ติดตามสถานะการณ์

ฟ้าใหม่ ฝนใหม่พยายามอย่าอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หรือกลางแจ้งเด้อคับเวลาฝนตก เกิดเหตุ
#ฟ้าผ่างัวตาย บ้านหนองยาง ต.เวียงสะอาด อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
ฟ้าฝนมาใหม่ ระมัดระวังกันแหน่เด้อครับพี่น้อง
cr.สมาคมชาวพยัคฆภูมิ

 

#ผ่ามาตรการกระทืบCurveของออสเตรีย
#สายด่วนพิชิตCovid

สัปดาห์นี้ ประเทศออสเตรีย ได้เริ่มเข้าสู่แผนผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองแล้วนะคะ เพิ่มขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศอีกครั้ง

โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนเป็นต้นมาจะอนุญาตให้เปิดร้านค้าเล็กๆ ร้านชำ อุปกรณ์ช่าง DIY ได้ ส่วนร้านค้าทุกประเภท สามารถเปิดได้ในวันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป ส่วนงานอีเวนท์ กิจกรรมชุมชนต่างๆ สามารถจัดได้หลังจากเดือนกรกฎาคมไปแล้ว

ประเทศออสเตรีย จึงเป็นประเทศแรกๆในยุโรปที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown อย่างเป็นขั้นตอน และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ที่หลายประเทศในยุโรปกำลังจับตามอง และอาจนำแผนของออสเตรียมาใช้เป็น Model ในการเปิดเมือง หลังจากที่ควบคุมสถานการณ์ไวรัส Covid-19 ได้แล้ว

หมายความว่า ออสเตรียสามารถคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว อย่างนั้นหรือ?

สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าในออสเตรีย ยังไม่อาจเรียกได้ว่าปลอดเชื้อแล้ว 100% ในวันนี้ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มอยู่ราวๆ 162 ราย แต่หากเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อช่วงพีคสุดๆของประเทศ เมื่อราวปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่มีสูงถึง 1,050 รายในวันเดียว ก็นับว่าลดลงมากถึง 80% ทีเดียว

ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่ ก็ลดลงอย่างมาก จากยอดติดเชื้อสะสม 14,321 คน แต่รักษาหายแล้วมากกว่า 8,000 คน เสียชีวิตไป 393 ทำให้เหลือผู้ติดเชื้ออยู่เพียง 5 พันกว่าเคส

ในจำนวนนั้น มีเพียง 1,000 รายที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ป่วยระดับวิกฤติใน ICU เหลือเพียงแค่ 1 ใน 4 ที่ไม่เกินความสามารถของทางโรงพยาบาลในประเทศที่จะดูแลผู้ป่วย

สำนักข่าว The Independent ได้ลงไปสำรวจโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนา ก็พบว่ามีคนไข้ในระดับบางตา ซึ่งแตกต่างจากโรงพยาบาลหลายแห่งในยุโรป ที่ยังหนาแน่น จนเกินขีดจำกัดการรักษาในหลายพื้นที่

จากค่าทางสถิติที่ออกมาในทิศทางดี จึงสามารถสรุปได้ว่า มาตรการกระทืบ Curve ตัดวงจรกราฟช่วงขาขึ้นของออสเตรียประสบความสำเร็จ

หลายประเทศในยุโรปจึงสนใจเคสในออสเตรียว่า ทำอย่างไร จึงสามารถสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งๆที่ออสเตรียมีพรมแดนติดกับตอนเหนือของอิตาลี ที่เคยเป็นศูนย์กลางการระบาดอย่างหนักในยุโรป

ซึ่งแผนแรกที่รัฐบาลออสเตรียทำก่อนเลยคือ จัดการ Lockdown และสกัดชายแดน เป็นประเทศแรกๆในยุโรป ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ที่ผู้ติดเชื้อในประเทศยังมีไม่ถึงพัน และออกมาตรการ Stay Home อย่างเข้มงวด มีเคอร์ฟิว และกำหนดให้ผู้คนออกจากบ้านเฉพาะพนักงานบริษัทที่ยังอนุญาตให้เปิดทำการได้ หรือออกไปซื้อของ ไปหาหมอเท่านั้น หรือมีเหตุจำเป็นเท่านั้น และเข้มงวดเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน หากฝ่าฝืนอาจถูกจับ และปรับได้

และทางการออสเตรียก็จับจริง ปรับจริง ไม่มีขู่ มีตัวเลขจากกรมตำรวจออสเตรียรายงานว่า ระหว่างช่วง Lockdown ได้จับคนฝ่าฝืนมาตรการ และแจกใบสั่งไปแล้วกว่า 17,000 ใบ

แต่สิ่งที่ทำให้ออสเตรียคุมตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างได้ผล มาจากแผนปฏิบัติการตรวจเชื้อเคลื่อนที่ โดยที่รัฐบาลเปิดบริการ Hotline สาย Covid-19 ไว้ให้สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองป่วย เหมือนจะติดเชื้อ แต่ไม่แน่ใจ ให้โทรไปที่เบอร์ 1450 ได้ฟรี

และหลังจากที่คุยกับคุณหมอที่ปลายสาย สอบถามอาการ แล้วรู้สึกว่าจะเข้าข่ายติดเชื้อ Covid-19 เขาก็จะส่งหน่วยเคลื่อนที่ไปตรวจเชื้อให้ถึงบ้าน ไม่ต้องเดินทางมารอคิวกันที่โรงพยาบาล ให้เสี่ยงไปติดเชื้อกับคนรอบข้างอีก

