เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    อันนี้ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังค่ะ พี่ก็เคยมีคำถามที่ถามกับตัวเองอยู่หลายคำถามเหมือนกันค่ะ บางทีก็จมอยู่กับคำถามนั้นเป็นเวลานาน ๆ แต่เมื่อจิตของเราสงบนิ่งแล้ว มีหลายครั้งที่มักจะได้รับคำตอบมาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจจะได้มาโดยการปิ๊งแว๊ปขึ้นมาให้ความคิด และรู้สึกมั่นใจว่าคำตอบนี้แหล่ะที่เราต้องการ , มีใครสักคนเดินมาพูดประโยคอะไรบางอย่างที่ทำให้เราสะดุดคิดขึ้นมา, ได้จากการอ่านหนังสือโดยไม่ได้ตั้งใจอ่าน บางทีหนังสือนั้นเราอาจจะยังไม่ได้ซื้อมาอ่านด้วยซ้ำไป แต่อยู่ ๆ เราก็ไปหยิบเอาหนังสือที่ร้านหนังสือแล้วเปิดอ่านหน้าที่เราต้องการคำตอบ หรืออาจจะเป็นเพราะพี่นักเขียนกำลังขยายความให้ใครสักคนหนึ่งแต่บังเอิญเป็นคำตอบที่เราต้องการก็เป็นได้ค่ะ..

    พี่คิดว่าถ้าหากน้อง amsomgal จดจ่อคำถามนี้ไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งถ้าจิตของเราเป็นหนึ่งเดียวกับคำถามก็คงจะได้รับคำตอบเหล่านี้ด้วยความบังเอิญที่ไม่บังเอิญอย่างแน่นอนค่ะ ไม่ต้องไปวิตกกังวลว่าจะได้รับคำตอบหรือไม่? เพราะองค์ความรู้ในจักรวาลนั้นมีมากมายจนไม่สามารถนับเป็นปริมาตรหรือปริมาณได้ ถ้าคำถามของเราส่งตรงไปถึงหมวดความรู้นั้นคงจะได้รับคำตอบในไม่ช้าแน่นอนค่ะ.. เหมือนที่น้องกำลังอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยอยู่งัยจ๊ะ:d
     
  2. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เอ.. แปลกเหมือนกันนะคะ ขจรวรรณก็เคยฝันถึงคุณ Mead มากับเด็กผู้ชายตัวขาว ๆ กลม ๆ อวบ ๆ แก้มสีส้ม ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ สงสัยว่าคุณ Mead จะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเด็กผู้ชายรึปล่าวก็ม่ายรู้..(u) (u) (u)
     
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    พวกเราชาวห้องวิทย์ฯ กำลังจะถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งงงงง.....แย้ววว...
    (deejai) (deejai) (deejai) (deejai) (deejai)
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เอาด้วยคน ทดลองดูกันหน่อย
    ไม่ค่อยซึ้อ ล๊อตเตอรี่ ซะด้วย..
    ชวนพี่เม้าท์มาลุ้นดีกว่าเผื่อจะได้ไปอียิปต์กันยกห้อง อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    อ๋อ..พอจะไขปริศนาความฝันเรื่อง "ตุ๊กแก"ได้แล้วครับ
    ที่แท้มีลูกค้าเก่า 2-3 รายกำลังตามหาตัวกันจ้าละหวั่น วันนี้เลยพากันโทรมาพร้อมๆกันเลย หายกันไปหลายปีอยู่ๆมาโทรมา รู้สึกว่า"ตุ๊กแก" น่าจะหมายถึงงานทางโลกหนึบหนับๆที่เราเลื่ยงไม่อยากทำเท่าไหร่ แต่กำลังโถมซัดเข้ามาหาเป็นกองทัพ..ยิ่งเลี่ยงยิ่งมาแบบอะไรแบบนั้นครับ สงส้ยจะไม่เกี่ยวกับล็อตตารี่ซะแล้วสิ ต้องไปบอกต้นวาสนาที่บ้านให้ออกดอกบ้างแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  6. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    อ้างอิง:
    :d เย้ๆพวกเราถูกรางวัลที่ 1 แล้ว


    <!-- / message --><!-- sig -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1175082664.gif
      1175082664.gif
      ขนาดไฟล์:
      16.6 KB
      เปิดดู:
      231
    • 7558.gif
      7558.gif
      ขนาดไฟล์:
      14 KB
      เปิดดู:
      231
    • you03080551p2.jpg
      you03080551p2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.2 KB
      เปิดดู:
      22
  7. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557


    ต้องรีบสมัครเป็นสมาชิกชาววิทย์ด่วนเรยน่ะเนี้ยยย
    รับน้องหน่อยค๊าบบบ ท่านทวด :d อิอิ
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    พี่เม้าท์บอกว่านัดกันไปรับรางวัลที่กองสลากเลยครับ :d
    ยินดีตอนรับเหลนสาวิกาครับสู่ห้องวิทย์คร๊าบ! (ไม้โทตกไป อิอิ)

    (f)(f)(f)v
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  9. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    เอาล่ะสิ

    ขอบคุณมากครับ พี่นักเขียน
    นับเป็นคำตอบที่ได้ใจคนถาม (รวมทั้งคนที่อยากถูกล็อตเตอรี่คนอื่นๆ ด้วย)
    หวังว่าคงมีข่าวดีกันถ้วนหน้านะครับ
    ทำให้ผมนึกได้ถึงประเด็นที่ว่า ถ้าเราจดจ่ออยู่กับความต้องการ เราก็จะได้รับแต่ภาวะของความต้องการ
    แต่ไม่ได้รับภาวะของการมีสิ่งที่เราต้องการ (มันไม่เคยมาถึง) และนึกได้ว่า ในหนังสือ "คัมภีร์สมใจนึก (Ask it and you are given)" มีบทฝึกให้ทำบัญชีการใช้เงินเสมือนว่าเรามีเงินอยู่อย่างไม่จำกัด
    แต่ก็ยังไม่ได้อ่านโดยละเอียด
    ความฝันนี่เป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ นะครับ คราวก่อนได้เมล์หาพี่นักเขียนเพื่อขอคำแนะนำเรื่องวิธีการที่จะฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งในเวลาอันสั้น และได้รับคำแนะนำมาว่า "ให้ตั้งจิตก่อนนอนว่า ขอติดต่อสื่อสารกับบุคคลตัวตนต<WBR>่างชาติภพหรือต่างเส้นทางความเป<WBR>็นไปได้ของคุณสามารถ ซึ่งเป็นตัวตนที่มีความรู้และใช<WBR>้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาตัว ขอถ่ายทอดความรู้ความสามารถและทักษะของเขามาสู่ตัวตนยามตื่น และขอจดจำความฝันได้ในรายละเอ<WBR>ียดอย่างแม่นยำ เมื่อตื่นขึ้นให้จับอารมณ์ แล้วจดความฝันโดยละเอียด หา keywordในความฝัน และหาประเด็นที่จูงใจให้ค้นคว<WBR>้าเกี่ยวกับการฝึกภาษา คุณสามารถจะสามารถเข้าถึงความรู<WBR>้ความสามารถที่มีอยู่แล้วได<WBR>้โดยไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ให้พยายามสัมผัสกับแรงบันดาลใจท<WBR>ี่ผุดขึ้นมาในความฝัน เช่นเดียวกับที่พี่นักเข<WBR>ียนเคยเล่าเรื่องการสัมผัสกับศ<WBR>ิลปินในสมัยศตวรรษที่ 14 เพื่อจะวาดภาพ..."
    ลองทำดูก็รู้สึกว่ามีความฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวข้องบ้างเหมือนกัน แต่ไม่กี่วันมานี้ ฝันว่าเหมือนกำลังอยู่ในห้องเรียนภาษาอังกฤษ ครูภาษาอังกฤษคนนั้นเป็นฝรั่งผู้ชาย เขาให้อ่านให้ฟังก่อนประมาณ 1 หน้า รู้สึกว่าออกเสียงไม่ได้สำเนียงฝรั่งเท่าไหร่ จากนั้นเขาก็ทวนให้ ทำปากให้ดูอีกต่างหากว่าคำบางคำต้องทำปากอย่างไร มันชัดเจนมากๆ
    ปัญหาคือ ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับความฝันนั้นให้ต่อเนื่อง หมายความว่าทำให้ตัวเองฝันแบบนั้นอีกยังไม่ได้เลย ถ้าทำได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว
     
