พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. Phocharoen

    Phocharoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +225
    ขอบคุณ คุณ สิทธิพงษ์ ครับ ผมขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัย หลวงปู่ทั้ง 5 พระองค์ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ โต หลวงพ่อเงิน หลวงปู่ศุข หลวงพ่อปาน และพระอริยทุกพระองค์ โปรดคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรมและสมาชิกทุกท่านครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ได้เลยครับ ผ้ายันต์ผมจะส่งให้มากกว่า 5 ผืนครับ

    เจตนาของพระอาจารย์นิลและท่านที่ร่วมทำบุญสร้างผ้ายันต์ทุกๆท่าน

    ท่านสร้างขึ้นเพื่อทหาร ,ตำรวจ และผู้ที่ปฎิบัติหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง ที่อยู่ในเขตที่อันตรายครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รัชกาลที่ 1 กับ"วังหน้า" เสด็จตรวจงานสร้างกรุงเทพฯ
    วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11042


    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01pra03030651&day=2008-06-03&sectionid=0131

    คอลัมน์ สยามประเทศไทย

    โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ



    รัชกาลที่ 1 กับวังหน้า "น้องชาย" เสด็จตรวจการก่อสร้างพระนคร บริเวณเป็นป้อมมหากาฬทุกวันนี้ ผมเคยเขียนบอกเล่าไว้นานหลายปีแล้ว (พิมพ์ในคอลัมน์นี้ ฉบับวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2548) จะขอยกมาบอกผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) อีกครั้ง บางทีจะช่วยให้แนวคิด Charming Bangkok มีรากเหง้าทางประวัติศาสตร์บ้าง ดังนี้

    รัชกาลที่ 1 สถาปนากรุงเทพฯ พ.ศ.2325 แต่กว่าจะเริ่มสร้างเมืองใหม่ ให้ขุดคลองรอบกรุง สร้างกำแพงป้อมประตูเมือง ก็ล่วงไปอีก 3 ปี จนถึง พ.ศ.2328 จึงเริ่มลงมือได้

    แต่กำลังคนพลไพร่ในขณะนั้นมีไม่มาก และไม่พอจะก่อบ้านสร้างเมือง เลยให้เกณฑ์คนจากที่ต่างๆ มีในพระราชพงศาวดาร (ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์) บอกว่าให้มีท้องตราเกณฑ์ลาวเมืองเวียงจันกับลาวสองฝั่งโขง (ทางอีสานทุกวันนี้) ให้มีหน้าที่ "ขุดรากก่อกำแพงพระนคร"

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    (บนจากซ้าย) รัชกาลที่ 1 และ "น้องชาย" กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาถ (วังหน้า) (ล่าง) บริเวณคลองคูเมือง-คลองมหานาค และป้อมมหากาฬ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    แนวสำคัญอยู่ด้านตะวันออกเลียบคลองบางลำพู หรือคลองโอ่งอ่าง ที่มีป้อมมหากาฬ (ได้ชื่อนี้ครั้งรัชกาลที่ 1 คู่กับป้อมมหาปราบ) เหลืออยู่ให้เห็นอยู่ขณะนี้

    มีเหตุการณ์สำคัญเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ครั้งที่กำลังก่อสร้างป้อมมหากาฬกับแนวกำแพงเมือง พร้อมคลองรอบกรุงนั้น รัชกาลที่ 1 กับวังหน้า (คือ "น้องชาย") ในหนังสือเขียนว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์" เสด็จไปทอดพระเนตรการก่อสร้าง แล้วโปรดให้ทำสะพานให้ช้างเดินข้ามคลองรอบกรุง ตรงป้อมมหากาฬจะไปคลองมหานาคที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

    แต่พระสงฆ์วัดโพธาราม (วัดโพธิ์ทุกวันนี้) ถวายพระพรทักท้วงว่าจะเป็นเครื่องมือให้ข้าศึกข้ามเข้าเมืองได้สะดวก เลยไม่ได้สร้าง มีความในพระราชพงศาวดารว่า

    แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรที่จะก่อสะพานช้างข้ามคลองคูเมืองที่คลองมหานาคนั้น

    จึ่งพระพิมลธรรมวัดโพธารามไปถวายพระพรห้ามว่า ------------- แม้มีการสงครามมาถึงพระนคร ข้าศึกก็ได้โอกาสข้ามเข้ามาถึงชานกำแพงพระนครได้โดยง่าย ประการหนึ่งแม้จะแห่ขบวนเรือรอบพระนคร ก็จะเป็นที่กีดขวางอยู่

    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็ทรงเห็นชอบด้วย จึงดำรัสสั่งให้เลิกการเสีย มิให้ก่อสะพานช้าง ให้ทำแต่ท่าช้างไว้สำหรับจะให้ช้างเดินข้ามคลองคูพระนครที่สนามกระบือ

    เนื้อความในพระราชพงศาวดารตอนนี้เป็นหลักฐานสำคัญบอกให้รู้ว่า เมื่อเริ่มสร้างกรุง ราว พ.ศ.2328 "พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์" คือ รัชกาลที่ 1 (วังหลวง) กับกรมพระราชวังบวรสุรสิงหนาถ (วังหน้า) ได้เสด็จพระราชดำเนินมา ทรงตรวจงานก่อสร้างบริเวณป้อมมหากาฬทุกวันนี้

    นี่ไง Charming Bangkok ที่ผู้บริหาร กทม. กำลังมองหาทำงานสั่งลา แต่อย่าผลีผลามทำตามใจชอบ ในทางที่ถูกต้องแล้วควรปรึกษาหารือกันให้จงดีก่อนตัดสินใจ จะได้ไม่ผิดพลาดจนต้อง "ดับเพลิง"
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมนำมาลง ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆนะครับ แต่เห็นว่า เป็นความรู้ครับ

    ****************************************************

    ลูกจ้าง กับ รับจ้าง ต่างกันอย่างไร?
    วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11042
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01act01030651&day=2008-06-03&sectionid=0130


    โดย สุชาย จอกแก้ว



    คำว่า "ลูกจ้าง" กับ "รับจ้าง" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่มีคำอธิบายความหมายเอาไว้ แต่ใช้เรียกคู่สัญญา "จ้างแรงงาน" ว่า มีลูกจ้างฝ่ายหนึ่งกับมีนายจ้างอีกฝ่ายหนึ่ง และใช้เรียกคู่สัญญา "จ้างทำของ" ว่า มีผู้รับจ้างฝ่ายหนึ่งกับมีผู้ว่าจ้างอีกฝ่ายหนึ่ง

