มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 24 กันยายน 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    สิ่งที่พระพุทธเจ้าทำได้คือ "ชี้ทางที่ผิดและแก้ให้ถูก" เท่านั้น ตนต้องแก้ด้วยตน "แต่การชี้ทางที่ผิดจะถูกมองว่าไม่ให้โอกาสกับความผิดพลาด" ก็เป็นไปได้ "เพราะมันคล้ายกัน" แต่ถ้ามองดีๆ "จะพบว่ามันไม่เหมือนกันนะครับ" การไม่ให้โอกาสคือ "การฆ่าทิ้งเสีย" ตามพระไตร หรือจะบอกว่า "เลิกสอน" เพราะพบว่าสอนไม่ได้นั่นแล
     
  2. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ก็ใช่ ผมโง่เกินกว่าที่จะสอนมั้งครับ
    ผมยังสงสัยอยู่ ว่า ตอนผมคลอดออกมาแล้วหัวยาวผิดปกตินี่มันจะทำให้ผมโง่หรือเปล่า ทำไมเรียนอะไร ๆ ก็เข้าใจยากจัง

    เออเนอะ แล้วเราจะอยู่ไปเพื่ออะไรล่ะเนี่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2018
  3. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    หาหนังหรือการ์ตูนดูนะครับ แล้วเลิกเพ่งไปที่ความคิดจะได้ไม่ทุกข์นะครับ
     
  4. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    คนโง่อยู่ที่ไหนก็เป็นทุกข์
    ตัวเราอยู่ที่ไหนก็เป็นทุกข์

    = =

    คนโง่คงแก้ปัญหาแบบคนฉลาดไม่ได้ ก็หาทางแก้ปัญหาแบบโง่ ๆ ต่อไปนี่แหละ
    ปัญญามันก็มีอยู่เท่านี้ จะไปทำมากกว่านี้ได้ยังไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2018
  5. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ชีวิตบางคนก็ไม่ค่อยเจอกับเรื่องที่ทำให้เกิดทุกข์ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเลยแก้ปัญหาได้ง่ายหน่อย
    ปัญหาทั้งชีวิตของคนเรา ไม่ได้มีใครรับรู้ได้ในทันทีที่ได้รับข้อมูลแค่ไม่กี่บรรทัดหรอก
    ชีวิตบางคนที่เจอแต่เรื่องทุกข์ ๆ ไม่มีใครให้แสงสว่างทางปัญญาเลย
    ทุกข์เพราะคิด กับทุกข์ซ้ำ ๆ จนทำให้เลิกคิดไม่ได้
    เมื่อมีคนชี้ทางให้ ก็ยังไม่เข้าใจ

    มันก็ธรรมดาแหละ คนโง่นี่เนาะ จะไปเข้าใจอะไรได้ไวขนาดนั้น
    วาสนาคนเราไม่เท่ากัน แม้จะเข้าใจ ส่ิงที่เขาพูด แต่เวทนามันรบกวน ทำให้เลิกคิดไม่ได้อยู่ดี

    ผมคงต้องแก้ปัญหาแบบคนโง่ ๆ ไปนั่นแหละ

    ทุกข์เพราะคิด แต่หยุดคิดไม่ได้มันก็ต้องทุกข์ต่อไป ในเมื่อหยุดทุกข์ไม่ได้ ก็ทำให้เราวางเรื่องที่กำลังทุกข์อยู่ให้ได้ไปก่อน คิดในเรื่องเดิมไม่ให้มันทุกข์ให้ได้ไปก่อน นั่นแหละ วิธีแก้ปัญหาแบบคนโง่ของผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2018
  6. Cheewin...

    Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +1,514
    ข้อความขอท่าน Sataniel " มนุษย์ย่อมเกิดมามีสองแขนสองขา อัตตาจิต 1 กายเวทนา 1 กายจิต 1 เท่ากันทั้งหมด ดังนั้นไม่มีใครแตกต่างกัน ต่างกันตรงที่ "กรรม" เท่านั้น 111:D
     
  7. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ทำไมถึงคิดว่าตัวเองโง่ละครับ ?
     
