การเลือก GPS ครับ

<TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=+2]Garmin Mobile GPS10x Symbian Version Review [/SIZE]

<CENTER>[SIZE=+2] เข้าสู่ : [SIZE=+3]GPS Board[/SIZE] </CENTER>[/SIZE]
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>

Garmin Mobile10X Symbian Version Review by kongi @gps4you.net

หลังจากได้สัมผัสกับรีวิวบน Pocket PC ทั้ง Windows Mobile 5 และ Windows Mobile 2003 ของคุณ SathitP แล้วเรามาพบกับรีวิวในภาคของ Symbian กันบ้างนะครับ

ผมได้เห็น Garmin Mobile XT for Symbian ครั้งแรกบนเครื่องทดลองของคุณวิชัย ผู้บริหารของ บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อตอนงานรวมพลคนรักจีพีเอส ได้ลองเล่นดูรู้สึกว่าหน่วงๆเล็กน้อย (หรือว่ายังไม่ชินก็ไม่รู้ ) ประกอบกับเวลาที่ได้เล่นมีจำกัด ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจนัก เลยคาดเดาไว้ว่าการ์มินจะตัดฟังก์ชั่นออกมาก เพื่อที่จะไม่ทำให้เครื่องหน่วงและเกิดปัญหา แต่หลังจากที่ได้เครื่องปลุกปล้ำอยู่ทั้งคืน และได้ลองใช้งานจริงแล้วผิดคาดครับ ประทับใจครับ กลับชอบใช้มากกว่าบน Pocket PC เสียอีก ฮา...

มาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ มือถือที่ใช้ทดสอบเครื่องแรกนั้นเป็น Nokia N70



หลังจากที่ได้ทำการลงโปรแกรมในการ์ดหน่วยความจำ แล้วนำมาเสียบเข้าไปที่เครื่อง ได้รับการตอบรับจากโปรแกรม Garmin Mobile XT เป็นอย่างดี ซึ่งจะพบในทุกๆครั้งของการใส่การ์ดหน่วยความจำเข้าเครื่อง



การใช้งานครั้งแรกจะต้องตั้งค่าเบื้องต้นให้กับเครื่องก่อน ซึ่งจะคล้ายกับเครื่องรุ่นอื่นๆ ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาจะเป็นในส่วนของ Garmin Online access



หลังจากการตั้งค่าเสร็จเรียบร้อย จะพบกับหน้าจอเมนูต้อนรับที่คุ้นตา การเข้าถึงในส่วนต่างๆสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายโดยการใช้ปุ่มทิศทางเป็นตัวเลื่อนได้เลย สีสันของเมนูต่างๆดูได้อย่างชัดเจน (เนื่องจากผมทำรีวิวนี้ช่วงเวลากลางคืนครับ จึงเข้าหมวดของกลางคืนครับ) สีสันช่วงกลางวันสว่างและสามารถสู้แสงได้ดีครับ



ในส่วนของดูแผนที่ก็แทบไม่แตกต่าง ซูมเข้า-ออก ได้โดยใช้ปุ่มตัวเลข ปุ่มเลข1 ใช้ซูมออก ปุ่มเลข3 ใช้ซูมเข้า



ปุ่มในการควบคุมด้านซ้ายจะเป็นการเข้าสู่หน้า Trip manager และปุ่มในการควบคุมด้านขวาจะเป็นการกลับเข้าสู่หน้าเมนูหลัก



การเลื่อนแผนที่ก็สามารถทำได้ง่ายมากครับ โดยการกดปุ่มทิศทางด้านใดก็ได้ (ตรงกลางไม่ได้นะครับ) ก็จะเข้าสู่โหมดดูแผนที่ และใช้ปุ่มทิศทางเป็นตัวควบคุมในการเลื่อนครับ สะดวกในการดูแผนที่และสามารถเซฟเป็นสถานที่ของฉัน(waypoint)ได้ทันทีอีกด้วย



หลังจากเราดูในส่วนของการดูแผนที่แล้วเรามาดูในส่วนของการตั้งค่าและเครื่องมือต่างๆกันบ้าง ฟังก์ชั่นภายใน ให้ใช้อย่างครบครัน เริ่มกันที่เครื่องมือต่างๆกันก่อน



หน้าตาจะคล้ายกับตระกูล M(M3,M4) มาก แต่จะเพิ่มเมนูเข้ามาสองเมนูด้านบนคือ Garmin Online และ PeerPoints

ในโหมดของ Garmin Online จะมีหลายฟังก์ชั่นให้เลือกใช้ครับ แต่ว่าของประเทศไทยใช้ได้แค่สภาพภูมิอากาศ (Weather) การใช้งานจะต้องอาศัยการต่ออินเตอร์เน็ตด้วย **ข้อควรระวัง หากให้ Garmin Mobile XT for Symbian เป็นตัวเชื่อมต่อแล้วต้องระวัง ภายหลังการเชื่อมต่อแล้ว ตัวโปรแกรมจะไม่ตัดการเชื่อมต่อให้ วิธีการตัดการเชื่อมต่อแบบง่ายๆคือการกดปุ่มวางสายค้างไว้สักครู่**



มาดูส่วนที่น่าใช้อีกส่วนดีกว่าครับ คือฟังก์ชั่น PeerPoints (ย้อยกลับไปดูของคุณ SathitP เพิ่มเติมนะครับ)

หน้าแรกที่เจอเป็นข้อความเตือนค่าใช้จ่ายเลยครับ จากนั้นเราก็เลือกชื่อคนที่เราต้องการหรือใส่เบอร์ไปเลยก็ได้ครับ



หลังจากเลือกคนที่จะส่งหรือจะขอพิกัดได้แล้ว จะมีให้เลือกอยู่สองส่วนคือส่งพิกัดที่เราอยู่ให้หรือขอพิกัด ในการขอพิกัดจะมีอยู่สองส่วน เป็นการขอเพียงอย่างเดียว หรือจะพ่วงไปกับการที่เราส่งพิกัดไปแล้วรอรับพิกัดของปลายทางกลับมาด้วย

มาดูในส่วนของการส่งพิกัดกัน ในตัวเลือก Options สามารถเปลี่ยนรูปไอคอนได้ครับ (อันนี้น่ารักดี) แนบแผนที่ไปในรูปของ MMS และเมื่อเราส่งไปแล้วจะขอให้ปลายทางส่งพิกัดกลับมาหรือไม่



มาต่อกันในส่วนของการรับพิกัดจากคนอื่น การรับจะแสดงข้อมูลตามที่ผู้ส่งส่งมาให้ ถ้าผู้ส่งส่งแผนที่ และรูปไอคอนมาให้ ก็จะแสดงไอคอนบนแผนที่เลยครับ

>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>



By : kongi [ 1 ก.พ. 50 - 14:53:28 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE>


<CENTER> , [SIZE=+3]หน้าถัดไป>> [/SIZE]</CENTER><CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 1
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>

การลงไฟล์เสียงภาษาไทยให้กับโปรแกรม Garmin mobileXT for Symbian

เข้าไปที่การ์ด /Garmin/Voice/ เปลี่ยนชื่อไฟลล์ English_British_.vpm เป็นอะไรก็ได้เช่น English_British_1.vpm



จากนั้นโหลดไฟลล์ได้ที่นี่เลยครับ gps4you.net

แตกไฟลล์ แล้วนำไปใส่ไว้ใน /Garmin/Voice/British Eng หรือก๊อปปี้ทั้งโฟลล์เดอร์มาใส่ใน /Garmin/Voice

มาดูในส่วนของการไปเลือกภาษากันต่อเลยครับ









Garmin MobileXT ก็สามารถใช้งานเสียงภาษาไทยได้ดังเช่นรุ่นน้อง Garmin GPS 10 ที่เราคุ้นเคย

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
From : kongi@gps4you.net [ 1 ก.พ. 50 - 14:54:15 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 2
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>

เครื่องที่ผมได้ทำการทดสอบ

มาตกลงทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ
ในมือถือที่มีระบบปฏิบัติการเป็น Symbian นั้นความสามารถในการทำงานแตกต่างกันออกไป ความเตกต่างด้านเสปคเครื่องดูได้ที่ในรีวิว Garmin GPS Mobile 10 Review ความเห็นที่ 50

ซึ่งในเครื่องที่ผมได้ทดสอบนั้น ผมตอบได้ว่าใช้งานได้ ผมได้ไปนั่งทำที่ร้านมือถือของเพื่อน ซึ่งภายในเครื่องที่หยิบยืมมานั้นมีการลงโปรแกรมที่ใช้งานแตกต่างกันออกไป

