เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    อะนะ วันนี้ก็เหมือนเปลือยจิตวิญญาณให้ทุกคนได้สัมผัส...ยังไงก็ไม่รู้..แต่ถ้าทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ ก็ยินดีค่ะ ..ส่วนเพลงที่ร้องมาปีสองปีแล้ว..ถ้าคุณ mead จะนำมาแบ่งปันก็ยินดีค่ะ (( ไหนๆ ก็ไหน ๆแล้วนะ ไม่มีอะไรต้องซ่อนเร้น ค่ะ ))
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ดีแล้วครับคุณโซล ที่เป็นตัวแทนสมาชิกที่กล้านำมาโพสอีกท่านนึง
    นี่ละครับเค้าเรียกว่า เด็ดเดี่ยวตัวจริง แถมยังจริงใจและตรงไปตรงมาด้วย
    เหมือนได้เรียนรู้อีกตัวตนนึงของคุณโซลที่ผ่านมาแบบไร้เงาครับ
    ดีที่เหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นจริง..ผ่านมาอย่างชิลล์ๆ
    เหมือนแบบจำลองทางเลือกอีกมุมหนึ่งของชีวิตเลยนะครับ

    (deejai)

    อย่าลืมช่วยกันฝันถึงคุณซิปฯด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2008
  3. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    หลังจากอ่านบางเล่มหลายๆรอบแล้ววิเคราะห์ออกมาก็ตีความว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นตามกฏแห่งการดึงดูด แต่เป็นกฏแห่งการดึงดูดทางจิตวิญญาณครับ
    บางครั้งเราไม่สามารถบังคับความรู้สึกอันรุนแรงของตนได้เพราะบางครั้งเราต้องเรียนรู้สิ่งๆนั้น ชีวิตคนเราต้องเจอทั้งดีและไม่ดีเป็นการรับบทเรียนแต่สิ่งที่สำคัญคือเฝ้ามองตัวเองจากความไม่สมหวังตรงจุดนั้นและเรียนรู้ตรงนั้นมากๆแล้วมันจะผ่านไปเร็วขึ้น ถ้าไม่พยายามจะเข้าใจก็คงจะติดอยู่ตรงนั้นไปอีกนาน
     
  4. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ความฝัน คำเตือน ความเชื่อ

    พี่นักเขียนขอขอบคุณ คุณน้อง soul2006 และสมาชิกห้องวิทย์ทุกท่านที่นำข้อมูลส่วนตัวมา post อย่างเปิดเผย และขอสนับสนุนให้ผู้อ่านท่านอื่นๆ นอกห้องวิทย์เข้ามาร่วมสนทนากันด้วยความเป็นกันเองฉันท์ญาติมิตรทางจิตวิญญาณ โดยไม่ได้มีข้อแม้ว่า หากเข้ามาเป็นสมาชิกห้องวิทย์แล้ว จะต้องนำข้อมูลส่วนตัวที่สื่อสารกับพี่นักเขียนมา post ค่ะ พี่นักเขียนเคารพใน privacy ของทุกท่านเสมอ และทุกเรื่องที่พี่นักเขียนนำมา post ด้วยตนเอง ได้ขออนุญาตกับเจ้าของข้อมูลแล้ว โดยใช้นามสมมุติ เปลี่ยนอาชีพหรือบางส่วนของข้อมูล เพื่อช่วยให้อำพราง identity ของเจ้าของข้อมูล

    พี่นักเขียนตระหนักว่า การ post ข้อมูลเหล่านี้ เป็นประโยชน์กับผู้อ่านจำนวนมาก เพราะทำให้เราได้เรียนรู้ถึงภาวะจิต และภาพสะท้อนที่ปรากฏในชีวิตของเราแต่ละคนจากสถานการณ์จริง ซึ่งไม่มีปรากฏอ้างอิงในหนังสือ การศึกษาจากประสบการณ์จริง เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้เราสามารถร่วมกันพิสูจน์ข้อมูลความรู้ที่ปรากฏในหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยร่วมกันได้ และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปทดลองและพิสูจน์ด้วยเอง หรือเปรียบเทียบกับประสบการณ์ส่วนตน เพื่อทำให้เราเกิดความเข้าใจ และมีความมั่นใจในตนเองได้มากขึ้น

    หลังจากที่ผู้อ่านได้อ่าน post ของคุณน้อง soul2006 ได้ e-mail มาถึงพี่นักเขียนหลายฉบับพร้อมกับคำถามคล้ายๆกันว่า
    1. ความฝันของพี่นักเขียนคือ อดีตชาติ หรืออนาคตของคุณน้อง soul2006 ใช่หรือไม่ ?
    2. หากมันเป็นอนาคต จะมั่นใจได้อย่างไรว่า เราเปลี่ยนแปลงมันได้สำเร็จ ?
    3. แม้ว่าจะได้เรียนรู้จากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยและจากกระทู้แห่งนี้ว่า
    เราสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง
    เราจะเรียกการทำนายทายทักของหมอดู หรือความฝันของพี่นักเขียน ว่าเป็นสัญญาณเตือนได้ไหม?

    พี่นักเขียนขอนำคำตอบสำหรับคำถามที่คล้ายคลึงกันมา post ณ ที่นี้
    ส่วนคำถามจำเพาะส่วนตัวอื่นๆจะตอบกลับทาง e-mail ค่ะ

    1. ความฝันของพี่นักเขียนคือ อดีตชาติ หรืออนาคตของคุณน้อง soul2006 ใช่หรือไม่ ?

