กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    ใช้น้ำมันมะพร้าวกับไม้เนื้อแข็ง นวดด้วยไม้คือ การเอาไม้ลูบๆไปในทิศทางเดียว
    ก็บอกไปแล้วอ่านดีๆซิ ไม่เห็นคำว่า หนุนสร้างมวลกระดูกหรือ?
     
  2. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    (ตอนสุดท้าย)
    ปฏิปทาของหลวงพ่อกล้วย

    ประวัติและปฏิปทา
    พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
    วัดป่าธรรมอุทยาน
    ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น



    สำหรับปฏิปทาของหลวงพ่อ มีดังนี้

    1. ท่านเป็นผู้ให้ ไม่เป็นผู้เอา คือท่านไม่มีความโลภ ความอยากได้ มีแต่การให้ การเสียสละ ไม่มีความต้องการ เอาเฉพาะสิ่งพอดี และจำเป็นกับชีวิตเท่านั้น ท่านถือคติที่ว่า ผู้ชอบเอาจะไม่ได้ ผู้ได้ คือผู้ไม่เอา ผู้ให้คือผู้ได้รับ

    ที่ข้าพเจ้าซึ้งมากอีกประการหนึ่งคือ ได้มาเห็นภาพปริศนาธรรม ที่ท่านทำติดไว้ ขณะนี้ ยังมีให้เห็น อยู่ที่ฝาผนังศาลาอเนกประสงค์ มีคติเตือนใจว่า “คนแบกโลก” ดูภาพแล้ว มันถูกกับชีวิตจริงๆ เป็นเหตุให้ข้าพเจ้า ได้วางหน้าที่ทางโลกหลายอย่าง เหลือไว้เพียงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่อย่างเดียว ทำให้งานเบา สบายขึ้นเยอะ

    2. ท่านสอนให้ห่วงตัวเองก่อน จึงช่วยคนอื่นทีหลัง ขณะได้ฟังท่านครั้งแรก คิดว่าท่านสอนให้เป็นคนเห็นแก่ตัว หรือใจแคบ แต่เมื่อนำมาคิดให้ละเอียดแล้ว เป็นความจริง คือคนที่แก้ปัญหาตัวเองได้แล้ว จึงช่วยแก้ปัญหาคนอื่นได้ ตรงกับคติธรรมที่ว่า ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ได้ดีกว่าการสอน การให้กระทำเองดีกว่า การให้พร จึงเห็นได้ชัดว่าท่านสอนโดยเน้นการปฏิบัติมากกว่า ให้ดูตัวเองตลอดเวลา ไม่ให้มองคนอื่น ใครชั่วดีช่างเขา ให้จิตของเราเย็นเป็นพอ ทำจิตของเราให้สะอาดดี แล้วจึงจะช่วยผู้อื่นได้ง่ายขึ้น

    ท่านสอนธรรมะโดยไม่มีพิธีรีตรอง ไม่มีธรรมาสน์ นั่งเทศน์ตามดิน ตามร่มไม้ที่ไหน ก็ได้ ไม่เลือกที่ไหนก็ได้ เมื่อไรก็ได้ ไม่จำกัดเวลา และสถานที่ สอนแบบเป็นกันเอง เรียบง่าย ท่านถือว่าคนมีธรรมะคือคนไม่มีปัญหา

    4. ท่านสอนให้เอาทั้งวิมุติ และสมมุติ ทำจิตใจให้หลุดพ้นจากสมมุติ แต่ไม่ให้ยึดติดสมมุติ คือส่วนกายยังเป็นสมมุติอยู่ ให้ปล่อยวางเฉพาะทางจิตใจ ส่วนกายไม่ให้วางมือ ให้ทำตามหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ศาสนวัตถุก็ดี ศาสนพิธีก็ดี ท่านให้เอา แต่ท่านไม่ให้เน้นหนัก ที่เน้นมากคือศาสนธรรม เพราะพระธรรมสำคัญกับบุคคลมาก เมื่อบุคคลมีธรรมะ ทุกอย่างจะดีหมด ท่านจึงเน้น การฝึกจิต การพัฒนาจิตเป็นสำคัญ เพราะเป็นทางดับทุกข์ เป็นทางดับปัญหา และต้นเหตุของปัญหา จุดประสงค์ของท่าน ให้ดูแล ควบคุมจิต ดูอาการของจิตตลอดเวลา การควบคุมดูแลจิตอยู่ เป็นที่จะได้ผลกว่า ไปดูอยู่สถานที่อื่นทั่วไป ซึ่งตรงกับพุทธพจน์ ปัจฉิมโอวาท ที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสสั่ง เมื่อจะใกล้ปรินิพพานว่า ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท คือไม่ให้เผลอสติ หรือขาดสติ

