ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    ผู้เชี่ยวชาญนาซาเตือนภาวะโลกร้อนทำโลกวิกฤติ
    [​IMG] เดลาแวร์ 7 เม.ย. - ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซา) ยืนยันปัญหาโลกร้อนทำให้โลกของเราตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศมีสูงมากจนถึงขั้นอันตราย

    นายเจมส์ แฮนเซน ผู้อำนวยการสถาบันกอดดาร์ดเพื่อการศึกษาอวกาศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของนาซา เผยว่า แม้สถานการณ์จะเข้าขั้นวิกฤติ แต่ก็ยังพอมีทางแก้ไขปัญหา โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดเก็บภาษีควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน รวมถึงห้ามก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ถ้าไม่มีระบบดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดีพอ และท้ายสุดควรจะทยอยยกเลิกโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินทั้งหมดในอีก 22 ปีข้างหน้า
    นายเจมส์ แฮนเซน ซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อจากนิตยสารไทม์ ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เมื่อปี 2549 ยังย้ำว่า ปัญหาหลักในตอนนี้ เกิดจากมนุษย์พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมากเกินไป ทั้งถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เชื้อเพลิงฟอสซิลถือเป็นธุรกิจใหญ่ ทำให้ทางการสหรัฐต้องออกกฎหมายขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจกลุ่มนี้
    ผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาที่คนอเมริกันวิตกมากเป็นลำดับที่ 25 และแม้จะรู้ดีว่า การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลถือเป็นต้นเหตุที่ทำให้โลกของเราร้อนขึ้น แต่นายแฮนเซน บอกว่า ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงชักนำให้รัฐบาลและประชาชนเข้าใจผิด คิดว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น เป็นรูปแบบเดียวกับที่บริษัทบุหรี่จ้างนักวิทยาศาสตร์มาวิจัยให้เห็นว่า การสูบบุหรี่ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งที่คนทั่วไปก็ทราบดีว่า บุหรี่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง. - สำนักข่าวไทย
     
  2. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ปีหนูพะเนียงไฟ ดร. กัญจีรากล่าว

    ฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งเข้าไว้ หัดหายใจยาวๆอัดลมให้เต็มปอด ถ้าขึ้นบันไดห้าชั้นยังหอบแฮ่กๆจะไปหนีภัยพิบัติอะไร
    ลองงดข้าวเย็น (วิกาลโภชนา) สัปดาห์ละครั้งเผื่อข้าวแพงก็ดีนะคะ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หวั่นเอเชียใต้-อาคเนย์ลุกเป็นไฟแย่งข้าว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 เมษายน 2551 07:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 4 เม.ย.2551 ชาวฟิลิปปินส์ครอบครัวหนึ่งพากันนำถุงข้าวสารกลับบ้านชานกรุงมะนิลา รถทหารบรรทุกข้าวถุงที่ซื้อจากเวียดนามและสหรัฐฯ ออกจำหน่ายให้แก่ประชาชนโดยตรงท่ามกลางความวิตกว่าการขาดแคลนอาจจะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในประเทศ (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้จัดการรายวัน
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สธ.เตือนไข้เลือดออกหน้าร้อน-ป่วยทั่วประเทศแล้วกว่า 7,000 ราย

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 7 เม.ย. - นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออกปีนี้ จนถึงเดือนมีนาคม 2551 มีรายงานผู้ป่วยสะสม 7,413 ราย ผู้ป่วยร้อยละ 99 รักษาหายขาด มีเสียชีวิต 9 ราย ใน 8 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต อ่างทอง ราชบุรี กาญจนบุรี สมุทรสาคร สิงห์บุรี และสมุทรปราการ เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีผู้ป่วย 4,209 ราย เสียชีวิต 4 ราย พบผู้ป่วยมากที่สุดในภาคกลาง 4,554 ราย รองลงไปคือ ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉพาะกรุงเทพฯ พบผู้ป่วยแล้ว 1,229 ราย

    ทั้งนี้ ได้สั่งการสาธารณสุขจังหวัด รณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูกาลระบาด เพราะไข่ยุงลายปรับตัวทนแล้งได้นานกว่า 6 เดือน ถึง 1 ปี เกาะติดในภาชนะ เมื่อมีน้ำขัง ไข่จะฟักตัวใน 20-60 นาที

    ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า ยุงลายชอบกัดคนที่มีเหงื่อออกมาก ตัวร้อน ดังนั้น คนที่ไม่ชอบอาบน้ำ หรือที่เรียกว่าซักแห้ง จะตกเป็นเหยื่อของยุงลายได้ง่ายกว่า นอกจากนั้น ยุงลายยังชอบกัดคนหายใจแรง ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม ชอบกัดเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ชอบกัดผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย. - สำนักข่าวไทย

    2008-04-07 12:15:03

    เวียดนามพบโรคบลูเอียร์ ระบาดในหมู

    [​IMG]

    ฮานอย 7 เม.ย.- โรคบลูเอียร์ (Blue-eared) กลับมาระบาดในเวียดนามอีกแล้ว ส่งผลให้หมูที่เลี้ยงไว้ตายไปกว่า 50,000 ตัว ซึ่งน่าจะทำให้เนื้อหมูขาดตลาด จนมีราคาแพงขึ้น

    ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า โรคบลูเอียร์เคยระบาดยังฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายแห่งในเวียดนามและจีนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งโรคนี้จะไม่ติดต่อมาสู่มนุษย์ เพียงแต่จะทำให้หมูที่เลี้ยงไว้มีภูมิต้านทานลดลง จนติดเชื้อซ้ำสอง เช่น เชื้อซัลโมเนลา เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหาร

    ล่าสุด พบโรคบลูเอียร์กลับมาระบาดอีกครั้งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาใน 4 จังหวัดทางภาคกลางของเวียดนาม อาทิ เหง่อัน, ทัญฮั่ว, ฮ่าติญ, และ ก้วงนัม ส่งผลให้หมูที่เลี้ยงไว้ตาย หรือถูกฆ่าไปกว่า 50,000 ตัว

    ด้านรองอธิบดีกรมสุขภาพสัตว์ประจำกระทรวงเกษตรของเวียดนาม ก็เตือนให้ระวังว่า มีความเป็นไปได้มากที่เชื้อจะแพร่ลามไปยังจังหวัดอื่น การแพร่ระบาดของโรคบลูเอียร์ จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู อาจทำให้ผลผลิตขาดตลาด จนดันให้เนื้อหมูมีราคาแพงขึ้น ซึ่งปัจจุบันเวียดนามกำลังประสบปัญหาราคาข้าวและอาหารพุ่งสูงขึ้นอยู่แล้ว. - สำนักข่าวไทย

    2008-04-07 18:05:10

    สเปนพบผู้เสียชีวิตจากโรควัวบ้า 2 ราย

    [​IMG]

    สเปน 8 เม.ย. - มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 คน จากโรควัวบ้าที่เกิดกับมนุษย์ในประเทศสเปน

    หนังสือพิมพ์เอล ปาอิส ของสเปน รายงานว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย อาศัยอยู่ในแคว้นกัสติลญ่า-เลออง ทางตอนกลางของประเทศ รายหนึ่งเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อน และอีกรายหนึ่งเพิ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นผู้เสียชีวิตจากโรควัวบ้าที่เกิดกับมนุษย์ หรือโรคสมองฝ่อ รายแรกของสเปน นับตั้งแต่มีผู้เสียชีวิตที่กรุงมาดริด เมื่อปี 2548 แต่กระทรวงสาธารณสุขสเปนยังไม่ออกมายืนยันข่าวดังกล่าว สำหรับโรควัวบ้าพบครั้งแรกในอังกฤษ ช่วงหลังปี 2528 ขณะที่โรควัวบ้าที่เกิดกับมนุษย์ หรือโรคสมองฝ่อ (vCJD) เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2538 โดยคาดว่าแพร่ระบาดจากเนื้อและกระดูกของวัวที่ติดเชื้อ. -สำนักข่าวไทย

    2008-04-08 03:07:28

    ที่มา http://news.mcot.net/index.php
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2008
  5. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    สาธุ กังวลจังครับ ไม่เข้าใจมากนัก เกือบไปแล้วครั้งก่อนที่พังงา
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    สัจจะ มาบอก... เมื่อ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๐

    " แผนขโมย แยก แผ่นดินพม่า ออกจากโลก "

    ใต้โลกเหมือนมีต้นไม้ มีรากแบบ รากไทรแทรกไปทั่ว ภูมิภาคไทย
    เมื่อมีความร้อน พ่นดันลงไปในเปลือกโลก
    จะงอกขึ้น ดันเปลือกโลกให้หลุดขึ้น สูงขึ้น

    ภัยภาคใต้ มีรูป คลื่นยักษ์
    ชายหญิงคู่หนึ่งนั่งชมบนภูเขาสูง ปลอดภัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปราจีนฯ ขุดบ่อบาดาลพบวัตถุคล้ายแร่ทองคำขาว

    [​IMG]