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้เสมอๆว่า อดีต-ปัจจุบัน-อนาคตมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมด เป็นปัจจุบัน
    พี่นักเขียนตระหนักดีว่า คำกล่าวนี้เป็นข้อความที่เข้าใจได้ยากจากมุมมองของเรา ที่ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งกาลเวลา เรายอมรับแทบไม่ได้ว่า เวลาไม่มีีอยู่จริงดังที่เรารู้เห็น เพราะเรามีเมื่อวาน เรามีวันนี้ เรามีพรุ่งนี้ แต่ ณ วินาทีนี้เราก็ไม่ได้เผชิญกับอดีตหรืออนาคตเลย เรามีแต่ปัจจุบัน แต่เราก็ยังเข้าใจไม่ได้อยู่ดี พี่นักเขียนขอให้เราลองทดแทนคำว่า อดีตและอดีตชาติ กับ คำว่า อนาคตและอนาคตชาติ ด้วยคำว่า เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ และให้ลองจินตนาการว่า สิ่งที่พี่นักเขียนฝันถึงคุณน้อง soul2006 เป็นความเป็นไป-บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้-เส้นอื่น ซึ่งกำลังดำเนินไปพร้อมๆกันกับชีวิตของคุณน้อง soul2006 ณ ปัจจุบันนี้

    เราจะพอจินตนาการต่อไปได้อีกว่า ที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า ทุกชีวิต ทุกชาติภพ ทุกมิติ ส่งผลกระทบถึงกันหมด
    ชาติภพนี้ ชีวิตนี้ มิตินี้ คุณน้อง soul2006 ไม่ได้กำลังเผชิญกับเหตุการณ์ชีวิตเหล่านั้นเลย มันปรากฏเป็นเพียงแค่-ความคิด

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า ความคิดทั้งหลายเป็นพลังงาน ทุกความคิดก่อเกิดโลกแห่งความเป็นจริง บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ เส้นใดเส้นหนึ่งเสมอ และหากเราจดจ่อกับความคิดนั้นอย่างสม่ำเสมอ ในทึ่สุดเราจะดึงดูดเส้นทางแห่งความเป็นไปได้นั้นๆมาสู่เส้นทางที่เราเรียกว่า โลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบันของเรา

    แต่ประสบการณ์ชีวิตบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย ก็ไม่ได้เกิดขึ้นหรือสัมพันธ์กันในทิศทางที่เรียกว่า เป็นเหตุและผลสืบเนื่องของกันและกัน ในทิศทางที่เราเรียกว่า กรรม ซึ่งทำให้เราเข้าใจว่าเราทำผิดในชีิวิตชาติภพหนึ่งๆ และเราต้องชดใช้โทษของเราในอีกชาติภพหนึ่งที่ตามมาทีหลัง ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า การทำผิดและการลงโทษไม่เป็นเหตุเป็นผลกับจิตวิญญาณ? เนื่องจากจิตวิญญาณอยู่นอกเหนือกาลเวลา การทำผิดและการลงโทษ เป็นเหตุเป็นผลต่อเมื่อมันเป็นไปตามเส้นทางแห่งกาลเวลาเท่านั้น

    ประสบการณ์ชีวิตบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ จึงเป็นไปแตกต่างกัน หรือคล้ายคลึงกัน เพื่อที่ว่าจิตวิญญาณจะสามารถเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างได้จากทุกแง่มุม จากทุกชาติภพ จากทุกมิติ หรือ จากทุกเส้นทางแห่งความเป็นไปได้

    กล่าวได้ว่า คุณน้อง soul2006 เรียนรู้การพึ่งตนเองจากประสบการณ์ชีวิตอันหลากหลาย บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่ปราศจากขีดจำกัด ประสบการณ์นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละเส้นทาง แต่เป้าหมายก็คือ การเรียนรู้ถึงพลังอำนาจในตนเองว่า เราสามารถพึ่งตนเองได้เสมอ

    ชาติภพหนึ่งๆ คุณน้อง soul2006 อาจเรียนรู้ได้ด้วย การเผชิญกับสถานการณ์นั้นๆด้วยตนเอง
    อีกชาติภพหนึ่งๆ คุณน้อง soul2006 อาจเรียนรู้ได้ด้วย การรู้เห็นประสบการณ์ของผู้อื่น
    อีกชาติภพหนึ่งๆ คุณน้อง soul2006 อาจเรียนรู้ได้ด้วย การคิดคำนึง โดยไม่ต้องเผชิญกับประสบการณ์นั้นๆด้วยตนเอง เป็นต้น

    ------------------------------------------------
    2. หากมันเป็นอนาคต จะมั่นใจได้อย่างไรว่า เราเปลี่ยนแปลงมันได้สำเร็จ ?

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้เสมอๆว่า เธอจดจ่อกับสิ่งใด-ได้สิ่งนั้น-ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น
    การจดจ่อของเราคือการเหนี่ยวนำประสบการณ์นั้นๆ จากเส้นทางแห่งความเป็นไปได้มาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเรา
    ไม่ว่าเราจะจดจ่อด้วยปัจจัยแห่งอารมณ์ใดๆ เช่น ความกลัว-ไม่อยากให้มันเป็นไป ความสงสัย-สงสัยว่าหากมันเป็นไป ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร
    แล้วเราก็มักจะจินตนาการตามไปในทิศทางนั้นๆ โดยเข้าใจว่า จินตนาการเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้และปราศจากความเป็นจริง บางคนจินตนาการในแง่ร้ายจนเป็นนิสัย และคิดว่าจินตนาการทั้งหลายเป็นเพียงการฆ่าเวลาด้วยการใช้ความคิด ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อชีวิตของเรา แต่กลับเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในแง่ร้ายอยู่เรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ามันมาจากไหน

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า
    จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหมด
    การจินตนาการจึงเป็นการจดจ่อที่เพิ่มกระแส และทำให้ความเป็นไปได้ทั้งหลายกลายเป็นความเป็นจริง
    การจินตนาการในสิ่งที่ดี จึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรฝึกฝนจนเป็นนิสัย เพื่อทำให้เรามั่นใจได้ว่า เรากำลังสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่พึงปรารถนา และมั่นใจได้ว่า เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ชีวิตได้สำเร็จ เพราะเมื่อเราจินตนาการในแง่ร้ายหรือแง่ลบจนเป็นนิสัย เราก็ได้สร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่ไม่พึงปรารถนาเหล่านั้นด้วยจินตนาการของตนเองเช่นกัน