ผมให้ระดับความรกของโปรแกรมที่ลงในเครื่องที่ผมทดสอบไว้ 4 ระดับ ซึ่งระดับที่ผมระบุไว้
1. โล่งครับโปรแกรมมาตรฐานมาพร้อมเครื่อง
2. มีโปรแกรมรันอยู่ในเครื่องเล็กน้อย ไม่รบกวนการทำงานของเครื่อง เช่น Keylocker,...
3. มีโปรแกรมรันอยู่ตอลอดเวลาพอสมควร เช่น Fscaller,Blacklist,...
4. โปรแกรมเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด


Nokia N70 ระดับ 3 หน่วงช่วงเวลามีคนโทรเข้าเล็กน้อยครับ
Nokia N72 ระดับ 2 ใช้งานได้ดีครับ
Nokia N73 ระดับ 4 หน่วงช่วงเวลามีคนโทรเข้าเล็กน้อยครับ
Nokia N91 ระดับ 1 คล่องเลยครับ
Nokia N93 ระดับ 1 คล่องเลยครับ
Nokia 6260 ระดับ 2 ไม่หน่วงมาก(ไม่ได้ทดสอบการโทรเข้าออก)
Nokia 6600 ระดับ 1 ไม่หน่วงมาก
Nokia 6630 ระดับ 3 ใช้งานได้ดีครับ
Nokia 6670 ระดับ 3 หน่วงพอควรครับ (อาจเป็นเพราะโปรแกรมเยอะ)
Nokia 6680 ระดับ 1 ใช้งานได้ดีครับ
Nokia 7610 เครื่องนี้คุณ SathitP บอกไว้แล้วว่าใช้ได้

จากที่ได้ทำการทดสอบความรู้สึกถึงความหน่วงของการใช้งานผมว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้(อยู่กับความรู้สึกของแต่ละบุลคลนะครับ)



Garmin Moboile 10x บน Garmin Que 2.9

หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากหลายๆท่านที่ได้โทรมาสอบถามเกี่ยวกับการใช้งาน ของ Garmin Mobile 10x บน Pocket PC โดยใช้โปรแกรม Garmin Que 2.9 ผมได้ทำการทดสอบแล้วบน HP iPAQ 2210 และ BenQ P50 ซึ่งเป็น Windows Mobile 2003ว่าสามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาครับ การติดตั้งและการเชื่อมต่อทุกอย่างเหมือนกับการใช้งาน Garmin GPS 10 ไม่ผิดเพี้ยนครับ

มาดูรูปเทียบระหว่าง Garmin Mobile XT for Symbian กับ Garmin Que 2.9 บน Windows Mobile 2003








​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=130333&st=1

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">Posted: 13 Sep 2005 19:05 Post subject: iPAQ Navigation System : GPS ราคาถูกจาก HP : 764182</TD><TD vAlign=top noWrap> </TD></TR><TR><TD colSpan=2><HR></TD></TR><TR><TD colSpan=2>

iPAQ Navigation System : GPS ราคาถูกจาก HP​

บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ PDA ที่เป็นเจ้าใหญ่อันดับหนึ่งในขณะนี้คือ HP ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่อง Pocket PC ที่ชื่อว่า iPAQ เริ่มเข้ามารุกในตลาดของอุปกรณ์นำทางด้วยดาวเทียมหรือที่เรียกสั้นๆว่า GPS (Global Pointing System) ซึ่งได้ออก iPAQ HW6515 ที่มี GPS Build-In และได้เปิดตัวในเมืองไทยไม่นานนี้เอง ทำให้กระแสของ GPS ในเมืองไทยเป็นที่ฮือฮาขึ้นมายิ่งขึ้นอีก หลังจากที่อุปกรณ์ประเภทนี้จะอยู่ในกลุ่มผู้ใช้งานที่ค่อนข้างแคบอีกทั้ง GPS Receiver ยังคงมีราคาแพงอยู่มาก HP ได้ถือโอกาสที่อุปกรณ์ประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยม ได้ออก HP iPAQ Navigation System ซึ่งเป็น GPS Receiver ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครื่อง Pocket PC รุ่นใดก็ได้ที่มี Bluetooth อีกทั้งราคาที่เปิดตัวมานั้นค่อนข้างจะถูกมากเมื่อเทียบกับเครื่อง GPS Receiver รุ่นอื่นๆ (มีแนวโน้มว่าจะแถมมาในเครื่อง Pocket PC บางรุ่นด้วย) ลองมาดูกันว่า GPS รุ่นนี้ของ HP เป็นยังไงกันบ้าง

สำหรับตัว HP iPAQ Navigation System นั้นในอันที่จริงแล้วทาง HP ได้ทำการ OEM มาจาก GlobalSat GPS รุ่น BT-308 โดยรวมแล้วคงไม่มีอะไรแตกต่างมากนัก สำหรับคนที่เคยใช้ BT-308 มาแล้ว คงจะทราบประสิทธิภาพของ GPS Receiver ตัวนี้เช่นกัน แต่ถ้าใครยังไม่เคยใช้และคิดว่ามีความต้องการจะเริ่มต้นใช้งานระบบ GPS HP iPAQ Navigation System ราคาถูกตัวนี้ ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกได้เช่นกัน

แกะกล่องกับราคาค่าตัวสี่พันกว่าบาท HP iPAQ Navigation System มีอะไรมาให้บ้าง?

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">Posted: 09 Aug 2007 20:53 Post subject: สัมผัสจริงกับ Mio A501 GPS PDA Phone : 1148952</TD><TD vAlign=top noWrap> </TD></TR><TR><TD colSpan=2><HR></TD></TR><TR><TD colSpan=2>

Mio A501
GPS PDA Phone


​

----------> เป็นข่าวคราวและเป็นที่น่าจับตามองมานานสำหรับ Mio A501 จากงาน CBIT 2007 เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม 2550 ที่ผ่านมา สื่อมวลชนและผู้เข้าชมงานได้สัมผัสตัวจริงกับ Mio A501 กันไปแล้ว ด้วยขนาดที่เล็กกว่า PDA ทั่วๆ ไป รูปร่างและดีไซน์ของตัวเครื่องดูสวยทันสมัย แถมยังมี GPS ติดตั้งแบบ Built

 

แกะกล่องสัมผัสจริง
----------> เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2550 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัว GPS PDA Phone “Mio A501” และ Personal Navigation Device อีก 2 รุ่น คือ Mio C220, Mio C520 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยมี Synnex เป็นผู้แทนจำหน่าย โดยเจ้า Mio A501 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 19,900 บาท มาพร้อมกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย อย่างโปรแกรม Speed Navi, Thai G เป็นต้น เอาล่ะ ทีนี้เรามาแกะกล่องสัมผัสกับ Mio A501 กันดีกว่า ว่าภายในกล่องจะมีอะไรให้มาบ้าง…

----------> หลังจากไปรับเครื่องมาทดสอบ ก็ได้สัมผัสกับกล่อง GPS PDA Phone “Mio A501” โดยกล่องจะเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกสีขาวสลับลายโทนสีส้ม ซึ่งเป็นโทนสีของแบรนด์ Mio ดูโดยรวมกับกล่องผลิตภัณฑ์ก็อยู่ในเกณฑ์สวยใช้ได้ครับ ถ้าไม่ไปเทียบกับกล่องของ O2 Flame ในระดับราคา 3 หมื่นนะครับ..

>> กล่อง Mio A501​

----------> เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับ Mio A501 ที่อยู่ในซองพลาสติก พร้อมกับคู่มือการใช้งาน แผ่นซีดีซอฟต์แวร์ Thai G, Speed Navi ด้านล่างกล่องก็จะมีอุปกรณ์ต่างๆ แถมมาให้ด้วย ก็จะมี สาย USB, ที่ชาร์ตแบตเตอรี่ในรถยนต์, ที่ชาร์ตแบตเตอรี่ (AC Charger), แท่นวางตัวเครื่องพร้อมที่ยึดกระจกรถยนต์, ซองผ้าสำหรับใส่ตัวเครื่อง, ชุดหูฟัง, แผ่นกันรอยหน้าจอ ซึ่งเรียกได้ว่าแถมมาให้ครบตามมาตรฐาน GPS PDA Phone ครับ..

>> เปิดฝากล่องออกมาเจอ Mio A501


>> พระเอกของเราอยู่บนกล่อง..


