เหลวเป๋วอ่อนหัด

ถ้ามีศรัทธาอันยิ่ง จริงๆ..

มันไม่กลัวตายหรอก..

ถ้ามีศรัทธาอันยิ่ง จริงๆ เมื่อจิตเข้าสู่ภวังค์ ย่อมผ่านพ้นไปได้..

ถ้ามีศรัทธาอันยิ่ง จริงๆ เมื่อถูกวิปัสสนูกิเลสเล่นงาน ย่อมผ่านไปได้ โดยง่าย..

 

งั้นเปลี่ยนเป็นเมื่อถึงเวลาที่รู้ว่าต้องตายแน่ๆจะไปตายที่ไหนดี.. เลือก รพ มีญาตื มาส่งหรืออาจไม่มี หรือขึ้นเขาเข้าถ้ำไปเลยดี ถ้าใจไม่ถึงคงเลือก รพ แน่ๆ
คิดถึงเรื่องความตายที่ไร ก็คิดถึงความตายของคนอื่นๆที่ตายไปแล้วทุกที บางคน ตายไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่าต้องตาย
พอดีกำลังคิดถึง บางคนที่เหมิอนเตรียมตัวให้ต้องตาย (ด้วยการหยุดกินยาโรคประจำตัว ไม่บอกใคร ไม่ลาใคร)พร้อมตายแต่คิดอีกทีก็เหมือนกำำำลังหนีความแก่และความป่วย พอคิดถึงนิสัยท่านแล้วคงไม่ใช่คนหนีอะไร เพราะเป็นคนกล้าตั้งแต่เด็ก

 

ก็ต้องมีสัมมาทิฏฐิก่อนตายให้ได้
สัพเพสังขารา สัพพสัญญาอนิจจา...อนัตตา
อะไรที่ว่าตาย สังขาร สัญญามันหลอกทั้งนั้น
ธรรมอยู่ที่ปัจจุบัน
ต้นคดปลายตรงไม่มี ถ้าต้นตรง จะไปห่วงปลายทำไม
นะ ถึงตอนนั้นจะโรงพยาบาลหรือถ้ำก็มีค่าเท่ากัน

 

พูดได้สวย

 

หยู๊ดดดดด หยุด หยุด หยุด !!

หยุด การแล่นไปในอนาคต ก่อนเลยฮับ

มาสังเกต สัญญาแล่นไปในอนาคต (ในกรณีนี้)
และ สัญญาแล่นไปในอดีต(side effect)

ถ้า ลวกเพ่ 2ช ปล่อยให้ปัญญาแบบปุถุชน
ครอบงำ แล่นไปในอนางอ กับ อดีต อะไร
แบบนี้เขาเรียกว่า "หลงทำกาละ" ( อาการ
มีทิฏฐิว่า การตายคือจบเรื่องจบราว) พอมัน
ร้อยรัดมากๆเข้า ก็มีทั้งมีพรอพปลากรอบ
หรือแม้นแต่ จุกอกแปล๊บแล้วไปเลย

อเวจีมหานารก เจียวนะฮับ ( ภพนี้ มันจะ
นิ่งๆ เงียบๆ นึกว่าจบ เพราะมี ตนคนเดียว
พอมี พระศาสดาปรากฏบนโลก แสงถึง
จะส่องลงไปถึง แล้ว คนในอเวจีมหานรก
ถึงจะ อ้าว ไม่ใช่เราคนเดียว ในภพนี้ จะ
เห็น กันและกันจำนวนมาก แต่ก็ เห็นข้อ
เท็จจริงเพียงแว๊บเดียว แล้ว สัญญาใน
อดีต อนางอ ก็เข้ากรุมรุม ครอบงำอีก )

 

อย่าไปเชื่อมัน ฮับ

จิต เนี่ยะ ตัวร้าย
( คำพระ ก็ กิเลสเกิดบนหัวใจสัตว์ )
( คำศาสดา อวิชชาเป็นปัจจัย.... )

แต่ก็อย่า ตำหนิ มันเด็ดขาด ให้กำหนดรู้
ความ ร้าย ของมัน แบบ ซื่อๆ เป็นกลาง
ตั้งมั่น

ต้องสู้ นะฮับ

เวลาเห็นใครโดนสัญญาอดีต อนาคตรมควัน
เนี่ยะ.........โคตาราปวดจายยยยยยยย

แค้น!!

....................หนังขาด.........................

 

ไหลไปอดีตอนาคต เข้าใจ
ยังไงๆก็ไหล แต่ก็ไหลแบบรู้ตัวว่าไหลได้มั๊ยละ

 

สติโพชฌงค์ถึงเอาสัญญาวิปลาศอยู่
ตั้งกายให้ตรงดำสติให้มั้น
รูปจะสวย
สวยที่กรอบ
โลกกะบอกชัดๆ

 

......................

