*เครื่องรางของขลัง/วัตถุมงคล...รายการละ 100 บ./พร้อมส่ง บูชา 3 รายการ แถม 1 รายการ...

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 4 มิถุนายน 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่507 พระผงพระพุทธชินราช หลวงพ่อพุทธา พุทธจิตโต วัดป่าหนองยาว อ.เดชอุดม จ.อุบลฯ หลังมีเกสา มี 2 องค์ บูชาองค์ละ 150บาท
    หลวงพ่อพุทธา พุทธจิตโต เป็นอริยสงฆ์สายกรรมฐานวิปัสสะนา เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าหนองยาว ต่อจาก หลวงพ่อสาย เป็นพระที่ประชาชนพี่น้องในพื้นที่ต่างศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง สิริอายุท่านขณะนี้ 71 ปี เป็นพระสงฆ์ที่น่านับถือศรัทธาอย่างยิ่งครับ
    องคที่1 IMG_20181102_055605.jpg IMG_20181102_055536.jpg
    องคที่2 IMG_20181102_055526.jpg IMG_20181102_060405.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2018
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่508 พระผงหลวงพ่อเงิน วัดท้ายน้ำ จ.พิจิตร รุ่นกระเบื้องหลังคาโบสถ์
    คาถาหลวงพ่อเงิน วัดท้ายน้ำ
    อุมะอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ
    คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    IMG_20181102_055642.jpg IMG_20181102_055633.jpg qd.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2018
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่509 ลูกอมปิดตาเนื้อชานหมากหัวใจพระสีวลี ปี51 หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    หลวงปู่ทิม อตตสันโต วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา ในบรรดาเครื่องรางของขลังที่นักสะสมนิยมยอมรับในอดีตนั้น ผู้สร้างจะต้องมากล้นด้วยบารมีอิทธิ เวทพุทธาคม กิตติคุณ

    ด้วยมนค์ปัสสาสะปราณชีพอันเข้มขลัง เพราะผู้ได้รับมักจะนิยมทดลองของกันว่าดีจริงหรือไม่ เรียกได้ว่า “ของดีจริงต้องลองกันได้” ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นในวัตถุมงคลว่ามีเมตตามหานิยม, เจริญลาภผล, แคล้ว คลาด, บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไร โจรภัยกันไปพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย ถ้ามีไว้อยู่ในบ้านบูชา หรือพกติดตัวก็จะทรงอิทธิพลังพุทธาคมปกป้องคุ้มกันภัยจากภยันตรายทั้งปวง

    หลวงปู่ทิม อตตสันโต ถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าในยุคปัจจุบัน ด้วยความเมตตาอันไม่มีประมาณของท่านจึงได้รับฉายาว่า "เทพเจ้าแห่งความเมตตา" ชานหมากของท่านถือเป็นของมงคลสูงสุดในด้านความเมตตา ดังที่หลวงปู่ท่านเคยกล่าวไว้เสมอว่า "มีอะไรให้คิดถึงชานหมากหลวงปู่" และ "เรื่องเมตตาฉันไม่เป็นรองใคร"

    ลุกอมชานหมากหัวใจพระสีวลี นะชาลีติ ของหลวงปู่ทิมนี้ ถือเป็นเครื่องรางของหลวงปู่ทิมอีกชิ้นหนึ่งที่หวังผลทางด้านโภคทรัพย์เป็น สำคัญโดยได้นำเอาชานหมากของหลวงปู่ที่มีพุทธคุณอันลือเลื่องมาผสมกับผง พุทธคุณต่างๆ แล้วกดออกมาเป็นลูกอมพระปิดตาด้านหลังบรรจุดด้วยพระคาถาโภคทรัพย์ นะชาลีติ อันเป็นคาถาประจำตัวของ

    หลวงปู่ทิม โดยท่านตั้งใจปลุกเสกลูกอมรุ่นนี้มากเพื่อให้ลุกหลานได้บูชาเป็นเศรษฐี มีสุขกันทุกคนหลวงปู่ทิม ท่านได้ใช้เมตตาและบารมีในการปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้วยอิทธิเวทพุทธาคม อย่างลึกล้ำยากที่จะเสมอเหมือน ตามตำรับตำราของบูรพาจารย์ของท่าน

    ซึ่งคุณวิเศษนี้ เกิดจากเนื้อหมากและน้ำหมากของหลวงปู่ ผสมกับ น้ำผึ้ง และกล้วยน้ำว้าสุก บดผสมปั้นและกดพิมพ์เป็นก้อนกลมพิมพ์พระภควัมบดีและยันต์หัวใจพระสีวลี นะ ชา ลี ติ ลายมือหลวงปู่ทิมแลดูมีความ "ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง แต่สิ่งสำคัญหากจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิผล แห่งเดชานุภาพทั้งปวง หลวงปู่ทิมได้ให้เคล็ดไว้ว่า "ต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรม และชานหมากนี้ให้ติดตัวไว้ มีเหตุการณ์สิ่งใดๆ ให้นึกถึงหลวงปู่"