>> อุปกรณ์ต่างๆ ในกล่อง​

อุปกรณ์มาตรฐานภายในชุด
----------> อุปกรณ์มาตรฐานที่แจ้งไว้ที่ด้านข้างกล่อง จะถูกบรรจุอยู่ในซองพลาสติกอย่างดี 10 อย่างด้วยกัน เริ่มจาก…

1. สาย USB (USB Cable) ใช้สำหรับ Sync ข้อมูลจากตัวเครื่อง, เมมโมรี่การ์ด กับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม Active Sync

>> USB Cable​

2. สายชาร์ต (AC-Charger) จะมีหัวต่อแบบต่างๆ ได้ 3 แบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ใช้ชาร์ตแบตเตอรี่ภายในบ้าน, อาคาร

>>AC-Charger​

3. สายชาร์ตในรถยนต์ (In-car Charger) ใช้ชาร์ตแบตเตอรี่ภายในรถยนต์โดยจะไฟสถานะขณะกำลังชาร์ตไฟด้วยครับ

>> In-car Charger​

4. แท่นวางตัวเครื่อง (Device Holder) สำหรับวาง Mio A501 ยึดติดกับที่ยึดกระจกรถยนต์ เพื่อใช้ในการนำทางด้วย GPS

>> Device Holder​

5. ที่ยึดติดกับกระจก (Mount) ใช้ยึดติดกับกระจกรถยนต์ สามารถปรับระดับองศาและทิศทางต่างๆ ได้

>> Mount​

6. ซองผ้า (Carry Case) เป็นซองสำหรับใส่ตัวเครื่อง Mio A501 โดยตัวล็อกจะเป็นแถบแม่เหล็กฝังไปในเนื้อผ้าครับ เราจะมองไม่เห็นแถบแม่เหล็กนี้

>> Carry Case


>> Mio A501 ในซองผ้า


>> Mio A501 ในซองผ้า​

7. ชุดหูฟัง (Earphones) เป็นหูฟังแบบสเตอริโอ สามารถปรับระดับเสียงได้ 5 ระดับ ใช้ในการฟังเพลงหรือเป็น Small Talk ก็ได้

>> Earphones


>> มุมมองต่างๆ​

8. แผ่นกันรอย (Screen Protector) ภายในชุดจะแถมแผ่นกันรอยมาให้ 1 แผ่น เพื่อปกป้องไม่ให้หน้าจอทัชสกรีนเป็นรอยจากการใช้งาน

>> Screen Protector​

9. คู่มือการใช้งาน (Document Kit) เป็นคู่มือการใช้งานเครื่องและซอฟต์แวร์ภายในเครื่องแบบคร่าวๆ บรรจุอยู่ในกล่องสีส้มครับ

>> Document Kit​

10. ซอฟต์แวร์ (Software) Mio A501 จะแถมโปรแกรมภาษาไทย (Thai G) เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถอ่าน-เขียนภาษาไทยได้ และแผนที่ประเทศไทยสำหรับการใช้งาน GPS (Speed Navi)

>> Thai G


>> Speed Navi Thailand​

 

สัมผัสจริงกับตัวเครื่อง
ขนาดตัวเครื่อง
----------> เมื่อแกะซองพลาสติกที่หุ้มตัวเครื่องออกมาจะสัมผัสกับขนาดตัวเครื่องได้ว่าเล็กกว่า PDA Phone ทั่วๆ ไป ทำให้เราสามารถใช้งานตัวเครื่องด้วยมือเดียวได้ แถมยังจับตัวเครื่องได้กระชับมือมากขึ้น แต่ครั้งแรกอาจจะดูแปลกตาและแปลกมือหน่อย สำหรับขนาดของตัวเครื่องนั้นตามข้อมูลที่แจ้งไว้จะมีขนาด 95.7 x 59.6 x 20.7 มิลลิเมตร ซึ่งถือได้ว่าไม่ใหญ่เกินไปนักแต่ความหนาของตัวเครื่องจะดูหนาไปซักหน่อย ทางด้านน้ำหนักตัวเครื่อง จะหนักเพียง 135 กรัม ก็ไม่เบาหรือหนักจนเกินไปครับ

>> เล็ก สั้น จับได้เหมาะมือทีเดียว​

----------> สำหรับใครที่กังวลกับขนาดของตัวเครื่อง ผมจะทำการเปรียบเทียบขนาดกับ O2 Mini ให้ดูครับว่ามีขนาดพอๆ กันหรือไม่ เพราะว่า O2 Mini เป็น PDA Phone ที่มีขนาดเล็กและเป็นที่นิยมใช้กันมากในช่วงเวลาหนึ่ง

>> ถ่ายรูปคู่กับ O2 Mini


>> อีกมุมมอง..


>> ตัวเล็กพอๆ กันเลย


>> Mio A501 ตัวสั้นกว่าหน่อยนึง..​

----------> เอามาเทียบกับ Smart Phone ที่มีขนาดเครื่องใกล้เคียงกับ PDA กันบ้าง เจ้า Mio A501 ยังเล็กกว่า แต่ความหนาก็คงต้องยกให้ Mio A501 ครับ แต่ไม่ใช่หนาแบบใช้งานลำบากนะครับ หนากำลังเหมาะมือ..

>> เอาเทียบขนาดกับ Smart Phone


>> เล็กกว่ากันแบบเห็นๆ


>> มาดูด้านข้างกันบ้าง..​

รอบๆ ตัวเครื่อง
----------> ด้านหน้าตัวเครื่องจะมีปุ่มควบคุมทั้งหมด 7 ปุ่ม ถ้าเราดูแบบผิวเผินอาจจะเห็นได้ว่ามีแค่ 6 ปุ่ม ปุ่มที่ 7 ที่ว่านั้นก็คือปุ่มเรียกใช้งานโปรแกรม Launcher ของ Mio ครับ เมื่อทดลองกดปุ่มที่ว่านี้ก็จะเข้าสู่โปรแกรม Launcher ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับจัดเก็บ Shortcut โปรแกรมต่างๆ เพื่อเรียกใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับในส่วนโปรแกรม Launcher ผมจะขอกล่าวในส่วนของซอฟต์แวร์ครับว่ามันทำอะไรได้บ้าง..

>> ด้านหน้าของตัวเครื่อง


>> ปุ่มด้านหน้า​

---------->ปุ่มที่แตกต่างจาก PDA Phone ทั่วไปนอกจากปุ่ม Launcher ของ Mio แล้ว ก็คือปุ่ม GPS สำหรับการใช้งาน GPS ที่เพิ่มเติมเข้ามา

>> ปุ่ม Mio Launcher​

---------->ทีนี้เรามาดูด้านข้างกันบ้าง เริ่มจากด้านขวา จุดที่เด่นที่สุดที่ด้านข้างตัวเครื่องก็คือ SD/MMC/SDIO Slot ซึ่งรองรับการ์ดหน่วยความจำได้สูงสุด 2 GB ทีแรกผมก็สงสัยครับว่าทำไม Mio A501 ยังใช้การ์ดหน่วยความจำแบบ SD, MMC อยู่ ทั้งๆ ที่ตัวเครื่องของ Mio A501 เองยังออกแบบมาให้เล็กเลย ทำไมไม่ใช้ mini SD เหมือน PDA Phone รุ่นใหม่ๆ จะได้ประหยัดพื้นที่ไปนิดนึง +_+ แต่ก็ดีครับ เราจะได้ไม่ต้องหาซื้อหรือพกพา Adapter สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลผ่าน Card Reader ถ้าใครมี mini SD อยู่แล้วอยากเอามาใช้งานกับ Mio A501 ก็ทำได้เหมือนกันครับ แค่เสียบ Adapter ก็เอามาใช้งานได้แล้ว (ยืดหยุ่นดี)

>> ด้านข้าง (ขวา)​

---------->สำหรับเครื่องที่ผมได้มาทำการรีวิวนั้นจะมีการ์ดหน่วยความจำแบบ SD Card ติดมาให้ด้วย 2 GB ครับ ถ้าในชุดที่ขายจริงแถมมาด้วยก็ประหยัดเงินไปได้นิดหน่อยที่ไม่ต้องหาซื้อการ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติม

>> SD/MMC Slot


>> เปิดฝาออกมา​

----------> ถัดมาจะเป็นปุ่มเพิ่ม/ลด ระดับเสียง ซึ่งปกติทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์หรือ PDA Phone ปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียงจะอยู่ด้านข้างตัวเครื่องด้านซ้ายมือ บางเวบไซต์ที่ทดสอบเครื่องรุ่นนี้บอกว่ากดไม่ถนัดมือ แต่ความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่าผู้ใช้งานคงมีความถนัดในเรื่องการใช้งานมือซ้ายหรือมือขวามากกว่าครับ ตามปกติคนถนัดมือขวาเมื่อใช้งานโทรศัพท์จะใช้นิ้วชี้เพิ่ม/ลดระดับเสียง แต่พอ Mio A501 ย้ายปุ่มมาทางด้านขวาก็เลยถูกวิจารณ์ว่าทำไมไม่ย้ายไปทางด้านซ้ายให้เหมือนปกติทั่วไป (ผมว่าทาง Mio มีเหตุผลครับเดี๋ยวผมจะเฉลย) วิธีการแก้ปัญหาเรื่องการปรับระดับเสียงเพียงแค่ถือใช้งานขณะโทรศัพท์ด้วยมือซ้ายครับ เราก็จะเพิ่ม/ลด ระดับเสียงได้ถนัดกว่าถือมือขวา..

