พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ปิดครับ



รูปเหมือนแบบปั๊มลอยองค์ อุดกริ่ง หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก รุ่น 3

เนื้อทองผสม สร้างปี พ.ศ. 2518 สร้างเนื่องในงานประจำปีของวัดพะเนียงแตกดำเนินการจัดสร้างโดยพระครูพัฒนกิจวิบูล(ประยงค์ ปฏิกาโร) หรือ อาจารย์ ย้ง ปั้นอินทร์ พระพิธีใหญ่

บูชา 1,600 บาท

 

เหรียญจตุรพิธพรชัย หลวงพ่อกวย ปี๒๕๑๘


ประวัติการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ มีอยู่ว่าเนื่องจากนายเรียน นุ่มดี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ดู่ วัดสะแก) ในสมัยนั้นท่านกำลังใกล้จะเกษียณอายุราชการและจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดที่อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี แต่เนื่องด้วยวัดเขาใหญ่ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดใกล้บ้านเกิดนั้นมีสภาพทรุดโทรม เสนาสนะก็ไม่ได้รับการบูรณะมานานมาก ดังนั้นนายเรียนจึงมีความตั้งใจที่จะหารายได้จำนวนหนึ่งไปปฏิสังขรณ์วัดเขาใหญ่ให้สวยงาม พร้อมทั้งสร้างวิหารจตุรพิธพรชัยขึ้นใหม่ จึงได้นำความมาปรึกษากับหลวงปู่ดู่ท่านว่าจะทำอย่างไรดี หลวงปู่ดู่ท่านจึงได้เมตตาแนะนำและให้คำปรึกษาในการจัดสร้างวัตถุมงคลตลอดจนการนิมนต์ครูบาอาจารย์มาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลในพิธีนี้อย่างละเอียด โดยพิธีพุทธาภิเษกถูกหนดขึ้นที่วัดรัตนชัย (วัดจีน) อ.เมือง จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่รับนิมนต์มาร่วมพิธีมีทั้งหมด 16 รูปคือ

1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ

2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี

6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา

7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ

8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา

10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี

13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)

ส่วนวัตถุมงคลที่ปลุกเสกในพิธีนี้มีอยู่ 4 ประเภท (ไม่นับรวมของฝากในพิธีนี้) คือ

1. เหรียญ 9 พระอาจารย์ - จัดสร้าง 5,599 เหรียญ แบ่งออกเป็นอีกสองเนื้อคือ เนื้อเงิน (มีเพียงบางพระอาจารย์เท่านั้น) และเนื้อทองแดง มีทั้งแบบที่บรรจุในกล่องกำมะหยี่และที่ออกให้บูชาแบบเดี่ยว ๆ ที่นิยมเรียกว่า "เหรียญ 9 พระอาจารย์" นั้นเพราะว่าทางคณะกรรมการจัดทำเป็นเหรียญรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ที่ด้านหน้า และประทับยันต์ครูของท่านที่ด้านหลัง รวม 9 แบบ คือ หลวงพ่อนอ วัดกลาง หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไรย์ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง หลวงพ่อไวทย์ วัดบางซ้าย หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม โดยเมื่อปั๊มเหรียญเสร็จจากโรงงาน คณะกรรมการได้นำเหรียญของแต่ละพระอาจารย์ไปมอบให้ที่วัดเพื่อให้ท่านปลุกเสกเหรียญของท่านล่วงหน้า 1 เดือนก่อนพิธีพุทธาภิเษกใหญ่

2. พระสมเด็จ 9 ชั้น - จัดสร้างเป็นเนื้อผงแก่น้ำมัน จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุ ตามประวัติกล่าวว่าพระชุดนี้หลวงปู่ดู่ท่านตั้งใจออกแบบพิมพ์และมวลสาร เพื่อถวายให้หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคเป็นกรณีพิเศษ โดยด้านหน้าจะล้อพิมพ์พระสมเด็จวัดไชโย ด้านหลังเป็นยันต์ครูของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค และมีคำว่า "วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี" ประทับอยู่ใต้ยันต์ครู โดยหลวงปู่ดู่ท่านได้มอบผงมหาจักรพรรดิ์จำนวนหนึ่งไปผสมเป็นมวลสาร จากนั้นนายเรียนจึงนำเรื่องนี้ได้กราบเรียนหลวงปู่สีทราบ ซึ่งท่านก็อนุโมทนาและอนุญาตตามนั้นและได้มอบผงวิเศษของท่านมาอีกจำนวนหนึ่ง สุดท้ายหลังจากได้มวลสารและกดพิมพ์เป็นองค์พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ดู่ท่านได้บอกให้นายเรียนนำพระสมเด็จชุดนี้กลับไปให้หลวงปุ่สีท่านปลุกเสกเป็นปฐม ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เมตตาปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษ 1 เดือน (เป็นพระอีกชุดหนึ่งของสายนี้ที่ปลุกเสกนานมาก) เสร็จแล้วจึงให้นายเรียนมารับกลับไปเพื่อรอเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่

3. พระแก้ว 3 ฤดู - จัดสร้างเป็นเนื้อผงและมีการลงสีเขียวที่พระวรกาย ปิดทองที่เครื่องทรง เฉกเช่นเดียวกับพระแก้วมรกตที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จ.กรุงเทพฯ จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้ มีทั้งแบบบรรจุกล่อง (ครบ 3 ฤดู) และที่ออกให้บูชาแบบเดี่ยว ๆ ด้านหน้าเป็นรูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องตามฤดู (ร้อน / ฝน / หนาว) ด้านหลังประทับยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ) และมีคำว่า "วัดรัตนชัย (จีน) อยุธยา"



4. พระสามสมัย - จัดสร้างเป็นเนื้อผงโดยแบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ คือ เชียงแสน สุโขทัย อู่ท่อง ขนาดจะเล็กประมาณพระของขวัญ วัดปากน้ำ จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้ ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธรูปและที่ใต้พระพุทธรูปจะมีคำอธิบายศิลปะของพระพุทธรูปไว้ด้วย คือ เชียงแสน หรือ สุโขทัย หรือ อู่ทอง ด้านหลังประทับยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ) และมีคำว่า "วัดเขาใหญ่ สุพรรณบุรี"

เกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เล่าขานมาสืบมาเกี่ยวกับพิธีจตุรพิธพรชัย ว่ากันเป็นประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนี้


ครูบาอาจารย์หลายรูปรวมถึงหลวงพ่อกวยกล่าวกับศิษย์ของท่านว่า "พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก"
•

