พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

สวัสดียามสายครับ

 

2028. พระขุนแผนพิมพ์ใบพุทรา พิมพ์เล็ก วัดบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สร้างโดยหลวงพ่อกลั่นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางแก้ว ให้บูชา 1250 บาท

​

พระขุนแผนพิมพ์ใบพุทรา วัดบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เนื้อดินเผา จัดสร้างโดยหลวงพ่อกลั่นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางแก้ว พระกรุนี้ได้ทำการขุดกรุขึ้นเมื่อ ปี 2511 สมัยหลวงพ่อเก่า เป็นเจ้าอาวาสวัดบางแก้ว พระทั้งหมดขุดขึ้นมาจากเจดีย์หน้าพระอุโบสถหลังเก่า ของวัดบางแก้ว จำนวนพระที่ขุดขึ้นมานั้นมีจำนวนเยอะ แต่ด้วยช่างที่ทำการขุดกรุขาดประสบการณ์ เมื่อพบพระแล้วรีบนำเอาพระขึ้นจากกรุ โดยขณะที่เนื้อพระยังไม่ถูกอากาศนานพอทำให้พระเกิดการเสียหายและชำรุดเยอะครับ พระกรุที่นำขึ้นมานั้นส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผา ลักษณะผิวหยาบมีเม็ดกรวดเยอะ สีของดินเป็นลักษณะการเผาผ่าน คือมีสีอมดำอมเทา ที่เป็นสีแดงแบบดินหม้อใหม่มีน้อย พระที่อยู่ในกรุหน้าเจดีย์นี้เป็นพระที่หลวงพ่อกลั่น จัดสร้างและมีพระสมเด็จวัดระฆังและมีพระรอด เนื้อดินเผา เนื้อแกร่งมาบรรจุร่วมด้วย อาจจะของที่อื่นเวลาบรรจุก็รวบรวมใส่เจดีย์เข้าไปด้วยครับ พระพิมพ์พระสมเด็จและพระพิมพ์พระรอด มีจำนวนน้อย พระพิมพ์ที่มีจำนวนเยอะคือ พระพิมพ์ใบพุทราแบบกลม(ไม่ตัดปีก) พระพิมพ์ใบพุทราใหญ่และพระพิมพ์ใบพุทราพิมพ์เล็ก มูลเหตุแห่งการขุดกรุในยุคที่หลวงพ่อจันทร์ เป็นเจ้าอาวาสท่านไม่ค่อยได้บูรณะพระอุโบสถ จึงทำให้พระอุโบสถมีรูรั่วที่หลังคามากจากกระเบื้องหลุดและความทรุดโทรม บนเพดานโบสถ์จะมีช่องใส่พระพุทธรูปไม้โพธิ์แกะขนาดหน้าตักเกินห้านิ้วปิดทองสีเหลืองอร่ามงามตาจำนวนมาก เมื่อหลวงพ่อจันทร์ วัดบางแก้วได้มรณภาพลง หลวงพ่อเก่า เดิมจำพรรษาอยู่วัดตุ๊กตา ได้รับนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบางแก้ว ประมาณปี 2510 ท่านจึงหาทางสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ บังเอิญเจดีย์เก่าหน้าพระอุโบสถ ชำรุดทรุดโทรมลงมากเนื่องด้วยปูนเก่าแตกร้าว หลวงพ่อเก่าท่านก็เลยทำพิธีเปิดกรุและขุดเจดีย์จึงได้พระกรุนี้อออกมา

 

2029.พระดียุคต้นของหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อปาน ลงบรอนซ์ทองเก่าๆ (หายาก) ออกวัดเขาสะพานนาค จังหวัดสระบุรี เนื้อผงน้ำมัน ปี พ.ศ.2502 ให้บูชา 1250 บาท

​

เนื่องในโอกาสการบูรณะวัดเขาสะพานนาค พระเครื่องรุ่นนี้จัดสร้างวาระเดียวกันกับ เหรียญหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ออกวัดเขาสะพานนาค
ประวัติการสร้างวัดเขาสะพานนาค
หลวงพ่อปาน ท่านเห็นว่าแต่ละปีจะมีผู้คนมากราบนมัสการรอยพระพุทธบาทวัดเขาวงพระจันทร์และพักที่ศาลาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่พื้นที่ดังกล่าวแห้งแล้งไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอ จึงมีความคิดที่จะสร้างวัดเขาสะพานนาคที่บริเวณนั้น โดยให้ใต้ล่างอุโบสถและศาลาการเปรียญเป็นถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากแต่ประชาชนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกลาว(คนไทยพูดภาษาอิสาน) มีอาชีพทำไร่ทำนาเป็นหลัก ฐานะกำลังเงินคงไม่เพียงพอ หลวงพ่อปานก็ให้นายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิต เจ้าของห้างขายยาตราใบโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งที่ศรัทธาหลวงพ่อ ออกเงินสร้างวัดเขาสะพานนาค นายห้างประยงค์ถามว่า " จะเอาเงินเท่าไหร่จึงจะพอครับ " ท่านบอก " ทำไปเรื่อย ๆ มีเงินเป็นทุนสำรองไว้ประมาณ 2 หมื่นบาท " หลวงพ่อปานสั่งว่า " ถ้าเอ็งจะเอาเงินไหนไปเป็นทุนสำรอง เอ็งเอาเงินนั้นมาให้หลวงพ่อก่อนนะ " แล้วนายห้างประยงค์ ก็เอาเงินมาให้หลวงพ่อปาน แทนที่หลวงพ่อปานท่านจะเอาไว้ ท่านก็เอาเงินจำนวนนี้ มาเสกด้วยคาถาวิระทะโย 7 คืน แล้วท่านก็ให้เงินนั้นกลับไป ท่านสั่งว่า " ถ้าเวลาที่หลวงพ่อบอกเอาเงินมาให้ เอ็งเอาเงินกองนี้นะห้ามเอากองอื่น" เวลาที่ท่านบอกให้เอาเงินมา นายประยงค์ก็เอาเงินกองนั้นแหละมาโดยหยิบเข้าหยิบออกอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งสร้างวัดเขาสะพานนาคเสร็จ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2479 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี จึงเสร็จเรียบร้อย เงินก็ยังเหลือ 2 หมื่นคงเดิม