    5. ท่านมีความเกรงใจ ไม่รบกวนใคร การขอเรี่ยไร ไม่มีเลย ไม่เคยเห็นท่าน ทำใบบอกบุญมาจากที่อื่น ท่านก็มิได้แจก ท่านจัดการใส่ซองเอง แล้วก็นำส่งเขา

    6. อีกประการหนึ่ง ท่านไม่เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง เรื่องสมณศักดิ์ การมียศ มีตำแหน่ง ท่านไม่ต้องการเลย แม้แต่ตำแหน่งเจ้าอาวาส ที่ทำหน้าที่อยู่ปัจจุบันนี้ ก็เป็นโดยบังเอิญ ไม่ได้เป็นเพราะความอยาก เพราะในเวลาเริ่มต้นสร้างวัด ท่านมิได้คิดจะสร้างวัด เพื่อจะได้เป็นเจ้าอาวาส ท่านตั้งใจมาพักผ่อนในป่าช้า ตามอุปนิสัยของพระธุดงค์เท่านั้น

    แต่บัดนี้ คำว่า “ธรรมอุทยาน” ที่ท่านให้ข้าพเจ้า เอามาถวายเป็นชื่อวัดในครั้งนั้น ก็ปรากฏชัดแล้ว สมเป็นสวนธรรมจริงๆ กำลังผลิดอกออกผล ด้วยอำนาจบุญบารมีของท่าน ดังที่เห็นในปัจจุบัน ถ้าไม่มีท่าน คงจะไม่เห็นผลิตผลในธรรมอุทยานแห่งนี้ และแห่งที่ 2 ที่ภูป่าไร่ อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหารด้วย ป่าช้าแห่งนี้ก็คงจะเป็นป่าช้าธรรมดา จึงขอแสดงความภาคภูมิใจในปฏิปทาโดยสังเขปของหลวงพ่อ ณ โอกาสนี้

    ขอสรุปอีกครั้งพอฟังง่าย
    ตามบรรยายปฏิปทาของหลวงพ่อ
    พยายามตามดูมาน่าเยินยอ
    ไม่มีขอมีแต่ให้น้ำใจงาม

    คำสอนเด่นเน้นตนเองให้ดีก่อน
    ท่านพร่ำสอนฝึกเจ้าของอย่ามองข้าม
    พูดถึงเรื่องคนอื่นท่านก็ปราม
    เท่าที่ตามเฝ้าดูมาศรัทธาจริง

    การเข้าหาเวลาใดได้ทุกที่
    ท่านไม่มีการถือศักดิ์มักอวดหยิ่ง
    เทศน์แก่นธรรมนำพา ว่าความจริง
    ไม่ประวิงเวลาน่านิยม

    ท่านเน้นมากเรื่องวิมุติหลุดให้ได้
    ส่วนรูปกายสมมุตินามตามเหมาะสม
    มือไม่วางว่างแต่ใจไร้อารมณ์
    จึงกล่าวชมหลวงพ่อกล้วยท่านช่วยจริง

    ไม่รบกวนไม่ขอใครเกรงใจมาก
    ไม่ออกปากขออะไรใครทุกสิ่ง
    การหาพระละความอยากหายากยิ่ง
    เป็นความจริงมิได้โฆษณ์โปรดเข้าใจ

    เรื่องตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์
    มิได้ฝักใฝ่เอื้อเพื่อเป็นใหญ่
    แม้ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่สนใจ
    แล้วแต่ใครจะขันแข่งแย่งกันเอง

    ถึงจะกล่าวเล่าเขียนไปไม่มีจบ
    เท่าที่พบมากมีมิได้เล่า
    ความดีท่านทุกส่วนล้วนน่าเอา
    ถ้าพวกเราทำตามนี้จะดีเอง