พิธีนี้หลวงปู่ดู่ท่านให้นายเรียนนิมนต์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคมาร่วมพิธีพุทธาภิเษก แต่ขณะนั้นท่านอายุ 126 ปีเข้าไปแล้ว ท่านจึงมอบหมายให้พระอาจารย์สมบูรณ์ ศิษย์ก้นกุฎิและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในขณะนั้นไปร่วมพิธีในนามของท่าน แต่จะว่าไปแล้วเรื่องที่คนคิดไม่ถึงก็คือ หลวงปู่สีท่านก็ได้เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกเช่นเดียวกัน เพราะท่านถือว่าท่านได้รับรับนิมนต์หลวงปู่ดู่ไว้แล้ว
•

พิธีนี้ว่ากันว่า นอกจากหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ยังมีอีกรูปหนึ่งที่เดินญาณมาร่วมพิธีเหมือนกัน ซึ่งก็คือ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพราะท่านรับปากนายเรียนว่าจะช่วยปลุกเสกอย่างเต็มที่

ลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อกวยเคยถามว่า "หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เป็นใคร ทำไมถึงมีเหรียญของท่านในชุดเหรียญ" หลวงพ่อกวยท่านตอบว่า "ท่านเป็นพระอรหันต์.."[/b]

หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ มีนักเลงพื้นที่พูดคุยกันว่า "จะขลังแค่ไหน.." ปรากฎว่าคำพูดนี้ได้ยินไปถึงนายเรียน ทำให้นายเรียนนำความนี้เข้าปรึกษาครูบาอาจารย์ในพระอุโบสถว่า "จะทำอย่างไรดี.." เพราะเป็นที่ทราบกันว่าสมัยนั้นการลองของประเภทจะ ๆ นิยมกันมาก เช่น เอาปืนยิง เพราะต้องการทดสอบพุทธคุณในวัตถุมงคลนั้น ๆ ว่าดีจริงเพียงใด ถ้าสมมติว่า "ยิงออกหรือเหรียญโดนยิงทะลุ" ทุกอย่างที่ทำมาเป็นอันจบกัน ซึ่งในเวลานั้นครูบาอาจารย์ที่พรรษาน้อยไม่กล้าออกความเห็นจึงสงบนิ่งเพื่อให้ท่านที่พรรษาสูงกว่าปรึกษาและตัดสินใจกัน ระหว่างนั้นหลวงพ่อกวย ท่านได้ขออนุญาตครูบาอาจารย์ทุกรูปว่า "กระผมอาสา.." หลังจากนั้นท่านจึงนำเหรียญรูปเหมือนของท่านติดตัวไปด้วยหนึ่งเหรียญออกไปนอกพระอุโบสถ แล้วพูดขึ้นว่า "ใครจะเอาไปลองบ้าง" ปรากฎว่านักเลงคนหนึ่งขออาสาเป็นผู้ทดสอบ และได้นำเหรียญดังกล่าวไปยิงที่หลังพระอุโบสถ ปรากฎว่า "แชะ ๆ ๆ.." และได้นำเหรียญมาคืนหลวงพ่อกวยท่านพร้อมขอขมาท่าน พอชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ประจักษ์ในพุทธคุณและเริ่มบอกปากต่อปากไปในวงกว้าง ส่วนหลวงพ่อกวยท่านจึงกลับเข้าไปในพระอุโบสถพร้อมกับกล่าวว่า "เรียบร้อย.."

ก่อนพระเกจิอาจารย์ทั้งหมดจะเดินทางกลับวัด ทางคณะกรรมการได้มอบวัตถุมงคลในพิธีนี้จำนวนหนึ่งให้แก่พระเกจิอาจารย์ทุกรูป เพื่อให้ท่านนำกลับไปแจกลูกศิษย์ลูกหาที่วัด ทำให้วัตถุมงคลในพิธีนี้กระจายในหลายพื้นที่
มหาพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลจตุรพิธพรชัย ที่วัดรัตนชัย เมื่อปี พ.ศ. 2518 นั้น หลวงพ่อกวยท่านพบอภินิหารของพระคณาจารย์ผู้ร่วมพิธีปลุกเสกหลายรูปด้วยกัน เมื่อท่านเดินทางกลับมาถึงวัดโฆสิตาราม ได้เล่าให้คณะศิษย์ฟังว่า พระวัดกลาง อ.ท่าเรือฯ (หมายถึงหลวงพ่อนอ) มีคุณวิเศษในทาง มหาอุดเป็นเลิศ พระวัดบ้านช้าง อ.วังน้อยฯ (หมายถึงหลวงพ่อออด) มีความเข้มขลังทางคงกระพันชาตรี เวลาปลุกเสก ตัวเฑาะว์จะหลุดลอยออกมาจากในปาก พระวัดโบสถ์ ลพบุรี (หมายถึงหลวงพ่อพริ้ง) มีดีทางแคล้วคลาด กำบังภัยอย่างยอดเยี่ยม

 

ปิดครับ



พระสรรค์นั่งไหล่ตรงเนื้อดินผสมทรายเสกยุคต้นหลวงพ่อกวยสร้างราวปี2500

รับประกันแท้สากลทุกสนาม

ถ้าเป็นพระสรรค์ฐานขีด สังฆาฏิคู่ราคาหมื่นขึ้น พระสร้างพร้อมกันนิยมแยกแค่ความนิยมแตกต่างกันที่ราคาครับ

พระสรรค์นั่งไหล่ตรงยุคต้นหลวงพ่อกวย ดีเด่นครบทุกด้าน แต่เด่นชัดคงจะเป็นเรื่องการทำมาค้าขาย เจริญรุ่งเรืองในเรื่องของโชคลาภก็ยังมีให้เห็นกันเป็นประจำ อีกทั้งอยู่ยงคงกระพันชาตรีกันปืนผาหน้าไม้ กันคุณไสยมนต์ดำทุกชนิด ทั้งคุณผีคุณคน การกระทำจากของต่ำทั้งหลายทั้งปวง กำบังกายเป็นเยี่ยมยอดด้วยอภินิหารทรายเสกที่หลวงพ่อท่านผสมลงไปอย่างเข้มขลังสุดยอดครับ

พระเครื่องเนื้อดินอีกแบบนึงของหลวงพ่อกวย ที่มีประสบการณ์มาช้านาน นั่นคือ พระสรรค์ ซึ่งดีเด่นทางด้านคงกระพันชาตรี ดีทางคุ้มครอง แคล้วคลาด และยังมีอำนาจพุทธคุณดีด้านกันคุณไสย คุณผี มนต์ดำ เพราะหลวงพ่อท่านเน้นผสมทรายเสก และท่านได้เคยกล่าวไว้ว่า ท่านจะทำให้ดีเหมือนของเก่า เหมือนกับพระสรรค์กรุเก่าที่โด่งดังของจังหวัดชัยนาท เมื่อหลวงพ่อท่านกล่าวการันตีไว้อย่างนี้ แสดงว่าท่านเชื่อมั่นในพระสรรค์ของท่านมากทีเดียวเชียวครับ