 

2030.ยอดพระแห่งนิรันตราย หลวงพ่อทวดนวล วัดตุยง จ.ปัตตานี ปี 2507 ปิดรายการครับ

​

พระเครื่องรุ่นนี้จัดสร้างโดยหลวงพ่อดำ เจ้าอาวาสรุ่นที่ 5 ท่านได้นำพระภิกษุสามเณร พร้อมกับชาวบ้านเดินทาง ไปหาว่านต่างๆบนภูเขา มวลสารที่นำมาจัดสร้างวัตถุมงคลนี้มีส่วนผสมที่เป็นหลักใหญ่คือ ว่าน 120 ชนิด เกสรดอกไม้ 120 ชนิด และเครื่องยาสมุนไพร 120 ชนิด, คดไม้ผูกใบลาน, คนทีดำ, กากยาคนธรรพ์, ว่านศักดิ์สิทธิ์ 108 ชนิด, ผงพุทธคุณผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงตรีนิสิงเห และผงแก่นไม้ขนุนที่กลายเป็นหิน ที่หลวงพ่อดำท่านเก็บรักษาเอาไว้และปลุกเสกอยู่นานหลายปี โดยมีชาวบ้านช่วยกันบดมวลสารทั้งหมดให้เข้ากัน หลังจากนั้นได้ใช้น้ำผึ้งรวง และกล้วยหอมเป็นเครื่องผสมผงเพื่อให้จับตัวกันแน่น
สำหรับพิธีในการจัดสร้างนั้น หลวงพ่อทวดนวลได้เข้าประทับทรงแล้วบอกให้ทำในพระอุโบสถ โดยไม่อนุญาตให้ฆราวาสเข้าไปยุ่งอย่างเด็ดขาด โดยเริ่มกดพิมพ์ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 – 2507 รวมเวลาถึง 3 ปี
ประกอบพิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ 5 เดือน 5 ขึ้น 5 ค่ำ ปี 2507 หลวงพ่อดำได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์จากวัดต่างๆทั่วภาคใต้ จำนวน 120 รูป อาทิ
– พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ (กล่าวกันว่าพระอาจารย์ทิม ได้อัญเชิญดวงจิตหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด เข้าประทับในการนี้ด้วย)
– พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก
– หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด
– พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย
– พ่อท่านบุญ วัดไม้แก่น
– หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา
– หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์
– พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว
– พ่อท่านฉิ้น ยะลา
– พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
– พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
– พ่อท่านเขียว วัดหรงบน
– หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ
– หลวงพ่อมุ่ย วัดบางบูชา
– พ่อท่านแก่น วัดทุ่งเหลือ เป็นต้น
พระอาจารย์ร่วมกันสวด 7 ตำนาน 12 ตำนาน ตลอดถึงพระสูตรต่างๆ ที่นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ หลังจากสวดมนต์ก็ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกจนดึก โดยมีพระเกจิอาจารย์นั่งล้อมวัตถุมงคลชนิดที่ไม่มีช่องว่างเลย เสร็จแล้วจึงปิดพระอุโบสถ ในวันที่สองและวันที่สามก็ทำเช่นนี้จนครบ 3 วัน ก่อนจะแจกจ่ายให้ประชาชนไปบูชา นับเป็นวัตถุมงคลที่เข้มขลังเอกอุเป็นอย่างมาก

 

สวัสดีวันหยุดสุดสัปดาห์

 

2031. พระปิดตา รุ่นทองมหาบารมี หลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย จ.ปทุมธานี ให้บูชา 699 บาท (ฝังตะกรุดทองคำ + เกศา)

​

" หลวงพ่อทองกลึง สุนทโร ... เจ้าแห่งตำนาน ... เทพส่องแสง "
หลวงพ่อทองกลึงท่านเป็นศิษย์หลวงปู่เส็ง วัดบางนา จ.ปทุมธานี หลวงพ่อทองกลึงท่านได้ศึกษาคาถาต่อชะตาชีวิตและโหราศาสตร์ต่างๆ จากนั้นได้ธุดงค์ไปปฎิบัติธรรม ที่วัดวังก์วิเวกการาม จ.กาญจนบุรี ศึกษากรรมฐาน คาถาอาคมกับหลวงพ่ออุตตมะ แล้วธุดงค์ต่อไปยังประเทศพม่าพบพระอาจารย์ศีลยันตะ ศึกษาวิชาอาคมจนแตกฉาน แล้วธุดงค์กลับถึงถ้ำโอ่งจุ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นิมิตถึงเมืองโบราณชื่อ“รัตนวดีนคร”แล้วก็เดินทางค้นหาจนพบที่แห่งหนึ่ง ณ ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อพบเห็นสิ่งในนิมิตแล้วก็ขอซื้อที่ดิน แล้วเริ่มก่อสร้างวัดเจดีย์หอยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

2032.เหรียญไพรีพินาศ (พระนารายณ์แผลงฤทธิ์ หนุมานพิชิตชัย) เป็นเหรียญที่สวยและดีที่สุดของหลวงพ่อ ให้บูชา 699 บาท วัตถุมงคลของท่าน ประสบการณ์ดีครับ