    _15_505.jpg
    ความสงบร่มรื่นภายในวัดป่าธรรมอุทยาน
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    (จบบริบูรณ์)คำสอนหลวงพ่อสำราญ ธัมมธุโร

    ประวัติและปฏิปทา
    พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
    วัดป่าธรรมอุทยาน
    ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น


    ตัวอย่างคำสอนหลวงพ่อสำราญ ธัมมธุโร


    ที่ควรใช้โยนิโสมนสิการ (การพิจารณาโดยแยบคาย) และนำไปปฏิบัติ

    - ให้กำหนดดูลมหายใจเข้า ออก กระทบปลายจมูก ทั้งผ่านเข้า และผ่านออก

    - อย่าส่งจิตออกนอก ถ้ามันออกไป ให้รีบดึงกลับคืนมา

    - ถ้าควบคุมจิตยากลำบาก ให้ใช้สมถะข่มไว้ (สร้างสติตามรูปแบบ)

    - ให้ดูอาการของจิต (สิ่งที่เกิดกับจิต) ตลอดเวลา (ใช้ตาปัญญา)

    - เมื่อมีความอยาก ความต้องการ อย่าเพิ่งเอาทันที ดูให้เห็นชัดก่อนจึงเอา (ดูจนกว่าจะหายอยาก)

    - การเสียสละที่ดีกว่า คือการสลัดกิเลส (สิ่งเศร้าหมอง) ออกจากจิต

    - ต้องเป็นผู้ให้ หรือเป็นผู้ไม่เอา จึงจะเป็นผู้ได้ ถ้าอยากเอาจะไม่ได้

    - สมมุติ กับวิมุติต้องไปด้วยกัน คือกายทำตามหน้าที่สมมุติ แต่จิตใจไม่หลงยึดติดในสมมุติ (ปล่อยวางทางใจ เพื่อให้จิตว่าง โดยมิได้วางมือ)

    - ให้แยกรูป แยกนาม หรือแยกจิตออกจากขันธ์ห้า โดยไม่ให้ขันธ์ห้า มีอำนาจเหนือจิต (ไม่มีอุปาทานยึดมั่นในขันธ์ห้า)

    - การปฏิบัติ ต้องปฏิบัติตลอดเวลา ไม่เลือกเวลาและสถานที่ โดยทำบ้านให้เป็นวัด ทำจิตใจให้เป็นพระ ทำอยู่ที่ไหน เมื่อไรก็ได้

    - ผู้เห็นจิตจึงเห็นธรรม ผู้เห็นธรรม จึงเห็นพระพุทธเจ้า (เห็นด้วย
    ปัญญา)
    - ตำราและอาจารย์ตัวจริง คือตัวเรา ส่วนตำราและอาจารย์อื่น เป็นเพียงผู้บอก ผู้แนะ ถ้าหากตัวเอง ไม่รู้จักตัวเอง ไม่เห็นตัวเอง ก็ยังไม่รู้อะไรเลย

    - สิ่งที่เห็น ที่ได้ยินเป็นต้น มิใช่เขามารบกวนเรา ที่จริงจิตของเราวิ่งออกไปรับมาเอง (แก้ปัญหาที่จิตเรา)

    - การเดินต้องเห็นขา และเท้าตัวเองทุกก้าว โดยมิได้ก้มดู

    - ขณะมาอยู่วัด ให้สังเกตดูจิต เขาไปเยี่ยมบ้านหรือเปล่า ถ้าเขาไปกี่ครั้ง พยายามควบคุมไว้ ไม่ให้เขาไป

    - ไม่ควรสนใจงานอื่น หรือบุคคลอื่น ที่เป็นเหตุให้เสียเวลา ดูจิตของตน

    - เวลาจะเข้าห้องน้ำ ให้ตรวจดูก่อน จึงเลือกเข้าห้องที่สกปรกที่สุด เพื่อจะได้มีงานทำเพิ่มขึ้น และอย่าลืมนึกขอบคุณ ผู้ที่สร้างงานไว้ให้เราได้มีงานทำ (เราเป็นคนไม่ตกงานเพราะเขา) ฯลฯ