    IMG_20181102_055735.jpg IMG_20181102_055725.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2018
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่510 เหรียญพระพุทธศิลามุนีหลวงพ่อหิน วัดห้วยตะโก จ.นครปฐม
    **พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากองค์หนึ่งของ(จ.นครปฐม)** หลวงพ่อหิน วัดห้วยตะโก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    พระพุทธศิลามุนี หรือ หลวงพ่อหิน วัดห้วยตะโก เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากองค์หนึ่งของจังหวัดนครปฐม เป็นที่นับถือของชาวจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง
    หลวงพ่อหิน
    เป็นพระที่เป็นสักการะบูชาของชาวตำบลพะเนียด ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อหิน ลอยน้ำมาจากที่อื่นซึ่งมีหลายวัดอัญเชิญท่านขึ้นจากน้ำแต่ไม่มีวัดใดสามารถอัญเชิญขึ้นได้ แต่เมื่อมาถึงท่าน้ำวัดห้วยตะโก เจ้าอาวาสวัดห้วยตะโกอัญเชิญขึ้นท่านก็ขึ้นมาโดยง่ายดาย
    IMG_20181102_055717.jpg IMG_20181102_055708.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2018
  5. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  6. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  7. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  8. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    ยังอยู่มั้ยคะ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจอง 508, 509, 510 และ 458 (อยู่ครับ)
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่511 ผ้ายันต์พันล้าน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม ขนาด 3x4 นิ้ว ปี35 ซองเดิม
    คุณshaj ปิดครับ
    IMG_20181103_060207.jpg IMG_20181103_060150.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2018
  11. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,883
    ค่าพลัง:
    +6,811
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่512 แผ่นทองแดงปั๊มยันต์ไตรลักษณ์ ขนาด 3.5x4 นิ้ว
    คุณshaj ปิดครับ
    ไตรลักษณ์ เป็นลักษณะตามธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง คือมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป(อนิจจัง ไม่เที่ยง ทุกขัง เปลี่ยนแปลงไป อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้) อยู่ทุกขณะ ตัวอย่าง ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า ที่มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่
    และดับไป ของแต่ละประจุ แต่ละขณะ อย่างรวดเร็ว จนเป็นเป็นปรากฏการณ์ฟ้าผ่า ชีวิตของมนุษย์
    ก็เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติชนิดหนึ่ง เป็นการส่งผ่านของพลังงานแต่ละขณะ เช่นพลังงานแสง พลังงานเสียง
    และพลังงานอื่นๆ แต่ละขณะจึงเป็นการเกิดดับ อย่างสมบูรณ์แต่ละขณะ เมื่อเป็นเช่นนี้ ในสัจธรรม อดีตจึงไม่มี

    แล้วเราจะเชื่อได้อย่างไรว่าอดีตไม่มี? ถามว่าสิ่งที่เห็นในอดีต ทำให้เป็นสุข หรือเป็นทุกข์ หรือไม่ ตอบว่าไม่
    เพราะ สิ่งเดียวกันที่เห็น คนหนึ่งกับบอกว่าสุข คนหนึ่งกลับบอกว่าทุกข์ คนหนึ่งอาจบอกว่าเป็นสิ่งนั้น
    คนหนึ่งกลับบอกว่าเป็นสิ่งนี้ คนหนึ่งบอกว่าเป็นเพียงธาตุ 4 คนหนึ่งบอกว่าเป็นพลังงานแสงเท่านั้น
    คนหนึ่งบอกว่าสิ่งนั้นไม่มี จึงได้ข้อสรุปว่า ทุกสิ่งเกิดจากการปรุงแต่งของจิตเท่านั้น
    จิตที่ปรุงแต่งความบริสุทธิ์ของพลังงานให้เป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้

    เมื่อแจ้งในไตรลักษณ์แล้ว ทุกข์ในขันธ์ 5 ก็จะลดลง น้อยลง จนถึงขั้นหมดไป
    เพราะเมื่ออดีตดับไปอย่างสิ้นเชิงด้วยจิตที่รู้ในไตรลักษณ์ แล้ว จะเอาอะไรมาเทียบให้เป็น สุข หรือทุกข์ เป็น สิ่งนั้น สิ่งนี้
    ที่เหลือก็เพียง การกระทบของพลังงานที่บริสุทธิ์ โดยปราศจากความรู้ แต่เต็มไปด้วยสติ เป็นการกระทบตามธรรมชาติ ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปแต่ละขณะ ตามธรรมชาติ (เข้าถึงความเป็นปรมัตถธรรม)

    เมื่อเรามีความปรารถนา ในการเห็น เราจึงมีพลังแสง
    เมื่อเรามีความปรารถนา ในการได้ยิน เราจึงมีพลังงานเสียง
    เมื่อเรามีความปรารถนา ในการรู้กลิ่น รู้รส เราจึงมีพลังงานในรูปแบบต่างๆ
    เมื่อเรามีความปรารถนา ในการสัมผัส เราจึงมีธาตุ 4
    เมื่อเรามีความปรารถนาครบทั้งหมดเช่นนี้ จึงส่งผลให้ เราต้องมาอยู่บนโลกมนุษย์
    ที่มีความปรารถนาในขันธ์ทั้ง 5 และ ธาตุ 4 ร่วมกัน

    เมื่อเราหมดความปรารถนา ในการเห็น เราจะ มีเพียงพลังงานเสียง พลังงานในรูปต่างๆ และพลังงานกล(การสัมผัส)
    เมื่อเราหมดความปรารถนา ในการเห็น การได้ยิน เราจึง มีเพียงพลังงานในรูปแบบต่างๆ และและพลังงานกล(การสัมผัส)
    เมื่อเราหมดความปรารถนา ในการเห็น การได้ยิน ในการรู้กลิ่น รู้รส เราจึง มีเพียงพลังงานในรูปแบบและพลังงานกล(การสัมผัส)


    แล้วทำไมเราจึงมีขันธ์ 5 และธาตุ 4 ที่เป็นทุกข์?