​

ด้าน หน้าเป็น พระนารายณ์ ทรง กระบี่ยุทธ (หรือหนุมาน) ลูกพระพายที่เขี้ยวแก้วสันหลังเพชร ไม่มีวันตาย รวมกำลัง กับพระราม ผู้เป็นใหญ่ เป็นแม่ทัพ สยบศึก ล้อมรอบด้วยยันต์สำคัญ ที่เกี่ยวกับ มหาอำนาจ มหาปราบ มหาระงับ ทั่วทั้งเหรียญ ไม่มีที่ว่าง
ด้านหลังมีองค์ หลวงพ่อ นั่งเป็นประธาน พร้อมด้วย ยันต์เกาะเพชรถอดรูป ยันต์ มหานิยม ยาตรา มหา จินดามณี ยันต์หนุนชะตา ยันต์ค้ำดวง ยันต์คูนดวง กันภัย 8 ทิศ ทั้งหมด ลงเป็นอักขละมอญ และมีภาษาไทย หัวใจ แห่งความ ดี ที่ทุกคนควรต้องมี เป็น คำสอนชั้นหัวกระทิ ของหลวงพ่อ ที่ว่า “ศีล สติ ” เตือนใจให้ทุกคน ที่เป็น ศิษย์หลวงพ่อต้องมี ทำอะไรให้ครอง สติให้มั่งคงก่อนเสมอ คิดอะไรก็ให้มีสติรอบรู้ตัวทั่วพร้อม และให้มีศีล เป็นปกติวิสัย ให้ทุกคนยึดเอาเองว่า จะอาราธนาศีลติดตัวกี่ข้อ จะข้อ 1 ข้อเดียว ห้ามฆ่าสัตว์ หรือจะข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ตามแต่ใครจะรักษาได้ข้อไหนก็ให้ เจริญข้อนั้น ถ้ามีโอกาส มากเวลาเอื้อก็ให้ ถือศีล มากขึ้นตามลำดับ เท่านี้ ก็เป็นการทำดีแล้ว เกิดมา เป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาเป็นโอกาสที่ดีวิเศษ ที่สุดแล้ว
หลวงพ่อบอกให้ทำดีไว้ คิดไตร่ตรองเองว่า อะไรดี อะไรชั่ว ให้ทำดีให้มากๆ ทำชั่วให้น้อยๆ ไม่ทำเลยยิ่งดี คนที่ทำดี คิดดี พูดดี ทำดีตามที่โอกาส อำนวย ความดี รีบทำนะลูกนะ ทำดีไม่สูญหาย กี่แสนชาติกี่ ล้านภพ ความดีก็ยังอยู่ เหรียญนี้ ออกแบบโดยศิลปิน ชั้นครู ลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ขอให้ผู้ใช้เหรียญนี้ทุกคนมีแต่ความ สุข ความเจริญ ยิ่งๆขึ้นไปโดยเร็วพลันเทอญ พระรามชนะใจ ขุนกระบี่หนุมานฉันได พระรามชนะพญายักษ์อย่างทศกัณฐ์ ฉันใด ลูกศิษย์หลวงพ่อ ต้องชนะ อุปสรรค์ ขวากหนาม ทุกอย่างฉันนั้น

 

2033. เหรียญบาตรน้ำมนต์รุ่นแรก หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ปี 48 ให้บูชา 999 บาท

​

ลูกศิษย์หลวงพ่อต่างรู้ดีว่าน้ำมนต์หลวงพ่อนั้นวิเศษและศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน ลูกศิษย์บางรายเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อน้ำมนต์หลวงพ่อเพียงขวดเดียว พุทธคุณน้ำมนต์ของหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ลูกศิษย์หลายคนต่างเล่าประสบการณ์กันต่างๆนา เช่น นำน้ำมนต์มาพรหมของก็ขายดี ขนาดบ้านที่ดินติดป้ายขายมา๘ปี เอาน้ำมนต์หลวงพ่อไปพรม ๒วันขายได้ ผีเข้าเจ้าสิงโดนน้ำมนต์หลวงพ่อหยดเดียวก็วิ่งกระเจิงกระจาย เคยมีศพตายแล้วไม่เน่า กินน้ำมนต์หลวงพ่อได้(เอาน้ำมนต์หยอดปากหายหมด เคยลงข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) คนเจ็บไข้ไม่สบายมีเคราะห์ดวงตกก็มาขอน้ำมนต์ท่านผ่านพ้นวิกฤตได้สะดวกรวดเร็ว ฯลฯ นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ยังมีประสบการณ์อีกมากมายสำหรับน้ำมนต์ของหลวงพ่อ ลูกศิษย์หลายคนที่อยู่ไกลๆหรือไม่สะดวกมาที่วัด จึงอยากให้หลวงพ่อสร้างเหรียญน้ำมนต์ขึ้น เพื่อไว้ใช้ทำน้ำมนต์ที่บ้าน
รูปหลักของเหรียญ
ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ที่สำคัญเหรียญนี้ช่างแกะได้เหมือนหลวงพ่อมากที่สุด ด้านหลังหลวงพ่อเป็นยันต์ดวงมหาราชสยบภัยของมอญ ทางไทยจะเรียกว่า ยันต์ดวงระงับทุกข์ ยันต์นี้ตกที่ไหนอยู่ถิ่นฐานใด ภัยพิบัติอุปสรรคปัญหาต่างๆไม่มี
ด้านหลัง เป็นยันต์มอญ๙มหาอำนาจล้อม๔ทิศ มียันต์ขจัดโรคภัยล้อมสี่ทิศ ยันต์ไล่เคราะห์ ไล่ผีขับเสนียดจัญไร อัปมงคล สิ่งไม่ดี ล้อมรอบเป็นวงกลมเป็นคาถาอำนวยให้เจริญอายุวรรณะ สุขะ พละ มีสติปัญญา มีไหวพริบ ฉลาดหลักแหลม มีความผาสุกก้าวหน้าในทุกทิศทาง สำเร็จทุกอย่างรวมความว่าเหรียญบาตรน้ำมนต์ รวมสุดยอกปราถนาของมนต์และขจัดสิ่งที่มนุษย์ไม่อยากให้เกิดไว้ครบถ้วน จะใช้ติดตัวหรือใช้ทำน้ำมนต์อาบกินไล่ผี พรมของขาย แก้โรคภัยต่างๆได้สารพัด เป็นอีก๑เหรียญที่มีความหมายที่ดี
จำนวนการสร้าง
๑.เนื้อเงินลงยา สร้าง๑๐๙เหรียญ
๒.เนื้อทองขาว(อัลปาก้า) สร้าง ๑,๑๖๓เหรียญ
๓.เนื้อตะกั่ว สร้าง ๑,๒๐๐เหรียญ
๔.เนื้อทองฝาบาตร สร้าง ๒,๕๔๘เหรียญ
๕.เนื้อทองแดง สร้าง ๒,๕๔๘เหรียญ
ข้อควรระวัง
- ในการทำน้ำมนต์หากเป็นเนื้อตะกัั่ว อย่าพยามนำดื่มกินน่ะครับ เพราะสารตะกั่วจะป่นเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย ผมใช้เหรียญพวกโลหะในการทำน้ำมนต์ หลวงพ่อบอกว่าให้นำเหรียญเปลือยๆ หรือเลี่ยมกรอบ ใส่ลงไปในน้ำได้เลย