    ปราจีนบุรี 7 เม.ย. - ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เข้าพื้นที่ประจันตคามหลังผู้รับเหมาะขุดบ่อบาดาลงบจัดจ้างของจังหวัด พบโลหะแวววาวคล้ายแร่ทองคำขาวจำนวนมาก เร่งเก็บตัวอย่างส่งกรมทรัพยากรธรณีตรวจพิสูจน์ ด้านผู้รับเหมาระบุเคยพบที่จันทบุรี แต่ไม่บริสุทธิ์เท่านี้

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่หมู่บ้านเนินหินตั้ง ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ติดกับถนนทางเข้าน้ำตกธารทิพย์ หลังชาวบ้านทราบข่าวว่า ผู้รับเหมาขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล เพื่อก่อสร้างประปาในหมู่บ้าน พบโลหะประหลาดมีความแวววาวใสเหมือนกระจก จึงพากันมาดูจำนวนมาก และเชื่อว่าเป็นแร่ของทองคำขาว

    นายกิตติบาดาล สมัยกุล อายุ 40 ปี ผู้รับเหมาดังกล่าว ระบุว่า งานขุดเจาะบ่อบาดาลหมู่บ้านเป็นงบประมาณของผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี หรืองบซีอีโอ จำนวน 300,000 บาท โดยเพิ่งเริ่มขุดเจาะตอนสายวันนี้ในระดับความลึก 14 เมตร ปรากฏว่าพบวัตถุโลหะชนิดหนึ่งคล้ายแร่ทองคำขาวที่เคยขุดพบที่ จ.จันทบุรี และประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบพบว่าเป็นแร่ทองคำขาว แต่วัตถุที่ขุดพบที่ปราจีนบุรีครั้งนี้ มีความบริสุทธิ์กว่า ไม่มีหินทรายเจือปน และน่าจะมีมากกว่าที่เคยพบ เพราะหัวเจาะที่ขุดลงไปนั้นมีขนาดแค่ 5 นิ้วครึ่ง ยังสามารถนำขึ้นมาได้จำนวนมาก

    ด้านนางพรรณี แก่นสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวระหว่างนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่า ยังไม่ทราบชัดเจนว่าโลหะชนิดใด ต้องเก็บตัวอย่างส่งให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีตรวจสอบอย่างละเอียด หากเป็นแร่ทองคำขาวถือว่าเป็นสมบัติของแผ่นดิน และจะต้องทำรายงานให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอีกครั้ง.- สำนักข่าวไทย

    2008-04-07 18:38:38

    ที่มา http://news.mcot.net/local/inside.php?value=bmlkPTI4OTI1Jm50eXBlPXRleHQ=
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2008
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องทรัพยากรของประเทศไทย
    โดยพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    [​IMG]


    พระผู้ใหญ่มาเล่าเรื่อง ทรัพยากรของประเทศไทย แล้วหลวงพ่อบันทึกเทป เล่าถ่ายทอดตามคำบอกไว้ จะคัดมาแต่เฉพาะใจความสำคัญดังนี้

    (เล่าเมื่อ 18 มิถุนายน พ.ศ.2517)

    " น้ำมันส่วนใหญ่ของประเทศ จุดใหญ่จริงๆ ที่ฝรั่งก็เคยคิดพิสูจน์นั้นมีอยู่ ในผืนแผ่นดิน ตั้งแต่... ผ่าน... และ วกไปทาง... เป็นโค้งมีรัศมีไกลจนถึงเขต... สายนี้เป็นสายที่มีส่วนลึกมาก มีปริมาณสูง ถ้าจะใช้จริงๆ เฉพาะสายนี้ใช้เลี้ยงทั้งโลกประมาณ 4,000 ปี ความสูญเสียของน้ำมันในบ่อนี้ ยังลดไป ไม่ถึง 1 ใน 10 จัด ว่า เป็นสายที่ยาวและใหญ่มากที่สุดในโลก ปริมาณเปรียบเทียบกับตะวันออกกลางแล้วยังมากกว่า

    บริเวณ... จะมีแร่สำคัญ ที่มีรังสีร้ายแรง ใช้ได้ทั้งทางทำลาย และทางสันติภาพมากมาย ที่เราเรียกกันว่า แร่ใส แต่แร่นี้ ถ้าจะค้นได้ ก็ต้องหลังจาก ค้นหาน้ำมันได้ก่อน เพราะว่า ทางนี้ยังไม่มีใครสนใจการใช้แร่นี้ และวิธีที่จะนำมาใช้เป็นประโยชน์ ก็ใช้กรรมวิธีคล้ายคลึงกันกับ แร่ยูเรเนียม แต่ว่า วิธีต่างกันเล็กน้อย แร่นี้มีมูลค่ามาก จะเป็นทรัพยากรของประเทศ

    ต่อจากนี้ไปขอพูดถึงทรัพยากรที่เป็นทองคำ ทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำนี้ มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ส่วนที่คนโบราณรวบรวมเป็นแท่งไว้แล้วก็มี สำหรับทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำนี้ จะหาจุดให้ใหม่ตามแผนที่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกาลเวลา

    สรุปแล้ว ทรัพยากรส่วนน้ำมันก็ดี ทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำก็ดี ทรัพยากรส่วนที่เป็นแร่ใสก็ดี ทั้งสามนี้ น้ำมันเป็นตัวชูโรง และเป็นทรัพยากรที่หาได้ก่อน ทั้งนี้ เพราะว่า คนต้องการน้ำมันก่อน ทรัพยากรที่จะปรากฏทีหลัง คือ ทองคำ ทองคำนี้มีจุดตั้งแต่เหนือถึงใต้ แต่ก็เป็นส่วนที่มีความลึกมาก คนที่สนใจมีน้อย เพราะนึกว่าทองคำไม่มี แต่เมื่อได้น้ำมันแล้วก็ไม่เป็นไร ทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำ ต้องใช้แรงงานสูง เพราะว่า บางจุดเดินเข้าไปอยู่ใต้ภูเขาเสียมาก ส่วนที่อยู่บนพื้นราบก็อยู่ไม่สู้ไกลจากภูเขา ถ้าจะบุกเบิกตามวิธีการที่เราใช้กันในสมัยปัจจุบัน คือ ใช้น้ำฉีด หรือขุดด้วยเรือ ก็รู้สึกว่าจะได้ผลไม่มากนัก ทองคำบางส่วน ก็ปนอยู่กับแหล่ง วูลแฟรม แต่อยู่ลึกกว่า ถ้าอาศัยการค้นคว้าด้วยดาวเทียม ก็รู้สึกว่า จุดที่จะแสดงให้เห็นได้ง่าย เวลานี้ฝรั่งมีความรู้ในการค้นคว้าด้านนี้ใกล้ความเป็นจริงมาก

    รวมความว่า ทรัพยากรของประเทศ จะเข้าถึงเวลามั่งคั่งสมบูรณ์จริงๆ รวมทั้งน้ำมันที่เป็นทรัพยากรที่จะหาได้ก่อนเพื่อน ก็รู้สึกว่า ใช้เวลาไม่มากนัก เลขที่จะพึงใช้ไม่ถึง 2 ตัว คือ หมายถึงเวลาที่จะค้นคว้าน้ำมัน ที่ปริมาณ 1 ใน 10 ของทรัพยากรที่จะค้นคว้าได้ ส่วนน้ำมันปริมาณสูงในเขตของไทยก็อยู่ในเกณฑ์ 17 ปี ขึ้นไป นี่คือน้ำมันที่จะเป็นที่พอใจที่ใช้กันไม่รู้จักหมด

    ต่อจากนี้ไป มาว่ากันถึง แร่ใส เท่าที่เห็นเวลานี้ก็มีความลึกสักหน่อย ต่อไปเมื่อถึงเวลาอันสมควร เรากล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์ 20 ปี ไม่ถึง 30 ปี แร่นี้จะมีความอ้วนขึ้น หนาตัวขึ้น อีกอย่างหนึ่งจะพูดว่า เป็นเพราะการ ดูดน้ำมันมากๆ หรือ จะพูดว่า แผ่นดินยุบลงไป หรือจะพูดว่า แร่ลอยขึ้นมา ก็ไม่ถูกส่วน ที่ถูกควรจะพูดว่า แร่เลื่อนขึ้นมา เนื่องจาก การเคลื่อนไหวของแผ่นดิน ทำให้ใกล้หน้าพื้นดินมากขึ้นในระยะ 20 ถึง 30 ปี ข้างหน้า ผิวของแร่จะอยู่บนดิน

    แร่ใสนี้เทียบปริมาณกับแร่อื่นแล้ว นับว่าไม่มากนัก แต่ถ้าขุดนำมาใช้ประโยชน์แล้ว ใช้ไปเจ็ด-แปดร้อยปี ก็ยังหมดไปไม่ถึง 30 หรือ 31 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณแร่ที่มีอยู่ เพราะต้องใช้ความพยายามนิดหน่อย แร่อันนี้จะสร้างเงินตรา และทรัพยากร หรือทรัพย์สิน ให้เกิดความมั่งคั่งมาก

