พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1215400#post1215400

    งานบุญ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ


    ชุดพิเศษ 2

    1.ครั้งแรกในเดือน มกราคม 2550
    ผมนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก การอาราธนาพระบารมี พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
    ซึ่งผมเรียกพระพิมพ์ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนี้ว่า พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2


    2.ครั้งที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
    ผมนำพระพิมพ์เข้าพิธีพุทธาภิเษก การอาราธนาพระบารมี พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์
    ซึ่งผมเรียกพระพิมพ์ที่นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งที่สองว่า พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2


    [​IMG]
    พระปิดตาวังหน้า(หลังแบบ)
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 2 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) หมดแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จวังหน้า
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว


    [​IMG]
    พระสมเด็จวังหน้า
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเกสรซ์ จอง 1 องค์) หมดแล้ว โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว



    [​IMG]
    พระสมเด็จหลังเบี้ย
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ โอนเงินแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ ส่งพระพิม์แล้ว
    (คุณวินัยธร จอง 1 องค์) หมดแล้ว โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จไกเซอร์
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca2101 จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อกรมท่า)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) หมดแล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว ) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อปัญจสิริ)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณkwok จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว รับพระแล้ว
    (คุณพรสว่าง 2008 จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca 2101 จอง 1 องค์) หมดแล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จ(เนื้อปัญจสิริ)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 7 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 6 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 5 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณwood6208 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์
    (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณonimaru_u จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)



    [​IMG]
    พระปิดตาวังหน้า(สองหน้า)
    พระปิดตาวังหน้า สีดำ/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    พระปิดตาวังหน้า สีขาว/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca 2101 จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระปิดตาสี่กร (เนื้อปัญจสิริและเนื้อกรมท่า)
    พระปิดตาสี่กร เนื้อปัญจสิริ/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว (รอส่งเพิ่มเติม) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณkwok จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว รับพระแล้ว
    (คุณเทพารักษ์ จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) หมดแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) โอนเงินแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว


    พระปิดตาสี่กร เนื้อกรมท่า/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว(รอส่งเพิ่มเติม) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเทพารักษ์ จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) หมดแล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักแดงหรือชาด)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 10 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 9 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 8 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 7 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณonlyboon จอง 1 องค์) คงเหลือ 6 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณพรสว่าง 2008 จอง 1 องค์) คงเหลือ 5 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณofferrer จอง 1 องค์ ผมเลือกให้) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 2 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว


    หมายเหตุ
    1.คุณพรหมประกาศิต ร่วมทำบุญ 5,000 บาท
    2.คุณลูกลพ.เขาสาริกา ร่วมทำบุญ 2,000 บาท (ขอรับพระผงยาวาสนา 1 องค์)
    3.คุณseata<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_", true); </script>ร่วมทำบุญ 200 บาท (ขอรับผ้ายันต์ครอบจักรวาล )


    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

    หมายเหตุ 3 หากผมลงรายละเอียดการทำบุญ(ไม่ว่าจะลงชื่อท่านผู้ร่วมทำบุญ ,การส่งพระพิมพ์ หรือจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญ ฯลฯ)

    พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอ และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง และช่างราษฎร์ทุกๆท่านครับ

    ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านผู้อ่านทุกๆท่าน

    ผมมีรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ( หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) อธิษฐานจิตทั้ง 5 พระองค์) อยู่จำนวนหนึ่ง

    และผมมีผ้ายันต์ครอบจักรวาล (รายละเอียดด้านล่าง) อยู่จำนวนหนึ่ง

    ซึ่งท่านที่ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ที่มีความประสงค์ที่จะขอรับไว้เพื่อบูชา โปรดแจ้งมาให้ผมทราบด้วยนะครับ

    ส่วนรายละเอียดเรื่องของผ้ายันต์ครอบจักรวาล ตามนี้ครับ
    เชิญร่วมบุญผ้ายันต์ครอบจักรวาลรุ่นพิเศษเพื่อแจกจ่ายผู้ปฎิบัติงานใน 3 จังหวัดภาคใต้
    http://palungjit.org/showthread.php?p=583434
    http://www.palungjit.org/board/showt...434#post583434
    [​IMG]

    เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพิธีพุทธาภิเษก วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2550<o>:p</o>:p
    กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้<o>:p</o>:p
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล โพสที่ 6010 หน้าที่ 601<o>:p</o>:p
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล โพสที่ 6034 หน้าที่ 604<o>:p</o>:p
    สำเร็จลุน โพสที่ 6138 หน้าที่ 614<o>:p</o>:p
    พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) โพสที่ 6139 หน้าที่ 614<o>:p</o>:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6140 หน้าที่ 614<o>:p</o>:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6141,6142,6143 หน้าที่ 615<o>:p</o>:p
    พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) โพสที่ 6176,6178,6179,6180 หน้าที่ 618<o>:p</o>:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6181,6182,6183,6184,6185 หน้าที่ 619<o>:p</o>:p
    พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน) โพสที่ 6186,6187,6188 หน้าที่ 619<o>:p</o>:p
    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) โพสที่ 6189 หน้าที่ 619<o>:p</o>:p

    ผ้ายันต์ครอบจักรวาลนี้ ได้รับการอธิษฐานจิต จาก หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ,สำเร็จลุน พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม ,พระครูวิหารกิจจานุการ(หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค) พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) , หลวงปู่สุภา กันตสีโล

    โมทนาสาธุครับ<o>:p</o>:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ โชคชัยชนะ [​IMG]
    สำหรับผ้ายันต์ครอบจักรวาล ที่จะมอบให้กับท่านที่ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ถ้าหากว่า งานสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเสร็จเรียบร้อย หรือผมเห็นว่า สมควรที่จะยุติการมอบผ้ายันต์ ผมก็จะไม่นำมามอบให้อีกนะครับ เป็นผ้ายันต์ที่รวมองค์ผู้อธิษฐานจิตไว้ถึง 3 สาย ซึ่งไม่ธรรมดาครับ

    สำหรับการมอบผ้ายันต์ให้กับทหารๆ ที่ผ่านมา เท่าที่ตรวจสอบมานั้น ยังไม่มีผู้ที่ได้รับอันตรายเลยครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    </td></tr></tbody></table>
    อย่าลืมแจ้งมานะครับ สำหรับท่านที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งทุกๆท่านครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร
    บช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5
    บัญชี รร.
    พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง
    บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม


    http://palungjit.org/showthread.php?p=1228790#post1228790
    http://palungjit.org/showthread.php?t=57546&page=84