 

2034. ผ้ายันต์ฆะเฏสิ สีขาว (สาระพัดกัน) หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ วัดใหม่ศรีสุทธาวาส จ.นครสวรรค์ ให้บูชา 399 บาท

​

 

2035. พระสมเด็จพิมพ์อกใหญ่ฐานแซม รุ่นสมปรารถนา "แก้วสารพัดนึก" รุ่น1 หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ วัดใหม่ศรีสุทธาวาส อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ปิดรายการครับ

​

อักขระยันต์ด้านหลัง เป็นคาถา แก้วสารพัดนึก ที่หลวงปู่เมตตา เขียนอักขระมอบไว้ให้ บรรจุด้านหลังพระสมเด็จ ท่านเสกด้วย วิชาแก้วสารพัดนึก ขอได้ทุกอย่าง ตามใจปรารถนา
อานุภาพสูงสุด ตามสายวิชาที่หลวงปู่ท่านสำเร็จ คาถาแก้วสารพัดนึก คือ ขอเงิน ขอโชคลาภ ขอสิ่งที่ปรารถนาได้ทุกประการ
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระคาถา และ อำนาจจิตอันบริสุทธิ์ของหลวงปู่ ที่บรรจุลงไปในพระสมเด็จรุ่นนี้ ทุกคนไม่ควรพลาด ด้วยประการทั้งปวง พระสมเด็จรุ่นนี้ สร้างน้อยมาก เอาไปเลี่ยมทองห้อยคอ รวย รวย รวย
พระสมเด็จรุ่นนี้ สร้างไว้ประมาณ 4-5 พิมพ์ เรียกว่ารุ่นสมปรารถนา เนื่องจากวันนั้น สมัยหลวงปู่มีชีวิตอยู่ ช่วงบ่ายได้จับกลุ่มคุยกับหลวงพ่อสุรินทร์ หลวงพ่อสุรินทร์ท่านเล่าว่า หลวงปู่เรานี่แปลกนะ ไปไหนหรืออยากได้อะไร มักมีคนมาถวาย
พอตอนหัวค่ำ ผมได้ขึ้นไปกับคุณแกละ ไปนวดหลวงปู่ ท่านก็หยิบยันต์ขึ้นมาให้ดูหนึ่งตัวแล้วกล่าวว่า ยันต์ตัวนี้ขออะไรได้เกือบทุกอย่าง เลยกราบเรียนหลวงปู่ว่า ผมขอเรียนได้ไหมครับ ท่านก็เมตตาให้มา คำว่า อิ สะ อะ มิ จะ ภะ กะ สะ ปา สุ อุ ชา หลังจากทดลองใช้แล้ว ได้ผลอย่างมาก
จึงขออนุญาตท่านสร้างเป็นพระสมเด็จ ท่านได้ทำผง นะ หน้าทอง ผงยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ก็ได้นำมาผสมกับว่านสาวหลง ใบรักซ้อน ว่านเสน่ห์จันทร์ และว่านเมตตามหานิยมอื่นๆอีกมาก ทำพิมพ์ละประมาณห้าร้อยองค์ และมีพิมพ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ด้านหลังเป็นหลวงปู่บุญศรีอีกประมาณสองร้อยองค์ ไว้แจกงานกฐินผ้าป่า ทิ้งไว้ประมาณเกือบครึ่งหนึ่งที่หลวงปู่ไว้แจกลูกศิษย์
.
มีเพื่อนแฟนผมทำร้านอาหารเก่าแก่มีชื่อร้านหนึ่งย่านสุขุมวิท ลูกน้องทะเลาะกันเป็นประจำ ไม่ค่อยลงรอยกัน ไม่ว่าคนมาอยู่ใหม่หรือคนงานเก่า ผมเลยแนะนำให้เอาพระสมเด็จรุ่นนี้ทำน้ำมนต์อธิฐานถึงหลวงปู่ขอให้บริวารรักใคร่และสามัคคีกันบอกว่าลองไปทำดูแล้วกัน
ปรากฎว่า เหตุการณ์ภายในร้านก็ค่อยๆดีขึ้น ไม่ทะเลาะกันเหมือนอย่างเคย ต่อมาตอนหลังเห็นเด็กไม่ทะเลาะกัน เลยเอาพระสมเด็จรุ่นนี้ทำน้ำมนต์ให้แฟนกิน เพราะแฟนเป็นคนชอบเที่ยวไม่ค่อยกลับบ้าน ช่วงหลังอยู่บ้านมากขึ้นและเที่ยวน้อยลง เคยถามแฟนว่าทำไมหมู่นี้ไม่เที่ยว
แฟนบอกว่าไม่รู้เป็นอะไร หมู่นี้คิดถึงบ้าน ไม่ค่อยอยากเที่ยว (เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ประมาณสองสามเดือนที่ผ่านมานี่เอง)
พระสมเด็จรุ่นนี้ใช้ได้ดี ทางเมตตามหานิยม ค้าขาย อธิฐานขอหลวงปู่ได้ สามารถใช้แทนสีผึ้งได้ โดยเอามาลูบหน้าขอให้มีสง่าราศรี ใช้ได้ผลมาหลายรายแล้ว