>> ปุ่ม Volume


>> เพิ่มลดระดับเสียงด้วยมือขวาก็ถนัดดี​

----------> สิ่งที่แปลกตาอีกจุดที่เราจะไม่ค่อยได้เห็นช่อง USB ที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งน้อยรุ่นมากๆ สำหรับโทรศัพท์มือถือและ PDA Phone จะมีช่อง USB อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง โดยส่วนตัวผมก็มองว่าไม่แปลกครับ.. แต่จะไม่ค่อยถนัดถ้าเราชาร์ตแบตเตอรี่พร้อมกับใช้งานโทรศัพท์ไปด้วย ไม่เหมือนเครื่องที่มีช่อง USB ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง สำหรับ Mio A501 ที่ย้ายช่อง USB มาอยู่ด้านข้างก็เพราะการดีไซน์ของตัวเครื่องครับ

>> ช่อง mini USB กับปุ่ม Reset​

----------> เราพลิกมาดูด้านข้างทางซ้ายกันบ้าง.. ผมขอเริ่มจากปุ่มควบคุม 5 ทิศทางก่อนครับ เนื่องจากสร้างความแปลกประหลาดมากว่าทำไม Mio เอาปุ่มควบคุมมาไว้ทางด้านข้าง สาเหตุก็เพราะว่าต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานตัวเครื่องได้มือเดียวเหมือน Smart Phone เฉกเช่น Sony Ericsson P-Series ที่มี Jog Dial เป็นตัวควบคุม แต่ข้อเสียที่ Mio คิดไม่ถึง (อาจจะคิดถึง แต่ไม่เสียหายอะไรมาก) ก็คือจะทำให้เสียรสชาดในการเล่นเกม สำหรับเกมที่ต้องใช้ปุ่มควบคุมครับ สาเหตุนี้แหละครับที่ทาง Mio ย้ายปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียงไปทางขวา (ทำไมไม่ย้ายปุ่มควบคุมไปทางขวาล่ะ? อันนี้ต้องไปถามทาง Mio เองครับ อิอิ)

>> ด้านข้างตัวเครื่อง (ซ้าย)


>> ปุ่มควบคุม


>> ทดลองใช้ปุ่ม ก็ถนัดดีครับ​

----------> สำหรับปุ่มข้างๆ ก็จะเป็นปุ่ม Camera สำหรับเรียกโปรแกรมถ่ายภาพครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่หน้าจอไหน เมื่อเรากดปุ่มนี้ตัวเครื่องจะเรียกโปรแกรม Camera ขึ้นมาทำงานครับ

>> ปุ่ม Camera ข้างๆ ปุ่มควบคุม


>> หน้าตาโปรแกรม Camera ครับ​

---------->ด้านบนของตัวเครื่องจะมีคำว่า “GPS” สลักเอาไว้ เพื่อบ่งบอกว่า Mio A501 มี GPS แบบ Built-in ถัดมาจะเป็นเสารับสัญญาณ GPS ที่ฝังเอาไว้ในเครื่อง โดยมีที่กันฝุ่นปิดเอาไว้อีกที สำหรับปุ่มด้านขวาสุดจะเปิดปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง

>> ด้านบนของตัวเครื่อง


>> GPS Antenna​

----------> เมื่อพลิกไปด้านหลังจะพบกับกล้องอยู่ด้านริมขวามือของตัวเครื่อง โดยมีลำโพงอยู่ด้านล่าง ลักษณะการใช้งานกล้องจะต้องใช้ในแนวนอนเหมือนกล้องดิจิตอล โดยปุ่ม Camera จะทำหน้าที่เป็น Shutter และปุ่ม Volume จะทำหน้าที่ในการซูม

>> ด้านหลังของตัวเครื่อง


>> กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล


>> ลองถ่ายตัวเองดู ^_^​

----------> การเปิดฝาหลังของ Mio A501 เราจะต้องกดตัวล็อกที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่องแล้วดันฝาหลังขึ้นมา เหมือนโทรศัพท์และ PDA ครับ เมื่อเปิดออกมาแล้วจะพบแบตเตอรี่ก้อนสีขาว ที่ตัวแบตเตอรี่จะมีรูปการถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวเครื่องด้วยครับ

>> กดตัวล็อกด้านล่างของเครื่อง​

----------> หลังจากถอดแบตเตอรี่ออกมาแล้ว เราจะพบช่องใส่ซิมการ์ดที่เป็นแบบตัวล็อกเหมือนโทรศัพท์มือถือ วิธีการเปิดเราจะต้องดันตัวล็อกซิมการ์ดไปทางซ้ายเพื่อเปิดฝา เมื่อใส่ซิมการ์ดแล้วให้ปิดฝาลงแล้วเลื่อนไปทางขวาเพื่อล็อก

>> แกะฝาหลังออกมาแล้ว…


>> อีกมุมมอง..



>> ถอดแบตเตอรี่ออกมาแล้ว


>> จัดการใส่ซิมการ์ด


>> ใส่ซิมการ์ดเรียบร้อยแล้ว​

 

สัมผัสการใช้งานจริง
เปิดเครื่อง
----------> เมื่อสำรวจตัวเครื่องเรียบร้อยแล้ว เราจะทำการใส่แบตเตอรี่และเปิดเครื่องที่ปุ่ม Power ด้านบนของตัวเครื่อง เมื่อตัวเครื่องถูกเปิดไฟที่ Keypad จะถูกเปิดขึ้นมาด้วย โดยไฟ Keypad จะเป็นสีขาว ที่หน้าจอ LCD จะขึ้นโลโก้ Mio ที่แสดงข้อมูล Flash ROM ด้วย ผมลองจับเวลาตั้งแต่กดปุ่ม Power จนถึงหน้าจอ Today จับเวลาได้ 56 วินาทีครับ

>> เปิดเครื่องแล้วไฟที่ปุ่ม Keypad จะติดเป็นสีขาว


>> เปิดเครื่องแล้วเจอโลโก้ Mio​

ไฟสถานะ
----------> ไฟสถานะของตัวเครื่องจะมีอยู่ 2 ดวง อยู่ในตำแหน่งด้านบนของตัวเครื่อง หลังจากใส่ซิมการ์ดเพื่อใช้งานโทรศัพท์จะสังเกตได้ว่าจะมีไฟสถานะสีเขียวกระพริบอยู่ดวงแรก ถ้าแบตเตอรี่อยู่ในระดับที่จะต้องทำการชาร์ตไฟจะแสดงสถานะเป็นสีแดงกระพริบ ในระหว่างที่ทำการชาร์ตแบตเตอรี่ไฟสถานะดวงแรกนี้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง

>> ไฟสถานะสองดวงด้านบนขวาของตัวเครื่อง​

----------> สำหรับไฟสถานะดวงที่สองจะเป็นสถานะการใช้งาน Bluetooth โดยไฟสถานะจะแสดงเป็นสีน้ำเงินกระพริบ ผมลองรับและส่งไฟล์ดูไฟสถานะนี้ก็ไม่เปลี่ยนสีเหมือน PDA บางรุ่นครับ

ระบบเสียง
----------> หลังจากรับไฟล์เพลงจากคอมพิวเตอร์ผ่าน Bluetooth ผมทดลองเปิดฟังด้วย Windows Media Player ผ่านลำโพง Loudspeaker ที่อยู่ด้านหลังเครื่อง เสียงที่ออกมานั้นใสใช้ได้ในระดับหนึ่งครับ สำหรับลำโพง Loudspeaker ที่ผมพูดถึงอยู่จะเป็นแบบ Mono ครับ

----------> จากนั้นทดลองตั้งค่าเสียงเรียกเข้าเป็นแบบ MP3 และทดสอบโทรเข้าเครื่อง Mio A501 ดู ถ้าอยู่ภายในอาคารเสียงเรียกเข้าที่ดังจาก Loudspeaker ก็ดังดีครับ แต่ถ้าอยู่ภายนอกอาคารก็จะเบาไปนิดนึงครับ (ผมทดสอบอยู่ข้างถนน) สำหรับลำโพงสนทนาสอบผ่านครับไม่เบาจนเกินไป

----------> ผมลองใช้งานชุดหูฟังที่แถมมากับตัวเครื่องบ้าง… เสียงที่ออกมาดังชัดเจนดีครับ แต่เสียงเพลงที่ออกมาทางหูฟังนั้นไม่ใช่สเตอริโอครับ สำหรับการสนทนาผ่านหูฟังสามารถกดรับสาย/วางสายได้ที่ปุ่มควบคุมของชุดหูฟังครับ