    เรามาพูดกัน ถึงน้ำมันดีกว่า แร่ใสก็ดี แร่ทองคำก็ดี จะมีได้ต้องใช้เวลานาน ส่วนน้ำมันเวลานี้ ทั้งคนไทย และฝรั่งเหยียบกันไป เหยียบกันมา ในกาลต่อไป ทรัพยากรส่วนนี้ จะเป็นทรัพยากรใหญ่ สร้างผลกำไรให้ แก่ประเทศมหาศาล ฉันกำหนดให้ใช้เวลาสูงสุดไม่เกิน 32 ปี แต่อาจจะค้นคว้าได้ในระยะเร็วเท่าใดก็ได้ สุดแล้วแต่ปัญญาของคน แค่น้ำมันอย่างเดียวก็เหลือกินเหลือใช้

    แต่ว่า ความพอใจของมนุษย์ มันไม่สิ้นสุดลง แค่จะพึงหาทรัพยากรได้เพียงเท่านั้น เมื่อมีทุนมากความดิ้นรนก็มาก เมื่อมีกำลังมากก็ต้องการใช้แรงงานให้มาก เมื่อความอยากมีมาก ความขยันหมั่นเพียรก็มาก ความแก่ของคนไม่มี ความเหน็ดเหนื่อยของคนไม่มี เพราะความอยากเป็นสำคัญ การค้นคว้าจะค่อยทำค่อยไป การหาจุดต่างๆ ฉันจะยังไม่บอกละเอียด ถึงแม้จะบอกไปก็ไม่มีประโยชน์ มันจะเป็นโทษ สำหรับกำลังใจ เพราะทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกาลเวลาเป็นสำคัญ

    คำว่า "กาลเวลา" ก็หมายถึงว่า บุญญาธิการของคน ทรัพยากรต่าง ๆ ที่จะเข้าหาจุดพบ ก็ต้องอาศัยบุญของคน ประสมประสานกันกับวิชาความรู้ ในเมื่อกรรมที่เป็นอกุศล ยังหยั่งลงสู่จิตของบุคคลผู้บริหารประเทศ หรือมีส่วนในการบริหารประเทศยังมีมากเพียงใด โมหะที่ทำให้ใจบอด ก็ยังจะปรากฏทำให้ลบเลือนปิดบัง ทำให้ค้นพบทรัพยากรนั้นโดยยาก

    ถึงแม้ฝรั่งผู้ค้นคว้าเองก็ตาม ถ้ายังหวังเอาเปรียบแก่เจ้าของประเทศมากอยู่ โดยมีปริมาณที่ต้องการเอาเปรียบตั้งแต่ 30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป การค้นคว้าทรัพยากรในประเทศ ก็จะเป็นไปด้วยความยาก แต่ถ้าคนในประเทศ คือ ฝ่ายบริหารและบุคคลผู้รับช่วง เป็นไท ก็อาจค้นหาทรัพยากรนั้น ง่ายขึ้น คำว่า "ไท" หมายถึงว่าจิตใจที่เต็มไปด้วยอิสรภาพ

    <TABLE class=webbold width="92%" border=0><TBODY><TR><TD class=webbody width="29%">ไม่เป็นทาสของความโลภ
    </TD><TD width="35%"></TD><TD width="36%"></TD></TR><TR><TD width="29%">
    ไม่เป็นทาสของความเห็นแก่ตัว
    </TD><TD class=webbody width="35%">

    </TD><TD width="36%"></TD></TR><TR><TD width="29%">ไม่เป็นทาสของความอยากใหญ่ </TD><TD width="35%">


    </TD><TD class=webbody width="36%">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    ที่มีกำลังใจ ต้องการให้ประเทศชาติเจริญ ไม่ขายประเทศ เพราะว่า ได้ทรัพยากรมาแล้วจะหวังประโยชน์ส่วนตัว คือ เปอร์เซ็นต์ส่วนตัวมากเกินไป หมายความว่า แทนที่บุคคลผู้ ค้นพบจะต้องจ่ายเงินให้แก่ ประเทศชาติมาก คนประเภทนี้ ก็ตัดรายรับของประเทศลง มีความประสงค์ เพียงรางวัลของตัว ประเทศชาติจะได้รับประโยชน์น้อยไป ถ้ายังมีบุคคลที่มีความคิดตามที่กล่าวมานี้ อยู่ในส่วนการบริหารประเทศ ตั้งแต่เป็นรัฐบาล ลงมาถึงข้าราชการชั้นผู้น้อย คำว่า "น้อย" ในที่นี้ก็ไม่น้อยมาก หมายถึง อันดับผู้มีวาสนาบารมี อยู่ในเกณฑ์ปานกลางหรือสูง

    ทรัพยากรหรือก็พอจะหลบหน้าคุณอยู่ได้ เพราะกำลังใจของบุคคลประเภทนี้ยังมีโมหะ แต่ที่ทรัพยากรทั้งหลายกำลังจะปรากฏขึ้นก็เพราะอาศัย บุญญาธิการของพระมหากษัตรย์องค์ปัจจุบันมีมากพอสมควร เพียงพอที่จะเป็นผู้วางรากฐาน ให้ปรากฏพบแหล่งน้ำมัน ขึ้นในประเทศ เป็นอันดับแรก สำหรับในกาลต่อไปก็อาศัยพื้นฐานความดีของพระองค์ และข้าราชการบางส่วน ที่มีความดีก็จะเป็นเหตุให้ ได้น้ำมันขึ้นมาใช้สอย แต่ได้แร่ธาตุบางอย่างที่มีคุณค่าสูงมาบ้างตามสมควร

    ทีนี้เรามาพูดถึง ข้าราชบริพาร นับตั้งแต่ฝ่ายบริหาร มีคณะรัฐมนตรีเป็นต้น ที่จะมีกำลังใจ เป็นไทจริง ๆ เวลานี้ก็มีอยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังหาคน ที่เป็นไทจริง ๆ ยาก ปริมาณคนที่มีจิตมีความเป็นไท ไม่ใช่ทาสของความโลภ ที่มีเกียรติในการบริหารก็มีมากพอสมควร แต่คนที่รับบัญชาไปปฏิบัติ ยังมีอารมณ์เนื่องอยู่ในความเลวมาก

    ในเมื่อกาลแห่งความยุ่งยากนี้ผ่านไป (อีกไม่นาน ใช้เวลาประเดี๋ยวเดียว) คนดีจะปรากฏทีละน้อยๆ เพราะ อาศัยพระราชจริยาวัตรของพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำ คนเลวจะค่อยๆสลายตัวไป คนดีจะค่อยๆ รวบรวมกำลังกันขึ้นนำ แต่ทว่า วันเวลา ก็เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ต้องถือว่า เป็นกาลที่ประเทศ กำลังจะมีโชคดี ด้วย เวลาที่ใช้ ก็ไม่นานปีเกินไป จนเกินวิสัย ที่เราจะคอยกันได้ เมื่อกาลนั้นปรากฏ เราชาวไทยที่มีจิตใจเป็นไท จะรวบรวมตัวกันมากมีกำลังหนัก คล้ายสมัยเมื่อ พระเจ้าตากสินมหาราช รวบรวมกำลังคนไทย ให้มีใจเข้ามาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คนเลวทั้งหลาย หรือว่า คนดีในปัจจุบัน ก็จะพยายามค่อยๆ ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะว่า ไม่สามารถนำความชั่วร้าย มาใช้กับประเทศได้ การรวมตัวเป็นปึกแผ่นของคนดีอันนี้ ก็จะเป็นเหตุให้พระและเทวดาที่มีอานุภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระและเทวดาไทยๆ ที่มีใจเป็นไท

    ฉันพูดเรื่องไทๆ เขาจะพากันหัวเราะ บอกว่า ทุกคนเป็นไทย แต่ฉันว่า ไม่ใช่ คนส่วนใหญ่ใจเป็นทาส ไม่ใช่ไท ไทต้องมีน้ำใจอิสระ มีความผ่องแผ้วของใจ มีอารมณ์สดใส ถึงแม้ว่า จะมีกิเลสก็มีกิเลสอยู่ในขอบเขต คือ ขอบเขตของกิเลส รู้ว่านี่ส่วนตัว นี่ส่วนรวมของประเทศชาติ ถ้าอารมณ์รู้ และแยกความรู้นั้นไปใช้ เป็นส่วนเฉพาะได้ นั่นเราเรียกกันว่า "ไท" เมื่ออารมณ์ของคน "ไท" ในประเทศไทยรวมตัวกันได้มากเมื่อไร ตอนนั้นแหละ ความศิวิไลของประเทศ จะปรากฏ คือ จะเป็นประเทศที่มั่งคั่งสมบูรณ์ เป็นประเทศที่คนอื่นให้เกียรติ เป็นประเทศที่ทุกคนคือ ชาวโลกทั้งหมดยอมรับนับถือ เพราะมีความอุดมสมบูรณ์

    แต่ว่า ไทยที่พูดไทยไม่ชัด แล้วก็คิดว่า เป็นคนไทย อยู่ในประเทศ บุคคลประเภทนี้ ไว้วางใจอะไรไม่ได้ มีทางเดียว คือเอาเปรียบ และหวังยึดกรรมสิทธิ์ ในฐานะที่ตนเข้ามาอาศัย แต่ว่าในเวลานั้นประเทศไทยก็เป็น ประเทศที่รุ่งเรืองไปด้วยอำนาจ ถึงแม้ว่าจะมีคนน้อยสรรพาวุธน้อย แต่ว่าคนส่วนใหญ่ของโลก หวังที่จะพึงมีประโยชน์ จากน้ำมันเป็นสำคัญ เขาจะใช้กำลังของเขา ป้องกันเรา โดยเราไม่ต้องออกปากใช้ เขาก็จะช่วย

