พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ส่วนหนึ่งของบัญชีสร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะเป็นค่าจัดส่งทาง สิ่งของอาทิ CD+DVD พระเครื่อง หนังสือ เอกสารอื่นๆ ตลอดรายการ ทางEMS ให้กับเพื่อนๆทุกท่านรวมไปถึงการจัดส่งพระธาตุพระแม่กวนอิมที่ได้ดำเนินการจนจบสิ้นไปแล้วนั้น ผมขอนำเงินค่าจัดส่งจำนวน ๕๐๐ บาทร่วมสมทบทุนค่าจัดส่งพระเครื่องทั้งหมดร่วมกับเพื่อนๆทุกท่านให้ถึงมือพี่อ้อยเพื่อประโยชน์ในด้านงานบุญต่อไปโดยเฉพาะการร่วมบุญช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง

ขอน้อมถวายกุศลผลบุญทั้งหลายที่พึงมีพึงเกิดนี้แด่พระแม่จามเทวีองค์อัครปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญชัย บูรพกษัตราธิราชทุกๆพระองค์ จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ อันมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลอันพึงมีพึงได้นี้แด่เทพเทวาที่ได้รับการมอบหมายให้ปกปักรักษาพระกรุลำพูนทุกๆองค์

วันอังคารจะโอนไปให้นะครับ

 

ว่าจะห้อยชุดนี้เหมือนกัลล์เลย แต่ยังขาดองค์กลางง่ะๆๆๆ(ping-love

 

พระสมเด็จวังหน้า
ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
(พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
(คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
(คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
(คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
(คุณเกสรซ์ จอง 1 องค์) หมดแล้ว โอนเงินร่วมบุญแล้ว รอส่งพระพิมพ์


:d เรียน คุณSithiphong
เกสรช์รอรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)และขอรับรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและผ้ายันต์ครอบจักรวาลไปบูชาด้วยนะคะ

ขอบคุณมากคะ(good)
(ขออนุโมทนาสาธุกับความตั้งใจของคุณในทุกๆบุญที่คุณสร้างทั้งหมดด้วยนะคะ)

 

วันอังคาร ผมส่งให้นะครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญค่าจัดส่งพระ (ที่จะโอนเงินค่าจัดส่งพระให้กับพี่อ้อย) ขอความกรุณาช่วยแจ้งด้วยนะครับ

คุณแด๋นได้แจ้งความประสงค์มาแล้วครับ

โมทนาบุญทุกประการครับ





มาสรุปค่าจัดส่งพระพิมพ์ ที่จะร่วมกับพี่อ้อย
1.คุณแด๋น 500 บาท
2.คุณnongnooo 200 บาท
3.คุณตั้งจิต 200 บาท
4.sithiphong 500 บาท
5.คุณเพชร 500 บาท

ส่วนท่านอื่นๆ มีท่านใดร่วมทำบุญอีกหรือเปล่าครับ

โมทนาบุญทุกประการครับ

 

"พระวังหน้า" เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทุกๆฝ่ายและลดความขัดแย้งลง ขอเสนอทางเลือกดังน
http://palungjit.org/showthread.php?t=128079&page=4

<table id="post1209323" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 01:56 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #61 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> tawatd <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1209323", true); </script>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:05 AM
วันที่สมัคร: Feb 2006
ข้อความ: 141 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 31 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 970 ครั้ง ใน 141 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 129


</td> <td class="alt1" id="td_post_1209323" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> ได้รู้จักกับคุณสิทธิพงษ์ประมาณ 2 ปี ได้ร่วมทำบุญด้วยกันได้ร่วมพบปะพูดคุย ได้รับพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างจากคุณหลายชิ้น ขอรับรองในความบริสุทธิ์ของคุณสิทธิพงษ์ว่าในการโอนเงินหรือให้เงินโดยตรงเพื่อการทำบุญทุกอย่างคุณสิทธิพงษ์ไม่มีส่วนได้รับเงินนั้นเลย มีแต่ต้องเสียเงินค่าไปรษณีย์และพระที่ตนเองสะสมไว้เพื่อต้องการช่วยเหลืองานบุญต่างๆด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขอรับรองด้วยศักดิ์ศรีของข้าราชการคนหนึ่งและขอรับผิดหากข้อเขียนนี้เป็นเท็จ ไม่ต้องการให้คนดีท้อแท้ครับ ธวัช
</td></tr></tbody></table>
*****************************


ขอบคุณมากครับ
โมทนาสาธุครับ

 

‘บุญ’ไซเบอร์
http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9510000057151
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">16 พฤษภาคม 2551 10:56 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="350"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เรื่อง – ภาพ : ขวัญตา บุญสาย

ในยุคสมัยที่บริโภคนิยมกำลังเฟื่องฟูฟู่ฟ่า เทคโนโลยีมากมายได้ถูกพัฒนาขึ้นมารับใช้อุปนิสัยมักง่ายและใฝ่เงินที่เกิดขึ้นในหัวสมองของมนุษย์ในรุ่นหนึ่งแล้วเพราะเชื้อถ่ายทอดไปสู่อีกรุ่น สะพัดแพร่รวดเร็วยิ่งกว่าเชื้อห่าไข้มาลาเรียในอดีตหลายเท่าตัว และอุปนิสัยทำนองนี้ก็มักจะดึงให้มนุษย์ห่างไกลจากสิ่งสามัญเรียบง่ายที่เหมาะสำหรับการดำรงชีวิต อย่าง ธรรมะ ไปไกลหลายปีแสง

แต่ตราบใดที่เหรียญยังมีสองด้าน การเจริญเติบโตของเทคโนโลยีก็ยังมีอีกแง่มุมให้ซึมซับรับรู้เสมอ แม้ผู้คนส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์และรับโทษจากอินเทอร์เน็ต แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ยังมีผู้พยายามใช้ระบบเครือข่ายที่เคลือบคลุมพวกเราอยู่ ในการแสวงหา ‘จิตวิญญาณ’ ที่หล่นหายไปให้กลับคืนมาอีกครั้ง

ส่วนอีกด้านอีกมุม ระบบอินเทอร์เน็ตแบบความเร็วสูง ก็อาจทำให้เรารู้สึกว่าสรรพสิ่งมันช่างชักช้าไม่ทันใจ อยากจะกินพิซซ่าหรืออาหารยุโรป เอเชียให้อร่อยลิ้น ก็ต้องมาถึงปากถึงท้องภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที อยากจะได้บุญรับกุศลก็ขอให้มาถึงที่ ทันเวลาไม่ต่างกัน

การทำบุญ ทำทานที่มนุษย์ยุคไซเบอร์มองว่าเชยหรือล้าสมัย แล้วจัดแบ่งให้เป็นกิจกรรมเฉพาะของคนเฒ่าแก่ที่ใกล้จะตายเท่านั้น ก็พลิกกลับมาเป็นเรื่องโก้เก๋ ทันสมัย ที่สามารถประพฤติปฏิบัติกันได้ทุกผู้ ทุกวัย ไม่ถูกครหานินทาว่า ‘เชย’ อีกต่อไปแล้ว

ลองเปิดหู เปิดตา และเปิดใจให้กว้าง แล้วซึมซับรับเรื่องราวที่เรานำมาเสนอต่อไปนี้ แล้วจะรู้ว่า การละวัตถุ เข้าใกล้ธรรมในศตวรรษนี้ มันช่างอิ่มบุญ เอมใจ และทันสมัย ไม่ล้าหลังหรือเชยเลยแม้แต่นิดเดียว

การตักบาตร

การตักบาตร หรือการใส่บาตร คือ การที่พุทธศาสนิกชนนำอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ผลไม้ และน้ำ ใส่ลงในบาตรของพระสงฆ์ ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง

ข้อควรระวังในการตักบาตร
- อย่าให้ทัพพี หรือภาชนะโดนบาตร
- อย่าชวนพระสงฆ์สนทนาขณะใส่บาตร
- ควรถอดรองเท้าทุกครั้ง
- ไม่ควรใส่สิ่งของที่ใหญ่เกิน
- ควรจัดอาหารที่หาได้สะดวก
- ไม่ควรใส่อาหาร ของดิบ หรือของเหลือที่รับประทานแล้ว

ข้อสงสัย : หลายคนสงสัยว่าความจริงควรใช้คำว่าใส่บาตร หรือตักบาตร ?
คำว่าตักบาตรนั้นมาจากกิริยาอาการที่ใช้ทัพพีตักข้าวใส่บาตรพระ แต่ในปัจจุบันนี้เนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนผู้คนใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบขึ้น จึงมักนำข้าวของอาหารอื่นๆ ใส่ถุงหรือกล่อง เมื่อถึงเวลาตักบาตรจะได้สะดวกในการหยิบใส่ได้ในทันที คำว่าใส่บาตรจึงถือเป็นวิวัฒนาการทางภาษาเพื่อให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน สรุปว่าใช้ได้ทั้ง 2 คำ