    เราจึงมั่นใจได้ว่า เราสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราเรียกว่าอนาคตได้ ด้วยการจินตนาการและจดจ่อกับสิ่งที่พึงปรารถนา

    อย่ากลัวความว้าเหว่ แต่ให้รักความอบอุ่นพรั่งพร้อม
    อย่าสงสัยว่าเราจะได้อะไรจากความว้าเหว่บ้าง แต่ให้มั่นใจว่าเราจะได้รับความสุขและความอบอุ่นจากสัมพันธภาพที่ดี


    ปัญหาของเราทั้งหลายคือ การที่เราแยกไม่ออกว่า เรากำลังจดจ่อกับสิ่งที่พึงปรารถนา หรือว่า เรากำลังจดจ่อกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาด้วยความกลัวและสงสัย

    เวลาที่เรากลัวว่า ประสบการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นกับชีวิต
    เราจดจ่อกับความกลัวนั้นด้วยความเชื่อที่ว่า มันจะผลักไสประสบการณ์เหล่านั้นออกไปให้ไกลตัว แต่ในทางตรงกันข้าม เรากำลังสร้างสรรค์และดึงดูดมันเข้ามาสู่ประสบการณ์ชีวิต


    เวลาที่เราสงสัยว่า หากประสบการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นแล้วชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร เรามักจินตนาการมากมาย เพราะเชื่อว่า จินตนาการจะช่วยป้องกันหรือทำให้เราสามารถเตรียมรับมือกับปัญหาได้ล่วงหน้า แต่ในทางตรงกันข้าม เรากำลังสร้างสรรค์และดึงดูดมันเข้ามาสู่ประสบการณ์ชีวิต

    ------------------------------------------------
    3. แม้ว่าจะได้เรียนรู้จากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยและจากกระทู้แห่งนี้ว่า
    เราสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง
    เราจะเรียกการทำนายทายทักของหมอดู หรือความฝันของพี่นักเขียน ว่าเป็นสัญญาณเตือนได้ไหม?

    พี่นักเขียนสะดุดใจกับคำกล่าวของคุณน้อง kindred ที่ว่า .... จะว่าพี่เค้ามาเตือนเรา ได้มั๊ยค่ะ ว่ามันมีเส้นทางที่เป็นไปได้แบบนี้อยู่....
    มีประสบการณ์ความฝันมากมายที่พี่นักเขียนได้ส่งสารให้กับเจ้าของประสบการณ์ล่วงหน้า แต่บางคนก็ไม่ได้นำข้อมูลจากความฝันไปใช้ และทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาที่แท้น่าจะหลีกเลี่ยงได้

    พี่นักเขียนได้ถามตนเองเสมอๆว่า เรารับเรื่องราวจากความฝันเหล่านี้มาทำไม ในเมื่อมันเป็นเรื่องราวของคนแปลกหน้าที่พี่นักเขียนไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยในชีวิต? และก็ได้คำตอบว่า มันเป็นสาร ที่พี่นักเขียนเลือกมาทำหน้าที่นำส่ง แต่สารนี้จะสำคัญหรือมีประโยชน์กับผู้ใดหรือไม่ ย่อมอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละคนเสมอ

    พี่นักเขียนจะขอยกตัวอย่างประสบการณ์เรื่องหนึ่ง
    Case พินัยกรรมหาย

    พี่นักเขียนฝันว่า ตนเองเผชิญหน้ากับภรรยาใหม่ของคุณพ่อ เธอผู้นี้ไม่หวังดีต่อเรา และเชื่อว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและมุ่งหวังที่จะกอบโกยทรัพย์สมบัติของคุณพ่อไปเป็นของตนเอง ในความฝัน-ก่อนที่คุณพ่อจะถึงแก่กรรม ได้บอกว่าทำพินัยกรรมยกทุกสิ่งทุกอย่างให้พี่นักเขียน แต่เมื่อคุณพ่อจากไป พี่นักเขียนกลับหาพินัยกรรมนั้นไม่พบ พี่นักเขียนโกรธแค้นภรรยาใหม่ของคุณพ่อเป็นอันมาก และปักใจเชื่อว่า เธอขโมยพินัยกรรมไป เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น ณ ซอยสีฟ้า ถนนพหลโยธิน (สถานที่สมมุติ)

    ในความฝัน ตนเองเห็นเวลาผ่านไปหลายสิบปี วันหนึ่งภรรยาของคุณพ่อได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกๆของพี่นักเขียน ทำให้พี่นักเขียนเห็นน้ำใจของเธอ และค้นพบว่าเธอไม่ได้ขโมยพินัยกรรมไปตามที่เรากล่าวโทษ รู้สึกเสียใจที่ไปกล่าวโทษเขา แต่เหตุการณ์ก็เลยเถิดเนิ่นนานมาจนแทบจะไม่สามารถแก้ตัวได้ เหลือแต่ความรู้สึกผิด

    เมื่อตื่นขึ้นได้ไม่ถึงสองชั่วโมง พี่นักเขียนได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากเมืองไทย สตรีท่านหนึ่งโทรมาถามว่า พี่นักเขียนจะช่วยฝันเพื่อหาของสำคัญที่หายไปให้ได้หรือไม่ พี่นักเขียนจึงตอบเธอไปว่า เชื่อว่าได้ฝันแล้วเมื่อคืนนี้ และเล่าความฝันให้เธอฟังก่อนที่เธอจะเล่าความเป็นจริง และบอกกับเธอว่า เหตุการณ์ในความฝันทั้งหมดเกิดขึ้น ณ ซอยสีฟ้า ถนนพหลโยธิน