หลังจากที่ตรวจแล้ว หากพบว่าติดเชื้อจริง ก็จะประเมินว่า คนไหนอาการไม่รุนแรง ต้องอยู่บ้านกักตัว ส่วนอาการหนัก จึงส่งตัวไปโรงพยาบาล ทำอย่างนี้เพื่อบริหารพื้นที่ในโรงพยาบาลให้อยู่ในระดับสามารถรับมือได้ ไม่หนาแน่นจนเกินไป

ส่วนการตรวจเชื้อด้วยบริการหน่วยเคลื่อนที่ ในช่วงแรกก็อาจจะขลุกขลักบ้าง สายไม่ว่าง รอคิวนาน โทรไปแล้วกว่าจะได้ตรวจรอเป็นอาทิตย์ก็มี แต่อย่างน้อยทางการก็มีข้อมูลผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง มีอาการ ที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านได้ตรงกลุ่ม

แต่หลังจากที่รัฐบาลพัฒนาวิธีการตรวจเชื้อให้ไวขึ้น เป็น 15,000 ราย/วัน ก็สามารถตรวจได้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนทันกับกลุ่มที่โทรเข้ามาแจ้งอาการ และสามารถเพิ่มอัตราการตรวจเชื้อต่อประชากรได้มากเป็นอันดับต้นๆในยุโรปทีเดียว

ดังนั้น ออสเตรียจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเอาอยู่ ผู้ติดเชื้อลดลง Curve ไม่ตั้งชันเป็นช่วงขาขึ้นอันตรายแล้ว ก็เลยเริ่มผ่อนมาตรการ lockdown เป็นประเทศแรกๆในย่านนี้ ที่หลายคนจับตามองว่า หากออสเตรียยังคงคุมสถานการณ์ได้หลังเปิดเมือง ก็จะมีอีกหลายประเทศในยุโรปค่อยๆเปิดประเทศตามมา โดยใช้ออสเตรียเป็น Model

แต่หลังจากเปิดเมืองแล้ว เศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็วเป็น V-Shape นั้น ทางออสเตรียไม่ได้คาดหวังถึงขนาดนั้น

จากข้อมูลของ Washington Post เปิดเผยว่า กิจกรรมการออกจากบ้านไปจับจ่ายซื้อของ และสันทนาการของชาวออสเตรียหายไปถึง 87% เมื่อเทียบกับตอนก่อนวิกฤติไวรัส ก็คงยากที่จะทำให้ธุรกิจในประเทศสามารถกลับมาคึกคักได้เหมือนเดิมในระยะเวลาอันใกล้

ยิ่งตลาดการค้าระหว่างประเทศของออสเตรียกว่า 70% นั้นผูกติดอยู่ใน Single Market ของกลุ่ม EU ก็คงต้องรอจนกว่าชาติต่างๆในยุโรปจะเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้นมาพร้อมๆกัน จึงจะกลับมาเข้าที่ เข้าทางได้

สุดท้าย หลายคนสงสัยว่า ทำไมเวลาที่พูดถึงออสเตรีย ทีไร ต้องนำเสนอรูป Sebastian Kurz นายกรัฐมนตรีออสเตรียตลอดเลย

ก็ช่วงวิกฤติ ชีวิตมันก็เครียดเนาะ ก็ขอชมอะไรที่สร้างความชุ่มชื่นหัวใจบ้าง เป็นขวัญ กำลังใจนิดนึงนะค้า

แหล่งข้อมูล

https://m.dw.com/en/austria-relaxes-coronavirus-lockdown-measures/a-53086547
https://www.washingtonpost.com/busi...c77632-796a-11ea-a311-adb1344719a9_story.html
https://www.independent.co.uk/news/...vid-19-hospital-lockdown-latest-a9466281.html
https://www.statista.com/statistics/1104645/covid19-testing-rate-select-countries-worldwide/
https://en.m.wikipedia.org/wiki/2020_coronavirus_pandemic_in_Austria

 

องค์การอนามัยโลก เตือนทุกประเทศยกเลิกล็อกดาวน์ต้องผ่าน 6 ข้อ

1.ต้องสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคภายในประเทศได้แล้ว

2.ระบบสุขภาพต้องสามารถตรวจหาผู้มีอาการของโรค ตรวจหาเชื้อ แยกตัวและทำการรักษา พร้อมทั้งทำการสอบสวนโรค

3.มีความเสี่ยงระดับน้อยที่สุดในสถานที่เสี่ยงภัยมากที่สุด เช่น บ้านพักคนชรา

4.โรงเรียน สำนักงาน และสถานที่สาธารณะต่างๆ ต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ

5.สามารถจัดการความเสี่ยงของโรคจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้

6.คนในชุมชนต้องมีความรู้ มีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนไปหลังการเกิดโรค

ศบค.เผยไทยผ่านเกือบหมดทุกข้อ เว้นเรื่องคนในชุมชน เหตุยังมีกลุ่มก๊งเหล้า เล่นพนัน สังสรรค์ ที่อาจเสี่ยงทำให้เชื้อระบาด ส่วนการปลดล็อกอยู่ระหว่างประชุมหารือ

#Qol #MGROnline #โควิด #ล็อกดาวน์

https://mgronline.com/qol/detail/9630000040126

 