    ความจริงเขาไม่ได้ช่วย เขาช่วยผลประโยชน์ของเขา แต่ว่า ให้ผลในทางที่เรามีอิสรภาพ มีอำนาจ มีสิทธิ ก็เหมือนกับเขาช่วยเรา เรื่องที่ฉันพูดให้ฟังนี้ก็เพื่อจะให้เป็น กำลังใจ กับคนที่มีความคิดปรารถนา ต้องการให้ประเทศชาติร่มเย็น เป็นสุข อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน แล้วเด็ก ๆ รุ่นลูก ๆ หลาน ๆ ของคนพวกนี้โตขึ้น มีอำนาจวาสนา เมื่อไรจะเห็นว่า ตอนนั้นแหละ ประเทศไทย เต็มไปด้วยความรุ่งเรือง เพราะว่าอะไร เพราะว่า คนไทยเดิมมาเกิดมาก และที่คนไทยเดิมมาเกิดมาก ก็เพราะว่า ถึงกาลสมัยที่คนไทย ต้องทำให้ประเทศไทย เป็นแหลมทองตามเดิม คำว่า "ทอง" หมายถึง ดี มีค่าสูง ฉันไม่ได้คิดว่าประเทศไทยจะรวยด้วยทองคำ แต่สิ่งเหล่านี้จะปรากฏขึ้นภายหลัง หลังจากที่ได้น้ำมันแล้ว ภูเขาบางลูกจะต้องถูกทำลาย เพราะทองคำอาศัยอยู่ในภูเขามาก

    สำหรับแร่ใส ฉันจะยังไม่พยากรณ์ให้เป็นที่แน่ใจ เพราะแร่ใสอยู่ในความลึกมาก แต่พูดไว้สักหน่อยก็ได้ว่า แร่ใสจะได้มาในเวลาควบคู่กับทองคำ ตอนนั้นเมื่อทองคำปรากฏ แร่ใสปรากฏ คนเลวน้อยลงแล้ว คนเลวภายในก็น้อยลง คนไทยที่เขาว่า เป็นไทยแต่พูดไทยไม่ชัด มีเกลื่อนกลาดอยู่ในประเทศไทย ก็หมดกำลังที่ปรารถนาจะยึดประเทศไทยเป็นของเขา ก็จะมีใจเป็นไทยขึ้น คือหวังว่า การเข้าเป็นหุ้นส่วนจะดีกว่าการคิดประทุษร้าย ในตอนนั้นไทยจะเป็นอิสระเต็มที่ เอาละ สำหรับวันนี้ก็พอกันทีนะ แต่ว่า ฉันก็ยังไม่ได้หมายความว่าจะกลับ จงคิดว่าเราจะมีประเทศเป็นทองคำ ก็ดี จะมีประเทศเป็นน้ำมันก็ดี จะมีประเทศเป็นแร่ใสก็ดี

    ทุกคนจะคิดว่าเราจะตาย จงอย่าเอาจิตใจ ไปเกาะไอ้น้ำมัน และแร่ธาตุให้มากนัก คิดว่า เราทำเพื่อความเป็นอยู่ของคนทั้งมวล แต่เราไม่ทำเพื่อหวังอยู่ตลอดกาล ตลอดสมัยของชีวิต มีจิตใจตั้งตรงอยู่เฉพาะพระนิพพาน แล้วทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าเด็กหนุ่ม ๆ ที่มันมารวมตัว เป็นลูก เป็นหลาน กับยังมีกลุ่มคนดีอีกหลายกลุ่ม คนพวกนี้ถ้าคิดว่า สามารถจะสกัดจิตของตน ให้เป็นคนไท ไร้ความเป็นทาสทางด้านจิตใจ คือ โลภะ โทสะ โมหะ ก็หมายถึงว่า นั่นคือ การเป็นศัตรูของประเทศ โมหะให้เบ ลงมา คิดแต่เพียงว่า เราต้องตาย แต่จำต้องอาศัยทรัพย์สินเพื่อหวังความสุข นี่เป็นเรื่องของคนธรรมดาถ้า จิตใจของคนชำระความชั่ว เข้ามาสู่ความดี ได้ถึงขนาดนี้ ประเทศไทยจะเป็นไทสมบูรณ์บริบูรณ์ และเพียบพูนไปด้วยทรัพย์สิน

    ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยความสุข ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยสรรพาวุธที่บุคคลอื่น เขาหามาแลกน้ำมัน แม้แต่สรรพวุธที่ประหัตประหารโลกทั้งโลก ด้วยเพียงจุดๆ เดียวก็จะพึงมี ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่า เขาให้แก่ประเทศไทยโดยรู้ว่า ประเทศไทยไม่ทำลายเขา แล้วในกาลต่อไป พระราชาองค์นี้ ก็จะเป็นที่พึ่งของคนไทยต่อไป ความราบเรียบสงบเงียบ จากอันธพาล จากคนที่ขายชาติ จะค่อย ๆ มีขึ้นทีละน้อย จิตใจของคนจะเป็นไท ขึ้นมาทีละหน่อย ๆ ในเมื่อพระมหากษัตริย์ ทรงอยู่ใน ทศพิธราชธรรม และข้าราชบริพารรู้จักความเป็นไท ไทยเก่าๆ จะเข้าสิงใจไทยปัจจุบัน ให้ทำการให้ประเทศไทย เพื่อไทย การคิดล้มล้างชาติไม่มีผล สำหรับคนทั้งหลายที่คิด พวกเขาจะต้องสลายตัวไปตามกาลสมัย

    เอาละ ฉันจะกลับ บอกทุกคนว่า ฉันโมทนาที่ทุกคนมีเจตนาดีเพื่อไทย และทำใจให้เป็นไท คนใดเมื่อมีจิตใจเป็นไท คนนั้นในเวลานั้นอารมณ์ใจจะผ่องใส จะเข้าถึงธรรมโดยง่าย คือ โลกไม่ช้ำธรรมไม่เสีย เมื่อเป็นคนก็เป็น คนดี ตายแล้วก็เป็น ผีดี พ้นจากผีก็เป็นเทวดา เข้า นิพพาน ได้อย่างดี ในที่สุดนี้ของ จงบอกเขาว่า ฉันดีใจกับความดีของคนไทยทุกคน... สวัสดี

    (ท่านขุนช้างเล่าให้หลวงพ่อฟัง ประมาณ 5 เมษายน 2521 เป็นการเพิ่มเติม)

    น้ำมันนี่กว่าจะเจาะลงไปถึงมันกี่พันกี่หมื่นฟุต หรือว่ากี่พันกี่หมื่นเมตร เจาะลงไปแล้วก็ได้น้ำมันขึ้นมาไอ้น้ำมันนี่มันก็มีเหตุอยู่ 2 ประการที่จะได้น้ำมัน คือ

    1. ฟางเน่า หญ้าเน่า สัตว์เน่า หอยเน่า คนเน่า สะสมกัน ไอ้ความเน่ามันเกิดเป็นแกส กระแสที่ไหลไปจาก น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนองพวกนั้น สะสมกับน้ำธรรมชาติ เพาะตัวขึ้นมาอาศัยแกสผสมขึ้นมา ก็เกิดเป็น น้ำมันจุดไฟติด นี่อย่างหนึ่ง

    2. อาศัยแร่ธาตุที่มันเป็นหิน หินที่มีความชื้นที่เขาเรียกว่า หินน้ำมัน คือ มันไม่ใช่หินจริง ๆ มันเป็นสิ่งเนื้อหนังผสมกันกับธาตุดิน มีความเน่าของบางจุด เข้าผสมกันมีความชื้น เป็นน้ำมันอีกอย่างหนึ่ง

    น้ำมันที่ว่าจะเจาะลงไปพบนี่ เป็นน้ำมันผิวต้น ถ้าเจาะลงไปๆ ดึงดูดเอาความชื้นขึ้นมา แล้วมีปัญญาเจาะลงไปอีก มันก็จะไปเจาะน้ำมันอีก ชั้นของน้ำมันมีตั้งหลายชั้นสมมติว่า จะสูบน้ำมันขึ้นมาจริง ๆ โอ้โฮ มัน มีตั้งเยอะแยะ นี่ความจริง ดินแดนแผ่นนี้ ที่เรียกกันว่า แหลมทอง และเป็นเมืองทองก็เพราะ มีทรัพยากรมาก นอกจากน้ำมัน ก็ยังมีแร่มีหิน มีเพชรนิลจินดา มีเงินมีทอง มีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีค่า คนที่มีปัญญา ยังจะใช้ได้อีกนาน แต่ว่า ถ้าคนมีกำลังใจเป็นพาล คือ ความโง่