    แต่เนื่องจากจ้างแรงงานมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานเป็นพิเศษ ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2551 จึงได้บัญญัติความหมายของคำว่า "นายจ้าง" "ลูกจ้าง" "ผู้ว่าจ้าง" "ผู้รับเหมาชั้นต้น" "ผู้รับเหมาช่วง" ไว้ แต่ก็มิได้บัญญัติคำว่า "รับจ้าง" เอาไว้

    อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาดูความหมายของคำว่า "ผู้รับเหมาชั้นต้น / ผู้รับเหมาช่วง" แล้ว ก็จะเห็นได้ว่ามีความหมายอย่างเดียวกันกับคำว่า "รับจ้างหรือผู้รับจ้าง" นั่นเอง

    และเมื่อพิจารณาความหมายจากพจนานุกรมประกอบด้วยแล้ว ก็พอสรุปความหมายของคำว่า "ลูกจ้าง" ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า (Employee) คือ ผู้รับจ้างทำงานเพื่อค่าจ้าง

    ส่วนคำว่า "รับจ้างหรือผู้รับจ้าง" ก็ตรงกับภาษาอังกฤษว่า (Contractor / Employee) คือ รับทำงานเพื่อสินจ้าง / ค่าจ้าง

    ดังนั้น ทั้งสองคำดังกล่าวนี้ ความหมายจึงเหมือนกันโดยอรรถ (เนื้อหา) ต่างกันโดยพยัญชนะ ยิ่งถ้าเป็นภาษาพูดหรือภาษาที่นิยมเรียกขานกัน ถ้าถามว่า คุณประกอบอาชีพอะไร ก็มักจะได้รับคำตอบว่า "รับจ้าง" หรือ "รับราชการ" หรือ "ค้าขาย" แต่ไม่นิยมเรียกว่า "อาชีพลูกจ้าง"

    อย่างไรเสีย คำว่าลูกจ้าง หรือ ผู้รับจ้าง หากต้องตีความตามลักษณะของสัญญา ก็ย่อมต้องมีความแตกต่างกันตามสัญญา ตามกฎหมาย



    เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น ผู้เขียนขอเปรียบเทียบ องค์ประกอบของสัญญาทั้งสอง

    @ สัญญาจ้างแรงงาน (มาตรา 575)

    (Hire of Labor / Services)

    1. เป็นสัญญา สองฝ่าย และเป็นสัญญา ต่างตอบแทน (Reciprocal Contract)

    2. คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า "ลูกจ้าง" (Employee) ตกลงทำงานให้ แก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า "นายจ้าง" (Employer)

    3. นายจ้าง ตกลงให้สินจ้าง (Money) ตอบแทน ตลอดเวลาที่ทำงานให้

    สรุป : สัญญาจ้างแรงงาน = ทำงานให้ + ให้ค่าจ้าง ตลอดเวลาที่ทำงาน

    @ สัญญาจ้างทำของ (มาตรา 587)

    (Hire of Work)

    1. เป็นสัญญา สองฝ่าย และเป็นสัญญา ต่างตอบแทน (Reciprocal Contract)

    2. คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งเรียกว่า "ผู้รับจ้าง" (Contractor / Employee) ตกลงรับทำงานสิ่งหนึ่งสิ่งใดจนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า "ผู้ว่าจ้าง" (Employer)

    3. ผู้ว่าจ้าง ตกลงจะจ่ายสินจ้าง (Money) เพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น

    สรุป : สัญญาจ้างทำของ = รับทำงานให้จนเสร็จ + ให้ค่าจ้างเมื่องานเสร็จ



    ข้อแตกต่างที่สำคัญ ระหว่าง สัญญาจ้างแรงงาน กับ สัญญาจ้างทำของ

    @ สัญญาจ้างแรงงาน

    1. มุ่งเน้นแรงงานที่ลูกจ้างทำ

    2. นายจ้างมีอำนาจควบคุมลูกจ้าง

    3. ลูกจ้างมีสิทธิรับเงินค่าจ้าง แม้งานยังไม่สำเร็จ

    4. นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้าง กรณีลูกจ้างละเมิดต่อบุคคลอื่นในทางการที่จ้าง (มาตรา 425)

    5. ลูกจ้างใช้เครื่องมือ / ฝีมือ / ความคิด ตามคำสั่งของนายจ้าง

    6. จ้างแรงงานมีกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กับกฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายเงินทดแทน และกฎหมายประกันสังคม เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นสวัสดิการและคุ้มครองให้ด้วย

    7. เมื่อมีข้อพิพาท ให้ฟ้องคดีที่ศาลแรงงาน

    @ สัญญาจ้างทำของ

    1. มุ่งเน้นที่ผลสำเร็จของงาน

    2. ผู้ว่าจ้างไม่มีอำนาจควบคุมผู้รับจ้าง

    3. ผู้รับจ้างได้รับสินจ้างเมื่องานสำเร็จ

    4. ผู้ว่าจ้างไม่ต้องร่วมรับผิดกับผู้รับจ้าง กรณีผู้รับจ้างละเมิดต่อบุคคลอื่นในระหว่างทำงานที่ว่าจ้างเว้นแต่ ผู้ว่าจ้าง จะผิดในส่วนงานที่สั่งให้ทำ หรือการเลือกผู้รับจ้าง (มาตรา 428)

    5. ผู้รับจ้างใช้เครื่องมือ /ฝีมือ / ความคิด ของตนเอง

    6. จ้างทำของมีเพียงกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บังคับคู่สัญญา ไม่มีกฎหมายคุ้มครองแรงงานและไม่มีสวัสดิการให้

    7. เมื่อมีข้อพิพาท ให้ฟ้องคดีที่ศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีแพ่งและพาณิชย์ (ได้แก่ศาลแพ่ง / ศาลจังหวัด / ศาลแขวง แล้วแต่กรณี)



    ข้อเหมือนกัน ระหว่าง สัญญาจ้างแรงงาน กับ สัญญาจ้างทำของ

    1. เป็นสัญญาต่างตอบแทน คือ ต่างฝ่ายต่างต้องตอบแทนกัน (ทำงานให้ + ให้ค่าจ้าง) (รับทำงานจนเสร็จ + ให้ค่าจ้างเมื่องานเสร็จ)