ฟังก์ชั่นโทรศัพท์
----------> เมื่ออยู่ในหน้าจอ Today เราสามารถกำหนด Soft key ซ้าย หรือกดปุ่มโทรออก จะเข้าสู่ฟังก์ชั่นโทรศัพท์ ซึ่งสามารถทำการโทรออกได้ทันที สำหรับฟังก์ชั่นโทรศัพท์นี้ผมขอพูดถึงไม่มากนักนะครับ เนื่องจาก PDA Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 5 ก็จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมือนกัน เอาล่ะ.. ทีนี้ผมลองตรวจสอบยอดเงินที่คงเหลืออยู่ใน SIM Card ดูบ้าง ผมใช้ SIM True Move จะต้องกด #123# ผมลองตรวจสอบจาก Mio A501 ไม่สามารถตรวจสอบได้ครับ แต่ลองกับ AIS สามารถตรวจสอบได้ครับ

>> ตรวจสอบยอดเงินบัตรเติมเงิน ไม่มีข้อความแจ้ง​

ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพ
----------> อย่างที่ทราบกันดีว่า Mio A501 มีความละเอียดกล้อง 2 ล้านพิกเซล ซึ่งแน่นอนครับว่าสามารถเลือกความละเอียดภาพได้ 5 ระดับ ความสามารถของฟังก์ชั่นในการถ่ายภาพนิ่งจะมีฟังก์ชั่นชดเชยแสงติดมาให้ด้วยครับ เพียงแค่เราเลื่อนปุ่มควบคุมไปทางซ้ายหรือขวา

>> ปรับชดเชยแสงตั้งแต่ -3 ถึง +3​

----------> โหมดการถ่ายภาพสามารถเลือกถ่ายโหมดสี, ซีเปีย, ขาวดำได้ และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 3 ภาพต่อการกด Shutter เพียงหนึ่งครั้ง แค่นั้นยังไม่หมดครับยังสามารถตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติได้ 2 ระยะเวลา คือ 5 วินาที และ 10 วินาที ครับ

>> ถ่ายโหมดสี, ซีเปีย, ขาวดำ​

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Mio A501

​

----------> ทีนี้เรามาดูฟังก์ชั่นการถ่ายภาพเคลื่อนไหว หรือ วิดีโอคลิปกันบ้าง ความละเอียดภาพของวิดีโอคลิปจะสามารถเลือกได้ 2 ระดับ คือ 176x144 Pixel และ 128x96 Pixel ระยะเวลาในการถ่ายวิดีโอคลิปเราสามารถกำหนดระยะเวลาการถ่ายได้ การถ่ายวิดีโอคลิปเราสามารถกดปุ่ม Camera เพื่อเริ่มการถ่ายและกดซ้ำเพื่อหยุดถ่าย ระหว่างการถ่ายวิดีโอคลิปจะมีระยะเวลาคงเหลือตามพื้นที่หน่วยความจำแสดงที่หน้าจอด้วยครับ เพื่อให้เรารู้ว่าสามารถถ่ายได้นานเท่าใด

>> หน้าจอการตั้งค่าโหมดวิดีโอ


>> หน้าขอขณะถ่ายวิดีโอ​

ใส่ Device Holder + Mount
----------> เรามาลองใช้งานแท่นวางตัวเครื่องกับที่ยึดกระจกสำหรับการติดตั้งภายในรถยนต์กันบ้าง ผมเริ่มจากการใส่ตัวเครื่องลงในแท่นวาง เมื่อวางลงไปแล้วรู้สึกได้ว่าแน่นไม่หลุดง่ายครับ จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อติดกับที่ยึดกระจกในรถยนต์แล้ว ตัวเครื่องจะไม่ร่วงหล่นลงมา ความพิเศษของแท่นวางที่ผมทดสอบอยู่นั้นจะมีความพิเศษตรงที่มีก้านยื่นออกมา 2 ก้าน ซึ่งเจ้าก้านที่ว่านี้จะทำให้เราสามารถเพิ่ม/ลดระดับเสียงได้สะดวกครับ เพราะมันจะสัมผัสกับปุ่ม Volume พอดิบพอดี จากนั้นเอามาประกอบกับที่ยึดกระจกก่อนที่จะนำไปติดกับกระจกในรถยนต์

>> จับมาใส่ Device Holder


>> ก้านสัมผัสกับปุ่ม Volume


>> ซูมกันแบบชัดๆ


>> เอามาต่อกับที่ยึดกระจกดูบ้าง..


>> มุมมองด้านข้าง..​

 

ซอฟต์แวร์ภายในเครื่อง
----------> สำหรับซอฟต์แวร์ภายในตัวเครื่อง ผมจะขอทำการรีวิวเฉพาะซอฟต์แวร์ที่แตกต่างจาก Windows Mobile 5 ครับ อาจจะเป็นโปรแกรมหรือโปรแกรมตั้งค่าการทำงานเฉพาะสำหรับ Mio A501 โดยเริ่มต้นจาก..

Mio Menu
---------->ในหน้าจอ Today จะแตกต่างจากหน้าจอ Today ของ PDA ยี่ห้ออื่นๆ เพราะว่ามี Mio Menu เพิ่มขึ้นมาครับ หน้าตาของ Mio Menu จะเป็นแถบไอคอนโปรแกรม 5 โปรแกรมเพื่อให้เราเรียกใช้โปรแกรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น คล้ายๆ กับ Active Standby ของ Symbian ครับ เราสามารถตั้งค่าให้แสดงไอคอนโปรแกรมได้ใหม่เองอีกด้วย

>> แถบ Mio Menu ในหน้าจอ Today


>> ส่วนของการตั้งค่า​

----------> นอกจากนี้ Mio Menu ยังทำหน้าที่จัดเก็บ Shortcut โปรแกรมที่ใช้งานประจำเป็นหมวดหมู่ เช่น Multimedia, Tools, Business, Connection และ Internet ทำให้เราไม่ต้องเรียกใช้งานจากเมนู Start -> Programs ครับ (จะรวดเร็วกว่า) ซึ่งโปรแกรม Mio Launcher ที่ว่านี้มันสามารถจัดเก็บ Short cut จากผู้ใช้งานเพิ่มเติมได้อีก 9 Short cut ครับ เพียงแตะที่คำสั่ง More การเรียกใช้งานฟังก์ชั่นนี้เราสามารถเรียกใช้งานได้ที่ปุ่ม Mio ที่ด้านหน้าตัวเครื่องครับ

>> แบ่งไอคอนโปรแกรมเป็นหมวดหมู่


>> ดูไอคอนโปรแกรมตามหมวดหมู่..​

----------> วิธีการเพิ่ม Short cut เราเลือกตำแหน่งที่จะ Assign ก่อน แล้วแตะที่ Menu เลือกคำสั่ง Assign Shortcut จะมีรายการโปรแกรมให้เลือก เราเลือกโปรแกรมี่ต้องการสร้าง Shortcut แล้วแตะที่คำสั่ง Select แค่นี้เองครับ สำหรับในกรณีที่ต้องการลบ Shortcut เพียงแค่ใช้คำสัง Unassign Shortcut เท่านั้นเอง

>> ส่วนของที่เราสร้าง Shortcut เองได้


>> ทดลองสร้าง Shortcut เก็บไว้..​

Mio eUtility
----------> ในเมนู Settings -> System จะพบกับไอคอน eUtility ไอคอนโปรแกรมนี้ ใช้สำหรับกำหนดค่าการใช้งานเกี่ยวกับระบบพลังงาน และการใช้ Car Holder เมื่อใช้งาน GPS เรามาดูในแต่ละหน้าจอกันเลยดีกว่าครับ ว่า Mio eUtility มันทำอะไรได้บ้าง

----------> เริ่มจากหน้าจอแท็บแรกจะเป็นส่วนของระบบ โดยจะบอกรายละเอียดเวอร์ชั่นของ ROM, OS, UUID, BT Mac address, Firmware

>> แท็บ System​

----------> แท็บที่สองเป็นส่วนที่ใช้กำหนดค่าเกี่ยวกับการเซฟพลังงาน โดยเราสามารถกำหนดค่าการทำงานของ Backlight ได้ตามสถานการณ์ต่างๆ

>> แท็บ Power​

----------> แท็บที่สามเป็นส่วนสำหรับกำหนดค่าการใช้ Car Holder หรือแท่นวางเครื่องสำหรับยึดติดในรถยนต์ เราสามารถกำหนดได้ว่าเมื่อเราใช้ Car Holder แล้วใช้งาน GPS ตัวเครื่องจะทำการแสดงผลแบบแนวนอนอัตโนมัติ

>> แท็บ Car Holder


>> ลองใส่ Car Holder แผนที่แสดงเป็นแนวนอนจริงๆ​

----------> แท็บสุดท้ายเป็นแท็บสำหรับการ Format Partition ในส่วนของ Mio Recovery ครับ โดยในส่วนของ Mio Recovery นั้นจะทำหน้าที่ในการสำรองข้อมูลต่างๆ ในเครื่องเรา