    ชอบเห็นคนอื่นดีกว่าพวกของตน และขนของ อกไปเป็นส่วนของตนมาก เมืองของตนรวยไม่ชอบ ชอบไปให้เมืองชาวบ้านอื่นเขารวย ขนทรัพย์ขนสินไปให้ชาวบ้านอื่นเขารวย ถ้ายังมีน้ำใจอยู่อย่างนี้ละ ของที่มีค่า มีราคาดี มันก็ยังปรากฏน้อย ถ้าคนทุกคนในเขตนี้ ที่เรียกกันว่า คนไทย มีใจรักชาติ มีความซื่อสัตย์สุจริต หวังความเจริญของบ้านเมือง ต้องการให้บ้านเมือง เจริญจริงๆ ทรัพยากรจะได้มากยิ่งกว่านี้ ไอ้ที่เขาว่ายังไม่ขึ้นมาๆ นี่

    ไม่ใช่เทวดากันไว้ ไม่ใช่ผีกันไว้ ไม่ใช่อย่างงั้น มันเป็นไอ้มนุษย์ ที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นแหละที่กันอยู่ เช่น อย่างว่า มีทุนมีงบประมาณเท่านี้ เขาให้ไปทำเท่านี้ มันก็กันเสีย ไปทำเท่าโน้น ไม่พอดิบพอดีกับเงินที่จ่ายไปแล้ว ผลประโยชน์นั้น จะได้สมบูรณยังไง ที่ท่านได้ฟังมาจากคนก่อนว่า ถ้าคนไทยดีขึ้นมาเมื่อไร ทรัพยากรทั้งหลายมันก็จะปรากฏมากเท่า

    ถ้ามีดีเต็มที่มันก็เกิดขึ้นมาเต็มที่ ดีน้อยมันก็เกิดน้อย ไอ้คำว่า "ดี" ในที่นี้ ที่ว่าทรัพย์มันจะขึ้นมามากนั้น ไม่ใช่มันลอยขึ้นมาเอง แต่เป็นด้วยการใช้ปัญญาของตนเอง หรือปัญญาที่ศึกษามาจากในต่างประเทศ ใช้ปัญญานั้นให้มันครบถ้วน ไม่ใช่ว่าไปเรียนกันมาแล้ว อยากจะได้เงินเดือน อยากจะได้เงินพิเศษ เงินกินบ้าง เงินโกงบ้าง เงินยักบ้าง เงินยอกบ้าง เงินแป๊ะเจี๊ยะ บ้าง เงินเก๊าเจี๊ยะบ้าง เป็นต้น อย่างนี้ ของดีมันก็ผุดขึ้นมาไม่ได้

    ถ้ากำลังใจของคนมันดีจริงๆ ซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีปัญญามาก เงินก็ใช้น้อย จะได้ผลเป็นของดีขึ้นมามาก คนที่มีปัญญามากนี่ เขาใช้เงินน้อย คือ ใช้ปัญญาช่วยด้วย ใช้แรงงานของ คนช่วยด้วย ใช้อย่างอื่นแทนเงิน

    อย่างคนโบราณนี่ เขาก็รู้จัก เอาทองหยอง ขึ้นมาใช้ รู้จักเอาน้ำมัน ขึ้นมาใช้ เขามีตะเกียงใช้เหมือนกัน แล้ว ก็เป็นตะเกียงน้ำมัน จะว่าใช้น้ำมันหมู ก็เอาหมูที่ไหน มาฆ่าตั้งเยอะแยะ จะว่าใช้น้ำมันมะพร้าว โรงกลั่นน้ำมันมะพร้าวก็ยังไม่มี น้ำมันตั้งแต่โยนกนคร หรือ สุโขทัย หรือกรุงศรีอยุธยานี่ เขายังไม่ได้ใช้น้ำมันต่างประเทศ

    ทองในประเทศนี่ เขายังส่งไปขายนอกประเทศด้วยซ้ำ เงินก็เหมือนกันเขาใช้ เงินในประเทศ ไม่ได้ซื้อ เงินนอกประเทศ แล้วเขาจะเอาเงินนี้ไปต่างประเทศ แลกเอาสิ่งของที่เราไม่มีเข้ามา ของทั้งหลายเหล่า นี้มันมีมาแล้วแต่อดีตกาล เขาใช้มาแล้วแต่อดีตกาล แต่คนสมัยนี้ไม่ได้ใช้ปัญญาอย่างคนในสมัยนั้น อะไรๆ ก็ต้องให้เป็นชาวต่างประเทศมาค้นคว้าหาทั้งหมด

    จึงปรากฏว่า มันขึ้นมาไม่ได้ ถึงขึ้นมาได้ เขาก็ต้องหากำไร ยกเอาไปบ้านเขามากกว่า ที่เราจะพึงได้ สมัยผม (ขุนช้าง-ขุนแผน) เขาก็หาน้ำมันกันได้ จะบอกวิธีก็ได้ น้ำมันนี่ เขาหากันตามเชิงเขา วิธีการหาน้ำมันก็เป็นของไม่ยาก เขาไปดูแหล่งเฉพาะวัตถุที่จุดไฟได้ดี หรือต้นไม้ที่มีการไวไฟเป็นต้น คนเขามีปัญญา เมื่อเจอะเหตุทั้งสองประการอย่างนี้ เขาก็หาแหล่งน้ำมันกัน น้ำมันที่จะพึงได้มาก็เป็นน้ำมันข้น บางจุดก็เป็นน้ำมันสีดำ บางจุดก็เป็นน้ำมันสีแดง แล้วเขาก็ใช้วิธี เกรอะ ตามวิทยาการ

    การหาแหล่งน้ำมันก็ดี แหล่งทองก็ดี เวลานั้นเขาใช้ผีช่วยบ้าง ใช้คนทิพย์ช่วยบ้างชี้บอกจุด ชี้บอกทางการ เจาะ การสกัดมันก็เป็นของไม่ยากนัก การใช้น้ำมันสมัยนั้น มันไม่มาก เหมือนสมัยนี้ ไม่มีรถยนต์ แต่ปีหนึ่งก็ใช้เป็นหมื่นๆ ถังเหมือนกัน การที่จะใช้แรงงานคน โดยเฉพาะใช้ปัญญา มากกว่าทรัพย์ ก็สามารถหาน้ำมัน ได้ขนาดนั้น เวลานี้ เราใช้ทั้งปัญญาด้วย ทั้งแรงเครื่องจักรด้วย ถ้าหาแบบนั้น มันจะได้มากกว่านี้มาก

    (เพิ่มเติม เมื่อ 24 มีนาคม 2522)

    น้ำมันในประเทศไทยนี้เกิดจากสามแหล่งใหญ่ ๆ คือ

    1. สายจากพม่า เป็นน้ำมันใสเกรดดี วกมาจากด้านมะริด

    2. สายจากประเทศจีน เป็นน้ำมันขุ่นหยาบ น้ำมันสายนี้ ไหลผ่านแร่ชนิดหนึ่งเรียกว่า ยูเรเซียม ซึ่งเป็น แร่ ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้จัก มีลักษณะดำเป็นมันเลื่อม และมีความร้อนสูง แร่นี้เป็นเชื้อทำให้ เกิดภูเขาไฟ เมื่อน้ำมันข้นนี้ ไหลผ่านแร่ ก็จะถูกความร้อน ทำให้น้ำมันมีคุณภาพดีขึ้น คือ ใสมากกว่าเดิม

    3. สายในประเทศเอง คือ เกิดเองในประเทศ เช่นที่ นครสวรรค์ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำมันจากประเทศจีนไหลมารวมกับสายพม่า ที่บริเวณนครสวรรค์ ทำให้เป็นน้ำมันคุณภาพดี แล้วเผยกว้าง เป็นอ่าวไหลผ่านลงมาทางใต้ ออกไปยังอ่าวไทย บ่อน้ำมันบนดินที่ตื้นมากที่สุดอยู่ทางทิศเหนือ

    ที่มา http://www.firstbuddha.com/Real/resource.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2008
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สาธารณสุขจีนยอมรับเชื้อหวัดนกติดคนสู่คน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 เมษายน 2551 13:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน รายงานว่า ชายวัย 52 ปี และ 24 ปี ในมณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นพ่อลูกกัน ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อไข้หวัดนกจากกันเอง เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยลูกเสียชีวิตในช่วงนั้น ส่วนพ่อรอดชีวิตเนื่องจากได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที รวมทั้งได้รับวัคซีนตามโครงการทดลองวัคซีนต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ติดต่อจากสัตว์ปีกสู่คน

    สำหรับกรณีดังกล่าว องค์การอนามัยโลกสงสัยมาตั้งแต่ช่วงเวลานั้นแล้วว่าจะติดเชื้อไข้หวัดนกจากคนสู่คน เนื่องจากไม่พบรายงานว่า พ่อมีประวัติสัมผัสสัตว์ปีกติดเชื้อ โดยเขาล้มป่วยภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากเฝ้าบุตรชายในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม การตรวจเลือดบุคคลอื่นๆ อีกกว่า 90 คน ที่เกี่ยวข้องกับพ่อลูกคู่นี้ ยังไม่พบว่ามีใครติดเชื้อ​

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000041570
     
  10. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    ดูข่าว CNN เขาบอกว่าให้ระวังโรคใหม่ที่เกิดจาก Super Bug
    ถ้ามันแพร่กระจายจะมีคนตาย 30 - 50 ล้านคน
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    อาจารย์ดาสิรา นาราดา ฝากมาบอกว่า