แหล่งข้อมูลจาก เว็บไซต์กรมการศาสนา http://religon.m-culture.go.th

คำอธิษฐานการใส่บาตร (ข้อมูลอ้างอิง สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม)

สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขยาวะหัง โหตุ
ทานที่ข้าพเจ้าให้ดีแล้ว ขอจงเป็นเครื่องนำมาซึ่งความสิ้นไปแห่งอาสวะ กิเลส เทอญ
คำกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแบบย่อ
อิทัง เม ญาตินัง โหตุ ถอดความว่า ขอส่วนแห่งบุญกุศล จงสัมฤทธิ์แก่ญาติข้าดั่งตั้งใจ

*************

เนื่องจากการเวียนมาบรรจบของวันวิสาขบูชา ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากองค์การสหประชาชาติให้เป็นวันสำคัญระดับโลก วัด หน่วยงานของรัฐ และเอกชนจึงพร้อมใจกันจัดงาน ที่ชาวพุทธทั้งหลายสามารถไปเข้าร่วมได้ตามประสงค์ ดังต่อไปนี้

1. รัฐบาลจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ระหว่างวันที่ 13 -19 พฤษภาคมนี้ ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน มีกิจกรรมอภิปรายธรรมในช่วงเวลา 13.00 -16.00 น. ของทุกวัน ซึ่งสามารถรับฟังเสียงถ่ายทอดสดได้ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2668-7988

2. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ร่วมจัดงานวันวิสาขบูชาโลก ณ วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร ภายใต้โครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 17- 19 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ภายในงานจะมีการประกวดสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ รับฟังพระธรรมเทศนา การแสดงจินตภาพบอกเล่าเรื่องราวของวันวิสาขบูชา ฯลฯ

3. วัดอโศการาม กิโลเมตรที่ 31 ถนนสุขุมวิท(สายเก่า) ตำบลท้ายบ้าน จังหวัดสมุทรปราการ จัดงานเวียนเทียน เจริญสมาธิซึ่งเปิดตลอดทั้งคืน ทำวิปัสสนาในบรรยากาศสงบใกล้ป่าชายเลน

ถัดจากวันวิสาขบูชาไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ ชาวพุทธสามารถไปร่วมงานปฏิบัติธรรม ที่สวนโมกขพลาราม (วัดธารน้ำไหล) ตำบลเสม็ด อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องในวันพุทธทาส(27 พ.ค.) ในงาน ‘ธรรมทาสรำลึก 100 ปี’ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 27 พฤษภาคมนี้

ในงานพบกับกิจกรรมทำบุญ สวดมนต์ เสวนาธรรม และปฏิบัติธรรมด้วยความสงบงาม สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-7743-1552, 0-7743-1597

**************

ยัวร์ฟลอริสต์
สังฆทานในตะกร้าสวย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="450"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ตะกร้าหวาย โบหลากสี ดอกไม้สดนานาชนิด กระดาษแก้วสีสวยใส ถูกนำมาจัดรวมกันในตะกร้าหวายรูปทรงน่ารัก แต่งลูกเล่นด้วยลูกไม้ลายฉลุ และลูกปัดสีต่างๆ มองผิวเผินลักษณะภายนอกอาจเหมือนกระเช้าของขวัญที่มักส่งให้กันในวันสำคัญ เช่น วันปีใหม่ วันเกิด หรือวันมงคลต่างๆ

หากพิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่าภายในตะกร้าหวายที่ประดับประดาด้วยลูกไม้ และโบสีสวย มิได้บรรจุข้าวของเครื่องใช้แบบตะกร้าของขวัญทั่วๆไป หากแต่ตะกร้าหวายใบเล็กๆนี้เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระภิกษุสงฆ์ เช่น ยารักษาโรค อาหารแห้ง น้ำหวานสีแดง น้ำผลไม้ ผ้าอาบน้ำฝน

พี่ตุ่ย-อภิรมณ์ ชำนิบรรณาการ เจ้าของร้านยัวร์ฟลอริสต์ ผู้ริเริ่มไอเดียจับตะกร้าหวายวัสดุที่มีบรรจุเครื่องสังฆทาน แทนถังสีเหลืองที่มักเห็นกันอยู่ตามร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการจัดสังฆทานที่ไม่เหมือนใครว่า

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="220"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="220"> </td> </tr> </tbody></table></td> <td width="5"></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> “แรกเริ่มร้านเปิดบริการรับจัดดอกไม้ จำหน่ายเครื่องหอม น้ำอบไทย แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนชอบประดิษฐ์ และที่สำคัญคือไม่อยากยึดติดกับรูปแบบของภาชนะที่นำมาจัดชุดสังฆทานแบบทั่วไป(ถังสีเหลือง) จึงได้ลองจัดลงในตะกร้า กระเช้า และวัสดุอื่นๆ ที่พระสงฆ์น่าจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ลูกค้าเห็นก็เริ่มให้ความสนใจ จากนั้นมีลูกค้าที่ชื่นชอบในความแปลกใหม่มาสั่งให้จัดเรื่อยมา จนทุกวันนี้กลายเป็นสินค้าประจำร้าน”

พี่ตุ่ยเจ้าของร้านบอกว่า “ลูกค้าส่วนมากนิยมสั่งไปถวายพระผู้ใหญ่ จุดเด่นของสังฆทานร้านนี้คือ ลูกค้าสามารถกำหนดสิ่งของที่ต้องการให้จัดลงในสังฆทาน และยังสามารถนำสิ่งของที่ต้องการเพิ่มได้ เช่น น้ำผลไม้ น้ำหวาน อาหารแห้ง แต่ถ้าลูกค้าโทร. มาสั่งที่ร้าน ลูกค้าจะต้องแจ้งงบประมาณในการจัด เริ่มตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป

“ส่วนเรื่องรูปแบบสังฆทานทางร้านมีให้เลือกหลายแบบ แต่ต้องโทร. สั่งอย่างน้อง 2-5 วัน เพราะการจัดแต่ละครั้งต้องใช้ความประณีต ความยากอยู่ที่ตะกร้าหวายที่ต้องใช้เวลาในการตกแต่ง อีกทั้งยังต้องเลือก และใส่ใจกับข้าวของของที่นำมาบรรจุ

“ส่วนมากถ้าลูกค้าที่ไม่สั่งอะไรเป็นพิเศษ ทางร้านจะจัดชุดสังฆทานที่บรรจุเฉพาะสิ่งที่จำเป็น เช่น อาหาร ยารักษาโรค เครื่องดื่มที่พระสงฆ์สามารถดื่มได้ตลอดทั้งวัน และเครื่องนุ่งห่ม แต่หากลูกค้าต้องการจะใส่อะไรเพิ่มเติมเข้าไปก็ต้องแจ้งให้ทราบก่อน หรือสามารถโทรให้ทางร้านจัดตามต้องการ เรียกว่าเป็นสังฆทานตามสั่งก็ได้”

พี่ตุ่ยยังฝากแนะนำ ใครที่กำลังคิดที่จะถวายน้ำต่างๆ ในชุดสังฆทาน ควรถวายเป็นน้ำผลไม้ น้ำผึ้ง นม น้ำแดง เครื่องดื่มชงสำเร็จรูป ไม่แนะนำให้ถวายน้ำเขียว เพราะไม่ถือว่าเป็นน้ำปานะ