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พสภัธ [​IMG]
    โต(กุมารน้อย) เช้ามืดนี้..หลังจากสวดมนต์เจริญพระกัมมัฏฐานแล้วก็เข้ามารายงาน..ข่าวสารต่างๆ ของสำนักเรียนให้สมาชิกได้รับทราบ..อินเตอร์เน็ต (ในสมัยใหม่) การสื่อสารทำได้ทันใจ..สำนักเรียนบ่อเงินบ่อทอง..ก็ต้องอาศัยช่องทางนี้แหละในการ..แจ้งข่าวสารต่างๆ ให้ทุกท่านได้รับทราบ...อาตมาเอง..บ้างครั้งก็ขี้เกลียด..ไม่ได้เข้ามาตอบกระทู้..ทั้งๆ ที่ช่องทางนี้สดวกและก็สบาย..ไม่ต้องเดินทางไปหาโยมเพื่อบอกบุญต่างๆ ...คุณสิทธิพงษ์ เป็นผู้ขยันในการเข้ามาดูแล..และตอบกระทู้ (เพราะทุกครั้งที่เข้ามาก็เห็นอยู่ประจำ) ทำให้การสงเคราะห์ศึกษาของสำนักสงฆ์ ยังมีสมาชิกเข้ามาดู (ไม่ปล่อยให้เป็นหมัน) ขอแสดงความชื่นชมและอนุโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง...
    เมื่อวันที่ 22 พ.ค. คณะของคุณโยมชนกนาถ จากกรุงเทพได้เดินทางมาทำบุญ...คุณโยมท่านนี้..เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดท่าซุง (พ่อเดียวกัน) ท่านเป็นผู้ที่มีศรัทธามาก..ตั้งแต่รู้จักที่นี่และได้เดินทางมา..เพื่อทำบุญสงเคราะห์การศึกษาของพระเณร...ทั้งสิ่งของและปัจจัยที่สร้างสิ่งต่างๆ เป็นจำนวนเงิน 6-7 แสนบาทกว่าแล้ว...พระ อ. บอกว่าถ้าเป็นลูกหลานพ่อเดียวกัน ก็ไม่ต้องมีวิธีรีตรองมากนัก ทำบุญง่ายๆ พระ อ. บอกว่าคุณโยมท่านนี้น่าจะมีญาณวิเศษ..(เจโตปริยญาณ) ท่านจึงบอกพระเณรให้เรียบร้อยในการเจริญศรัทธา..เพราะจะได้อาศัยคุณโยมช่วยสงเคราะห์อีกยาวไกล...
    ในปัจจุบันนี้สามเณรที่เรียนหนังสือปีการศึกษานี้ประมาณ 120 รูป...อยู่ประจำทั้งพระเณรเกิบ 80 รูป นอกนั้นก็มาเรียนตอนเช้าตอนเย็นก็เดินทางกลับ..(ก็ทุนค่าใช้จ่ายภายในส่วนหนึ่ง) เทอมนี้ก็หนักขึ้นอีกเท่านตัวในการใช้จ่าย..ในปัจจุบันก็ยังไม่หนักเกินกำลัง (เปิดเทอมผ่านไปแล้วก็เบาลง) พระ อ. ท่านยังไม่บ่นให้ทราบก็ถือว่า..ท่านยังพอไหวอยู่
    (เพราะนิสัยท่านชอบโวยวาย)ประเดี๋ยวเดียวก็เลิกแล้ว...ใครพูดถูกใจละก็..ให้เขาหมดตัวเลย...(ใจง่าย) ตอนนี้ครูอาจรย์บอกห้องคลังว่า..อย่างยอดมากให้พระ อ. ท่านทราบนา..ประเดี๋ยวท่านก็เอาไปถวายวัดอื่นหมด..เพราะตอนนี้เรามีภาระอีกสำนักเรียนหนึ่งที่มาอยู่ด้วย...คุณโต..ช่วยอบรมณ์พระ อ. บ้างนาเพราะท่านชอบช่วยชาวบ้าน..แต่ถ้าสิ่งของหมดละก็จะบำบาก...ตอนนี้ข้าวก็แพงโยมซื้อมาถวายน้อยลงมากๆ เลย...กลับอาศรมก่อน..นะ..จ๊ะ...ต้องไปโปรดสัตว์ก่อน...สาธุ..สาธุ..สาธุ

    </td> </tr> </tbody></table>

    กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2008
  4. เทพารักษ์

    เทพารักษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +980
    ขอจองร่วมทำบุญค่ะ

    :) ขอร่วมทำบุญ จำนวน 2,000 บาท ถ้าโอนเงินเรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ :)

    :) ขอบคุณมากค่ะ :)

    *****************************************


     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภัยจากการหลงลืม
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, sans-serif] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td valign="top"> [​IMG]</td> <td valign="top">
    </td> <td valign="top">
    ภัยจากการหลงลืม

    ‘ลืม’ ดูเป็นคำแก้ตัวง่ายดายที่สุดที่สามารถทำให้เจ้านายเลือดขึ้นหน้าได้ง่ายๆ ใครๆ คงไม่อยากลืมในเรื่องที่ไม่ควรลืม แต่บางครั้งอาการลืม ป้ำๆ เป๋อๆ ของคนหนุ่มแน่นอย่างเราอาจส่อถึงภัยบางอย่างที่เราอาจนึกไม่ถึง ข้อมูลจากนายแพทย์ปราโมทย์ ชูดำ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง บอกกับเราว่า “อาการขี้ลืม เป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา หากเป็นในผู้สูงอายุ มักเกิดจากการเสื่อมถอยของสภาพสมองตามกาลเวลา แต่หากบางคนมีอาการหลงลืมมากๆ จนก่อให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิต อาจสันนิษฐานได้ว่า เกิดจากโรคสมองเสื่อมซึ่งเป็นการเสื่อมของสมองซึ่งไม่ได้เกิดจากความชราหรือการเสื่อมตามกาลเวลา สาเหตุที่ทำให้เกิดสมองเสื่อมก็มีได้หลายประการ เช่น ศีรษะถูกกระแทก โรคหลอดเลือดสมอง โรคติดเชื้อในสมอง การขาดสารอาหารบางชนิด เนื้องอกในสมอง หรือแม้กระทั่งการป่วยโรคทางอายุรกรรม เช่น โรคไต โรคตับ โรคไทรอยด์ ก็อาจส่งผลต่อการทำงานของสมองได้ด้วยครับ” แล้วขนาดไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ
    </td></tr></tbody></table>
    [/FONT]
    [/FONT]

    “ผู้ป่วยจะหลงลืมชนิดที่เรียกว่าที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น โดยมากคนปกติมักจะจำได้ทีหลังว่าลืมเรื่องอะไรหรือรู้ตัวว่าลืม แต่การหลงลืมเนื่องจากการเสื่อมของสมอง จะลืมโดยไม่ทราบว่าตัวเองลืม เช่น กินข้าวแล้วบอกว่ายังไม่ได้กิน วางของไว้บนโต๊ะแล้วบอกว่าไม่ได้วาง นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจที่แย่ลง มีปัญหาในการคิดรวบรวม ขาดการคิดริเริ่ม มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด เช่น บางคนเคยร่าเริงก็กลับเศร้า เบื่อ กังวล บางคนมีอาการหงุดหงิด ระแวง หรือแยกตัว เมื่อเป็นนานเข้า ผู้ป่วยจะเสียการสำนึกระลึกรู้ตัว (Insight) และวิจารณ-ญาณตัดสินใจ (Judgment) จนในที่สุดจะดูแลตัวเองไม่ได้


    “การรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การลดความระแวงและความทรมานของผู้ป่วย ลดภาระของญาติที่ต้องดูแล ซึ่งมีทั้งการให้ยาเพื่อเพิ่มความจำและการให้ยาจิตประสาทขนาดอ่อน เพื่อทำให้อาการทางจิตทุเลาลง โดยยาช่วยความจำก็มีผลช่วยลดอาการทางจิตได้ด้วย เนื่องจากการมีความจำดีขึ้นจะทำให้ผู้ป่วยทำความเข้าใจต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น”
    ปัจจุบันเราอนุมานว่านักการเมืองไทยหลายท่านเป็นโรคนี้ ทั้งแบบรู้ตัวและแกล้งไม่รู้ตัว อย่างไรเสีย เพื่อความเจริญของประเทศ น่าจะปรึกษาแพทย์เป็นการดีครับ



    ขอขอบคุณข้อมูล : บริษัท เอไซ (ประเทศไทย) มาร์เก็ตติ้ง จำกัด นายแพทย์ปราโมทย์ ชูดำ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง

    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มรณานุสติ : เรียนรู้ความตายอย่างมีสติ

    http://hilight.kapook.com/view/24298

    [​IMG]
    [​IMG]

    เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม

    จากข่าวภัยพิบัติอันเป็นผลพวงความรุนแรงของพายุไซโคลน นาร์กีส ที่พัดเข้าถล่มแผ่นดินพม่า ทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ไม่แยกแยะและละเว้นว่าสิ่งนั้นจะเป็น คน สัตว์ หรือสิ่งของ ภาพแห่งความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลายราบแบบที่เรียกว่าพังพินาศไม่มีชิ้นดี ต้นไม้ใหญ่ที่ถูกหักโค่นลงประหนึ่งเหมือนต้นหญ้าเล็กๆ ที่ถูกถอนขึ้นจากดิน สัตว์เลี้ยงน้อยใหญ่พากันล้มตายกลาดเกลื่อน รวมถึงภาพของพลเมืองชาวพม่าที่ได้รับผลกระทบแห่งความรุนแรงครั้งนี้อย่างแสนสาหัส คงอยู่ในความทรงจำของใคร ๆ หลายคน