พระเนื้อดินพิมพ์ต่างๆของ หลวงพ่อกวย นั้นด้วยความเป็นจริงของการสร้างของท่าน พระเนื้อดินเป็นพระชุดแรกและยุคแรกใน
การเริ่มต้นสร้างพระเครื่องราวปี พ.ศ.2482 ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองสมัยนั้นป็นต้นมา ลพ.กวย ท่านกำลังเรืองวิชาอย่างที่สุด
ยังหนุ่มแน่นและด้วยความที่ท่านเป็นคนใจนักเลง คนจริง ทนเห็นบ้านเมืองตลอดจนชาวบ้านลูกหลานไทยเราเดือดร้อน บ้านเมือง
ลุกเป็นไฟ ผู้คนเดือดร้อนด้วยภัยสงคราม ตัวท่านเป็นพระสงฆ์ในพระศาสนา ได้เคยฉันข้าวแดงแกงร้อนจากชาวบ้านมาตลอด เมื่อ
ชาวบ้านเดือดร้อนจากภัยอันตรายดังนี้ ตัวท่านเองจึงอดทนอยู่ ทนดูเฉยๆ ไม่ได้ ในยุคภัยสงครามนั้นท่านเริ่มเป็น อาจารย์สักยันต์
ว่ากันว่าท่นมุ่งมั่นอนุเคราะห์ชาวบ้านโดยการสักให้แบบหามรุ่ง หามค่ำ และไม่ได้พักผ่อน และศิษย์ผู้มาขอของดี ของขลังไป
ป้องกันตัวก็มีมากมาย ยุคแรกๆ ท่านจะสักให้ไปคาดว่าผู้ที่ได้รับการสักจากท่านไปมีจำนวนเรือนพันคนทีเดียว บ้างว่าอาจจะถึงหมึน
คน ภายหลังท่านคิดสร้างพระเครื่องเพื่อแจก ด้วยหลายคนเขาก็ไม่อยากสัก บ้างเป็นเด็ก เป็นผู้หญิง มาขอของดีไปคุ้มตัว ประกอบ
กับมีการขุดกรุได้พระเมืองสรรค์มา เป็นพระพิมพ์สรรค์นั่ง สรค์ยืนต่าง (ท่านมาพิจารณาและถอดพิมพ์พระสรรค์ขึ้นและท่านได้
กล่าวบอกศิษย์ว่า "กูจะทำให้ดีเหมือนของเก่าเขาเลย" ประโยนี้แสดงถึงความมั่นใจในอาคมของท่น คือ ท่านมั่นใจว่าตัวท่าน
สามารถเสกพระนี้ได้เทียบเท่า หรือดีพอๆ กับพระกรุของเก่าที่ได้รับกรปลุกเสกจากพระเกจิโบราณเมื่อเป็นร้อยๆ ปีที่แล้วอย่างไม่
ต้องสงสัยเลยทีเดียว

ในบรรดาพระเครื่องของท่านทั้งหมด พระเนื้อดินเป็นพระที่สร้างมากที่สุด และมีประสบการณ์สูงที่สุด มากบ่อย
ที่สุดในอดีต เป็นรักและหวงแหนของศิษย์ที่ได้รับจากมือ อีกทั้งผู้มีประสบการณ์จากพระเนื้อดินนี้ก็มาก อย่างพระสรรค์นั่ง พระ
สรรค์ยืนนี้ เรียกกันติดปากในหมู่ศิษย์รุ่นเก่าๆ ว่า "ยืน-นั่ง ระวังภัย" จากประสบการณ์เท่าที่ทราบมาอีกทั้งจากคำบอกเล่าของศิษย์รุ่น
เก่า รวมถึงผู้คนในท้องที่พอทราบไว้ว่าพระเนื้อดินนี้ก่ง มีประสบกรณ์กันมายาวนานมากกว่าพระอื่นๆ ด้วยสร้างก่อนเขา และสร้าง
ไว้มาก สร้างไว้อย่างตั้งใจ

พระพิมพ์สรค์นั่ง พระพิมพ์นี้จัดป็นของวิเศษแต่อาภัพ ด้วยสร้างมาก สร้างเยอะ ผู้คนเลยขาดความสนใจและความเข้าใจของผู้
เล่นหน้าใหม่ที่ยังขาดประสบกรณ์จะไม่สามารถแยกได้เลยว่า ชิ้นไหนเป็นพระของลพ.กวย หรือพระของเกจิอื่น พระสรรค์นั่งนี้
จะมีพุทธคุณเน้นหนักไปทางมหาอุตม์ คงกระพัน ทางชาตรี(หินเบา) คือ โดนไม่เข้าแถมกระดูกไม่หัก ด้วยของๆ ท่านๆ จะเสกด้วย
วิชาชาตรีด้วย เพราะท่านทราบดีว่าอาวุธสมัยใหม่นี้มีความรุนแรงมาก เมื่อโดนจังๆขึ้นมา แค่คงกระพันอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ด้วยแรง
อัด แรงกระแทกสูงมาก เมื่อโดนเข้าอาจช้ำในกะโหลกแตก กระดูกหักได้ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเสกด้วย คาถาโองการมหาทมึนทั้งบท
ตัวผู้ ตัวเมีย เสกด้วยชาตรีหินเบาบทใหญ่ เอาให้สามารถป้องกันแบบคงกระพันชาตรี คงทั่วสรรพองค์กาย

อย่างโองการมหาทนนี้ ท่านศึกษาแล้วรู้ดีว่า คาถานี้ดีโดดเด่นทางสามารถกัน "ฟ้าผ่า" กันกระแสไฟฟ้าได้อย่างดียิ่ง ส่วนคาถา ๙
เฮ ชาตรีหินเบานี้ขึ้นชื่อมากต้องยกให้สาย วัดพระญาติ อันมีท่น ลพ.กลั่น สมภารใหญ่ปรมาจารย์ในสายนี้ ท่นที่ได้รับถ่ายทอด
วิชาต่อมามีหลายท่นรวมทั้ง ครูรุน รูเพ็งนี้ก็เป็นศิษย์ ลพ.กลั่น และท่านทั้งสองนี้เป็นผู้ถ่ายทอดวิชา ชาตรี ๙ เฮ กับ วิชาอาบว่าน
แช่ว่าน ให้กับ ลพ.กวย แต่ ลพ.กวย ท่านได้นำมาประยุกใช้นำมาสกประจุเสริมลงในพระเครื่องของท่านอย่างแยบยลและพิสดาร