 

2036.ยุคแรกๆ ของหลวงพ่อ สมเด็จพิมพ์อกร่องหูบายศรี รุ่นแรก หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐมรุ่นแรก ปี ๒๕๑๓ ผงพุทธคุณ หายาก ให้บูชา 1450 บาท รุ่นนี้น่าบูชาครับ หลวงพ่อเงิน อาจารย์ท่าน เสกให้ด้วยครับ

​

หลายๆ คนมักจะเข้าใจกันว่าพระรุ่นแรกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมนั้นจัดสร้างในปี 2515 คือเหรียญรุ่นแรกทั้งสองบล็อก ซึ่งอันที่จริงแล้วนั่นต้องถือว่าเป็นรุ่นที่ 5หรือ 6 เข้าไปแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นหลวงพ่อได้สร้างพระเนื้อผงออกมาประมาณ 3-4 รุ่นก่อนหน้านั้น ทั้งสมเด็จรุ่นแรก ยอดขุนพลรุ่นแรก พระปิดตามีลาภเนื้อผง โดยเฉพาะพระสมเด็จรุ่นแรกนี้ถือเป็นรุ่นแรกตัวจริงเสียงจริงที่กดพิมพ์กันที่หน้ากุฏิหลวงพ่อเงิน ในวันที่ 12 กันยายน 2513 ก่อนงานครบรอบวันเกิดอายุ 80 ปี หลวงพ่อเงิน คนเก่าแก่หลายคนเขาบอกว่าจริงๆ ตั้งใจทำเป็นพระหลวงพ่อเงิน แต่หลวงพ่อเงินท่านให้หลวงพ่อแช่มดำเนินการเอง จึงกลายเป็นพระหลวงพ่อเงินไป พระที่สร้างในวันแบบนี้ หน้ากุฏิหลวงพ่อเงินแบบนี้ ท่านจะไม่มาเสกด้วยจริงหรือ โดยสมเด็จรุ่นแรกนี้คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่ามีแต่พิมพ์อกร่องหูบายศรีเท่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้วมีด้วยกันถึง 5 พิมพ์ คือ
1.พิมพ์อกร่อง หูบายศรี ที่มีทั้งแบบหลังเรียบและกดลายนิ้วมือ โดยกดลายนิ้วมือนี้มีน้อยมาก ราว 700 องค์เท่านั้น
2.พิมพ์พระประธาน ซึ่งพิมพ์นี้แปลกจะมีแบบธรรมดา และแช่น้ำมนต์ ว่ากันว่าหลวงพ่อแช่มแช่น้ำมนต์ไว้ลงกรุวัดดอนยายหอม แต่ภายหลังนำมาจำหน่ายโดยวัดเอง
3.พิมพ์เศียรโล้นหลังตราครุฑ
4.พิมพ์ฐานแซม
5.พิมพ์ปรกโพธิ์ ซึ่งจำนวนสร้างรวมๆ ว่ากันที่หลักหมื่น

​

 

2037. พระสมเด็จ พิมพ์สังฆฏิ หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ จ.นครพนม ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ (โสฬสมหาพรหมชนิดเดียวกับพระชุดผงโสฬสมหาพรหม หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ) ให้บูชา 799 บาท เด่นด้านค้ำคูณ หนุนดวง ครับ

​

พระชุดเนื้อผง หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ปี ๒๕๐๐ เนื้อหามวลสารดีมาก ๆ เนื่องจากมีเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหัก และผงโสฬสมหาพรหม หลวงปู่ศรีทัต วัดท่าดอกแก้ว อ.ท่าอุเทน อันโด่งดัง ผสมอยู่ด้วย...พระชุดเนื้อผงของหลวงปู่จันทร์ เขมิโย..วัศรีเทพประดิษฐารามจึงได้ชื่อว่า " บางขุนพรหม อีสาน " นั่นเอง
พระที่จัดสร้างในชุดนี้มีมวลสารประกอบด้วยกันหลายอย่าง อาทิ ฯ
๑.ผงพุทธคุณ ของหลวงปู่จันทร์ เขมิโย
๒.น้ำมันงาเสก ของหลวงปู่จันทร์ เขมิโย
๓.ผงแตกหักของพระสมเด็จบางขุนพรหม และ (สังเกตุเห็นได้ชัดเจน)
๔.ผงโสฬสมหาพรหม ของหลวงปู่ศรีทัต พระอาจารย์ของท่าน (ผงนี้เป็นมวลสารเดียวกับพระผงชุดโสฬสมหาพรหมของหลวงปู่ทิมแห่งวัดละหารไร่) ผู้ที่บูชาพระพิมพ์ชุดนี้ติดตัวต่างประสบกับเหตุอัศจรรย์ต่างๆมากมายอันเป็นผลเนื่องมาจากพุทธคุณที่ มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

 

2038.อีกหนึ่งของดีแห่ง วัดสาลีโข เหรียญหลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข หลังสิงห์ ปี2514 ให้บูชา 1350 บาท คราบแป้งเจิมเดิมๆครับ