    บางคนไร้บ้าน หมดสิ้นทรัพย์สมบัติ …
    บางคนบาดเจ็บ ร้องขอการช่วยเหลือ …
    บางคนรอด แต่กลับสูญสิ้น พ่อแม่ พี่น้อง …
    และบางคน … เหลือแต่เพียงร่างเป็นอนุสรณ์ ให้อยู่ที่อยู่เบื้องหลังรับรู้ถึงความหายนะที่เกิดขึ้น ในเหตุการณ์ครั้งนี้


    สำหรับประเทศไทย ครั้งนี้อาจเป็นความโชคดีที่เราได้รับผลกระทบไม่มากเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ประเทศพม่า เพื่อนบ้านของเรา แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะรอดพ้นทุกครั้งหากเกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันอย่างนี้ในอนาคต

    การมีสติเตรียมพร้อมและตั้งรับกับความหายนะและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นทุกช่วงขณะ ไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สินเงินทอง พี่น้อง ของรัก หรือแม้กระทั่งลมหายใจของตนเอง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อฝึกให้เราได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิต เรียนรู้ที่จะกระทำสิ่งอันเป็นที่ถูกที่ควรตามครรลอง และใคร่ครวญคุณค่าของการได้เกิดมามีวิถีชีวิตบนวัฏจักรของโลกใบนี้ เพราะไม่ใครรู้ว่า ความตาย จะมาเยือนเราเมื่อไหร่ การมีสติตั้งรับกับความตาย หนึ่งในวิถีแห่งชีวิต จึงเป็นสิ่งสามัญธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ อย่างหลีกหนีไม่ได้ …

    [​IMG]
    ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนของการเรียนรู้ คุณค่าของความหมายของการเจริญ มรณานุสติ เพื่อพัฒนาและยกระดับความผ่องใสให้เกิดขึ้นในใจของเรา

    มรณานุสติ : ตายอย่างสงบ เรื่องที่ฝึกได้ เตรียมได้

    "เราตายได้ครั้งเดียว เราจะตายอย่างไร ร้านกาแฟบางร้านใช้เวลาถึงสามอาทิตย์เทรนพนักงานให้เชี่ยวชาญในการชงกาแฟ แต่เรื่องตายที่เป็นเรื่องสำคัญ กลับไม่เคยมีการเทรนการสอนกันในโรงเรียนไหนๆ ทั้งที่การตายให้เป็น บางทีก็แยกไม่ออกจากการอยู่ให้เป็น"

    คำกล่าวข้างต้นของพระไพศาล วิสาโล อาจฟังดูเสียดสี หากเต็มไปด้วยน้ำเสียงเตือนสติ ให้เห็นว่าชีวิตเราช่างเต็มไปด้วยการให้คุณค่าอย่างผิดที่ผิดทาง มิใช่เพราะทุกชีวิตมีความตายเป็นปลายทางหรอกหรือ เราจึงพยายามใช้ทุกนาทีชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศิลปะ แม้แต่การกินกาแฟให้ได้รสชาติ แต่เรื่องความตายกลับไม่ค่อยมีใครใคร่ครวญถึงนักว่าจะเผชิญกับความตายอย่างไร ศิลปะการใช้ชีวิตแบบไหน จึงจะนำไปสู่นาทีของการตายที่งดงามไม่แพ้นาทีของการมีชีวิต หรือพบกับสิ่งที่มุกคนปรารถนา นั่นคือการตายอย่างสงบ และจริงๆ แล้วถ้าเรารู้จักความตายดีพอ จะพบว่ามันไม่ได้มีด้านลบด่านเดียว ถ้าเราสามารถเป็นเพื่อนกับความตายได้ ชีวิตเราจะมีความสุขมาก และความตายของแต่ละคนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ละคนตายไม่เหมือนกัน ความตายจึงไม่มีคำตอบสำเร็จรูป

    [​IMG]


    "ทำไมความตาย" จึงน่ากลัว

    เหตุหนึ่งที่ทำให้ความตายดูน่ากลัว เพราะเรารู้เกี่ยวกับมนน้อยมาก ในแง่ที่เราไม่เห็นว่าความตายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มีการเกิด และตายทั้งที่เห็นได้ และไม่ได้อยู่ตลอดเวลาในตัวเรา เช่นการเกิดและตายของเซลล์ราว 50 ล้านเซลล์ต่อวัน มีการเกิดดับของอารมณ์อยู่แทบทุกขณะ และที่สำคัญเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในนาทีที่ความตายมาถึง จะมีชีวิตหลังความตายหรือไม่ หากมี - มันเป็นเช่นไร ขณะเดียวกันเราก็พยายามผลักไสความตายออกไป ทั้งให้ไกลตัว และไกลความคิด

    ในอดีต คนมักสอนให้เห็นว่าความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ ในคติของคนจีนโบราณ เมื่อใครฉลองแซยิดใหญ่แล้ว จะต้องตระเตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับใส่ในวันตาย เพื่อช่วยเตือนสติ มิให้ใช้ชีวิตโดยประมาท

    หากมีชีวิตอยู่ในหมู่บ้านหรือชุมชนเล็กๆ เมื่อบ้านไหนมีใครป่วยหรือตาย จะรับรู้กันไปทั่วเวลาจัดงานศพไม่ว่าตั้งที่บ้านหรือที่วัด เพื่อนบ้านก็จะร่วมพิธีสวดศพ สามวันห้าวันเจ็ดวัน แต่ละครอบครัวก็จะผลัดกันไป ถือเป็นหน้าที่ เป็นการแสดงน้ำใจ ข่าวคราวการตายนั้นก็จะวนเวียนให้รับรู้อยู่จนวันเผา หรือจนสิ้นพิธีไว้ทุกข์ โดยเฉพาะวันเผาผู้คนจะมากันพร้อมหน้าพร้อมตา ร่วมพิธีบังสุกุล ปลงศพ จนถึงเชิญศพเข้าเตาเผา ขั้นตอนการเปิดโลงให้ลาศพเป็นครั้งสุดท้าย จนถึงการเก็บอัฐิ และลอยอังคาร นอกจากเป็นการทำบุญแก่ผู้ล่วงลับก็เป็น

    [​IMG]


    มรณานุสติแก่คนเป็นให้เห็นว่า ท้ายที่สุดชีวิตก็มีเพียงเท่านี้

    แต่ทุกวันนี้ ความตายถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของหมอ พระ และสัปเหร่อ พิธีศพมักถูกตกแต่งจนทุกขั้นตอนของพิธีกลายเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ยากแก่คนสมัยใหม่จะเข้าใจนัยเดิม การไปงานศพหากไม่ใช่ญาติสนิทมิตรใกล้ชิดจริงๆ ก็กลายเป็นหน้าที่และพิธีกรรมทางสังคม ขณะเดียวกันข่าวความตายที่พรั่งพรูผ่านสื่อต่างๆ ให้ดูและเห็นก็มีจำนวนคนเจ็บตายทีละเป็นสิบเป็นร้อย ทำให้ผู้รับข่าวเองไม่ทันมีโอกาส "ย่อย" สารของความตายมาพิจารณา

    พระไพศาลขยายภาพให้เห็นถึงสิ่งซึ่งความตายกระทบต่อชีวิตเราว่า มันนำเราไปพบกับสิ่งที่ไม่ปรารถนาในทุกมิติ นับจากกาย สังคม และจิตวิญญาณ

    บ่อยครั้งมันก็รุกมาพร้อมกันทุกแนวรบ และสิ่งที่ถูกกระทบอย่างสำคัญคืออัตตา - ลึกๆ คนเรามีความรู้สึกว่าเรามีอำนาจ แต่พอป่วยหนัก แม้แต่ยกมือ เดินไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ ถูฟัน ก็ทำเองไม่ได้ หายใจก็ไม่ออก นอกจากจะทรมานกายแล้วยังกระทบไปถึงอัตตา