    เธอตอบมาว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่ ซอยสีฟ้า ถนนพหลโยธินจริงๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านของเธอ บ้านของคุณลุงของเธอ ซึ่งเป็นผู้ที่ถึงแก่กรรมและทิ้งพินัยกรรมที่ระบุว่ายกทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอ เธอเล่าว่าคุณลุงไม่มีลูก และคุณพ่อคุณแม่ของเธอถึงแก่กรรมไปหมดแล้ว จึงได้ทำหน้าที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณลุงเหมือนเป็นลูกสาว และคุณลุงก็ให้ดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของท่าน จากนั้นเธอก็เล่าว่า เมื่อคุณลุงถึงแก่กรรม คุณป้าซึ่งเป็นน้องสาวของคุณลุง น่าจะเป็นผู้ที่ขโมยพินัยกรรมไป

    พี่นักเขียนตอบว่า พินัยกรรมนั้นไม่ได้หาย มันอยู่ที่เดิมที่มันเคยอยู่ และคนที่เธอเชื่อว่าเอาไปนั้น เขาไม่ได้เอาไป อย่าปรักปรำเขา เพราะวันหน้าเธอจะเสียใจ และไม่สามารถเรียกสัมพันธภาพนี้กลับคืนมาได้อีก แต่เธอก็ยืนยันว่ามันไม่หายไปจากอย่างแน่นอน

    พี่นักเขียนวางสายลง ด้วยความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลที่ได้รับจากความฝันจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ไปในทางที่ดีได้
    หลังจากนั้นหลายเดือน พี่นักเขียนได้รับโทรศัพท์จากสตรีท่านนี้อีก และทราบข่าวว่า เรื่องได้บานปลายไปจนถึงขั้นมีการแจ้งจับ เพราะเธอยังคงปักใจเชื่อว่า คุณป้าเป็นคนขโมยพินัยกรรมไป เพื่อที่ว่าทนายจะได้แบ่งทรัพย์สินให้ในฐานะน้องคนเดียวที่เหลืออยู่ แทนที่จะยกให้สตรีท่านนี้ ซึ่งเป็นหลานแต่เพียงผู้เดียวตามพินัยกรรม


    พี่นักเขียนยืนยันตามเดิมว่า พินัยกรรมไม่หาย คุณป้าของเธอไม่ได้เอาไป และมันก็อยู่ที่เดิมที่มันเคยอยู่ วางสายไปอีกครั้งด้วยความหวังว่า ความฝันจะช่วยส่งสารที่แก้ไขหรือยับยั้งบางสิ่งบางอย่างได้

    อีกหลายเดือนต่อมา สตรีท่านนี้โทรมาอีก คราวนี้บอกกับพี่นักเขียนว่า เกิดเรื่องประหลาด
    เธอพบพินัยกรรมที่นึกว่าหาย - ในแฟ้ม ซึ่งเก็บไว้ในตู้เซฟของตนเอง แต่เธอก็ยังยืนยันว่า พินัยกรรมย้ายจากด้านขวา ไปอยู่ด้านซ้ายของแฟ้มเดียวกัน แต่เมื่อถามว่าใครบ้างที่ทราบรหัสตู้เซฟนี้ เธอก็ยอมรับว่า ไม่มีใครนอกจากตนเอง

    [​IMG]
    ไม่ว่าเราจะเรีียกคำทำนายของหมอดู หรือความฝันของพี่นักเขียนว่าอะไร พี่นักเขียนเชื่อว่า มันจะมีความหมายก็ต่อเมื่อบุคคลนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ เพืิ่อทำความเข้าใจในตนเอง พิจารณาตนเอง เพื่อที่จะสามารถเลือกและตัดสินใจทำในทิศทางที่เป็นคุณต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ใช่นำไปเป็นเพียงข้อมูลที่คิดว่าจะเชื่อ-หรือไม่เชื่อดีเท่านั้น มันจึงจะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และบางคนก็เลือกที่จะรียนรู้ด้วยการเผชิญกับประสบการณ์หนึ่งๆด้วยตนเอง และไม่อาจเรียนรู้ได้ด้วยการคิดจากคำเตือน หรือจากประสบการณ์ของผู้อื่น แต่ไม่ว่าบุคคลจะลงเอยด้วยการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ใดๆ ทางเลือกย่อมเป็นของเขาเสมอ(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  5. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    เมื่อสองวันก่อนนี้คิดถึงคุณ axon47 ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ทั้งที่ไม่ได้รับ e-mail หรือเห็นคุณ axzon47 มา post เลยช่วงนี้ ตกบ่ายพบว่ามีตุ่มแดงๆเล็กๆเกิดขึ้นตามหลังและขาของพี่นักเขียน นึกไปว่าแมลงเล็กๆคงจะกัดต่อยเอาตอนออกไปนั่งเล่นหลังบ้าน แต่ตุ่มแดงเล็กๆเหล่านั้นก็หายไปเอง ไม่เป็นรอยเหมือนเวลาแมลงกัดต่อยตามปกติ

    เช้านี้พี่นักเขียนเพิ่งได้รับ e-mail จากคุณ axzon47 และทราบข่าวว่าล้มป่วยเป็นไข้เลือดออก และหายป่วยได้ด้วยการรักษาตนเอง ขณะนี้กำลังพักฟื้นอยู่ พี่นักเขียนเลยแอบโทษว่า คุณ axzon47 ส่งตุ่มแดงเล็กๆเหล่านี้มาฝากเป็นของขวัญพร้อมกับความคิดถึง
    [​IMG]
    พี่นักเขียนขอพวกเราร่วมกันส่งพลังใจ-ซุปไก่ไปให้ เพื่อให้คุณ axzon47 หายวันหายคืนและแข็งแรงสมบูรณ์ดียิ่งกว่าเดิม จะได้เข้ากลับมานั่งกลางห้องวิทย์ตามเดิมค่ะ เอาตุ่มมาแจกก็ได้ไม่ว่ากัน

    เอา chocolate truffles มาล่อให้หายเร็วๆด้วยค่ะ ไม่หาย ยังไม่ให้ทาน(rose)
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เมื่อได้อ่านเรื่องราวของคุณโซล รู้สึกคุ้นๆอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้สะกิดใจมากนัก...จน พอมาอ่านบทความที่พี่นักเขียนเล่า เลยรู้สึกว่ามันมีอะไรเชื่อมโยงกันแน่ๆ
    คือ...ขอนุญาติ เล่าเรื่องตัวเองนิดนึงนะค่ะ

    ตอนนี้ ที่ทำงานค่อนข้างมีปัญหา เกี่ยวกับพนักงานที่ลาออกไป เค้านำข้อมูลลูกค้าบางอย่างไป เพื่อเข้าไปเจาะลูกค้าของที่บริษัท โดนเสนอราคาที่ต่ำลง ..