พระสรรค์ยืน นี้ดีมีความหมายและมีเคล็ด คือเดินหน้าไม่ถอยหลังเจริญก้าวหน้าไม่ท้อถอย ลพ.กวย ท่านว่าพระสรรค์ยืนนี้มีดีแฝง
ทางเจริญก้าวหน้า ใส่ไปค้าขายก็ได้เจริญรุ่งเรื่องดีทุกประการ ส่วนด้านอื่นๆ มีดีเหมือนพระสรรค์นั่งทุกประการ และเป็นที่นิยมใน
ศิษย์รุ่นเก่ามาช้านานแล้ว

 

ปิดครับ

ปลัดขิกนางครวญ Rาแกะ✨หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี

เป็นสุดยอดเครื่องรางของขลังเมตตามหาเสน่ห์ของ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงพ่อคง ท่านเป็นชาวหมู่บ้านตาพราย ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด ( เขตรอยต่อ ต.วังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี ) เครื่องรางของขลังที่ถูกกล่าวขวัญถึงกันมาก คือ ปลัดนางครวญ ต้นตำหรับเป็นของหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี คนแกะ คือ ลุงถนอมผู้เป็นลูกศิษย์ครอบครู มีหน้าที่แกะปลัดให้หลวงพ่อคง แต่มีได้ทำคนเดียว มีลูกศิษย์ท่านอื่นๆร่วมช่วยแกะด้วย แต่ปลัดที่ลุงถนอมแกะ เป็นปลัดที่นับว่าสวยมาก นอกจากจะแกะเองแล้ว ท่านยังเสกได้ด้วย เพราะตอนบวชอยู่กับหลวงพ่อครอบครูไว้ด้วย มูลเหตุในการแกะลักษณ์นี้ ลุงถนอมเล่าว่า เสด็จพระองค์ชายใหญ่ ซึ่งนับถือหลวงพ่อคงมาก จึงมากราบอยู่เป็นประจำ ท่านมาเห็นลุงถนอมแกะ ก็เลยให้เคล็ดลับว่า ควรจะแกะเป็นผู้หญิงด้วย เพื่อให้ครบทั้งพระศิวะ ( ปลัด ) และ แม่อุมา ( นางครวญ ) หากนับแล้วก็เป็นอิ่นเราดีๆนี่เอง ขนาดลูกของลุงถนอม ยังแกะปลัดสู้ฝีมือผู้เป็นพ่อไม่ได้เลย สุดยอดประสบการณ์ เด่นทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ คนนิยมชมชอบ เป็นที่รักของคนและเทวดานางฟ้า และยังแคล้วคลาดปลอดภัยอีกด้วยครับผม



คาถาปลุกเสกปลัดขิก หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรีโอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึง สวาหะ อุปะสัมปะ สุนะโมโล อุโลปะสุโล เวสสะพุสะ อิสะรุทัง จะภะกะสะ นะมะพะ

✅(พร้อมบัตรสมาคม)

 

ปิดครับ





หลวงพ่อเนียม วัดน้อย

พร้อมตลับทองสั่งทำ อย่างดี

สนใจทัก 4*,***

 

ปิดครับ



หลวงพ่อเงิน วัดท่าบัวทองปี2515 ปลุกเสกพร้อมวัดบางคลาน

รายชื่อคณาจารย์และพิธีปลุกเสก หลวงพ่อเงิน บางคลาน ปี 2515

กำหนดมหาพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่แห่งศาสนพิธี และไสยพิธีประกอบด้วยสมณชีพราหมณ์ ผู้รู้ได้ร่วมจิตใจกันประกอบพิธี �หล่อรูปเหมือนทำพิธีเททองหล่อหลวงพ่อเงิน ที่วัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2514 และทำมหาพุทธาภิเษก ไสยศาสตร์ พิธีบวงสรวงตามจารีตประเพณีโบราณาจารย์ เจริญภาวนาปลุกเสกหลวงพ่อเงิน เพื่อเป็นมหาลาภ,มหาผล,ดลบันดาลให้สัมฤทธิ์ผลตามปรารถนาดี ณ.วัดหิรัญญาราม (วัดตะโก-หลวงพ่อเงิน) ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร

ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 30 มกราคม 2515

(วันเพ็ญเดือน 3)

พระเทพเมธี ประธานพิธีสงฆ์ จุดเทียนชัย

พระครูกัลยาณานุกุล (เฮง) ฝ่ายพิธีการ

พระครูศรีพรหมโสกิต (แพ) ฝ่ายพิธีการ

พระครูพิลาศธรรมกิตต์ (ทวี) ฝ่ายพิธีการ

พระอาจารย์ผ่อง (จินดา) ฝ่ายพิธีการ

พลตำรวจตรี สง่า กิตติขจร ประธานฆราวาส

นายสมบูรณ์ เจริญจิตร รองประธานฯ

นายเผด็จ จิราภรณ์ รองประธานฯ

หลวงพ่อเงิน ปี 15

กำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษก

รูปหล่อและปูชนียวัตถุหลวงพ่อเงิน

ณ.พระอุโบสถวัดหิรัญญาราม (วัดตะโก)

ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2515 (วันเพ็ญเดือน3)

09.00 น. แสดงนิทรรศการ พระบูชา-พระเครื่อง-วัตถุโบราณ ของเมืองพิจิตร

09.30 น. พระครูพิบูลธรรมเวท ประกอบพิธีสักการบูชาครูบาอาจารย์ ,อดีตเจ้าอาวาส, อดีตผู้อุปการคุณต่อวัดหิรัญญาราม จนกระทั่งปัจจุบัน

09.50 น. คณะกรรมการฝ่ายสงฆ์ และฝ่ายฆราวาส พร้อมกันไปถวายเครื่องสักการบูชาหลวงพ่อเงิน

14.00 น. แขกรับเชิญถึงบริเวณพิธี ณ.พระอุโบสถวัดหิรัญญาราม (วัดตะโก)

14.15 น.พลตำรวจตรี สง่า กิตติขจร ประธานคณะกรรมการอำนวยการ ถึงบริเวณพิธี

14.25น. พระราชาคณะ 9 รูป ที่เจริญพระพุทธมนต์เข้านั่งยังอาสนสงฆ์

14.30 น. บัณฑิต และคณะกรรมการฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อเงิน และกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์

15.00 น. บัณฑิตเชิญ พลตรวจตรี สง่า กิตติขจร ประธานคณะกรรมการอำนวยการ ถวายเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัย

-เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล

-พระเทพเมธี ประธานพิธีสงฆ์ให้ศีล

-คณะกรรมการ ฯ และแขกรับเชิญรับศีล

15.15 น. บัณฑิตและคณะกรรมการฝ่ายฆราวาสประกอบพิธีบวงสรวงประกาศต่อเทพยดาทั่วจักวาล

15.40 น. บัณฑิต ประกอบพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์

-ดนตรีบรรเลงเพลงสาธุการ

16.19 น. ได้ฤกษ์อันเป็นมหามงคลอุดมฤกษ์

-บัณฑิตลั่นฆ้องชัย

-พระเทพเมธี ประธานพิธีสงฆ์ อธิษฐานจุดเทียนชัย

-บัณฑิตเป่าสังข์ แกว่งบัณเฑาะว์แตรสังข์

-ดนตรีประโคมเพลงมหาฤกษ์มหาชัย

-เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตต์

-พระสงฆ์ราชาคณะ ๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์ตามแบบฉบับของศาสนพิธีในงานมงคลสงฆ์

-พลตำรวจตรี สง่า กิตติขจร ประธานคณะกรรมการอำนวยการอธิษฐานจิตจุดเทียนมงคล เทียนนวหรคุณ เทียนมหามงคล (ตามกำหนดการเวลาไว้ ฆ้องกลองแตรสังข์ บัณเฑาะว์ ดนตรีประโคมเพลงมหาฤกษ์มหาชัยตามกาลเวลา พระอาจารย์ที่อาราธนามาปลุกเสกทั่วประเทศไทย นั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา รอบมณฑลพิธีภาวนา ปลุกเสกตลอดเวลา)

17.49 น. เริ่มต้นพิธีมหาพุทธาภิเษก พระพิธีกรรม,พิธีสงฆ์ เข้าประจำที่

-พระพิธีธรรมเจริญพระคาถามหาพุทธาภิเษกชุดที่ 1 จำนวน 4 รูป

-พระพิธิสงฆ์ นั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา ชุดที่ 1 จำนวน 8 รูป

-พลตำรวจตรี สง่า กิตติขจร ประธานคณะกรรมการอำนวยการถวายเครื่องสักการบูชาพระธรรมพระสงฆ์ พร้อมทั้งจุดเทียนมหาพุทธภิเษก

-พลตำรวจตรี สง่า กิตติขจร ประธานคณะกรรมการอำนวยการกลับ

พระสงค์ทรงสมณศักดิ์ เจริญพระพุทธมนต์

1.พระครูโพธิคุณาธาร

2.พระครูวิจารณ์ธรรมสิริ

3.พระครูวิจิตรสารธรรม

4.พระครูวิบูลวิหารธรรม

5.พระครูนิสากรโสภณ

6.พระครูวินิจวธิรคุณ

7.พระอธิการทาน

8.พระใบฎีกาปลั่ง

9.พระครูวิจิตรวุฒิกร

พระคณาจารย์นั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา ในพิธีสงฆ์ พระพิธีกรรม สวดมหาทิพยมนต์ พุทธาภิเษก ภาณวร

18.00-20.00 น. พระอาจารย์ ชุดที่ 1 จำนวน 8 รูปนั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา

-พระพิธีธรรมชุดที่ 1 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา มหาทิพยมนต์ 1 ชั่วโมง

-พระพิธีธรรมชุดที่ 2 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา พุทธาภิเษก 1 ชั่วโมง

1. พระราชเวธี

2. พระวิมลญาณเมธี

3.พระเมธีธรรมประนาท

4.พระครูพิมลธรรมสิทธิ์

5.พระมหาวิจิตร นิมมโล

6.หลวงพ่อเงิน

7.หลวงพ่อทอง

8.หลวงพ่อแพ

20.00-22.00 น. พระอาจารย์ ชุดที่ 2 จำนวน 8 รูปนั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา

-พระพิธีธรรมชุดที่ 3 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา กาณวาร 1 ชั่วโมง

-พระพิธีธรมชุดที่ 1 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา มหาทิพย์มนต์ 1 ชั่วโมง

1. หลวงพ่อแจ่ม

2.หลวงพ่อเทียม

3.หลวงพ่อเส่ง

4.หลวงพ่อเฮง

5.หลวงพ่อจันทร์

6.หลวงพ่อถม

7.หลวงพ่อพวง (วัดไผ่ท่าโพธิ์)

8.หลวงพ่อเตียง

22.00 -24.00 น. พระอาจารย์ ชุดที่ 3 จำนวน 8 รูป นั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 2 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา พุทธาภิเษก 1 ชั่วโมง

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 3 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา ภาณวาร 1 ชั่วโมง

1.หลวงพ่อทวี

2.หลวงพ่อน้อย

3.หลวงพ่อเปรื่อง

4.หลวงพ่อลิงห์ดำ

5.หลวงพ่อเมือง

6.อาจารย์ธงไชย

7.อาจารย์แก้ว

8.อาจารย์สิริ

24.00-02.00 น. พระอาจารย์ ชุดที่ 4 จำนวน 8 รูป นั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 1 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา มหาทิพย์มนต์ 1 ชั่วโมง

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 2 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา พุทธภิเษก 1 ชั่วโมง

1.พระครูสังฆวิชิตกล่อม

2.พระครูนิภาธรโสภณ

3.พระครูศรีปริยานุรักษ์

4.พระครูมงคลคุณาธร

5.หลวงพ่อผ่อง (จินดา)

6.หลวงพ่อนก

7.หลวงพ่อแสน

8.หลวงพ่อเกตุ

02.00-04.00 น. พระอาจารย์ชุดที่ 5 จำนวน 8 รูป นั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 3 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา ภาณวาร 1 ชั่วโมง

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 1 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา มหาทิพยมนต์ 1 ชั่วโมง

1.หลวงพ่อบี้

2. หลวงพ่อพวง(วัดสว่างอารมณ์)

3.หลวงพ่อทองอยู่

4.หลวงพ่อนวม

5.หลวงพ่อบุญมี

6.หลวงพ่อชุบ

7.หลวงพ่อเกษม

8.หลวงพ่อครูบาวัง

04.00-06.05 น. พระอาจารย์ ชุดที่ 6 จำนวน 8 รูป นั่งปรกและบริกรรมเจริญภาวนา

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 2 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา พุทธภิเษก 1 ชั่วโมง

-พระพิธีธรรม ชุดที่ 3 จำนวน 4 รูป สวดพระคาถา ภาณวาร 1 ชั่วโมง

06.09 น. พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร) รองประธานพิธีสงฆ์ ทำพิธีดับเทียนชัย พระสงฆ์ 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา(ชะยันโต)