    2. มีสินจ้าง คือ ทำงานเพื่อให้ได้ค่าจ้าง (Money) โดยหลักเป็นเงิน

    3. เป็นสัญญาที่ไม่ต้องทำตามแบบพิธี คือ ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือทำเป็นหนังสือ กล่าวคือเพียงแค่ตกลงกัน โดยชัดแจ้ง (ด้วยวาจา / หนังสือ) หรือ โดยปริยาย (พฤติการณ์ที่แสดงออกต่อกัน) ก็ถือว่าสัญญาเกิดขึ้นแล้ว

    4. เป็นกฎหมายเอกชน คือ คุ้มครองสิทธิระหว่างประชาชนด้วยกัน ในฐานะที่สิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกันตามกฎหมาย

    ข้อสังเกต : หากเป็นกฎหมายคุ้มครองแรงงาน แรงงานสัมพันธ์ ฯลฯ จัดเป็นกฎหมายเอกชนกึ่งมหาชนและถ้าเป็นกฎหมายเลือกตั้ง หรือ รัฐธรรมนูญ จัดเป็นกฎหมายมหาชน ที่มุ่งคุ้มครองประโยชน์ส่วนรวม / หรือประโยชน์สาธารณะ



    ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฎีกา ที่เกี่ยวกับสัญญาทั้งสอง

    @ สัญญาจ้างแรงงาน

    1. เป็นลูกจ้างตามโรงงานต่างๆ ที่รับค่าตอบแทนคิดเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายเดือนฯ

    2. ลูกจ้างขับรถ

    3. ลูกจ้างทำงานในบริษัทเอกชนทั้งหลาย ที่ต้องทำงานตามคำสั่งนายจ้าง และได้รับค่าตอบแทนตลอดเวลาที่ทำงานให้

    ฯลฯ

    @ สัญญาจ้างทำของ</B>

    1. รับจ้างขับรถแท็กซี่

    2. รับจ้างสร้างบ้าน

    3. รับจ้างเป็นนักแสดง หรือ รับจ้างเป็นบรรณาธิการข่าว เรียบเรียงข่าว หรือเป็นผู้ประกาศข่าวโดยทำงานอิสระ ไม่อยู่ภายใต้บังคับบัญชา (ฎีกาที่ 2707/2531)

    ฯลฯ



    การจะพิจารณาว่า อะไรเป็นสัญญาจ้างแรงงาน หรือ สัญญาจ้างทำของ หรือไม่ นั้น จำต้องพิจารณาจากตัวบทกฎหมายเป็นสำคัญ ประกอบกับ ข้อตกลงที่คู่สัญญาตกลงกัน ดังที่ผู้เขียนได้เปรียบเทียบให้แล้ว และสิ่งที่เป็นเครื่องช่วยในการตีความสัญญา ก็คือ คำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ได้วางบรรทัดฐานเอาไว้ ในการตีความนั้น จำต้องพิจารณาข้อกฎหมายประกอบกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องๆ เป็นกรณีๆ ไป

    หากเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามมิให้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งใดในห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใดนั้น (รธน.มาตรา 267) หากมีข้อกล่าวหาหรือข้อพิพาทเกิดขึ้น ก็ต้องฟ้องร้องคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ

    ซึ่งนอกจากจะต้องตีความตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังกล่าวแล้ว จำต้องตีความตามกฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายมหาชนด้วย

    ระหว่างกฎหมายเอกชนกับกฎหมายมหาชนนั้น มีวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ตามกฎหมายแตกต่างกัน โดยหลักกฎหมายเอกชน มุ่งคุ้มครองประโยชน์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนด้วยกันในฐานะที่มีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกัน แต่ถ้าโดยหลักกฎหมายมหาชน ก็มุ่งที่จะคุ้มครองประโยชน์หรือสิทธิของประชาชนโดยส่วนรวมหรือคุ้มครองประโยชน์สาธารณะในฐานะที่รัฐเป็นฝ่ายปกครอง ย่อมจำต้องมีอำนาจหรือสิทธิที่เหนือกว่าเอกชนหรือประชาชน และมีมาตรฐานหรือความรับผิดชอบที่สูงกว่าประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้อยู่ภายใต้การปกครอง

    ดังนั้น กฎหมายมหาชน จึงมีขึ้นมาก็เพื่อปกป้องและคุ้มครองประโยชน์ของส่วนรวมหรือประโยชน์สาธารณะ และในขณะเดียวกันก็ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย

    ฉะนั้น คำว่า "ลูกจ้าง" หรือ "รับจ้าง" ทุกคนมีสิทธิตีความได้ และแล้วทุกสิ่งก็ล้วน "อนิจจัง" เอวัง...! ก็มีด้วยประการฉะนี้แล
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย.เตือนอย่าซื้อไส้กรอกสีแดง ผิดปกติมากิน

    http://hilight.kapook.com/view/24724

    [​IMG]

    วันนี้ (2 มิ.ย.) ภก.มานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา อย.ได้ดำเนินการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด แต่ยังพบผู้ผลิตอาหารบางรายผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารจากเนื้อสัตว์ประเภทไส้กรอก จึงขอเตือนมายังผู้บริโภค

    หากพบเห็นการขายไส้กรอกที่มีสีแดงสดผิดปกติ ขอให้หลีกเลี่ยงอย่าซื้อมาบริโภคเด็ดขาด เพราะอาจมีการใส่สีซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ทุกชนิดห้ามใส่สี ไม่ว่าจะเป็นสีผสมอาหารหรือไม่ก็ตาม และอาจมีการใช้วัตถุกันเสียเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ โซเดียม ไนไตรท์ (Sodium Nitrite) ซึ่งเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารบูดเน่า ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และทำให้เนื้อมีสีแดงน่ารับประทาน ผู้ผลิตมักนิยมนำมาผสมในอาหาร เช่นไส้กรอก กุนเชียง แหนม เนื้อเค็ม ปลาช่อนแห้ง หมูยอ และปลาร้า ซึ่งปริมาณที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ใช้ต้องไม่เกิน 125 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม

    "หากผู้บริโภคได้รับสารดังกล่าวในปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการ คลายตัวของหลอดเลือด เกิดสภาวะที่เม็ดเลือดแดงไม่รับออกซิเจน มีอาการหน้าแดง ไม่สบายท้อง ปวดศีรษะ ถ้าได้รับในปริมาณมากๆ จะเกิดอาการเนื้อตัวเขียว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเป็นลม ซึ่งอาการเหล่านี้ จะยิ่งอันตรายหากเกิดในเด็ก” ภก.มานิตย์ กล่าวและว่า ขอเตือนไปยังผู้ผลิตอาหารจากเนื้อสัตว์ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลัก อย่าใส่สีและอย่าใช้วัตถุกันเสียที่เกินกว่าปริมาณที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือไม่ใช้เลยจะดีที่สุด หากผู้ผลิตอาหารรายใดใส่สีในผลิตภัณฑ์อาหารจากเนื้อสัตว์ ถือเป็นการกระทำฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข

    ออกตามมาตรา 6 (4) และ 6 (5) จะมีโทษตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และผู้ผลิตอาหารใดใช้วัตถุกันเสียเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จัดเป็นอาหารผิดมาตรฐานตามมาตรา 28 ฝ่าฝืนมาตรา 25 (3) มีโทษตามมาตรา 60 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท ในส่วนของผู้บริโภค ขอให้ระมัดระวัง และให้คำแนะนำดูแลบุตรหลานอย่าซื้อไส้กรอกที่มีสีแดงสดผิดปกติมารับประทาน ควรเลือกซื้อไส้กรอกจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ หรือเลือกซื้อไส้กรอกในภาชนะบรรจุที่มีเครื่องหมาย อย. มีการแสดงฉลากที่ถูกต้อง ผลิตจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ นอกจากนี้ หากผู้บริโภคท่านใด พบเห็นการผลิตหรือจำหน่ายไส้กรอกที่มีสีแดงสดผิดธรรมชาติ โปรดแจ้งร้องเรียนมาที่ สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดที่พบการกระทำผิด"



    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
     
  8. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    คุณหนุ่มครับ ผ้ายันต์ถ้ายังพอมี ว่างๆส่งให้ผมบ้างนะครับสัก 5- 10 ผืนก็ได้ เห็นทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่แล้วอยากมอบอะไรดีๆให้เขาบ้าง เปลี่ยนชุดมาอยู่เรื่อยๆครับ
    โมทนาสาธุครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ได้เลยครับ ;)

    ผมจะรีบส่งไปให้ครับ^-^

    .
     
  10. ชวภณ

    ชวภณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +10
    <!-- End Post Thank You Hack --><!-- Start Post Groan Hack --><SCRIPT type=text/javascript><!--function post_groan_give_1250019(){ fetch_object('post_groan_button_1250019').style.display = 'none' do_groan_add = new vB_AJAX_Handler(true) do_groan_add.onreadystatechange(groan_add_Done_1250019) do_groan_add.send('showthread.php?do=post_groan_add_ajax&p=1250019')}function groan_add_Done_1250019(){ if (do_groan_add.handler.readyState == 4 && do_groan_add.handler.status == 200) { fetch_object('post_groan_box_1250019').innerHTML = do_groan_add.handler.responseText }}function post_groan_remove_all_1250019(){ do_groan_remove_all = new vB_AJAX_Handler(true) do_groan_remove_all.onreadystatechange(groan_remove_all_Done_1250019) do_groan_remove_all.send('showthread.php?do=post_groan_remove_all_ajax&p=1250019') fetch_object('post_groan_button_1250019').style.display = '' }function groan_remove_all_Done_1250019(){ if (do_groan_remove_all.handler.readyState == 4 && do_groan_remove_all.handler.status == 200) { fetch_object('post_groan_box_1250019').innerHTML = do_groan_remove_all.handler.responseText }}function post_groan_remove_user_1250019(){ do_groan_remove_user = new vB_AJAX_Handler(true) do_groan_remove_user.onreadystatechange(groan_remove_user_Done_1250019) do_groan_remove_user.send('showthread.php?do=post_groan_remove_user_ajax&p=1250019') fetch_object('post_groan_button_1250019').style.display = '' }function groan_remove_user_Done_1250019(){ if (do_groan_remove_user.handler.readyState == 4 && do_groan_remove_user.handler.status == 200) { fetch_object('post_groan_box_1250019').innerHTML = do_groan_remove_user.handler.responseText }}//--></SCRIPT>

    <!-- End Post Groan Hack --><!-- start adv-->



    <!-- / close content container --><!-- / post #1250019 -->

    <!-- start content table --><!-- open content container -->
    <!-- / start content table --><!-- controls below postbits --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=smallfont>[​IMG]</TD><TD align=right>
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=3 border=0><TBODY><TR><TD class=vbmenu_control style="FONT-WEIGHT: normal">หน้าที่ 853 จากทั้งหมด 853 หน้า</TD><TD class=alt1>&laquo; แรก</TD><TD class=alt1><</TD><TD class=alt1><!---500-->353</TD><TD class=alt1><!---100-->753</TD><TD class=alt1><!---50-->803</TD><TD class=alt1>839</TD><TD class=alt1>840</TD><TD class=alt1>841</TD><TD class=alt1>842</TD><TD class=alt1>843</TD><TD class=alt1>844</TD><TD class=alt1>845</TD><TD class=alt1>846</TD><TD class=alt1>847</TD><TD class=alt1>848</TD><TD class=alt1>849</TD><TD class=alt1>850</TD><TD class=alt1>851</TD><TD class=alt1>852</TD><TD class=alt2>853</TD><TD class=vbmenu_control id=pagenav.424 title="" style="CURSOR: hand" state="false" unselectable="true">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / controls below postbits -->
    <!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 24 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ชวภณ, mankit, sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->


    สมาชิกล่องหนอีกแล้ว
     
  11. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ยายผีป่าเคยให้คนมาบูชาพระจากคุณสิทธพงศ์แล้วส่งไปให้ยาย เพราะกลัวหากบูชาเองแล้วคุณหนุ่มจะแจกแถมมากมาย แล้วเพื่อนคนนั้นได้นำพระที่ได้รับมาโพสถามเซียนบนเวบ พลังจิตเขาฟันธงว่า เก๊!