  10. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เราเคยคิดกันบ้างไหมว่า หากเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายแตกแขนงออกไปอย่างเป็นอนันต์ ดังเช่นที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึง พวกเราชาวห้องวิทย์ฯสามารถถูกล้อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งได้พร้อมกันหมดทุกคน ณ จุดที่ความเป็นไปได้ดังกล่าวเกิดขึ้น เราจะแยกทางหรือแตกแขนงออกไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้อื่นๆ ด้วยการดำเนินชีวิตและจดจ่ออยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้คนละเส้น ซึ่งแต่ละเส้น-มีเราแต่ละคนถูกรางวัลที่หนึ่งบนเส้นทางนั้นๆเพียงคนเดียว ...........ธรรมชาติความเป็นจริงข้อนี้คือความเป็นจริงที่ว่า จักรวาลเต็มไปด้วยความสมบูรณ์พูนสุข และเราทุกคนสามารถจะมีได้-เป็นได้-ทำได้ เสมอเหมือนกันหมดทุกคน แต่มันก็เป็นความเป็นจริงที่เราทั้งหลายเข้าใจแทบไม่ได้ เพราะเราติดกับความเชื่อที่ว่า โลกนี้มีทุกสิ่งทุกอย่าง-อย่างจำกัด และผู้ที่แข็งแรงกว่า มีบุญวาสนาสูงกว่า หรือเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปรานเท่านั้น จะมีสิทธิ์เอาได้-มีได้-ทำได้ เรามองเห็นความเหลื่อมล้ำ และเชื่อในความเหลื่อมล้ำจนเราเข้าใจในธรรมชาติของความเสมอภาคไม่ได้


    แวะมาทักทายพี่นักเขียนกะชาวห้องวิทย์ครับ

    แวะมาทีไร มีคำตอบรอยู่ทุกครั้งเลย วันนี้พี่นักเขียนได้เตือนให้ผมนึกถึงการดึงดูดของจักรวาลอีกแร้ว ขอบคุณครับ

    ช่วงนี้อยากได้งานใหม่ เมื่อเช้า มีโทรศัพ ขอนัดสัมภาษส์งานด้วย ดีใจสุดๆเป็นงานที่อยากทำด้วยสิ

    เกิดมาจำไม่ได้ว่าเคยซื้อ ลอตเตอร์รี่ หรือป่าว เดี่ยวจะลองซื้อดูมั้ง(รางวัลที่ 1 ได้แน่ๆเลย อิอิอิ)

    เคยฝันเห็นตัวเลขสีขาวลอยลงมาจากฟ้า หลายครั้ง แต่จำไม่ค่อยได้อ่ะ คราวหน้าต้องรีบจดแร้ว เมื่อคืนฝันว่ามีแฟนด้วย แป็กเลยครับ สงสัยเจอกันที่ทำงานใหม่แน่เลย สาธุๆ ช่วงนี้อะไรก้ดีขึ้นเรื่อยๆ ยิ้มได้แล้วครับ ก้เพราะท่านอนาลัย พี่นักเขียน แร้วก้เพื่อนๆชาวห้องวิทย์นี่แหละครับ
     