>> แท็บ Format​

Flash light
----------> ส่วนของ Flash light จะเป็นโปรแกรมที่ทำหน้าให้แฟลชของกล้องเป็นไฟฉายฉุกเฉิน โดยเมื่อเราใช้งาน Flash light ไฟแฟลชจะสว่างได้ต่อเนื่องนาน 10 วินาที เราสามารถกำหนดปุ่ม Home ปุ่ม Actiion เป็นคีย์ลัดในการใช้งานไฟฉายได้ครับ โดยกดค้างไว้ประมาณ 3 วินาที ข้อดีของโปรแกรมนี้สามารถกดปุ่มเรียกใช้งานขณะตัวเครื่องถูกล็อกได้อีกด้วยครับ เหมาะสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ

>> หน้าจอการตั้งค่า Flash light


>> ลองใช้งาน Flash Light สว่างได้ใจจริงๆ​

Card Scanner
----------> ฟังก์ชั่น Card Scanner คุณผู้อ่านคงได้ยินกันมาบ้างแล้ว หรือบางท่านอาจจะเคยใช้งานกันมาบ้างแล้วใน PDA และโทรศัพท์บางรุ่น ความสามารถพิเศษของโปรแกรมนี้ก็คือสามารถแปลงภาพให้เป็นตัวอักษรได้ ลักษณะการทำงานจะเหมือนซอฟต์แวร์ OCR (Optical Character Recognition) ที่ใช้กันบนเครื่องคอมพิวเตอร์กับสแกนเนอร์ หน้าที่ของโปรแกรม Card Scanner จะช่วยทำหน้าที่ในการบันทึก Contacts จากนามบัตรโดยจะแปลงข้อมูลทั้งหมดจากนามบัตรบันทึกลงในฟิลด์ต่างๆ ของรายการ Contacts ครับ ช่วยทำให้เราลดขั้นตอนการพิมพ์ได้มากทีเดียว

>> หน้าตาโปรแกรม WorldCard Mobile​

----------> ผมทดลองใช้งาน Card Scanner ด้วยนามบัตรสีที่มีรูปในนามบัตรด้วย ผลที่ออกมานั้นใช้ได้ดีเลยทีเดียว แต่ความแม่นยำในการแปลงภาพเป็นตัวอักษรนั้นขึ้นอยู่กับภาพที่เราถ่ายจากนามบัตรด้วยครับ ว่าชัดเจนมากน้อยเพียงใด สำหรับความแม่นยำผมคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ประมาณ 70-90% ครับ ข้อมูลบางส่วนที่ไม่ชัดเจนอาจจะผิดเพี้ยนต้องแก้ไข หรืออาจจะไม่แสดงผลก็ได้ครับ

>> ทดลองใช้โดยถ่ายภาพนามบัตร


>> ถ่ายเสร็จแล้วกด Recognize แปลงเป็นตัวอักษร


>> ได้ข้อมูลมาแล้วแต่ไม่สมบูรณ์ 100%


>> เอาข้อมูลมาปรับแต่ง แก้ไขภายหลังได้​

Mio Calculator
----------> โปรแกรม Mio Calculator เป็นโปรแกรมสำหรับการคำนวณตัวเลข ที่แตกต่างจากโปรแกรม Calculator ที่ติดมากับ Windows Mobile 5 นอกจาก Mio Calculator จะมีสกินของเครื่องคำนวณที่สวยงามกว่าแล้ว ยังสามารถคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ให้ผู้ใช้งานกำหนดค่าเงินในแต่ละสกุลได้อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอครับมันยังสามารถคำนวณหน่วยวัดต่างๆ ได้อีก เรียกได้ว่า 3 in 1 เลย..

>> เครื่องคำนวณ


>> แปลงสกุลเงิน


>> หน่วยวัดต่างๆ​

World Time
----------> โปรแกรม World Time เป็นโปรแกรมสำหรับเทียบเวลากับเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลก คล้ายๆ กับ World Mate แต่ World Time จะทำหน้าที่ในการเทียบเวลาอย่างเดียวครับ ซึ่งสามารถแสดงเวลาได้พร้อมกัน 5 เมือง เลือกรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ

>> เมนูของ World Time


>> เปลี่ยนการแสดงผล​

 

Speed Navi
----------> โปรแกรมสุดท้ายที่ผมจะขอนำมารีวิวกับ Mio A501 ครับ ซึ่งถือว่าโปรแกรม Speed Navi เป็นตัวเอกที่สุดจากเหล่าบรรดาโปรแกรมทั้งหมดในตัวเครื่องครับ ใครที่เคยใช้งาน GPS มาบ้างแล้วคงรู้สรรพคุณของโปรแกรม Speed Navi กันดี เนื่องจากโปรแกรมนี้สามารถแสดงแผนที่ได้ละเอียด มีความแม่นยำในการนำทาง รวดเร็ว ใช้งานง่าย ปกติโปรแกรม Speed Navi มักจะแถมมาพร้อมกับ GPS PDA Phone ครับ ไม่มีแยกขายเหมือนบางโปรแกรมครับ.. ในส่วนนี้ผมขอรีวิวแบบคร่าวๆ นะครับว่าโปรแกรมสามารถทำอะไรได้บ้าง ส่วนวิธีใช้งานนั้นสามารถศึกษาได้จากคู่มือครับ..

----------> หลังจากที่เราเปิดใช้งาน Speed Navi แล้วจะเข้าสู่หน้าจอหลักของโปรแกรมซึ่งจะแสดงเป็นแผนที่ที่เราได้เชื่อมต่อเอาไว้เป็นครั้งสุดท้ายครับ.. หลังจากเปิดใช้งาน Speed Navi ถ้าเราอยู่ในพื้นที่ที่รับสัญญาณจากดาวเทียมได้โปรแกรมจะทำการเชื่อมต่อให้เองอัตโนมัติครับ เท่าที่ผมทดสอบการเชื่อมต่อ GPS ของ Speed Navi เร็วใช้ได้เลยครับ ไม่ถึง 30 วินาทีก็เชื่อมต่อสำเร็จแล้ว แต่ผมทดสอบเชื่อมต่อขณะที่อยู่บนรถที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ เชื่อมต่อได้ช้าครับ ทั้งนี้สภาพอากาศก็มีส่วนครับ

>> แสดงจุดที่เราอยู่ปัจจุบัน​

----------> เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว แผนที่ของ Speed Navi จะแสดงพื้นที่ที่เราใช้งานอยู่โดยมีลูกศรเขียวๆ กำกับครับ เราสามารถดูข้อมูลพื้นที่ที่เราอยู่ว่าอยู่พิกัดใดได้โดยแตะที่ไอคอนรูปจานดาวเทียมครับ

>> แสดงพิกัดที่เราอยู่​

---------->สำหรับตั้งค่าการแสดงผลของแผนที่ เราสามารถกำหนดทิศทางตำแหน่งของแผนที่ได้ว่าให้แสดงตามทิศ, แสดงตามรถที่กำลังมุ่งหน้าไป, แสดงผลแบบ 3 มิติก็ได้ แถมยังสามารถซูมแผนที่ใกล้/ไกลได้อีกด้วย

>> แสดงตามทิศ


>> แสดงตามทิศทางการเดินรถ


>> แสดงแบบ 3 มิติ


>> ซูมใกล้ ไกลได้หลายระดับ​

---------->สามารถเลือกให้แสดงสีของแผนที่ตามฤดู เท่าที่ผมทดลองใช้หลักๆ จะเปลี่ยนแค่สีถนนและทางด่วน (Main Roads) ครับ โดยฤดูใบไม้ผลิถนนเป็นสีเทา ฤดูร้อนถนนป็นสีส้ม ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวถนนเป็นสีฟ้า นอกจากนี้เรายังกำหนดให้โปรแกรมแสดงแผนที่ตามโหมดแบบกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ครับ

>> กลางวัน กลางคืน​

----------> การค้นหาจุดหมายปลายทางเราสามารถค้นหาจุดหมายได้จากการใส่ค่าพิกัดของสถานที่ ในกรณีที่เรารู้พิกัด หรือจะค้นหาจุดหมายปลายทางจากชื่อสถานที่ก็ได้ครับ เมื่อค้นหาพบเราสามารถ Mark สถานที่หรือกำหนดเป็นจุดหมายปลายทางก็ได้ วิธีการ Mark คลิกไปที่ไอคอนรูปธงครับ แล้วเลือก Mark ตามสัญลักษณ์อักษรครับ S คือจุดเริ่มต้น, G คือจุดหมาย, W คือจุดแวะครับ

>> กำหนดจุดหมาย​

----------> เมื่อเรากำหนดจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมสามารถคำนวณระยะทาง แสดงจุดที่น่าสนใจในเส้นทาง หรือจะกำหนดสถานที่ต่างๆ ในเส้นทางเป็นจุดแวะก็ยังได้ หรือจะซักซ้อมการเดินทางโปรแกรม Speed Navi ก็สามารถจำลองการเดินทางแบบจริงๆ ก่อนการเดินทางก็พอไหว ซึ่งเราสามารถกำหนดความเร็วของรถได้เองในอัตราความเร็ว 50, 100, 150 และ 200 กม./ชั่วโมง