 

ไปวัดเอา

ถ้า ภาวนาได้ จะต้อง "ลุกออก" แบบสะบัดก้นได้

พอมันไหล เราไม่ห้าม เพราะถ้า ห้าม เราก็รู้
ชัดว่าเป็น การข่มด้วยสมถะ เดี๋ยวก็ไม่
เที่ยงวิปัสสนาปรากฏ เป็นรสเดียว กิจเดียว

การ ลุกออก คือ ไม่เชื่อแม้นแต่ สมถและวิปัสสนา
ที่มันหลอกว่ากิจเดียว รสเดียว ด้วย

อริยสัจจญาณ ต้องดับ

หากไม่ดับ อีกแสนกัปปปป ก็ ฮี้กัปๆ ไม่เลิก

 

ถ้าฟังข้างบน เข้าใจ แต่มันไม่เห็น "รสชาติ"

ก็นั่นแหละ แนะนำ หลวงพ่อของ ขาจร

พระท่านนั้น จะเน้นเรื่อง กุปธรรม อกุปธรรม
และ รสชาติ

พระป่า จะเก่งเรื่อง การสมควรแสดงนิพพาน

ส่วนพระท่านอื่นส่วนใหญ่ เน้นแต่ มรรค(ตามสัจจของตน)
[ ซึ่งจัดเป็น การมากข้อวัตร การบรรลุจะน้อยลง ]

 

ฮี้กัปๆ ฮี้กัปๆ ตลกดีฮะ ขอตัวทำงานก่อนล่ะคับ คุยกะท่านบ่อยๆผมคงจะเป็นคนดีขึ้นมาบ้างนะ

 

อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ไม่ใช่เหรอ..

ถ้าเป็นงานบริษัท บอกหัวหน้าเลย ขอรับเงินเดือน75เปอร์เซ็น นอนอยู่บ้านตาม นโยบายรัฐบาล..



5555555

 

สติ โพด ซง..

สติ โพด คือ สติ หลายคัก..

โพด ซง คือ หลายคัก แต่ ทรงอยู่ เอาอยู่

รวมๆเป็นภาษาไทยว่า "สติตั้งมั่นไม่หวั่นไหว"

เป็นได๋ การแปลภาษา เข้า ท่า บ่..

5555555

 

ประธาน กรรม .........กิริยา
ประธาน(โลก) กรรม(โลก) กริยา(โลก)
แบบนี้โอเคร ในประโยชน์ของมัน
โลก+ธรรม ในปรโยคของมัน
ตีกันตายไม่มีประโยชน์
55บ่นเฉยๆละครับ

 

หรือผมเองสัญญาวิปลาศเองนะงงหลาย
55

 

เอ้า ปัดติโถ เถเถียงนา

เห็นโพสตอนแรก ก็กะว่า จะมา ชมแระว่า

นานแล้ว ไม่เคยเห็นคนพูดแนว
สัจจญาณ กิจญาณ กตญาณ

มรรค4 อาการ12

แต่ก็นะ มันจะยากหน่อยๆ หากเผลอ
ไปเชื่อมัน ที่มันยุแหย่ ให้คิด ให้ทำ
เช่น "เอามรรคขึ้นก่อนเด้...." , "เอานิโนเด้...."
เอะ หรือ "สมุทัยก่อง สมุทัย อยากนิพพาน
ต้องมาก่อน..." ไปเชื่อมัน เฮียส่งมาเกิดทันที
ของจริงก็ต้อง " ฮู้ตุ๊ก ..... ฯ " ไม่เป็นอื่น

แทนที่จะกลับไปที่ เหตุ ก่อนหน้า

อาการ12 หากไปอ่านพระสูตร
อาจจะเมาได้ เหมือนกับว่า ทะลุ12เด้ง
ข้อสันนิฐานส่วนตัว คือ คนจำ"บาลี"
ก็ลักลั่น หรือ เป็นเรื่องของสัพพัญญุตาญาณ
ไม่ทั่วไปสำหรับสาวก เหตุในการกล่าว
อาจจะเพื่อ "แสงขาว" ( สภาวะธรรม"เลื่อม"พราย )

 

ปล. การชื่นชม ร้อยละร้อย มันเป็น เมลามีน

ดังนั้น

หากกล่วถูกต้องตามธรรม คนมีธรรม
เขาจะเงียบไม่มี ธุระ

และ ถ้า คราวหลังเห็น ธรรมใดถูกต้อง
ก็จะไม่ เออะ อะ โพส อย่างไรเหตุ

ศิษยตถาคต ย่อม ฉลาดในเหตุ ในการ
แสดงธรรม ไม่ใช่ เฮีย ส่งมาเกิด นึก
อะไรได้ ก็ เอามาโพส โดยไม่มีเหตุให้แสดง

 

แค่ฝากไว้ ก่อนเนตหมด..

ตามรอย "หลวงปู่ฝากไว้" หลวงปู่ดูลย์ อตุโล..


55555555

 

จขกท. เขาจะได้ไม่เสียเวลา ลังเลสงสัย เดินตรง ทีเดียวถึง..



5555555