    ตอนแรกไม่ทราบ ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ มีคนมาเตือนก็ยังเฉยๆ เพราะ คิดว่าเราทำมาหากินสุจริต ไม่เคยคดโกงใคร ก็ไม่น่ามีใครมาทำร้ายเรา.

    จนมีอยู่ช่วงหนึ่ง ได้ฝันว่า มีลูกน้องผู้หญิงคนหนึ่งหักหลัง ในฝันเชื่อมั่นว่าเค้าไว้ใจไม่ได้ เค้าทำเรื่องราวเหมือนกลุ่มที่ลาออกไปเกือบทุกอย่าง แต่จริงๆเด็กคนนี้ยังอยู่ ไม่ได้ลาออกไปกับกลุ่มนั้น...

    เป็นไปได้มั๊ยค่ะว่า เรื่องราวบางอย่างที่เราฝัน มันอาจจะเกิดขึ้นจริงๆ แต่ ตัวแสดงที่รับบทบาทอาจไม่ใข่ตัวตนที่เราเห็นในความฝัน...มาเอะใจกับเรื่องพินัยกรรมของพี่นักเขียน ซึ่งมีเรื่องราวเกิดขึ้นจริง แต่คนแสดง หรือดารานำในเรื่องกลับเปลี่ยนไป...น้องเลยมาคิดว่า เรื่องราวมีโอกาสเกิด แต่ต่างบุคคล เพราะร่างแค่เป็นตัวสรวมบทบาท มาแสดงให้เห็นเท่านั้น แต่จิตวิญญาณต่างหากที่เป็นไป(พี่เข้าใจความหมายของน้องมั๊ยค่ะ)

    ในเรื่องของคุณโซล เป็นไปได้มั๊ยค่ะว่า เรื่องราวที่พี่นักเขียนฝัน อาจเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคุณโซลจริง แต่ต่างตัวแสดง...แค่สงสัยนะค่ะ

    อ้อ...แล้วอีกอย่างนะค่ะ ในชื่อของคนที่พี่ระบุ หนึ่งในนั้น เป็นชื่อของบุคคลที่น้องเคย e-mail ไปถามพี่นักเขียน (ไม่ทราบยังจำได้หรือเปล่านะค่ะ) ตอนแรกอ่านแล้วสะดุ้งเลยค่ะ...เรื่องก็คล้ายๆ

    ขอบพระคุณพี่นักเขียนมากๆค่ะ ที่นำเรื่องราวมาอ้างอิง และสอนให้คิด ถ้าไม่พบพี่ น้องคงตีความไปเรื่อยเปื่อย

    และ ขอขอบคุณคุณโซล อีกครั้ง เรื่องราวที่คุณโซลนำมาโพส ได้ประโยชน์มากเลยค่ะ
    รักทั้งสองคนเลย..จุ๊บ.จุ๊บ..
     
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อีกนิดนะค่ะ...คือตัวเอง ยังฝันไม่เก่งเหมือนพี่นักเขียน และท่านอื่นๆ จึงยังอาจจะตีความ ได้ไม่ชัดเจนนัก ยังจับทางไม่ถูก...เพียงแค่สงสัยน่ะค่ะ

    ทำให้บางที...คิดว่า อะไรที่ไม่คิดว่าจะเกิด มันก็เกิดได้ หรือ อะไรที่คิดว่าใช่ กลับกลายเป็นไม่ไปซะ...น่ะค่ะ
     
  8. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณ soul เป็นคนเข้มแข็งดีนะครับ น่ายกย่องมากครับ :)

    การทดลองความฝันของตนเองที่ประสบมา รู้สึกว่าตัวเองยังไม่จดจ่อกับสิ่งที่ต้องการรู้มากนัก คงต้องฝึกการทำสมาธิก่อนนอนให้ดีก่อน สังเกตตัวเองว่า ถ้านอนดึกเลยเที่ยงคืนไปถึงแม้จะตั้งใจที่จะจดจำความฝัน แต่ก็ไม่ได้ดีเท่ากับการนอนก่อนเที่ยงคืน จะจำอะไรแทบไม่ได้เลย

    เลยมาคิดว่าต้องมาปูพื้นให้แน่นก่อนดีหรือเปล่า นั่นคือเรื่องของสติกับสมาธิ

    ช็อคโกแลตที่พี่นักเขียนให้คุณ axon น่ากินมากครับ จ้องตาเป็นมันเลยคุณ axon ไม่รีบมาระวังหายนะ :D

    คุณ kindred เรื่องความฝันเนี่ยคงต้องหัดตีความบ่อยๆ เพื่อที่จะได้จับจุดได้ ผมคิดว่างั้นนะ
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    เพิ่งเข้ามาอ่าน ไม่อยากบอกเลยว่าฝันของคุณนักเขียนเกี่ยวกับคุณโซล2006 นั่นน่ะมันชีวิตจริง จินตวดีเลย ต่างเพียงแต่ว่าตอนนี้สามียังไม่เสียชีวิตแต่สุขภาพคงไม่ดีนักหรอก แต่ถ้าต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ รับรองเรื่องฟ้องร้องของน้องหนูคนใหม่คงมีแน่ ๆ เพราะจินตวดีไม่ได้เซ็นต์ใบหย่า แต่จินตวดีไม่เคยสนใจทรัพย์สินของเขาเพราะสามารถส่งเสียลูกได้ด้วยตนเอง จินตวดีเป็นคนก้าวออกมาจากบ้านของสามีโดยเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ด้วยตนเอง แต่เวลามันผ่านมาหลายปีแล้ว จินตวดีไม่คิดถึงพวกเขาเลย เพิ่งเข้ามาอ่านแท้ ๆ ทำเอาน้ำตาตกเหมือนกัน แต่ตกในฐานะ ผู้แสดงจริง ๆ (cry)
     