​

ปี พ.ศ.2514 หลวงปู่เผือก พระปรมาจารย์แห่งวัดสาลีโขภิตาราม ได้คำนวณฤกษ์เห็นควรประกอบมหาพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งยวด สืบเนื่องมาแต่ “มหาฤกษ์” ที่ยากจะเกิดขึ้นในแต่ละคราว นั่นคือ "ฤกษ์มหาจักรจตุรงคสันนิบาต”
อันได้แก่ ดาวจันทร์ ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ และดาวราหู ต่างเคลื่อนเข้าสถิตอยู่ในองค์เกณท์ราศีอันเป็น “มหาจักร” แห่งตน และจะปรากฎถึง 4 วาระด้วยกันตลอดไตรมาสพรรษาปี 2514 ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทุก 200 ปีจะเกิดมีขึ้นครั้งหนึ่ง
วาระมหามงคลที่จะ ถึงนั้น บรรดาผู้รู้ทั้งหลายไม่อาจปล่อยให้หลุดลอยได้ หลวงพ่อสาลีโขจึงกำหนดการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อให้สมเวลาที่รอคอย ทั้งยังปรารถนาให้เป็น “ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต” ของท่านทีเดียว
การสร้างอิทธิวัตถุของหลวงพ่อสาลีโขนั้นไม่เลยแม้สัก ครั้งเดียวที่จะใช้โลหะเปล่า ท่านเพียรพยายามยิ่งในการจารอักขระเลขยันต์สำคัญครอบคลุมสรรพวิชาทั้งมวลลง ในแผ่นโลหะ เน้นหนักในทุกๆสายวิชาทั้งคงกระพัน มหาอุด ชาตรี กำบังตน มหาลาภ มหานิยม เมตตา แคล้วคลาด กันภัยกันคุณไสย กันภูตผี
วิชาเหล่า นี้ท่านเพียรจารเสกเป่า แต่ละอักขระแต่ละพระยันต์ ท่านจะบรรจงเขียนอย่างสวยงาม ปลุกเสกและลงถม นำไปหลอมเอามาลงใหม่ ซับซ้อนเช่นนี้อย่างน้อยถึง3วาระด้วยกัน กระทั่งคราวหลอมเพื่อรีดปั๊มเหรียญ ช่างถึงกับตะลึงเมื่อแผ่นทองวิ่งวนอยู่ในเบ้าหลอม ไม่ยอมละลาย ได้ตักเก็บไว้เป็นหลักฐานจำนวนหลายสิบแผ่น
แผ่นทองชนวนนับสิบกิโล แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริง และวิริยะอุตสาหะ อันหาได้ยากในพระอาจารย์สมัยปัจจุบัน ไม่ควรแปลกใจเลยที่บังเกิดปาฏิหาริย์แผ่นทองไม่ละลายเพราะ “ปราณ” ที่ท่านเป่าประจุย่อมสถิตแนบแน่นอยู่ในทุกอณูแผ่นทอง จนโลหะธาตุธรรมชาติทั้งมวลถูกแปรสภาพเป็น “ธาตุสำเร็จ” จากการตั้งธาตุ ปรุงธาตุ และหนุนธาตุทั้ง 4 ขึ้นมาจากจิตที่ทรงอภิญญา เฉพาะ “เตโชกสิณ” นั้น ท่านเชี่ยวชาญถึงขีดสุด
***มงคลวัตถุที่สร้างประกอบด้วย พระพุทธรูปสุโขทัย หน้านาง ขนาด 9 และ 5 นิ้ว พระพุทธนาคปรก ขนาด 9, 5 นิ้ว, พระสังกัจจายน์ ขนาด 9 นิ้ว, รูปหล่อหลวงปู่เผือก ขนาด 9 , 5 นิ้ว , พระนาคปรกแขวนคอ, รูปหล่อหลวงปู่เผือกขนาดแขวนคอ, เหรียญหลวงปู่เผือก รุ่น 2 พิมพ์ใหญ่ – เล็ก, เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อสาลีโข รุ่น 2 ชนวนมวลสารทั้งหมดถูกนำมาประกอบพิธีปลุกเสกในวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 18.00 น. โดยพระคณาจารย์มากมาย มีหลวงปู่เผือกประทับทรง หลวงพ่อสาลีโขเป็นประธาน เมื่อแล้วเสร็จได้จุณเจิมสรรพวัสดุด้วยกระแจะหอม และสวดหนุนด้วยพระพุทธมนต์พิเศษ คือ บทยานี , บทภาณวาร , บทคาถาพัน และอิติปิโสรัตนมาลา ก่อนจะนำแผ่นโลหะทั้งปวงมาหล่อหลอมเป็นชนวนสัมฤทธิ์เพื่อนำไปสร้างเป็นองค์ พระต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 10.08 น. เป็นกำหนดจุดเทียนชัยในพิธีเททอง และเริ่มทำพิธีพุทธาภิเษก วันนี้หลวงพ่อสาลีโขถือเป็นวันสำคัญที่สุดของงาน เพราะเป็นการเชิญชนวนสัมฤทธิ์เข้าสู่เบ้าหลอมหล่อรวมกับโลหะมงคลอื่นๆ แล้วเททองลงหุ่นให้สำเร็จเป็นองค์พระ จากนั้นจึงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ยังเบ้าหลอม
ครั้นทุบหุ่นดินออกก็ อัญเชิญพระปฏิมาลงชุบน้ำศักดิ์สิทธ์จากสถานที่สำคัญเช่น น้ำสรงพระบรมธาตุ , น้ำเมืองเพชร, น้ำสระแก้ว, น้ำบ้านบางปืน ฯลฯ แล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพานเชิงใบใหญ่เคล้าคละประโปรบด้วยเครื่องหอม กระแจะจันทน์ พร้อมด้วยการเรียกสูตรตั้งนามให้เป็นสิริ ท่ามกลางพิธีมหาพุทธปรมาภิเษก พระมหานาคทั้งสี่เจริญบทมหาจักรพรรดิราช และบทพุทธาภิเษก โดยมีรายนามพระมหาเถระผู้ทรงรัตตัญญู ภาพเข้าร่วมพิธี ดังนี้
1. พระภัทรมุกมุนี (ชิต) วัดเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์
2. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย สุพรรณบุรี
3. หลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ นนทบุรี
4. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
5. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
6. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ พระนคร
7. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
8. หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
9. หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
10. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา
11. หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ ธนบุรี
12. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
13. หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย สุโขทัย
14. หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
15. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
16. หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
17. พระครูเมธีวรานุวัตร วัดมหาธาตุ พระนคร
18. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
19. หลวงพ่อจัน วัดสระเกษ พระนคร
20. หลวงพ่อสั้น วัดท่าอิฐ นนทบุรี
21. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา
22. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
23. หลวงพ่อจันทร์ วัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา
24. หลวงปู่เส็ง วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี
25. หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง นนทบุรี
วัน พฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2514 เวลา 16.00 น. พิธีมหามงคลสรงองค์พระให้สำเร็จเป็น “พระเครื่อง” โดยบริสุทธิ์บริบูรณ์ ปราศจากมลทินโทษใดๆ พระคณาจารย์ในงานเจริญบทมงคลจักรวาล , ชัยมงคลคาถา และทิพยมนต์