สธ.เผยไทยมีอัตราป่วยตายจากโควิด 1.7% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่อยู่ที่ 6% ชายตายมากกว่าหญิง 4 เท่า เป็นคนแก่ 20%

คนตายจากโควิดมีเบาหวานร่วมมากสุด 41% เหตุทำภูมิคุ้มกันอ่อนลง ตามด้วยความดัน 36%

ไขมันในเลือดสูง 18% โรคหัวใจ 14% โรคไต 9% ภาวะอ้วน 7%

และอื่นๆ 14% อาทิ โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษา โรควัณโรค เอสแอลอี ตับ ปอด ถุงลมโป่งพอง แต่ก็มีบางส่วนเสียชีวิตโดยไม่มีโรคประจำตัว

ย้ำ ยังต้องล้างมือ รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากากผ้า แม้มีผ่อนบางมาตรการ

#Qol #MGROnline #โควิด19

https://mgronline.com/qol/detail/9630000040294

 

ตัวอย่าง การผ่อนคลายมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ การเปิดร้านตัดผม การเปิดห้างสรรพสินค้า

ขณะนี้ทีมนักวิชาการต่างๆ กำลังประชุมเรื่องการปลดล็อกต่างๆ และปลดล็อกอย่างไร เพื่อเตรียมนำเสนอแก่ ผอ.ศบค.

หากสามารถปฏิบัติตามได้ ก็จะกลับมาเปิดได้

#Qol #MGROnline #โควิด19 #ล็อกดาวน์

 

วิธีเก็บรักษาอาหารสด ให้อยู่ได้นาน
ช่วง Work From Home

#mgronline #วิธีเก็บรักษาอาหารสด #WFH #โควิด19

 

จ่ายต่างหากครอบครัวละ 1 000
.
เทศบาลเมืองแสนสุขได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่จึงอาศัยอำนาจตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ16(2) กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน โดยให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ครอบครัวละ 1,000 บาท ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ตรงตามประกาศ และได้รับ 1 สิทธิ ต่อ 1 ครอบครัว

 

สถานการณ์โควิด-19 หลายชาติยุโรปดีขึ้นต่อเนื่อง
แต่อังกฤษยังหนักเตือนยอดตายอาจทะลุ 4 หมื่น
.
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป ส่งสัญญาณในทางบวกต่อเนื่องในหลายชาติ โดยอิตาลีจำนวนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวจากการติดเชื้อเพิ่มในระดับไม่กี่ร้อยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ส่วนฝรั่งเศสจำนวนคนไข้ในโรงพยาบาลลดลง 3 วันติด ขณะที่สเปน ยอดผู้เสียชีวิตทรงตัวและลดลงจากระดับสูงสุดแล้วอย่างมาก ผิดกับอังกฤษ ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่มีเกือบครึ่งหมื่น ท่ามกลางคำเตือนว่ายอดตายในประเทศแห่งนี้อาจแตะระดับ 40,000 คน
.
ตัวเลขของหน่วยพิทักษ์พลเรือนของอิตาลีเผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลและรักษาตัวอยู่ที่บ้านภายใต้การสังเกตอาการด้านการแพทย์ เพิ่มขึ้นเพียง 355 คน เป็น 106,926 คนในวันศุกร์(17เม.ย.) ในนั้นอยู่ในแคว้นลอมบาร์ดี ศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของประเทศ ซึ่งมีมิลานเป็นเมืองเอก 344 คน ส่วนที่ดินแดนอื่นๆเพิ่มขึ้นเพียง 11 คน
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000040454
#mgronline #โควิด-19 #ยุโรปดีขึ้น #อังกฤษยังหนัก

 

ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 รายวานนี้ ทั้งหมดเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ

เมื่อวานนี้ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 4 ราย ซึ่งนับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้วที่พบผู้ติดเชื้อเพียงตัวเลขจำนวนหลักเดียว โดยทั้งหมดมีความเกี่ยวเนื่องกับอังกฤษ รวมยอดสะสม 1,021 ราย และมีผู้ที่รักษาหายเพิ่มอีก 48 ราย รวมเป็น 533 ราย

หนึ่งในผู้ติดเชื้อวานนี้ เป็นหญิงมีอายุ 20 ปี โดยเธอเพิ่งกลับมาจากอังกฤษและเข้ารับการกักกันเชื้อครบที่โรงแรม 14 วัน ซึ่งวันสุดท้ายเธอเริ่มมีอาการปวดหัว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าระยะการฟักตัวเชื้อของเธอมีมากกว่า 2 สัปดาห์

เธอกลับเข้ามาฮ่องกงก่อนที่จะมีมาตรการกำหนดตรวจเชื้อผู้เดินทางเข้ามาฮ่องกงทุกคนซึ่งเริ่มวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ คาดว่าจะขยายใช้มาตรการ social-distancing ไปอีก 2 สัปดาห์ หลังกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

ทางด้านโรงเรียนก็อาจจะกลับมาเปิดได้อีกหลังเสร็จสิ้นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปลายเดือนพฤษภาคท

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...hong-kong-records-four-new-coronavirus-cases?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

...โควิดไทย เมื่อไหร่จะจบ...