ร้านยัวร์ฟลอริสต์ ที่อยู่ ตรงข้ามตลาดประชานิเวศน์ โทร. 0-2954-2783-4

***********

จัดสังฆทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="310"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="310"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ข้าวของเครื่องใช้ที่สามารถนำมาจัดสังฆทานได้
- สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม
- ใบมีดโกน จำเป็นมากเวลาโกนศีรษะ
- ผงชักฟอก
- เครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมชง ขิงผง ชารางจืด มะตูม เก๊กฮวย (อย่าลืมดูวันหมดอายุ ก่อนซื้อ)
- ผ้าอาบน้ำฝน เลือกเนื้อผ้าหนาๆ หรืออาจเลือกเป็นสบง อังสะก็ได้
- หนังสือธรรมะ หนังสือเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม, สุขภาพ, ความรู้รอบตัวที่คิดว่า พระสงฆ์จะนำไปใช้ประโยชน์ได้
- ยาสามัญประจำบ้าน
- เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ รวมทั้งซองจดหมาย แสตมป์
- ไฟฉาย ถ่ายไฟฉาย เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัดในชนบท และวัดป่า
- จาน ชาม ช้อน ส้อม อาจตรวจดูว่าวัดนั้นๆ ต้องการจำนวนมากหรือไม่ จะได้จัดเป็นชุดใหญ่ถวายเป็นของสงฆ์ อาจเป็นเครื่องมือช่าง เช่น ค้อน ตะปู ไขควง รวมทั้งอุปกรณ์เกษตร และอุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ไม้กวาด ถังขยะ ที่ตักผง ของเหล่านี้สามารถถวายเป็นสังฆทานได้เหมือนกัน
- ของอื่นๆ ที่นิยมใส่ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาล เกลือ
ของที่ควรละในสังฆทาน (ควรหลีกเลี่ยงไม่นำมาประกอบสังฆทาน)
- บุหรี่ เครื่องดื่มชูกำลัง
- ผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุด้วยโฟม
- อาหารกระป๋อง เพราะมีสารกันบูด สารเคมี
- ใบชา เพราะพระสงฆ์ไม่ค่อยได้ชงฉัน ควรเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร
- น้ำอัดลม
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป</td></tr></tbody></table>

 

‘บุญ’ไซเบอร์
http://www.manager.co.th/MetroLife/V...=9510000057151
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">16 พฤษภาคม 2551 10:56 น.</td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"> ปลาปล่อย ดิลิเวอรี
ต่อชีวิตแบบส่งถึงที่

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="450"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ปากทางเข้าท่าน้ำเทเวศร์ ตลอดทางเดินริมคลองที่มุ่งหน้าสู่ท่าน้ำนี้เป็นที่ตั้งของบรรดาร้านขายต้นไม้ พันธุ์ไม้มากมายถูกจัดวางไว้หน้าร้านอย่างเป็นระเบียบ แต่จุดมุ่งหมายของเราวันนี้อยู่ที่ร้านสุดท้าย ร้านขายปลาปล่อยแห่งเดียวที่ตั้งเคียงคู่ท่าน้ำแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี

บริเวณหน้าร้านเรียงรายไปด้วยกะละมังใบใหญ่ ที่ถูกแปรสภาพให้เป็นบ้านสำหรับปลานานาชนิด เช่น ปลาหมอ ปลาไหล ปลาดุก ปลาช่อน ฯลฯ ฟองอากาศจากสายออกชิเจนทำหน้าที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิตกว่า 20 สาย มองผ่านๆร้านขายปลาปล่อยแห่งนี้คงไม่ต่างกับร้านขายปลาปล่อยทั่วไป แต่บริการที่น่าสนใจของร้านปลาปล่อยแห่งนี้อยู่ที่บริการเสริม ที่เรียกว่า ปลาปล่อยดิลิเวอรี

คุณเอ-สุภาวดี จามจรีกุล เจ้าของร้านปลาปล่อย ผู้ริเริ่มแนวคิดการบริการจัดส่งปลารูปแบบดิลิเวอรี เล่าว่า “เปิดร้านขายปลาปล่อยที่ท่าน้ำแห่งนี้ เป็นเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว แต่เดิมร้านนี้เป็นของพ่อสามี ที่เปิดแผงขายอยู่ในตลาด ส่วนไอเดียของรูปแบบบริการเสริมนั้นเริ่มมาได้ประมาณ 8 ปี โดยเกิดขึ้นมาจากลูกค้าที่เริ่มมีความคิดว่าอยากจะปล่อยปลาที่ท่าน้ำที่บริเวณอื่น และมีความรู้สึกว่ารูปแบบของการบริการปลาปล่อยทุกวันนี้ยังไม่ทั่วถึง”

ในช่วงแรกการบริการจัดส่งเริ่มต้นจากระยะทางสั้นๆ คือจากร้านไปยังท่าน้ำเทเวศร์ แล้วเริ่มขยายเส้นทางไปยังพื้นที่ไกล้เคียง และจัดส่งตามท่าน้ำต่างๆ อย่างท่านนท์ ท่าน้ำราชวงศ์ ท่าน้ำวัดเทวราช เรื่อยไปถึงเขตต่างๆ ในกรุงเทพฯ และปัจจุบันนี้สามารถส่งได้เกือบทั่วประเทศ

รายละเอียดของการส่งพี่เอเล่าต่อพร้อมรอยยิ้มว่า “ลูกค้าละแวกใกล้เคียงไม่เสียค่าส่ง ส่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลถ้าสั่งจำนวนมากทางร้านบริการจัดส่งให้ฟรี แต่ถ้าไม่มากอาจจะคิดค่าจัดส่งตามระยะทาง”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="330"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="330"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> การเดินทางของปลาในแต่ละครั้ง ถ้าระยะทางไกล หรือจำนวนมากจะจัดส่งโดยรถปิกอัพ หากระยะใกล้ และจำนวนน้อยมักใช้รถจักรยานยนต์ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว

ทางร้านนี้ยังมีบริการสำหรับผู้ที่ต้องการอยากปล่อยสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากปลา เช่น งูเห่า วัว กบ คางคก ไก่ขาว นก แต่กระซิบบอกไว้ก่อนว่า ต้องโทร. มาสั่งล่วงหน้า 2-3 วัน

“บางคนปล่อยจิ้งจก กับตุ๊กแก ไม่นานมานี้เพิ่งมาปล่อยงู เอาเป็นว่าต้องการปล่อยสัตว์ชนิดไหน ทางร้านยินดีบริการโดยจัดหามาให้”

คุณเอ กล้าการันตีขนาดนี้แล้ว ใครที่กำลังคิดที่จะปล่อยปลา หรือใครที่ไม่อยากปล่อยปลาท่าน้ำเดิมๆ ร้านคุณเอ ก็น่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือก วิธีการสั่งปลาร้านนี้ก็แสนง่ายแค่ปลายนิ้ว และใจที่บริสุทธิ์

ร้านคุณเอปลาปล่อย ท่าน้ำเทเวศร์
โทร. 08-3831-6477
เปิด 05.00-19.00 น. ไม่มีวันหยุด

********************

ความหมายในการปล่อยปลาแต่ละชนิด

ปลาบู่ : ทดแทนผู้มีพระคุณ
ปลานิล : ทรัพย์สินเพิ่มพูน
ปลาทับทิม : ทำอะไรราบรื่น
ปลาไน : ได้เป็นเจ้าคนนายคน
ปล่อยกบ : อุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
หอยขม : ทิ้งความขมขื่น
ตะพาบ : ภัยคุกคามต่างๆ จะราบ อายุมั่นขวัญยืน
ปลาหมอ : เพื่อสุขภาพ
ปลาดุก : ศัตรูคู่แข่งแพ้พ่าย
ปลาช่อน : ช้อนเงิน ช้อนทอง
ปลาสวาย : เงินทองคล่องตัว
ปลาจะละเม็ด : ได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ปลาดุกเผือก : ปลามงคล
หอยโข่ง : สะเดาะเคราะห์

คำอธิษฐาน การปล่อยสัตว์
ข้าพเจ้าชื่อ..................นามสกุล เกิดวันที่...........เดือน................พ.ศ. ..........อายุ..........ปี
ได้ปล่อยสัตว์.......................จำนวน.................ตัว
ปล่อยเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตนเอง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ศัตรู และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ตัวที่เป็นที่พึ่ง ขอให้นำความสุขและโชคลาภมาให้แก่ข้าพเจ้า
ตัวที่ให้กับศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร จงนำเอาสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์ เสนียดออกจากตัวข้าพเจ้า
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ขอให้แม่พระธรณี พระแม่คงคา เทพเทวา เจ้าที่เจ้าทาง และพญานาคราช
จงเป็นสักขีพยานรับทราบกุศลเจตนาของข้าพเจ้า และคุ้มครองชีวิตสัตว์ให้ปลอดภัยจนสิ้นอายุขัย
ด้วยอำนาจของกุศลผลบุญนี้ จงสะเดาะเคราะห์ร้ายของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นดี
มีความร่มเย็นเป็นสุข ประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนา
มีความเจริญก้าวหน้า มีชีวิตที่สดชื่น มีความสุขความเจริญ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญ

**************

ไหว้พระหน้าคอมพิวเตอร์
บูชาสงฆ์ในยุคไฮเทค

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นับตั้งแต่ผู้คนยอมรับอินเทอร์เน็ตเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กิจวัตรของเราก็ปรับแปรไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ในช่วงปีแรกของการอยู่ร่วมกับอินเทอร์เน็ต มนุษย์แทบทุกคนจะต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กอีเมล์หลังตื่นนอน แล้วสนทนากับผู้อื่นทั้งที่รู้จัก ไม่รู้จัก ผ่านโปรแกรมสนทนาที่ชื่อ MSN ไปตลอดทั้งวัน