    *** จบบริบูรณ์***


    คัดลอกจากหนังสือโลกทิพย์ ปีที่ 25 ประจำเดือนสิงหาคม) พ.ศ.2548 ฉบับที่ 425
    http://www.dhammajak.net/
    ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพคุณ shutterj
    สาวิกาน้อย ผู้ดำเนินการ(กระทู้)


    __paragraph_2_119.jpg
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    __paragraph_11_212.jpg


    อาจารย์นพครับ
    "รูปบนนี้มองผ่านๆไม่เห็นมีอะไร
    แต่เมื่อวานผมเพ่งดูอีกครั้ง
    เกิดภาพปริศนาลางๆซ้อนขึ้นมา"

    ??????????

    (ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไง)





    หลังจากอ่านเรื่องเล่าข้างบนนี้
    ผมเพิ่งได้คำตอบบางอย่าง
    กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ2อาทิตย์ที่ผ่านมา
    คืนนั่นผมรู้สึกบ่นท้อและหงุดหงิดมาก
    (เพราะหาคำตอบปลอบใจตัวเองไม่ได้)
    แต่ก็ปล่อยผ่านไป...แบบหงุดหงิดๆ

    แต่โชคดีที่อีก2-3วันได้อ่าน(ตามวรรคที่ดึงมา)

    "........มันเป็นวิบากอย่างหนึ่ง........"


    ....เชื่อไหมครับ
    พอผมอ่านถึงประโยคนี้
    เรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจผม
    โล่งและสว่างขึ้นมาทันที

    ขอบคุณครับท่านอจ.นพ
     
  5. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    (คำสอนหลวงพ่อกล้วย)

    ผมตั้งใจตั้งมั่นด้วยจิตศรัทธาในหลวงพ่อกล้วย
    ...ว่าจะทยอยทำขึ้นมา
    (เท่าที่คำสอนและเวลาจะมี)
    โดยจะพยายามใช้ภาพเก่าที่ตนเคยถ่ายไว้
    (เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์)
    แล้วจะแชร์ต่อไปตามไลน์ของหมู่มิตร
    (ทุกท่านสามารถแชร์ต่อได้ตามสะดวกนะครับ)

    DSCF2204.JPG


    DSCF2407.JPG


    DSCF2417.JPG
     
  6. ง่าวต๋าย

    ง่าวต๋าย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +150
    ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    เมื่อก่อนเบื้องหลังภาพส่วนตัวไม่ได้สังเกตุเท่าไหร่เหมือนกันครับ ประมาณ ๑ ปีผ่านมา พอเรานิ่งๆบทจะเห็นก็ได้เอง เอาว่ามีเพียบหลายกลุ่มหลายแบบ มีพระสงฆ์ด้วยนะครับ และมีกลุ่มภพภูมิบางกลุ่มที่เคยมานั่งถ่ายรูปกับท่าน เคยมาเล่นมมาทักทายกับส่วนตัวตอนดึกๆที่ไปนั่งสมาธิหน้า ลป ใหญ่ด้วยครับถ้าจำไม่ผิดวันนั้นมี ๓ ท่าน หมายถึงลืมตามาเห็นนะครับ ไม่ใช่ในสมาธิ ส่วนตัวเรียกมนุษย์ทองคำ เพราะผิวกายเค้าเป็นสีทอง ตัวจะเล็กๆหน่อยดูน่ารักดี เวลาเค้าจับตัวเรา บริเวนร่างกายเราตรงนั้นและขยายบริเวนไปอีกหน่อยจะกลายเป็นสีทองเลยครับ เท่ห์ดี เช่น จับข้อมือ แขนเราจะเปลี่ยนเป็นสีทองเลย ที่รู้เพราะ ลองให้เค้าจับนานๆหน่อยเพราะ คิดว่าตัวเองจะเป็นสีทองทั้งตัว นึกถึงแล้วขำดี ๕๕๕
     
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    5577552.jpg
    อนุโมทนาสาธุทุกๆบทความครับ
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    คำคมคำสอนหลวงพ่อกล้วย(ชุด2)