    แต่คนแก่ที่เป็นสมาชิกชมรมพระสมเด็จที่หลวงปู่โตสร้าง ท่านอายุกว่า ๗๐ เป็นผู้คว่ำหวอดคนหนึ่งเกี่ยวกับพระสมเด็จ ท่านฟันธงว่าแท้ พิมพ์อะไร เนื้ออะไรบอกได้ชัดแจ้ง ก็เอาไปให้บุญพระเครื่องดูก็บอกว่าแท้ เอาพระใหม่ผสมไปด้วยเพื่อทดสอบแก แกคัดออกได้ถูกต้องหมด แล้วเมื่อวันที่ ๒๕ ที่เพิ่งผ่านมา ยายได้นำพระสมเด็จฯ ที่ได้จากคุณหนุ่ม(ผ่านการบูชาของเพื่อนสนิท) และจากคุณพิมพาภรณ์ และจากแหล่งนอกเวบ เอาไปเข้าร่วมประกวดพระ พระที่จะส่งเข้าประกวดได้นั้นต้องผ่านการตรวจก่อนจากอาจารย์เพื่อนๆ ของอาจารย์ รวิโรจน์ บุญพระเครื่อง ซึ่งสูงอายุ ครบทั้งวัยวุฒิ และประสบการณ์ค่ะ พอผลออกมา ส่งทั้งหมด

    ๕ องค์ แท้ทุกองค์ ได้รับรางวัลที่ ๓ หนึ่งองค์ ส่วนองค์อื่นๆ อาจารย์บอกว่าสวย แต่เราเขียนพิมพ์ผิด เพราะว่ายายแยกแยะพิมพ์ไม่เป็นค่ะ คราวหน้าอาจส่งใหม่

    ที่ส่งเข้าประกวดเพราะว่า

    อยากรู้ว่าคำติเตียนจากผู้ที่ชอบคิดว่าตัวเองรู้ดีกว่านั้นเป็นอย่างไร

    ยายเชื่อคนที่เขาเป็นกลางและไม่มีคำว่าพานิชย์มาตรวจให้ค่ะ วันนั้นมีชาวต่างชาติ มาจากมาเลย์ ใต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาประกวดและให้อาจารย์เช็คพระให้ด้วยค่ะ ซึ่งคนต่างชาติเหล่านี้ได้คุยกับยายนิดหน่อย เพราะยายไม่สะดวกคุยกับใครๆ เอาลูกน้อยไปด้วย ทำให้รู้ว่าคนต่างชาติที่เคยหลงซื้อพระจากเซียนดังในแหล่งขายพระติดแอร์มาในราคาสูง หลัก ๘และได้รับการรันตีว่าเนื้อพิมพ์ถูกต้อง สวยระดับแชมป์นั้น ของที่เอาไปประกวด อย่างจากที่ยายผีป่ามีนั้น พิมพ์และเนื้อแทบไม่ต่างกันเลย (ได้ข่าวว่ามาตื้อขอซื้อพระจากอาจารย์ระวิโรจน์องค์งามของท่าน ๕ ล้านแต่ท่านยังไม่ปล่อย และได้ข่าวว่าพวกชาวต่างชาติ(จำชื่อไม่ได้กำลังจะคืนพระกลับเรียกเงินคืนจากเซียนดังเหล่านั้นทั้งกรุค่ะ)

    ยายมาขอยืนยันค่ะว่า

    วงการพระเครื่อง มันมีเงื่อนงำมากมาย

    ใครอยากบูชาราคาแพงก็ไปเอาจากเซียนแนวหย้า ใครอยากได้ของดีราคาดี มาเอากับยายกับคุณหนุ่มก็ได้ เงินไปทำบุญด้วยนะจ๊ะจะบอกให้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มิถุนายน 2008
  12. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    เรียน คุณ sithiphong ครับ ร่วมทำบุญกับมูลนิธิชัยพัฒนา โอนเงินแล้วครับ...ผม PM ให้แล้วนะครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หลักฐานจากเซียนพระสากลนิยมชื่อดังยืนยันว่าพระวังหน้ามีจริง
    http://palungjit.org/showthread.php?t=131639

    <TABLE class=tborder id=post1250321 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 02:57 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ยายผีป่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1250321", true); </SCRIPT>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:36 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 3,962 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 350 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 33,407 ครั้ง ใน 3,745 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3357 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1250321 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->หลักฐานจากเซียนพระสากลนิยมชื่อดังยืนยันว่าพระวังหน้ามีจริง
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เนื่องด้วยในเวบพลังจิต.คอม ห้องวัตถุมงคลมีการโต้แย้งกันเรื่องพระวังหน้า โดยเฉพาะพระที่คุณสิทธิพงศ์นำมาบอกบุญ อ้างว่าเป็นพระปลอม หรือพระท่าพระจันทร์ก็มีขายในราคาไม่แพง (สงสัยคนที่ต่อต้านไม่ได้ดูเนื้อพระและไม่ได้ซื้อมาพิสูจน์ เห็นแต่ว่าเป็นของท่าพระจันทร์เลยตีเก๊หมดทุกเจ้า)ในว


    ยายผีป่าได้พบกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท่านรู้จักครอบครัวเรามาระยะยาวพอสมควร ทำงานที่สันติบาล และอยู่ในวงการพระเครื่อง และวงการดารา(ชอบแสดงเป็นตัวประกอบไม่เป็นโจรก็ตำรวจแต่ตัวจริงเป็นตำรวจจริงๆ ยศสูงด้วยสิคะ) พี่เขาก็รับฟังเรื่องพระวังหน้าที่เราโต้แย้งกันแล้วยายผีป่าเอาพระของเราให้ดู พี่เขาบอกว่าเนื้อขนาดนี้ หากปลอม คนปลอมมันทุ่มทุนจริงๆ เพราะแต่ละองค์ล้วนแตกต่างกันแม้จะพิมพ์เดียวกัน(หมายถึงการยุบการเกิดร่องรอยแสดงถึงความเป็นพระเก่ามวลสารดี ของปลอมจะทุ่มทุนเพื่อเงินห้าบาท ยี่สิบบาทหรือ ของปลอมมันไม่มีลูกเล่นที่แตกต่างทุกองค์หรอกพี่เขาว่ามา เพราะช่างมันไม่ทำงานหยุมหยิมแน่นอนในราคาขายที่ไม่มากนัก)