1.หลวงพ่อครูบาตัน

2.พระอาจารย์ฉลอง

3.พระอาจารย์สวัสดิ์

4.พระอาจารย์โง่น

5.พระสมุห์แจ่ม

6.พระมหาบุญรอด

7.พระอธิการบุรัชย์

8.ครูบาอินถา

รายชื่อพระคณาจารย์นั่งปรกและบริกรรม

1.หลวงพ่อเงิน พระอินทรสมาจารย์ วัดอินทรวิหาร จังหวัดพระนคร

2.หลวงพ่อทอง พระครูวิริยะโสภิต วัดพระปรางค์ จังหวัดสิงห์บุรี

3.หลวงพ่อแพ พระครูศรีพรหมโสภิต วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี

4.หลวงพ่อแจ่ม พระครูประกาศธรรมคุณ วัดวังแดง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

5.หลวงพ่อเทียม พระครูพิพิธวิหารการ วัดกษัตราธิราช จังหวัด พระนครศรีอยุธยา

6.หลวงพ่อเส่ง พระครูโสภณกัลยานุวัฒน์ วัดกัลยาณมิตร จังหวัดธนบุรี

7.หลวงพ่อเฮง พระครูกัลยาณานุกุล วัดกัลยาณมิตร จังหวัดธนบุรี

8.หลวงพ่อจันทร์ พระครูจันทโรภาส วัดป่าข่อย จังหวัดสุโขทัย

9.หลวงพ่อถม พระครูพิลาสธรรมคุณ วัดใหม่ธรรมปัญญาราม จังหวัดสุโขทัย

10.หลวงพ่อพวง พระครูโพธิคุณาธาร วัดไผ่ท่าโพธิ์ จังหวัด พิจิตร

11.หลวงพ่อเตียง พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร

12.หลวงพ่อทวี พระครูพิลาสธรรมกิตต์ วัดโรงช้าง จังหวัดพิจิตร

13.หลวงพ่อน้อม พระครูวิจิตรวุฒกร วัดท้ายน้ำ จังหวัดพิจิตร

14.หลวงพ่อเปรื่อง พระครูพิบูลธรรมเวท วัดหิรัญญาราม จังหวัดพิจิตร

15.หลวงพ่อสิงห์ดำ พระครูวิรุฬธรรมโกวิทย์ วัดเหมืองผาแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

16.หลวงพ่อเมือง พระครูอุดมเวทวรคุณ วัดท่าแหน จังหวัดลำปาง

17.อาจารย์ธงไชย พระครูญานวิศิษฐ์ วัดพุทธมงคลนิมิต จังหวัดนครสวรรค์

18.อาจารย์แก้ว พระครูรัตนานุรักษ์ วัดปงสนุกใต้ จังหวัดลำปาง

19.อาจารย์สิริ พระครูวิจารณ์ธรรมสิริ วัดบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร

20.พระครูสังฆวิชิตกล่อม วัดเขาแก้ว จังหวัดนครสวรรค์

21.พระครูนิภาธรโสภณ วัดอินทราราม จังหวัด นครสวรรค์

22.พระครูศรีปริยานุรักษ์ วัดพันอัน จังหวัดเชียงใหม่

23.พระครูมงคลคุณาธร วัดหม้อคำดวง จังหวัดเชียงใหม่

24.หลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรดิราชาวาส จังหวัดพระนคร

25.หลวงพ่อนก วัดเขาแก้ว จังหวัดนครสวรรค์

26.หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จังหวัดลำปาง

27.หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง จังหวัดสุโขทัย

28.หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย จังหวัดสุโขทัย

29.หลวงพ่อพวง วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสุโขทัย

30.หลวงพ่อทองอยู่ วัดพระธาตุปากคลองเกยชัย จังหวัดนครสวรรค์

31.หลวงพ่อนวม วัดสว่างอารมณ์ ขานุ จังหวัดกำแพงเพชร

32.หลวงพ่อบุญมี ชยะวุฒโฑ วัดท่าสต๋อย จังหวัดเชียงใหม่

33.หลวงพ่อชุบ ทินนโก วัดเกาะวาลุการาม จังหวัดลำปาง

34.หลวงพ่อเกษม เขมโก วัดสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง

35.หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก

36.หลวงพ่อครูบาตัน วัดเชียงทอง จังหวัดตาก

37.พระอาจารย์ฉลอง วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสุโขทัย

38.พระอาจารย์สวัสดิ์ อธิวาโส วัดเกษมจิตราราม จังหวัดอุตรดิตถ์

39.พระอาจารย์โง่น โสรโย วัดเขารวก จังหวัดพิจิตร

40.พระสมุห์แจ่ม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก

41.พระมหาบุญรอด ปัญญาวโร วัดคีรีวงศ์ จังหวัดนครสวรรค์

42.พระอธิการบุรัชย์ ปริมุตโต วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก

43.ครูบาอินถา สุขวัฑฒโก วัดสันติปารังกรศรีพิงค์นครมงคล(พระราชทานนาม) จังหวัดเชียงใหม่

 

ปิดครับ



เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา รุ่น2 ปี 2485

เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา รุ่น2 จัดสร้างในปี พ.ศ.2485 ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มมีหูในตัวรูปอาร์ม ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อโตและพระอัครสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวา คือ พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารวัดพนัญเชิง ด้านบนซ้ายมือเขียนว่า "พระพุทธไตร" ด้านบนขวามือเขียนว่า "รัตนนายก" ส่วนด้านหลัง ตรงกลางเป็นอักขระขอม 4 ตัว คือ "อิสวาสุ" อยู่ภายในขมวดยันต์ช่องละตัว มี 4 ช่อง ด้านบนเขียนว่า "วัดพนัญเชิงกรุงเก่า" ด้านล่างมีภาษาจีน 4 ตัว อ่านได้ความว่า "ซำปอฮุดกง” ซึ่งเป็นเหรียญยุคเก่าที่พิเศษมาก คือ มีภาษา ถึง 3 ภาษา ในเหรียญเดียว สำหรับพิธีพุทธาภิเษกนั้นถือว่ายิ่งใหญ่มากในยุคนั้น โดยมีพระระญาณไตรโลกาจารย์ (ฉาย) วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นประธานในพิธี มีรายนามพระเกจิยุคสงครามอินโดจีนร่วมปลุกเสกมากมายเช่น

พระญาณไตรโลกาจารย์ (ฉาย) วัดพนัญเชิง
หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ กาญจนบุรี
หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอก
หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า อรัญญิกาวาส ชลบุรี
หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง ราชบุรี
หลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง
หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเิชิงเทรา
หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ
หลวงปู่จาด วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี
พระครูอาคมสุนทร (มา) วัดราชบูรณะ กรุงเทพฯ
พระครูพิทักษ์ธรรมโสภิต วัดแหลมฟ้าผ่า สมุทรปราการ
หลวงปู่บ่าย วัดช่องลม สมุทรสงคราม
หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร
หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร
หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม
หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ พระนครศรีอยุธยา
พระอธิการจันทร์ วัดคลองระนง นครสวรรค์
หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี
หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม
หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง นครปฐม
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค พระนครศรีอยุธยา
พระอาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี

เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา รุ่น2 พ.ศ.2485 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในสุดยอดเหรียญพระพุทธ พิธีเข้มขลังดีทั้งนอกดีทั้งในเต็มเปี่ยมด้วยพุทธคุณ เมตตามหานิยม สุดยอดแคล้วคลาดปลอดภัย แบบครอบจักวาลในทุกๆด้าน เหรียญหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียวครับ

 

เหรียญหลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล ปี 2518

เนื้ออัลปาก้า

บูชา 500 บาท

 

ปิดครับ

เขี้ยวซีกแกะเสือศิลป์วัดกลาง คลองด่าน

เสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ เสือศิลป์วัดกลางจะมีขนาดเล็กพื้นที่จารจำกัดถ้าตัวใหญ่ก็จารครบ ขึ้นอยู่กับการแบ่งจากเขี้ยวเต็มเขี้ยว มีทั้งแบ่ง 2 แบ่ง 4 ขึ้นอยู่กับขนาดของเขี้ยวที่แบ่ง ร่องลอยเครื่องมือแกะโบราณมีให้เห็นทั่วองค์สภาพสวยหายาก
เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ศิลป์วัดกลาง หรือเข้าใจกันง่ายๆก็คือเสือของหลวงพ่อปาน แต่ไปออกที่วัดกลาง จังหวัดสมุทรปราการ เสือที่ออกวัดกลางราคาก็จะถูกกว่าออกวัดคลองด่านมาก และเสือที่ออกที่นี่ก็จะมีแต่ขนาดเล็ก ประเภทเขี้ยวซีกเท่านั้น

 

ตะกรุดปลอกลูกปืนหุ้มกระดูกช้าง (รุ่นแรก) หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ ปี 2547

บูชา 1,800 บาท

กระดูกช้างแกะยันต์ที่ปลอกลูกปืนหลวงพ่อจารมือ สร้าง 699 ดอก ตะกรุดกระดูกช้าง หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ อ.ท่าเรือจ.อยุธยาหลวงพ่อเอื้อน อตฺตมโนพระเกจิอาจารย์มหานิยมแห่งเมืองกรุงเก่า

พระครูอดุลวิริยกิจ หรือ "หลวงพ่อเอื้อน อตฺตมโน" เจ้าอาวาสวัดวังแดงใต้ ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์สายแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยมแห่งเมืองกรุงเก่า ศิษย์สืบสายวิทยาคมจากครูผู้เข้มขลังพลังเวทย์ในอดีตหลายท่าน เช่น หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ผู้สร้าง “ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ” หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ผู้สร้างตำนาน “มีดสะกดวิญญาณ” รวมทั้งหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง จ.สระบุรี เจ้าของเหรียญสายสิญจน์ไหม้อันลือลั่น

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อเอื้อนปลุกเสก หรือที่ท่านสร้างเอง ล้วนมีพุทธคุณโดดเด่นในด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม และเจริญด้วยโภคทรัพย์ ชาวกรุงเก่าให้ความเชื่อถือกันมาก ต่างแสวงหากันอย่างกว้างขวาง

และมากด้วยพุทธคุณสูง มากด้วยค่านิยม และมากด้วยประสบการณ์ ด้วยชื่อเสียงกิตติคุณของ "พระดี-มีวิชา" ทำให้หลวงพ่อเอื้อนเป็นพระเกจิอาจารย์แนวหน้าแห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก ที่ผู้คนทั่วไปให้การยอมรับยกย่องว่าไม่เป็นสองรองใครในกรุงศรี พระเครื่องของท่านมีพุทธคุณเข้มขลังทั้งด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 

เปิดดูไฟล์ 6119284

สมเด็จแหวกม่านหลังข้าวสาร ๙ เม็ด ได้โรยผงตะใบทอง แร่มงคล เกษาและผงจินดามณี เอกลักษณ์ของพิมพ์สมเด็จแหวกม่านหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม นั้นเอง

(หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ เจ้าของฉายา "น้ำมนต์บาทเดียว" ที่ชาวบ้านแถวนั้นรู้จักและขนานนามให้

สวยๆ เช่ากันหลายๆพันถึงหมื่น องค์นี้พระมีบิ่นตรงหน้าองค์พระ และข้าวสารดำหลุด1เม็ด พุทธคุณเต็ม 100 แน่นอนครับ

บูชา 2,200 บาท

 

รูปถ่ายหนังไก่ หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ.ร้อยเอ็ด

เป็นวัตถุมงคลที่ทันท่านปลุกเสก ปี2518-2519 ที่ราคาไม่แพงเหมือนเหรียญของท่าน

แต่รูปแบบนี้มีของเลียนแบบที่ท่านไม่ได้ปลุกเสกออกมาเช่นกัน

บูชา 800 บาท

 

ขอราคาครับ

 

บูชา 2,200 บาทครับผม

 

ปิดแล้วครับ





เหรียญรุ่นแรก “หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล”

พร้อมกล่องเดิม

อดีตเกจิอาจารย์ดังวัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

วัตถุมงคลรุ่นแรกรุ่นเดียวของท่านมีเสียงร่ำลือเรื่องพุทธคุณเด่นในด้านคงกระพันและเหนียวสุดๆ นักลองของผวาไม่กล้าเอาไปลองยิงเพราะกลัวมีอันเป็นไป

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของ ด.ต.สุธี เสรีเผ่าวงษ์ ผู้บังคับหมู่อำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบ.หมู่ อ.ก.บก.7) หรือเจ้าของฉายา “ดาบธี ภาค7" ผู้ที่ชื่นชอบและสะสมวัตถุมงคลรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตำรวจได้ติดตามคำร่ำลือเรื่องพุทธคุณของเหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม มีผู้ต้องหาหลายราย โดยเฉพาะผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกัน แต่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเพราะผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายราย เสื้อมีรอยทะลุจากลูกกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นไร ซึ่งมีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลายสถานี

"ดาบธี"เผยต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ เหรียญหลวงปู่เจิมมีประสบการณ์อีกครั้ง โดยช่วยชีวิต พลทหารฉัตรชัย บุญช่วย ชาว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ให้รอดตายจากการถูกปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงบริเวณท้อง เมื่อตนเองทราบเหตุได้เดินทางไปพบทันที และสิ่งแรกที่ทำคือ ขอดูพระว่ามีพระอะไรดี ปรากฏว่าพลทหารฉัตรชัยแขวนเหรียญรูปไข่ หลวงปู่มหาเจิม หันข้าง เพียงเหรียญเดียว จากการตรวจสภาพบาดแผลพบว่ามีเพียงแค่รอยถลอกเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของท่านช่วยคุ้มครอง