    (4)
    1626387801624.jpg

    (5)
    1626388229361.jpg

    (6)
    1626388570653.jpg


    (หมายเหตุ)
    เนื่องด้วยคำคมคำสอนของลพ.กล้วย
    ผู้ที่ต้องการอ่านให้เข้าใจและลึกซึ้ง
    บางครั้งอาจต้องใช้ความคิดพิจารณาอย่างแยบคาย
    ด้วยความละเอียด ถี่ถ้วน
    (โยนิโสมนสิการ)


    (ขอยกตัวอย่างชุด2รูปที่4)
    อ่านแล้วเหมือนง่ายๆกล้วยๆ
    เท็จจริงไม่กล้วยอย่างที่คิด
    ...ส่วนตัวผมยังหน้าแตกมาเลย


    ผมคนหนึ่งถ้าไม่เข้าใจอะไร
    จะคิดถึงอาจารย์นพทันที
    บางครั้งเหมือนท่านรู้ใจ
    ...จะเข้ามาตอบเอง


    (จากรูปที่4)
    ถ้าใครไม่ทราบความหมาย
    ให้ย้อนหลังไปดูที่หน้า283 #5648)

    (รูปที่5 หน้า283 #5651)

    หรือชุดที่1 (รูปที่1-2-3)
    โดยเฉพาะรูปที่1
    "บุญล้นแต่ไม่เต็ม คือทำบุญข้างนอก....."
    ส่วนตัวผม....พอเข้าใจบ้าง
    (แต่คิดว่าลึกๆน่าจะยังแฝงอะไรไว้)
     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    หรือด้านหลังภาพลพ.กล้วยรูปนี่
    จะมีการเปลี่ยนแปลงในบางครั้ง
    อย่างปัจจุบันที่เห็นคือ...
    *เงาลางๆหลวงพ่อ(ใบหน้าตรง)*
    แต่ตามรูปลพ.นั่งท่าเอียงๆ

    และ*เงาลางๆองค์หลวงปู่ใหญ่*


    (หมายเหตุ)
    คุยเรื่องลึกลับในเวปพลังจิต(หมวดวิทย์-ลึกลับ)สะดวกโยธิน
    เพราะอยู่ในหมวดลึกลับชัดเจนและตรงประเด็นอยู่แล้ว
    ดังนั่นคนที่เข้ามาอ่าน80%น่าจะคอเดียวกัน

    (อยากฟังอจ.นพเล่าต่อครับ...ถ้าบางเรื่องเล่าได้)

     
  11. catsand

    catsand สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2021
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอความช่วยเหลือ หน่อยค่ะ พอดีไปตั้งกระทู้แยกแล้วไม่มีใครมาตอบเลย

    หลังจากงานศพคุณยาย ก็ไม่อยากฟังเสียงพระสวดเลยค่ะ

    โดยปรกติ ก็สวดมนต์ไหว้พระบ้าง (นานๆครั้ง) แต่จะหนักไปทางเปิด MP3 บทสวดมนต์ไว้ฟังตอนนอนซะมากกว่า
    แต่ ตั้งแต่คุณยายเสีย จบงานศพคุณยาย ก็ไม่อยากได้ยินเสียงพระสวดเลยค่ะ ได้ยินแล้วมันบอกไม่ถูกเลยค่ะ ไม่อยากฟัง ไม่อยากได้ยิน รู้สึกต่อต้าน หงุดหงิด

    เห็นวัดที่เผาคุณยายยังอารมณ์เสียเลยค่ะ รู้สึกบาปจัง ไม่รู้ทำไมรู้สึกแบบนี้

    ตอนนี้เบื่อหน่ายกับการทำบุญ การทำดี รู้สึกหงุดหงิดไปหมด
    ทำบุญร้อยวันก็ไม่อยากไป ไม่มีกะใจอนุโมทนาอะไรเลย

    ทั้งที่สมัยเมื่อห้าปีก่อน คุณป้าก็เสียจากโรคมะเร็ง จบงานศพ ก็ไม่มีอาการไม่อยากฟังพระสวดเลยนะคะ ยังฟังบทสวดมนต์มากกว่าเดิมด้วยค่ะ

    ทำยังไงให้วางใจลงได้บ้างคะ
     
  12. ง่าวต๋าย

    ง่าวต๋าย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +150
    เดี๋ยวมันก็หายค่ะ แข็งใจไว้ฟังธรรมเยอะๆ ถ้ามันหายมันจะหายแบบโล่งเลยอ่ะ แต่มันจะมาเป็นระลอก
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า200 #3981