    แล้วพี่เขาก็แนะนำให้รู้จักพี่ใหญ่ของเขาที่อยู่ในวงการสื่อและทำนิตยสารพระมาหลายปีดีดัก พี่เขารื้อๆ ค้นๆ นิตยสารของรุ่นพี่อีกคนของเขามาให้แล้วบอกว่า นี่ตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ เอาไปเปิดดู จะรู้ว่าเซียนแนวหน้าตอนนั้นเขาเล่นพระวังหน้ากันราคาหนักเอาการ ถ้าเขาระดับนี้มาขายพระปลอม เขาจะโตมาถึงวันนี้ไหม แต่ที่มันไม่พุ่ง เพราะว่ามีการทำปลอมมาสะกัดดาวรุ่งเยอะ เพราะหากพระวังหน้าดัง พระสมเด็จวัดระฆังที่เซียนเขาบอกว่ามีน้อยและปั่นราคาสูงลิบนั่นก็จะราคาตก

    เลยเอาหลักฐานมาให้ดูค่ะ

    ดึงมาจากนิตยสารพระเครื่อง "พุทโธ" ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๑๕ ประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๒

    ตอนนั้นขายฉบับละ ๑๕ บาท

    และกระดาษเก่ากรอบเหลืองมากแล้ว เวลาแสกนยายผีป่าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ชัดเจน

    แต่ให้พยายามซูมดูนะคะ ยายผีป่าไม่เก่งเรื่องเทคนิคคอม

    รายการที่ยืนยันคือ

    รายการที่

    ๑๗. พระปิดตาวังหน้า สภาพพอสวยดูง่าย ๓,๐๐๐ บาท


    เจ้าของพระรับประกันแท้...เก๊!!...คืนได้ทุกเวลา
    <!-- / message --><!-- attachments --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    สำหรับพระวังหน้า สามารถร่วมทำบุญกับท่านแม่ชีณัฐทิพย์ได้ที่กระทู้ ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือตามลายเซ็นผม กองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง

    หรือ http://palungjit.org/showthread.php?t=112354

    ซึ่งผมได้ถวายพระพิมพ์ประมาณ 230 องค์ ท่านผู้ร่วมทำบุญได้ทั้งพระพิมพ์ไปบูชาเพื่อเป็นพุทธานุสติและคุ้มครองตนเอง ที่สำคัญได้บุญใหญ่ด้วยครับ

    โมทนากับคุณยายผีป่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_957439", true); </SCRIPT>ด้วยครับ
    <!-- / sig -->



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • peedta.jpg
      peedta.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.6 KB
      เปิดดู:
      91
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หลักฐานจากเซียนพระสากลนิยมชื่อดังยืนยันว่าพระวังหน้ามีจริง
    http://palungjit.org/showthread.php?t=131639



    <TABLE class=tborder id=post1250528 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 03:55 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ยายผีป่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1250528", true); </SCRIPT>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:05 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 3,963 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 350 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 33,414 ครั้ง ใน 3,747 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3357 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1250528 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ศูนย์พระเครื่องที่อ้างถึง...เป็นศูนย์พระเครื่องสากลนิยม ชื่อดังของเมืองไทยนะคะ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เนื่องด้วยช่วงนี้ยายผีป่าไม่มีเวลามาเปิดกระทู้คอยโต้ตอบใดๆ มีงานทำมากมาย เลยขออนุญาตเปิดเผยว่าข้อมูลนี้เซียนท่านใดคือเจ้าของพระนะคะ

    ไม่มีเจตนาลบหลู่ท่าน อนุโมทนากับคุณลุง(เจ้าของโฆษณา)ด้วยค่ะที่ทำให้เราได้คำตอบที่มายืนยัน

    ไม่ทราบว่าแอดมินจะกล้าเอากระทู้นี้ขึ้นแนะนำหน้าหลัก เหมือนที่เคยเอากระทู้ต่อต้านพระวังหน้า พระเก๊ขึ้นบ้างไหม ก็ไม่ยึดติด คนที่เขามีวิจารณญาณคนที่เขาสนใจอยากรู้ต่อให้กระทู้หายไปไหนๆ เขาตามหาเจอค่ะ

    ยายไม่ต้องการให้คนรุ่นใหม่ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำเป็นผู้รู้(เพราะหลงคิดว่ารู้)มาเอาสิ่งที่รู้ไม่ถึงก้นบึ้ง ไม่เจาะลึก ไม่พิสูจน์ให้ถ่องแท้ มาตั้งนิยาม มายัดเยียดความเชื่อที่ผิดไป ทำให้เราทำสิ่งที่เป็นมรดกของครูบาอาจารย์ มรดกของแผ่นดินเสียไป เป็นการปรามาสพระรัตนตรัยด้วย เพราะการทำลายพระที่ครูบาอาจารย์สร้างไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ ล้วนอเวจีถามหาเจ้าค่ะ จากจิตสัมผัสลองส่องดู เห็นว่าที่แท้ก็เป็นหนุ่มน้อยร่างเล็กที่อยากโชว์พาวแค่นั้นเอง ยายได้คุยกับราชนิกูลท่านหนึ่ง ท่านเล่าเรื่องการหาจจัยบูรณะพระธาตุพนมสมัยรัชการที่สี่ค่ะ นี่คือที่มาการนำทองที่ปิดองค์พระธาตุที่ชำรุดมาผสมเป็นพระสมเด็จกรุพระธาตุพนม สมัยนั้นสมเด็จโตท่านมอบให้วังหน้าจัดการให้บูชาที่องค์ละบาทเดียว ส่วนพระสายรุ้งองค์ละ ๔ บาท เจ้าค่ะ
    <!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]

    </FIELDSET>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post1250588 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 04:11 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #3 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ยายผีป่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1250588", true); </SCRIPT>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:22 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 3,964 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 350 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 33,419 ครั้ง ใน 3,747 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3357 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1250588 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พยัพ คำพันธ์ คือเซียนพระชื่อดังแนวหน้าของประเทศไทย และยังได้รับความเชื่อถือให้เกียรติในฐานะ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย(สากลนิยม) ค่ะ
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2008
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    และแล้ว อุณหภูมิในบ่ายวันอังคารแก่ๆก็ พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไร้แรงต้านครับ คราวนี้ล่ะท่านปา-ทาน ผมเตือนแล้วอย่าสั่นระฆังมากเกินวันละครั้งพอครับ.....(smile) (พูดมากเดี๋ยวหาว่า มาม่าม้ามาแล้ว ก็ของจริงต้องพิสูจน์ได้นี่ครับ หุ หุ หุ)
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองก็กลัวครับ เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคมะเร็งกันเยอะมาก
    ไม่อยากเป็น ผมเองก็เสียเพื่อนหลายคนและหลายๆท่านที่ผมเคารพ ก็จากโรค(บ้าๆ)นี้
    ต้องรีบทำบุญ เผื่อบุญจะช่วยได้ ผมก็หวังไว้เช่นกัน