  11. จีนทาร่อน

    จีนทาร่อน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +2
    บันทึกความฝัน
    เมื่อคืนนี้ผมเกิดอาการง่วงนอนและนอนเร็วผิดปกติ และไม่รู้ตัวเลยว่าหลับไปตอนไหนและเข้าสู้โลกแห่งความฝันเมื่อไหร่ก้ไม่รู้ และเป็นวันแรกที่ผมตื่นมาตอนตี5 กว่า เพื่อมาเขียนความฝันใส่สมุดใว้กลัวจะลืมก่อน
    เมือ่คืนนี้หลังจากที่หลับไปโดยไม่รู้ตัวในขณะที่เปิดวิทยุ 94 E-FM ทิ้งใว้ ผมมารู้ตัวอีกทีผมก็ปรากฎตัวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ดูออกโบราณไม่คุ้นตา ผมและคนอื่นๆผู้ร่วมเดินทางกำลังมุ่งหน้าไปยังใจกลางหมู่บ้านผ่านถนนเส้นหลักที่ตรงไป บ้านเรือนแถวนี้ดูสงบยังกะไม่ค่อยมีคนอยู่และสังเกตุเห็นจะมีการปลูกต้นไม้ใว้หน้าบ้านทำให้ระหว่างทางเดินไปนั้นมีต้นไม้สีเขียวยาวเป็นแนวไป ผู้คนหลายกลุ่มกำลังทะยอยไปกันเป็นกลุ่มๆเดินคุยกันไปอย่างสนุกสนาน ห่างไปไม่ไกล เสียงดังกังวาลจากเครื่องกระจายเสียงได้ยินไปทั่ว
    ขอตอนรับคณะผู้เข้าแข่งขันจากคณะ พระมหาไถ่ ผู้ซึ่งเดินทางมาถึงเป็นกลุ่มสุดท้าย ผมมาถึงทางเข้าแล้ว โอ้โห!! ใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ ผมอุทานเบาๆก่อนที่จะเดินเข้าไปในโดมประตูทางเข้าในลานกว้างใหญ่ มีคนยืนตอนรับ เป็น 2 แถวหันหน้าเข้าหากันห่างกันพอประมาณและยืนเป็นแนวยาวลึกเข้าไปจนถึงใจกลางสนาม ผมเดินผ่านเข้าไประหว่างแถว สายตานับร้อยกำลังจ่องมาที่ผมแต่สีหน้าไม่บอกอาการอะไร อยุ่ข้างหน้าไม่ไกลนักเด็ก 2 คนในแถวกำลังโบกไม้โบกมือให้ผมและท่าทางดีใจ ผมเดินผ่านได้ได้ยินว่า คนนี้แหละ ! เต็งหนึ่ง พี่จีนต้องชนะแน่ๆ “ และผู้ชายอีกคนที่โตกว่าในแถวเดียวกันก็ตบหัวเด็ก 2 คนนั้นและทำเป็นดุเบาๆ ผมมาถึงข้างในแล้วตรงหน้าผมเป็นกระโจมขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่ 4 คนยืนอยู่หน้ากระโจม บางคนดูคุ่นๆหน้าแต่ไม่รู้จัก แค่เคยเห็น ทางนี้ !!” ผมเดินตามคนทั้ง 4 เข้าไปในกระโจมนั้น เณรคณะ พระมหาไถ่นี้ มาช้าอีกตามเคย การแข่งขันจะเริ่มอยุ่แล้วไม่รู้รึงัย ใส่นี้ !!” ชายคนนั้นโยนเสื้อ สีฟ้าให้ผม เอ่อ พี่ครับ ต้องเปลี่ยนเสื้อ ด้วยหรอ ”เปลี่ยนสิ ไม่เปลี่ยนจะรุ้ได้งัยว่าเธอมาจากคณะไหน ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องใส่เสื้อสีประจำคณะของตัวเองครับ พี่ผู้ชายอีกคนพูดขึ้นฟังดูดีกว่าและสุภาพกว่าคนแรก “”แล้ว ตัวเลข 671 บนหลังเสื้อนี้คืออะไร ก็หมายถึงเธอเป็นที่ 671 ใน 700 คนที่เข้าแข่งขันนะสิ เสร็จแล้วก็มาเลือก อาวุธประจำตัวซะ!! ออ! มีกฎเหล็กอยุ่ข้อหนึ่งที่เธอต้องจำให้ดีคือ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องไม่ทิ้งอาวุธประจำตัวเองทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการทำภารกิจของพวกเธอเและถ้าเธอคนใดคนหนึ่งไม่มีอาวุธหรือทำหายในขณะทำการแข่ง ทางผู้จัดจะให้เธอ ออกจากการแข่งขันทันทีไม่มีข้อยกเว่นใดๆ มาทางนี้และก้เลือกซะ ตรงหน้าผมเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มีกระบองที่ทำจากไม้หลายสี ว่างอยู่ในกล่อง มากมายหลายขนาด โห พี่ อาวุธ มีแค่ กระบอง อย่างเดียวหรอ ใช่ ! แต่ว่า ผมใช้ไม่เป็นนี่ นั้นมันปัญหาของเธอ กฎก็คือ กฎ “ หยิบและออกไปได้แล้ว คร้าาบ ผมทำตามอย่างไม่ค่อยเต็มใจและเดินทะลุออกไปทางประตูอีกด้าน พอ ออกมาพ้นประตูผมหันหน้าหันหลังพอรู้ตัวว่าอยู่คนเดียวแล้วก็เลย บ่นกับตัวเอง ว่า อะไรวะ นี้หรอ อาวุธ กระบอง นี้ ใช้เป็นที่ไหน โธ่เอ่ย จะป้องกันตัวยังงัยกันนี้ ถ้าเป็นดาบคู่อาวุธที่เราถนัดหละก็ค่อยอุ่นใจหน่อย ผมมองไปข้างหน้าผมเป็นเหมือน สวนขนาดใหญ่ มีต้นไม้เต็มไปหมด และมีทางเดินแยกไปหลายทาง เอ้า แล้วจะไปทางไหนกันนี้เรา อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักผมมองเห็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ มองจากระยะไกลดูโอฬารตระการตามากและเปล่งแสงระยิบระยับด้วยทองคำ ว้าว สวยจังเลยผมตรงไปที่นั้นทันที อีกนิดเดียวก้ถึงแล้ว ทันใดนั้นเสียงดังมาจากที่ไหนสักแห่ง หยุดนะ ที่นั้นไม่ใช้สถานที่ทำการแข่งขั้น เข้าไปไม่ได้ เอ่อ ผมขอเข้าไปดูหน่อยได้หมัยคับ ‘’ ไม่ได้ !! ที่นี้เป็นหอคัมภีร์ ห้ามบุคลภายนอกเข้า และจะมีแต่ผู้อาวุโสของคณะเท่านั้นที่เข้าไปได้ เธอออกไปซะ ลานผู้แข่งขันอยู่ทางด้านซ้ายตรงไป ผมค่อยๆ เดินออกมาและค่อยหันกลับไปดูบ้างอย่างอยากรุ้ อยากเห็นแต่ชายหน้าเข็มคนนั้นยังจ่องมองผมอยู่อย่างไม่ละสายตา นั้นงัยเจอ แล้ว พี่จีนทางนี้ !! ” เสียงคนกลุ่มหนึ่งตะโกนเรียกชื่อ ผม และกำลังมุ่งมาทางผมทุกคนใส่เสื้อ สีฟ้าเหมือนกันหมด โห หาแทบตาย พี่รู้เปล่า การแข่งขันเริ่มแล้วนะ ” อ้าว หนุ่ม ทำไมนายมากับเด็กพวกนี้หละ เพื่อนห้องเราไปไหนกันหมด คณะกรรมการให้จับสลากเลือกกลุ่ม คละกันไปหมดจาก ม.1 – ม.6 เลย แล้วแต่ใครจะได้อยุ่กับใครกลุ่มละ 20 คน แต่ว่าภารกิจแรกต้องจับกลุ่มกับคนที่มาจากคณะเดียวกันก่อน แล้วนี้เราไม่มี ม.5 หรือ พี่ ม. 6 เลยหรอ ไม่มีอะ โตสุดก็นายกับเรา 2 คน นอกนั้นมีแต่เด็ก ม.1 กับ ม. 3 อะไรวะ บ้าจริงๆเลย ภารกิจแรกเริ่มแล้วนะ มีเวลา 1 ชัวโมง ตอนไปรับภารกิจนายไม่อยู่ รายชื่อนายอยู่กลุ่มเรา พวกเราก็มาหานายนี้แหละ เขาให้ปริศนามา อะไร ไม่รู้ดิ มีแหวน และก็หลอดแก้วยาวๆ นี้ “ หาาา !! “ อะไรนี้ไม่เคยเห็นเลย ! ไปไขปริศนาที่ไหน “ “ เรือนเพราะฉำโรงหินวิเศษ “ ออ เรารู้จักปีที่แล้วเคยมาเก็บตัวอย่างหินให้อาจารย์ เอาหละ! ทุกคนฟังพี่นะ!! หยิบอาวุธของตัวเองและตามพี่มา เชื่อฟังคำสั่งพี่และพี่หนุ่มเท่านั้น อย่าเหลวไหลเด็ดขาด ถ้าใครเป็นเหตุให้กลุ่มจะต้องโนตัดคะแแน อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะ ! ใครก็ ได้เก็บแหวนกับไอ้นี้ใว้ให้ดีและทั่งหมดตามพี่มา ”ผมวิ่งนำไปอย่างรู้ดีว่าเรือนเพราะฉำนั้นอยู่ที่ไหน ระหว่างทางไปเราเห็นคนหลายกลุ่มตามสถานที่ต่างๆใส่เสื้อสีเดียวกันอยู่เป็นกลุ่มสงสัยว่าน่าจะกำลังทำภารกิจ นี้งัยมาถึงแล้ว “ ผมบอกทุกคนพร้อมทั้งมาหยุดอยู่ตรงหน้าชาย 2 คน เจ้าหน้าที่ 2 คนเฝ้าประตูทางเข้า มาถึงกันแล้วหรอ กลุ่มพวกเธอช้าไป 20 นาทีนะ ! และตอนนี้พวกเธอก็เหลือเวลาแค่ 40 นาทีในการหา น้ำยาวิเศษ จากดอกไม้หินข้างในเรือนเพราะฉำแห่งนี้ ชายคนเฝ้าประตูพูดยังไม่ทันได้จบประโยคดี เอ่อน่า !! เข้าใจแล้วหลีกไปซิ “ ผมพุ่งตรงเข้าไปข้างในทันทีเด็กๆตามมา ข้างในนั้นเต็มไปด้วยหินสีต่างๆ ว่างอยู่ต่างระดับกันและมีดอกไม้ดูคลายๆดอกกล้วยไม้ขึ้นตามซอกหินสลับกันไปอย่างมากมายแต่ดอกไม้ดูเหียวเฉามากเหมือนกับไม่มีใครรดน้ำมาเป็นปีๆ ตรงกลางของเรือนเพราะฉำ นั้นเป็นบ่อน้ำไม่ใหญ่มาก ทุกคนฟังนะ แยกย้ายกันหาดอกไม้วิเศษ และก็ ระวังตัวด้วย ถ้ามีอะไรผิดสักเกตุ หรือแปลกๆ ให้บอกพี่ทันทีแยกย้ายกันไปได้แล้ว เรื่อนเพราะฉำแห่งนี้ก็ไม่ใหญ่มากมีแต่หินหลากสีวางซ้อนกันอยู่อย่าง มากมาย ผมหันไปพูดกับเพื่อนที่มาด้วยกัน เอ่อ นี้หนุ่มนายว่าหลอด แก้วยาวๆเหมือนเข็มฉีดยาหนะ นายว่าอะไรหรือ “ ไม่รู้ดิเราไม่เคยเห็น “ หรือว่ามันจะเป็นอะไรสักอย่างสำหรับใว้วัดระดับความชื้น “ ทำมัยนายคิดอย่างนั้นหละ “” อือ ก็ไม่รู้ดิ นายดูสิ ดอกไม้ที่นี้เหี่ยวทั้งนั้นเลยมันน่าจะเกี่ยวกับความชื้น รึเปล่า “ เอ่อ นะ และ มีตักอักษร ph ติดใว้ข้างหลอดด้วยนะ “ มันคืออะไรนะ นายรู้ปะ “ ไม่รู้เราไม่ได้เรียนสาย วิทย์นะ “ เอ่อ นั้นสิ โอ้ย !! เสียงเด็กคนหนึ่งร้องขึ้นเราตกใจหันไปตามเสียงนั้นทันที และวิ้งไปดู พี่จีน จิมมี่ตกบ่อน้ำหนะ เด็กคนนึงบอกผมอย่างหน้าตาตื่น เอ้า พี่บอกแล้วงัยให้ระวังตัว เป็นรัยรึเปล่า ! รีบขึ้นมาเร็วเข้า จิมมี่ !” “ ไม่เป็นรัยคับน้ำไม่ลึก แต่เย็นมากๆ “ รีบขึ้นมาเร็ว ตกลงไปได้งัย “ หินพังลงมาจากข้างบนอะผมปีนขึ้นไปดูดอกไม้ “ มีดอกไม้ที่ตกลงมาพร้อมกับหินจากข้างบนที่พังลงมาลอบอยู่บน ผิวน้ำหลายดอก พี่ ๆ ดูนั้น !! บนผิวน้ำมีไอสีขาวบางๆลอยอกมาจากดอกไม้ที่ลอยอยู่ แต่ดอกอื่นไม่มี หรือว่านั้นจะเป็นดอกไม้วิเศษ เดี๋ยวพี่ไปเก็บมาเอง ผมลุยน้ำลงไปลึกประมาณ อก และหยิบมันขึ้นมา ใช้จริงๆด้วย ดอกไม้วิเศษ พอหยิบขึ้นมาจากน้ำดอกไม้นั้นก็ค่อยๆพองตัวออกกลายเป็นผลไม้กลมลูกเท่ากับ ผลส้ม แต่นิมมาก และมีของเหลวสีเขียวๆอยู่ข้างใน ใช้แล้วนี้น้ำยาวิเศษจากดอกไม้ แล้วหลอดแก้วปริศนา นั้นก็มีใว้สำหรับเก็บน้ำยานี้ เหลือเวลาอีก 5 นาที ขอให้ผู้เข้าแข่งขันทุกกุล่มทุกคณะ กลับไปรายงานตัวที่คณะกรรมการการตัดสินส่วนกลางพร้อมกับนำของปริศนาที่ได้รับในภารกิจแรกไปด้วยเพื่อตัดสินคะะแนน เสียงดังกังวาลได้ยินไปทั่วทุกสารทิศจากเครื่องขยายเสียงที่มองไม่เห็นที่มา เอาหละทุกคนรีป ไปเร็ว พวกเราทุกคนมายืนอยู่หน้ากระโจมสีขาวหลังใหญ่มีชาย 2 คนยืนเฝ้าประตูทางเข้าและพุดออกมาว่า เช็ญตัวแทนของกลุ่มที่….และมองหน้าพวกเรา 24 ครับ !!! เสียงเด็กบางคนจากข้างหลังตะโกนผ่านมา ผมทำหน้างง กลุ่มที่ 24 หรอ จะมีเฉพาะหัวหน้ากลุ่ม หรือผู้นำแค่ 3 คนเท่านั้นที่เข้าไปฟังผลการตัดสินจากคณะกรรมการได้ ส่วนสมาชิคคนอื่น ให้ไปรอที่เต็นพักของผู้เข้าแข่งขันเดินออ้มไปทางด้านหลังไปตามทางป้ายบอกเช็ญหัวหน้าและตัวแทน 3 คนเท่านั้น ผมหันหน้ากลับมาพูดกลับเพื่อนว่า ‘ หนุ่ม นายไปกับเรา 2 คนก็พอให้พวกเด็กไปรอเราที่เต็น ‘ “ ได้ๆ ไปสิ เข้าไปเลย “ ข้างในเต็นนั้นมีคนนั้นอยู่บนโต๊ะเป็นที่เลียงกันเป็นรูป ตัว u กลับหัว ผมกลับเพื่อเดินเข้าไปยืนตรงกลาง ชาย ชรา ที่หนังอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ตรงกลางข้างหน้าเรานั้น บอกว่า ขอเช็ญ เจ้าหน้าตรวจสอบปริศนา ผู้หญิงที่สูงวัยร่างท่วมๆเดินมาจากด้านข้างที่มีคน แก่ นั้งรอบอยู่ พร้อมกับถืออ่างเล็กๆสีขาวใส่น้ำมาด้วย ผมก็ยื่นหลอดแก้วที่ข้างในบรรจุสารเหลวสีเขียวที่ได้จากดอกไม้ให้ เธอหยดสารนั้นลงบนน้ำในอ่างสีขาวในมือ และพูดว่า เรียนท่านประธาน น้ำยาคืนชีพเป็นของจริงค่ะ ชายชราคนนั้นยิ้มอย่างพอใจและพุดว่า ขอแสดงความยินดีกับการทำภารกิจแรกได้สำเร็จของกลุ่มเธอ และขอแสดงวามเสียใจกับเพื่อนร่วมคณะของเธอที่ต้องตกรอบแรกและต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างหน้าเสียดายเพราะทำภารกิจแรกไม่ผ่าน รวมถึงผู้ที่ตกรอบแรกจากคณะ อื่นด้วย การทำภารกิจแรกนี้ไม่มีคะแนนให้เพราะว่าพวกเธอต้องทำภารกิจที่ 2 ให้สำเร็จก่อนถึงจะมีคะแนนให้เพราะถือว่าเป็นภารกิจเดียวกัน ต่อไปนี้ให้พวกเธอตั้งใจฟังให้ดี ภารกิจที่ 2 ของพวกเธอจะเริ่มขึ้นคืนนี้ หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ที่ สุสานพันปี ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไป 3 กิโลเมตรทางทิศเหนือ ในสุสานพันปีนั้นภารกิจที่2 ที่พวกเธอต้องทำก็คือ การปลุกชีพคนตายให้ฟื้นคืนชีพ โดยใช้น้ำยาที่ได้จากภารกิจแรกนี้ ใจกลาง สุสาน นั้นจะมีศพ คนตายอยู่ 3 ศพ คนหนึ่งเป็นฆาตกรโหดที่ฆ่าทุกคนที่พบเจอ อีกคนเป็นคนครึ่งสัตว์เลื่ยคลานไม่มีความปรานีใดๆในจิตใจ และอีก ศพ เป็นคนที่จะพาพวกเธอผ่านภารกิจต่อไป จำใว้ว่า น้ำยาใช้ได้ครั้งเดียว และใช้ได้กับศพเดียวเท่านั้น การที่พวกเธอจะปลุกคืนชีพให้ใครนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กลับความกล้าหาญ และเผื่อ โชคเข้าข้างหวังว่าพวกเธอคงจะปลุกชีพถูกคนนะ พวกเธอมีเวลาก่อนแสงแรกของวันใหม่จะสาดส่องเท่านั้น อ่อ อีก อย่างขอให้ผู้นำ หรือ หัวหน้ากลุ่ม สวมแหวนที่ให้ไปในภารกิจแรกใว้ด้วย เพราะว่าแหวนจะมีอำนาจเวทย์ สกดวิญญาณชัวร้ายต่างๆ ได้ แต่มีรัศมีเพียง 10 หลา เท่านั้นในขณะที่ปฎิบัติภารกิจขอให้สมาชิคทุกคนอยู่ไก้ลๆ กับหัวหน้ากลุ่มใว้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสมาชิคในกลุ่มเธอเอง พวกเธอสามารถใช้ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวในการเอาตัวรอดได้ทุกสถาณการณ์ ทั้งนี้ไม่ถือว่าผิด กติกา การแข่งขันใดๆ นี้เป็นเพียงคำเตือนจากคณะผู้จักการแข่งขั้น เพราะว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ร่วมเดินทางไปด้วย ก่อนอรุณรุ่งขอให้นำศพที่กลับคืนชีพขึ้นมา กลับมาหมู่บ้าน อย่าง ปลอดภัย ขอให้โชคดี พวกเธอ ไปได้แล้ว ผมกลับเพื่อนเดินกลับออกมาและมุ่งหน้าไปที่เต็นพักทันที ในระหว่าทางมีการพุดคุยกัน .จีน เราต้องวางแผนนะ “ “ รู้แล้ว ปัญญหาก็คือ เราจะรู้วิธีปลุกชีพคนตายอย่างไร เขาไม่บอกอะไรเลย และผมก็ตื่นขึ้นมา นอนอยู่บนเตียงนิ่งๆ พยายามติดว่าผมฝันอะไร ตอนนั้นหัวใจผมยังเต้นแรงยังปลับตัวเองไม่ได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงความฝัน ผมนอนอยู่นิ่งๆ อย่างนั้น ประมาณ ชัวโมง 1 และลุกขึ้นมา เขียนความฝันนี้ใส่ สมุดใว้ เมื่อเช้านี้เป็นเวลา ตี 5 กว่าแล้ว และวันนี้เป็นวันแรกในรอบ 2 เดือนที่ผมตื่นเช้า
     
  12. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    เส้นทางแห่งความเป็นไปได้



    พี่นักเขียนอ่านพบว่า REM period เกิดขึ้น 20-25% ของระยะเวลาที่เรานอนหลับทั้งหมด ในแต่ละคืนเราจะมี REM period ได้ 4-5 ครั้ง ช่วงแรกๆจะเกิดเพียงระยะสั้น และช่วงหลังๆจะนานกว่า และเรามักจะตื่นหลังจาก REM แต่ละ period จบลง ไม่ว่าจะตื่นจริงๆ หรือเกิือบจะตื่นก็ตาม

    แต่ก่อนที่เราจะก้าวไปสู่ REM period เราจะตกอยู่ใน Non-rapid Eye Movement (NREM) ก่อน ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 4 ระยะด้วยกันคือ :
    ระยะ 1. เกิดขึ้นเมื่อเร่ิมนอนหลับ ตาจะกลอกไปมาอย่างเชื่องช้า เมื่ออยู่ในระยะนี้ เรามักจะคิดว่า เรายังตื่นอยู่เต็มตัว และการก้าวล่วงจากภาวะยามตื่น มาสู่ภาวะของ stage 1 สังเกตได้จากการกระตุก


    ระยะ 2. นักจิตวิทยาตะวันตกกล่าวว่า ระยะนี้ของการนอนหลับ คนเราจะตกอยู่ในภาวะหมดสติ (unconscious) แต่ก็ตื่นได้ง่ายถ้าถูกปลุกหรือปลุกตัวเองให้ตื่น ดวงตาจะไม่กลอกไปมา และเรามักจะไม่ฝันในระยะนี้ เป็นระยะที่เขาว่าเราเข้าภวังค์ที่ทำให้เราอยู่ในความสงบ (tranquil state)

    ระยะ 3. ระยะหลับลึก ไม่มีความฝัน


    ระยะ 4. ระยะหลับลึกที่สุด ซึ่งมักจะมีความฝันได้มากกว่าระยะ 1-3 แต่ฝันไม่บ่อยเท่า ระยะ 5.

    ระยะ 5. Rapid Eye Movement (REM) ลูกตากลอกไปมาอย่างรวดเร็ว เป็นระยะที่มีความฝันมากที่สุด

    ข้อแตกต่างระหว่างความฝันที่เกิดในระยะ NREM (ระยะ 1-4) กับ ความฝันที่เกิดในระยะ REM (ระยะ 5) คือ : ความฝันที่เกิดในระยะของ NREM (ระยะ 1-4) มักเป็นความฝันชนิดที่สั้นๆ ไม่ค่อยจะปรากฏเป็นภาพ และถ้าปรากฏก็จะเป็นภาพที่ไม่ปะติดปะต่อ และไม่ค่อยจะก่อให้เกิดอารมณ์ได้มากเท่าความฝันที่เกิดในระยะ REM (ระยะ 5)

    ความฝันที่เกิดในระยะ NREM (ระยะ 1-4) เปรียบได้กับการนึกคิดเลื่อนลอยเสมือนการฝันกลางวัน ส่วนความฝันที่เกิดในระยะ REM (ระยะ 5) จะเปรียบได้กับการคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง-อย่างลุ่มลึก การนอนหลับในช่วง NREM อาจเป็นไปติดต่อกันนานถึง 6 ชั่วโมงต่อคืน และการนอนหลับในช่วง REM อาจเป็นไปติดต่อกันนานถึง 2 ชั่วโมงต่อคืน

    Cycle ของการนอนหลับจะเริ่มต้นด้วย NREM - REM - ตื่นหรือครึ่งหลับครึ่งตื่น - NREM - REM - ตื่นหรือครึ่งหลับครึ่งตื่น เป็น cycle ไปเรื่อยๆจนกว่าจะตื่นจริง ช่วง REM จึงมีจำกัด การนอนนานรวดเดียวโดยไม่ได้ตื่นเลย ไม่ได้ทำให้ REM เกิดขึ้นได้บ่อยขึ้น ในทางตรงกันข้าม เรามักจะตกอยู่ในภาวะของ NREM ช่วงหลับลึกยาวนาน ทำให้เรามักตื่นและจำฝันไม่ได้เลย หรือรู้สึกเสมือนว่าไม่ได้ฝัน แม้ว่าเราจะฝันก็ตาม เพราะช่วงของ REM น้อยกว่า NREM มาก

    หากจะเข้าสู่ REM ให้ได้บ่อยขึ้น พี่นักเขียนเข้าใจว่าทำได้ด้วยการนอนช่วงสั้นๆ หลายช่วง แทนที่จะหลับรวดเดียวตลอดคืน หากเราลองสังเกตตนเอง หลายคนอาจประหลาดใจว่า บางคืนที่เราหลับยาวรวดเดียว เราจะรู้สึกเสมือนว่าไม่ได้ฝันเลยหรือจำความฝันไม่ได้ แต่ในทิศทางตรงกันข้าม หากเราตื่นบ่อยๆในแต่ละคืน ตื่นเช้าอาจรู้สึกว่านอนน้อยไป แต่กลับจำฝันได้มากมายหลายเรื่อง

    ภาวะดังกล่าวน่าจะแสดงให้เราเห็นได้ว่า เราเข้าสู่ REM และมีความฝันที่จดจำได้มากกว่า หรือเข้าสู่ REM period ได้บ่อยกว่า ด้วยการนอนช่วงสั้นๆ แล้วตื่น แล้วนอนต่อ นักวิจัยก็ค้นพบว่าเรามักตื่นหลังจาก เราฝันหรือเข้าสู่ REM เสมอๆ พี่นักเขียนมักตั้งจิตขอฝัน เพื่อจะรับข้อมูลต่างๆ และพบว่าตื่นหลังจากความฝันหนึ่งๆจบลงเสมอ แล้วจึงนอนต่อ ฝันต่อ แล้วก็ตื่นอีกโดยอัตโนมัติเสมอๆ ทำให้จดจำได้ และมักจะทำให้ติดตามความฝันได้ง่าย มีสติรู้ว่ากำลังฝัน และจำได้ว่าตนเองขอฝันอะไร เมื่อเผชิญกับประสบการณ์ในความฝันมักจะหยุดคิดว่า เรากำลังเผชิญกับสิ่งที่เราตั้งจิตขอเผชิญหรือเปล่า หากไม่ใช่ บ่อยครั้งก็หยุดความฝันนั้น (เพราะรู้สึกว่าเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ได้ต้องการ) จากนั้นก็ตั้งจิตใหม่ในความฝันนั้นๆ และขอเผชิญกับสิ่งที่ต้องการรู้หรือก้าวล่วงไปสู่ความฝันที่ต้องการ(rose)
    _____________________

    ทุกครั้งที่เราตัดสินใจเลือก เปลี่ยนความเชื่อ หรือเปลี่ยนใจ เราก้าวล่วงไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใหม่เสมอ และตัวตนเดิมของเราบนเส้นทางเดิมก็ยังคงดำเนินชีวิตต่อไปตามทางเลือกเดิม และที่เราไม่รู้ตัวว่าเราเปลี่ยนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ ก็เพราะสมองของเราทำงานตามเส้นทางแห่งกาลเวลา มันไม่อาจรับรู้การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณ ที่ย้ายฐานไปสู่การจดจ่อ และการดำเนินชีวิตบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น ชาติภพอื่น มิติอื่นได้ เพราะมันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วกว่าการเดินทางของแสง เพียงแค่คิดและอาจจะไม่ทันตระหนักว่าคิด ก็เปลี่ยนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ไปแล้ว

    พี่นักเขียนเข้าใจว่าความแตกต่างของเส้นทางแห่งความเป็นไปได้แต่ละเส้น เป็น incremental คือ แตกต่างแบบค่อยเป็นค่อยไป เราไม่เคยก้าวล่วงจากเส้นหนึ่งไปสู่อีกเส้นหนึ่งซึ่งแตกต่างจนเหมือนคนละโลก คนละกาลเวลา แต่เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันก็แทบจะทำให้เราเปลี่ยนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ไปสู่โลกที่แตกต่างกันได้อย่างฉับพลัน โดยไม่ต้องค่อยเป็นค่อยไปด้วยการเดินทางเท้าอีกต่อไป หากพี่นักเขียนบินแว้บเดียวจาก Kansas ลงไป Texas ในช่วงเดือนมกราคม ก็เหมือนเปลี่ยนโลกอย่างฉับพลันในเวลาเพียงชั่วโมงเศษ อากาศจะเปลี่ยนจากติดลบได้ถึง -20C ที่ Kansas ไปเผชิญกับอุณหภูมิ +20c ที่ Texas และจากหิมะขาวโพลน พร้อมด้วยผู้คนที่เต็มไปด้วยชาวตะวันตกผิวขาว ก็ไปเผชิญกับความเขียวขจี พร้อมด้วยพืชพันธุ์ต่างๆที่เหมือนเมืองไทย เช่น ต้นกล้วย ตลอดจนผู้คนที่เต็มไปด้วยชาวตะวันออก และ Mexican เป็นต้น

    เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ในจินตภาพของพี่นักเขียน น่าจะเป็นคล้ายใยแมลงมุม ไม่ได้เป็นเส้นขนาน และไม่ว่าจะอยู่บนเส้นทางใด ก็มีการติดต่อสื่อสารถ่ายทอดกันได้ หรือเชื่อมต่อกันหมดด้วยความคิด

    [​IMG]

    หากเจ้าแมลงมุมในภาพคือตัวตนรวม หรือจิตวิญญาณรวม และน้ำค้างแต่ละหยดบนใยแมลงมุม คือตัวตนย่อยๆของเราที่ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย-เป็นอนันต์ เรามีตัวตนย่อยๆมากมาย-เป็นอนันต์ไม่น้อยไปกว่าเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ ทุกขณะจิตที่เราเลือก ตัดสินใจ หรือเปลี่ยนความเชื่อไป เราย้ายฐานจากการเป็นน้ำค้างหยดหนึ่ง ไปจดจ่อกับรูปการตัวตน ณ จุดใหม่ หรือกลายเป็นน้ำค้างอีกจุดหนึ่งที่อยู่ถัดไป หากเราตัดสินใจหรือเปลี่ยนความเชื่อที่ก้าวไกลไปจากความเชื่อเดิมมากเพียงไร เราก็คงจะเป็นน้ำค้างหยดที่อยู่ห่างไกลหยดเดิมมากขึ้นเท่านั้น แต่น้ำค้างทุกหยด หรือการเป็นบุคคลตัวตนทุกตัวตนของเรา ก็เชื่อมต่อ สัมพันธ์ ส่งผลกระทบต่อกันและกันเสมือนสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนระบบเครือข่ายของใยแมลงมุมเดียวกัน

    ตัวตนรวม จิตวิญญาณ หรือเจ้าแมลงมุม รู้เห็นน้ำค้างทุกหยด พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน แต่น้ำค้างแต่ละหยด หรือตัวตนย่อยแต่ละตัวตน มองเห็นแต่ตัวของมัน หรือน้ำค้างเพียงที่ละหยด และเชื่อว่า น้ำค้างที่อยู่ด้านหลังของมันคืออดีต และน้ำค้างที่มันยังมองไม่เห็นข้างหน้าคืออนาคต

    เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ กับการเป็นบุคคลตัวตนบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เราเรียกว่า อดีตและอนาคต หรือ อดีตชาติและอนาคตชาติ จึงไม่ได้แตกต่างกันเลย และทุกตัวตน มีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน(rose)
     
  13. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
  14. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ศรัทธาในตนเอง

    ก่อนหน้านี้ พี่นักเขียนได้แนะนำให้พวกเราจดบันทึกความฝัน และได้แนะนำว่าก่อนนอนให้นั่งสมาธิ ตั้งจิตว่าจะขอฝันเพื่อเรียนรู้สิ่งใด นั่งสมาธิจนง่วงแล้วให้ล้มตัวลงนอนโดยอย่าให้สมาธิขาด พวกเราหลายคนเริ่มจดความฝัน และจำความฝันได้ในรายละเอียดอย่างน่าภูมิใจ และต้องขอแสดงความยินดีกับคุณจีนทาร่อน และหลายๆท่านที่จดจำความฝันกันได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

    ขั้นต่อไป พี่นักเขียนขอแนะนำให้ตั้งจิตก่อนนอนเพิ่มเติมว่า เมื่อก้าวล่วงไปสู่ความฝันแล้ว ขอให้ตื่นขึ้นในความฝันนั้น และตระหนักได้ว่า ฉันกำลังฝัน ฉันกำลังอยู่ในโลกของความฝัน และ ให้ระลึกได้ในความฝันว่า - สิ่งที่เราตั้งจิตขอรู้ หรือต้องการรู้นั้นคืออะไร?

    เราจะพบว่านอกจากจิตจะตื่นตัว รู้ตัวว่าฝันแล้ว เราจะก้าวออกจากประสบการณ์ความฝันนั้นๆ กลายเป็นผู้สังเกตการณ์ความฝันนั้นๆได้โดยไม่ต้องเข้าไปร่วมเหตุการณ์ความฝัน ภาวะดังกล่าวจะทำให้สติสัมปชัญญะของเราขยายตัว และคมชัดยิ่งขึ้นไปอีก เราจะพบว่า เรามีความทรงจำ มีความรู้ในการเป็นตัวตนยามตื่น ที่อาจเฝ้าดูตัวตนในความฝันของเราอีกตัวตนหนึ่งอยู่ หรือเฝ้าดูบุคคล เหตุการณ์ หรือรับรู้ข้อมูลบางอย่างจากมุมมองของผู้อื่น เผชิญกับประสบการณ์บางอย่างในความฝัน ผ่านดวงตา มุมมองและทัศนคติของบุคคลที่เราปรารถนาจะรู้จัก หรือ เข้าใจเขา

    การจดจำความฝันและจดบันทึกไว้ได้โดยละเอียด ช่วยให้เราสามารถพัฒนาสติสัมปชัญญะของเราให้คมชัดได้เมื่อก้าวล่วงไปสู่ความฝัน นอกจากจดรายละเอียดแล้ว ขอให้ขีดเส้นใต้คำที่มีความหมายพิเศษไว้ เราจะพบว่า มันเป็นสัญญลักษณ์ทดแทนบางสิ่งบางอย่าง

    หากเราเอาความ-กับความฝันตรงๆ-ตามเนื้อหาที่จด เราจะพบว่า มันไม่ได้สัมพันธ์กับชีวิตยามตื่นเท่าที่ควร หรืออาจจะเป็นเสมือนโลกที่แปลกแยกไปจากโลกยามตื่นของเราโดยสิ้นเชิง เพราะสาระของโลกแห่งความฝันเป็นสาระที่ปรากฏเป็นสัญญลักษณ์ หลายสิ่งหลายอย่างเป็นรหัสที่ต้องถอด

    บางครั้งความฝันยาวสามหน้ากระดาษ มีสาระสำคัญเพียงไม่กี่ประโยค
    ในทางตรงกันข้าม ความฝันสามบรรทัด อาจมีสาระสำคัญซ่อนเร้น ที่หากถอดรหัสได้ อาจยาวสามหน้ากระดาษ

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า การที่เราจะสามารถใช้พลังอำนาจตามธรรมชาติของจิตวิญญาณได้นั้น เราทั้งหลายต้องเริ่มต้นด้วยการมีศรัทธาในตนเอง แต่เมื่อกล่าวถึงความศรัทธาในตนเอง เรามักหยุดอยู่เพียงการให้เครดิตตนเองว่า เราเป็นคนดีมีศีิลธรรม เรามีคนที่รักและเห็นคุณค่าของเรา เราทำประโยชน์ให้กับคนรัก คนใกล้ตัว เพื่อน สังคม หรือประเทศชาติได้ระดับหนึ่งที่เราพอใจ

    แต่ความศรัทธาเหล่านี้เป็นความศรัทธาในการเป็นบุคคลตัวตนที่ปรากฏในโลกทางกายภาพเพียงด้านเดียว ซึ่งนอกจากการเป็นบุคคลตัวตนดังกล่าวแล้ว เรายังเป็นจิตวิญญาณที่ปรากฏในโลกทางจินตภาพหลากมิติอันกว้างไกลอีกด้วย การมีศรัทธาในตนเองที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึง จึงครอบคลุมถึง ศรัทธาในการเป็นจิตวิญญาณ พร้อมด้วยความรู้ความสามารถและพลังอำนาจตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ

    การมีศรัทธาในตนเอง ในฐานะที่เราเป็นจิตวิญญาณ จะทำให้เราค้นพบความแกร่งในตนเอง และในขณะเดียวกันก็ค้นพบความอ่อนไหวอันลุ่มลึก ที่ทำให้เราสามารถสื่อสาร สัมพันธ์ ผูกพันธ์ รับ-ให้ และ ตอบสนองต่อทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตได้โดยปราศจากความกลัว ปราศจากความสงสัย และเต็มไปด้วยความเชื่อถือที่ทำให้เราตระหนักว่า เราเลือกมาถือกำเนิดเป็นบุคคลตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ เราทุกคนสามารถนำความรู้ ความสามารถ และพลังอำนาจตามธรรมชาติของจิตวิญญาณมาใช้ในร่างมนุษย์นี้-ได้้เสมอ การดำเนินชีวิตของจิตวิญญาณในร่างมนุษย์-บนโลกใบนี้จึงเป็นชีวิตที่เราสมควรจะได้ใช้ชีวิต-ดังปรารถนา(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2008
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เหลน คนนี้ไม่ธรรมดา ตามทวด mead มาถึงห้องวิทย์ จนได้ (จะได้รวยในเร็ววัน)

    ขอตอนรับสู่ห้องวิทย์ เช่นกันครับ (หาไม้โทไม่เจอ อิอิ)
     
  16. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    วันก่อนพึ่งคุยกับน้อง amsomgal เรื่องการได้รับคำตอบมาโดยบังเอิญ วันนี้เราก็ได้รับคำตอบจากคุณ Veggie จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์นี่เอง กำลังคิดหาวิธีว่าเราจะสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับภาษาจีนให้เหมือนเจ้าของภาษาให้เชี่ยวชาญอย่างรวดเร็วได้ยังงัยอยู่พอดี เดี๋ยวจะลองไปตั้งจิตขอถ่ายทอดความรู้ความสามารถจากตัวตนต่างชาติภพดู ได้ความยังงัยแล้วจะมาเล่าให้ฟังค่ะคุณ Veggie..[Embarrass
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425

    เรื่องตัวตนรวมที่คุยกันได้คำตอบมาแล้วครับคุณซิปฯ
    การเปลื่ยนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นทางอื่นไม่ได้เป็นเพียงเส้นขนานข้างเคียงเท่านั้น แต่ยังเป็นโครงข่ายที่เชื่อมโยงกันคล้ายกับใยแมงมุมอีกด้วย ถ้าเราเป็นหยดน้ำค้างหยดนึงบนใยแมลงมุมเราจะเห็นแต่เส้นข้างเคียง หน้า-หลัง ที่อยู่ใกล้ๆเท่านั้นเอง ถ้าหากมองให้ก้าวไกลออกไปด้วยความเชื่อใหม่ๆคงจะดีมาก ซึ่งความจริงแล้วระบบที่ว่านี้คงซับซ้อนยิ่งกว่าใยแมงมุมครับ ต้องขอบคุณ "ชาลล์ล๊อต แมงมุมผู้น่ารัก"ด้วยครับ

    สัตว์พวกนี้เป็นตัวแทนของความหมายดีๆที่เรานึกไม่ถึงจริงๆ
    พี่นักเขียนยังบอกกว่าที่ฝันเห็น"ตุ๊กแกน่ารัก"น่าจะเป็นมุมมองนี้ด้วย..

    เช้านี้ตื่นขึ้น แว้บขึ้นมาว่า energy ของหัวหน้าห้องวิทย์ฯ positive มาก เป็นเหตุให้กระทู้นี้มีผู้อ่านมากมาย website ของพี่นักเขียนเลยพลอยมีผู้อ่านมากขึ้นตามไปด้วย มิน่าล่ะ ตุ๊กแกเลยพากันเข้ามาติดหนึบหนับ แล้วหัวหน้ายังว่าตุ๊กแกน่ารักซะอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2008
  18. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    คงต้องศรัทธากับชีวิตให้มากกว่านี้ซะแล้วเรา ขอเพิ่มพลังการจดจ่อให้กับล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ๆ ได้เงินเยอะๆ ขอบคุณที่ทำให้เป็นจริง เพราะเงินนี้จะให้แม่ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนจะทำทุกทางให้หนังสือชุดนี้ออกวางขายได้ตามปกติ :d
     
  19. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ช่วงนี้ติดเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ ถ้าเล่นก่อนนอน ต้องฝันว่าถูกบังคับให้เล่นในฝันทุกที ก็เลยรุ้เลย จิตวิญญาณเราไม่ชอบเล่นเกมส์ แถมรำคาญด้วยซ้ำไป
     
  20. amsomegal

    amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ amsomegal
    คุณน้องปูเป้คะ
    นิสัยของคุณน้องเป็นผู้ที่มีความมั่นใจในตนเองสูง จนบางครั้งก็ดื้อเลย แต่ถ้าหากเสียความมั่นใจในตนเองเมื่อใด จะเป็นด้วยการหลงเชื่อในคำวินิจฉัยของผู้อื่น หรือ มีความเชื่อในแง่ลบเกิดขึ้นกับตนเองเมื่อใด คุณน้องจะกลายเป็นผู้ที่ขาดความมั่นใจในตนเอง และตำหนิตนเองมากมาย

    ในส่วนลึกที่เป็นคุณภาพที่แท้จริงของคุณน้อง คุณน้องเป็นผู้ที่มีความอดทนสูง มีความแข็งแกร่ง เป็นคนฉลาด แต่บางทีก็ชอบคิดว่าตนเองไม่ฉลาด ทั้งที่เป็นคนฉลาดมากๆ

    เข้ายามคับขัน คุณน้องอาจจะดูเสมือนอ่อนไหว หรืออ่อนแอ แต่ในส่วนลึกก็ยังมีความแกร่งและอดทนที่ไม่เคยสูญสลาย คุณน้องไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับตนเองมากไปกว่า ศรัทธาในตนเอง

    คุณสมบัติของความแกร่ง และความอ่อนไหวง่าย แม้จะมีอยู่ในตัวคุณน้องพร้อมๆกันทั้งสองอย่าง แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องยกเลิกหรือทำลายส่วนใด เพราะมันสร้างความสมดุลย์ในตนเองอยู่แล้วตามธรรมชาติ เพียงแต่คุณน้องจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้สติเพื่อนำคุณสมบัติจำเพาะใดๆ ไปใช้ให้ถูกสถานการณ์เท่านั้น

    หากขาดสติ อาจนำความอ่อนไหวไปใช้ในสถานการณ์ที่ควรเข้มแข็งหรือแกร่ง ก็ทำให้ตัดสินใจไม่ได้ดี และกระทำการที่ไม่ให้ผลกำไรกับตนเอง

    คุณน้องเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตสูง จริงใจ และเป็นผู้ที่รักษาสัจจะได้ดีมาก ไม่มีอะไรจะต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไข ใครได้คุณน้องเป็นเพื่อน ก็นับว่าโชคดี - ได้เพื่อนแท้

    พี่นักเขียนได้รับทั้งหมดนี้มาจากความฝัน ตามที่คุณน้องให้การบ้านมา หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย หากทั้งหมดนี้ไม่ถูกต้อง ขอแจ้งให้ทราบด้วยว่าการบ้านนี้ได้ F [Embarrass จะได้พัฒนาตนเองต่อไปค่ะ

    คุณน้องปูเป้ชื่อจริงขึ้นต้นด้วยอักษรอะไรเอ่ย? มีตัวอักษร ส หรือ S หรือ ว หรือ V หรือเปล่าคะ? ชอบวาดภาพหรืองานด้านศิลปะไหม? ชอบสุนัขไหมคะ? ชื่อ Brian Wood มีความหมายอะไรกับคุณน้องไหม? คุณน้องสูง 160 ได้ไหม?

    ข้อมูลเหล่านี้ผุดขึ้นมาในความฝัน หากช่วยตอบคำถามเหล่านี้ จะทำให้พี่นักเขียนเข้าใจในสัญญลักษณ์ต่างๆที่ปรากฏในความฝันได้มากขึ้นค่ะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พี่นักเขียนคะ หนูขอบอกเลยว่าการบ้านนี้ได้ AAA+เลยค่ะ คือหนูอึ้งมากๆๆๆจริงๆค่ะ ตอนที่บอกว่าชื่อหนูขึ้นต้นด้วย ว หรือ V รึเปล่า เพราะชื่อจริงของหนูคือ วันวิสาข์ ภาษาอังกฤษเขียนว่า Vanvisa
    แล้วหนูสูง 160 พอดีเป๊ะเลยค่ะ แล้วเรื่องสุนัขก้อชอบอ่ะค่ะ อยากเลี้ยงแต่พ่อไม่อณุญาติ ส่วนเรื่องศิลปะ ก้อเป็นคนอารมสุทรีย์อ่ะค่ะ ชอบฟังเพลงกับแต่งนิยาย ตอนเด็กๆก้อวาดการ์ตูนเป็นเล่มเลย ^^ส่วน brian wood นี่ยังคิดไม่ออกจิงๆค่ะ แต่คาดว่า อาจจะเกี่ยวเนื่องกับหนูในอนาคต เพราะมันอยู่ในความฝันของพี่นักเขียน

    ส่วนเรื่องนิสัยของหนูนี่ ก้อถูกต้องเลยค่ะ ยิ่งประโยคนี้ที่ว่า
    "แต่ถ้าหากเสียความมั่นใจในตนเองเมื่อใด จะเป็นด้วยการหลงเชื่อคำวินิจฉัยของผู้อื่น หรือ มีความเชื่อแง่ลบเกิดขึ้นกับตนเองเมื่อใด คุณน้องจะกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตนเอง และตำหนิตัวเองมากมาย"

    อยากจะบอกว่า ขอบคุณพี่นักเขียนมากๆเลยค่ะ ที่ทำการบ้านนี้มาให้ แล้วให้หนูรู้ตัวว่ากำลังมีความเชื่อผิดๆอะไรอยู่ ขอบอกเลยค่ะ ว่าข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมดนี้มันตรงมากๆๆๆ โดยเฉพาะตัวอักษรของชื่อ ขนาดว่าไม่เคยพบหน้าหรือรู้ข้อมูลอะไรมาก่อนเลย มันทำให้หนูศรัทธาคำตอบและความรู้ ที่เราได้จากความฝันขึ้นเยอะเลยค่ะ

    ปล. ขอทราบวิธีนิดนึงนะคะ ว่าการที่เราจะศรัทธาตัวเองนั้น คือเชื่อว่าเราดีพอ มีคุณค่าพอที่จะให้ใครมาสนใจหรือรักได้ใช่มั้ยคะ? แล้วเวลาหนูขอฝันเนี่ย พอหลับตาปุ๊บ มันก้อเห็นเป็นภาพเลย เหมือนเป็นจินตนาการขึ้นมาเอง โดยที่ยังไม่ง่วง ยังงี้เรียกว่าความฝันที่บอกคำตอบได้มั้ยคะ?

    ขอบคุณพี่นักเขียนอีกครั้งนะคะ และอยากจะบอกว่าตรงเป๊ะๆ ทุกอย่างเลยค่ะ ทึ่งมากๆเลยค่ะ วันนี้หนูไปที่ se-ed book มาจะไปซื้อหนังสือของพี่โนอา อ่ะค่ะ เผอิญเขาบอกว่าหนังสือหมดสัญญาแล้ว ยังงี้ถ้าจะซื้อหนังสือที่เมืองไทย ตอนนี้ซื้อได้ที่ไหนอยู่คะ[/quote]

    ทุกความฝันที่ได้รับการตอบรับจากเจ้าของฝัน มีความหมายกับพี่นักเขียนเป็นที่สุด เพราะเป็นเสมือนบททดสอบที่ทำให้พี่นักเขียนได้เรียนรู้และพัฒนาต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด วันนี้ก็ต้องขอบอกว่า ได้คุณครูใจดี ให้ A ตังสามตัวแถมมี + อีกด้วย

    หากยังไม่ง่วง เรายังไม่ได้ก้าวล่วงไปสู่โลกของความฝันอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้มีวิตกวิจารณ์ได้มากจากความจำ และจากสติสัมปชัญญะของตัวตนภายนอกที่ถูกจำกัดการรู้เห็นด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า

    พี่นักเขียนเลือกที่จะเชื่อข้อมูลในความฝัน ที่เกิดขึ้นเมื่อหลับไปแล้วจริงๆ เพราะเมื่อจดจำได้ตอนเช้า เราจะตระหนักได้ว่า สติสัมปชัญญะของตัวตนภายนอกยามตื่น ไม่ได้มีส่วนสร้างเรื่องเหล่านั้นขึ้นด้วยวิตกวิจารณ์

    โลกของความฝัน เป็นประสบการณ์ที่ตัวตนภายในรับรู้อย่างเปลือยเปล่า ตัวตนภายในคือจิตวิญญาณที่ปราศจากเครื่องพราง มันไม่โกหก มันไม่เข้าข้างใคร และมันก็ซื่อๆ รู้ก็รู้ เห็นก็เห็น ตรงไปตรงมาโดยไม่วินิจฉัยค่ะ

    คุณน้องปูเป้ลองใช้วิธีการต่อไปนี้นะคะ :
    1. ตั้งจิตขอฝัน ขอรู้ ด้วยจิตที่แน่วแน่ เสมือนเด็กนักเรียนที่พร้อมจะเข้าห้องเรียนและจะตั้งใจฟังครู นั่งสมาธิก่อนนอน แล้วพอรู้สึกง่วงให้ล้มตัวลงนอนโดยพยายามอย่าให้สมาธิขาด แม้คืนแรกๆจะไม่ได้ผลก็อย่าท้อแท้ ขอให้ทำทุกคืน ตั้งจิตให้แน่วแน่

    2. หากตื่นมาฝันแล้วรู้สึกว่า สะเปะสะปะ อย่าท้อใจ ให้จดบันทึกเป็นนิสัย ความฝันที่ดูเสมือนสะเปะสะปะอาจมีข้อมูลที่มีค่าซ่อนเร้นอยู่มากมาย หากปราศจากศรัทธาและความเชื่อว่า เราทำได้ ตื่นขึ้นมาเราก็ท้ิงข้อมูลทั้งหมดไปอย่างน่าเสียดาย

    หากพี่นักเขียนไม่ได้ฝึกฝนมานานพอ ข้อมูลที่ปรากฏในความฝันให้คุณน้องปูเป้จะกลายเป็นไร้สาระ เพราะมันเป็นสัญญลักษณ์ และเป็นเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันบ้าง เกี่ยวบัาง แต่หากเราตระหนักได้ว่ามันคือสัญญลักษณ์ที่มีความหมาย จดบ่อยๆเข้าจะหาความหมายพบและเข้าใจได้เป็นอัตโนมัติค่ะ

    3.การศรัทธาในตนเอง นอกจากจะเชื่อว่าเราเป็นคนดี มีค่า และผู้อื่นรักเราดังที่คุณน้องเข้าใจถูกต้องแล้วนั้น เราจะต้องเรียนรู้ที่จะศรัทธาตนเองในทิศทางที่หมายถึงว่า ศรัทธาในจิตวิญญาณของเรา ศรัทธาว่าเราคือจิตวิญญาณที่มีพลังอำนาจตามธรรมชาติ แม้เราจะมาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง ความสามารถและพลังอำนาจของจิตวิญญาณตามธรรมชาติก็ไม่ได้ลดน้อยหรือสูญหายไปไหน

    พี่นักเขียนขอย้ำว่า คุณน้องสามารถทำทุกอย่างได้ไม่น้อยไปกว่าที่พี่นักเขียนทำได้ เราทุกคนทำได้ ฝีกฝนได้ค่ะ หากเราศรัทธาในจิตวิญญาณของเราพอ

    พี่นักเขียนมีเจตนาที่อยากจะให้ทุกท่านตระหนักว่า เราทุกคนทำได้ และพร้อมเสมอที่จะแนะนำทุกคนว่า เราทำได้อย่างไร ทั้งหมดมีเทคนิคที่พี่นักเขียนเองลองผิดลองถูกมายาวนานหลายปี กว่าจะค้นพบและทำให้เกิดความแม่นยำได้ดีขึ้น รวมทั้งการบอกชื่อหรือตัวอักษรในชื่อของบุคคล ก็ปรากฏในความฝันเป็นเพียงสัญญลักษณ์หรือรหัสที่ต้องรู้จักถอด มีรายละเอียดมากมายที่อยากจะ share กับทุกคน

    ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณครูใจดี ที่ให้ตั้งสาม A คืนนี้จะได้ฝันดี กำลังพยายามค้นหาภาพวาด cartoon สุนัขในความฝัน จะ e-mail มาให้ดูเล่นค่ะ







     

แชร์หน้านี้

Loading...