    กาแฟโบราณ
    อาจารย์นพคะ วันนี้หมูเจนมีคำถามมาปรึกษาค่ะ
    คือว่า เวลาที่เจน นั่งท่อง บทสวดพระมหาจักรพรรดิ
    ส่วนช่วงหลัง คือในตัว มันเป็นแปลกๆค่ะอาจารย์

    มันยุบๆยิ๊บๆในตัว

    "บุรุษไร้เงา, post: 10958493, member: 111296"
    เป็นเบสิคเรื่องปกติมาก
    มัวแต่สงสัย เลยไปช้า
    กิริยามันฟ้องว่า
    ขณะสวด จิตตัดร่างกายไม่ขาด
    มันเลยส่งผลที่ผิวหนังแบบนั้น
    ให้ทำไปเรื่อยๆ

    ปล ทริค คือ เวลาสวดมนต์ในใจ
    ลิ้น ปาก ตาห้ามขยับท่องในใจ
    ไปเรื่อยๆ

    สายตามองผ่านเหนือนิ้วชี้
    ที่พนมไว้ตรงหน้าอก
    ประมาน ๒ นิ้ว

    เป้าหมายคือ เห็นสภาพอากาศ
    บริเวนรอบกาย ใส และวิ่งขึ้นบน
    ด้วยตาเปล่า
    ถึงถือว่าใช้ได้

    กิริยาอื่นๆถ้าไม่ใช่
    แบบที่บอก ให้ช่างมัน
    ไม่ต้องสน และเก็บมาคิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2021
  14. catsand

    catsand สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2021
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +15
    สามเดือนแล้วค่ะ
    ยิ่งฟังธรรมยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ค่ะ
     
  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719


    รู้นะว่ากำลังทุกข์ใจ แต่.....
    **รออาจารย์นพมาตอบนะครับ**

    ระหว่างรอ ลองอ่านTips&Tricksข้างบน

    แล้วตั้งสติพิจารณาบางประโยค
    (เบื้องต้นอาจพอช่วยบรรเทาได้บ้าง)

    ---ขอให้บุญรักษา---


     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    ต้องมีความเด็ดขาดในการดับความคิด
    ความคิดเป็นนามธรรม หากเราไปหงุดหงิด คิดตาม
    มันก็คือการไปเพิ่มกำลังให้กับความคิดนั้นๆ
    แล้วมันจะส่งผลต่อใจและกระทบต่อมายังกายได้
    ทางปฏิบัติเรียกวิบาก หรือ กระแสที่จรเข้ามา
    หากเมื่อใดก็ตาม ที่คิดได้ ระลึกได้ นึกขึ้นได้
    มีวิธีการดับให้เลือกทำตาม หลายวิธีดังต่อไปนี้
    ๑.ให้หายใจเข้าและออกให้ยาวที่สุดอย่างน้อย สามครั้ง
    ๒.ให้นับจำนวนลมหายใจเข้าออก ทำความรู้สึกว่าลมหายใจหยุดที่จมูก
    หายใจเข้าออกหนึ่งรอบให้นับเป็นหนึ่ง จนถึงสิบรอบพอ
    ๓.หรือจะภาวนาพุทโธก็ได้
    ๔.หรือจะให้ระลึกถึงพระพุทธรูปท่านใด หรือครูบาร์อาจารย์ท่านใดก็ได้ที่ตนเองชอบ
    ๕.หรือ นับนิ้วตัวเองไปสลับไปมา
    ๖.หรือ เวลาเดินทุกครั้งให้นับจำนวนก้าว พอถึงยี่สิบเก้าให้นับหนึ่งใหม่
    ๗.กำหนดผลักลมหายใจออกจากกลางลิ้นปี่
    ๘.ให้ระลึกในใจว่า เราไม่ใช่คนบ้า ทำไมจะต้องไปหงุดหงิดกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว
    แสดงว่าเรายึดมั่นถือมั่นนี่เอง
    ๙.ถ้าพอมีกำลังสมาธิจะสามารถกำหนดดับได้
    ๑๐.ให้ฝึกเจริญสติแบบเคลื่อนไหวกาย ตามแบบ ลพ.เทียน ให้ลองไปศึกษาดู