>> คำนวณระยะทางและแก้ไขเส้นทาง​

----------> ผมทดลองใช้งานจริงโดยจุดเริ่มต้นจากบ้านย่านราชเทวีและกำหนดจุดหมายปลายทางที่อ่อนนุช ก็สามารถแนะนำเส้นทางได้แม่นยำ มีเสียงบอกระยะทาง ทางโค้ง ทางเลี้ยว ทางเบี่ยง ตลอดเส้นทางครับ โดยเราสามารถกำหนดเสียงบอกเส้นทางเป็นภาษาไทย, อังกฤษ, จีน หรือเกาหลีก็ได้ ซึ่งค่าปกติจะบอกเส้นทางเป็นภาษาไทยครับ

>> บอกข้อมูลการเดินทางตลอดเส้นทาง


>> แสดงทางแยกข้างหน้า​

----------> เมื่อเราอยู่จุดใดก็แล้วแต่ในขณะที่สัญญาณ GPS เชื่อมต่ออยู่ เราสามารถค้นหาสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่เราอยู่ก็สามารถค้นหาได้อย่างง่ายดาย โดยโปรแกรมแยกเป็นหมวดหมู่มาให้ ผมลองค้นหามินิมาร์ทที่อยู่ใกล้เคียงขึ้นมาดู โปรแกรมจะแสดงลิสต์ตามระยะทางโดยจะแสดงร้านค้าที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน หรือจะเลือกให้แสดงตามลำดับอักษรก็ยังได้

>> ค้นหาสถานที่ใกล้เคียง​

----------> สำหรับใครที่ต้องการนำ GPS มาใช้งานในการเดินทางหรือเริ่มต้นที่จะศึกษา ผมว่าโปรแกรม Speed Navi น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะใช้งานง่าย เชื่อมต่อได้รวดเร็ว แผนที่ยังมีความละเอียดอีกต่างหากว่าจุดใดมีร้านค้า, อาคาร, ปั้ม และอื่นๆ อยู่บริเวณใดบ้าง จริงๆ แล้วรายละเอียดของโปรแกรมยังมีมากกว่านี้ครับที่ผมแนะนำนี่เป็นแค่น้ำจิ้มครับ…

Specifications :

​

Last edited by chinimon on 14 Aug 2007 23:58; edited 1 time in total

http://www.smart-mobile.com/forum/viewtopic.php?t=122462

 

<TABLE width=726 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=287>

Mio A501 GPS - มีโอ้



ขนาด : 95.7 x 59.6 x 20.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 147 กรัม
<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../picture/animation/lineWidth.gif height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../picture/animation/lineWidth.gif height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../picture/animation/lineWidth.gif height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>* ข้อมูลแคตตาล็อกเปิดตัวล่วงหน้า [ โปรดอ่าน ]
- Preliminary information -
​

</TD><TD vAlign=top width=10 background=../../picture/animation/ver-line.gif> </TD><TD vAlign=top width=415>

<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=50 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ข้อมูลทั่วไป Mio A501 GPS - มีโอ้
- GPS & PDA Phone -

• เปิดตัวครั้งแรก 10 พฤษภาคม 2007 (สยามโฟนฯ)
• ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2007 (กรกฎาคม 50)
• ราคาเปิดตัว 23,900 บาท (กรกฎาคม 50)

<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../picture/animation/lineWidth.gif height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec) ​

• ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
• จอสัมผัส TFT-LCD - สี - 240 x 320 พิกเซล (2.7")
  - ระบบจดจำลายมือ (Handwriting recognition)
  - ปรับแสดงผลทั้งแนวตั้ง (Portrait) และแนวนอน (Landscape)
• ปุ่มควบคุมด้านข้าง Jog 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
• ระบบปฎิบัติการ Microsoft Windows Mobile 5.0
  - CPU : TI OMAP 850 - 200 MHz
• เสียงเรียกเข้า Polyphonic, MP3, WMA, WAV, AAC, AMR
  - ระบบสั่น (Vibration in Phone)
• หน่วยความจำ 1 GB Flash ROM - SDRAM 64 MB
  - การ์ดหน่วยความจำ SD/MMC/SDIO - สูงสุด 2 GB
• บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1000 รายชื่อ (Phonebook)
  - แสดงรูปถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo CallerID)

<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../picture/animation/lineWidth.gif height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)​

• ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
  - บลูทูธ 2.0 Bluetooth™ , USB 1.1
  - รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP และ AVRDP)
  - แจ็คเสียบ 2.5 MM.
• ใช้งานอินเตอร์เน็ต Full HTML, WAP 2.0 Browser
• รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
  - อีเมล์ Email (POP3/SMTP/IMAP4) , รองรับ Push Mail
  - MMS, EMS, SMS, IM ผ่าน EDGE, GPRS
• รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0

​

<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../picture/animation/lineWidth.gif height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)​

• กล้องดิจิตอล CMOS 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Digital Camera)
  - ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto-focus)

​

• บันทึกภาพวีดีโอ พร้อมเครื่องเล่น (Video recording & Playback)
• เครื่องเล่น VDO, MP3 (Windows Media Player)
• เครื่องบันทึกเสียง (Voice recognition)
• แผนที่นำทางระบบดาวเทียม (GPS - 20 channel SiRFstarIII)
• แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง Outlook (Sync data)
  - สมุดโทรศัพท์ / ปฎิทินนัดหมาย / งาน / อีเมล์
• โปรแกรมติดตั้งมาตรฐานในเครื่อง (Standard applications)
  - Pocket Excel, Pocket Word : พิมพ์, อ่านงานเอกสาร
  - ClearVue PDF + PPT : อ่าน E-book, PowerPoint
  - Pocket Outlook : โปรแกรมรับ-ส่งอีเมล์ (Email)
  - Pocket Internet Explorer : ท่องโลกอินเตอร์เน็ต
  - MSN Messenger, ActiveSync : CHAT + โอนถ่ายข้อมูล
  - Windows Media Player : ฟังเพลง MP3, วีดีโอ
• MioCalc (with currency and unit conversion), World Time,
  Mio Menu, Mio Today-plugin, World Card Mobile, Emergency
  Locator, Quick Positioning (AGPS), Mio SMS Location

<TABLE height=5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=../../picture/animation/lineWidth.gif height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

การใช้งานของแบตเตอรี่ ​

• แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1050 mAh (Standard Battery)
• เปิดรอรับสาย 200 ชั่วโมง (Standby Time)
• สนทนาต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมง (Talk Time)
• ใช้งานแผนที่ต่อเนื่อง 4-5 ชั่วโมง (GPS Time)

<IFRAME align=middle marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://board.siamphone.com/viewtopic_count.php?t=210863" frameBorder=0 width=0 scrolling=no height=0></IFRAME>ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Mio A501 GPS [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Mio A501 GPS Product Page [ENG Site] ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>


http://www.siamphone.com/catalog/mitac/a501.htm

 

Nuvi 200 VS. MIO C220 ฟันธง!

ช่วยแนะนำการตัดสินใจหน่อยครับ ระหว่างสองรุ่นนี้กำลังจะซื้อภายในสองวันนี้แล้วครับ อยากได้ที่นำทางแม่นยำหน่อยเพราะจะเอาไปใช้ที่เชียงใหม่ด้วยหนะครับ
แล้วทั้งสองรุ่นนี้แสดงแบบ real time ไหมครับ delay บ้างหรือป่าวเพราะผมขับรถค่อนข้างเร็ว (120 km.) หนะครับกลัวจะไม่ทัน ปล.ราคากลางทั้งสองรุ่นนี้ตอนนี้ิอยู่ที่เท่าไรครับ ไปที่ทองหล่อมาเค้าเชียร์ nuvi ราคาที่ 14,900 บาท แต่ลดให้เหลือ 14,700 บาท (สรุปลดไหมเนี่ย แต่เค้าแนะนำและบริการดีมากกกกกๆๆ) เห็นมีคนบอกว่าได้มาถูกกว่านี้อีก รบกวนบอกร้านด้วยนะครับผมอยู่แถวลาดพร้าว ขอบคุณมากครับ

ดูต่อที่....