เพื่อตอบปัญหานี้ เรามี 2 วิธี วิธีแรกคือดูจากดวงเมืองไทย แต่ดวงเมืองบอกภาพใหญ่ ความหมายของดาวกว้างมาก

การเจาะประเด็นเฉพาะกิจ เช่น โรคระบาด จำต้อง “ฝืน” หรือ “บิด” ความหมายของดาว ใช้ดาวที่ไม่ตรงหรือกว้างเกินไป วิธีนี้จึงมีข้อจำกัด ไม่สามารถให้คำตอบที่ลึกซึ้งครบถ้วน

วิธีที่ 2 ที่ตรงเป้ากว่า คือ ผูกดวงโควิด-19 ในไทย แต่ก็มีปัญหาตามมาว่า จะใช้วันเวลาไหนดี

ในบทความ “วิกฤติไวรัสถล่มโลก” คอลัมน์ “ลิขิตฟ้า ชะตาโลก” ในนสพ.กรุงเทพธุรกิจ 3 มีนาคม 2563

(https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/649610)

ธนูเกณฑร์ใช้เทคนิค “ดวงเชิงสัญลักษณ์ (Symbolic Chart)” เพื่อผูกดวงโควิด-19 โดยกำหนดจากวันเวลาเกิดสุริยคราส 26 ธันวาคม 2562 เวลา 13:14 น. ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้ลัคนาเมษที่ 0:38 องศา

นี่เป็นดวงหลักที่ใช้ทำนายการแพร่ระบาดทั่วโลก

ดวงโควิดไทยใช้เทคนิคเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การเลือกเหตุการณ์เพื่อทำดวงสัญลักษณ์นั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นกับ “มุมมอง” และ “กรอบความคิด” ของแต่ละคน ซึ่งเกิดจากฐานความรู้และประสบการณ์ที่แตกต่าง

จากข้อมูลที่เผยแพร่กัน จีนพบผู้ป่วยปอดอักเสบอาการแปลก ๆ กลางธันวาคม 62 และยืนยันว่า เกิดจากเชื้อไวรัสตัวใหม่ 31 ธันวาคม (ภายใน +/- 7 วันของคราสพอดี)

วันที่ 8 มกราคม 63 หญิงจีนอายุ 61 ปีที่อาศัยในอู่ฮั่น เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เธอถูกตรวจพบว่ามีไข้ ถูกนำส่งโรงพยาบาล และตรวจเชื้อ

ผลออกวันที่ 12 และแถลงข่าววันต่อมา เธอติดเชื้อโควิด-19 เป็น “รายแรก” ของไทย

สิ่งที่มีนัยสำคัญกว่านั้น คือ เธอเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกของโลกที่พบ “นอก” ประเทศจีน !

การมาถึงไทยของเธอจึงเป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่ง วันที่ 8 และ 12 มกราคมเป็น “จุดเวลา” ที่ควรนำมาคิดต่อ

จะเลือกวันไหนดี คำถามนี้ยาก ที่ยากขึ้นไปอีกคือ จะรู้เวลาที่ถูกต้องได้อย่างไร

โชคดีที่เกิดปรากฏการณ์ดาวสำคัญช่วง 4 วันนั้นพอดี

วันที่ 11 มกราคมเกิดจันทรคราสในราศีเมถุนที่ 25:52 องศา ด้วยเหตุผลที่ว่า คราสมีกำลังสูงสุดภายในหน้า 7 หลัง 7 วันและมักเกิดเหตุการณ์สำคัญ การติดเชื้อรายแรกของไทยก็เกิดช่วงนั้น

ถ้าอู่ฮั่นเป็นต้นกำเนิดโควิด ไทยที่ติดเชื้อนอกจีนเป็นประเทศแรก ย่อมถือเป็นข้อต่อสำคัญ ทั้งคู่เชื่อมโยงผูกผันกันอย่างลึกซึ้ง

โควิดอู่ฮั่นเกิดจากสุริยคราส โควิดไทยควรเกิดจากคราสด้วยเช่นกัน

มันมีความเป็นไปได้เต็มเปี่ยมที่จันทรคราสนี้เป็น “จุดเกิดเหตุ” ของโควิดไทย

เมื่อเลือกจันทรคราส ย่อมรู้วันเวลาแน่นอน ดวงเชิงสัญลักษณ์ของโควิดไทยเกิดเวลา 2:22 น. ที่กรุงเทพฯ ได้ลัคนาตุลย์ที่ 24:42 องศา

มีเหตุผลทางโหราศาสตร์ 4 ข้อที่ทำให้เชื่อว่า นี่คือดวงที่ถูกต้อง

ข้อ (1) จันทรคราสทำมุม 90 สนิทกับราหูดวงเมือง ราหูเดิมอยู่มีน – ภพวินาศ หมายถึงศัตรูลับ ภัยที่ซ่อนเร้น การชดใช้ ชำระสะสาง ฯลฯ ซึ่งตรงกับโควิด

ข้อ (2) ลัคนาดวงโควิดไทยเล็ง 180 กับลัคนาดวงเมืองไทยสนิทเช่นกัน มันอยู่ตุลย์ – ภพ 7 หมายถึงศัตรูที่เปิดเผย

ข้อ (3) ศุกร์-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ดวงไทย โยคหลัง 60 ลัคนาดวงอู่ฮั่น ข้อ (4) สุริยคราสกำเนิดของดวงอู่ฮั่นที่ 9:59 องศาธนู กระทบจุดสำคัญในดวงไทยด้วย