    "ในแง่สังคม ความตายก็ทำให้เกิดการพลัดพราก ความไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหนนี้ร้ายแรงมาก อย่างคนที่เป็น perfectionist จะทำการงานอะไรก็ well plan ต้องรู้ให้ชัดทุกขั้นทุกตอน ทนไม่ได้ถ้าไม่รู้อะไรที่แน่นอน หรือต้องมารอ พอต้องเผชิญกับความตายซึ่งไม่มีใครรู้ จะรู้สึกอ้างว้างไปหมด"

    "ตัวตนเป็นมายาภาพแล้ว มันยังสร้างมายาภาพให้เห็นว่าโลกนี้สวยสดงดงาม ชีวิตต้องควบคุมทุกอย่างได้ เวลาเราดูโฆษณา ดูโทรทัศน์เห็นนายแบบนางแบบดาราที่หน้าตาสะสวย หุ่นดี ดู healthy ไปห้างสรรพสินค้า โรงแรม เห็นทุกอย่างดูเพอเฟ็กต์ สวยงาม แต่ความตายมันไม่รับรู้อะไรลวงๆ ที่เราสร้างขึ้นในจิตใจ มันก็ทำหน้าที่ของมัน มาเตือนให้เราระลึกว่า ชีวิตนั้นมีสองด้าน มีสุขมีทุกข์ มาเตือนว่าอะไรที่เป็นของเรา ไม่ว่าบ้าน รถ เงินทอง หรือตัวเราเอง ก็ไม่ใช่ของเรา"
    [​IMG]


    ภาวะใกล้ตาย

    คำถามประการสำคัญหนึ่งของการเผชิญกับความตายคือ "อะไรคือสัญญาณของภาวะใกล้ตาย"

    นายแพทย์ พรเลิศ ฉัตรแก้ว คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่าไม่มีใครสามารถตอบได้แน่ชัดว่าเวลาของคนไข้แต่ละคนเหลือเท่าไหร่ เพราะทุกอย่างเป็นการคาดคะเนจากค่าเฉลี่ย พร้อมกับเปรียบให้ฟังว่าร่างกายคนเราก็เหมือนเครื่องจักร เมื่อเสื่อมสมรรถภาพ ก็จะหยุดทำงานเป็นส่วนๆ

    "การเดิน เคลื่อนไหวแขนขา การกิน ขับถ่าย ถ้าระบบเหล่านี้ไม่ทำงานก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้เป็นวันหรือเป็นเดือน แต่ถ้าส่วนอื่นหยุดอาจเป็นชั่วโมง หรือนาที ถ้ามองแบบแยกส่วน เรามักพูดว่าสมองตาย หัวใจตาย ไตวาย ที่ชัดที่สุดคือสมองกับหัวใจ แต่บางทีสมองตายแต่หัวใจทำงานอาจอยู่ได้เป็นนาที ซึ่งการตายในปัจจุบัน ถ้าร่างกายส่วนใดหยุดทำงานแล้ว จะไปช้าเร็ว ก็ขึ้นกับว่าตายที่ไหนอีก บ้านหรือโรงพยาบาล โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน"

    ขณะที่ พระไพศาล กล่าวว่าตัวเราประกอบขึ้นด้วยมิติของกายและจิต การแตกสลายของรูปหรือร่างกายเริ่มจากการแปรปรวนหรือดับของธาตุทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ไฟ และลม เริ่มจากดินหรือส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ เช่น ไม่มีแรง เดินไม่ได้ น้ำคือคอแห้ง ริมฝีปากแง จากนั้นตัวจะเย็นลง เป็นสัญญาณว่าธาตุไฟเริ่มดับ สุดท้ายคือลม หรือที่เรียกกันว่าสิ้นลม ขณะที่ธาตุทั้งสี่แปรปรวนนั้น จิตอาจเริ่มแสดงอาการ เชน จำอะไรไม่ได้ หรือจำได้สั้นๆ การับรู้เห็นภาพแปรปรวน แต่การสิ้นชีวิตเกิดขึ้นเมื่อใดยังเป็นสิ่งที่ตอบได้ยาก เดิมเราเชื่อว่าสิ้นสุดเมือสิ้นลม แต่ในความจริงอาจเป็นการค่อยๆ รางเลือนไปของจิตรับรู้

    "เมื่อใกล้ตายการรับรู้ทางเวทนาอาจหมดไป คือไม่เจ็บปวด เพราะความเจ็บปวดทำงานให้เราหนทุกข์เอาตัวรอด แต่บางทีเมื่อไม่มีทางรอดแล้ว กลไกความเจ็บปวดก็อาจหยุดทำงาน นั่นอาจอธิบายว่า ทำไมผู้ป่วยบางคนในชั่วโมงท้ายๆ เขาไม่แสดงอาการเจ็บปวดอีกแล้ว"

    ส่วนอาการทุรนทุราย หรือการเห็นภาพต่างๆ ก่อนสิ้นใจ เช่น เห็นคนที่ตายไปแล้ว เห็นคนมารับ ฯลฯ เหล่านี้เป็นนิมิตบอกถึงกรรมเก่าหรือไม่ นั้น พระไพศาล กล่าวว่า "นิมิตก่อนตายอาจเป็นได้สองลักษณะ ได้แก่กรรมนิมิต และคตินิมิต กรรมนิมิตเป็นนิมิตที่เกิดจากกรรมที่เราได้ทำมาในชีวิต อันเป็นตัวกำหนดว่าเราจะไปไหนหลังตาย คตินิมิตเป็นภพภูมิที่เรากำลังจะไป - สมองเราเก็บความจำไว้มากมาย พอใกล้ตายมันจะคายออกมา คนใกล้ตายอาจมีภาวะ life review เหมือนฉายหนังเก่า อะไรที่เคยกระทบใจ หรือคั่งค้างอาจปรากฏขึ้นมา บางอย่างอาจทำให้เขาตื่นตกใจ ผวา ถ้าไปตอนนั้นเขาจะตกใจ คนที่ดูแลต้องช่วยโน้มน้าวให้ไปในทางที่ดี"
    [​IMG]
    [​IMG]


    พินัยกรรมชีวิต

    ทุกวันหลังเลิกงาน เรามักทำบันทึกช่วยจำว่าพรุ่งนี้มีอะไรที่เราต้องสะสางต่อไป แต่ทำไม - กับชีวิตที่ไม่แน่นอน น้อยคนนักที่คิดทำบันทึกช่วยจำ หรือพินัยกรรมชีวิต ลองคิดดูว่าหากคุณต้องจากไปโดยมิได้สะสางสิ่งที่คั่งค้าง ทั้งเรื่องที่คับข้องใจและงานการในหน้าที่ ในเวลาที่กำลังจะสิ้นลม จิตใจเราจะห่วงกังวล กระสับกระส่ายแค่ไหน แน่นอนว่า คนที่อยู่ข้างหลังย่อมช่วยเหลือสะสางเรืองต่างๆ อย่างเต็มใจ เพราะอยากให้เราตายตาหลับ

    แต่ก็บ่อยครั้งมิใช่หรือ ที่เราได้รับรู้เรื่องราวความขัดแย้งนานาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความตาย ไม่ว่าการตัดสินใจเรื่องการรักษาพยาบาล การจัดพิธีศพ หรือเรื่องทรัพย์สินกองมรดก คำสั่งเสียและร่ำลาต่อคนรัก คนใกล้ชิด เพื่อน หรือคำขออโหสิกรรมต่อผู้อื่นที่เคยมีเรื่องบาดหมางคับข้องใจ หรือไดเกระทำผิดพลาดต่อกันในอดีต ประโยชน์แก่สังคมที่อยากให้คนทำแทนเรา งานที่คั่งค้างไว้ หรืออาจมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่คุณอยากบันทึกไว้ เขียนทุกสิ่งทุกขอให้ชัด ทั้งที่จะเป็นประโยชน์แก่จิตใจตนเอง และคนที่อาจอยู่ข้างหลัง
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    มรณสติ : ตายก่อนตาย