  8. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    เลขสวยเชียวครับ น่าเอาไปซื้อหวย
     
  9. karokwat

    karokwat นารายณ์ ❤️ ลักษมี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +317
    ขอบคุณ จขกท. ที่ตั้งกระทู้นี้...
    เป็นเกียรติ์ที่ได้รับรู้ข่าวสาร และแบ่งปัน ประสบการณ์ จากผู้รู้ทุกท่านนะครับ...
    ผมคิดว่า "บุคคลคนนั้น" ที่พวกเรากำลังตามหา ตามกระทู้ที่ตั้งโพสไว้.. จะรับรู้ทุกเรื่องราวในกระทู้นี้ และมีคำตอบให้ พวกเราทุกคน ในทุกปัญหา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมนะครับ..

    ขออภัย "อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมจักรพรรดิ" ด้วยนะครับ

    อนาคตข้างหน้าที่ใกล้จะถึงนี้ ขอให้ท่านได้มาชี้แจงทางสว่างแก่ทุกสาธุชนด้วยเถิด..
    สาธุ..

     b2a6a6f402f90b911288ed7f3704c1420.jpg
     
  10. Cheewin...

    Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +1,514
    ชีวิตผมก็ไม่ได้เกิดมากับสิ่งแวดล้อมที่เฟอร์เฟค และ อบอุ่นเท่ารัย เห็นเด็กคนอื่นมีอย่างนั้นมีอย่างนี้ ผมก็ไม่เคยเรียกร้องที่อยากจะได้เหมือนเด็กคนอื่นเขา เพราะกลัวจะถูกดุด่าเอา แต่ก็ยังถูกดุด่าว่าเลว เป็นเด็กไม่ดี กับบางสิ่งบางอย่างที่เด็กคนอื่นทำได้แต่เราทำไม่ได้ จนบางครั้งผมคิดไปด้วยซ้ำว่าผมเกิดมาเป็นภาระให้พวกเขาหรือเปล่า มันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง กินเท่าที่มี ใช้เท่าที่มี เมื่อไม่มีก็ไม่เป็นรัย ผมโตมากับคำดูถู ดุด่า และคำสาบแช่ง ถูกไล่ออกจากบ้านเกือบทุกวัน เพราะการทำผิดเล็กๆน้อยๆ โตมาจากความหดหู่และน้อยเนื้อต่ำใจตนเอง ที่ไม่มีใครต้องการแม้แต่ครอบครัวตนเอง ในยามที่ป่วย ก็หาว่าเราโกหก และเป็นคนอ่อนแอ่ ไม่แข็งแรงเหมือนเด็กคนอื่นเขา หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมามันทำให้เรา เป็นคนเย็นชา เป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม อยูในโลกส่วนตัวของตนเอง เป็นคนเก็บตัวไม่ชอบสังคมและคุยกับใคร การที่ผมอยู่กับตนเองมากๆนั้น มันทำให้ผมลืมทางโลกและค้นพบอีกเส้นทางที่มันซุกซ่อนอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิต ไม่ว่าจะเกิดและเติบโตมายังไง เราเป็นคนเลือกเส้นทางเองว่าเราจะเลือกเดินไปทางใด เลือกที่จะเป็นยังไง ไม่ว่าเส้นทางทีเราเติบโตและผ่านมานั้นมันจะดีและเลวร้ายเพียงใด และสุดท้ายนี้ คำว่าจิตใจนั้นสำคัญที่สุด ผมให้ความสำคัญกับคำนี้มากกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2018
  11. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ชีวิตที่ผ่านมาของผมมันเป็นอย่างนั้น
     
  12. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    คนเรามีปัญหาที่แตกต่างกัน
    ทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมของแต่ละคนมันจึงแตกต่างกัน

    ผมเชื่ออย่างนั้นนะ..