เหตุผลข้อ 3 และ 4 ยืนยันว่า ไทยคือประเทศที่ 2 ของโลกที่ติดเชื้อโควิด-19

ดวงโควิดไทยมีลัคน์ตุลย์ อังคารพิจิก อาทิตย์-พุธ-พฤหัส-เสาร์-พลูโตในธนู ศุกร์-เนปจูนอยู่กุมภ์ มฤตยูเมษ จันทร์ราหูอยู่เมถุน ทศมลัคน์กรกฎ

สิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดคือดาว 3 ดวงร่วมคราส พุธ-เสาร์-พลูโตเล็งจันทรคราสสนิท พูดอีกอย่างได้ว่า ทั้ง 3 ดวงดับสนิทขณะเกิดคราส จึงแปรสภาพเป็นบาปเคราะห์ที่ให้โทษมหันต์

พุธคือดาวเจ้าเรือนภพ 9, 12 (โรคร้ายจากแดนไกล) พุธธนูเป็นปรเกษตร์-อ่อนแอ การติดเชื้อจากต่างประเทศคือปัญหาใหญ่

เสาร์คือดาวเจ้าเรือนภพ 4 (ดินแดนทั้งหมด) บอกถึงการติดเชื้อ / แพร่ระบาดไปทั่วประเทศ และภพ 5 (สถานบันเทิง แหล่งพนัน-เสี่ยงโชค) สถานที่เหล่านี้คือแหล่งเพาะเชื้อสำคัญ

พลูโตคือภัยอันตรายใหญ่หลวง

พฤหัสธนูเป็นเกษตร์ เข้มแข็งให้คุณ และห่างมุมเล็งกับจันทรคราสกว่า 10 องศา จึงไม่ถูกกระทบมากนัก แต่พฤหัสเล็ง 180 กับราหูสนิท ย่อมมีโอกาสให้โทษ แต่ไม่ร้ายแรงและเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ธนูคือภพ 3 (พื้นที่ใกล้เคียง) หมายความว่า ต่างจังหวัดติดเชื้อไม่มากนักและแพร่ระบาดเป็นช่วง ๆ

ดวงโควิดไทยบอกถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย

ดังนั้น ลัคน์ตุลย์และศุกร์-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ จึงหมายถึง “เชื้อโรค” ตุลย์เล็งเมษ เมษคือภพ 7 (คู่กรณี) เมษและอังคาร-ดาวเจ้าเรือนภพ 7 ย่อมหมายถึง “ผู้ป่วย”

นี่เป็นกุญแจดอกสำคัญ

ศุกร์อยู่กุมภ์และเพ็ญ 37 องศา เข้มแข็งพอสมควร กุมภ์คือภพ 5 ถ้าเป็นดวงคน ก็หมายถึงลูก แต่กรณีนี้ควรหมายถึงการเพิ่มจำนวน การแพร่เชื้อ

ศุกร์ตำแหน่งนี้ชี้ว่า การจัดการกับโควิดไทยไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ควรประมาท

ศุกร์ยังเป็นดาวเกษตร์ราศีพฤษภ หรือดาวเจ้าเรือนภพ 8 (มรณะ) อีกสถานหนึ่ง ความหมายของ “มรณะ” นี้มีผลต่อสถานการณ์อย่างมาก

อังคารอยู่พิจิก พิจิกคือภพ 8 ของเมษ เมษคือผู้ป่วย ดาวตัวแทนผู้ป่วยไปตกภพมรณะของตนเองและเป็นเกษตร์-เข้มแข็ง นี่เป็นเรื่องดี จำนวนผู้ป่วยจะน้อย (หรือน้อยกว่าผลคำนวณทางระบาดวิทยา)

แต่อังคารทำมุม 150 กับมฤตยู-ราหู มุม 45 กับอาทิตย์พุธ และมุม 135 กับจุดจันทรคราสสนิท จึงมีโอกาสให้โทษเช่นกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี จำนวนผู้ติดเชื้ออาจพุ่งสูง ยังดีที่เป็นมุมดาวเล็ก แต่ก็ประมาทไม่ได้

ในอีกมุมหนึ่ง อังคารเป็นเกษตร์ในพิจิก - ภพ 2 (รายได้) โควิดจะสร้างรายได้อย่างไร ?

สร้างได้ เพราะอังคาร 150 มฤตยูเมษ-ภพ 6 (หนี้สิน) รายได้มาจากการก่อหนี้ รัฐบาลออกพรก. 3 ฉบับกู้เงินเกือบ 2 ล้านล้านบาท (อนุมัติ 7 เมษายน อังคารจรมังกร-อุจจ์ 90 มฤตยูจรเมษสนิท)

แต่อังคาร 150 ราหูในภพ 8 (ภาษี) มันต้องแลกด้วยเงินภาษีประชาชน อังคารยัง 135 จุดคราสสนิทในภพ 8 (ความสูญเสีย) ชี้ถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ใหญ่มากในอนาคต

นี่คือจุดหลัก ๆ ในดวงโควิดไทย ลองสอบทานเหตุการณ์ที่ผ่านมากันบ้าง

นับตั้งแต่ยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรก 12 มกราคม ก็ปรากฏผู้ติดเชื้อใหม่อย่างต่อเนื่อง ศุกร์เข้าเมษ 29 กุมภาพันธ์ เป็นประในภพ 7 จำนวนค่อย ๆ เพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิน 10 คน/วัน วันที่ 1 มีนาคม สาธารณสุขประกาศเป็นโรคติดต่ออันตรายและมีผู้เสียชีวิตคนแรก