เมื่อคนครึ่งโลกยอมล่ามตัวเองเอาไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เช่นนี้ ‘พุฒิวงศ์ บุษบวรรษ’ ชายผู้ยึดมั่นในทางธรรมที่พระพุทธเจ้าค้นพบก็ไม่คิดที่จะฝืนต้าน เขาตัดสินใจใช้องค์ความรู้ที่ได้เมื่อครั้งไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง มาสร้างเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่เรื่องราวข่าวสารในทางที่ดีงามให้สังคมร่วมรับรู้

“เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมทำเว็บชื่อ Smilesquare.com ซึ่งพูดถึงความดี 4 ด้านคือ คนดี กิจกรรมดี สถานที่ดี และความเชื่อที่ดี ช่วงนั้นผมทำงานประจำไปด้วย บางช่วงที่ต้องทำงานหนัก ผมไม่ได้มาดูเว็บ ทำให้มีคนเอาชื่อโดเมนไปใช้ ผมเลยต้องหาโดเมนใหม่ก็เลยเปลี่ยนชื่อมาเป็น Polyboon.com

“แล้วผมก็สร้างเซกชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า ‘โครงการผู้ก่อการบุญ’ ขึ้นมา ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 หมวดคือ ศีล ทาน และภาวนา โดยสโลแกน ของผู้ก่อการบุญคือ ละชั่วด้วยศีล ทำดีด้วยทาน จิตเบิกบานด้วยภาวนา”

‘ไหว้พระหน้าคอมพิวเตอร์’ คือห้องพระในกรอบจอที่มีโต๊ะหมู่บูชานับร้อยให้ไหว้กราบ พร้อมลูกเล่นอีกมากมายที่พุฒิวงศ์เขียนขึ้นจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังใช้โปรแกรมในเครื่องซีพียูคุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่

“คอนเซ็ปต์ของไหว้พระหน้าคอมพ์ คือ เสมือนว่าคุณนั่งอยู่หน้าพระ เราจึงจำลองกิจกรรมการไหว้พระมา จะมีการจุดธูปเทียน ถ้ากดปุ่มคำว่าจุดธูปเทียน ไส้เทียนจะมีเปลวไฟสว่างขึ้น ธูปที่ปักอยู่เฉยๆ จะกลายเป็นหัวสีแดง แล้วมีควันธูปลอยขึ้น

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> “แล้วเวลาคนไปไหว้พระก็อยากปิดทอง เราเลยทำทองคำเปลวแผ่นเล็กๆ ขึ้นมา 3 แผ่น ให้นำไปปิดองค์พระได้ สุดท้ายคือ การถวายดอกไม้ เราจะมีให้เลือกว่า ดอกบัว กล้วยไม้ กุหลาบ หรือพวงมาลัยดอกกุหลาบ กับพวงมาลัยดอกดาวเรือง ซึ่งคุณสามารถเอาเมาส์ลากไปใส่ในแจกันได้เลย”

มิเพียงแค่รูปพระบนโต๊ะหมู่บูชาที่จำลองมาได้สมจริง แต่ผู้ที่เลือกสักการะพระผ่านทางโปรแกรมนี้ยังสามารถฟังเสียงหรือท่องบทสวดด้วยตัวเอง จากบทสวดมนต์นับสิบที่เว็บไซต์แห่งนี้รวบรวมมา ทำให้มิติการไหว้พระเจริญภาวนาขรึมขลังและจริงจังขึ้น

“จริงๆ มันก็เป็นแค่ลูกเล่นที่ทำให้คนอินไปเท่านั้น เป้าหมายของเราจริงๆ คืออยากให้คนสวดมนต์ไหว้พระ ทุกอย่างมันอยู่ที่เจตนาครับ คุณไม่ต้องไหว้พระหน้าคอมพ์ก็ได้ ต่อให้คุณกราบหมอนที่ไม่มีรูปพระเลย แต่จิตคุณระลึกถึงพระพุทธ คุณก็จะได้บุญ ได้กุศลเท่ากับตอนที่คุณนั่งหน้าพระเหมือนกัน

“ตอนแรกๆ ก็มีคนมองว่า มันดูตลกหรือเปล่า ที่คนไปไหว้คอมพิวเตอร์ ผมก็อยากจะบอกว่า จริงๆ เราไม่ได้ไหว้คอมพิวเตอร์ เพราะคอมพิวเตอร์เป็นเพียงสื่อที่แสดงภาพพระเฉยๆ เราไหว้รูปพระพุทธที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ เหมือนเวลาคุณไหว้พระพุทธรูปที่เป็นโลหะ เป็นหิน หรือภาพโปสเตอร์ คุณก็ไม่เคยคิดว่าคุณไหว้ก้อนหิน ไหว้โลหะ หรือไหว้กระดาษ”

***************

เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อชีวิตเสมอไป เพราะในขณะที่โลกยุคดิจิตอลก้าวทะยาน ผู้คนกลุ่มใหญ่กลับใฝ่หาสิ่งที่เรียกว่า ‘จิตวิญญาณ’ กันมากขึ้น เพราะนอกจากเว็บไซต์ธรรมะที่มีอยู่ดาษดื่นแล้ว ล่าสุดยังมีผู้ประดิษฐ์เกมส์คุณธรรมขึ้นมาให้บรรดาคนชอบเกมส์ได้ร่วมสนุกอีกด้วย
เกมส์คุณธรรม เป็นฝีมือการคิดค้นและสร้างสรรค์โดยฝีมือคนไทย โดยแต่ละเกมส์ได้มีการแบ่งหมวดหมู่และเนื้อหาที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตและมุ่งเน้นปลูกฝังด้านคุณธรรมให้แก่สังคมไทย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและดาวน์โหลดเกมส์ได้ฟรีที่ http://www.khondee.net/game/game.html


**************

จีวรกันยุง ‘เมตตาธรรม’
อีกหนึ่งทางเลือกของการทำบุญ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="410"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="410"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ปี 2550 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของนักวิจัย และนักการตลาดสมองใส ที่นำเอาเทคโนโลยีมาผสานกับศาสนาได้อย่างลงตัว ในรูปแบบ ‘จีวรกันยุง’ ที่มีประสิทธิภาพกันยุงได้ถึง 97% โดยการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด เล่าถึงที่มาของจีวรกันยุงว่า “บริษัทได้ลงทุนวิจัย ร่วมกับสถาบันวิจัยพัฒนาสิ่งทอ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ไอแทป) โดยเริ่มจากการคิดค้น และผลิตเสื้อยืดกันยุง แต่เนื่องจากไม่สามารถขยายฐานทางการตลาด จึงได้มีการต่อยอด เพ่งไปที่ตลาดเครื่องนุ่งห่มของพระสงฆ์ เพราะไม่มีบริษัทใดริเริ่มนำเอาคุณสมบัติพิเศษนี้มาเพิ่มไปในจีวร”

เวลา 6 เดือนที่มุ่งมั่น เดือนมกราคม ปี 2551 ทีมผู้วิจัยค้นคว้า และนักวิจัย ก็ได้เฮ เมื่อบริษัทส่งจีวรกันยุงเวอร์ชัน 1 สู่ตลาดเป็นการออกมาสำรวจตลาด โดยมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนในเรื่องข้อผิดพลาด และแนะนำสินค้า โดยนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาปรับเพื่อพัฒนารูปแบบ และประสิทธิภาพในเวอร์ชันต่อไป

“เวอร์ชัน 1 เป็นรุ่นชิมลางโดยเริ่มจากการดึงจุดเด่นอย่าง ประสิทธิภาพในการกันยุงเป็นตัวนำเสนอ แต่เนื้อผ้ายังคงเป็นผ้าโทเรเหมือนจีวรทั่วไป ต่อมาเวอร์ชัน 2 ที่กำลังวางขายอยู่ในปัจจุบัน ได้มีการเพิ่มฝ้ายขึ้น 60 % เพื่อให้มีความนุ่ม และสวมใส่สบาย และสารเคลือบกันยุงจะเริ่มเสื่อมสภาพที่การซักประมาณครั้งที่ 20”

รูปแบบสินค้าแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ จีวรกันยุงสำหรับพระสงฆ์มหานิกาย และพระสงฆ์นิกายธรรมยุต โดยแตกต่างกันในเรื่องรูปแบบการตัดเย็บ มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีราชนิยม สีเหลืองทอง และสีแก่นขนุนหรือสีกรัก ราคาเริ่มตั้งแต่ 1,850-2,750 บาท

ปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายทุกจังหวัด โดยในต่างจังหวัดตั้งอยู่ในตัวเมือง ส่วนในกรุงเทพฯ แหล่งใหญ่ๆ จะอยู่ที่เสาชิงช้า สามารถสังเกตร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายได้ที่ป้ายตราสัญลักษณ์เมตตาคุณที่ติดอยู่ที่หน้าร้าน

เพื่อตอนรับเทศกาลเข้าพรรษานี้ บริษัทมีโครงการส่งจีวรกันยุงเวอร์ชัน3 ที่เน้นหนักเรื่องการตัดเย็บ และเวอร์ชัน4 ที่เพิ่มประสิทธิภาพ 6 in 1 ที่รวมความพิเศษทั้ง 6 เช่น ซับเหงื่อ แห้วเร็ว ระบายอากาศ และความร้อน ป้องกันรังสียูวี และกันยุง อีกทั้งยังเป็นจีวรที่เป็นผ้าฝ้าย 100%

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด โทร. 0-2840-5710-12
แวะเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ได้ที่ http://www.hydro-tech.co.th


**************

ทำบุญทันสมัย สไตล์ ‘พระมหาสมปอง’

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="220"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="220"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> มีเหตุผล 2 ประการที่ทำให้เราสนใจจะสนทนาเรื่องการทำบุญยุคใหม่กับ ‘พระมหาสมปอง ตาลปุตโต’ หนึ่งคือด้วยขวบวัยของท่านที่ใกล้ชิดคนรุ่นใหม่ เมื่อเทียบกับบรรดาสงฆ์ท่านอื่นๆ และสองคือด้วยทักษะด้านการบรรยายซึ่งถือเป็นอาวุธหลักในการเผยแผ่ธรรมะของท่าน

เราจึงมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า พระนักเทศน์หัวขบวนของกลุ่มธรรมะดิลิเวอรีท่านนี้ จะสามารถสื่อเนื้อสารธรรมเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่และไม่ผิดเพี้ยนไปจากแก่นสัจจะที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรุ่นไหน ฝักใฝ่ธรรมะขนาดไหน ก็ควรค่าแก่การอ่านบทสัมภาษณ์ถาม-ตอบบทนี้ทั้งสิ้น

ในปัจจุบันดูเหมือนว่าคนไทยส่วนใหญ่มองภาพว่า การทำบุญ ทำทาน หรือการเข้าวัดเป็นเรื่องของคนแก่ เป็นเรื่องล้าสมัย โบราณ เชย โดยส่วนตัวท่านพระมหาสมปองมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง?

“เรื่องนี้เราคงต้องมอง 2 มุมนะ หนึ่งก็ต้องมองมุมของวัยรุ่นหรือคนไทยส่วนใหญ่ก่อน ว่าทำไมเขาถึงมองว่า การทำบุญเข้าวัดเป็นเรื่องของคนแก่ โบราณและเชย ลองสวมวิญญาณของเขาดู ก็จะพบว่า เออ ถ้าสวมวิญญาณเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ แวนซ์บอย สก๊อยเกิร์ลทั้งหลายก็ต้องเห็นด้วยกับเขาว่ารูปแบบภาพลักษณ์มันเชย ไม่น่าเข้า ไม่น่าพิสมัย ไม่โดนในวัยโจ๋จริงๆ เด็กรุ่นใหม่เขาชอบไปวัดซับมากกว่า รู้จักวัดซับไหมโยม วัดซับ โย่ แมน วัดซับเหมียนน่ะ แล้วเราก็ต้องมามองในมุมพระหรือมุมผู้หลักผู้ใหญ่ว่า จะทำอย่างไรให้การทำบุญเข้าวัดเป็นเรื่องทันสมัย ถูกใจวัยโจ๋ได้”

“เราก็ต้องปรับรูปแบบนิดนึง ทำไมเขาเข้าห้าง เพราะมันเย็น มีของขาย มีหนังให้ดู มีที่ให้ผ่อนคลาย วัดวาอารามก็น่าจะมีมุมที่มันเย็นกาย สบายใจ พูดจาภาษาวัยรุ่นรู้เรื่อง ถ้อยคำให้ใกล้เคียงกับเขา ความห่างในความรู้สึกก็จะไม่มี ฉะนั้นภาษา วิธีการ เทคนิคเราก็ปรับปรุงนิดหน่อย เปิดใจเขาได้ หูเขาก็เปิด ตาเขาก็เปิด เขาจะได้เห็นว่าการทำบุญ ทำความดี เข้าวัดเข้าวาก็ทันสมัยได้เช่นกัน”

เราจะมีวิธีการทำบุญ ทำทาน สวดมนต์ ไหว้พระให้สอดคล้องไปกับยุคสมัยหรือทำให้ดูไม่เชยได้อย่างไร?

“จริงๆ ก็มีเยอะนะคุณโยม การสวดสรภัญญะ ก็ไพเราะเสนาะหู บทสวดมนต์ที่เป็นภาษาไทย เป็นร้อยกรอง เข้าใจง่ายก็มีแล้วนะ อย่าง อ. เสฐียรพงษ์ วรรณปก ท่านก็เอาไปทำบทสวดชินบัญชรไปประกอบดนตรีจนฟังไพเราะเลยนะ”

“เข้าวัดเข้าวามาทำบุญกับพระ ทำทานกับขอทาน คนพิการ ตาบอด หูหนวก คนที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แต่ก็ยังต่อสู้ บางคนบอกว่าเห็นอะไรแล้วเบื่อ ก็ต้องถือว่าเรายังดีมีตาให้เห็น คนขายลอตเตอรี่หลายคนไม่มีตาให้เห็น ทำงานเรียนหนังสือ เขียนมากเมื่อยมือเหลือเกิน ก็ดีใจเถอะที่มีมือให้เมื่อย หลายคนไม่มีมือให้เมื่อย เดินไปเดินมาเมื่อยขา โอ้ย ดีใจมีขาให้เมื่อย หลายคนไม่มีขาให้เมื่อย นั่งขอเงินจากเราอยู่ เห็นไหมเราเดินเข้าวัดมาได้ข้อคิดมากมาย”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="240"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="240"> </td> </tr> </tbody></table></td> <td width="5"></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> หากคนทั่วไปยังยุ่งอยู่กับการหาเช้ากินค่ำ เด็กวัยรุ่นติดเกมส์ ติดคอมพิวเตอร์ หรือเที่ยวผับเธค หลงแสงสีแล้วจะสามารถไปทำบุญ ทำทาน ทำกุศลได้อย่างไร?

“เด็กติดเกมส์ ติดคอมพิวเตอร์มันยากนะ เราก็ต้องหนามยอกเอาหนามบ่ง ฉะนั้นเราก็ต้องมีเกมส์ธรรมะ ล่าสุดอาตมาอ่านหนังสือพิมพ์เจอเกมส์ศีลห้า กำจัดมาร โอ้โห เกมส์ธรรมะก็มี เว็บไซต์ธรรมะก็มีมากมาย โดยเฉพาะ อะแฮ่ม เว็บไซต์ธรรมะเดลิเวอรี ดอต คอม ไม่ใช่ของใคร เว็บไซต์ของอาตมาเองแหละโยม(ยิ้ม)”

“เว็บไซต์ธรรมะก็อย่าให้มันเชยนะ มีแต่รูปวัดรูปพระอย่างเดียวก็ไม่ได้ ก็ต้องมีรูปร่างหน้าตาที่มันแจ่มๆ แหล่มเลย มีภาษาร่วมสมัย มีเรื่องหลากหลาย เพื่อให้วัยรุ่นเข้าใจง่าย แนะนำวิธีทำบุญที่ถูกต้องและเข้าใจได้ง่าย โดยไม่ต้องเข้าวัดก็ได้ เช่น ถ้าอยู่บ้าน เราก็รักษาศีลห้า”

“เพลงธรรมะก็มีมากมายนะ อย่างล่าสุดวงบุดด้า เบลส กำลังจะออก ‘เห็นพระเป็นโดเรม่อนหรือไง ไปขอพระให้เสกน้ำมนต์ จะรวยจะจนมันอยู่ที่ความอดความทน’ แหม บุดด้าเบลสนี่เขามีเพลง มีแสงสีแล้วยัง ให้ธรรมะด้วยนะ เห็นไหม ทุกวันนี้ธรรมะเข้าไปอยู่ในบทเพลง ธรรมะเข้าไปอยู่ในเกมส์ ธรรมะเข้าไปอยู่ในเว็บไซต์ อยู่ในทีวี อยู่ในหนังสือก็มีมากมายแล้ว”