 

2039.พระดีพิธีใหญ่ เหรียญวิเศษเรืองปัญญา วัดดอน ยานนาวา พิธีเสาร์5 ปี2516 ให้บูชา 899 บาท

​

ในปี พ.ศ. 2516 มีฤกษ์ดีคือ ฤกษ์เสาร์ 5 ที่คนโบราณเชื่อกันว่าเป็นฤกษ์ที่แข็งที่สุด ในรอบหลายๆปี เพราะวันเสาร์ที่ตรงกับวันขึ้น/แรม 5 ค่ำ และเดือน 5 มีไม่บ่อยนัก จึงมีความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ และในปีนี้เองทาง วัดดอนได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นหลายชนิด เช่น พระกริ่งฟ้าผ่ารุ่น 2 เหรียญหลวงพ่อกึ่น พระสมเด็จโคดม บรมสกลธวัชชัย และ เหรียญวิเศษเรืองปัญญา พิธีพุทธาภิเษก จัดอย่างยาวนานถึง 5 วัน 5 คืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน จนไปถึงวันที่ 11 เมษายน 2516
โดยมีพิธืกรรมแบบเดียวกับเหรียญจักรเพชรวัดดอน คือพิธีพราหมณ์และพุทธ โดยพิธีพุทธนั้นมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานในพิธี และมีอาจารย์นั้งปรกในพิธีอีกมากมายอาทิ เช่น
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณื
หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
หลวงพ่อโอด วัดจันเสน หลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาศ
ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
หลวงพ่อมุม วัดปาสาทเยอร์
หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ โก่งธนู
หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยานิมิตร เป็นต้น

 

..........

 

สวัสดียามเช้า

 

2040. พระชินราชพิมพ์สามเหลี่ยม เนื้อผสมแร่เหล็กไหล หลวงพ่อก๋วน วัดตะเคียนทอง ระยอง ให้บูชา 800 บาท

​

​

​

 

2041. สุดยอดเกจิอาจารย์ 1 ใน 4 เรืองวิทยาคม อินโดจีน พระพรหมสี่หน้า หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี เนื้อเมฆพัตร ปี2484 ให้บูชา 3250 บาท