    พระไพศาล ได้กล่าวว่า เราสามารถฝึกได้กับการพลัดพรากในชีวิตประจำวัน เวลาดูข่าวลองคิดว่า ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นจะทำอย่างไร รู้สึกอย่างไรน้อมมาบ่อยๆ เราจะเห็นว่าเราไม่พร้อม หรืออย่างของหาย เจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ก็ให้รู้ว่าเขามาเตือนหรือคนนินทาก็เป็นเรื่องหกติ อันนี้เป็นการฝึกมุมมอง ดีกว่านั้นคือฝึกสติ กายเจ็บแต่ใจไม่เจ็บไม่ปวดไปด้วย คือการฝึกใช้สติพิจารณาสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ดีกว่านั้นคือปัญญา เห็นความไม่เที่ยงแท้ ความเป็นอนันตา

    "การฝึกสตินั้นทำได้ตลอดเวลา คือดึงสติให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ ไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตา ถูฟันก็ให้รู้ว่าถูฟัน มือล้างจานใจก็ล้างจานอยู่ด้วย คือทำอะไรเป็นอย่างๆ ไม่ใช่ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ กินข้า ดูโทรทัศน์ แล้วคุยโทรศัพท์มือถือไปพร้อมๆ กัน - ทำอะไรก็อยู่กับสิ่งนั่น นั่นคือการเจริญสติในชีวิตประจำวัน"

    อย่างไรก็ตาม อยากรู้ว่าก่อนตาย หรือหากช่วงเวลาแห่งความตายใกล้มาถึงเราควรทำอย่างไร … ลองทำนอนราบกับพื้นในท่าโยคะท่าศพ แล้วค่อยๆ หรี่ไฟลงจนมืดสนิท กล่าวโน้มนำให้เราผ่อนคลาย และภาวนาเสมือนว่านั่นคือช่วงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต และลองทำตามต่อไปนี้ …

    "รารับรู้ความรู้สึกที่ไล่ขึ้นมาจากปลายเท้าว่าบัดนี้มันอ่อนแรง ไม่มีกำลังแม้แต่จะขยับเขยื้อนอวัยวะทุกส่วนของร่างกายที่ได้รับใช้เรามาในการทำภารกิจต่างๆ และเราได้ดูแลทะนุถนอมมันมาอย่างดี บัดนี้ได้ถึงอายุขัยของมันแล้ว เราขอบคุณร่างกายนี้"

    "ราทบทวนถึงทรัพย์สินต่างๆ ที่เราได้สั่งสมไว้เพื่อนำความสุขสบายมาสู่ชีวิต และครอบครัว เราได้สร้างมาด้วยสัมมาอาชีวะ มิได้เบียดเบียนใคร เราได้รับความสุขสบายจากมันมาเพียงพอแล้ว จากนี้ขอให้มันยังประโยชน์แก่ผู้อื่น เราไม่คิดหวงห่วงอะไร เพราะเรากำลังจะจากไป แม้แต่ร่างกายนี้เราก็ยังต้องละไป งานการอื่นๆ ทั้งที่เป็นหน้าที่ และที่ทำโดยสมัครใจ เราก็ได้ทำประโยชน์มาอย่างเต็มแรง เรื่องที่สมควรทำเราก็ได้ทำไปแล้ว เรากำลังจะจากไป ไม่มีอะไรต้องเสียดายอีก เสียงของคนรัก พ่อแม่ … ลูก เพื่อนฝูงแว่วเข้ามาในโสตประสาท เราขอบคุณพวกเขาที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข หัวเราะร้องไห้ และเกื้อกูลกันมาเมื่อยามอยู่เราก้อยู่ด้วยกันดีแล้ว เราบอกรัก บอกลา และย้ำอย่างเชื่อมั่นว่าแม้เราจะจากไป เขาจะมีชีวิตที่เป็นสุขได้ ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก "

    "ราแผ่เมตตาแก่สรรพชีวิตผู้เป็นเพื่อนกันในโลกนี้ ภาวนาบทสวดมนต์ที่พอมีสติจำได้ จดจ่อสติอยู่กับการสวดมนต์นั้น และจากไป …"

    การดูแลและช่วยเหลือผู้ใกล้ตาย

    คำถามสำคัญที่เราต้องเผชิญในชีวิตเมื่อคนรักหรือคนใกล้ชิดป่วยอยู่ในระยะสุดท้าย หรือใกล้ตาย คือว่าเราควรจะบอกความจริงกับเขาหรือไม่บอกอย่างไร จะเลือกการรักษาพยาบาลวิธีใด และยุติเมื่อไร และเราจะช่วยให้เขาจากไปอย่างสงบ และเป็นกุศลได้อย่างไร

    อุมาภรณ์ ไพศาลสุทธิเดช พยาบาลประจำโรงพยาบาลรามาธิบดี เล่าจากประสบการณ์ว่า หลายกรณีญาติไม่ยอมบอกคนไข้ หรือคนไข้เองไม่อยากให้ญาติรู้ เพราะต่างฝ่ายต่างห่วงใยความรู้สึกซึ่งกันและกัน แต่ที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายควรร่วมรับรู้ความจริง และการบอกต้องอาศัยกุศโลบาย

    "คู่หนึ่ง - สามีเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายภรรยาไม่ยอมให้บอก เพราะคิดว่าเขาเป็นทหาร เรื่องแบบนี้ทำใจรับได้ยาก ก็ถามเขาว่าคุณคิดหรือว่าคนไข้เองไม่รู้ตัว บอกให้เขารู้เสีย จะได้เตรียมตัวเตรียมใข เรื่องอะไรที่เขาคิดว่าต้องจัดการในเวลาที่เหลือจะได้ทำได้ พอไปคุยกับคนไข้ เขากลับบอกว่าผมรู้ตัวอยู่แล้ว แต่อย่าบอกภรรยาผมนะ เดี๋ยวเขาจะยิ่งเครียด เราก็จับสองคนมานั่งคุยกัน ปรากฏว่ากอดกันร้องไห้อยู่พัก แล้วบอกว่าไม่เป็นไรเขาจะสู้ไปด้วยกัน"

    สิชล ทองยุทธ์ หรือ อ้อย อดีตพนักงานบัญชี กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม เริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงมั่นคงว่า รู้ตัวมาเกือบปีแล้ว แต่ไม่เคยบอกให้แม่รู้ เพราะคิดว่าแม่จะทุกข์กว่าตนเป็นร้อยเท่า "แต่มันอึดอัดอยู่กันแม่ลูกสองคน แล้วเราไม่ได้แชร์ความทุกข์เรา เพื่อนๆ ก้แนะนำให้บอกแม่เพาะแม่เองก็จะต้องเตรียมตัวด้วย – วันหนึ่งเราอาจจะไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว"

    "แม่หนูเป็นเนื้องอกที่เป็นปัญหา ยังไม่ใช้คำว่ามะเร็ง แม่นิ่ง ( น้ำตาของเธอพรั่งพรู เมื่อทบทวนถึงความรู้สึกของแม่ ) แม่ถามว่าทำไมไม่ไปผ่าตัด ก็บอกว่าไม่ใช่ทางเลือกของเรา เขาก็นิ่งไปเลย แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าโล่งมาก เพราะเก็บเรื่องนี้มาเป็นปี - - ตอนเย็นรู้สึกว่ากับข้าวที่แม่ทำอร่อยมาก เขาคงใส่ความรักลงไป"

    นายแพทย์พรเลิศ กล่าวว่าในทางการแพทย์เองก็ถือว่าจิตใจของคนไข้เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ต้องดูแลไม่น้อยไปกว่าการเยียวยาทางกาย ดังมีคำพูดว่า… เราสามารถรักษาคนไข้ได้เป็นบางเวลา และบางคน แต่เราทำให้เขาเป็นสุขได้ทุกครั้ง” โดยเฉพาะในรายที่รักษาไม่หายแล้ว นอกจาการพยายามช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางกาย จะต้องช่วยเหลือดูแลในเรื่องจิตใจ และบอกให้คนไข้และญาติรู้ถึงข้อมูลในการรักษาอย่างเต็มที่ รู้ถึงอาการที่จะเกิด ผลของยา บอกทางเลือกในกรณีที่มีวิธีรักษาบางอย่างที่ช่วยยืดอายุได้ ไม่ว่าเป็นชั่วโมง วัน หรือสัปดาห์ รวมถึงผลดีที่คาด และผลเสียที่อาจได้รับ เพราะการยืดอายุอาจหมายถึงเวลาของการเตรียมตัวเตรียมใจ การสะสางสิ่งที่คั่งค้าง ตั้งสติและเตรียมจิตอย่างสงบ - - หรือเป็นเพียงการยืดสัญญาณชีพ