    ก็เพราะเรามีความปรารถนา ในขันธ์ 5 และธาตุ 4 ความปรารถนานี้เกิดจากอวิชชาความไม่รู้ของจิด
    คือความไม่รู้ในความเป็นไปในสัจจธรรม ของชีวิต ว่ามันไม่ใช่ตัวเรา ของเรา
    มันเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น (คือการไม่แจ้งในไตรลักษณ์ และปรมัตถธรรมนั้นเอง)
    จึงก่อให้เกิด การปรุงแต่งในพลังงานที่เกิดดับอย่างบริสุทธิ์ และเกิดการสร้างพลังงานด้วยจิตที่ไม่แจ้งในไตรลักษณ์
    อยู่ตลอดเวลา

    และความไม่รู้ว่าชีวิตเป็นเพียงปรากฏธรรมชาติ ตกอยู่ภายใต้ครรลองของพลังงาน นี้เอง
    ที่ก่อให้เกิดความกลัว ทั้งที่จริง ตามครรลองของพลังงานแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อะไรจะไม่เกิดก็จะไม่เกิด
    แต่เพราะความไม่รู้ นี้ จึงก่อให้เกิดการปรุงแต่ง เพื่อให้ได้มา และเพื่อหลบเลี่ยง ซึ่งทำไปก็เท่านั้น
    อะไรจะเกิดหากเป็นไปตามครรลองของพลังงานแล้วมันก็ต้องเกิด
    อะไรไม่อยากให้เกิด หากเป็นไปตามครรลองของพลังงานแล้วมันก็จะไม่เกิด

    ดังนั้น เมื่อแจ้งในไตรลักษณ์บ้างแล้ว เราก็จะมีความกล้าหาญ ในคามเป็นไปของชีวิตเพิ่มมากขึ้น

    และเมื่อแจ้งในไตรลักษณ์บ้างแล้ว ความปรารถนาในรูปแบบต่างๆ ลดน้อยลง ควรหมั่นพิจารณาอยู่เรื่อยๆ
    เมื่อจิตไม่หวนถึงอดีต อยู่กับปัจจุบัน รับและทุกสรรพสิ่ง ด้วยความบริสุทธ์ตามธรรมชาติ
    ปราศจากการปรุงแต่ง ความรู้ เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ซึ่งแท้จริงชีวิตก็เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ขอให้รู้
    “ มีจุดต่อมแห่งผู้รู้เมื่อใด นั่นและคือตัวทุกข์”

    แต่เมื่อเราพยายามศึกษาไตรลักษณ์ ในขณะที่ยังมีธาตุ 4 และขันธ์ 5 อยู่ จะทำอย่างไร?

    จิตบริสุทธ์เป็นธรรมชาติก็อยู่ส่วนจิต ส่วนธาตุ 4 และขันธ์ 5 ก็ปล่อยให้เป็นไปตามความธรรมชาติของมัน
    ตามการเกิดดับของพลังงานแต่ละขณะ

    ***********************************

    อนิจจัง คือความไม่เที่ยง
    เริ่มต้นพระพุทธองค์ให้ดูความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง
    ลงท้ายน้อมเข้ามาที่กายใจ
    โดยกำหนด "มุมมอง" ไว้ว่ากายคือส่วนที่เป็นธาตุแข็ง ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม
    ดูง่ายๆว่าไออุ่นในร่างเราคงที่ไหม ดูว่าส่วนที่แข็งจะขืนอยู่ในสภาพเดิมได้ไหม
    ส่วนใจนั้น ให้กำหนดมุมมองไว้เป็นความสุข ทุกข์ เฉย ไม่เที่ยงเหมือนกัน
    หรือกำหนดมุมมองไว้เป็นความหมายรู้หมายจำ ไม่เที่ยงเหมือนกัน
    หรือกำหนดมุมมองไว้เป็นความตั้งใจทำดี ทำชั่ว ทำกิจปกติ ไม่เที่ยงเหมือนกัน
    หรือกำหนดมุมมองไว้เป็นความรู้ชัดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจคิด ไม่เที่ยงเหมือนกัน
    เรียกว่ามองกายใจโดยความเป็นขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

    ทุกขัง คือความทนอยู่ในสภาพใดๆถาวรไม่ได้
    เมื่อเห็นกายใจโดยความเป็นของไม่เที่ยง
    นานเข้าก็ย่อมตระหนัก และเกิดความเห็นแจ้ง ประจักษ์ชัด
    ว่ากายใจนี้ จะอยู่ในสภาพใดๆก็ตาม ย่อมทนรักษาสภาพนั้นๆไม่ได้เลย

    อนัตตา คือความไม่ใช่ตัวตน ไม่มีเจ้าของ สักแต่มีองค์ประกอบประชุมกัน
    เมื่อเห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ของกายใจ
    ย่อมเกิดความรู้ ความมีสติที่จะเห็นตามจริงว่ากายใจไม่ใช่ตัวตน ไม่มีเจ้าของ
    ไม่มีใครบัญชาว่าจงคงสภาพอย่างนี้ตลอดไป จงจำให้ได้อย่างนี้ถาวร
    อีกประการหนึ่ง พระพุทธองค์ให้กำหนดรู้ความเป็นอนัตตาโดยตรง
    ผ่านการเห็นแบบแยกแยะ ว่าอย่างนี้ตา อย่างนี้รูปที่ตาเห็น อย่างนี้อาการเห็น
    เมื่อเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้ม ได้แตะ ได้คิดนึก
    ก็เหมือนไม้สีกันเกิดไฟ ไฟไม่เป็นตัวของตัวเอง แยกไม้ออกไฟก็ดับ
    เหมือนกับสุข ทุกข์ เฉย ย่อมไม่เกิดขึ้นเองลอยๆ แต่มีเหตุคือการประชุมกันของอายตนะ
    เมื่อเห็นแจ้งก็เบื่อหน่าย คลายความยึดติดเสียได้ว่านั่นเป็นตัวเป็นตน
    แต่ทราบชัดว่าสักว่ามีปรากฏการณ์เพราะเหตุปัจจัยประชุมกันเท่านั้น
    ผู้เห็นแจ้งคือจิต ผู้เป็นอิสระคือจิต ผู้หลุดพ้นคือจิต