​

พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) จังหวัดชลบุรี ได้สร้างพระเครื่องรางต่างๆ ไว้มาก รวมทั้งปลัดขิกที่มีชื่อมาก (พอๆ กับหลวงพ่อเหลือ แปดริ้ว) ทั้งตะกรุด เสื้อยันต์ เหรียญ พระปิดตา "พระสาม" และ "พระสี่" (พรหมสี่หน้า) กล่าวกันว่าในระยะ พ.ศ. 2483-86 นั้น หลวงพ่ออี๋ ก็มีของดีเกรียงไกรออกสู่สงครามอินโดจีนไปก็มาก ชื่อเสียงของท่านดังขนานไปกับหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกทีเดียว
พระเครื่องรางของขลังของหลวงพ่ออี๋ มีสร้างออกมามากแบบเอาใน พ.ศ. 2484 และตาม พ.ศ. นี้เอง "พระสาม" และ "พระสี่" หรือ พระพรหมสี่หน้า ก็ได้กำเนิดตามออกมาด้วย พระทั้ง 2 พิมพ์เป็นพระเนื้อเมฆพัตร ด้านพุทธคุณมีทั้งแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี พระพรหมสามหน้าของหลวงพ่ออี๋ เป็นเนื้อเมฆพัตร สร้างราวๆ ประมาณช่วงปี พ.ศ. 2483-2485 ทันยุคสมัยของหลวงพ่ออี๋ท่าน เป็นรูปพระปางสมาธิ ซึ่งรุ่นนี้ช่างได้สร้างออกมาเป็นครั้งแรก สร้างเป็น 3 หน้า หรือ 3 ด้าน แต่สร้างผิด คือ ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่ออี๋ ตามประสงค์ที่แท้จริงที่ถูกต้องของท่าน ท่านต้องการพระพรหม 4 หน้า ต่อมาจึงได้สร้างให้ถูกต้องตามประสงค์ แล้วก็นำเข้าพิธีพุทธาภิเศกพร้อมกันทั้ง พระพรหม 3 หน้า และ 4 หน้า นับว่าเป็นเครื่องรางของขลังอีกประเภทที่ทันหลวงพ่ออี๋ท่าน สำหรับคนที่ไม่สามารถหา เหรียญปี 2473 หรือ 2483 ไว้บูชาได้ พระพรหม 3 หน้า หรือ 4 หน้า หรือวัตถุมงคลประเภทอื่นที่ได้จัดสร้างในสมัยท่านปลุกเสกโดยท่าน ก็สามารถบูชาได้เช่นกัน ซึ่งพุทธคุณก็เหมือนกัน
พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) วัดสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พระครูวรเวทมุนี ปรากฏนามเป็นที่รู้จักกันทั่วไปๆ ว่า "หลวงพ่ออี๋" เพราะท่านชื่ออี๋มาแต่แรก ท่านเป็นบุตรชาย นายขำ นางเอียง ทองขำ เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2408 ตรง กับวันอาทิตย์ ขึ้น 11 ค่ำเดือน 11 ปีฉลู ที่บ้านตำบลสัตหีบ กิ่งอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่ออายุ 25 ปีได้อุปสมบทที่วัดอ่างศิลานอก ซึ่งบัดนี้ได้ยุบรวมเข้าเป็น วัดอ่างศิลาวัดเดียว โดยมีพระอาจารย์จั่น จนฺทโส เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยมีพระอาจารย์ทิม เป็นกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แดงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ได้ตั้งฉายาว่า "พุทธสโร" และในช่วงโอกาสนั่นเอง หลวงพ่ออี๋ก็ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย คลองด่าน และยังกล่าวกันอีกว่า หลวงพ่อแดงและหลวงพ่อเหมือนก็เป็นพระอาจารย์ท่านด้วยเช่นกัน
วัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋) เป็นวัดที่หลวงพ่ออี๋ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2442 และท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก หลวงพ่ออี๋มีความชำนาญในด้านสมถะวิปัสสนาธุระมาก คือ คล่องแคล่วในการเข้าใน ออกนอก และในการพักจิตอยู่เป็นกสิณ และในธรรมารมณ์ตามปรารถนา จะเรียกว่า มีวสีภาพก็ควร เพราะเมื่อท่านปรารถนาจะสำรวมจิตแล้ว ไม่มีอะไรมาขัดขวางทางเดินภายในของท่านได้ เป็นการเข้าออกได้เรียบร้อยตามประสงค์ ท่านหลวงพ่ออี๋เริ่มอาพาธในอวสานแห่งชีวิตครั้งนี้ ด้วยโรคฝีที่คอ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2489 แต่ท่านก็ไม่ได้ใส่ใจรักษานัก ท่านเคยปรารภว่ามันจะมาเอาชีวิตท่าน คงใช้แต่ยาของท่านเองบ้าง ปิดบ้าง พอกบ้าง ใช้น้ำมนต์บ้าง เรื่อยมาและไม่หยุดการรับนิมนต์ในที่ใด ๆ ทั้งสิ้น โรคฝีได้กำเริบขึ้นเป็นลำดับมา จนเข้าพรรษาแล้ว พิษของฝีจึงแสดงอาการให้ต้องพักทำวัตรสวดมนต์ แล้วพอถึงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2489 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ เวลา 20.35 น. หลวงพ่ออี๋ท่านก็บอกให้พระที่นั่งเฝ้าพยาบาลแวดล้อมท่านอยู่ ช่วยประคองให้ท่านลุกขึ้นนั่ง แล้วสั่งไม่ให้ทุกคนแตะต้องตัวท่าน เสร็จแล้วท่านก็นั่งสมาธิตัวตรง เริ่มเข้าสมาธิ ชั่วครู่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง ทำให้ทุกคนตกใจกันสุดขีดคือ ไม้กระดานแผ่นหนึ่ง ซึ่งตั้งพิงฝาผนังภายในกุฏิและตั้งอย่างนั้นมานานแล้ว ก็ล้มโครมลงมาฟาดกับพื้น และกระจกแผ่นหนึ่งที่ติดกับบานประตูตู้ ห่างจากไม้กระดานหลายเมตร ก็กระเด็นหลุดออกมาแตกกระจายทั่วพื้น ทั้งพระและลูกศิษย์วัดที่คอยนั่งเฝ้าพยาบาลแวดล้อมท่านอยู่ตกใจมาก พอหายตกใจได้สติก็หันมาดูหลวงพ่ออี๋ ซึ่งตรงกับเวลา 21.05 น. ท่านก็นั่งสงบปราศจากลมหายใจเข้าออกเสียแล้ว ข่าวการการมรณภาพก็กระจายไปทั่วกิ่งอำเภอสัตหีบอย่างรวดเร็ว สิริรวมอายุของท่านได้ 82 ปี

 

2042.เจ้าตำรับ ตะกรุดดอกไม้ทอง พระปิดตาปลดหนี้ เนื้อชานหมาก ตะกรุดดอกไม้ทอง ทองคำ 3 ดอก ปี2549 หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน สร้างน้อย 110 องค์ หายาก ปิดรายการครับ

​

มวลสาร เนื้อผงเกสรที่ใช้สร้างประกอบด้วยเกสรดอกไม้ 108 ดอกว่าน ดอกไม้บูชาพระจากวัดบ้านแพนและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเกือบทั่วประเทศ ผสมผงเมตตาเก่าที่ หลวงพ่อพูนเก็บไว้ ผสมผงใบลานดิบ ผลชานหมากและเกสรดอกไม้สดหลายชนิด จึงมีความศักดิ์สิทธิ์และมีความสิริมงคลเป็นอย่างมาก

หลวงพ่อพูนท่านทำพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลัง ในพระอุโบสถ วัดบ้านแพน โดยมีพระภิกษุอีก 9 รูป ร่วมพิธีด้วย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2549

นอกจากนี้ หลวงพ่อพูน ท่านได้เจิมแป้งให้พระปิดตาปลดหนี้ทุกองค์ด้วย

​

 

.........