วันที่ 3 กลุ่มนักเที่ยวกินเลี้ยงกับเพื่อนชาวฮ่องกงที่ผับทองหล่อ วันที่ 6 จัดงานชกมวยที่สนามมวยลุมพินี ทั้งคู่อยู่ในจังหวะศุกร์ 90 เสาร์ เกิดเป็น Super Spreader

อังคารธนูเล็ง 180 จุดจันทรคราสสนิทวันที่ 15 ตัวเลขเพิ่มเป็น 32 คน ยอดรวมทะลุ 100 คน จากนั้นผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอย่างรวดเร็ว

วันที่ 22 ศุกร์เล็ง 180 ลัคน์สนิท อังคารยกเข้ามังกร ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งสูงสุดที่ 188 ราย ผู้ว่ากทม.สั่งปิดห้างและพื้นที่เสี่ยง คนแห่กลับต่างจังหวัด วันที่ 24 นายกฯประกาศพรก.ฉุกเฉินให้มีผลวันที่ 26 วันที่ 2 เมษายนประกาศเคอร์ฟิว โดยมีผลคืนวันที่ 3

เมื่ออังคารเข้ามังกร เป็นอุจจ์-เข้มแข็ง ผู้ติดเชื้อใหม่ควรลดลง แต่มันกลับเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยกว่า ๆ จนถึง 8 เมษายนที่ 111 คน

เหตุผลเพราะอังคารจรเข้ากุมพลูโต-เสาร์ และ 90 มฤตยูเมษสนิทในวันที่ 8 (ช่วง 18 วันอันตราย) เมื่อพ้นมุมดาวนี้ไปแล้ว ตัวเลขก็ลดลงครึ่ง ๆ เหลือไม่เกิน 50 คน

ผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงยังเป็นผลจากศุกร์ ศุกร์จรเมษให้โทษถึง 28 มีนาคม จากนั้นเข้าพฤษภ เป็นเกษตร์ในภพมรณะ ก่อให้เกิดการ “ยับยั้ง” หรือ “ทำลาย” เชื้อโรคได้ดี

อันที่จริง ถ้าดูจากจำนวนผู้รักษาหายแต่ละวัน จะเห็นภาพชัดเจนมาก

แต่เดิมไม่เคยเกิน 10 คน/วัน บางวันสูงหน่อยแต่ไม่เคยเกิน 20 คน จุดเปลี่ยนเกิดขึ้น 31 มีนาคม ตัวเลขพุ่งถึง 215 คน (ศุกร์พฤษภ 90 ศุกร์เดิมสนิท) และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนยอดหายมากกว่าป่วยใหม่

พฤหัสเข้ามังกร 30 มีนาคม ดาวเจ้าเรือนภพ 3 (ต่างจังหวัด) เป็นนิจจ์-อ่อนแอในภพ 4 (ทั้งดินแดน) ผู้คนที่แห่กลับต่างจังหวัด เป็นตัวการแพร่เชื้อไปจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ

เหตุการณ์ที่ผ่านมาสอดคล้องและยืนยันดวงโควิดไทยได้ดี แล้วอนาคตข้างหน้าล่ะ จะเป็นอย่างไร ?

ตั้งแต่ 7 – 25 เมษายน พุธเข้ามีน-เป็นนิจจ์ ระวังการแพร่เชื้อจากผู้กลับจากต่างประเทศ (แม้มีมาตลอด แต่ช่วงนี้เสี่ยงสูง เช่น ผู้กลับจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย) ซึ่งจะแสดงอาการหรือปรากฏตัวเลขชัดเจนช่วงพุธเข้าเมษ-ภพ 7 ตั้งแต่ 25 เมษายน – 9 พฤษภาคม

อังคารออกจากมังกร 4 พฤษภาคม (พ้นการร่วมราศีกับเสาร์ รัฐบาลคงผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการบางอย่าง) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จะกลับสู่ภาวะปกติ ถ้าประมาทการ์ดตก อาจดีดตัวสูงขึ้นได้อีก

อาทิตย์จรเมษ 14 เมษายน – 14 พฤษภาคม จะส่งผลดี อาทิตย์คือพลังชีวิต เมษคือภพ 7 (ผู้ป่วย) ผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง ผู้ป่วยหายมากขึ้น

วันที่ 7 พฤษภาคม เกิดจันทร์เพ็ญที่ 23:12 องศาตุลย์ เล็งลัคน์สนิท จะมีข่าวดี / เรื่องดีเกิดขึ้น

ศุกร์แม้จรพฤษภ 28 มีนาคม – 1 สิงหาคม แต่ก็พักร (ถอยหลัง) ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม – 25 มิถุนายน ประสิทธิภาพในการยับยั้ง / ทำลายเชื้อจะลดลง

ช่วงที่ควรระวัง (การแพร่ระบาดรอบใหม่ในฤดูฝน) คือ 18 มิถุนายน – 16 สิงหาคม ซึ่งอังคารจรมีน-ภพ 6 เข้ามุม 90 กับจุดจันทรคราสเดิม และถูกเกณฑ์ 3 จากเสาร์มังกร

ช่วงนี้กินเวลา 2 เดือน มากกว่าของดวงโควิดอู่ฮั่นที่มีอาทิตย์กรกฎช่วยเหลือ แต่การระบาดครั้งใหม่จะไม่อันตรายร้ายแรง เพราะมีศุกร์พฤษภช่วยอยู่เช่นกัน (ถึงแค่ 1 สิงหาคม)