    IMG_20181103_060223.jpg 294.gif
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2018
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่513 พระผงน้ำมันรูปเหมือน ทวดเปลื้อง อายุ 108ปี วัดสระแก้ว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์
    ประวัติย่อหลวงปู่เปลื้อง จัตตสัลโลหรือพระครุนิวิฐธรรมสาร เจ้าอาวาสวัดลาดยาว พระเกจิที่มีชื่อเสียงและอายุกาลพรรษาสูงที่สุดรูปหนึ่งของนครสวรรค์ เดิมชื่อเปลื้อง แย้มสุข เป็นชาวชัยนาท เกิดเมื่อวันอังคารที่ 20 พ.ค.2445 ที่บ้านท่าฉนวน ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท อุปสมบทเมื่อพ.ศ. 2466 โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระธรรมปัญญาบดี (สวัสดิ์ กิตติสาโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทัตโต) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงปู่เปลื้อง เป็นพระเกจิอาจารย์ 5 แผ่นดิน ชาวลาดยาวมักเรียกว่าหลวงปู่ใหญ่ 5 แผ่นดิน ได้ศึกษาวิทยาคมจากพระเถระที่มีชื่อเสียงหลายรูปด้วยกัน เช่น สมเด้จพระวันรัต(เฮง เขมจารี) วัดมหาธาตุ สมเด้จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)วัดเทพสิรินทร์ หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน นครสวรรค์ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์

    หลวงปู่เปลื้อง เป็นพระเถระที่มีจริยาวัตรงดงาม มีเมตตาแก่ประชาชนทั่วไปโดยไม่เลือกวรรณะ ท่านมักได้รับนิมนต์ให้ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษก หรือนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วประเทศ ซึ่งวัตถุมงคลของท่านจะเป็นที่นิยมของประชาชนทั่วไปทั้งใกล้ไกล ซึ่งวัตถุมงคลส่วนใหญ่ของท่านมักจะเสกและสร้างขึ้นเพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยมีคณะศิษย์มาขออนุญาตจัดสร้างและแจกจ่ายกันไปในหมู่ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในตัวหลวงปู่ วัตถุมงคลส่วนหนึ่งก็จะให้หลวงปู่ไว้แจกแก่ประชาชนทั่วไปที่เดินทางมากราบไหว้ท่าน บางรุ่นก็จะสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอน ล่าสุดมีการสร้างเหรียญรูปหลวงปู่ขึ้นเพื่อหาทุนสร้างวิหาร กุฏิสงฆ์ และปิดทองพระประธานในวิหาร ชื่อรุ่นว่า รุ่นก้าวหน้า อายุยืน นอกจากนี้ยังมีการสร้างพระเศรษฐีนวโกฎิ พระผง-พระดินจอมปลวก รูปหล่อ เครื่องรางรูปเสือ ซึ่งวัตถุมงคลของหลวงปู่จะมีประสบการณ์ทางด้าน เมตตา ค้าขาย คลาดแคล้ว และวัตถุมงคลส่วนใหญ่จะหมดลงในระยะเวลาไม่นาน
    IMG_20181103_062332.jpg IMG_20181103_062324.jpg
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่514 สิงห์เมตตาบารมี หลวงพ่อล้อม วัดป่าเมตตาธรรม จ.ร้อยเอ็ด เนื้อผง ด้านหลังฝังตะกรุด 3 ดอก อักขระยันต์ พร้อมกล่องเดิม
    หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ.ร้อยเอ็ด อมตะอริยะสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาแห่งลุ่มแม่น้ำชี อดีตเจ้าอาวาสวัดสว่างท่าสี ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ ซึ่งได้รับสมญานามว่า "หลวงพ่อหมอยาเทวดา" ครั้งยังมีชีวิตท่านดังมากในเรื่อง "น้ำมนต์" มีความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ว่า เสกล้างหน้าเป็นสิริมงคล เสกน้ำมนต์แก้เสนียดจัญไรภัยพิบัตินานาทั้งปวง แก้ถูกกระทำย่ำยี ปราบผีสางนางไม้ ช่วยให้คลอดบุตรง่าย ฯลฯ และที่ขึ้นชื่อลือชาคือ การรักษาคนบ้าวิกลจริตหายเป็นปลิดทิ้ง ท่านจะอบรมสั่งสอนชาวบ้านให้ตั้งอยู่ในศีลธรรม ยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    ศิษย์ที่เป็นบรรพชิตรูปหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงในปัจจุบัน คือ พระครูวิมลสังวรคุณ หรือ หลวงพ่อล้อม สีลสังวโร เจ้าอาวาสวัดป่าเมตตาธรรม อ.โพธิชัย จ.ร้อยเอ็ด โดยท่านได้ศึกษากรรมฐาน และคาถาอาคมจากหลวงปู่ทองมา ทั้งนี้หลวงพ่อล้อมให้ความเคารพนับถือประดุจดังบิดามารดา โดยท่านได้ทำหน้าที่แห่งความเป็นศิษย์อย่างดีเยี่ยม

    ส่วนความรู้ทางธรรมนั้น หลวงพ่อสอบได้นักธรรมชั้นเอก เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๑ ณ วัดเวฬุวัน สำนักเรียน จ.ร้อยเอ็ด และสอบได้ประโยค ๑-๒ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕ จากวัดสาลาวดี สำนักเรียน จ.ร้อยเอ็ด นอกจานี้ท่านยังศึกษา อักษรขอม อักษรไทยน้อย การเขียนแบบแปลนงานก่อสร้าง และสิ่งที่หลวงพ่อชอบมากรวมทั้งมีความชำนาญเป็นพิเศษ คือ นวกรรม การเขียนอักษณธรรม