“และเนื่องในวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญระดับโลก อาตมาก็อยากขอเชิญชวนให้สาธุชนทั้งหลาย คนหนุ่ม คนสาวมาอาบน้ำ แต่งตัว ละชั่ว ทำดี อาบน้ำก็คือเอากิเลสออกไป แต่งตัวก็คือทำความดี ทำบุญกุศล เพิ่มให้กับชีวิตเราในวันสำคัญทางพุทธศาสนาเช่นนี้ เจริญพร เจริญธรรม สุขสันต์วันวิสาขบูชาทุกคนทุกท่าน”</td></tr></tbody></table>

 

คุณหนุ่มครับ เพื่อให้อานิสงค์ของการร่วมบุญนี้ครอบคลุมไปที่ทุกบุคคลที่ได้ร่วมบุญสร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะนี้ให้ได้รับอานิสงค์ของการช่วยเหลืองานบุญผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งของพี่อ้อย และคณะลุล่วงไปด้วยดีนั้น ผมเห็นว่า ควรแก้ไขจากชื่อของผมเป็นชื่อ"บัญชีสร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะ"ครับ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ทุกท่านได้ร่วมด้วยช่วยกันมาตั้งแต่ต้นครับ

 

ขอบคุณครับที่เข้ามาช่วยกัน จะเอ่ยอ้างอย่างไรก็คงไม่เทียบเท่าบุคคลอื่นได้กล่าวแทนเจ้าตัวครับ

 

ผมและครอบครัวขอร่วมบุญค่าจัดส่งพระ 500 บาทครับ

 

อ่าวันนี้ไม่แน่ใจครับว่าใช่องค์ที่หกมั้ย ต้องกลับบ้านไปล้างคราบออกดูอีกครั้งครับ แต่ที่แน่ๆ พระฤาษีลำพูนนี่ ชัวร์อ่ะครับ แล้วดึกๆจะมาลงรูปคร๊าบ

 

IOD : หายนะจากมหาสมุทร
http://hilight.kapook.com/view/24048

​

เบื้องใต้มหาสมุทรอินเดียแผ่นน้ำใหญ่อันดับ 3 ของโลก ทิศเหนือติดกับตอนใต้ของทวีปเอเชีย ทิศตะวันตกติดกับคาบสมุทรอาหรับและทวีปแอฟริกา ทิศตะวันออกติดกับคาบสมุทรมลายู หมู่เกาะซันดา

และประเทศออสเตรเลีย ส่วนทิศใต้ติดกับมหาสมุทรใต้ มหานทีแห่งนี้กินพื้นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของผืนน้ำทั่วโลก และเป็นแหล่งกำเนิดมหันตภัยจากผืนน้ำนำหายนะอันน่าสะพรึงกลัวมาสู่ผู้คนบนพื้นโลก

"นาร์กีส" พายุไซโคลนจากอ่าวเบงกอลแห่งมหาสมุทรอินเดียอาจเป็นแค่สัญญาณเตือนภัย !
​

​

"ตำแหน่งที่เกิดพายุนาร์กีสเป็นบริเวณเดียวกับที่เกิดปรากฏการณ์ Indian Ocean Dipole และยังเป็นบริเวณเดียวกันกับที่ก่อพายุที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มใน จ.อุตรดิตถ์ เมื่อปี 2549" ดร.วัฒนา กันบัว ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาทางทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา ตั้งข้อสังเกต

Indian Ocean Dipole (IOD) คือ อะไร ?

Indian Ocean Dipole คือ ปฏิสัมพันธ์ของอากาศกับทะเลในมหาสมุทรอินเดีย เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับสภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์ Indian Ocean Dipole จะเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงขยายให้พายุมีความรุนแรงขึ้น
​

​

ตามสภาวะของ IOD เริ่มต้นจากการเย็นตัวลงอย่างผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลทางฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียเขตร้อน แถบบริเวณชายฝั่งชวา ประเทศอินโดนีเซีย เชื่อว่าเป็นผลมาจากลมสินค้าตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมที่พัดจากหย่อมความกดอากาศสูงบริเวณเส้นทรอปิก ออฟ แคบริคอร์น เข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเส้นศูนย์สูตรทวีความรุนแรง ขณะเดียวกันอุณหภูมิของผิวน้ำทะเลฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรอินเดียอุ่นขึ้นอย่างผิดปกติ

หมายถึงน่านน้ำสองฟากฝั่งของมหาสมุทรอินเดียมีสภาพความแตกต่างกันของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลอย่างชัดเจน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ IOD นั่นเอง !?!

"เมื่อดูจากโมเดล Indian Ocean Dipole พื้นที่สีฟ้าเป็นกระแสน้ำเย็น ส่วนสีแดงเป็นกระแสน้ำอุ่น ช่วงที่เป็น Positive Dipole หรือบวก มีการก่อตัวของเมฆเป็นพายุและเคลื่อนที่ไปในทิศทางหนึ่ง พออีกปีมันจะเป็น Negative Dipole หรือเป็นลบ ทิศทางการเคลื่อนที่จะเลื่อนลงด้านล่าง" ดร.วัฒนา อธิบายการเกิด IOD ความแปรปรวนที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดีย
​

​

ปรากฏการณ์ IOD ค้นพบโดยสถาบัน JAMSTEC ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยศึกษาสภาวะความแปรปรวนบางประการของมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2537 โดยเชื่อว่าปรากฏการณ์ IOD เกิดขึ้นจากความผิดปกติของลมพื้นผิวเหนือมหาสมุทรอินเดียเขตร้อน และเมื่อวิจัยต่อยอดก็สามารถพยากรณ์การเกิดปรากฏการณ์ IOD ได้สำเร็จ อีกทั้งยังพบว่าปรากฏการณ์ IOD มิได้มีความสัมพันธ์กับปรากฏการณ์เอ็นโซ่ (ENSO) ด้วย

เอ็นโซ่ (ENS0) เป็นคำที่ใช้อธิบายการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรและความผันแปรของระบบอากาศในซีกโลกใต้ ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดปรากฏการณ์ "เอลนีโญ่" และ "ลานีญ่า"

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์มักใช้คำว่า "สภาวะอุ่นของเอ็นโซ่" เพื่ออธิบายปรากฏการณ์เอลญีโญ่ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณตอนกลางและตะวันออกของแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรอุ่นขึ้นผิดปกติ ทางกลับกัน "สภาวะเย็นของเอ็นโซ่" ก็ใช้อธิบายปรากฏการณ์ลานีญ่าที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณตอนกลางและตะวันออกของแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรเย็นกว่าปกติ
​

​

หากช่วงปีที่เกิดปรากฏการณ์ IOD จะส่งผลกระทบต่อความแปรปรวนของมรสุมเขตร้อนและปริมาณฝนในกลุ่มประเทศต่างๆ ที่ตั้งอยู่รายรอบมหาสมุทรอินเดีย อาจเป็นสาเหตุของสภาพฝนตกหนักอย่างผิดปกติ ตั้งแต่บริเวณแอฟริกาฝั่งตะวันออกจนถึงเอเชียใต้ และตอนบนของคาบสมุทรอินโดจีน รวมถึงภาคเหนือและภาคกลางของไทยด้วย

ขณะเดียวกัน การเกิดสภาวะของ IOD เมื่อปี 2540 ยังเป็นสาเหตุในการเกิดปรากฏการณ์ ปะการังฟอกขาวตลอดแนวชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยเนื่องจากมวลน้ำส่วนหนึ่งถูกพัดพาไปทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย ทำให้ระดับน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งอันดามันลดต่ำลง รังสียูวีและอนุภาคโฟตอนจากแสงอาทิตย์มีโอกาสถ่ายทอดผ่านน้ำทะเลสู่ตัวปะการัง ทำให้สาหร่ายที่อาศัยอยู่บนปะการังตาย เช่นเดียวกับปรากฏการณ์สัตว์น้ำในแนวปะการังตายแถบ จ.กระบี่ จ.ตรัง และ จ.สตูล เมื่อต้นปี 2550 ก็คาดว่าเกิดจากสาเหตุเดียวกัน

ปรากฏการณ์ IOD หากเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาทางทะเลบอกว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการศึกษาและวิจัย ที่ผ่านมาเคยรายงานผลกระทบจากปรากฏการณ์ IOD ต่อความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยถึงผู้บริหารกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ปีที่แล้ว เพื่อหาแนวทางลดความเปราะบางต่อภัยธรรมชาติเมื่อคนไทยต้องเผชิญในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม มหันตภัยร้ายจากมหาสมุทรอินเดียในรูปของพายุจะพัดเข้าสู่พม่าและไทยเป็นประจำทุกปี
​