    ให้พวกเราเก็บหนังสือต่างๆ ที่มีประโยชน์ไว้ให้ดีๆ ทั้งบันทึกประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญา เทคนิคการเพาะปลูก ปศุสัตว์ ฯลฯ เก็บไว้ให้ปลอดภัยเพราะจะมีค่ายิ่งกว่าอะไร แม้แต่วิธีการจุดไฟอย่างง่ายๆ ก็ตาม

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    หมายเหตุ การเก็บรักษาหนังสือความรู้ต่างๆ เหล่านี้ ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต ควรเก็บใส่ถุงพลาสติก หรือกล่องพลาสติกที่สามารถกันน้ำและความชื้นได้ โดยมัดปากถุงพลาสติกให้แน่นอย่าให้น้ำรั่วซึมเข้าไปได้ และควรใส่วัสดุจำพวกกันแมลงสาป และหนูที่จะมากัดกินเอาไว้ด้วยครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2008
  12. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    ผู้ที่ไม่ได้รับเชิญ<O:p</O:p
    ผมเคยแอบไปดูกลุ่มพลังจิตประชุม เรื่องภัยพิบัติ ที่หอประชุมแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ รังสิต ช่วงที่ไปถึง ดร. สมิธ ธรรมสโรช กำลังพูดจบพอดี เสียดายที่ไปช้าเกินไป เครื่องปรับอากาศในห้องเย็นมาก ผมเข้าๆออกๆบ่อย ตอนที่ผมอยู่ด้านนอก ผมได้เดินดูของที่ทางกลุ่มได้นำมาแสดงแนะนำ ผมขอชมว่าจัดได้ดี จากนั้นผมได้มาซื้อนิตยสารที่ทางกลุ่มได้นำมาขาย ผมได้ซื้อไว้ 2 เล่มแถมยังมีพระเครื่องสมนาคุณผู้ซื้ออีกหนึ่งองค์ พอดีมีเจ้าหน้าที่ของกลุ่มเป็นชายหนุ่มรูปร่างอ้วนยืนอยู่ใกล้กับผมสนใจพระเครื่อง ผมจึงได้มอบให้ไป ช่วงที่ผมคุยกัน ผมได้ถามถึงสถานที่ๆกลุ่มพลังจิตจะนำผู้คนไปอาศัยอยู่ ผมก็ได้รู้ว่าจะไปอยู่ที่ พยุหคีรี ที่พยุหคีรีเป็นสถานที่ๆทางกลุ่มเลือกได้ถูกต้องที่สุด เพราะเป็นสถานที่ๆเทพอยู่ ที่ผมรู้เพราะว่าอาจารย์ผมเล่าให้ผมฟัง <O:p</O:p
    เรื่องมีอยู่ว่า ญาติอาจารย์ทำงานอยู่กรมทางหลวง ในเวลานั้นญาติอาจารย์ได้มาคุมสร้างสะพานกลับรถที่ พยุหคีรี เนื่องจากญาติอาจารย์ไม่เชื่อและไม่รู้ว่าที่ๆจะสร้างสะพานกลับรถตรงนั้นเป็นเมืองเทพ จึงทำการสร้างผ่ากลางเมืองเทพพอดี ผลปรากฏว่าในเวลาต่อมา รถของญาติอาจารย์<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]พลิกคว่ำแถวถนน งามวงศ์วาน</st1:personName> เขตลาดยาว กรุงเทพฯ ทำให้ญาติอาจารย์ที่นั่งมาด้วยขาหัก ส่วนคนขับรถ กระดูกคอเคลื่อน เรื่องมารู้ถึงอาจารย์ผม ท่านจึงได้นำญาติคนนี้ พร้อมกับคณะก่อสร้างไปทำพิธีขอขมาที่พยุหคีรี เรื่องร้ายต่างๆจึงสงบลง<O:p</O:p
    จากนั้นมาเมื่อมีงานก่อสร้างไม่ว่าที่ใดญาติคนนี้จะต้องเชิญอาจารย์ผมไปดูและไปสื่อกับวิญญาณอีกมิติเสมอ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2008
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'อาหารแพง'ทำเอเชียป่วนมีประท้วง-จลาจล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 เมษายน 2551 22:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    เอเอฟพี - ความมั่นคงของรัฐบาลในประเทศเอเชียหลายแห่งกำลังถูกสั่นคลอนอันเนื่องมาจากการจลาจล ประท้วง และนัดหยุดงาน ซึ่งเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการกักตุนของผู้ที่หวังกำไรเกินเหตุ

    บรรดาผู้นำของประเทศเอเชีย ต่างกำลังจับตาสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของความไม่สงบในบ้านเมืองอยู่ ในขณะที่ประชาชนในภูมิภาคต้องดิ้นรนมากขึ้นเพื่อรับมือกับราคาอาหารที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะข้าวซึ่งเป็นอาหารหลัก

    อุย คี เปิง นักวิจัยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์กล่าวว่า จะมีความวุ่นวายทางสังคมเกิดขึ้น และประเทศยากจนกว่าเพื่อน อาจจะมีปัญหานี้มากกว่าประเทศที่มีฐานะเศรษฐกิจดีกว่าเพื่อน อย่างมาเลเซียและสิงคโปร์

    ที่เห็นอยู่ในตอนนี้ก็คือ บังกลาเทศและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีคนยากจนอยู่เป็นจำนวนมาก กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากอาหารที่แพงขึ้น

    อะทาเออร์ เราะห์มาน นักรัฐศาสตร์จากบังคลาเทศบอกว่า รัฐบาลรักษาการของบังคลาเทศกำลังอยู่ในฐานะลำบากมาก อาหารที่แพงขึ้นกลายเป็นมาแรงกดดันอย่างใหญ่หลวง ประชาชนเริ่มสั่งสมความไม่พอใจมากขึ้นและอาจระเบิดออกมาเป็นความรุนแรง จนถึงขั้นจลาจลได้

    เวลานี้ประชาชนยากจนในบังคลาเทศและอินโดนีเซีย ต้องใช้เงินราว 70%ของรายได้ทั้งหมดมาซื้ออาหาร ส่วนที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งของโลก รัฐบาลเรียกระดมกำลังทหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อนำส่งข้าวไปในเขตยากจนของกรุงมนิลา เพราะกังวลว่าจะเกิดการขาดแคลนขึ้น นอกจากนี้ก็ยังสั่งจับพวกกักตุนข้าวเพื่อป้องปรามมิให้ราคาข้าวแพงขึ้นเกินเหตุ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง

    ส่วนทางพม่า นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า ความข้นแค้นทางด้านเศรษฐกิจของประชาชน เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักให้คนมากกว่าหนึ่งแสนออกไปเดินประท้วงบนถนนท้าทายกฏเหล็กของรัฐบาลทหารแห่งพม่าเมื่อปีที่แล้ว ในตอนแรกก็เป็นแค่การเดินขบวนแสดงความไม่พอใจที่มีผู้เข้าร่วมไม่มาก แต่เกิดขึ้นหลายครั้งในเดือนสิงหาคมหลังการประกาศขึ้นราคาสินค้า จากนั้นก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้รัฐบาลพม่าเห็นว่าการจลาจลเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดต่อระบอบในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาทีเดียว และตัดสินใจปราบปรามอย่างโหดร้ายเพื่อสยบผู้ไม่พอใจให้ราบคาบลงในเวลาอันรวดเร็ว

    ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มสูงเรื่อย ๆ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาราคาอาหารเฟ้อ เพราะผู้ประกอบการจะผลักต้นทุนเชื้อเพลิงที่แพงขึ้นไปให้ผู้บริโภคแบกรับเอาไว้ การขึ้นค่ารถประจำทางที่คนจนใช้อยู่ทุกวันทำให้รายได้ประจำของเขาที่กระเบียดกระเสียรอยู่แล้วต้องร่อยหรอลงไปอีก

    ในอินโดนีเซีย ราคาน้ำมันก๊าดที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการปรุงอาหารของคนจน ก็พุ่งตามเชื้อเพลิงชนิดอื่นไปด้วย

    แม้แต่ผู้นำที่แข็งแกร่งอย่างเช่น ซูฮาร์โต ก็ยังเคยถูกบีบให้ก้าวลงจากอำนาจ หลังจากเกิดสภาพมิคสัญญีขึ้นในสังคมอินโดนีเซีย เพราะการประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ

    ส่วนซูซิโล บัมบัง ยุดโธโยโน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระและต้องคำนึงถึงการเลือกตั้งในปีหน้า ก็ออกมาให้คำมั่นว่าจะไม่ลดมาตรการอุดหนุนด้านพลังงานลง แต่นักวิเคราะห์ก็เห็นว่าประชาชนในอินโดนีเซียยังต้องรัดเข็มขัดอย่างหนัก เพราะสินค้าจำเป็นอื่นๆ ขึ้นราคากันหมด

    รัฐบาลอินโดนีเซียแก้ไขปัญหานี้ โดยเปิดจำหน่ายน้ำมันพืชปรุงอาหารในราคาถูก รวมทั้งสัญญาแจกจ่ายข้าวให้แก่ประชาชน แต่ว่าก็บรรเทาปัญหาไปได้ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะว่ามีข้าวไม่พอแจกประชาชนที่ต้องการ เฮนรี ซาปารินี นักเศรษฐศาสตร์คนหนึ่งแห่ง ทิม อินโดนีเซีย บังกิต ซึ่งเป็นสถาบันศึกษาวิจัยแห่งสำคัญบอกว่า ภายในสามเดือนหากว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการใหม่ที่มีประสิทธิภาพออกมา น่าวิตกเหลือเกินว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้น