    คุณชีวิน เจออะไรคล้าย ๆ ผมเลยนะเนี่ย ฟังจากที่เล่า คุณชีวินอาจจะหนักกว่าผมก็ได้มั้ง ของผมเรื่องที่บ้านอาจจะเบากว่าของคุณชีวินหน่อย แต่ผมก็ไปเจอปัญหาที่โรงเรียนแทน ตั้งแต่ประถมยันมัธยมแบบยิงยาวเลแหละ มีปัญหาทั้งที่บ้าน ที่โรงเรียน มันยิ่งทำให้ผมไม่อยากมีสังคมเลย ไม่อยากออกจากบ้าน ไม่มีสมาธิเรียน อยู่ที่บ้านก็เครียก อยู่ที่โรงเรียนก็เครียด หาวิิธีออกจากทุกข์ไม่เป็น กลายเป็นคนสุขภาพจิตเสีย เพื่อนฝูงไม่มี ครอบครัวก็...ไม่มีใครรับฟัง ต่างคนก็อยู่แบบ สนใจแต่ปัญหาของตัวเอง

    ปัญหาสองทางบวกกัน ที่บ้านก็กดดัน ที่โรงเรียนก็เดียจฉัน
    อยู่ที่บ้านก็บอกไอ้นี่มีปัญหาเยอะจัง อยู่ที่โรงเรียนก็โดนรังแก
    ไม่เคยมีปัญญาออกจากปัญหา
    ไม่บ้าก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไงไหว เจอคนที่เขาหวังดีกับเรา เราก็ทำดีกะเขาไม่เป็นอีก
    ไม่รู้จะปฏิบัติต่อเขายังไง เพราะเราไม่รู้ว่าควรทำอะไรยังไงต่อไปดี
    ไป ๆ มา ๆ พอใจที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า

    จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนใคร...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2018
  13. Cheewin...

    Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +1,514
    ใช้ทางธรรม รบ กับทางโลกสิครัชท่าน Zalievan ในเวลาที่เราคิดว่าเราไม่เหลือใคร ไม่มีใครอยู่ข้างๆ แต่เราก็ยังมีทางของพระพุทธเจ้าที่เปิดทางรอเราอยู่ อย่างน้อยผมก็ไม่เหงาที่ต้องโดนเรียนคนเดียว โดนเรียนจากทางโลก ไปเรียนกับพระพุทธเจ้าในวัดอ่ะครับ:)
     
  14. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219


    คนที่มีความสุขกับสภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็อยากเป็นอมตะ
    คนที่ไม่มีความสุขกับในสภาวะที่เป็นอยู่ ก็อยากตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2018
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,204
    เคยได้ประสบการณ์มาค่ะ เมื่อ "อัตตาจิต" ถูกรู้ โดยมีสภาวะรู้อยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อยู่กับรู้อย่างเด่นชัดสภาวะเดียว ขณะเดียวกันความคิดจะหายไป ความเป็นตัวตนไม่มี และความรู้สึกทุกข์ในความคิดก็จะดับไปด้วย คือ เป็นการนิ่งรู้อยู่ เห็นอยู่ ซึ่งสภาวะดังกล่าวนั้นเป็นเจตนาในการหยุดเพื่อดับตน ดับความคิด และดับทุกข์ในขณะที่ไม่มีตนค่ะ แต่เมื่อยามใดสภาวะรู้เริ่มคงอยู่ไม่ได้ จะเริ่มรู้ตน รู้ความคิด ความเป็นตนจะมี ความรู้สึกเพ่งรู้ รู้ถึงความเป็นตน ถึงแม้ว่าจะไม่มีความคิด หากตัวเพ่งเป็นตัวยึด ยึดตนด้วยความนิ่งถึงไม่เคลื่อนไหวแม้ไม่คิดก็จะรู้ได้ว่ามีตน แต่สภาวะที่รู้อยู่อย่างเดียวจะโปร่งเบาสบายและเด่นชัดในตัวรู้ค่ะ แต่...นั่นเป็นแค่เจตนาการฝึก

    แต่ถ้าสภาวะรู้ที่ไม่ได้เจตนาฝึก คือ การเกิดขึ้นโดอยอัตโนมัติจะมีสภาวะสุขอยู่ในสภาวะรู้ด้วยค่ะ แต่ไม่ใช่สุขที่เป็นอามิส เป็นสุขที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับสภาวะรู้ และในขณะเดียวก็จะมีความรู้รอบของสรรพสิ่งที่อยู่เฉพาะหน้าเกิดขึ้นร่วมด้วยค่ะ

    ใช่สภาวะเดียวกันหรือเปล่าค่ะ ?
     