    "กรณีที่เจอบ่อยก็คือจะช่วยชีวิตหรือไม่ ใส่ท่อหรือไม่ใส่ ขึ้นอยู่กับแต่ละราย เขาให้ความหมายกับอะไร กับการเต้นของหัวใจ หรือการมีสติรับรู้ต้องคุยกับทีมแพทย์เอง กับคนไข้และญาติ กรณีที่คนไข้ไม่รู้สึกตัวแล้ว ต้องถามญาติว่าเขาได้เคยสั่งเสียอะไรไว้ไหม หรือคุยกับคนที่รู้จักคนไข้ดีที่สุด - - เพราะถ้าเราเริ่ม life support แล้วจะหยุดไม่ได้ เขาควรรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร ซึ่งอาจจะยืดเยื้อทนทุกข์ทรมาน ควบคู่ไปกับการรักษาพยาบาลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว สิ่งที่เราสามารถช่วยเหลือไปพร้อมกันในทางจิตใจ ได้แก่

    การให้ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข : ในขณะที่ร่างกายกำลังเจ็บปวด และความตายกำลังจะมาถึง สิ่งที่นเราหวาดกลัวมากที่สุด คือการถูกทอดทิ้งให้เผชิญกับความหวาดกลัวต่างๆ เพียงลำพัง ความรักจากคนรอบข้างรวมถึงแพทย์พยาบาล ย่อมช่วยให้จิตใจที่เปราะบางของเขาเข็มแข็งขึ้น และพึงระลึกว่าความเจ็บปวดที่รุมเร้าอาจทำให้จิตใจ และอารมณ์ของเขาแปรปรวน ควรอดทนด้วยความเข้าใจ

    การช่วยให้เขายอมรับความตายที่จะมาถึง : ในหลายกรณีการยอมรับความตายอาจทำได้ยาก และต้องใช้เวลา เราอาจเริ่มต้นด้วยการยอมรับความกลัวตายของตนเอง อย่าเทศนาสั่งสอน หากรับฟังความรู้สึกเขาอย่างจริงใจ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการผู้มากประสบการณ์ หรือนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ เพียงแต่ต้องการใครสักคนที่แสดงทีท่าว่าพยายามจะเข้าใจเขา ในที่สุดแล้ว การรับฟังและแบ่งปัน อาจช่วยให้จิตใจของเขาคลี่คลาย คิดได้ว่าความตายนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่จำเป็น ต้องลงเอยอย่างเลวร้ายเช่นที่เขากลัว

    การช่วยปลดเปลื้องสิ่งที่ค้างคาใจ : คนเราไม่อาจจากไปอย่างสงบได้หากมีภาระที่คั่งค้าง หรือมีเรื่องราวจากอดีตที่ยังติดค้างอยู่ในใจ เราอาช่วยสะสางธุระต่างๆ และพูดคุยให้เขาค่อยๆ คายสิ่งที่อยู่ในใจ ชวนให้เขาแผ่เมตตา อโหสิกรรม ชวนให้เขายอมรับ และกล่าวขอโทษทั้งต่อหน้า หรือการเขียนจดหมาย ให้เขาตระหนักว่า ยามใกล้ตายเป็นวาระสำคัญสำคัญสำหรับการคืนดี และการยอมรับสิ่งที่ได้ทำมา

    การช่วยให้จิตใจจดจ่อกับสิ่งดีงาม : อาจทำได้หลาวิธี เช่น นำพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งที่บุคคลนั้นนับถือมาตั้งไว้ในห้อง เปิดเทปสวดมนต์ เทปธรรมะ หรือดนตรีที่เขาชอบฟัง ที่ฟังแล้วช่วยให้จิตใจเขาสงบ สวดมนต์หรือทำสมาธิภาวนาไปพร้อมกับเขาชวนให้เขระลึกถึงคุณงามความดี และกุศลที่ได้ทำมา เพราะไม่ว่าคนๆ นั้นจะมีหรือจน หรือทำตัวผิดพลาดมาอย่างไร ย่อมเคยทำความดีที่น่าระลึกถึงไม่มากก็น้อย ซึ่งไม่ได้หมายความถึงการทำบุญกับพระหรือศาสนาเท่านั้น การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี ดูแลพ่อแม่ด้วยความรัก หรือเสียสละเพื่อคนอื่น ล้วนเป็นกุศล ที่เขาสามารถมั่นใจได้ว่าจะพาตนไปสู่สุคติ

    ชวนให้เขามองการป่วยไข้ในทางที่เป็นประโยชน์ เป็นอีกบทเรียนของการตระหนักรู้ มิใช่การชดใช้กรรม นอกจากนี้อาจชวนให้เขาทำบุญ เช่นบริจาคทรัพย์สิน ทำทานแก่คนยากจนไร้โอกาส ซึ่งจะช่วยให้เขาละจากการติดยึดในทรัพย์สิน และโลกนี้ได้ในทางอ้อม

    การช่วยให้ปล่อยวางสิ่งต่างๆ : ในบรรดาสิ่งยึดติดทั้งหลาย ไม่มีอะไรที่ลึกซึ้งแน่นหนากว่าความยึดติดในตัวตน เราอาจใช้ประสบการณ์จากการทำมรณสติ ค่อยๆ ชักจูงให้เขาปล่อยวางสิ่งต่างๆ จากสิ่งที่หยาบอย่างทรัพย์สินไปสู่สิ่งที่ละเอียดอย่างตัวตน ในทางพุทธแล้วถือว่าการตายเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่แก่การค่อยๆ ลอกสิ่งที่จิตปรุงแต่งไว้ตลอดชีวิต ให้เหลือแต่จิตแท้ที่บริสุทธิ์ หรือพุทธภาวะที่จะไม่ยึดอยู่กับสิ่งใดอีกเลย

    การสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการสงบใจ : พึงระลึกว่าการรับรู้และอารมณ์ของผู้ป่วยนั้นเปราะบาง และละเอียดอ่อนมาก เราควรให้เขาได้อยู่ในที่ที่เขารู้สึกสงบ และอบอุ่นใจ ญาติมิตรควรหลีกเลี่ยงการแสดงความเศร้าโศก สลดหดหู่ หรือการโต้เถียงวิวาท

    ทุกวันนี้คนเรามักตายที่โรงพยาบาลมากกว่าที่บ้าน เราควรพูดทำความเข้าใจกับแพทย์พยาบาล ให้งดการตรวจ เจาะ หรือการรักษาใดๆ ที่ไม่จำเป็น

    อย่างไรก็ตามพระไพศาล ขยายความในประเด็นสุดท้ายว่าการโน้มน้าวให้จิตผู้ป่วยสงบนั้น ทำได้ทุกที่ทุกเวลา แม้เขาจะอยู่ในขั้นโคม่า หรือในห้องไอซียู การสัมผัสมือหรือร่างกายเขาเบาๆ สวดมนต์ให้เขาฟังล้วนมีผลต่อจิตใจของเขา แม้ว่าร่างกายของเขาดูจะไม่ตอบสนองรับรู้

    เช่นมีคนไข้รายหนึ่งนอนหมดสติอยู่ในห้องไอซียูเป็นอาทิตย์ ภายหลังเขาเล่าว่า หลายครั้งเขารู้สึกเคว้งคว้างเหมือนใจจะหลุดลอยไป แต่แล้วก็มีมือมาแตะที่ตัวเขาพร้อมกับพลังบางอย่าง ใจที่เคว้ง เหมือนจะขาดก้กลับมาใหม่ และเป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ในที่สุดเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาทั้งๆ ที่แพทย์บอกว่าโอกาสรอดน้อยมาก เขาจึงรู้ว่ามีพยาบาลคนหนึ่งที่ทุกเช้าเมื่อขึ้นเวร จะมาจับมือเขาแล้วแผ่เมตตาให้กำลังใจแก่เขา