    เมื่อหลวงพ่อล้อมได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้ดำเนินรอยตามรอยหลวงปู่ทองอย่างงดงาม สร้างทั้งศาสนวัตถุ และศาสนทายาทไว้มากมาย จนทำให้หลวงพ่อเป็นที่รู้จัก และเป็นที่นับถือของศิษยานุศิษย์ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น ท่านเริ่มสร้างตะกรุดมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๖ เมื่อครั้งยังเป็นเจ้าอาวาสใหม่ๆ จากนั้นก็สร้างเรื่อยมา โดยท่านจะสร้างเองทั้งหมด เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาสร้างพัฒนาปรับปรุงวัด รวมทั้งกิจทางด้านการสงเคราะห์อย่างที่เห็น

    เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔ ท่านได้นำญาติโยมสร้างถาวรวัตถุในวัดทั้งหมด เช่น อุโบสถ พระเจดีย์ศรีเมตตา ศาลาการเปรียญ กุฏิกัมมัฏฐาน ศาลาอเนกประสงค์ รวมทั้งรักษาสภาพป่าให้สมกับคำว่า "วัดป่า" เหมาะเป็นที่สัปปายะแก่การปฏิบัติธรรม ขณะเดียวกันท่านได้สร้างองค์เทพตามคติความเชื่อคนของไทยไว้หลายองค์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจได้กราบไหว้ขอพรโดยไม่ต้องเดินทางไกล ภายในวัดมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยูองค์หนึ่ง คือ พระพุทธรูปเสี่ยงทาย โดยการอธิษฐานให้หนักและเบาได้

    นอกจากนี้แล้วหลวงพ่อล้อมยังให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาของพระภิกษุสามเณรในวัดเป็นอย่างมาก แม้ที่วัดจะไม่ได้เป็นสำนักเรียนแต่ท่านก็ได้ส่งพระเณรไปเรียนตามสำนักเรียนต่างๆ โดยเป็นธุระนำไปฝากถึงที่ทั้งวัดในต่างจังหวัด และวัดในกรุงเทพฯ ทั้งนี้หลวงพ่อจะพูดกับลูกศิษย์เสมอๆ ว่า "ถ้าเราไม่มีวิชาความรู้ก็เหมือนคนตาบอดที่ไม่รู้ทางเดิน เป็นชีวิตที่ไม่มีจุดมุ่งหมาย ไร้แสงส่วางนำทาง ขาดเข็มทิศชี้ทาง"

    หลวงพ่อล้อมจะสอนลูกศิษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่า ให้ขยันพากเพียรในการศึกษา ดังนั้นศิษย์ของท่านจึงได้ดีแล้วก้าวหน้า ทั้งนี้หลวงพ่อไม่เคยกล่าวอ้างถึงบุญคุณกับลูกศิษย์เหล่านั้นเลย ท่านได้ตั้งอยู่ในพรหมวิหาร ๔ อย่างดีเยี่ยม นั่นคือ มีเมตตารักใคร่ศิษย์ทุกคน มีกรุณาสงสารศิษย์ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ มีมุฑิตากับศิษย์ที่ได้ดีมีความเจริญก้าวหน้า และมีอุเบกขาวางเฉยต่อเหตุการณ์ที่ดีและร้าย มุ่งหาทางแก้ด้วยปัญญาให้เหตุร้ายกลายเป็นดี

    สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยันในเรื่องความรู้ ความสามารถ และผลงาน คือ เกียรติประวัติที่หน่วยงานและสถาบันต่างๆ มอบให้ เช่น พ.ศ.๒๕๔๑ ได้โล่วัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนา พ.ศ.๒๕๕๓ ได้รับโล่-พัด-ย่าม วัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น จากกรมการศาสนา และ เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๔ หลวงพ่อล้อมได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรทองคำ สาขาสงเคราะห์ประชาชน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ สยามบรมราชกุมารี

    "อาตมาสร้างโลงศพไว้ใส่ตัวเอง เขาเรียกว่า เตรียมตัวตายก่อนตายจริง เมื่อถึงเวลาจะไม่ได้เป็นภาระต่อญาติโยม ปีนี้อายุมากถึง ๗๒ ปี ซึ่งจะมีการทำบุญครบ ๖ รอบ ในเดือนพฤษภาคม ชีวิตยิ่งใกล้ความตายมากยิ่งขึ้น การได้เห็นโลงทำให้เราคิดถึงความตายมากยิ่งขึ้น เป็นกรรมฐานอย่างหนึ่ง ไม่ยึดติด ยึดมั่น ถือมั่น ไม่ได้ใช้เตือนสติตัวเองอย่างเดียว หากยังใช้เตือนสติญาติโยมด้วย คนที่อายุยังน้อยมักคิดว่าอีกนานถึงจะตาย แต่แท้ที่จริงแล้วความตายกับการมีชีวิตอยู่เป็นเส้นขนานกัน เมื่ออาตมาตายก็ให้สวดและเผาตามประเพณีอีสาน ไม่ต้องเก็บไว้เป็นภาระกับคนรุ่นหลัง" นี่เป็นเหตุผลการทำโลงศพไว้ใส่ตัวเองของหลวงพ่อล้อม ซึ่งท่านได้สั่งทำและมาตั้งไว้ที่วัดมา ๑ ปีแล้ว

    สำหรับชาติภูมิของหลวงพ่อล้อมนั้น ชื่อและสกุลเดิมของท่าน คือ "บุญล้อม ทิพย์โชติ" เกิดวันศุกร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๕ ณ บ้านเลขที่ ๓๔ หมู่ ๗ ต.ดอนโอง อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๕ ณ อุโบสถวัดศรีชมชื่น ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยมีพระครูวชิรธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดศรีชมชื่นเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสิริโกศล วัดศรีชมชื่น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการคำไหล วัดเวฬุวัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้รับฉายาว่า "สีลสํวโร" แปลว่า "ผู้มีศีลอันสำรวมดีแล้ว ผู้มีศีลอันประเสริฐ หรือ ผู้สำรวมด้วยศีล"