    ทุกท่านรักษาสุขภาพกันให้ดีๆนะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เป้าซินจิ้วหั่ว (抱薪救火) : หอบฟืนไปดับไฟ
    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000064257
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 มิถุนายน 2551 17:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อ่านว่า เป้า แปลว่า หอบ
    อ่านว่า ซิน แปลว่า ฟืน
    อ่านว่า จิ้ว แปลว่า ช่วย
    อ่านว่า หั่ว แปลว่า ไฟ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ในช่วงปลายสมัยสงครามระหว่างรัฐ รัฐฉินได้ใช้ยกพลเข้าโจมตีรัฐเว่ยหลายต่อหลายครั้ง รัฐเว่ยไม่สามารถต้านทานได้จึงเสียดินแดนให้กับรัฐฉินไปไม่น้อย จนกระทั่งถึง 273 ปีก่อนคริสตกาล รัฐฉินก็ยกกองกำลังทหารที่เข้มแข็งโหดเหี้ยมอย่างประเมินไม่ได้บุกรัฐเว่ยอีกครั้ง

    อ๋องรัฐเว่ยในขณะนั้นจึงเรียกประชุมเสนาบดี ถามว่าใครมีวิธีที่จะทำให้รัฐฉินถอนกำลังกลับไปบ้าง แม้ว่าบรรดาเสนาบดีจะผ่านช่วงเวลายากลำบากมาไม่น้อย แต่เมื่อพูดถึงการศึกสงครามก็อดหวั่นใจมิได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครเอ่ยคำว่า “สู้” ออกมาให้อ๋องรัฐเว่ยได้ยิน เสนาบดีหลายคนเมื่ออยู่ในภาวะที่ถูกกดดันจากกองกำลังทหารของข้าศึกประกอบกับรักตัวกลัวตาย จึงเสนอให้อ๋องรัฐเว่ยมอบดินแดนที่อยู่ทางทิศเหนือของแม่น้ำฮวงโหตลอดไปจรดทิศใต้ของภูเขาไท่หังให้รัฐฉินเพื่อเป็นการสงบศึก

    อย่างไรก็ตามมีขุนนางผู้หนึ่งนามว่า "ซูไต้" พยายามกล่าวคัดค้าน โดยบอกกับอ๋องรัฐเว่ยว่า “พวกที่เสนอให้มอบดินแดนของเราให้ศัตรูนั้นเป็นพวกรักตัวกลัวตาย ไม่ได้คำนึงถึงบ้านเมืองแม้แต่น้อย ท่านลองคิดดู แม้ว่าการมอบดินแดนส่วนหนึ่งของเราออกไปอาจจะสร้างความพอใจให้กับอ๋องรัฐฉินในช่วงเวลาหนึ่ง แต่สิ่งที่รัฐฉินต้องการไม่ได้มีเพียงแค่นั้น ต้องรอจนกระทั้งรัฐเว่ยหมดแผ่นดินสิ้นชาติเท่านั้น รัฐฉินจึงจะหยุดโจมตีพวกเรา”

    เมื่อกล่าวจบ ซูไต้ได้เล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ท่านอ๋องฟัง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า นานมาแล้วมีชายผู้หนึ่งบ้านถูกไฟไหม้ ชาวบ้านจึงบอกให้เขารีบเอาน้ำมาดับไฟ แต่เขาไม่ฟัง กลับหอบเอาไม้ฟืนไปดับไฟ เนื่องจากเขาลืมคิดไปว่าไม้ฟืนไม่เพียงไม่ทำให้ไฟดับ แต่กลับจะเป็นตัวเร่งให้ไฟโหมลุกไหม้มากยิ่งขึ้น เช่นกัน หากท่านอ๋องยินยอมยกดินแดนให้รัฐฉิน ก็ไม่ต่างอะไรกับการหอบเอาไม้ฟืนไปดับไฟ

    แม้ว่าสิ่งที่ซูไต้พูดล้วนมีเหตุผล แต่บรรดาเสนาบดีขี้ขลาดที่ต้องการความสงบสุขในปัจจุบันก็พยายามชี้นำให้อ๋องรัฐเว่ยมอบดินแดนบางส่วนให้รัฐฉินเพื่อสงบศึกจนเป็นผลสำเร็จ

    ทว่าเมื่อถึง 225 ปีก่อนคริสตกาล ก็เป็นดังที่ซูไต้กล่าวไว้ รัฐฉินได้ยกพลมาบุกรัฐเว่ยอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้รัฐฉินได้ขุดรากถอนโคนล้มล้างรัฐเว่ยเป็นผลสำเร็จ

    สุภาษิต “หอบฟืนไปดับไฟ” เป็นคำเปรียบเปรยถึงการใช้วิธีการผิดๆ ในการแก้ไขหรือป้องกันภยันตรายที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อย.เตือนอย่าซื้อไส้กรอกสีแดง ผิดปกติมากิน

    http://hilight.kapook.com/view/24724

    [​IMG]

    วันนี้ (2 มิ.ย.) ภก.มานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา อย.ได้ดำเนินการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด แต่ยังพบผู้ผลิตอาหารบางรายผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารจากเนื้อสัตว์ประเภทไส้กรอก จึงขอเตือนมายังผู้บริโภค

    หากพบเห็นการขายไส้กรอกที่มีสีแดงสดผิดปกติ ขอให้หลีกเลี่ยงอย่าซื้อมาบริโภคเด็ดขาด เพราะอาจมีการใส่สีซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ทุกชนิดห้ามใส่สี ไม่ว่าจะเป็นสีผสมอาหารหรือไม่ก็ตาม และอาจมีการใช้วัตถุกันเสียเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ โซเดียม ไนไตรท์ (Sodium Nitrite) ซึ่งเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารบูดเน่า ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และทำให้เนื้อมีสีแดงน่ารับประทาน ผู้ผลิตมักนิยมนำมาผสมในอาหาร เช่นไส้กรอก กุนเชียง แหนม เนื้อเค็ม ปลาช่อนแห้ง หมูยอ และปลาร้า ซึ่งปริมาณที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ใช้ต้องไม่เกิน 125 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม

    "หากผู้บริโภคได้รับสารดังกล่าวในปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการ คลายตัวของหลอดเลือด เกิดสภาวะที่เม็ดเลือดแดงไม่รับออกซิเจน มีอาการหน้าแดง ไม่สบายท้อง ปวดศีรษะ ถ้าได้รับในปริมาณมากๆ จะเกิดอาการเนื้อตัวเขียว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเป็นลม ซึ่งอาการเหล่านี้ จะยิ่งอันตรายหากเกิดในเด็ก​
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในขณะที่ผมไม่รู้สึกตัว ผมเองมีความรู้สึกว่า ผมได้ไปเดินวนอยู่ที่นึง ผมไม่รู้ว่าจะไปไหน เดินวนไปเวียนมาหลายรอบ แล้วก็วูบไป (หลังจากที่ผมไปพักฟื้นในห้องธรรมดาที่ชั้น 10 แล้ว ต้องมีการหัดเดิน) ผมลองลงมาเดินที่ชั้น 9 ที่ผมเข้ามาในครั้งแรก ภาพที่เห็นเหมือนกับในความรู้สึกผม ว่าผมเคยมาเดินที่นี่แล้ว แต่จริงๆแล้ว ผมไม่เคยมาเดินเลย เป็นที่ๆ พยาบาลมานั่งทำงาน มีลักษณะเป็นวงรี กว้างประมาณ 2 เมตรครึ่ง ยาวประมาณ 5 เมตรครึ่งได้
    <O:p</O:p

    ขณะที่ผมไม่รู้สึกตัว น้องชายผมได้อยู่เฝ้าไข้ ได้เล่าให้ฟังว่า ผมหมดลมหายใจไปแล้ว และวิ่งเข้ามาตบหน้าอกผม บอกว่า หนุ่มๆ อย่าพึ่งไป อย่าพึงเป็นอะไร หลายๆครั้ง ประจวบกับมีพยาบาลเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอพยาบาลเห็นก็รีบปั๊มหัวใจให้ พร้อมทั้งนำผมไปที่ห้อง ICU <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อผมเข้าห้อง ICU แล้ว น้องชายผมก็กลับบ้าน เมื่อน้องชายผมกลับบ้าน เขาเห็นผมเดินตามเขาไปที่บ้าน เหมือนกับชุดที่ผมใส่ในวันนั้น หมาที่บ้านผม ปกติน้องชายผมกลับบ้าน ปกติหมาต้องดีใจ แต่ในวันนั้น ยืนหูตั้ง หางตก อีกทั้งวิ่งเข้าไปหลบอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว หมาตัวนี้ปกติกับผม ก็ไม่ค่อยจะถูกกัน ผมชอบตีมันเนื่องจากมันดื้อมากๆ และทั้งบ้าน หมาตัวนี้กลัวผมอยู่คนเดียว ทั้งคุณพ่อผม ,คุณแม่ผม และน้องชายผม ก็โดนกัดโดยถ้วนหน้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลังจากนั้น 2 วัน ผมฟื้นขึ้นมา ได้เห็นตัวเองอีกครั้ง พร้อมทั้งเห็นสายระโยงรยางค์เต็มไปหมด มีการต่อท่อหายใจ(เนื่องจากผมหายใจเองไม่ได้) ได้เห็นครอบครัวผม ได้เห็น ผบทบ.ผม(ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงาน) ทางคุณพ่อผมก็ได้นำถังสังฆทานมา ให้ผมจบเพื่อที่ท่านจะไปทำสังฆทานให้ อีกทั้งแม่ ผบทบ.ผมก็ได้ไปจุดธูป 16 ดอก เพื่อขอขมาในสิ่งที่ผมได้กระทำล่วงเกิน(ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ)ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งน้องชายผม 2 คน และพี่น้องทาง ผบทบ.ผมก็ได้ไปบนไว้หลายที่ มีเพื่อนที่ทำงานผมก็บนเหมือนกัน (แต่บนรูปที่ผมตั้งไว้ที่ทำงาน บนกับรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ,องค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ว่าขอให้ผมหายดี ถ้าผมหายแล้วให้ผมมาแก้บนเอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมนอนอยู่ใน ICU อยู่ 4 คืน และไปนอนห้องธรรมดาอีก 4 คืน รวม 8 คืน 9 วัน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมถามหมอที่รักษาผมว่า ผมเป็นอะไร หมอตอบผมไม่ได้ว่า เกิดจากอะไร เนื่องจากตรวจอะไรไม่เจอ อาจจะเป็นที่ผมได้อ๊วกออกมาและการถ่าย แต่ถ้ามีสารพิษ ควรจะตรวจสอบได้ทางผลการตรวจเลือด หมอบอกกับผมเพียงว่า คุณได้รับสารพิษที่รุนแรงและเฉียบพลัน หรือคุณอาจจะโดนยาสั่ง ???? แต่ก็ไม่เป็นไร ผมก็รักษาคุณหายแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอเล่าเรื่องสักเล็กน้อย ในที่ทำงานผมเมื่อก่อนนี้ ผมมีหัวหน้าอยู่คนหนึ่ง ซึ่งผมทราบว่า เขากระทำการที่มิชอบ มีการทุจริต แต่เนื่องจากคนผู้นี้ เป็นลูกเขยของนักการเมือง(ที่เมื่อก่อนชื่อดังคนนึง แถมเป็นคณะกรรมาธิการ.....) แต่สุดท้ายก็ถูกไล่ออกจากที่ทำงานผม ผมกับเขาก็มีเรื่องงัดกันอยู่บ่อยครั้ง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรื่องนี้เป็นไปได้ 2 กรณีคือ <O:p</O:p
    1.ผมได้รับสารพิษ จากไส้กรอก 2 อัน<O:p</O:p
    2.ผมได้รับยาสั่ง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แต่จนถึงวันนี้ ผมยังสรุปไม่ได้ว่า ที่ผมต้องไปนอน ICU อยู่ 4 คืน เนื่องจากสาเหตุอะไร แต่ผมเองค่อนข้างมั่นใจว่า เหตุที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดจากไส้กรอก ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้น ยันวันนี้ ผมไม่เคยกินไส้กรอกอีกเลย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จะทานอะไร ควรระมัดระวังกันด้วยนะครับ<O:p</O:p
    ด้วยความปรารถนาดี<O:p</O:p
    sithiphong<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ปล.หากอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ และรบกวนช่วยวิจารณ์การเขียนให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...