  10. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ฝันเรื่องเส้นแสงครับ ว่ามีกระจัดกระจายทั่วไปในจักรวาล และถ้ามองเข้ามาในโลกนี้จะเป็นเส้นที่วิ่งตรงเข้าหาจุดศูนย์กลางครับ

    ตื่นมาก็มาเรียบเรียงว่า หมายถึงอะไร และนำมาใช้อะไรได้บ้าง
    ก็เลยย้อนกลับเข้ามาดูภายในเราก่อน ตามความเข้าใจของผม เข้าใจว่า พลังงานก่อนที่จะเกิดความคิดขึ้นมานั้น เป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการทำลายมลภาวะต่างๆของจิต ของเซลล์ต่างๆในร่างกาย เป็นพลังงานที่ควบคุมความคิดได้ ในความเข้าใจของผมเรียกว่า เจตจำนงค์ในการสร้างครับ เมื่อเราอยู่ในสภาวะนี้ จะสามารถป้อนข้อมูลอะไรลงไปก็ได้ เพราะเป็นภาวะที่มาก่อนการคิด ความคิดเป็นตัวรองรับภาวะนี้อีกที
    เช่น เมื่อเข้าสู่ภาวะนี้ ต้องการให้เซลล์ทั่วร่างกายตื่นตัวขึ้นมา (สร้างความคิดขึ้นมา) ร่างกายเราก็จะรับคำสั่งจากความคิดนี้ และทำตาม เป็นต้น

    ถ้าย้อนออกมาดูภายนอก ในการสร้างจักรวาล ก็คือ พลังงานที่มาก่อนการกำเนิดดวงดาวต่างๆครับ ซึ่งเส้นแสง คือ เส้นที่ลากเชื่อมโยงระหว่าง พลังงานก่อนกำเนิด และเทหวัตถุต่างๆครับ ซึ่งเมื่อการสร้างเสร็จสิ้นแล้ว แต่เส้นแสงก็ยังอยู่ครับ

    ซึ่งเราสามารถใช้จิตเราในภาวะก่อนความคิดนี้ เชื่อมโยงกับพลังงานภายนอก และดึงมาใช้ได้ครับ

    เลยนึกไปถึง ปริศนาของอังค์ ที่คุณ mead ให้โจทย์มา หากมองจากจุดนี้ ผมจะตีความได้ว่า วงรีด้านบน คือ กระบวนการในการเหนี่ยวนำ ความรู้จากจักรวาลเข้ามา กลับลงมาที่ตาที่สาม (จุดตรงกลางของอังค์) และแขนสองข้างหมายถึงสมองทั้งสองซีก และเส้นด้านล่างที่เชื่อมลงมาก็คือ วิธีการในการสร้างสรรค์ในโลกนี้ครับ

    แต่ก็ยังมีอีกหลายๆอย่างที่ยังตีความไม่ออกครับ หากเราช่วยกันฝัน ผมว่าจะได้อะไรที่หลากหลายและนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้มากครับ

    เช่น หากเพื่อนๆในห้องวิทย์ ช่วยกันฝันเรื่องนี้ร่วมกัน ถึงประโยชน์ การนำมาประยุกต์ใช้ กับเรื่องการรักษาทางจิต การรักษาทางกาย ของตนเอง และการรักษาผู้อื่น เป็นต้น
     
  11. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    เพิ่งเข้ามาอ่าน ไม่อยากบอกเลยว่าฝันของคุณนักเขียนเกี่ยวกับคุณโซล2006 นั่นน่ะมันชีวิตจริง จินตวดีเลย ต่างเพียงแต่ว่าตอนนี้สามียังไม่เสียชีวิตแต่สุขภาพคงไม่ดีนักหรอก แต่ถ้าต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ รับรองเรื่องฟ้องร้องของน้องหนูคนใหม่คงมีแน่ ๆ เพราะจินตวดีไม่ได้เซ็นต์ใบหย่า แต่จินตวดีไม่เคยสนใจทรัพย์สินของเขาเพราะสามารถส่งเสียลูกได้ด้วยตนเอง จินตวดีเป็นคนก้าวออกมาจากบ้านของสามีโดยเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ด้วยตนเอง แต่เวลามันผ่านมาหลายปีแล้ว จินตวดีไม่คิดถึงพวกเขาเลย เพิ่งเข้ามาอ่านแท้ ๆ ทำเอาน้ำตาตกเหมือนกัน แต่ตกในฐานะ ผู้แสดงจริง ๆ (cry)[/quote]

    ขอเป็นกำลังใจให้คุณจินตวดีสุดหัวใจค่ะ นี่ต่างหากบุคคลที่เข้มแข็งตัวจริงที่เรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นในชีวิต เข้มแข็งและก้าวผ่านมาได้ด้วยใจสู้ และอดทน ชื่นชมคุณจินตวดีจากใจค่ะ ..โซเองต่างหากที่ได้เรียนรู้จากการคิดคำนึงและการมองผ่านประสบการณ์ของผู้อื่น ถ้าหากเปลี่ยนความฝันนี่เป็นฝันของพี่นักเขียนเกี่ยวกับคุณจินตวดี...พี่นักเขียนก็คงได้ A ..เพราะพี่นักเขียนฝันถึงชื่อเล่นของน้อง Ann หรือ อ๊อด แต่กลับกลายเป็น คุณเอ ไป..คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญขนาดนี้นะคะ ...เรื่องกลายเป็นแบบนี้เหมือนเป็นการยืนยันว่าเราทุกคนเชื่อมโยงกัน..แต่อยากได้รับคำตอบเหมือนกัน ทำไมฝันของโซลกลายเป็นเรื่องจริงของคุณจินตวดีไปได้ แล้วฝันของพี่นักเขียนเกี่ยวกับคุณจินตวดีจะเป็นเรื่องของโซลมั๊ยนะ....
     
