นการละสังโยชน์ไหม..แม้จะชั่วคราว ทำบ่อยๆจนจิตเป็นสมาธิทำได้ไหม เสาเขื่อน-เสาหลัก-นะ..ไหนตอยมาซิครับ

 

โรคจิต..ต้องไปหาหมอ คุณ..NOPPAKAN..

..ไปนอนเลียแผล-เจ้าคิด-เจ้าแค้น อยู่7วัน -แถมเจ้าเล่ห์ -แหมออกตัวก่อนนะ ที่มาตอบช้าเพราะข้านี่ไม่พร้อม-เก่งจัง -
พอคิดแค้นได้-กลับมาอาเจียน เขียนซะ 7 หน้ากระดาษ
ไปด่า -คนอื่นที่เขาไม่รู้เรื่องด้วย หยาบคายมากจริงๆพาลชนมากๆ-คนที่เขาเข้ามาแสดงความเห็น-ไปด่าเขาหมดทุกคน..เขาไม่รู้เรื่องด้วยไปด่าเขาทำไมนี่
มัน-ยาวไปผมไม่อ่านนะ ..คนพาล-พวกหมอตำแย-อย่ามายกตนเป็นหมอผีเลย-จิตแสง สี เสียง-ทำนาย ได้หมด ..โรคจิต.ถาวร.ยาวไปผมไม่อ่านครับ- ไม่คุยละ เดี๋ยวติดบ้า ตามไปด้วย

 

พระพุทธองค์ท่านทรงจำแนกไว้แค่สามเหล่าครับ
ส่วนเหล่าที่สี่นั้นเป็นพวกอัตถกถาจารแต่งเพิ่ม
นะ
ไม่ยาก ผู้โปรคือพระกูเกิล ท่านวิสัชนาได้ดีกว่าป๋ม
อย่าเอาอะไรไปยัดพระโอฐท่านเลย
กราบ

 

มา start ด้วยความสัตย์ซื่อต่อพุทธองค์ดีกว่านะลุงแมว
อะไรท่านตรัสก็บอกว่าเป็นพุทธพจน์ อะไรไม่ใด้ตรัสก็ว่าไม่ได้ตรัส
อย่าเอาอะไรไปยัดพุทธโอษฐ์อีกเลย
นะ
เรื่องง่ายๆ ค่อยๆโน้มไปหาท่านที่ละนิด
มือท่านเอื้อมอยู่รำไร
พิมพ์แล้วขนหัวลุก พอละ
กราบ

 

อาจารย์..เจ้า NEOWORLD.นี่

สงเคราะห์เขาด้วย น่าสงสาร ..ไอคิวต่ำลง-ต่ำลง-ต่ำลง-ทุกวัน-ทุกวัน--ดูจากกริยา เจ้าเล่ห์แสนกล- ไม่สมกับเป็นนักปฏิบัติธรรมเลย ..เข้ามาเพื่อยุยง-ส่งเสริม-ให้คนทะเลาะกัน-และหวังเพียง ยอด กดไลท์-กดแชร์-เลี้ยงจิตใจ .
.โถ..น่าสงสารออกครับ.. ไม่มีที่ไหนเขายอมรับกระมัง

 

มันเป็นไปตาม ฉันทะ ผัสสะ อะฮับ
พอดีเห็นแววว่ากำลังจะโอน..
ก็ขอส่งลูกเชียร์หน่อยเท่านั้นเอง

พี่เกิก ไปแล้วก็อย่าเพิ่งสิ้นศรัทธาในมนุษย์
ฮูป-นา แล้วกัล อิอิ

 

ถามจริงๆ..อาจารย์ มาอยู่ห้องนี้ได้ยังไงตั้งนานนนนน..คนบ้า จำนวนมหาศาล เลยที่นี่ ผมชักทนไม่ไหว-จะกราบลาแล้วครับ..กิกิ

 

เอิ่ม
ถ้าเข้าใจว่าผมคือ คุณนิวรณ์ เล่าปัง เอกรวี นี่ไม่ใช่นะครับ
คนละคนกัน
พอดีแค่จรไปจรมา
ไม่ได้อยู่ที่ไหน

 

คนพุทธรู้บัว 3 เหล่ากี่คน
ถ้าไม่ไปรับรู้จากสำนักพุทธวจนะ นาป่าพง
ต่างก็รู็ว่า 4 เหล่าตามแบบเรียนของหลัก
สูตรวิชาศีลธรรมของศธ.ทั้งนั้นฮับ

 

ดีแล้ว ๆ จิตเกาะจานจร
ไว้ให้แน่นๆ
ตอนทิ้งดิ่งลง
อเวจีเพราะสติหลุดนี่แหล่ะไปด้วยกันไม่เหงา