    พระหมอยาผู้ชี้ทางให้เลิกยาเสพติด

    ทุกๆ วันจะมีญาติโยมจากจังหวัดต่างๆ นำลูกหลานมาเลิกยาเสพติด เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ หลวงพ่อล้อมก็เมตตาให้ความสงเคราะห์แก่ทุกคน บางวันก็ไม่ได้พักผ่อนเลย มีอยู่บ่อยๆ ที่ญาติโยมมาปลุกตอนกลางดึก เพื่อขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ

    ในการรักษาผู้ติดตาเสพติดทุกชนิด หลวงพ่อล้อมจะให้กินยาสมุนไพร ๑ แก้ว สำหรับผู้ติดบุหรี่ ยาบ้า กาว ทินเนอร์ ยากล่อมประสาทต่างๆ เมื่อผู้มาเลิกยาเสพติดออกไปจากวัดป่าเมตตาธรรมแล้ว ผู้เสพยาเสพติดที่ได้กินยาสมุนไพรไป ๑ อาทิตย์ ผู้นั้นจะถูกหรือได้กลิ่นยาเสพติดชนิดนั้นๆ ไม่ได้เลย จะมีอาการเหม็นยาชนิดนั้นๆ อย่างรุนแรง จะไม่มีอาการอยากยาเสพติดชนิดนั้นๆ อีกเลย

    ขณะเดียวกัน หลวงพ่อล้อมยังรักษาผู้ที่มีอาการปวดเอว แข้ง ขา ปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยแผ่เมตตาให้ผู้ที่ค้าขายไม่ค่อยดี รวมทั้งรักษาคุณไสยมนต์ดำต่างๆ ตลอดจนให้ฤกษ์ในงานมงคลพิธีต่างๆ ตามหลักโหราศาสตร์ เพื่ออนุเคราะห์ญาติโยมให้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสงบสุข

    หลวงพ่อล้อมบอกว่า เรื่องสมุนไพร หรือยาไทยนั้น ในเบื้องต้นหลวงพ่อล้อมไม่ได้สนใจมากนัก แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น ชีวิตได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก มองเห็นความเป็นอนิจจังของชีวิตตนเองและญาติโยม หลวงพ่ออยากช่วยให้ญาติโยมหายเจ็บป่วย จึงได้มุ่งศึกษาสมุนไพรไทยจากหมอยาไทย จนถือได้ว่ามีความรู้ความสามารถในการรักษาชาวบ้าน ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นปราชญ์ผู้ทรงวิทยาการด้านสมุนไพรระดับหนึ่ง

    IMG_20181103_062534.jpg IMG_20181103_062517.jpg IMG_20181103_060243.jpg
     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่515 พระสมเด็จพุทธรูปศิริวัฒน์ หลังยันต์ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจ้า อยุธยา มาพร้อมกล่องเดิม
    หลวงพ่อเมี้ยน พุทฺธสิริ หรือ พระครูพุทธสิริวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาส วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา ท่านมีนามเดิมว่า เมี้ยน นามสกุล เกิดโภคทรัพย์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะเส็ง (ตรงกับปี พ.ศ. 2460) ที่บ้านหาดทราย หมู่ 9 ต.กบเจา อ.บางบาล จ.อยุธยา เป็นบุตรของ นายแก้ว และ นางทองม้วน เกิดโภคทรัพย์ มีพี่น้องร่วมอุทร 8 คน

    หลวงพ่อท่าน เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนมาตั้งแต่เด็ก (ปล. เรียกว่า เป็นคนแก่เรียนเอามากๆเลยครับ) หลวงพ่อท่านจะชอบศึกษา ค้นคว้า อยู่ตลอดเวลา อีกทั้ง เนื่องจากบิดาของท่านเป็นหมอยากลางบ้าน ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ยาแผนโบราณต่างๆ ทำให้หลวงพ่อท่าน ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ด้านสมุนไพร และ ตัวยาแผนโบราณต่างๆ เพียงอายุยังน้อย เพราะท่านจะออกตาม บิดาท่าน ไปรักษา ผู้คนอยู่บ่อยๆ ไม่เพียงแต่ ด้านการแพทย์ ที่ท่านใฝ่ศึกษา และเรียนรู้ แต่ท่านยังชอบศึกษาหลักพระธรรม อีกด้วย (ปล. คงเป็นเพราะ ด้วยนิสัยส่วนตัว ของท่านเป็นคนใจดี มีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว) ภายหลัง ท่านมีโอกาสได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยได้รับการศึกษาภาษาบาลี ที่วัดดาวดึงษาราม ธนบุรี สอบได้ชั้นมูล 2 และสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาท่านได้สึกออกมา เพื่อช่วยงานที่บ้านอยู่พักนึง จนกระทั่งพออายุครบบวช ท่านจึงได้ทำการอุปสมบท ที่วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา ในปี พ.ศ. 2481 โดยมี พระครูปุ้ย วัดธรรมโชติการาม (วัดขวิด) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการหลิ่ว วัดพิกุลโสคันธ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูหลิ่ม วัดโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า " พุทฺธสิริ "

    เมื่อบวชเป็นพระแล้ว หลวงพ่อท่านก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย และปฏิบัติในทางพระกรรมฐาน จนมีจิตใจมั่นคงต่อ พระพุทธศาสนา หลังการบวชได้ 7 พรรษา หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้เป็น เจ้าอาวาสวัดโพธิ์กบเจา แทนเจ้าอาวาสองค์ก่อน ที่มรณภาพลง หลวงพ่อท่าน ได้ทำหน้าที่ของท่าน เป็นอย่างดี โดย ท่านเป็นศูนย์รวมจิตใจ ที่ยึดมั่น และที่พึ่งของชาวบ้าน เรื่อยมา