​

วันที่ 4 พฤษภาคม 2544 ดินถล่มที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ มีผู้ชีวิตและสูญหายร่วม 50 คน วันที่ 20 พฤษภาคม 2547 ดินถล่มที่ ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก มีผู้เสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บร่วม 400 คน และวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 อ.ลับแล อ.ท่าปลา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย และ อ.เมือง จ.แพร่ เกิดดินถล่มมีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 100 คน

โศกนาฏกรรมจากภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้นกับคนไทย อาจเป็นผลพวงจากปรากฏการณ์ Indian Ocean Dipole (IOD) จากมหาสมุทรอินเดีย เช่นเดียวกับโศกนาฏกรรมหมื่นศพในประเทศพม่าจากฝีมือ "นาร์กีส" อสูรร้ายแห่งมหาสมุทรอินเดียนั่นเอง

"แหล่งกำเนิดพายุจะเป็นตัวประเมินความรุนแรงของพายุได้ ซึ่งการเกิดพายุได้นั้นอุณหภูมิน้ำทะเลต้องอยู่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส พายุส่วนใหญ่จึงเกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกเยอะมาก หากมองถึงการเกิดพายุในบ้านเราก็เหมือนบอลโลกมี 4 ปีครั้ง บ้านเราพายุเกิดขึ้นไม่บ่อย เพราะอุณหภูมิน้ำทะเลสูงกว่าระดับที่จะก่อตัวเป็นพายุได้ แต่หากอุณหภูมิวิกฤติจนก่อให้เกิดพายุจะทวีความรุนแรงมากกว่า เพราะเมื่อพายุเคลื่อนผ่านน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงก็จะเป็นเสมือนน้ำมันเชื้อเพลิงในการสะสมพลังงานของพายุนั่นเอง" ดร.วัฒนาอธิบายการเกิดพายุ และชี้ชัดว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นของน้ำทะเลทำให้พายุมีความรุนแรงมากขึ้น

คล้ายๆ การเคลื่อนที่ของพายุหมุน "นาร์กีส" ซึ่งเริ่มก่อตัวเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2551 บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง ระยะเริ่มแรกนาร์กีสเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้าๆ และมีการสะสมพลังงานความร้อนแฝงจากมหาสมุทร ส่งผลให้พายุมีกำลังรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่วันที่ 29 เมษายน สภาพอากาศแห้งแล้งทำให้นาร์กีสอ่อนกำลังลง และเปลี่ยนทิศทางไปยังภาคตะวันออกของโลก ก่อนจะกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง โดยมีความเร็วลมสูงสุด 160 กม./ชม. และเพิ่มระดับเป็น 190 กม./ชม. ก่อนจะขึ้นฝั่งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี ประเทศพม่า คร่าชีวิตผู้คนนับแสนคนแต่ยังไม่ทำลายสถิติความรุนแรงของ "ไซโคลนโบลา" ที่เคยคร่าชีวิตชาวบังกลาเทศไปราว 5 แสนคน เมื่อ 38 ปีก่อน

IDO ปรากฏการณ์ความแปรปรวนของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรอินเดีย อาจเป็นปฐมเหตุแห่งการก่อกำเนิดพายุนาร์กีสและพายุอีกหลายๆ ลูกที่กำลังจะเกิดขึ้น

"พายุมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น มีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้เราต้องหันกลับมาดูว่า มีอะไรเปลี่ยนไป สิ่งแวดล้อม ป่าไม้ เปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะป่าไม้คือตัวรักษาสมดุลของธรรมชาติทุกรูปแบบ ตอนนาร์กีสขึ้นฝั่งที่พม่าเราต้องขอบคุณพม่า เพราะบ้านเขามีป่าไม้จำนวนมาก พายุจึงมาไม่ถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ทุกเดือนพฤษภาคมเป็นฤดูพายุที่ก่อตัวขึ้นบริเวณ Indian Ocean Dipole พอดี ตำแหน่งการเกิดพายุหรือเทรนด์การเกิดพายุเรารู้หมดแล้ว แต่เราจะเตรียมรับมืออย่างไร" ดร.วัฒนาตั้งคำถาม

มหันตภัยทางธรรมชาติหลากหลายรูปแบบกำลังถาโถมทำลายสรรพชีวิต เพียงเพื่อปรับสมดุลให้แก่โลก แล้วมนุษย์เคยสร้างสมดุลให้โลกใบนี้บ้างหรือเปล่า ?

พายุหมุนทั่วโลก

ในรอบ 62 ปี (พ.ศ.2488-2550) เคยเกิดพายุหมุนเขตร้อนระดับ 5 ซึ่งมีพลังทำลายสร้างสูงสุด 224 ลูก ดังนี้

- บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกตอนเหนือ มีซูเปอร์ไต้ฝุ่น ระดับ 5 มากที่สุดอันดับ 1 ของโลก ทั้งสิ้น 161 ลูก คิดเป็น 71.87%

- บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ มีเฮอริเคน ระดับ 5 รวม 26 ลูก คิดเป็น 11.60%

- บริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ มีไซโคลน ระดับ 5 รวม 11 ลูก คิดเป็น 4.91%

- บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกตอนเหนือ มีเฮอริเคน ระดับ 5 รวม 10 ลูก คิดเป็น 4.46%

- บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ มีไซโคลน ระดับ 5 รวม 9 ลูก คิดเป็น 4.01%

- บริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ มีไซโคลน ระดับ 5 รวม 4 ลูก คิดเป็น 1.78%

- บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกกลางตอนเหนือ มีเฮอริเคน ระดับ 5 รวม 3 ลูก คิดเป็น 1.33%

เมื่อกางแผนที่โลกออกมาจะพบว่า แหล่งกำเนิดพายุหมุนจะตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกมากที่สุด มีอัตราการเกิดพายุหมุนเฉลี่ย 30 ลูก (38%) มหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันออก 14 ลูก (17%) มหาสมุทรแอตแลนติก 9 ลูก (11%) มหาสมุทรอินเดียตอนใต้ฝั่งตะวันตก 8 ลูก (10%) มหาสมุทรอินเดียตอนใต้ฝั่งตะวันออก และมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ 7 ลูก (9%) เท่ากัน อ่าวเบงกอล 4 ลูก (5%) ทะเลอาหรับ 1 ลูก (1%)

ย้อนมาดูสถิติการเกิดพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในคาบ 57 ปี (พ.ศ.2494-2550) รวม 182 ลูก เช่น เมษายน 1 ลูก พฤษภาคม 7 ลูก มิถุนายน 7 ลูก กรกฎาคม 12 ลูก สิงหาคม 20 ลูก กันยายน 45 ลูก ตุลาคม 51 ลูก พฤศจิกายน 30 ลูก และธันวาคม 9 ลูก

เป็นไปได้หรือไม่ ? ที่ปรากฏการณ์ IOD มิได้เกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดียเท่านั้น แต่ IOD ซึ่งเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงของพายุกำลังก่อตัวขึ้นทั่วโลก ในอนาคตพายุหมุนเขตร้อนอาจไม่ใช่แค่พายุดีเปรสชัน พายุโซนร้อน แต่จะทวีความรุนแรงเป็นพายุไซโคลน พายุไต้ฝุ่น พายุเฮอริเคน เกิดขึ้นถี่และรุนแรงเพิ่มขึ้นทั่วโลก !!!



ข้อมูลจาก

ทีมรายงานพิเศษ : เรื่อง
ศูนย์ภาพเนชั่น : ภาพ​

 

.




รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตร)

1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า
3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร)
4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี)
5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปาน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด วัดโอภาสี กรุงเทพฯ)


โดยปกติที่เห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรกันทั่วๆไปนั้น จะเป็นรูปของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)ครับ

วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร<o></o>​

จะเป็นภาพถ่ายหรือรูปหล่อของหลวงปู่ท่าน หรือพระพิมพ์ที่หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานจิตไว้ย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น หลวงปู่ท่านโปรดผู้ประพฤติอยู่ในศีลธรรม ชอบอาหารมังสะวิรัติ ชอบฟังคำสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ชอบบูชาด้วยดอกมะลิสด น้ำฝน 1 แก้ว เทียนหนักหนึ่งบาท 1 คู่ ธูปหอม 5 ดอก (คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้าหรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปานหรือหลวงพ่อโอภาสี วัดโอภาสี บางมด) ) การปฏิบัติธรรมสังวรณ์ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประกอบด้วยศีล 5 เป็นอย่างน้อย ย่อมเป็นสิ่งพึงพอใจของหลวงปู่และทั้งยังให้ความสุชความเจริญทั้งคดีโลกและคดีธรรมแก่ผู้ปฏิบัติ

สำหรับพิมพ์อรหันต์ พิมพ์ปิดตา และพิมพ์มหากัจจายนะซึ่งเป็นองค์เดียวกันแต่ปางต่างกันหากจะอาราธนาอย่างพิศดารก็ย่อมกระทำได้ กล่าวคือพิมพ์อรหันต์ใหญ่ พิมพ์อรหันต์กลางและพิมพ์อรหันต์น้อย อยู่ในหมวดพระมหากัจจายนะรูปงามซึ่งเป็นรูปเดิมก่อนการอธิษฐานวรกายให้ต่อท้ายด้วยคาถาดังนี้

พิมพ์อรหันต์
อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม
(เชยยะ อ่านว่า ไชยะ ; รูปะวะระ แปลว่า รูปงาม)
*** โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม ***

สำหรับสำหรับพิมพ์พระปิดตาซึ่งเป็นปางอธิษฐานวรกายให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วยพระคาถาต่อไปนี้
พิมพ์พระภควัมปติ(ปิดตา)
ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
*** โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***

สำหรับพิมพ์พุงพลุ้ยที่นิยมเรียกกันว่า พระสังกัจจายน์ คำนี้ไม่มีศัพท์นี้ในภาษาบาลี ที่ถูกต้องคือ พระมหากัจจายนะ เถระเจ้าอัน
เป็นปางหลังจากที่นิมิตวรกายแล้ว ให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วย พระคาถาต่อไปนี้
อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
***โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***
จะเห็นว่าตัดเอาคำว่า รูปะวะระออกไปเพราะสิ้นความงดงามแล้ว

พระพิมพ์ของคณะพระเทพโลกอุดรนั้นทุกรูปแบบทุกพิมพ์ทรงมีอานุภาพครอบจักรวาล อาราธนาทำน้ำมนต์ประสิทธิ์ยิ่งนัก โดยให้นำเอาพระแช่ในภาชนะที่บรรจุน้ำเรียบร้อยแล้ว บูชาด้วยดอกไม้ จุดธูปเทียน แล้วอธิษฐานตามความมุ่งหมาย เสร็จแล้วให้รีบนำพระขึ้นเช็ดน้ำด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด ผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปบรรจุตลับ องค์พระจะไม่ละลายลบเลือนและไม่ควรแช่ในน้ำนานเกินควร จงทะนุถนอมให้จงดี เพราะหาไม่ได้อีกแล้ว

สำหรับท่านที่มีพระอันเป็นทิพยสมบัติอันทรงคุณค่า โดยได้รับสืบทอดมาจากบรรพชนหรือได้รับจากทางใดทางหนึ่งก็ตาม เสมือนมีแก้วสารพัดนึกอยู่กับตัว ไม่จำเป็นต้องขวนขวายในอิทธิวัตถุอื่นอีก<o></o>

วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร

คำบูชาบรมครูพระโลกอุดร
นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯลฯ ( 3 จบ )<o></o>
โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร ปฎิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรา นุสาสะโก โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต อิฐะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ ปะระมะสาริกะธาตุ วะชิรัญจา ปิวานิตัง โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง เวเรนะ สุภาสิตัง โลกุตตะโร จะ มหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา มะหาเถรา นุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

บทสวด แบบย่อหรืออาราธนาพระพิมพ์ (ได้ทุกทรงพิมพ์)<o></o>
โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
หรือภาวนา ๓ จบ , ๗ จบ , ๙ จบ (เช้า-เย็น ตื่นนอนและก่อนนอน)<o></o>
โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ

หมายเหตุ : บทความที่นำมาเสนอนี้ได้รับการอนุญาตในการคัดลอกและเรียบเรียงเพื่อเผยแพรเป็นวิทยาทานจากท่าน อาจารย์ ประถม อาจสาครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นพระคุณและความกรุณาอย่างยิ่ง

ผมขอเสริมนะครับ ท่านสามารถอาราธนาเป็นภาษาไทย ได้นะครับ ถ้ายังจำบทสวดของท่านไม่ได้ครับ

ท่านที่ห้อยพระหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่ท่านเมตตาเสกให้นั้น หากมีความจำเป็นที่ต้องไปในสถานที่อโคจรทั้งหลาย ผมมีบทสวดที่ใช้ในการนี้มาฝากทุกท่านครับ

ก่อนที่จะเข้าไปในสถานที่อโคจรให้สวด อิติภะคะโว
กลับออกมาจากสถานที่อโคจรให้สวด โสภะคะวา

หรือก่อนที่จะเข้าไปในสถานที่อโคจรให้สวด อะระหัง
กลับออกมาจากสถานที่อโคจรให้สวด หังระอะ


สำหรับท่านที่ได้บูชาพระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตไว้ให้นั้น ผมขอเรียนชี้แจงให้ทราบกันนะครับว่า การวางพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลต่างๆ ต้องวางไว้ในที่เหมาะสม ควรใช้พวงมาลัยไว้พระพิมพ์ (เป็นการไหว้หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร และเทวดาผู้ที่รักษาพระพิมพ์) พวงมาลัยที่ใช้ไหว้นั้น ต้องเป็นพวงมาลัยที่มีดอกรัก ,ดอกมะลิ ,ดอกกุหลาบ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ห้ามใช้พวงมาลัยที่เป็นดอกดาวเรืองโดยเด็ดขาด ส่วนการวางพวงมาลัย ควรหาพานมาเพื่อใช้ในการวางพวงมาลัยครับ<o></o>

หากท่านใดที่ได้ทำบุญไม่ว่าจะเป็นการทำบุญเรื่องอะไรก็ตาม ควรที่จะกรวดน้ำให้กับผู้เสก,ผู้สร้าง และเทวดาประจำองค์พระพิมพ์ด้วยทุกๆครั้งนะครับ<o></o>
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->
**************************************************

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr valign="bottom"><td></td> <td> </td> <td width="100%">palungjit.org > พุทธศาสนา </td> </tr> <tr> <td class="navbar" style="font-size: 10pt; padding-top: 1px;" colspan="3"> ข่าวพุทธศาสนา </td></tr></tbody></table>สารคดีสำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง"รายการตัวจริงเสียงจริง ช่อง5"

http://palungjit.org/showthread.php?t=128864

<table id="post1204558" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 16-05-2008, 12:18 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> พสภัธ <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1204558", true); </script>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:15 AM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: //////////////
ข้อความ: 3,697 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 369 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 33,708 ครั้ง ใน 3,652 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 3504


</td> <td class="alt1" id="td_post_1204558" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- icon and title --> สารคดีสำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง"รายการตัวจริงเสียงจริง ช่อง5"
<hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> วันพุธ ที่21.พ.ค 2551 เวลา 15.5น "รายการตัวจริงเสียงจริง"

เชิญชม...สารคดีสำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง มาชื่นชมยินดีในความดีทั้งหมดที่พวกเราชาว"พลังจิต" ได้ช่วยเหลือสำนักสงฆ์ ของพวกเราที่ได้อนุเคราะกันมาครับจนมีวันนี้...สาธุ
<!-- / message --> <!-- sig -->
____________________________________________________________

toe
ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร​

</td></tr></tbody></table>

 

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </td> <td class="thead" width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, Komodo</td></tr></tbody></table>
เป็นไงบ้างครับน้อง Komodo
.

 

ลูกอมนี้ สร้างเมื่อปีที่แล้ว แต่มี "ผงอ่อนใจรัก" ที่ท่านอาจารย์ประุถม อาจสาคร ได้ลบตามสูตรของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ที่ได้รับการถ่ายทอดจาก ท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

ที่สำคัญ พระจิตรลดา ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น มี "ผงอ่อนใจรัก" อยู่ด้วยเช่นกัน (ทั้งหมด 7 แท่ง)

.

 

ส่วนท่านที่ถามมาที่ pm ผม
ไว้ผมจะมาตอบหน้าบอร์ดให้อีกครั้งนะครับ

.

 

คุณน้องนู๋ครับ สงสัยเรา ๒ คนท่าจะมีวาสนากับพระกรุลำพูนนี้นะครับ วันนี้ผมได้พระฤาษียุคแรกทันสมัยพระแม่จามเทวีมารวม ๕ องค์ เนื้อดินเผาแกร่งได้ที่กลายเป็นหิน และที่สำคัญได้พระสามหอมมาด้วยในคราวเดียวกัน ไม่คิดว่าทำบุญอุทิศถวายพระแม่ท่านบ่อยๆจะได้"พระโบราณ"มาในวันนี้ เอาไว้จะนำภาพมาให้ชมกันครับ...

 

รับทราบค่ะ

ขอบคุณมากคะและขออนุโมทนาสาธุกับ คุณSithiphongนะคะ(good)