วันที่ 5 กรกฎาคม เกิดจันทรคราสที่ 19:30 องศาธนู เล็งจันทรคราสเดิม (Orb 6 องศา) คราสจะกระตุ้นพลังของคราสเดิม ยืนยันการระบาดซ้ำ (ภายในหน้า 7 หลัง 30 วัน)

ดวงโควิดไทยเกิดจากจันทรคราส การระบาดจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อมีพลังที่เข้มแข็งมากไปล้างรอยคราส นั่นก็คือพฤหัส

พฤหัสเล็งจันทรคราสเดิม 13 สิงหาคม (พักร) และ 13 ตุลาคม (จรปกติ) การระบาดจะเบาลงกลางสิงหาคมและจบกลางตุลาคม

แต่ดวงโควิดอู่ฮั่น (ซึ่งใหญ่กว่าโควิดไทย) ชี้ว่า การแพร่ระบาดจะเบาลงตั้งแต่ 19 กันยายน ดังนั้น สถานการณ์ในไทยน่าจะปรากฏแนวโน้มดีขึ้นชัดเจนตั้งแต่กลางกันยายน โดยไปจบจริงกลางตุลาคม

อย่างไรก็ตาม ยังมีจังหวะดาวให้โทษอีก 2 ช่วง คือ อังคารพักร 10 กันยายน – 14 พฤศจิกายน และศุกร์จรตุลย์ 17 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม ซึ่งถ้าประมาท ก็อาจระบาดได้อีก แต่ก็คงไม่มากเท่าไหร่

เมื่ออังคารเข้าเมษและทับจุดศูนย์กลางภพ 7 สนิท คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนโควิด-19

ซึ่งก็คือ 12 กุมภาพันธ์ 2564 (+/- 5 วัน) ตามหลังการคิดค้นวัคซีนสำเร็จ 25 ธันวาคม 2563 (จากดวงโควิดอู่ฮั่น)

แม้ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ดวงโควิดไทยก็ยังซ่อนอันตรายอยู่อีก 1 จุด จุดนั้นคือศุกร์-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ที่อยู่ภพ 5

ภพนี้แท้จริงแล้วหมายถึง Recreation / Reproduction Process หมายความว่าโควิด-19 มีโอกาสที่จะระบาดซ้ำในปีต่อ ๆ ไปและกลายเป็นโรคประจำถิ่นของไทย

(อาจต้องฉีดวัคซีนใหม่ทุกปีเพราะไวรัสกลายพันธ์ เหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ A, B)

การระบาดซ้ำจะควบคุมอยู่และค่อย ๆ เบาลง จนหายไปจากความรู้สึกของคนไทยและกลายเป็นเรื่องปกติไป

อย่างเร็วคือพฤหัสเข้ากุมภ์ปี 64 – 65 แต่ที่เป็นไปได้ที่สุดคือพฤหัสเข้าเมษ – เล็ง 180 ลัคน์ในปี 66 – 67

บทวิเคราะห์ทำนายสถานการณ์โควิด-19 ในไทยครั้งนี้ยาวมาก

ไม่เพียงแสดงกระบวนการคิดและตรรกะ-ที่มาที่ไป (ไม่มั่ว-ไม่เดา) เพื่อประโยชน์แก่ผู้เรียนในอนาคต

แต่ยังต้องการหาคำตอบที่ถูกต้องสำหรับวิกฤติที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ เพื่อช่วยเหลือในทางความคิดแก่คนไทยทุกคนครับ

ธนูเกณฑร์ (18/4/2020)

 

Michael DiFato

 

John Traczyk

อีกสี่เหตุการณ์รบกวนสนามแม่เหล็กโลก
ระหว่าง 03:00 ถึง 09:00 UTC วันที่ 17 เมษายน 2020

Four more magnetosphere disturbance events.
Between 03:00 to 09:00 UTC. April 17, 2020.

 

มีการรายงานไฟป่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ภายในเขตยกเว้นเชอร์โนบิล นักดับเพลิงมากกว่า 500 คนกำลังต่อสู้กับไฟอันยิ่งใหญ่นี้

ควันจากไฟไหม้ได้ถึงเมืองหลวงของยูเครน

#URGENTE #ÚLTIMA #HORA

Reportan otro gran incendio forestal adentro de la zona de exclusion de chernobyl. Mas de 500 bomberos estan luchando contra este gran incendio.

el humo de los incendios ha llegado a la capital de Ucrania.

 

ผลวิจัยชี้ 'ล็อคดาวน์' อีกหลายครั้งถึงปี 65 กว่า 'โควิด' หมดโลก

15 เมษายน 2563

ผลการศึกษาล่าสุดชี้ การปิดเมือง หรือ “ล็อคดาวน์” เพียงครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะยับยั้งโรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัส หรือโรคโควิด-19 และอาจต้องเปิด-ปิดเมืองหลายครั้งไปจนถึงปี 2565 กว่าจะเอาชนะไวรัสมรณะนี้ได้

ผลการศึกษาจากการทำแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐซึ่งตีพิมพ์ในวารสารไซเอินซ์ ตั้งข้อสันนิษฐานว่า โควิด-19 จะเป็นเหมือนไข้หวัดตามฤดูกาลที่มีอัตราการติดเชื้อสูงในช่วงฤดูหนาวว่า มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเพียงครั้งเดียวน่าจะไม่สามารถหยุดยั้งจำนวนผู้ป่วยในสหรัฐได้เมื่อคำนึงถึงศักยภาพด้านสาธารณสุขที่มีอยู่อย่างจำกัด