    พระไพศาล ฝากไว้ว่า "แม้สัญญาณชีพหมดแล้วก็ควรรักษาบรรยากาศที่สงบนั้นต่อไป อย่างเพิ่งเข้าไปมะรุมมะตุ้ม หรือร้องไห้กอดรัด จิตอาจกำลังอยู่ในช่วงละร่าง อาจจะตระหนกตกใจ เราอาจช่วยตีระฆัง หรือสวดมนต์ส่งจิต บอกเขาว่าไปแล้วนะ ขอให้ไปในที่ที่ดี"

    เราทุกคนย่อมปรารถนาการตายอย่างสงบ หากระลึกได้ว่าความตายติดตามเราอยู่ทุกนาที เราย่อมมีชีวิตโดยไม่ประมาท และรู้ตัวดีว่า ยังมีการบ้านอีกมากที่ต้องทำ และต้องลงมือทำอย่างไม่ผัดวันประกันพรุ่ง

    เพื่อเตรียมเผชิญหน้ากับความตายทั้งของตนเองและคนใกล้ตัว

    "เรากลัวความตายเพราะว่ากลัวตัวตนจะดับสูญ ความตายมารื้อถอนมันทิ้งทั้งๆ ที่มันพยายามจะเป็นอมตะ ยิ่งตัวตนใหญ่โตเท่าไร ยิ่งกลัวตายเท่านั้น" โดย พระไพศาล วิลาโล

    "ทุกค่ำคืนก่อนเข้านอน ฉันจะเก็บล้างถ้วยชาที่ได้ใช้ดื่มกินมาตลอดวัน เผือว่าหากฉันหลับและไม่ตื่นขึ้นมาอีก เมื่อรุ่งเช้ามาถึงจะได้ไม่ต้องมีใครมาเก็บล้างภาระที่ฉันคั่งค้างไว้" โดยลามะ นิกายนิงมาปะ

    "ความดับไม่เหลือมีวิธีปฏิบัติเป็นสองชนิด คือตามปกติขอให้มีความดับไม่เหลือแห่งความรู้สึกยึดถือ "ตัวกู" หรือ "ของกู" อยู่เป็นประจำ อีกอย่างหมายถึงเมื่อร่างกายจะต้องแตกดับไปจริงๆ ขอให้ปล่อยทั้งหมดรวมทั้งร่างกาย ชีวิต จิตใจ ให้ดับครั้งสุดท้าย ไม่มีเชื้ออะไรเหลืออยู่ หวังอยู่ สำหรับการเกิดมีตัวเราขึ้นมาอีก" โดย พุทธทาสภิกขุ

    "ไม่มีวิธีใดอีกแล้วที่จะเร่งให้คุณเติบโตเยี่ยงมนุษย์ได้ดีไปกว่าการช่วยเหลือผู้ใหล้ตาย การดูแลเอาใจใส่ผู้ใกล้ตายแท้ที่จริงก็คือ การเพ่งพินิจความตายของตัวคุณเองอย่างลึกซึ้ง" โดย โซเกียล รินโปเช

    … อนิจจังชีวิตคนเรา อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ วันนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่พรุ่งนี้อาจตายก็ได้ ดังนั้นในขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ สร้างบุญกุศลให้มากๆ กตัญญูรู้คุณกับผู้มีพระคุณ และจงบอกรักหรือถนอมความรักที่คุณมีให้กับคนรอบข้าง หรือคนที่รักคุณให้มากๆ เพราะสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนไม่แน่นอน … วันนี้ยังหายใจ แต่พรุ่งนี้ชีวิตคุณอาจสิ้นก็เป็นได้



    ข้อมูลจาก
    - intania82.com
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตั้งจิต [​IMG]
    พี่ครับ...(cry)


    เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ ระวังท่านโด สวนน๊ะคร๊าบบบบ เดี๋ยวจะหาว่าไม่รักกันจริง ไม่บอกกัน

    "ที่พ่อละ"


    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มารยาทในการส่งอีเมล์
    http://hilight.kapook.com/view/24312



    [​IMG]


    ใครที่ต้องส่งอีเมล์เป็นประจำ ทราบถึงมารยาทในการส่งอีเมล์หรือไม่ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเรื่องนี้มาบอกกัน....

    [​IMG]สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ

    [​IMG] ห้ามใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ เพราะเหมือนกับตะโกนใส่ผู้รับ

    [​IMG] ห้ามส่งข้อความแบบใช้อารมณ์ ถ้าไม่กล้าพูดอย่างนั้นต่อหน้าผู้รับก็อย่าส่งข้อความแบบนั้นไป

    [​IMG] ห้ามแจ้งความลับทางอีเมล์ เพราะข้อความนั้นอาจตกถึงมือผู้อื่นได้ ให้เขียนจดหมายจริง ๆ แทนจะดีกว่า

    [​IMG] ควรเขียนหัวเรื่องแบบระบุรายละเอียด ผู้รับอาจลบอีเมล์ทิ้งหากหัวเรื่องดูคล้ายจดหมายขยะ

    [​IMG] ควรตอบคำถามตั้งแต่ตอนต้นฉบับ ไม่ใช่ไปตอบตอนท้าย การที่ต้องควานหาคำตอบไปจนถึงท้ายฉบับเป็นเรื่องน่าเบื่อ

    [​IMG] ควรใช้ตัวอักษรสีดำที่ไม่ใหญ่กว่าขนาดตัวประมาณ 12 เสมอ เพราะเป็นแบบอักษรที่อ่านง่ายที่สุด

    รู้อย่างนี้แล้ว จะส่งอีเมล์ครั้งต่อไปก็อย่าลืมระมัดระวังเรื่องมารยาทด้วย.

    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต​
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คัมภีร์ใช้ รถ อย่างประหยัด น้ำมัน
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> http://hilight.kapook.com/view/24314

    คัมภีร์ใช้ รถ อย่างประหยัด น้ำมัน



    [​IMG]


    คอลัมน์ คาร์ทิป

    รวบรวมวิธีการ 15 วิธี ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ทุกวันระหว่างการขับขี่ เพื่อช่วยประหยัด "น้ำมัน" ซึ่งนับวันจะมีราคาแพงขึ้นจนฉุดไม่อยู่ เช่น ไม่ควร "เบิ้ลเครื่องยนต์" เพราะการกระทำดังกล่าว 10 ครั้ง ทำให้สูญเสียน้ำมันถึง 50 ซีซี ซึ่งทำให้รถวิ่งไปได้ตั้ง 350 เมตร

    1.ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ก่อนการออกรถ เพราะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น

    2.ปรับลมยางให้เหมาะสมตามมาตรฐานผู้ผลิต หากความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานทุกๆ 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะสิ้นเปลืองน้ำมันร้อยละ 2

    3.ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถนานๆ จอดรถติดเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที เสียน้ำมันฟรี 200 ซีซี หรือเทียบเท่าระยะทาง 400 เมตร

    4.ขับรถด้วยความเร็วคงที่ ความเร็วที่เหมาะสมคือ 80 กม./ชม.

    5.ใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็วของเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังเครื่องยนต์ตก ไม่เกิดการเปลืองน้ำมัน

    6.ไม่เร่งเครื่องตอนเกียร์ว่าง หรือที่เรียกว่า เบิ้ลเครื่องยนต์ เพราะการกระทำดังกล่าว 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันถึง 50 ซีซี ช่วยให้รถวิ่งไปได้ตั้ง 350 เมตร

    7.ตรวจเช็คเครื่องยนต์สม่ำเสมอตามกำหนด เช่น เปลี่ยนไส้กรองน้ำมัน น้ำมันหล่อลื่น ตามที่ผู้ผลิตกำหนด ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำในแบตเตอรี่ หากพบรอยรั่วในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงรีบซ่อมแซมทันที หลีกเลี่ยงการเบรกโดยไม่จำเป็น ทำความสะอาดระบบไฟจุดระเบิด เปลี่ยนหัว คอนเดนเซอร์ ตั้งไฟแก่อ่อนให้พอดี จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10%

    8.ไม่ต้องอุ่นเครื่อง หากออกรถและขับช้าๆ สัก 1-2 กม. แรก เครื่องยนต์จะอุ่นเอง

    9.ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด เพราะเครื่องยนต์จะทำงานตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หากบรรทุกน้ำหนักเกิน 50 กก. น้ำมันที่มีอยู่จะวิ่งได้ระยะทางสั้นลง 1 กม.ต่อลิตร