    ที่จีน รัฐบาลกังวลเรื่องเงินเฟ้อเป็นพิเศษ เนื่องจากมันมักจะนำไปสู่ความไม่สงบ รวมทั้งเป็นเชื้อไฟสำหรับความโกรธเกรี้ยวของประชาชนต่อรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 1989 ที่รัฐบาลต้องปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน

    ตอนนี้ราคาอาหารหลักในจีนอย่าง เนื้อวัว เนื้อหมูพุ่งขึ้นมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ฌอง-ปิแอร์ แคเบสตันจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง แบบติสท์ กล่าวว่าปัญหานี้ทำให้ประชาชนไม่พอใจอย่างรุนแรง และอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อการต่อต้านรัฐบาลได้ในอนาคต

    แต่เขาก็บอกว่าความเสี่ยงของจีนที่จะเกิดการจลาจลครั้งใหญ่จากปัญหาเงินเฟ้อนั้นน้อยลงกว่าเมื่อทศวรรษ 1980 เนื่องจากตอนนี้ประเทศมีชนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคนเหล่านี้ก็จะส่วนมากในการทำให้ระบบสังคมมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาอยู่ดีกินดีเพิ่มขึ้น แม้สำหรับชนชั้นล่างที่มีรายได้น้อย ยังมีโอกาสเหมือนกัน ที่จะออกมาก่อหวอดประท้วงรุนแรงจากสาเหตุราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้น

    สำหรับเวียดนาม แม้ว่าจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำแห่งหนึ่งของเอเชีย แต่ในไตรมาสแรกของปีนี้ราคาอาหารก็แพงขึ้นกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และการนัดหยุดงานประท้วงก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คนงานราว 15,000 คนของโรงงานทำรองเท้าผละงานประท้วงเพราะต้องการค่าแรงเพิ่มขึ้น เพื่อให้ไม่ต้องดิ้นรนมากนักในสภาพที่ทุกอย่างแพงขึ้นกว่าเดิม

    แม้กระทั่งในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ร่ำรวยในอันดับต้น ๆของเอเชีย อีกทั้งมีระบอบการปกครองที่เข้มงวด ประชาชนก็เริ่มส่งเสียงดังกันบ้างแล้ว เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้ประท้วง 10 คนถูกจับเพื่อออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลที่ปล่อยให้ค่าครองชีพแพงขึ้นมามาก

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000041926

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2008
  14. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    หลวงพ่อในป่าท่านบอกต่อไป น้ำมัน ข้าว เกลือ จะแพง

    ไอ้สองอย่างแรกมันแพงไปแล้ว เกลือก็ซื้อๆเก็บไว้บ้างนะครับ
     
  15. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    สองวันที่ผ่านมาอยู่ในสถานที่หนึ่งที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงลมแรง และมีฝนบรรยากาศหดหู่มาก จึงคิดจำลองบรรยากาศว่าเรากำลังอยู่ในระหว่างช่วงเวลาของภัยพิบัติ และได้ฝึกทำสมาธิในสภาพการณ์ดังกล่าวปรากฏว่าช่วงหนึ่งลมแรงขนาดประตูที่ล๊อคอยู่เปิดเสียงดังทำให้ตกใจสุดตัว ทำให้คิดได้ว่าการทำสมาธิเพื่อฝึกจิตให้เข้มแข็งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งจากสิ่งที่ประสบด้วยตัวเองทำให้คิดได้ว่าจะพยายามฝึกจิตให้เข้มแข็งในหลายๆสภาพการณ์ เช่นที่ที่มีเสียงอึกทึกครึกโครม สภาพการณ์ที่หดหู่ จำได้ว่าเคยนั่งในโรงพยาบาลรามาธิบดีได้ยินเสียงคนร้องโอดโอยจากความเจ็บปวด เห็นคนในสภาพทุกข์หลายรูปแบบ และเห็นห้องดับจิตก็ทำให้จิตตกมีความกลัวมาก ตอนนี้คิดได้ว่าหากไปในที่ใดๆก็ตามจะพยายามใช้วิกฤติดังกล่าวมาเป็นโอกาสในการฝึกจิต ที่สำคัญต้องคอยบอกตัวเองว่าอย่าลืมฝึกทำสมาธิ...
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระเวสสันดรทรงได้รับพร ๘ ประการจากพระอินทร์

    [​IMG]

    "ข้าแต่ท้าวสักกะ เมื่อหม่อมฉันบริจาคทาน ทรัพย์สมบัติ พึงไม่หมดสิ้นไป บริจาคแล้วไม่พึงเดือดร้อนภายหลัง เมื่อกำลังบริจาค พึงทำจิตให้ผ่องใส เมื่อหม่อมฉันพ้นจากอัตภาพนี้ พึงไปสู่สวรรค์ ถึงชั้นดุสิตอันวิเศษ จุติจากชั้นดุสิตมาเป็นมนุษย์ พึงเป็นผู้ไม่เกิดอีก"

    ครั้งที่แล้ว ถึงตอนที่พระอินทร์ได้มาเสริมบารมีของ พระเวสสันดร ด้วยการแปลงเป็นพราหมณ์แก่ มาทูลขอพระนางมัทรีราชเทวี พระองค์ทรงยอมที่จะสละมเหสีผู้เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกัน อีกทั้งพระนางมัทรีก็ไม่ลังเลพระทัย ทรงทำความปรารถนาของพระสวามีให้เต็มเปี่ยม แต่พระอินทร์ก็ได้มอบพระนางมัทรีฝากไว้กับพระเวสสันดร นั่นแสดงว่า พระเวสสันดรไม่อาจให้พระนางมัทรีแก่ใครได้อีกต่อไป จากนั้นทรงเนรมิตอัตภาพจากพราหมณ์แก่เป็นท้าวสักกเทวราชตามเดิม ประทับยืนอยู่บนอากาศ ตรัสชมเชยบรมกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ว่า สมแล้วที่เป็นขัตติยราช สมบูรณ์ด้วยพระวงศ์ ได้ประสูติดีแล้วแต่พระมารดาพระบิดา แม้ถูกเนรเทศเสด็จมาแรมราตรีอยู่ในราวไพรป่า ก็ยังบำเพ็ญมหาทานบารมีไม่ได้ขาด​

    [​IMG]

    *ด้วยความเลื่อมใสในพระเวสสันดร ผู้มีพระหฤทัยมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยวสูงส่งหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก ทำให้พระอินทร์ถึงกับเปล่งวาจาอนุญาต ให้พระเวสสันดรขอพรได้ถึง ๘ ประการ พระโพธิสัตว์จึงตรัสว่า

    " ข้าแต่ท้าวสักกะ ผู้เป็นใหญ่ของสรรพสัตว์ ถ้าพระองค์จะประทานพรแก่หม่อมฉัน ขอพระชนกของหม่อมฉัน พึงทรงยินดีให้หม่อมฉันกลับจากป่านี้ สู่นิเวศน์ของหม่อมฉัน พึงเชื้อเชิญด้วยราชบัลลังก์ หม่อมฉันเลือกข้อนี้เป็นพรข้อที่ ๑

    หม่อมฉันไม่ชอบการฆ่าคน แม้ทำผิดร้ายแรง พึงทำคนมีโทษให้พ้นจากการประหารชีวิต หม่อมฉันขอเลือกข้อนี้เป็นพร ข้อที่ ๒

    ชนเหล่าใดเป็นคนแก่ เป็นคนหนุ่ม และเป็นคนวัยกลางคน ชนเหล่านั้นพึงอาศัยหม่อมฉันเลี้ยงชีพ หม่อมฉันขอเลือกข้อนี้เป็นพรข้อที่ ๓

    หม่อมฉันไม่พึงถึงภรรยาของชนอื่น พึงขวนขวาย แต่ในภรรยาของตน และไม่พึงตกอยู่ในอำนาจของสตรีเหล่านั้น หม่อมฉันขอเลือกข้อนี้เป็นพรข้อที่ ๔

    ข้าแต่ท้าวสักกะ บุตรของหม่อมฉันที่พลัดพรากไปนั้น พึงมีอายุยืน พึงครองแผ่นดินโดยธรรม หม่อมฉันขอเลือกข้อนี้เป็นพรข้อที่ ๕

    เมื่อราตรีสิ้นไป ทันทีที่แสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณปรากฏขึ้นมา ขอให้ภิกษาหารอันเป็นทิพย์พึงปรากฏมี หม่อมฉันขอเลือกข้อนี้เป็นพรข้อที่ ๖

    เมื่อหม่อมฉันบริจาคทาน ทรัพย์สมบัติพึงไม่หมดสิ้นไป บริจาคแล้วไม่พึงเดือดร้อนในภายหลัง เมื่อกำลังบริจาคพึงทำจิตให้ผ่องใส หม่อมฉันขอเลือกข้อนี้เป็นพรข้อที่ ๗