    จวบจน กาลเวลาที่ชาวบ้านได้สูญเสีย ร่มโพธิ์ ร่มไทร ที่พวกเค้า เชิดชู เคารพ รัก และศรัธทายิ่ง ของพวกเค้าไป ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2541 หลวงพ่อได้มรณภาพลงด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 81 ปี 60 พรรษา


    การศึกษาพุทธคม
    นี่คือตำนานบทสำคัญ ของ อมตะเถระแห่งเมืองกรุงเก่า ผู้เป็นเจ้าตำรับ 5 ม. (น้ำมัน น้ำมนต์ มีดหมอ ไม้ครู ชานหมาก) อันโด่งดัง เนื่องด้วยท่านเป็น พระคงแก่เรียน อยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงทำให้ หลวงพ่อท่าน มักจะศึกษา หาข้อมูล ความรู้ อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสรรพวิชา อาคมต่างๆ ที่ได้เล่าได้เรียนมาจาก สุดยอดคณาจารย์ที่โด่งดังตลอดกาลอย่าง "พระทองคำ" หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ, หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท, หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ ฯลฯ จนเป็นที่ยอมรับ และกล่าวขาน เรื่อยมา

    ในส่วนของ ยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ซึ่งเป็นยันต์ประจำองค์ ยันต์ตัวเก่งของหลวงพ่อนั้น การได้มาก็ไม่ธรรมดา ตามประวัติขณะที่ท่านกำลังเจริญกรรมฐานนั้น ได้ปรากฎ " ภิกษุชรา " รูปหนึ่ง มาบอกวิธีการเขียนยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ตัวนี้ พร้อมทั้งวิธีการเรียก การเสก ครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งต่อมาท่านจึงได้ทราบว่า พระภิกษุชรารูปนั้น ก็คือ " หลวงพ่อรอด (เสือ) แห่งวัดประดู่ทรงธรรม " นั้นเอง หลังจากนั้น ท่านจึงได้ใช้ยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ในการปลุกเสกวัตถุมงคลมาโดยตลอด


    วัตถุมงคล
    ในส่วนของวัตถุมงคล ของหลวงพ่อท่าน แต่ละรุ่น แต่ละยุคสมัย มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีจุดเด่นในเรื่องของพุทธศิลป์ ความสวยงาม และ เข้มขลัง ด้วยพิธีการโบราณ ดั่งเดิม

    คุณBhasavannO ปิดครับ
    IMG_20181103_062554.jpg IMG_20181103_062544.jpg IMG_20181103_060233.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2019
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่516 พระเนื้อดิน พิมพ์ซุ้มกอ หลวงพ่อพุทธราโพ พระประธานวัดทุ่งเข็น ปี 38 สุพรรณบุรี ขนาดประมาณ 2.2 คูณ 2.9 ซม.
    พุทธคุณ พระกำแพงซุ้มกอทุกแบบทุกพิมพ์นั้น มีครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ตลอดจนเรื่องโชคลาภ จนมีคำพูดที่พูดติดปากกันมาแต่โบราณกาลว่า "มีกูแล้วไม่จน"
    IMG_20181103_062314.jpg IMG_20181103_062304.jpg
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่517 พระพิมพ์ขุนแผนเทพ ๓๐ ทัศ เนื้อว่าน รุ่น เลื่อนสมณศักดิ์ พระครูปลัดสุวัฒนมงคลวรคุณ (หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย) วัดสุทธาวาส วิปัสสนา อยุธยา
    หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ และเรียนพระคาถาพุทธาคมจาก พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแต่ละองค์นั้น ท่านก็ได้ประสิทธิ์ประสาทพุทธาคมของท่านให้แก่พระอาจารย์รักษ์ และยังได้มอบเหล็กจารของท่านให้กับ พระอาจารย์รักษ์ ไว้บูชาและใช้ในพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ

    หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    สอนกรรมฐาน ทำน้ำมนต์ วิชาบารมีสิบทัศ สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์


    หลวงพ่อเยื่อ วัดใหม่หญ้าไทร อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
    เรียนตำราทำน้ำมนต์ธรณีสารใหญ่, ตำราวิชาโบราณพระคาถาบารมี 30 ทัศ ,
    วิชาการลงตะกรุด สายหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
    ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเยื่อ ท่านได้มอบให้หลวงพ่อรักษ์ทั้งหมด


    หลวงปู่เพิ่ม วัดป้อมแก้ว อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
    เรียนตำราวิชาอาคม ที่หลวงพ่อใช้ปลุกเสก เรียนตำราลงตะกรุดโทน
    หลวงพ่อเพิ่มบอกว่า ชื่อว่า พระยันต์อังค์ หลวงพ่อเพิ่มบอกว่าเป็น
    ตำรับของห ลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และวิชาเมตตา-คงกระพัน และคาถาอาคมต่างๆ

    หลวงพ่อรวย วัดตะโก อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เรียนตำรา คาถาอาคม และ พระยันต์ตำราวิชา ยันต์ตรีนิสิงเห

    หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
    เรียนการลงอักขระ เลขยันต์ สูตรการลบผงต่างๆ
    ตำราสายหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบและครูบาอาจารย์ต่างๆทั้งหมดของหลวงพ่อเอียด อาทิ.วิชาเมตตา-แคล้วคลาด-คงกระพันชาตรี รวมทั้งพระยันต์กระบองไขว้ และยันต์เฑาะว์มหาพรหม-ยันต์นะมหาอุตม์-ยันต์ตัวอะ มหาอุตม์คงกระพัน รวมทั้งเคล็ดวิชาการ ตำรา เคี่ยวน้ำมันมนต์ และ การเจิมบ้าน เป็นต้น