  12. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ค่ะ...คุณ Zip คาดว่าอยู่ในระหว่างฝึกฝัน จากแรกที่ไม่เคยจำความฝันได้เลย ก็ค่อยๆ เริ่มจำได้แล้ว แต่ ยังมั่วไปมาอยู่ สับสนปนเป สารพัดเรื่อง

    ถ้าพายามต่ออย่างไม่หยุดยั้ง คาดว่า ความฝันน่าจะเป็นระบบ และชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

    ต้องทำสมาธิก่อนนอนทุกครั้งเลยค่ะ...แต่ ชอบเผลอหลับก่อนตั้งจิตทุกทีเลย..อ่ะ ^-^
     
  13. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ จิตวิญญาณเราเชื่อมโยงกันไม่ได้แยกจากกัน ดังนั้นคิดว่าคงจะต้องเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าระดับความเข้มข้นของสิ่งที่เกิดขึ้นจะมากน้อยแค่ไหนก็ อย่างที่พี่นักเขียน แยกไว้ 3 ระดับ คือ เกิดขึ้นเพื่อเรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริง เกิดขึ้นเพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ผู้อื่น หรือ สุดท้ายแค่คิดคำนึงก็ซึ้งแล้ว ถ้าหากจิตวิญญาณเติมเต็มความรู้ในเรื่องนั้นๆ มาเต็มที่แล้ว คิดว่าคงเจอระดับเบาๆ แค่คิดก็ซึ้งใจ เข้าใจแล้ว แต่ถ้ายังไม่ซึ้ง ก็ไประดับกลาง เจอกับคนที่เกี่ยวข้อง ให้เรียนรู้ แต่ถ้ายังไม่เรียนรู้อีกก็สุดท้ายต้องแบบเข้มข้นค่ะ ถึงจะถึงแก่นแท้ จิตวิญญาณก็ได้รับการพัฒนาในเรื่องนั้นๆ แล้วจิตวิญญาณก็จะเปลียนการจดจ่อไปเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆ ต่อไป ...

    ถ้าให้ตัวเองมองเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์...ก็จะขอเปรียบเส้นทางการเรียนรู้แต่ละเส้นทางคือ หนึ่งโปรแกรม..โดยแต่ละโปรแกรมต่างก็ active และพร้อมที่จะ ให้เราเลือก control ตลอดเวลา.. แต่เรามีข้อจำกัดคือเราเลือก control ได้ทีละ 1 โปรแกรมถูกมั๊ย แต่ถามว่าโปรแกรมอื่นละเป็นไง มันก็ยัง active ของมันไปเรื่อยๆ ...ถ้าเราเลือก control active หน้าต่างของโปรแกรมไหน หน้าต่างของโปรแกรมนั้นจะทำงาน

    เหมือนการจดจ่อของจิตวิญญาณเราในปัจจุบันเราเลือกแบบนี้ก็เหมือนกัน ถามว่าเส้นทางอื่นๆ หล๊ะ เป็นไง ก็ยังคงทำงานไปในเส้นทางของมันเช่นกัน แต่ถ้าจิตวิญญาณเราเปลี่ยนการจดจ่อ ก็เสมือนว่าเราต้องการเปลี่ยนโปรแกรม หน้าต่างของโปรแกรมที่เราเลือกใหม่ก็จะ popup control active window มาให้เราเลือก จะเห็นว่าทุกๆ หน้าต่างของทุกๆ โปรแกรมก็พร้อมที่popup control active window เพียงแค่เราเปลี่ยนการจดจ่อแค่นั้นเอง...แต่ชีวิตจริงของคนเรา โปรแกรมที่ว่ามีเป็นอนันต์ค่ะ ให้เราเรียนรู้และจดจ่อไม่มีที่สิ้นสุด.(deejai)

    รักพี่นักเขียน, คุณ kindred และเพื่อนๆ ทุกคนเช่นกันค่ะ
     
  14. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่านเรื่องที่คุณจินตวดีเขียนมาแล้วรู้สึกประหลาดใจมากเลยครับ สงสัยคงเป็นเพราะว่าคุณจินตวดีกับคุณ Soul นั้น คงเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ เลยเป็นอย่างนั้น

    คุณ kindred เรื่องฝึกฝันนี้ ไม่รู้ว่าสภาพความพร้อมร่างกายก็มีส่วนด้วยหรือเปล่านะ หรือเป็นแต่เฉพาะตัวเองก็ไม่รู้ ที่คิดว่าเราน่าจะนอนให้พอดี ถ้านอนดึกมันเหมือนว่าตอนตั้งจิตก่อนนอนจะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่าอยากจะหลับไวๆ ก็ได้ แต่ถ้านอนไม่ดึกก็มีเวลาทำสมาธินานหน่อย และเวลาตื่นก็จะตื่นแบบไม่รีบตื่นด้วย บางครั้งตื่นมายังมืดอยู่เลย

    เช้านี้ก็ฝันนะ แต่ดูเหมือนจะเป็นคนละเรื่องกับที่ตั้งจิตไว้ก่อนนอนเลย ฝันไปที่เดิมอีกแล้ว ที่ที่เป็นเหมือนหลุมหลบภัย ไปมาสามสี่รอบแล้วมั๊งครับ ในฝันรู้ทางเข้าทางออกเป็นอย่างดีเลย :D
     
  15. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขอร่วมเป็นกำลังใจให้พี่จินต์ผ่านพ้นวิกฤตอันเกิดจากผลกระทบทางจิตใจ และความไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญหลายสิ่งหลายอย่างนี้ไปให้ได้นะคะ โปรดอย่าลืมว่าพี่ไม่ได้ยืนอยู่บนโลกนี้อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่พี่ยังมีจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์อยู่ใกล้ ๆ อยู่เสมอตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออกเลย หายใจเข้าออกยาว ๆ ตั้งสติไว้ค่ะ.. สู้สู้..

    พอดีได้คาถาดีมาจากพี่ ๆ หลาย ๆ คน เลยเอามาฝากพี่จินต์และเพื่อนร่วมห้องด้วยค่ะ..:cool:

    (f)(f)(f)คิดดี คิดบวก, คิดดี คิดบวก, คิดดี คิดบวก, คิดดี คิดบวก..(f)(f)(f)
     
  16. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    การบ้านของคุณ Zip ก็ลองตั้งจิตขอฝันทุกคืนเลยนะคะ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จค่ะ.. อิอิ..
    (deejai)
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เป็นกำลังใจให้ด้วยครับคุณจินต์ หวังว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านไปได้ด้วยดี
    เวลาทางโลกมันจะวิ่งไปเป็นลำดับ 1-2-3-4-5 แต่จิตใจเราต้องกระโดดข้ามเวลาไปรออยู่ข้างหน้าให้ได้ครับ ตั้งสติและนับ 12 ไปเลยครับ มาส่งกำลังเพื่อนๆไปช่วยครับ +++เชื่อว่าคาถาดีของคุณขจรวรรณได้ผลแน่ครับ +++
    (deejai)
     
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบคุณค่ะ ที่มาช่วยอธิบาย kindred ยังไม่ซาบซึ้งเท่าคุณโซล เลยค่อนข้างขี้สงสัยไปหน่อย...ดีค่ะ ได้ทำความเข้าใจตามไปเรื่อยๆ

    ที่สำคัญ..เรื่องนี้ กลับกลายเป็นเรื่องของคุณ จินต์วดี แบบเต็มๆ...แต่ฟังๆดูคุณจินต์ เธอยังแข็งแกร่งอยู่เยอะนะค่ะ...คงรับมือได้สบายแน่นอนค่ะ...เอาใจช่วยด้วยคนค่ะ

    kindred ขอส่งความรัก และความปรารถนาดีให้คุณจินต์นะค่ะ

    พี่นักเขียนเคยบอกกับ kindred ว่า พวกเราในห้องวิทย์เนี่ย เป็นจิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมวัตถุประสงค์เดียวกัน ทั้งกับพี่นักเขียน และอาจารย์อนาลัย...มิฉะนั้น พวกเราจะไม่มีทางได้มาพบปะพูดคุย และร่วมรู้สึกอย่างเดียวกัน และแม้แต่จะไม่หยิบหนังสือ ของอาจารย์อนาลัย มาอ่านแม้แต่เล่มเดียวค่ะ
    ...แหม..อบอุ่นดีจังค่ะ ไม่คิดเลยว่าญาติมิตรทางจิตวิญญาณอยู่แถวนี้นี่เอง(deejai)
     
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อืมม์...kindred นอนไม่ดึกนะค่ะ แต่มันเผลอหลับ เพราะสบายไปมั้ง ทำสมาธิทีไร สบ๊าย สบาย...แต่ถ้าไม่หลับ ก็จะถอนสมาธิ มาอ่านหนังสือต่อ

    ทำสมาธิทีไร เป็นอย่างนี้ทุกที สงสัยทำไรผิดแหงเลย...(cry)
    อยากจะลองตั้งจิตฝันเรื่องโจทย์ ที่คุณ zip ตั้ง ก็ไม่ทราบว่า จะมีปัญญามั๊ย ของตัวเองยังไม่รอดเลยอ่ะ ..^-^
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425

    เรื่องแสงผมเห็นด้วยครับคุณเซลล์ ว่าเป็นอนุภาคเริ่มต้นของการก่อกำเนิดจักรวาล พลังงานจากเส้นแสงก็ยังคงเดินทางมาจนทุกวันนี้ ผู้ที่ควบคุมได้ก็สามารถใช้พลังจิตเปลี่ยนวัตถุให้เป็นพลังงานแสงกลับไปมาได้อีก เช่นพวกจานบิน สามารถปรับความถี่และอำนาจของการกระจายของเส้นแสงได้ตามความต้องการ และผมเชื่อว่าเราที่อยู่ในปัจจุบันนี้ก็สามารถดึงเอาความรู้พิเศษจากยุคสมัยอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต หรือจากต่างมิติมาใช้ได้จริงครับหากถึงเวลาที่เหมาะสม โดยผ่านมุมมองของใครสักคนนึงในระบบเครือข่ายของจิตวิญญาณ โดยต้องตั้งจิตขอเรียนรู้เรื่องราวต่างๆอย่างมุ่งมั่นครับ เชื่อว่าถ้าถึงเวลาเราคงมีนักคิด นักวิทย์ฯ ศิลปินอีกหลายๆคนเกิดขึ้นจากความรู้พิเศษที่ได้รับถ่ายทอดมาอีกมากมายแน่นอนครับ เหมือนกล่องความรู้ที่ล่องลอยอยู่บนสนามพลังงานสากลที่เราสามารถดึงดูดเข้ามาเพื่อเรียนรู้ครับ
    เรื่องนี้เราต้องฝึกฝนอย่างจริงจังเหมือนกัน เพราะกว่าจะค้นหาคำตอบจำนวนมากเพื่อต่อภาพรวมก็คงไม่ไช่เรื่องง่ายนัก (แต่พี่นักเขียนฯก็ย้ำเสมอว่าให้คิดว่าเราทำได้ และไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะทำครับ..)

    เรื่องเหล่านี้น่าสนใจครับคุณเซลล์ลองตามไป link นี้ไป
    เกี่ยวกับมิติและภพภูมิครับ จานบิน จิตวิญญาณ นรก-สวรรค์

    http://palungjit.org/showthread.php?t=19213
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...