    10.ใช้ระบบการใช้รถร่วมกัน หรือคาร์พูล (Car pool) ไปทางเดียวกันใช้รถคันเดียวกัน

    11.เดินทางเท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อประหยัดน้ำมัน บางครั้งเรื่องบางเรื่องอาจจะติดต่อกันทางโทรศัพท์ก็ได้ ประหยัดน้ำมัน ประหยัดเวลา ไปซื้อของหรือไปธุระใกล้ๆ อาจจะเดิน หรือใช้จักรยานบ้าง เป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย

    12.ไม่เลี้ยงคลัตช์หรือเอาเท้าแช่ในขณะขับรถ

    13.ก่อนไปพบใคร ควรโทรศัพท์ไปถามก่อนว่าเขาอยู่หรือไม่ ควรสอบถามเส้นทางที่จะไปให้แน่ชัด หรือศึกษาแผนที่ให้ดี หรือควรศึกษาทางลัด จะได้ไม่เสียเวลา และเมื่อจะขึ้นทางด่วน ควรเตรียมเงินให้พอดี ช่วยประหยัดน้ำมัน

    14.เปิดเครื่องปรับอากาศตามความจำเป็น ยิ่งปรับให้เย็นมากก็ยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมัน

    15.หลีกเลียงสภาพถนนที่ไม่ดี ลดการสูญเสียน้ำมัน เพราะถนนลาดยางที่มีผิวเสียหายร้อยละ 15 ลูกรัง ร้อยละ 35 ทราย

    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต​

    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมสงสัยอีกแล้ว สงสัยว่า มีการดาวน์โหลดรูปไป ทั้งๆที่ไม่ทราบว่าเป็นอะไร(หรือเปล่า)ครับ

    <table class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2"> [​IMG]
    16.5 KB, ดาวน์โหลด 51 ครั้ง
    </td> <td class="alt1"> ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td> <td class="alt2"> เมื่อวานนี้ 11:30 PM
    </td></tr></tbody></table>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    คุณnongnooo ช่วยดูให้หน่อยครับว่า องค์นี้เป็นอย่างไร ผมดูเนื้อดินไม่เป็นจริงๆเลยครับ ขอบคุณครับ


    [​IMG]
    .
    </td></tr></tbody></table>



    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </td><td class="thead" width="14%"></td></tr><tr><td class="alt1" colspan="2" width="100%">sithiphong, Flying Daggers, nongnooo+ </td></tr></tbody></table>


    คุณnongnooo ครับ คิดนาน หรือ ดูนานครับ
    ต้องยอมรับจิงๆเลย คับว่าดูไม่ชัดไม่แน่ใจ น่ะคับ คืออ่ะแบบว่าดูไม่ถนัดอีกแล้ว กรุณาส่งมาให้ผมดูที่บ้านนะครับ แล้วที่อยู่ผมจา ส่ง pm ไปให้ครับ จาดูให้ชัดไปเลยครับ 55555555(deejai)
    เนื้อมันหนุ๊บสบายตาสบายใจครับ อยากอีกแล้ว หุ หุ หุ

    .<!-- currently active users -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
    เอ้าให้ความรู้กันหน่อยครับ เดี๋ยวบางท่านจาหาว่ากั๊ก อีก เอาสั้นๆนะครับ พิมพ์นี้จะมีทรวดทรงคล้ายกับตัวองค์พระจริง เขาเรียกว่าองค์แม่แต่ น่าจะเป็นพิมพ์เล็กครับ ในกรุที่แตกออกมาจะมีไม่มากประมาณไม่เกิน ร้อยละ5 สีของเนื้อก็จะมีแตกต่างกันไป มีทั้งแดงแห้ง แดงหนึบ(องค์นี้) น้ำตาลอ่อน และสีดอกพิกุล องค์นี้มวลสารครบหนึบนุ่ม แต่ยังหลบอยู่ภายในสันนิษฐานว่าอยู่ตอนกลางของกรุครับ ลักษณะเนื้อดินแบบนี้จะมีอายุ 200-300ปี+-ครับ ถามว่ามีวิธีทดสอบมั้ย ตอบว่ามีครับ แต่ม่ายบอก อยากทราบต้องให้ท่าน ปาทานให้ผมนิมนต์มาบ้านก่อน 555555;)


    <table class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2"> [​IMG]
    102.2 KB, ดาวน์โหลด 96 ครั้ง
    </td> <td class="alt1"> ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td> <td class="alt2"> 22-05-2008 11:10 PM
    </td></tr></tbody></table>
     
  14. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ไม่ได้ร้อง พระท่านงามมากจนเข้าตาน่ะครับ กิกิกิ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ guawn [​IMG]

    กลับจากเชียงใหม่ก่อนครับ เดี๋ยวเข้าไปเอาพร้อม
    ผงอ่อนใจรัก
    </td></tr></tbody></table>



    <table class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2">[​IMG]
    771.4 KB, ดาวน์โหลด 30 ครั้ง
    </td><td class="alt1">ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td><td class="alt2">เมื่อวานนี้ 08:48 PM
    </td><td class="alt1" style="padding: 0px;" align="center"><input value="yes" name="deletebox[329302]" type="checkbox"></td></tr><tr><td class="alt2">[​IMG]
    495.1 KB, ดาวน์โหลด 29 ครั้ง
    </td><td class="alt1">ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td><td class="alt2">เมื่อวานนี้ 08:48 PM
    </td></tr></tbody></table>



    ผมสงสัยว่า ดาวน์โหลด ไปทำไม มีแต่ชื่อหนังสือ งงงงงงงงงง หรือว่าเพื่อไปหาซื้อ แต่สำหรับหนังสือของ ท่านตรียัมปวาย คุณเพชรเคยไปเห็นขายกันเล่มละ 70,000 บาทครับ

    ส่วนรายการค่าจัดส่งพระพิมพ์นี่ยิ่งงงงงงงง ดาวน์โหลดไปหลายครั้งเหมือนกัน :eek: :eek: :eek:

    <table class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2">[​IMG]
    220.6 KB, ดาวน์โหลด 65 ครั้ง
    </td><td class="alt1">ชื่อกระทู้: ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td><td class="alt2">20-05-2008 10:10 AM
    </td></tr></tbody></table>


    .



    <table class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2"> [​IMG]
    771.4 KB, ดาวน์โหลด 62 ครั้ง
    </td> <td class="alt1"> ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td> <td class="alt2"> 22-05-2008 08:48 PM
    </td> <td class="alt1" style="padding: 0px;" align="center"><input name="deletebox[329302]" value="yes" type="checkbox"></td> </tr><tr> <td class="alt2"> [​IMG]
    495.1 KB, ดาวน์โหลด 54 ครั้ง
    </td> <td class="alt1"> ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td> <td class="alt2"> 22-05-2008 08:48
    </td></tr></tbody></table>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2"> [​IMG]
    327.2 KB, ดาวน์โหลด 298 ครั้ง
    </td> <td class="alt1"> ชื่อกระทู้: พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    ส่งข้อความ: «ไม่มีข้อมูล»

    </td> <td class="alt2"> 23-05-2008 07:07 PM
    </td></tr></tbody></table>
    แต่รูปนี้ มีท่านที่ดาวน์โหลดไปเยอะกว่า หุหุหุ


    .
     
  17. ชวภณ

    ชวภณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +10
    ผมขอรับภาพ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 2 ภาพ และผ้ายันต์ 2 ผืน ขอบคุณมากครับคุณหนุ่ม
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขออโมทนาบุญด้วยครับ...(แล้วจะแวะไปหาอีกครับ)จะได้ไม่เหงาครับท่านประทาน
     
  20. เทพารักษ์

    เทพารักษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +980
    โอนเงินร่วมทำบุญค่ะ

    :) โอนเงินเรียบร้อยแล้วนะคะ จำนวน 2,000 บาท ชื่อ ที่อยู่ และใบโอนเงิน จะแจ้งไปใน PM นะคะ :)

    :) ขอบคุณมากค่ะ :)

    ****************************************


     

แชร์หน้านี้

Loading...