การใช้มาตรการเป็นครั้งคราวคือสิ่งจำเป็นในยามที่ยังไม่มีวิธีรักษา สิ่งสำคัญคือต้องตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึงเพื่อให้รู้ว่าสถานการณ์ไปถึงจุดที่จะต้องใช้มาตรการซ้ำหรือไม่

ผลการศึกษาระบุว่า การเปิด-ปิดเมืองหลายครั้งช่วยให้โรงพยาบาลมีเวลาเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเปิดเมือง นอกจากนั้น การปล่อยให้มีการติดเชื้อไปถึงจุดหนึ่งก็จะทำเกิดการสร้างภูมิต้านทานหมู่ (Herd Immunity) หลังจากนั้นเมื่อมียารักษาและวัคซีนป้องกันจึงจะผ่อนปรนระยะเวลาและความเข้มข้นของการปิดเมืองได้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของการทำแบบจำลองนี้คือ ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าผู้ป่วยที่หายแล้วจะมีภูมิต้านทานอยู่ในร่างกายนานเพียงใด แต่ที่แน่ชัดแล้วคือ โรคโควิด-19 จะไม่หายไปหลังการระบาดระลอกแรก เห็นได้จากการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่ระบาดระหว่างปี 2545-2546 มีผู้ป่วย 8,000 คนทั่วโลก เสียชีวิตเกือบ 800 คน

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/876177

 

ไข่ไก่ล้นตลาดเกษตรกรวอนรัฐเร่งปลดล็อกส่งออก ก่อนเจ๊ง! เหตุคนคลายกังวลโควิด-แห่ตุนไว้เยอะ

ประธานกรรมการสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน เผยไข่ไก่ล้นตลาดอีกครั้ง คนซื้อไข่ลดลง ไม่กักตุนเหมือนช่วงก่อนหน้า ขอรัฐเร่งแก้ไข
#COVID19 #โควิด19 #Coronavirus

 

“แรงงานต่างด้าวคือศูนย์กลางแพร่ระบาด”
.
ข่าวที่สิงคโปร์พบผู้ยืนยันติดเชื้อจำนวนมาก สาเหตุมาจากแรงงานต่างด้าว เมื่อวาน(16) มีผู้ยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 728 รายในจำนวนนี้เป็นแรงงานต่างด้าว 654 ราย
ทั้งประเทศยอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,427 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวกว่า 2,600 ราย (58 เปอร์เซ็นต์)
การรับแรงงานต่างด้าวของสิงคโปร์ในอนาคตเป็นประเด็นแน่นอน มีเรื่องทั้งการแพร่ระบาด ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ เรื่องนี้หน่วยงานรัฐจะวางเฉยแบบเดิมไม่ได้ เพราะกระทบทั้งประเทศ ทั้งโลก การควบคุมคนเข้าเมืองผิดกฎหมายจะทวีความสำคัญ (เครดิตภาพ Channel News Asia) credit Twitter #chanchaiCK

 

Michael DiFato

 

#ภูเก็ต #ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดภูเก็ต
วันที่ 18 เมษายน 2563

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ขอแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 17 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 192 ราย (ไม่พบรายใหม่) โดยผู้ติดเชื้อได้รับอนุญาต ให้กลับบ้าน 106 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดิม 7 ราย) จำหน่าย 1 ราย (จำหน่าย เนื่องด้วยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 85 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,811 ราย (รายใหม่ 209 ราย)โดยยังคงรักษาพยาบาล 127 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 42 ราย กลับบ้านแล้ว 2,684 ราย
ทั้งนี้ ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังทุกราย ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 ทั้งหมดที่รายงานมาข้างต้นนั้น ยังคงรับการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จึงขอเน้นย้ำ เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ต้องแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะหรือ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์

สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ข้อมูล : สสจ.ภูเก็ต

#เหยี่ยวข่าวภูเก็ต
#NewshawkPhuket

เข้ากลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1937174103213335/?ref=share

 

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดภูเก็ต
วันที่ 18 เมษายน 2563

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ขอแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 17 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 192 ราย (ไม่พบรายใหม่) โดยผู้ติดเชื้อได้รับอนุญาต ให้กลับบ้าน 106 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดิม 7 ราย) จำหน่าย 1 ราย (จำหน่าย เนื่องด้วยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 85 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,811 ราย (รายใหม่ 209 ราย)โดยยังคงรักษาพยาบาล 127 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 42 ราย กลับบ้านแล้ว 2,684 ราย
ทั้งนี้ ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังทุกราย ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 ทั้งหมดที่รายงานมาข้างต้นนั้น ยังคงรับการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จึงขอเน้นย้ำ เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ต้องแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะหรือ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์

สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ข้อมูล : สสจ.ภูเก็ต

#เหยี่ยวข่าวภูเก็ต
#NewshawkPhuket

เข้ากลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1937174103213335/?ref=share

 

บอร์ด กพฐ.ฟันธงจัดห้องสอบคัด ม.1, ม.4
การคัดเลือกนักเรียน ม.1 และ ม.4 จะใช้วิธีการจัดสอบในสถานที่ที่โรงเรียนจัด โดยไม่จัดสอบออนไลน์ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆที่อาจตามมา
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline