พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

1006. Full option พระอุปคุตหยกขาวแกะติดจีวร+เกศา หลวงพ่อพระอาจารย์ไพบูลย์ สุมังคโล วัดอนาลโย ปิดรายการครับ

​

​

 

1007. สุดยอดพระดีของอริยะสงฆ์ พระผงพิมพ์ขุนแผน หลังรูปหลวงพ่อประสิทธิ์ยิ้ม หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร รุ่นสมปรารถนา ปี2559 ปิดรายการครับ

​

จำนวนสร้าง117องค์

มวลสารหลัก
1.กระเบื้องหลังคาโบสถ์ วัดเจดีย์หลวง
2.กระเบื้องหลังคาโบสถ์ วัดอรัญญวิเวก
3.อิฐพระธาตุ วัดเจดีย์หลวง
4.ชานหมาก หลวงปู่แหวน
5.ชานหมาก หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป
6.ชานหมาก หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
7.ชานหมาก หลวงพ่อประสิทธิ์ (หลวงพ่อเมตตาเดินเข้าไปหยิบในกุฏิมาให้กับมือองค์หลวงพ่อเอง หลังจากได้กราบเรียนท่านจะขอมวลสารมาทำวัตถุมงคล)
8.เกศา หลวงปู่แหวน
9.เกศา ครูบาศรีวิชัย
10.เกศา หลวงปู่เทสก์
11.เกศ หลวงปู่สิม
12.เกศา หลวงปู่ชอบ
13.เกศา หลวงตามหาบัว
14.เกศา หลวงปู่เปลี่ยน
15.เกศา หลวงปู่สังข์
16.เกศา หลวงพ่อโสวัจ
17.เกศา หลวงพ่อประสิทธิ์
18.เกศา พระอาจารย์พิชิต
19.นขาธาตุ หลวงปู่เปลี่ยน
20.นขาธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์
21.สายประคต หลวงปู่เปลี่ยน
22.จีวร หลวงปู่เทสก์
23.จีวร หลวงตามหาบัว
24.จีวร หลวงปู่สังข์
25.จีวร หลวงปู่เปลี่ยน
26.จีวร หลวงพ่อประสิทธิ์
27.ผงอังคาร หลวงปู่มั่น
28.ผงอังคาร หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล
29.ผงอังคาร หลวงปู่ทองบัว
30.ผงอังคาร หลวงปู่จันทา
31.ผงอังคาร หลวงปู่จันทร์
32.ผงอังคาร หลวงปู่เทสก์
33.ผงอังคาร หลวงปู่สิม
34.ผงอังคาร หลวงตามหาบัว
35.ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ชอบ
36.ข้าวก้นบาตร หลวงปู่เปลี่ยน
37.ข้าวก้นบาตร หลวงพ่อประสิทธิ์
38.ข้าวก้นบาตร หลวงปู่อว้าน
39.ไม้ถูฟัน หลวงพ่อประสิทธิ์
40.ไม้ถูฟัน หลวงปู่อว้าน
41.ไม่ถูฟัน หลวงปู่บุญเพ็ง
42.ก้นบุหรี่หลวงพ่อประสิทธิ์
43.พระผงพระแก้วมรกต หลวงปู่เปลี่ยน
44.พระผงไพรีพินาศ ปปป หลวงปู่เปลี่ยน
45.พระผงเนื้อว่าน และเนื้อดินเผา ท่านพ่อลี (จำนวน ร้อยกว่าองค์ บรรจุอยู่เพดานโบสถ์วัดดำรงธรรมาราม จันทบุรี)
46.พระผงสิวลีผงจักรพรรดิ (อยู่กุฏิหลวงพ่อประสิทธิ์นานกว่า 4 ปี และนำเข้าอีกหลายวาระที่หลวงพ่อประสิทธิ์เมตตาอธิษฐานจิต)
47.พระผงหลวงปู่สังข์ (ขุนแผน นางพญา เจ้าสัว)
48.พระผงหลวงปู่จันทร์
49.พระผงอุปคุต
50.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อพุธ
51.พระผงอาจารย์มั่น
52.พระผงโพธิจักร หลวงพ่อประสิทธิ์ (พิธีเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อ)
53.เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
54.ไม้งิ้วดำ
55.กัลปังหา
56.ว่าน108
57.รังต่อ
58.คตมะพร้าว
59.ผงตะไบทอง (ได้จากการนำฐานพระโบราณอายุหลายร้อยปี มาตะไบเพื่อโรยหน้าองค์พระ)
60.ผงตะไบเงิน (ได้จากการนำเหรียญนาคปรก หลวงพ่อประสิทธิ์ เนื้อตะกั่ว ไม่ตัดปีก วัดป่าท่าสุด จำนวน 50 เหรียญ มาตะไบเพื่อโรยหน้าองค์พระ)
61.ไม้กุฏิ หลวงปู่เสาร์
62.ไม้กุฏิ หลวงปู่มั่น
63.ผงมวลสารเก่าอีกหลายพิธีหลายวาระสายกรรมฐานทั้งหมดนำมาใส่ในพระผงชุดนี้
(มวลสารทั้งหมด องค์หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร โปรดเมตตาอธิษฐานจิตให้ก่อนนำมากดพิมพ์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2558 ช่วงบ่าย)

องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์เมตตาอธิษฐานจิตหลังจากสถาปนาเป็นองค์พระแล้ว ได้แก่
1.หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ
2.หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
3.หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย
4.หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
5.หลวงพ่อบุญกู้ อนุวัฒฑโน
6.หลวงปู่สุวัจ อาจาโร

และนำเข้าพิธีประจำเดือนของทางวัดพุทธบูชา ในงานพิธีมีครูบาอาจารย์สายอีสานมากมาย ได้แก่ หลวงปู่เหลือง หลวงปู่ประสาร หลวงพ่ออำนวย เป็นต้น
จำนวนการสร้างทั้งหมด
1. พระผงสมเด็จ 300 องค์
2. พระขุนแผนผงตะไบโรยเกศา 500 องค์
3. พระปิดตาผงตะไบโรยเกศา 500 องค์
( เนื่องจากพระผงสมเด็จมีจำนวนเพียง 300 องค์ จึงได้ทำการบอกบุญเพียงแค่ 300 ชุด ดังนั้น พระขุนแผน และ พระปิดตา ผงตะไบโรยเกศา จึงเหลืออีกอย่างละ 200 องค์)
4. พระขุนแผนหลังลายเซ็นต์ 3 องค์
5. พระชุดนขา (เล็บ) พ่อแม่ครูบาอาจารย์ จำนวน 10 ชุด
6. พระชุดเหรียญขวัญถุง และ รูปถ่ายหลวงพ่อประสิทธิ์ ยิ้ม 117 คู่
7. พระปิดตาหลังพระนาคปรก สารพัดนึก หลวงพ่อประสิทธิ์ 13 องค์
8. พระขุนแผนอัฐิ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ จำนวน 13 องค์
9. พระขุนแผนหลังรูปหลวงพ่อประสิทธิ์บิณฑบาตร 9 องค์
10.พระขุนแผนรองพิมพ์ เนื้อผงงาช้าง 1 องค์
11.พระขุนแผนหลังพระสิวลี 1 องค์
12.พระขุนแผนผงตะไบธรรมดา ไม่โรยเกศา 1200 องค์
13.พระปิดตาผงตะไบธรรมดา ไม่โรยเกศา 1200 องค์
14.พระขุนแผนหลังทองจังโก้วัดเจดีย์หลวง 30 องค์

 

1008. พระดีที่น่าบูชา มวลสารสุดๆครับ พระปิดตา พิมพ์เม็ดบัว เนื้อผงอิทธิเจ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี จัดสร้างปี ๒๕๒๒ ให้บูชา 450 บาท

​

พระปิดตาชุดนี้จึงเป็นพระเครื่องที่ดีทั้งนอกดีทั้งใน สร้างเพื่อสืบอายุพระศาสนาและแจกเป็นทาน
มวลสารต่างๆ ก็ตั้งใจรวบรวมมานาน อีกทั้งครูบาอาจารย์ที่เป็นองค์อธิษฐานจิต เป็นพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงและมีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศ
โดยได้รวบรวมเอาผงพระทั้งพระเกจิ และพระกรุต่างๆ มาเป็นเวลาร่วม ๒๐ ปี ได้แก่
-ผงพระสมเด็จวัดระฆัง
-ผงพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
-ผงพระวัดปากน้ำ
-ผงพระวัดสามปลื้ม
-ผงพระกรุสมัยทวารวดี
-ผงกระเบื้องเก่าจากองค์พระปฐมเจดีย์
-ปูนกะเทาะจากองค์พระปฐมเจดีย์
-ผงตะไบชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์
-ผงตะไบชนวนพระคันธารราษฎร์
-เกสรดอกไม้
-ว่าน ๑๐๘
-ผงอิทธิเจหลวงพ่ออุตตมะ

หากเห็นพิมพ์นี้ที่ไหนให้เก็บไว้ให้ดีๆ เนื่องด้วยพิมพ์นี้ถึงพร้อมด้วยปัจจัยหลายประการเช่น
1. หลวงปู่โต๊ะได้อธิษฐานจิตเดี่ยวๆให้เป็นการเฉพาะเจาะจงให้กับพระพิมพ์นี้เป็นเวลานาน หลายเดือน...ครั้งหนึ่งหลวงพ่อแพ แห่งวัดพิกุลทองเคยบอกศิษย์ว่า หากหลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสก พระปิดตาให้เก็บไว้ให้ดี เพราะเชื่อว่าหลวงปู่โต๊ะท่านสรรพสำเร็จวิชาที่ใช้ในการปลุกเสกพระปิดตานั่นเอง
2. ผู้สร้างได้นำไปถวายหลวงพ่ออุตตมะปลุกเสกให้โดยทิ้งไว้ให้หลวงพ่อเสกให้เป็นเวลากว่า 2 ปี
3. จากนั้นจึงนำตระเวนให้พระผู้มีชื่อเสียงแถบจังหวัดนครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี ปลุกเสกให้อีกหลายรูป...
4. พระองค์นี้ได้รับการเสกจากองค์ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ตั้งแต่วันที่มาอยู่กับท่านจนถึงวันที่หลวงพ่อแช่มมรณภาพเป็นเวลา 14 ปี
พระอย่างหลวงพ่อแช่มแสกพระแค่ สิบนาทีก็เมตตาเหลือประมาณแล้วนี่ท่านเสกให้ถึง 14 ปี พระนี้จะเมตตาขนาดไหน... หลวงพ่ออุตตมะเสกจนไฟลุกลามจากสายสิญจ์

 

1009. พระลีลาเม็ดขนุน หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย จ.สุโขทัย ปี 2505 ให้บูชา 750 บาท

​

เป็นหนึ่งในพิธีการพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ของวัดลานหอยเลยก็ว่าได้ พระเนื้อดินที่สร้างส่วนใหญ่ได้สร้างล้อพิมพ์พระกรุสุโขทัยทั้งสิ้น ผสมมวลสารดินจาก เมืองเก่าจากเศษพระกรุหักๆ และดินในกรุสำคัญต่างๆทุกกรุในเมืองสุโขทัย โดยมีทั้งประทับยันต์ด้านหลัง และแบบหลังเรียบ โดยประธานฝ่ายฆราวาส คือ พลตำรวจตรียรรยง สะท้านไตรภพ
บรรดาพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีในสุโขทัยแล้ว พอมีบันทึกเอาไว้ได้แก่
1. หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น จ.ตาก,
2. หลวงพ่อไซร้ ติสสฺโร วัดช่องลม จ.อุตรดิตถ์,
3. หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิโต วัดสำนักขุนเณร จ.พิจิตร,
4. พระครูนิสิตคุณากร (หลวงพ่อกัน) วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์,
5. หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) จ.เพชรบูรณ์,
6. เจ้าคุณวรพรตปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส(ป่า) จ.ชลบุรี,
7. พระครูศีลกิตติคุณ หรือหลวงพ่ออั้น คันธาโร วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา,
8. พระอาจารย์บุญโสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง,
9. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นต้น

วัตถุมงคลชุดนี้หลวงพ่อได้แจกให้กับญาติโยมที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินสร้างตึกสงฆ์ ที่โรงพยาบาลสุโขทัยสำหรับประชาชน และพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธจะได้ไปรักษาตัว นอกจากนี้วัตถุมงคลนี้ส่วนหนึ่งยังได้ถูกบรรจุลงกรุในอุโบสถ และเจดีย์ของวัดลานหอยเพื่อสืบต่อพระศาสนาอีกด้วย

 

..........

 

1010. เหรียญรุ่นแรกพิมพ์ใหญ่ หายาก!!! 1 ใน 28 พระอรหันต์เพชรน้ำหนึ่งสายวัดป่า เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ผาง ปริปุณโณ วัดประสิทธิธรรม บ้านดุง อุดรธานี เหรียญรุ่นแรก รุ่นเดียวครับ สร้างเมื่อ 5 เมษายน 2543 ให้บูชา 450 บาท

​

พระอริยสงฆ์ศิษย์ในหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
พระอริยสงฆ์ศิษย์ในหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
พระอริยสงฆ์แห่งวัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น
พระอริยเจ้าผู้ปรารภความเพียร
ท่านเป็นศิษย์สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ที่อัฐิได้กลายเป็นพระธาตุแล้ว แสดงให้เห็นว่า
#ท่านเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในวงศ์พระป่า
องค์ท่านท่องเที่ยวธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย
เป็นผู้ไม่หวั่นไหวในสุขและทุกข์ เป็นผู้นอบน้อมถ่อมตนเข้าหาสำนักครูบาอาจารย์เสมอ
เป็นผู้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายท่านเป็นศิษย์ต้นและเป็นทายาทธรรมของ
#หลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ พระอริยเจ้าบ้านดงเย็น หลวงปู่ผาง ท่านเคยได้ติดตามพระอรหันต์องค์สำคัญๆหลายรูป เช่น
พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
หลวงปุ่พรหม จิรปุญฺโญ
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
หลวงปู่ขาว อนาลโย
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
หลวงปู่เทสก์ เทสรงฺสี เป็นต้น

 

1011. เหรียญจักรีพิชิตไพรี ปี2521 พระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์และอภิญญาจิต พระวิสุทธิญาณเถร(หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย) ให้บูชา 450 บาท

​

1 ใน 28 พระอริยเจ้าเพชรน้ำหนึ่งศิษย์ในหลวงปู่มั่น
พระอริยสงฆ์สงฆ์ผู้ทรงอภิญญา 6
...........ด้วยเหตุที่ว่าอดีตชาติหลวงพ่อสมชายองค์ท่านบวชเป็นฤาษีระลึกชาติได้4 ปีเต็มทุกๆคืนในสมัยเด็ก จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงศาสนาเดิมของตระกูลมานับถือพุทธศาสนา
อภิญญา 6 ประกอบด้วย
1. อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้
2. ทิพโสต หูทิพย์
3.เจโตปริยญาณ รู้จักกำหนดใจผู้อื่น
4.บุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
5.ทิพจักขุ ตาทิพย์
6. อาสวักขยญาณ รู้จักทำอาสวะให้สิ้นไป

 

1012.พระดีแห่งเมืองแม่กลอง ในตำนาน พระกรุวัดตะโหนดราย พระกรุอายุร่วมร้อยปีของเมืองแม่กลอง พิมพ์นาคปรก ให้บูชา 650 บาท

​

พระกรุวัดตะโหนดราย ถือเป็นพระกรุที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองสมุทรสงคราม ถึงแม้ว่าเมืองสมุทรสงครามนั้นจะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน แต่กลับมีพระกรุขึ้นแค่เพียงวัดเดียวนั้นก็คือวัดตะโหนดราย ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๓- ๒๔

แตกกรุเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ในสมัยที่พระอธิการเท เป็นเจ้าอาวาสวัดตะโหนดราย เท่าที่พบเห็นมีอยู่ด้วยกัน ๒ พิมพ์คือพิมพ์พระประธาน(ฐานผ้าทิพย์) และพิมพ์นาคปรก โดยมีการสร้างด้วยกัน ๒ เนื้อคือเนื้อดินเผา และเนื้อชิน(หายาก) จำนวนการสร้างรวมกันหลักหมื่นองค์

พระครูสมุทรวรการ (พระอุปัชฌาย์เท ฉนฺโน) ท่านเป็นเจ้าอาวาส รูปที่ ๗ ของวัดตะโหนดราย ท่านมีนามเดิมว่า เท นามสกุล อินทร์จันทร์ ท่านเป็นอดีตเจ้าคณะหมวดบางคนที (เจ้าคณะตำบลในสมัยนี้) และเป็นถึงพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก

ขึ้นครองวัดตะโหนดราย ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ หลวงจากที่หลวงพ่อเบี้ยวถึงแก่มรณภาพ และพระอธิการเทได้ปกครองวัดจนถึงแก่มรณภาพลงในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ รวมครองวัดถึง ๓๙ ปี

วัดตะโหนดราย เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

วัดตะโหนดราย ได้ขอตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๓๕ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ ๑) แต่เดิมเป็นสวนต้นตาลโตนดเรียงรายอยู่หลายต้นจึงได้ชื่อว่า "วัดตะโหนดราย" ต่อมามีนายปาน และนางแป้ง ได้ช่วยสร้างอุโบสถให้ ๑ หลัง และกุฏิสงฆ์อีก ๕ หลัง ซึ่งปัจจุบันนี้ทรุดโทรมไปหมดแล้ว

และได้ซ่อม สร้าง ปฏิสังขรณ์ใหม่ ต่อมานางลำภู รุ่งเจริญ ได้ถวายที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัด ๑ แปลง ขนาดเนื้อที่ ๑๒ ไร่ และ เป็นผู้มีศรัทธาอุปถัมภ์วัดด้วยดีเสมอมา

ต่อมาท่านกำนันกรึง รุ่งเจริญ และนางเม้ย รุ่งเจริญ ผู้เป็นภรรยาได้เป็นผู้นำประชาชนร่วมจัดหาทุนสร้างอาคารเรียนขึ้น ๑ หลัง ให้ชื่อว่า โรงเรียนศึกษารุ่งเจริญ

วัดตะโหนดราย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๕

พระกรุวัดตะโหนดราย พิมพ์นาคปรก

แตกกรุเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ในสมัยของพระอธิการเท(เจ้าอาวาสรูปที่ ๗) สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๓- ๒๔ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาตามคติความเชื่อของคนโบราณ โดยมีการสร้างและบรรจุไว้ภายในเจดีย์ของวัด พุทธลักษณะเป็นพระขนาดเท่าปลายนิ้ว ที่มีการค้นพบมีการสร้างด้วยกัน ๒ เนื้อ คือเนื้อชิน(หายาก) และเนื้อดินเผา จำนวนการสร้างรวม ๒ พิมพ์หลักหมื่นองค์

ด้านหน้า เป็นรูปจำลององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งสมาธิ บนฐานชุกชี มีผ้าทิพย์พาดสวยงาม

ด้านหลัง เรียบ ไม่มีอักขระใดๆ

 

1013.ของดีจากวัด ปลุกเสกนาน 2 ปี พระผงอุดมสุข หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ให้บูชา องค์ละ 500 บาท มี 2 องค์

​

"พระผงของขวัญ อุดมสุข" เป็นพระของขวัญรุ่นแรกของหลวงพ่ออุตตมะ นับเป็นพระดีที่น่าบูชาติดตัวไว้เป็นอย่างยิ่ง เพราะกรรมวิธีการสร้างพระ รวมทั้งวัตถุดิบที่นำมาสร้างนั้นสุดพิเศษมาก ๆ โดยพระรุ่นนี้นอกจากได้ผสมผงพระยอดขุนพลบุเรงนองรุ่น เก่าที่แตกหักเป็นจำนวนมากแล้ว หลวงพ่ออุตตมะยังได้เมตตาประทานผงว่าน 108 และผงอิทธิเจ (มหาจักรพรรดิ) ที่ท่านลบเอง เขียนเอง เมื่อครั้งสมัยที่ท่านยังเรียนบาลีอยู่ที่ประเทศพม่า มาผสมเป็นกรณีพิเศษด้วย นอกจากนี้ยังมีผงกระเบื้องจากองค์พระปฐมเจดีย์ พระเจดีย์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในสุวรรณภูมิ และพระเครื่องเนื้อผงรุ่นเก่าของหลวงพ่ออุตตมะที่ชำรุด นำมาป่นผสมอย่างครบครันอีกด้วย โดยมีคุณบุญส่ง ไหลธนานนท์ เป็นผู้อุปถัมภ์การจัดสร้างด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ยิ่ง

สำหรับพระพุทธลักษณะของพระผงของขวัญอุดมสุขนั้น ปรากฎเป็นรูปพระพุทธปฏิมาปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรตามศิลปะอย่างมอญ โดยมีประภามณฑล ประดับพระเศียรอยู่เบื้องหลังอย่างงดงามตามสมควรแก่พ ระผงขนาดเล็ก ที่มีส่วนใกล้เคียงกับพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่นแรก ส่วนด้านหลังเป็นอักษรนาม "อุตตมะ" อย่างชัดเจน

และสิ่งที่นับได้ว่าเป็นคุณสมบัติอันวิเศษของพระชุดนี้อีกประการหนึ่งนอกจากการที่พระทุกองค์ได้รับการกดพิมพ์สร้างสำเร็จเป็นองค์พระ โดยพระภิกษุสามเณรในปริมณฑล วัดพระปฐมเจดีย์แล้ว หลวงพ่ออุตตมะยังได้เมตตาทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระทั้งหมดด้วยระยะเวลาอันยาวนานเป็นพิเศษ ถึงราว 2 ปีเต็มอีกด้วย (พ.ศ. 2529 - พ.ศ. 2531)

 

1014. พระดีแดนใต้ สุดยอดประสบการณ์ พระผงรูปเหมือน พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่ออุ้ย วัดคอหงษ์ จ.สงขลา รุ่นแรก พ.ศ.2519 ให้บูชา 650 บาท

​

พ่อท่านอุ้ยได้ละสังขารไปตั้งแต่ปี 2506 ดังนั้นเหรียญและพระผงพ่อท่านอุ้ยรุ่นนี้ จึงไม่ทันยุคเพราะสร้างขึ้นเพื่อรำลึกพระคุณเมื่อปี 2519 โดยประกอบพิธีพุทธาภิเษกโดยมีพระเกจิอาจารย์เรืองนามร่วมพิธีมากมาย นับเป็นวัตถ่มงคลที่มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภค้าขายดี มหาอุตม์แคล้วคลาดปราศจากผองภัย ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย แข็งเป็นหิน ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วัดคอหงส์

รายชื่อพระเกจิอาจารย์ส่วนหนึ่งที่ร่วมปลุกเสก
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงปู่นาค วัดระฆัง
พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ
พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก
พ่อท่านเจ๊ก วัดเขาแดงตะวันตก
พ่อท่านปั้น วัดโคกสมานคุณ
หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง
พ่อท่านแดง วัดท่าแซ
พ่อท่านภัทร วัดโคกสุง
พ่อท่านเอียด วัดชลธาราวาส
พ่อท่านร่วง วัดศาลาโพธิ์
พ่อท่านชื่น วัดควนหวาด
พ่อท่านคลิ้ง วัดหาดใหญ่ใน
พ่อท่านพระครูวีรโสภณ วัดเขาตกน้ำ
พ่อท่านจันทร์ วัดโคกสมานคุณ
พ่อท่านทับ วัดปรางค์แก้ว
พ่อท่านแคล้ว วัดโคกเหรียง
พ่อท่านจันทร์ วัดโคกเจริญราษฎร์
ประสบการณ์พระสายเหนียวสงขลา
คนแขวนเดี่ยวพระผงรูปเหมือนโดนยิงด้วย m16 เสื้อขาดกระจุยแต่ไม่เข้า
อีกเหตุการณ์ มีชาวมาเลเซีย เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน รถพังทั้งคัน แต่คนขับไม่เป็นอะไรเลยสักนิดเดียว มีคนขอดูเหรียญที่ห้อยอยู่ที่คอ ชาวมาเลเซียคนนั้นแขวนเดี่ยวเหรียญหลวงพ่ออุ้ย วัดคอหงส์ รุ่นแรก

ประวัติความเป็นมาของ หลวงพ่ออุ้ย วัดคอหงส์
หลวงพ่ออุ้ย มีนามเดิมว่า อุ้ย แก้วคีรี เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2443 ที่บ้านเก้าสเ้ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา
ท่านบรรพชาที่วัดศาลาหัวบาง เมื่ออายุ 18 ปี และอุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปี มีท่านวิจิตรคณานุรักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่ออุ้ยได้มาร่วมสร้างวัดตั้งแต่แรกเริ่ม สมัยวัดยังตั้งอยู่บริเวณค่ายเสนาณรงค์ปัจจุบัน เหตุที่ย้ายมาสร้างในที่ปัจจุบัน เหตุจากมีการย้ายค่ายเสนาณรงค์มาจากบริเวณสวนตูล เมืองสงขลา ชาวบ้านได้ถวายที่ดินบางส่วนในการสร้างวัด ต่อมาเมื่อหลวงพ่ออุ้ยได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดคอหงส์ ตั้งแต่ปี 2489 จึงได้ซื้อที่ดินขยายวัดเพิ่ม สำหรับชื่อเรียกวัดคอหงส์ เรียกตามชื่อหมู่บ้านคอหงส์
หลวงพ่ออุ้ยได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหาดใหญ่ และเจ้าคุณที่พระโศภณพิทยาคุณ ตามลำดับ ท่านได้ปฏิบัติศาสนกิจทั้งงานของคณะสงฆ์ และงานของวัดหนักมา แต่ท่านก็ไม่เคยทิ้งสายปฏิบัติ โดยท่านจะออกธุดงค์ทุกปี ปีละ 1 เดือน

 

1015. พระผงเตารีดพิมพ์ใหญ่ พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ให้บูชา 650 บาท ด้านหลังเกศาท่านเยอะมากครับ

​

ศิษย์สร้างถวายปี 2542 เนื้อสีเหลืองสภาพพอสวย พระหนาๆ มวลสารในการจัดสร้างประกอบด้วยเกศาองค์หลวงพ่อ ไม้ทานาคาจากประเทศพม่า ว่านต่างๆ มากกว่า 108 ชนิด ข้าวสารดำ ของอาถรรพ์ทนสิทธิ์ และผงวิเศษอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งรวบรวมจากทั่วประเทศ ก่อนกดพิมพ์ นิมนต์พระสงฆ์และสามเณรในจังหวัดอุดรธานี เจริญสมาธิภาวนา และอธิษฐานจิตมวลสารกว่าร้อยรูป เป็นเวลา 1 คืนเต็ม และกดพิมพ์ ณ วัดป่าเหวไฮ จัดสร้างไว้ 2 พิมพ์ คือพิมพ์เล็ก (เมตตา) และพิมพ์ใหญ่ (พิเศษ) เท่าที่พบเห็นมีหลากหลายสี ได้แก่ สีเหลือง สีแดง สีเขียว สีดำ เป็นต้น หลวงพ่อเปลี่ยนเมตตาอธิษฐานจิตยาวนานถึง 1 ไตรมาส

 

1016.พระดีที่น่าบูชา พระสังกัจจายน์ รุ่นแรก หลวงปู่ทองบัว วัดโรงธรรมสามัคคี ให้บูชา 850 บาท

​

พระสังกัจจายน์ รุ่นแรก เนื้อทองแดง
หลวงปู่ทองบัว ตันติกาโร วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อุดผงเก่าสมเด็จปี2515ที่เเตกหัก โดยสมเด็จกรุวัดป่าโรงธรรมที่แตกหัก ใด้รับการเมตตาจิตจาก
หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
หลวงปู่ทองบัว ตันติกาโร
โดยมีหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจนที่วัดป่าโรงธรรมครับ และยังใด้อุดเกศาหลวงปู่ทองบัวด้วย พระสังกัจจายณ์นี้สร้างขึ้นในวาระที่หลวงปู่มีอายุครบ 86 ปี 11กุมภาพันธ์ 2551

เนื้อทองแดงจัดสร้าง999องค์ ตอกโค๊ตและรันหมายเลขทุกองค์ องค์นี้หมายเลข 284

 

.........

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

1017. พระดีแดนใต้ สุดยอดประสบการณ์ พระแสงหิรัญตภาพ หลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ปี ๒๕๐๕ ให้บูชา 850 บาท

​

ของดีหายาก ประสบการณ์ดี อีกหลายเรื่องราวอัศจรรย์ ตำนานการสร้างพระที่คุณอาจไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยิน ลองอ่านประวัติคร่าวๆกันดูครับ

สำนักที่พักสงฆ์ควนหวาด ตั้งเมื่อ 27 เมษายน 2494 โดยเจ้าของที่ดินได้นิมนต์พระชื่น ติสสจโจ พระกัมมัฏฐานมาจากวัดจังโหลน ในสำนักที่พักสงฆ์ได้มีคณะพรหมอุดมคติมาจากพรหมโลกมา บันดาลให้เกิดผล จนประชาชนนับเป็นหมื่นได้ตั้งใจพากันหลั่งไหลเดินทางมาสู่สำนัก มาชมบารมี ซึ่งทุกคนที่มาต่างสัมผัสได้กับอานุภาพปาฏิหาริย์ต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้ สำนักที่พักสงฆ์ควนหวาดมีชื่อเสียงโด่งดัง ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2505 นายทิ้ง เพชรรงค์ ได้นำต้นไม้เป็นหินมาถวายหลวงพ่อชื่น เพื่อให้ตรวจสอบว่าต้นไม้แบบนี้เป็นของแปลกประหลาดหรือของวิเศษกันแน่ ซึ่งท่านเองก็บอกไม่ได้ แต่ท่านจะเชิญคณะพรหมมาสอบถามดู การเชิญคณะพรหม จะประกอบพิธีในโรงธรรม ซึ่งมีบ่อขนาด 1.20 เมตร ลึก 1 เมตร ชื่อว่า”บ่อบันดาล” นายเลี่ยน หรดี ได้รับมอบหมายจากสำนักฯให้เป็นประธานในการติดต่อคณะพรหม โดยนายเลี่ยน ต้องลงไปนั่งสมาธิในบ่อบันดาล และต้องจุดเทียน 1 เล่ม หลวงพ่อชื่นจะทำพิธีข้างบนปากบ่อ นายเลี่ยนจะทำสมาธิจนบังเกิดเป็นญาณสามารถเป็นสื่อติดต่อกับคณะพรหมได้แล้ว ได้พูดคุยกับหลวงพ่อชื่น ทำให้ทราบว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้กู้ชาติ เจ้าของต้นไม้ดังกล่าวคือพรหมแสงหิรัญตภาพ ต้องการให้หลวงพ่อชื่นนำไม้มาสร้างพระ โดยพรหมแสงหิรัญตภาพได้ให้หลวงพ่อชื่น จัดตั้งพาน 1 ใบปูด้วยผ้าขาว ตั้งไว้ข้างหน้าแล้วพรหมแสงหิรัญตภาพได้เนรมิตให้มีพระขนาดเล็กในท่านั่งสมาธิ ปรากฏอยู่ในพาน ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ปรากฏต่อสายตาประชาชนที่มาร่วมพิธีกรรมจำนวนมาก 23 มิถุนายน 2505 หลวงพ่อชื่น ได้เชิญนายนิทัศน์ โสเจยยะ นายอำเภอรัตภูมิ ข้าราชการ ครู ผู้ใหญ่บ้านและประชาชน ไปร่วมพิธีกรรมอัญเชิญต้นไม้เป็นหินลงจากเขามาจัดสร้างพระ ในการเก็บมวลสารครั้งนี้หัวหน้าคณะพรหม ได้ทำพิธีอัญเชิญพรหมแสงหิรัญตภาพ และได้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับวันที่ 19 มิถุนายน 2505 ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นพระเครื่องที่จัดสร้างครั้งนี้จึงให้ชื่อว่า “หลวงพ่อแสงหิรัญตภาพ”

บรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านในละแวกวัดควนหวาด ต่างหวงแหนเพราะ มีประสบการณ์มากมาย ท่านพูดให้บรรดาศิษย์ฟังเสมอว่าพระที่ท่านสร้างและปลุกเสกแม้จะไม่เหนือใครแต่รับรองว่า ไม่เป็นรองใคร เคยมีทหารเรือมาที่วัด แล้วท่านให้พระแสงหิรัญตภาพไป ทหารเรือเอาไปทดลองยิง ปรากฏว่าปืนไม่ลั่น ทหารเรือจึงกลับมาที่วัด มากราบขอขมาท่านและขอพระไปอีกจำนวนมาก

 

1018. พระยอดขุนพลเนื้อผงน้ำมัน วัดนาสน ปี 2523 สร้างจากดินใต้ฐานพระธาตุ นครศรีธรรมราช อาจารย์ชุม เจ้าพิธี ให้บูชา 999 บาท

​

พระพิมพ์ยอดขุนพลเนื้อผงน้ำมัน วัดนาสน เสาร์5 ปี 2523 สร้างจากมวลสารพระกรุเก่านครชำรุด, ผงพุทธคุณจากพระเกจิอาจารย์ภาคใต้มากมาย, ผงพระกรุเก่าชำรุด,ดินใต้ฐานพระธาตุนครศรีธรรมราช อาจารย์ชุม ไชยคีรี เจ้าพิธี
พิธีพุทธาภิเษกเกจิสายใต้ชื่อดังปลุกเสกหลายรูป อาทิเช่น
ลพ.คลิ้ง วัดถลุงทอง
ลพ.จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ
ลพ.แก่น วัดทุ่งหล่อ
พระอ.ศรีเงิน วัดดอนศาลา
ลพ.สังข์ วัดดอนตรอ
ลพ.กล่ำ วัดศาลาบางปู
ฯลฯ

 

1019. พระดีแดนใต้ เกจิขมังเวทย์แห่งภาคใต้ พระเนื้อดินพระพุทธชินราช พ่อท่านเฟื่อง วัดคงคาเลียบ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ปี ๒๔๙๘ ให้บูชา 1250 บาท

​

ประวัติหลวงปู่เฟื่อง อินฺทสุวณฺโณ

***พระเครื่อง หลวงพ่อเฟื่อง อินทวณฺโณ วัดคงคาเลียบ ผู้ซึ่งมีอัฐิกลายเป็นพระธาตุ แม้แต่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็เคารพนับถือ และกล่าวถึงอยู่เนือง ๆ
เขียนโดย : ธงชัย อุดมความสุข, ประภาส รุจิราลัย

......ถ้าพูดถึงสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐานแล้ว เห็นจะต้องยกให้สำนักสงฆ์วัดปากน้ำภาษีเจริญ ฝั่งธนบุรีเป็นเอกในยุครัตนโกสินทร์นี้ ซึ่งคนทั่วไปต่างให้ความเคารพศรัทธาต่อหลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นที่สูงยิ่ง เพราะวัตถุมงคลที่ท่านหลวงพ่อวัดปากน้ำ (หรือพระคุณเจ้าพระมงคลเทพมุนี) จัดสร้างขึ้นแจกแก่พุทธศาสนิกชน เป็นของขวัญนั้น มีความศักดิ์สิทธิ์เต็มเปี่ยมด้วยอำนาจของพุทธคุณ คนที่นำไปใช้ต่างประสบกับความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เลื่องลือถึงต่างแดน ในปัจจุบันพระเครื่องชุดนี้ ได้รับขนานนามว่า “พระของขวัญ” เป็นที่แสวงหาของคนทั่วไป สนนราคาเช่าบูชาสูงและเป็นที่หวงแหนของคนที่เป็นเจ้าของยิ่งนัก จนเคยมีคนพูดไว้ว่า “ถ้ามีพระของขวัญของหลวงพ่อวัดปากน้ำใช้แล้ว ไม่ต้องหาพระอะไรมาใช้อีก”
.....แต่เป็นที่ทราบกันในวงหมู่ศิษย์ที่ใกล้ชิดของหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำมักบอกกับผู้ใกล้ชิดท่านเสมอว่า “จะหาพระอาจารย์ยุคหลังที่มีพลังจิตและได้ฌานสูงเท่าหลวงพ่อเฟื่อง วัดคงคาเลียบ เห็นจะหาได้ยากแล้ว”
.....หลวงพ่อวัดปากน้ำ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเฟื่อง ซึ่งได้ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงพ่อเฟื่อง ได้กล่าวยกย่องถึงหลวงพ่อเฟื่องเสมอ จึงเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่ท่านพูดถึงนั้นต้องจริง
.....ถ้าขึ้นปีใหม่ ๒๕๑๘ นี้ ท่านผู้อ่านที่อยากได้ของดีราคาถูกและสูงด้วยพุทธคุณ เป็นวัตถุมงคลที่พระอริยเจ้าชั้นพระอรหันต์แผ่เมตตาจิตทิ้งไว้ให้แล้ว ผู้เขียนขอแนะนำให้หา พระเครื่องของท่านพ่อเฟื่อง อินทวัณโณ
.....เหตุที่กล่าวว่าท่านสำเร็จอรหันต์นั้น เพราะอัฐิของท่านได้กลายเป็นพระธาตุแล้วนั่นเอง
.....สำหรับประวัติของท่านนั้น นับเป็นสิ่งมืดมน เพราะท่านไม่ได้ทิ้งประวัติอะไรไว้เลย เคยมีผู้พบใบสุทธิของท่านซึ่งเป็นอักษรขอม แต่ก็เลอะเลือนจนอ่านจับใจความมิได้ อีกทั้งปัจจุบันไม่ทราบว่าได้ตกไปอยู่ในมือของท่านผู้ใด ดังนั้นจึงได้ประวัติของท่านจากผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและลูกศิษย์ที่เคยปฏิบัติรับใช้ท่านมา รวบรวมจากหลายแห่งและรายบุคคล นับว่าเป็นข้อความที่สมบูรณ์ยิ่งแล้ว
.....หลวงพ่อเฟื่อง อินทวัณโณ เป็นคนพื้นเพจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อตอนเป็นเด็กบวชเณรที่วัดบางงอน ติดกับอำเภอพุนพิน (เมืองไชยา) มีอุปัชฌายะเย็นเป็นอุปัชฌาย์ ต่อมาบวชเป็นพระภิกษุที่วัดท่าโขลง อ.พุมดวง (ปัจจุบันคืออำเภอท่าโรงช้าง) อยู่คนละข้างฝั่งคลองกับอำเภอพุนพิน อุปัชฌาย์คงเป็นอุปัชฌาย์เย็นเช่นเดิม
.....ท่านบวชแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าโขลงอยู่ราว ๓ พรรษา หัดฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานจากอุปัชฌาย์ของท่าน หลังจากนั้นท่านก็ออกเดินธุดงค์ตามป่าเขาเรื่อยมา แรก ๆ ก็ออกธุดงค์กันหลายรูป เท่าที่ทราบมีพระครูสถิตสันติคุณ ซึ่งเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ ได้เคยร่วมเดินธุดงค์กับท่าน ซึ่งพระครูสถิตสันติคุณนี้ ชาวจังหวัดสุราษฎร์นับถือมาก ปัจจุบันมรณภาพแล้ว
.....ตลอดเวลาหลวงพ่อเฟื่องถือธุดงควัตรเป็นสรณะ ท่านธุดงค์ไปตามป่าเขาตลอดเวลาอันยาวนาน ช่วงระยะหลังท่านธุดงค์เพียงองค์เดียว ท่านธุดงค์ไปถึงเมืองมะริด และเมืองตะนาวศรี เข้าพม่า เข้าเขตเมืองลาว วนเวียนอยู่ตามป่าเขาห่างไกลจากผู้คน เมื่อท่านผ่านจังหวัดภูเก็ต ได้มีคนพบท่านและทราบเกียรติคุณของท่าน ได้พบเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน จนกล่าวขานถึงท่านมาจนปัจจุบันนี้
.....ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านฟังว่า ตอนที่ท่านเดินธุดงค์ตามป่าลึกนั้น บางครั้งได้พบกองกระดูกและอัฐบริขารบาตรพระหลายใบ ซึ่งพระที่ธุดงค์มาได้เสียชีวิตกลางป่าลึกเช่นนั้น แต่ท่านหาได้ท้อใจไม่ เพราะได้ตั้งใจสละชีวิตแล้ว คงมุ่งหน้าเดินธุดงค์ต่อไปไม่หยุดยั้ง
.....ส่วนการบิณฑบาตในป่าลึกนั้น ท่านเล่าว่าตอนแรก ๆ ก็ได้ฉันหัวมันตามป่าที่พอขุดพบได้ ภายหลังท่านก็ได้อาศัยบิณฑบาตรตามต้นไม้ใหญ่ ๆ ก็มีคนมาใส่บาตรให้ท่านเสมอมิได้ขาดเลย เมื่อลูกศิษย์ถามท่านว่าใครมาใส่ให้ในป่าลึกเช่นนั้น ท่านก็หัวเราะฮึ ๆ เฉยเสียมิได้ตอบว่ากระไร
.....ท่านพ่อเฟื่องประมาณว่าเกิดในปี พ.ศ.๒๔๐๕ เพราะตอนท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙ อายุของท่านได้ ๙๔ ปี ตอนท่านมรณภาพนั้นตรงกับวันที่ ๔ มกราคม ๒๔๙๙
.....หลวงพ่อคล้ายซึ่งเป็นพระอาจารย์ชื่อดังทางภาคใต้ได้ให้ความนับถือและเคารพในตัวหลวงพ่อเฟื่องมาก หลังจากท่านหลวงพ่อเฟื่องมรณภาพล่วงลับไปแล้ว หลวงพ่อคล้ายได้หาเงินมาจัดทอดกฐินให้ทางวัดคงคาเลียบทุก ๆ ปี และได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของหลวงพ่อเฟื่อง สำหรับองค์เจดีย์นี้เริ่มสร้างปี ๒๕๐๒ ไปแล้วเสร็จเมื่อปี ๒๕๐๕ สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสองล้านเศษ มีความสูง ๓๓ เมตร ความกว้างวัดโดยรอบ ๔๐ เมตร นับเป็นเจดีย์ที่ใหญ่โตมาก
.....เมื่อสร้างเสร็จได้จัดให้มีงานฉลองสมโภชในวันเสาร์ ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๐๕ เวลาบ่ายโมงตรง ซึ่งตรงกับเดือน ๗ แรม ๑๓ ค่ำ ปีขาล ได้นำอัฐิของหลวงพ่อเฟื่องบรรจุในเจดีย์ เกิดมหัศจรรย์บังเกิดสายรุ้งเป็นรัศมีวงกลมขึ้น ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นท้องฟ้าแจ่มใส ผู้คนที่ไปร่วมงานต่างร้องสาธุ และปลื้มปิติว่าหลวงพ่อเฟื่องมาแสดงนิมิตให้เห็นเป็นประจักษ์
.....สำหรับเศษอัฐิที่เหลือบรรจุเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเก็บรักษาไว้ปรากฏว่ากลายเป็นพระธาตุในภายหลัง ถ้าจะกล่าวว่าท่านพ่อเฟื่องเป็นพระอรหันต์ที่สำเร็จมรรคผลแล้ว คงจะไม่ผิดไป เพราะแม้แต่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ยังกล่าวถึงท่านว่า “จะหาพระเหมือนท่านอาจารย์เฟื่อง คงหาได้ยากในปัจจุบัน”

.....เกร็ดประวัติอภินิหารของท่านตอนมีชีวิตอยู่ นั้นพอจะนำมาเล่าสู่กันฟังดังนี้
.....ลักษณะของหลวงพ่อเฟื่อง เป็นคนร่างเล็กสันทัด ผิวดำแดง จุดเด่นในตัวท่านคือดวงตาทั้งคู่ซึ่งคมและดุมาก น้ำเสียงท่านกังวานแจ่มใส พูดน้อยและพูดช้า ๆ ชอบอยู่เงียบ ๆ เพียงลำพัง การเดินของท่านนั้น นับว่าท่านเป็นคนเดินเหินรวดเร็วมาก, ลูกศิษย์ที่อยู่ไกล ๆ ส่วนมากพบเห็นท่านแล้วไม่อยากจะเข้าพบ เพราะเพียงสบตากับท่านก็เกิดความกลัวขึ้นเสียแล้ว ด้วยเหตุนี้ประวัติความเป็นมาของท่านจึงไม่ค่อยมีใครทราบ ที่รู้ก็จากที่ท่านเล่าให้ฟังเท่านั้น ถ้าถามท่าน ท่านมักจะไม่ค่อยตอบให้ทราบ นอกจากหัวเราะแล้วเฉยเสีย บางคนไปหาท่านยังไม่ทันเอ่ยปากว่ากล่าววาจาใด หลวงพ่อเฟื่องก็เอ่ยออกมาเหมือนที่ใจคิดเสียก่อนแล้ว จึงไม่กล้าจะถามอะไรท่านอีก
.....ในปี พ.ศ.๒๔๗๒ นายมั่น ศรีประสม และนางโซ้ยหั่น ชาวบ้านควนลังซึ่งไปทำสวนอยู่ที่วังพา (ปัจจุบันเป็นสนามบินพานิชแห่งชาติ) ได้พบหลวงพ่อเฟื่องเดินธุดงค์ผ่านไป บังเกิดความศรัทธาขึ้นในใจ จึงนิมนต์ให้ท่านปักกลดในเขตสวน ซึ่งในการนี้สองสามีภรรยาและน้อง ๆ ได้ทำอาหารถวายหลวงพ่อเฟื่อง เมื่อถึงคราวเข้าพรรษา ท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะ เพราะสภาพสงบเงียบคล้ายป่าดงพงพีที่ท่านเคยอยู่มา
.....กำนันขวัญทอง ซึ่งเป็นกำนันบ้านควนลัง กับแขกชื่อโต๊ะหะยีหมิน เคยเดินผ่านบริเวณที่ท่านจำพรรษาอยู่ เมื่อแขกที่เดินทางร่วมเห็นผ้าเหลืองที่ท่านแขวนตากไว้ จึงถามกำนันขวัญทองว่า ใครหนอมาอยู่ป่าเช่นนี้ ? กำนันก็ตอบว่า “พระแก่ ๆ องค์หนึ่ง วัดวาที่ดี ๆ มีก็ไม่ไปอยู่! ชอบมาอยู่ป่าเสียนี่”
.....วันหลังกำนันขวัญทองผ่านมาอีก เกิดหิวน้ำจึงแวะเข้าไปหาท่านพ่อเฟื่องเพื่อขอน้ำกิน พอไปถึงท่านพ่อเฟื่องก็บอกกับกำนันขวัญทองและโต๊ะหะยีหมิน ว่า “เอ็งว่าข้าทำไม ว่าพระอย่างข้าต้องอยู่ป่า” แล้วท่านก็ท้าวความหลังให้ฟัง กำนันนึกได้จึงก้มขอขมาท่าน เมื่อเดินออกมาพ้นบริเวณ แขกที่ชื่อโต๊ะหะยีหมินจึงบอกกำนันว่า “หลวงพ่อท่านนี้น่ากลัวท่านจะเลี้ยงผีแน่ ๆ จึงได้รู้เรื่องอะไรที่เราพูดว่าให้ท่าน”
.....ข่าวนี้แพร่จากปากกำนันขวัญทองสู่ลูกบ้านและคนใกล้เคียง คนก็นำไปเล่าลือกันต่อ ๆ ไปอีก ชนิดปากต่อปาก คนก็เริ่มไปหาท่านมากขึ้น ใครมีความทุกข์ร้อนอะไรต่างก็พากันไปขอให้ท่านช่วย ซึ่งก็สำเร็จเกือบทุกราย นับวันก็ยิ่งมีคนไปหาท่านมากขึ้น
.....จวบจนปี พ.ศ.๒๔๘๐ นายไข่ นายทอง และคณะศรัทธากรรมการวัดคงคาเลียบ ได้มานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดคงคาเลียบ โดยช่วยกันสร้างกุฏิไม้ไผ่ให้ท่าน ในขณะที่ช่วยกันสร้างกุฏิอยู่นั้นใกล้เวลาเที่ยงวัน พวกคนงานที่มาช่วยบ่นหิวข้าว จะขอกลับบ้านไปกินข้าวก่อนค่อยมาใหม่ ท่านพ่อเฟื่องจึงบอกคนพวกนั้นว่า “ไม่ต้องกลับไปหรอก กำลังมีคนเอาข้าวมาส่งแล้ว แต่ทางมันยากมาช้า (หมายถึงทางลำบาก) นี่ก็จวนถึงแล้ว” ต่อมาพักใหญ่ ๆ ก็มีคนนำปิ่นโตใส่ข้าวอาหารนำมาถวายให้ท่าน พวกคนงานต่างพากันทึ่งและนำไปเล่าต่อสู่กันฟัง
.....เมื่อท่านจำพรรษาอยู่วัดคงคาเลียบ ชาวนาละแวกนั้นต่างเคารพท่านมาก คราวหนึ่งมีหนูลงนา ทำความเสียหายให้กับต้นข้าวไร่นามาก เมื่อมีคนมาบอกและขอร้องท่าน ท่านจึงเอาก้อนอิฐมาเสก ให้เอาไปไว้ในนาที่หนูลง ปรากฏว่าหนูไม่ลงนาอีกเลย
.....หนทางที่จะเข้าวัดคงคาเลียบตอนท่านพ่อเฟื่องอยู่นั้นทางเข้าลำบาก แต่ก็มีคนจากในตลาดและละแวกใกล้เคียงไปหาท่านไม่ขาดระยะ มีบางคนไปหาท่านแล้วหวังจะขอเบอร์หวยจากท่าน เมื่อมีคนเรียนถามท่าน จึงได้รับคำบอกเล่าว่า “เรื่องนี้ให้ไม่ได้ อยู่ที่โชคของแต่ละบุคคล ถึงให้ไปจริง ๆ คราวไม่มีโชคก็ไม่มีโชค” แต่คนที่ไปก็ไม่วายจะนำคำพูดของท่านตลอดอาการกริยาของท่านมาตีความหมาย ปรากฏว่าถูกหวยเบอร์ไปตาม ๆ กัน เมื่อคนถูกนำไปพูดว่าท่านให้เบอร์แม่น คนที่บ้าเบอร์ก็ไปหาท่าน ขนาดนั่งรอเป็นวัน ๆ ก็ยอม แต่ส่วนมากท่านมักจะช่วยเป็นภาระต่อคนที่มีเรื่องเดือดร้อน. และช่วงระยะหลัง นายหนูจันทร์และคณะจึงได้จัดสร้างกุฏิหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าหลังเก่าที่มุงใบจาก ถวายท่านอีกหลังหนึ่ง
.....ในปี พ.ศ.๒๔๘๓ ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ในระยะสองปีนั้นทหารญี่ปุ่นเข้าเมืองไทย มีเรือบินมาทิ้งระเบิดบริเวณสถานีรถไฟในปัจจุบัน มีคนตายกันหลายคน จึงมีคนหลายคนไปขอร้องท่านและบอกท่านเรื่องเรือบินมาทิ้งระเบิด ท่านก็บอกว่า “ฉันรู้แล้ว” นายมั่น ศรีประสม จึงได้ขอให้ท่านช่วย ท่านจึงบอกว่า “เออ! จะให้มันเอาไปทิ้งลงทะเลสงขลาหมด” ซึ่งปรากฏว่าต่อมาลูกระเบิดที่นำมาทิ้ง ต่างลงทะเลไปหมด ชาวบ้านจึงรอดจากอันตราย บางคนก็พาครอบครัวอพยพไปอยู่ที่วัดของท่าน
.....เพราะวัดที่ท่านอยู่เป็นวัดที่อยู่ในป่าทึบ รอบ ๆ วัดจึงมียุงชุม และมีสัตว์พวกกระรอกกระแตเยอะ แต่ก็เป็นที่อัศจรรย์ ในวัดของท่านไม่มียุงเลย แต่ถ้าออกพ้นบริเวณวัดแล้ว ยุงชุมชนิดตบไม่ทัน!
……ในบริเวณวัดคงคาเลียบมีต้นไม้หลายชนิดซึ่งท่านได้ปลูกไว้ เมื่อออกดอกออกผลท่านมักจะลงมาดูแล้วพูดเหมือนบอกกับพวกกระรอกและนกหนู ถ้าท่านอนุญาตก็จะมีนกและกระรอกเข้ามากินผลไม้ของท่าน ถ้าท่านไม่อนุญาต ก็จะไม่มีนกหรือสัตว์ใดเข้ามากินผลไม้ของท่าน จนมีคนนำมาเล่ากันว่า “หลวงพ่อเฟื่องท่านรู้ภาษาสัตว์”
.....เคยมีชาวจีนย่านตลาด อยากจะลองดีท่านว่าที่คนนำมาเล่ากันนั้นเท็จจริงตามคำเล่าลือหรือไม่ จึงไปหาท่าน เมื่อนั่งคุยกับท่านแล้ว เหลือบไปเห็นใบมันขึ้นอยู่ข้างกุฏิของท่าน จึงถามท่านว่า “หลวงพ่อครับ มันตรงนี้มีกี่หัวครับ” ยังพูดไม่ทันขาดคำ หลวงพ่อเฟื่องก็บอกว่า “พวกเอ็งจะมาลองภูมิข้างั้นเรอะ ? มันตรงนี้มี ๗ หัว” แล้วท่านก็เข้ากุฏิไป พวกชาวจีนจึงขุดหัวมันดู ปรากฏว่ามี ๗ หัวจริงเหมือนท่านว่า ชาวจีนกลุ่มนั้นจึงนำไปเล่าต่อกันฟังอีก และให้ความเคารพท่านมาก นำไปเล่าว่าท่านรู้แม้กระทั่งสิ่งที่มองไม่เห็น
.....สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุนฯ หรือพระสังฆราชป๋า ได้เคยเสด็จไปเยี่ยมหลวงพ่อเฟื่อง และถวายปัจจัยหลวงพ่อเฟื่อง ๑๐๐ บาท เพื่อสมทบทุนสร้างโบสถ์ ซึ่งยังมีลายเซ็นเป็นหลักฐาน อยู่ที่วัดคงคาเลียบในปัจจุบันนี้
.....นางโซ้ยหั่น ศรีประสม ได้สลบไปสองวันสองคืน เมื่อฟื้นขึ้นมาได้เล่าให้คนที่มาเยี่ยมฟังว่า ตอนนางสลบไปนั้น นางจำได้ว่าขณะที่เดินอยู่ที่ไหนไม่ทราบ บังเอิญได้พบหลวงพ่อเฟื่องเดินสวนทางมา ตวาดเอากับนางว่า “กลับไป ๆ มาทำไมที่นี่” เสียงของท่านดังฟังชัดเหลือเกิน และนางโซ้ยหั่นก็สะดุ้งฟื้นขึ้นมาในเวลาต่อมา วันรุ่งขึ้นหลวงพ่อเฟื่องได้มาที่บ้านนางโซ้ยหั่น อยู่คุยพักหนึ่งท่านจึงได้กลับ ท่านเดินช้า ๆ แต่ชั่วเดี๋ยวเดียวก็หายลับไปกับแนวป่าไปแล้ว ยังความแปลกใจให้กับนางและน้องสาวเป็นอย่างยิ่ง
.....หลวงพ่อเฟื่องมีลูกศิษย์ที่ท่านสั่งสอนวิชาไปหลายองค์ที่อยู่ทางภาคใต้เดี๋ยวนี้ พระอาจารย์แอบ เจ้าอาวาสวัดมงคลเทพาราม (วัดปากน้ำหาดใหญ่) พระอาจารย์ปัญญา เจ้าอาวาสวัดคงคาเลียบองค์ปัจจุบัน
.....หลวงพ่อเฟื่องได้มอบไม้เท้าที่ท่านใช้เป็นประจำให้กับท่านอาจารย์แอบ ซึ่งท่านอาจารย์แอบได้รักษาไว้จนถึงปัจจุบันนี้
.....มีคนเห็นหลวงพ่อเฟื่องในวันและเวลาเดียวกันถึงสี่แห่ง และมีคนเห็นบ่อย ๆ ด้วย เมื่อนำมาเล่าสู่กันฟังจึงได้ทราบนับเป็นอัศจรรย์ยิ่ง
.....ที่แปลกอีกอย่างคือ อุจจาระของท่านไม่มีกลิ่น แม้แมลงวันก็ไม่ตอม ห้องส้วมของท่านมีอยู่ต่างหาก คราวหนึ่งมีพระทางวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ไปเยี่ยมท่านแต่ไม่ทราบ ได้เข้าไปถ่ายในห้องส้วมของท่าน พอตกกลางคืนพอเคลิ้มหลับต้องสะดุ้งตกใจ เพราะเหมือนกับมีไฟพุ่งขึ้นมาจากใต้เตียง นอนไม่ได้ทั้งคืน พอรุ่งเช้านำไปเล่าให้พระในวัดฟัง จึงทราบว่าเพราะไปถ่ายในส้วมของหลวงพ่อเฟื่อง จึงได้ขอขมาท่าน คืนต่อมาก็นอนได้เป็นปกติ
.....หลวงพ่อคล้าย ซึ่งนับว่าเป็นผู้ที่ให้ความเคารพต่อหลวงพ่อเฟื่องมาก ได้มาจัดสร้างถนนตัดเข้าไปยังวัดคงคาเลียบให้หลวงพ่อเฟื่อง ซึ่งปรากฏว่าเสร็จในเวลาอันรวดเร็วยิ่ง
.....ปัจจุบันที่วัดคงคาเลียบ มีรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของหลวงพ่อเฟื่อง ตั้งประดิษฐานอยู่ตรงศาลาหน้าวัด มีลูกศิษย์และผู้คนไปกราบไหว้บูชาเสมอ ใครมีเรื่องเดือดร้อนก็มาบนบานบอกกล่าวต่อรูปหล่อท่าน ปรากฏว่าสำเร็จทุกราย
.....ตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านมักสอนลูกศิษย์ของท่านเสมอว่า “การอบรมลูกต้องพูดด้วยวาจาที่ดีงาม อย่าได้สาปแช่งลูก เพราะบิดามารดาเป็นพระของลูก จงพูดแต่คำที่เป็นมงคล ลูกจึงจะเจริญ”

.....วัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้ตอนท่านมีชีวิตอยู่ เท่าที่สืบทราบมามี :-
๑.ด้ายมงคล สีแดง
๒.น้ำมันงาและน้ำมันมะพร้าวเสก
๓.ชานหมาก
๔.ตะกรุด
๕.พระเครื่องพิมพ์ชินราชเนื้อดินเผา ข้างหลังองค์พระมีตัว “ฟ” อยู่
.....ตอนท่านอยู่วัดเกาะ ด้ายมงคลสีแดงของท่านนั้นขึ้นชื่อมาก เด็กเล็ก ๆ ที่ชอบร้องไห้ ถ้าเอาด้ายของท่านผูกข้อมือแล้ว เด็กจะไม่กวนเลย โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ค่อยเป็น
.....น้ำมันงาและน้ำมันมะพร้าวเสกของท่าน ใช้ได้สารพัดอย่าง แก้ฟกช้ำ หรือถูกน้ำร้อนลวกไฟไหม้ คนนำไปใช้แล้วเห็นผล ต่างพากันมาขอท่านไม่ได้หยุด
.....เฉพาะชานหมากของท่าน เคยมีชาวบ้านถูกงูกัดไปหาหมอไม่ทัน จึงเอาชานหมากของท่านพอกที่แผลงูกัด ปรากฏว่าหายรอดตายมาได้ แต่ชานหมากของท่านนับว่าเป็นสิ่งหายากมาก ปัจจุบันคนมีก็หาตัวได้น้อยแล้ว
.....ส่วนตะกรุดดูเหมือนยิ่งจะหายาก เพราะท่านทำให้เฉพาะคนที่ไปขอเท่านั้น คุณสงวน วงศ์วานิช บอกว่าเคยเห็นพี่เขยของเขามีอยู่ ๑ ดอก ยาวประมาณ ๓ ซ.ม. พุทธคุณดีทุกทางเลยก็จะว่าได้
.....ด้านพระเครื่องนั้น เท่าที่ทราบ ท่านพ่อเฟื่องสร้างเองมีลักษณะคล้ายพระขรัวอีโต้ แต่องค์ใหญ่กว่า เศียรโล้นเป็นพระปางมารวิชัย มีสังฆาฏิพาด ความกว้างประมาณ ๒ ซ.ม. สูงประมาณ ๓ ซ.ม. เนื้อดินเผา เนื้อละเอียดด้านหลังเรียบ มองเห็นเม็ดแร่สีขาว ๆ อยู่ประปราย จำนวนสร้างไม่ทราบได้, นางไน้ เหล่าตระกูล และครอบครัวนายมั่น ศรีประสม เคยได้รับจากหลวงพ่อเฟื่องตอนท่านอยู่วัดเกาะ ตอนให้ท่านบอกว่า “เก็บไว้ให้ดี ฉันสร้างเองมีน้อยต่อไปจะหายาก” พระรุ่นนี้นับว่าเป็นรุ่นแรกของท่าน สร้างราวปี พ.ศ.๒๔๗๕
.....ต่อมาทางวัดมงคลเทพาราม (วัดปากน้ำหาดใหญ่) ได้ขออนุญาตท่านจัดสร้างพระขึ้นอีกรุ่นหนึ่ง เพื่อมอบเป็นของขวัญตอบแทนญาตโยมที่มาช่วยบริจาคเงินสร้างวัดปากน้ำ เรียกพระรุ่นนี้ว่า “พระของขวัญ”
.....หลวงพ่อเฟื่องได้อนุญาต และบอกให้ไปเอาดินที่ท่าช้าง ต.ควนลัง โดยบอกว่าเป็นดินดีมีมงคล คณะกรรมการวัดจึงได้ไปนำดินตามที่ท่านบอกมาจัดสร้างพระขึ้น
.....การทำพิมพ์พระได้ใช้แม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ ผู้แกะพิมพ์ คือ นายสำราญ ตัณฑนุช และฆารวาสอีก ๒ คน เป็นผู้ช่วยเหลือ จัดสร้างปี ๒๔๙๗

ลักษณะของพระของขวัญ วัดปากน้ำ
.....เป็นพระพุทธชินราชในซุ้ม พิมพ์สามเหลี่ยม แต่บางองค์ตัดปีกองค์พระเป็นห้าเหลี่ยมก็มี ด้านหลังทุกองค์มีอักษรตัว “ฟ” อยู่ โดยใช้คนเขียน จึงไม่เหมือนกันทุกองค์ อักษรตัว “ฟ” เขียนจมลึกลงในเนื้อพระคมชัดเจน
.....เนื้อขององค์พระละเอียด สีขององค์พระส่วนมากเป็นสีอิฐแดง องค์พระไม่ค่อยชัดเจนนัก ขนาดไม่เท่ากันเพราะมีหลายพิมพ์ และการตัดก็ตัดไม่เป็นขนาด(มาตรฐาน) จึงเอาแน่นอนไม่ได้ แต่เนื้อหาองค์พระคล้ายกัน รุ่นนี้นับว่าเป็นรุ่นที่ท่านพ่อเฟื่องปลุกเสก ประมาณการสร้าง อยู่ราว ๒ ปิ๊บน้ำมันก๊าด ราว ๒ หมื่นองค์
.....พระรุ่นนี้มีคาถากำกับที่หลวงพ่อเฟื่องให้ไว้ คือ “นะโม สัมมา สัมพุทโธ”

ประสบการณ์บางส่วนจากผู้บูชาวัตถุมงคลของท่าน

.....มีผู้ประสบกับพุทธคุณของพระรุ่นนี้ คือ จ.ส.ต. ตำรวจสถานีหาดใหญ่ผู้หนึ่งซึ่งไม่ประสงค์จะออกนาม ได้ออกปฏิบัติการปราบผู้ก่อการร้าย ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่ เขาเกิดปวดท้องจึงเข้าป่าเพื่อถ่ายทุกข์ ขอร้องให้พวกเพื่อน ๆ รอ แต่ไม่มีใครยอมรอ พอเพื่อนไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่น เพราะไปปะทะกับ ผ.ก.ค. ปรากฏว่าตำรวจตายหลายคน, ในคอของ จ.ส.ต. คนนั้น มีพระของขวัญหลวงพ่อเฟื่องเพียงองค์เดียวเท่านั้น
.....อีกราย คุณเฉลิม ฤทธิ์มนตรี ผู้ดูแลบาร์สตาร์ไลท์หาดใหญ่ มีมือระเบิดจากกรุงเทพฯ กลิ้งลูกระเบิดไปที่เฒ่าแก่บาร์ มีเสียงระเบิดดังสนั่น คนตายกันหลายคน แต่คุณเฉลิมซึ่งอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ปลอดภัยไม่เป็นไรเลย ในคอแขวนพระของขวัญของหลวงพ่อเฟื่องเพียงองค์เดียวเท่านั้นเอง สะเก็ดระเบิดปลิวผ่านเฉียดข้างตัวไปหมด ไม่ถูกตัวเลย
.....พุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดของพระของขวัญนี้นับว่าเป็นเลิศ สำหรับผู้ที่ถูกคุณไสยหรือผีเข้า ถ้าเอาพระของขวัญอาราธนาทำน้ำมนต์ดื่มกินและอาบ ก็ปรากฏว่าหายจากโรคภัยนั้นได้
.....เคยมีคนถูกผีเข้า หาหมอผีมาไล่ไม่ได้ จึงใช้พระของขวัญทำน้ำมนต์ให้อาบ ปรากฏว่าผีออกทันที ต่อมาคนจึงได้ใช้พระของขวัญของท่านทำน้ำมนต์กันมาก คนเจ็บท้องปวดท้องจนปัญญาหาหมอ หายาไม่ได้ อาราธนาถึงหลวงพ่อเฟื่อง ใช้พระของขวัญแช่ทำน้ำมนต์กิน หายกันมามากราย
.....รายที่เป็นมหาอุดก็เหมือนจะเป็นรายเพื่อนของคุณธเนศ ชัยชนะกิจพงษ์ ขณะขับรถจักรยานยนต์เข้าไปในซอยบ้าน ถูกคนร้าย ๒ คน ดักจี้ และบังคับให้ลงจากรถ เพื่อนของคุณธเนศเล่าให้ฟังว่า ได้นึกถึงหลวงพ่อเฟื่องและร้องขอชีวิต และรีบทิ้งรถวิ่งกลับเข้าบ้าน พอถึงบ้านบอกพี่ชายแล้วคว้าปืนออกมา ปรากฏว่าคนร้ายสต๊าร์ทรถไม่ติด พอเห็นมีคนมาจึงทิ้งรถวิ่งหลบหนีไป เมื่อมาถึงรถจึงจับรถสต๊าร์ทดู ปรากฏว่าทีเดียวติด ยังความแปลกใจสู่เพื่อนคุณธเนศมาก บอกเล่าว่า “บารมีของท่านแท้ ๆ ผมเองแขวนพระท่านองค์เดียวประสบเหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนเกิดใหม่”
.....ต่อมาทางวัดมงคลเทพาราม ได้จัดสร้างเหรียญของหลวงพ่อเฟื่องขึ้นอีก มี ๒ บล็อก คือ พิมพ์หน้ายาวและพิมพ์หน้าสั้น(หน้าใหญ่) คิดว่าคงเนื่องจากแม่พิมพ์บล็อกด้านหน้าแตก
.....ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ รูปหลวงพ่อเฟื่องครึ่งองค์ ใต้องค์พระเขียนไว้ว่า หลวงพ่อเฟื่อง อินทวัณโณ เหรียญนี้ปลุกเสกโดยหลวงพ่อคล้าย สร้างเพื่อแจกให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคเงินสร้างทางเข้าวัดและสร้างพระเจดีย์
.....เหรียญนี้ตามคำบอกกล่าวบางรายว่า สร้างภายหลังท่านหลวงพ่อเฟื่องมรณภาพ บางรายก็ว่าสร้างตอนท่านมีชีวิตอยู่ จึงดูสับสนไปบ้าง แต่ได้รับการยืนยันว่าหลวงพ่อคล้ายเสก และแจกในงานสร้างพระเจดีย์ จึงคิดว่าคงจะจัดสร้างภายหลังท่านพ่อเฟื่องมรณภาพแล้ว
.....สำหรับพระผงพิมพ์พระพุทธชินราชรุ่นหนึ่ง ที่เรียกว่าพระของขวัญนี้ เมื่อกดแม่พิมพ์แล้ว แม่พิมพ์สึก คนกดปั๊มจึงได้เอาองค์ที่ไม่ชัดเจนทำเป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมโดยไม่ตัดขอบออก จึงกลายเป็นอีกพิมพ์หนึ่ง แต่มีน้อย
.....ต่อมาภายหลังท่านพ่อเฟื่องมรณภาพแล้ว พระรุ่นของขวัญท่านหมดไป ทางพระอาจารย์ปัญญา ญาณวโร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านพ่อเฟื่อง ได้จัดสร้างพระพิมพ์ชินราชหลังตัว “ฟ” ขึ้นอีก ๒ รุ่น โดยใช้พิมพ์แบบพระพุทธชินราช ซึ่งรุ่นของพระอาจารย์ปัญญานี้ คมชัดเจนกว่ารุ่นหลวงพ่อเฟื่องท่านจัดให้สร้างขึ้น สังเกตได้ง่ายเพราะรุ่นหลังเนื้อดินสดกว่า ความคมชัดมีมากกว่า ส่วนรุ่นของท่านพ่อเฟื่องเนื้อดินสีแดงดูยุ่ย องค์พระเลือน ไม่ชัดเจน
.....สำหรับพระพิมพ์ชินราชทั้ง ๒ รุ่น ที่อาจารย์ปัญญาจัดสร้างนี้ นับเป็นรุ่น ๒ และรุ่น ๓ พอจะสังเกตได้ดังนี้
.....รุ่น ๒ และรุ่น ๓ ด้านหน้าคล้ายกัน ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก จะดูรู้ก็คือรุ่น ๒ องค์พระอ้วนและของพระใหญ่กว่า ด้านหลังตัว “ฟ” ยังคงใช้คนเขียนและตื้นกว่ารุ่นหนึ่ง
.....รุ่น ๓ ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระชินราช ตัวพิมพ์พระทั้งองค์ชะลูดและสูงแหลมกว่ารุ่น ๒ สังเกตได้ง่าย คือ ด้านหลัง อักษรตัว “ฟ” ใช้แม่พิมพ์เหล็กกดลึกลงไปในเนื้อพระ มีอยู่ ๒ พิมพ์ คือ อักษรตัว “ฟ” กว้าง และอักษรตัว “ฟ” แคบ
.....สีของพระทั้งสองรุ่น มีหลายสีเพราะเกิดจากการสุมไฟเผา เท่าที่พบมีสีแดง ดำ เขียว ขาว สีพิกุล สีน้ำตาลอ่อน และสีแดงอิฐ
.....พุทธคุณของพระรุ่นหลัง เห็นมีคนนำไปใช้บอกว่าใช้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบรุ่นของท่านพ่อเฟื่องแล้ว นับว่ายังห่างกันอยู่มาก
.....ที่ผู้คนเสาะหากันคือรุ่นหนึ่งที่หลวงพ่อเฟื่องท่านปลุกเสก เพราะคนนำไปใช้เจอพุทธคุณกันมาก แขวนองค์เดียวใช้ได้สารพัด ถ้าเดินทางยังคุ้มบริวารได้อีกเป็นฝูง ใช้ขึ้นรถลงเรือดีเป็นเยี่ยม ทางด้านกันคุณไสย คนทางใต้บอกว่าชะงัดที่สุด ขนาดคนถูกผีเข้า แขวนพระของขวัญหลวงพ่อเฟื่องเหยียบหัวบันไดบ้าน ผีออกทันที

.....หลวงพ่อเฟื่อง ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๔๙๙ รวมอายุได้ ๙๔ ปี
.....ในวันที่ ๓-๔-๕ มกราคม ของทุกปี ทางวัดคงคาเลียบได้จัดงานที่ระลึกคล้ายวันมรณภาพของท่านขึ้นทุกปี
.....หากท่านจะใช้พระขึ้นคอสักองค์ และอยากหาชนิดที่คุ้มครองป้องกันอันตรายได้จริง ๆ ผมผู้เขียนอยากแนะนำให้ท่านหาพระของขวัญของหลวงพ่อเฟื่องไว้ใช้ เพราะว่าใช้องค์เดียวคุ้มได้ทุกอย่าง ราคาก็ไม่แพงจนเกินไป ขณะนี้ยังพอหาได้ แต่ถ้าพูดถึงด้านพุทธคุณแล้ว ไม่แพ้พระรุ่นเก่าราคาสูง ๆ หรอกครับ
.....ถ้ายังไม่มีก็รีบหาเสียนะครับ วันหลังยิ่งจะหายาก อัฐิของท่านที่คนเก็บไว้สักการบูชากลายเป็นพระธาตุ
.....หลวงพ่อคล้าย ยังมาสร้างเจดีย์ถวายให้ท่าน และสร้างถนนเข้าวัดคงคาเลียบให้หลวงพ่อเฟื่อง
.....หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้อภิญญาสูง ยังเอ่ยถึงท่านด้วยความเคารพนับถือในฐานอาจารย์ผู้ใหญ่
.....ปีใหม่นี้มอบของดีให้ท่านผู้อ่านแล้วครับ หาได้องค์เดียวก็พอแล้วครับ เพราะคุ้มได้เป็นพวก ใครที่โชคไม่ดีตลอดปีก่อน หาพระของท่านมาทำน้ำมนต์เสียจะได้โชคดี
.....ได้พระของท่านมาแล้ว ก่อนจะอาราธนาออกเดินทาง นึกถึงท่านหลวงพ่อเฟื่อง ภาวนาคาถาว่า “นะโม สัมมา สัมพุทโธ” ท่านจะโชคดีและปลอดภัยตลอดไปและกลับครับ.

 

จอง1007 1006

 

รับทราบการจองครับพี่ ขอบคุณมากๆครับ

 

1020. ล็อกเก็ตฉากซีเปีย +เกศา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ที่ระลึกเจริญพรรษา 8 รอบ ปี45 หลังแผ่นชินตะกั่ว ปั้มยันต์และเลข96 ให้บูชา 1650 บาท เลี่ยมพร้อมบูชา มีเกศาถือเป็นของมงคลสูงสุดของท่านด้วยครับ

​