    ปล. ทริคจิตสามารถคิดได้ทีระเรื่อง เราเพียงแต่เลือกวิธี ที่ไม่ให้มันคิด
    วิธีใดก็ได้ เพียงแต่ต้องมีความเพียรประกอบด้วย เนื่องจากกำลังความคิด
    มีมากเนื่องจากเราไม่ดับเค้ามาก่อน ค่อยๆทำไป สองอาทิตย์แรกจะหนักหน่อย
    ถ้าทำได้ประมาณเดือนที่ สามจะเห็นผลชัดเจน เดือนที่สี่จะดีขึ้นอย่างมาก
    เครเนาะ
     
  17. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    สวัสดีครับ มีเรื่องเล่าให้ฟังวันนี้ หลังจากหายไปนาน...

    วันนี้จิตตก หลังจากนั่งสมาธิได้แป๊ปเดียวตอนตี 4 แล้วรู้สึกว่าจิตใจฟุ้งซ่าน ร่างกายอ่อนเพลีย และมีความคิดลบๆผุดขึ้นมา เพิ่งเข้าใจคำๆนึง คำว่า "มารในใจ" ที่เคยได้ยินในหนังจีน มันหมายถึงแผลเป็นในใจ ที่เป็นด้านลบๆที่ฝังอยู่ลึกๆ เช่น การผิดหวังด้านใดด้านนึงและฝังใจจนเรื้อรัง

    หลังจากนอนไปสักพักจิตผมเริ่มตก และมีความคิดพวกนี้ผุดขึ้นมาซ้ำๆ ซากๆ ทำให้จิตใจเจ็บปวดมาก จนมีความรู้สึกฝันว่าตกลงไปในอบาย เจ็บปวดกับสิ่งนั้นอยู่สักพัก ตื่นขึ้นมามีน้ำตาไหลเลย

    ทำให้ผมเริ่มเข้าใจว่าคติที่ไม่แน่นอนเป็นอย่างไร และทำไมถึงไม่ควรประมาท...

    ผมเคยคิดนะว่าผมคงเลวไม่พอที่จะไปอบายในชาตินี้ เพราะคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นคนดีระดับนึง ที่คิดแบบนั้นเพราะหักห้ามใจที่จะทำชั่วได้บ่อยๆ และทำทาน เข้าฌาน เกือบทุกวัน แต่วันนี้ทำให้เข้าใจว่าความคิดนั้นผิด เพราะเรายังมี มารในใจ หรือแผลเป็นในใจพวกนี้ ถ้าวันไหนที่เราจิตตกแบบนี้อีก และเราบังเอิญตายไปในตอนนั้น ก็เสี่ยงไปอบายภูมิสูงมาก

    นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ควรประมาท และไม่ควรให้จิตตกแบบนี้เลยในแต่ละวัน

    เล่าให้ฟังแค่นี้ละกัน...

    ขอบคุณครับ
     
  18. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    คุณนพฯ ใช่ไหมครับ? อิอิ
     
  19. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,216
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,809
    หากคุณ @volvo16738 สะดวกและมีเวลาว่าง ผมรบกวนคุณ @volvo16738 ลอง คลิ๊ก เข้าไปอ่านพิจารณาในโพสต์ #5608 #11 #61 นี้ดูนะครับ [^_^] แล้วคุณ @volvo16738 จะทราบ “เงื่อนงำ” ของ “บุรุษไร้เงา” ท่านนี้ได้ในทันทีครับ (^_^)
     
  20. catsand

    catsand สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2021
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอบคุณมากค่ะ เมื่อก่อนคนในครอบครัวก็ให้ลองทำสมาธิตามแบบ ลพ.เทียน ค่ะ
    แล้วเขาก็อยากให้ลองไปถือศีลที่ วัดสนามใน เพราะอยู่ใกล้บ้าน
    แต่ตอนนั้นปฏิเสธไป เพราะจิตไม่ค่อยนิ่งกลัวไปสติแตกที่วัด

    เป็นคนสติไม่ค่อยมีมาตั้งนานแล้วค่ะ ขี้หงุดหงิด ง่าย
    แต่จะลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ

    ขอบคุณค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...