    ท่านพ่อเขียน วัดกระทิง กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
    เรียนตำราวิชาอาคมประจำตัวท่าน ตำราวิชาหัวใจกระทิง,หัวใจมนุษย์,
    หัวใจนาค รวมทั้งวิชาเจิมกระเป๋าสตางค์เรียกลาภ และหัวใจพระสังข์
    ยอดเมตตาโชคลาภ เป็นต้น


    หลวงปู่หงส์ วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
    เรียนวิชาอาคมด้านเมตตามหานิยมเสน่ห์ แคล้วคลาดป้องกันภัย ทุกชนิด
    ตำรับวิชาลงตะกรุดโทน,การลงตะกรุดชุด ซี่งหลวงปู่หงส์ท่านยังได้เมตตาถ่ายทอดพลังจิต รวมถึง วิชา ธรรมบันดาล (ตำรับเคล็ด ของหลวงปู่ ) ประสิทธิ์ประสาทให้แก่หลวงพ่อรักษ์อีกด้วย ทั้ง """"หลวงปู่หงส์ยังได้กล่าวไว้อีกว่า เมื่อทำตะกรุด หรือปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นใดก็ตาม ผมรับรองว่าจะมีผู้คนมาขอฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย รวมทั้งบูชาวัตถุมงคลของท่าน ต่อไปท่านจะจารตะกรุดไม่ไหวแน่เพราะคนเขาศรัทธาและเชื่อมั่นในอาคม


    หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
    เรียนตำราทำน้ำมนต์ และวิชาคาถาอาคมประจำตัวท่าน
    เรียนลงอักขระเลขยันต์ หัวใจ ศีล ฯ รวมทั้งตำราลงตะกรุดโทน

    หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
    เรียนตำราวิชา คาถาปลุกเสก คาถาพระเจ้าห้าพระองค์
    รวมทั้งวิชา อิติปิโสถอยหลัง


    หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม อ. ดอนตูม จ.นครปฐม
    เรียนตำราบูชาครู ไหว้ครู เชิญครูบาอาจารย์, ตำราวิชาลงนะหน้าทอง
    มือขวา-มือซ้าย, วิชาคาถามหาอุตม์-คงกระพัน และ อักขระยันต์
    ตำรับสาย หลวงพ่อเต๋ คงทอง

    ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่
    เรียนตำรามนต์คาถาล้านนา และ อีกทั้ง หลวงพ่อครูบายังได้เมตตามอบ
    ตำราคาถาบารมี 30 ทัศ ตำรับของครูบาศรีวิชัยให้แก่ หลวงพ่อรักษ์ มาด้วย


    หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    เรียนตำราวิชาการ สร้างเสก ทำเบี้ยแก้ สายหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว


    ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร สำนักบ้านบุญมหาลาภ
    อ.สามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย
    เรียนตำราวิชาคม ในด้านวิชาเมตตามหานิยม, วิชาเสน่ห์, วิชานะจังงัง


    หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    เรียนตำราวิชาลงตะกรุดโสฬส,การลงตะกรุดหนังเสือ และวิชา นะ ต่างๆตำราของ หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง จ.สระบุรี ยังเรียนตำราทำตะกรุดโทน
    หลวงพ่อตั๋ง วัดโพธิ์เอน , ตำราทำตะกรุด หลวงพ่อเสน วัดบึง
    จ.พระนครศรีอยุธยา ศึกษาวิชาการทำมีดหมอ ของ หลวงพ่อเอื้อน ซึ่งเป็นตำราของหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ, พระยันต์คงคาเดือด และวิชาพระเวทต่างๆ

    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง
    เรียนตำราสาย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ คาถาตำราเสกกุมารทอง
    - ตำราแม่นางกวัก และเคล็ดการเสกปลุก ลิงลมหนุมาณ
    วิชาสร้าง เสกผ้ายันต์พัดโบก รวมถึง การลงกรุดโทน ต่างๆ อาทิ.ตะกรุดคู่ชีวิต
    ตำรับ หลวงพ่อมหาอาคม วัดดาวนิมิต เป็นต้น


    หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    เรียนวิชาคาถาอาคม ด้านเมตตามหานิยม ด้านคงกระพันชาตรี วิชาจารหลัง และการทำตะกรุด รกแมว หลวงปู่บอกว่า วิชาทังหมดนี้ ตำราของ หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลฯ

    หลวงปู่อ่อง วัดสิงหาญ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี
    (เรียนวิชาคาถาอาคม ด้านเมตตามหานิยม ด้านคงกระพันชาตรี-มหาอุตม์ วิชาอักระตำราการสร้างปลาตะเพียน, พญาหงส์ทอง,ยันต์ลงตะกรุดโทนต่างๆ,ยันต์ลงเรือสำเภาทอง, วิชาการปลุกเสก รกแมว วิชาหัวใจ ๑๐๘ , วิชาตับ ๑๐๘ หลวงปู่บอกว่า ตำราวิชาของ ญาท่านกรรมฐานแพง วัดสิงหาญ ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของ สำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์

    อาจารย์ฆราวาส อ.บัว อมแย้ม
    เรียนตำราทำน้ำมนต์ธรณีสารเล็ก และวิชาคาถาอาคมต่างๆ ตำราการดูฤกษ์ยาม-การปลูกเรือน ตาบัวนี้ เป็นศิษย์สืบทอดพระเวทสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ จ.นครสวรรค์

    คุณสุรศักดิ์ ไกรเทพ ปิดครับ

    IMG_20181103_062404.jpg IMG_20181103_062342.jpg



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2018
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่518 พระผงผสมธนบัตรหลวงปู่ทวด หลังพ่อท่านคล้าย ไหว้ข้าง ไม่ทราบที่
    IMG_20181103_062232.jpg IMG_20181103_062222.jpg
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่519 พระผงหลวงปู่ทวดนั่งบัว หลังยันต์ ไม่ทราบที่
    IMG_20181103_062251.jpg IMG_20181103_062242.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...