    และเมื่อหม่อมฉันพ้นจากอัตภาพนี้ พึงไปสู่สวรรค์ถึงชั้นดุสิตอันวิเศษ จุติจากชั้นดุสิตนั้นมาเป็นมนุษย์ พึงเป็นผู้ไม่เกิดอีก หม่อมฉันขอเลือกข้อนี้เป็นพรข้อที่ ๘ "

    [​IMG]

    *มก. เวสสันดรชาดก เล่ม ๖๔ หน้า ๗๖๙ สรุปคำขอพร ๘ ประการของพระเวสสันดร

    ๑. ให้ทรงได้รับอภัยโทษจากพระราชบิดา
    ๒. ให้ทรงช่วยคนถูกฆ่าได้
    ๓. ให้ไพร่ฟ้าได้พึ่งพาพระองค์ได้
    ๔. ให้มั่นคงในพระมเหสี ไม่ลุ่มหลงสตรีอื่น
    ๕. ให้ได้สืบสันติวงศ์
    ๖. ให้มีสิ่งของบริจาคทานไม่รู้หมดสิ้น
    ๗. ให้มีอาหารทิพย์พอเพียงทุกรุ่งเช้า
    ๘. ให้ได้สำเร็จพระโพธิญาณ

    ท้าวสักกะจอมเทพได้สดับพระดำรัสของพระมหาสัตว์แล้ว ทรงใคร่ครวญพิจารณาถึงพร ๘ ประการ ว่าจะสำเร็จหรือไม่ และจะหาทางช่วยให้ความปรารถนาของพระโพธิสัตว์สำเร็จได้อย่างไร ครั้นพิจารณาความเป็นไปได้ครู่หนึ่ง ก็ตรัสบอกว่า "อีกไม่นาน พระราชบิดาผู้บังเกิดเกล้าของพระองค์ จักเสด็จมาพบพระองค์ แล้วจักพระราชทานเศวตฉัตร อีกทั้งเชิญเสด็จไปกรุงเชตุดร ความปรารถนาของพระองค์ทุกอย่างจักถึงที่สุด ในไม่ช้านี้ ขอพระองค์จงเป็นผู้ไม่ประมาทเถิด"

    ครั้นประทานโอวาทแด่พระมหาสัตว์แล้ว ท้าวสักกเทวราช ได้เสด็จกลับสู่ทิพยสถานของพระองค์ ส่วนพระเวสสันดรโพธิสัตว์และพระนางมัทรี ต่างดีใจที่ความปรารถนาทั้ง ๘ ประการ จะกลายเป็นจริง อีกทั้งทรงปีติยินดีที่รู้ว่า การทำ ความดีทุกอย่างของพระองค์นั้น อยู่ในสายตาของชาวสวรรค์ ทั้งสองพระองค์ได้ประทับแรมอยู่ในอาศรมที่ท้าวสักกะประทานให้

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    เริ่มปรากฎแล้วทองคำขาวหรือแพทตินั่ม จะใช้สร้างจานบินในอนาคต
    ที่ประเทศไทยแห่งแรก อจ.ปริญญา บอกว่าจะพบมากที่น่าน
    แต่ที่ประจันตคาม เนี่ยะ เป็นที่จานบินลงจอด เนอะ วัดแจ้งเมืองเก่าไง
    ......
    (||)
     
  18. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เรียนคุณแม่นายมล
    ไอสไตน์เคยคิดค้นทฤษฎีสนามกำลัง Fields Theory โดยบอกไว้ว่าประกอบด้วยสนามพลัง 4 Fields หลักๆดังนี้
    1) Electric Field
    2) Magnetic Field
    3) Gravity Field
    4) Special Field

    ตรง Special Field ไอสไตน์ยังหาไม่เจอเลยไม่สามารถสร้างแรงโน้มถ่วงเทียมหรือต้านแรงโน้มถ่วงโลกได้ Special Field นี้ผมเดานะว่ามันคือ สนามพลังจิตนั่นเอง
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ขอ ****

    พ.ศ.๒๕๕๑
    วงล้อเศรษฐกิจโลก...หยุดชะงัก
    พลังงานเก่า....หดหาย
    ข้าวยาก...หมากแพง
    คนโลภ....แก่งแย่งทรัพยากร
    ความขัดแย้ง...รุกรามถึงบ้าน
    คนทรยศ....คิดขายชาติ
    สงคราม...คือทางออกของเขา
    ขอให้...หยุดได้ไหม
    หยุด....ด้วยอะไรที่ดี

    หยุด...ด้วยความคิด
    หยุด....ด้วยยุทธศาสตร์โลก
    หยุด...ด้วยการขุดคอคอดกระ
    หยุด....ความคิดร้ายทั้งมวล

    เปิด...ฉากการลงทุนสากลโลก
    เปิด....เส้นทางขนส่งสายน้ำที่ต่างปรารถนา
    เปิด...เมืองท่าที่อุดมสมบูรณ์
    เปิด....เมืองธุรกิจที่หนึ่งในโลก
    เปิด...ใจกว้างต้อนรับทุกเผ่าพันธุ์
    เปิด....ตำแหน่งงานใหม่มโหฬาร

    เลิก...คิดแบ่งแยกดินแดน
    เลิก....คิดสนับสนุนโจรรายวัน
    เลิก...คิดครอบครองประเทศ
    เลิก....คิดก่อการร้ายทั่วโลก
    เลิก...คิดก่อสงครามโหดร้าย

    หัน...หน้าสู่ Thailand
    หัน...หน้าทำงานสุจริต
    หัน....หาความมั่นคงในชีวิต
    หัน...หาสัจจะธรรมที่พึ่งแท้จริง
    หัน....หัวสู่ดินแดน สุวรรณภูมิ

    เชิญ...ท่านผู้มั่งคั่งมาลงทุน
    เชิญ....ท่านผู้กำยำมาลงแรง
    เชิญ...ท่านผู้มีปัญญามานั่งคิด
    เชิญ....ท่านผู้มีฤทธิ์มาคุ้มครอง
    เชิญ...ทุกท่านร่วมกันขุดคลอง
    ทรัพย์ในดิน....คือของคนไท

    ขอ....อำนาจโลกุตตระธรรม
    ขอ...อำนาจพระธรรมคำสั่งสอน
    ขอ....อำนาจสัจจะที่ทำได้
    โปรด...น้อมนำส่วนกุศล
    แผ่....รอบคอบจักรวาล
    วิมารพรหม ยมโลก...รอบคอบจักรวาล
    สันดานมนุษย์...อุทิศส่งคุณบิดามารดา
    ผู้อุปการะ ผู้อุปถัมภ์....เจ้ากรรมนายเวร
    รอบคอบ...จักรวาล
    ขอทรัพย์ปรากฏ...เข้ายุคศิวิไลซ์


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    Special Field ที่คุณทศพรกล่าวถึง อาจเป็นคลื่นจิตหรือสนามพลังงานสากลอันกว้างใหญ่รวมถึงช่องทางมิติ-ภพภูมิต่างๆด้วยนะครับ โดยมีหน่วยย่อยๆพึ้นฐานต่างๆมากมายให้พวกเราได้ศึกษาค้นคว้ากันอยู่ทุกวันนี้นะครับ..

    ส่วนการจะสร้างยานพาหนะเช่นจานบินได้นี่ต้องเข้าใจกลไกของมิติและภพภูมิและผสมศาสตร์ต่างๆจนเกิดศาสตร์แขนงใหม่ขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ เมื่อถึงเวลานั้นมิติต่างๆจะเปิดให้เราได้เห็นชัดขึ้นกว่านี้มาก การที่เขาเดินทางไป-มา หรือเ้ข้า-ออก ในมิติโลกและอวกาศได้นั้นเขาบอกว่าเค้าใช้วิธีการนี้กันอยู่...

    1-ปรับมวลสารให้มีค่าเป็นลบ -(เพิ่อการทะลุทะลวงมิติเวลา)
    2-ปรับค่าG (gravity)ให้เป็นศูนย์..(ไม่มีแรงภายนอกมากระทำ)
    3-สร้างแรงเหวี่ยง และศูนย์ถ่วงจำเพาะด้วยสนามแม่เหล็กภายในตนเอง
    4-วัสดุชนิดพิเศษที่มีอยู่บางแห่งในจักรวาลและมีชุดสวมใส่ที่ป้องกันตนเองในการเดินทาง
    5-ใช้จิตควบคุมพลังงานและการกำหนดทิศทาง(ด้วยแร่ธาตุในโลกของเขา)
    6-อาศัยช่องทางหรือช่องโหว่ของมิติ และเส้นแสงช่วยในการเดินทาง
    ทำให้สามารถเดินทางได้ด้วยอัตราเร็วเปลี่ยนค่าเป็น2เท่าในทุกๆวินาทีของความเร็วแสง (ตามสูตร E=Mc2 ของไอนสไตน์ ความเร็วสูงสุดเทียบเท่าแสงหรือมากกว่าแสง หรืออาจเร็วเกือบเท่าจิตก็เป็นได้)

    เรื่องนี้ก็ฟังไว้ก่อนเพราะมีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน ทราบมาว่าโลกยุคใหม่จะล้ำหน้าไปในแนวสมาพันธ์ของจักรวาลด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...