เหรียญหลวงปู่มหาเจิม รุ่นปัญญาบารมี ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล โดยหลวงปู่พระมหาเจิม เป็นประธานจุดเทียนชัยอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า

อาทิ หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย, หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย, หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก, หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด และหลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญ เป็นต้น

 

เสื้อยันต์หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี ปี 2485

สนใจทัก 5,***

เสื้อยันต์เเดงที่มีประสบการณ์มากมาย ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ในอดีตนั้น ทหารที่บูชาวัตถุมงคล ของหลวงพ่อจาด รอดตายกันมามากมายหลายชีวิต ที่เขาเรียกว่า... ทหารผีหรือกองทัพเสื้อเเดง ...เพราะเป็นที่ประจักษ์ในสายตาของทหารต่างชาติที่เข้าร่วมสมรภูมิ ว่าทหารไทยถูกยิงแล้วก็ยังลุกขึ้นมาได้โดยไม่เป็นอะไร หลวงพ่อจาด ท่านสร้างแจกทหารที่เข้าร่วมสงคราม จัดสร้างโดย คุณ สวัสดิ์ ผ่องสกุล ทำด้วย ผ้าดิบ เสร็จแล้ว ลงแป้ง หมายถึง การนำผ้าดิบนั้นทำการปั้มยันต์เสร็จแล้ว เย็บด้วยจักรหมุนมือสมัยโบราณ หรือที่เรียกว่า จักรมือ ใช้มือหมุน ยังไม่มีมอเตอร์ ทำให้ฝีเข็มที่เย็บตามขอบเสื้อ มีฝีเข็ม ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่เรียบร้อยกว่า เพราะใช้ มอเตอร์ เพราะฉะนั้น เป็นจุดหนึ่งที่สังเกต ในการพิจารณา ฝีเข็ม คราวนี้ เรามากันว่า ทำไมถึง เรียกว่า ผ้าดิบลงแป้ง เพราะเมื่อผ่าน กระบวนการทุกอย่างแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อในขณะกำลังรีด เขาจะใช้น้ำอุ่นผสมกับ แป้งมัน เอาแต่น้อยมาก ผสมกับน้ำอุ่นแล้วพรมกับผ้า ในขณะรีดเสื้อจะเซ็ทตัวได้รูปทรง และเรียบร้อย เตารีดสมัยก่อนใช้เตาถ่าน...เสื้อยันต์ผืนนี้ เป็นเสื้อที่ยังไม่ได้ใช้เลย สภาพเดิมๆ ที่เก็บดีเยี่ยม คราบแป้งยังมีให้เห็น ดูสดใหม่ แต่สังเกตุ ความเก่าได้ จากเส้นด้าย และการเย็บ เฉพาะตัว เสื้อยันต์เเดงหลวงพ่อจาด ....ประสบการณสมัยนี้ พกพาติดรถ เดินทาง แคล้วคลาด หรือไม่ก็รอดตายอย่างปฏิหารย์ ซึ่งมีประสบการณ์ให้เห็นอยู่เสมอ บูชาใส่กรอบติดบ้าน ป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆ

 

เหรียญหลวงพ่อมงคลบพิตร ปี2514

เหรียญบล๊อควงเดือนสวย


พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิธีดีปีนี้ยิ่งใหญ่มากครับ มีเกจิคณาจารย์ดังสมัยนั้น ร่วมพิธีพุทธาภิเษกหลายรูป อาทิเช่น หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง หลวงพ่อสาย วัดขนอนใต้ หลวงปู่เทียม วัดกษัตริตราฯ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง หลวงปู่สีห์ วัดสะแก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ เป็นต้น

 

ปิดครับ

พระสมเด็จคะแนน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

รับประกันสากลทุกสนาม เลี่ยมมาแบบนี้ ไม่ต้องกังวลว่า ถึงยุคต้นๆ ของท่านใหมครับ

 

ปิดครับ



พระครูธรรมสมาจารย์ (พัก ธมฺมทตฺโต) วัดบึงทองหลาง กทม. ตามประวัติท่านอุปสมบทที่วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม. เป็นศิษย์ในสมเด็จฯพระสังฆราชฯ(แพ) และได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบึงทองหลาง
... วัตถุมงคลของหลวงพ่อพัก ธมฺมทตฺโต ได้เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ครั้งสงครามอินโดจีน ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ในยุคสงครามโลก ที่วัดหลายๆวัดได้มีการสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชน... หากแต่การสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นการสร้างเพียงลำพังของท่าน และปลุกเสกเองแต่ผู้เดียว อย่างไรก็ตามน้อยคนที่จะมักคุ้นกับวัตถุมงคลของท่าน และอาจเคยพบเห็นผ่านตามาบ้าง แต่ไม่ทราบว่าเป็นของพระเกจิอาจารย์รูปใด
... พระเครื่องในยุคแรกของหลวงพ่อพัก ธมฺมทตฺโต เป็นพระเครื่องประเภทหล่อโบราณ ตามสูตรวัดสุทัศน์ฯ มีทั้งแบบเต็มองค์ และ แบบครึ่งซีก เนื้อโลหะผสม กระแสออกไปทางเหลืองอมเขียว และส่วนใหญ่ไม่ได้ตกแต่งพิมพ์ทรงมากนัก จะมีเพียงแต่ตะไบเก็บความเรียบร้อยเท่านั้น ...พิมพ์ที่พบทั่วไปมีพิมพ์นางพญา พิมพ์ปิดตาทั้งแบบเต็มองค์ และ ครึ่งซีก...องค์นี้พิมพ์พระปิดตาสามเหลี่ยม เศียรมน พุทธลักษณะองค์พระปิดตา มีพระหัตถ์ สองคู่ คู่แรกยกขึ้นปิดพระพักตร์ อีกคู่หนึ่งล้วงลงปิดทวาร ประทับนั่งขัดสมาธิราบ มีปลายเกศมน จึงเรียกกันว่า พิมพ์เศียรมน
...สภาพสวย ผิวหิ้งเดิมๆ ธรรมชาติพระหล่อโบราณดูง่าย ตะไบแต่งพองาม สำหรับคนหลงเสน่ห์พระหล่อฯ เลี่ยมบูชาได้ไม่ผิดหวังครับ

 

ปิดครับ




พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อรุ่งเคราเหล็ก วัดบางแหวน จ.ชุมพร ปี2500 เนื้อดินผสมว่าน