  16. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    อันที่บอกว่าสุขรวมอยู่ด้วยนั้นมีอาการ "แสบตา" อยู่ด้วยไหม ถ้าไม่ใช่ แสดงว่า เราเป็นรู้เฉยๆแต่อัตตาจิตมันสุขของมันเองครับ ในกรณีที่บอกไม่ได้เจตนานะครับ ความจริงมันจะฝึกหรือจะเจตนาไม่เจตนามันเหมือนกันเลยครับมันอยู่ที่การ "ดำรงอยู่" ในสภาวะไหนมากกว่า
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,204
    เป็นสภาวะรู้ที่ไร้อัตตาใด ๆ เลยค่ะ สติสัมปชัญญะบริบูรณ์มากเลยค่ะ คือ เป็นการประสบกับสภาวะนี้เพียแค่ครั้งเดียว และประสบเพียงชั่วขณะเท่านั้นเองค่ะ
     
  18. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    แสดงว่าคุณจิตยิ้มยังทำอัตตาจิตถูกรู้ไม่ได้ ถ้าทำได้มันจะสลายไป แต่ถ้ามันยังอยู่แสดงว่ายังไม่ใช่ ลองตรวจสอบดูฮับ

    มันมีความต่างของเนื้ออยู่นะครับ ระหว่างสภาวะรู้ที่ไม่มีเนื้อใดๆกับ อัตตาที่มีความแน่นแต่เราไม่ได้แน่นไปกับมันนะครับ

    และต้องแยกให้ออกว่าเราเป็นรู้แต่อัตตายังอยู่ เนื้อของสภาวะมันไม่เหมือนกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2018
  19. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ช่วงนี้ผมลองจับความรู้สึกที่เกิดจากการเกร็งแขน อยู่ ไม่พบอาการชาใด ๆ สงสัยวันนั้นอยู่ผิดท่าล่ะมั้งครับถึงมาอาการชา ๆ ซ่า ๆ ขึ้นมา
    ช่วงนี้รู้สึกได้แต่ความร้อน นิดหน่อยบริเวณแขนที่เกร็งเท่านั้นเอง
     
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ถ้าเกิดสภาวะรู้ โดยไร้เจตนาใด ๆ ทั้งสิ้น มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ มีนิรานิสุข(...) และดำรงอยู่กับปัจจุบันขณะ มีความรอบรู้สรรพสิ่งในธรรมเฉพาะหน้าด้วย ท่านคิดว่าสิ่งนั้นใช่สภาวะของ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ หรือเปล่าคะ

    (นิรามิสสุข

    น. ความสุขที่ปราศจากอามิส, ความสุขในนิพพาน คือ สุขอยู่เองไม่ต้องมีสิ่งใดบำเรอ.)

    คำว่าโดยปริยายแห่งเหตุ คือ การอ้างถึงมีขันธ์เหลือและไม่มีขันธ์เหลือ ซึ่งเป็นเหตุในการบัญญตินิพพาน ๒ เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์พระองค์ทรงบรรลุสอุปาทิเสสนิพพานธาตุ กิเลสและธรรม (ซึ่งได้แก่จิตและเจตสิกอื่น ๆ ) ที่เกิดร่วมกับกิเลสนั้นดับหมดสิ้นและไม่เกิดอีกเลย แต่ยังมีขันธ์ คือ จิต เจตสิก (ที่ปราศจากกิเลส) และรูปเกิดดับสืบต่ออยู่
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...