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=181088

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width=473>รีวิวเครื่อง GPS ราคาประหยัดสุดคุ้มค่า Mio C220 </TD><TD class=nolink_black align=right width=127>>> เรื่องอื่นๆในหมวด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=597 border=0><TBODY><TR><TD align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
18 ตุลาคม 2550
จำนวนผู้อ่าน 15406 คน


ตลาดเครื่อง GPS สองสามปีที่ผ่านมานี้ บูมเอามากๆเลยนะครับ เนื่องจากเครื่องรุ่นใหม่ๆนั้นสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ต้องต่อเสาอากาศออกภายนอกตัวรถเหมือนก่อน โปรแกรมการใช้งานต่างๆก็เรียนรู้ได้ง่าย อินเตอร์เฟสก็สวยงาม และที่สำคัญตัวแผนที่เองก็มีความแม่นยำสูง เมื่อก่อนนี้จะซื้อเครื่อง GPS สักเครื่องก็ต้องมีงบประมาณตุนในกระเป๋าอย่างน้อยก็ต้องสองหมื่นกว่าขึ้นไป แต่มายุคนี้ตลาดแข่งขันกันดุเดือดมาก เลยทำให้เครื่อง GPS แบบพกพานี้ราคาต่ำลงมาเยอะ เหลือเครื่องละหมื่นกว่าบาท และยังมีการใช้งานหลักๆที่ครบถ้วนเช่นเดิม

วันนี้ผมเลยขอพาทดสอบเครื่อง GPS ราคาประหยัด โดยมีราคาที่ 11,900 บาท พร้อมแผนที่ ESRI +โปรแกรม speed navi ที่เป็นสไตล์เดียวกับในเครื่อง GPS PDA Phone อย่าง Mio A501 หรือเครื่องของทาง ASUS สำหรับประสิทธิภาพของเครื่องรุ่นนี้จะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ



Mio C220 เป็นเครื่องราคาประหยัด หากจะว่าไปแล้วก็ถือว่ามันเป็นราคาแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเครื่อง GPS พกพาที่มี Speed การทำงานระดับ 400 MHz นั้นจะมีราคาเริ่มต้นแค่หมื่นนิดๆ แต่ลูกเล่นบางอย่างในเครื่อง GPS แบบหรูๆก็ถูกตัดออกไป จำเป็นไม๊ที่ต้องมี MP3 ในตัว ? จำเป็นไม๊ที่ต้องมี Bluetooth ต่อเชื่อม? จำเป็นไม๊ ที่ต้องมีการแสดงรูปภาพได้ ? หากคิดว่าลูกเล่นเหล่านี้ไม่จำเป็น ก็หันมามอง C220 กันได้เลยครับ เพราะเจ้าตัวน้อยนี้มันตัดลูกเล่นที่ไม่จำเป็นในเครื่องรุ่นใหญ่ๆออกไป เพื่อทำราคาให้ต่ำลง

- โดดเด่นด้วยซีพียูความเร็วสูง 400 MHz
- รองรับระบบปฏิบัติการ Windows Mobile CE 5.0
- จอแสดงผลระบบสัมผัส 65K สี ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล ขนาด3.5 นิ้ว
- พร้อมเสารับส่งสัญญาณดาวเทียมในตัว โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- เทคโนโลยี GPS ที่สามารถรองรับได้มากถึง 20 ช่องสัญญาณบนชิปเซต SiRFstar III
- รองรับหน่วยความจำเพิ่มเติมด้วยการ์ดแบบ SD/MMC สูงสุด 2GB
- รองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ
- ลำโพงในตัวพร้อมช่องเสียบหูฟัง
- แบตเตอรี่ 1200mAh แบบ Li-on ใช้งานนานต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องรับประกัน 1 ปี แบตเตอรี่รับประกัน 6 เดือน
- ขนาดตัวเครื่อง 108 x 81 x 24 มิลลิเมตร น้ำหนัก 110

C220 รุ่นนี้จะว่าฉลาดในการออกแบบก็ไม่ผิดนักในการจะทำให้ตัวเครื่องลดต้นทุนได้ต่ำ ราคาจำหน่ายจะได้ต่ำ อย่างเรื่องแรกที่ผมคิดว่าเครื่องรุ่นนี้ฉลาดก็คือ มันไม่มี Memory ในตัวเครื่องแต่จะใช้ SD Card เก็บหน่วยความจำแทน ซึ่ง ซึ่งสำหรับการใช้งานพวกเครื่อง GPS นั้นการเก็บข้อมูลลงใน Card แบบนี้ไม่มีผลต่อการใช้งานเท่าไรเลย หากจะว่าช้ากว่า Memory ในเครื่องก็คงจะนิดหน่อยแทบไม่ค่อยรู้สึก ยิ่งได้ CPU แรงระดับ 400 MHz ด้วยแล้วมันเลยทำให้การใช้งานทั่วๆไปค่อนข้างราบรื่น


สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาก็มี ตัวเครื่อง/ แท่นวางติดกระจก / สายชาร์จกับที่จุดบุหรี่ และ หม้อแปลงสำหรับชาร์จไฟบ้าน




ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 3.5 นิ้วแบบ Touch screen ไม่ต้องใช้ Stylus ครับ การแสดงผลแบบภาษาไทย อ่านง่ายเข้าใจง่าย ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาแค่ ร้อยกว่ากรัม ตัวเครื่องเป็นพลาสติกสีเทาทั้งตัว วัสดุที่ใช้ก็ดูดีใช้ได้เลยครับ



ด้านข้างมาดูกันซะหน่อยดีกว่า ด้านข้างจะมีช่องเสียบสำหรับชาร์จไฟ แบบ Mini USB ในขนาดมาตราฐาน สามารถเอาที่ชาร์จแบบ Mini USB ทั่วๆไปมาเสียบใช้งานร่วมได้



ส่วนอีกด้านเป็นช่องเสียบหูฟังและช่องเสียบ SD Card ในขนาดปกติ ซึ่งก็สามารถหาซื้อในขนาดความจุสูงมาเพิ่มได้ แต่จริงๆแล้วอันที่เค้าแถมมาให้ก็เพียงพอแล้วหละครับ เพราะเราไม่ได้ไปเก็บข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมากนัก



ด้านบนตัวเครื่องเป็นปุ่มเปิดปิดการใช้งาน ตอนแรกเล่นเอางงไปเหมือนกัน ว่ากดแล้วทำไมไม่เปิดทั้งๆที่ชาร์จไฟมาซะเต็มเปี่ยม แต่ที่ไหนได้ ลืมดูคู่มือเค้าบอกว่าให้กดปุ่มแช่ไว้สัก 10 วินาทีแล้วเครื่องก็จะเปิดใช้งานได้ครับ



หากอยู่ในที่อับสัญญาณจริงๆก็สามารถต่อเสาอากาศภายนอกได้ แต่เท่าที่ผมใช้งานดูแม้ว่าจะอยู่ในที่อาจจะไม่กลางแจ้งนักแต่ตัวเครื่องก็รับสัญญาณได้ดีมาก โดยเครื่องรุ่นนี้จะใช้ชิพ GPS รุ่นยอดโคตรฮิต นั่นก็คือ ชิปเซต SiRFstar III ที่ยังเป็นชิพเซตที่ฮิตอมตะนิรันต์กาลจริงๆ



แผ่นหลังของเครื่องครับ มีช่องลำโพงเสียงบอกนำทางและเสียง System ต่างๆของตัวเครื่อง เครื่องรุ่นนี้ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ครับ หากเสื่อมจริงๆคงต้องเข้าศูนย์หรือไม่ก็ต้องอาศัยความชำนาญถอดเปลี่ยนเองก็น่าจะไหวโดยต้องเปิดฝาหลังเครื่องออกมา แต่ทางที่ดีก็เข้าศูนย์น่าจะดีกว่าครับ แต่ก็คงอีกนานหละครับ



เปิดเครื่องกันเลยดีกว่า !! เปิดมาปุ๊บจะเจอหน้าจอแบบนี้ก่อนเลย มีให้เลือกว่าจะ Setup ค่าตัวเครื่องหรือจะใช้งานด้าน Navigation เราลองไปดูในส่วน setting ก่อนดีกว่าว่ามันปรับแต่งอะไรได้บ้างและยุ่งยากไหม



ในหน้า setting เวลาเข้ามาแล้วจะเป็นแบบภาพด้านบนนะครับ สามารถเลือกตั้งค่าตัวเครื่องได้ 5 แบบกับอีกหนึ่ง Info
- ปรับความสว่างหน้าจอ
- ปรับระดับเสียง
- ตั้งคาริเบต หน้าจอ
- ดูแบตเตอรี่
- ตั้งเวลา
- ดูเวอร์ชั่นของ ROM เครื่อง





หน้าตาอินเตอร์เฟสการตั้งค่าต่างๆตัวเครื่อง ผมว่ามันใช้งานง่ายมากๆเลยนะครับแทบไม่ต้องเปิดคู่มือดูเลย สามารถใช้นิ้วจิ้มแตะเลือกคำสั่งต่างๆบนหน้าจอได้ทันที ผมชอบนะครับเรื่องอินเตอร์เฟสแบบนี้ทำให้การใช้งานดูง่ายขึ้นเยอะ




ลองไปดูการใช้งานด้านการนำทางแบบ GPS กันหน่อย สำหรับเมนู Navigation เวลาแตะเลือกแล้วก็จะเข้ามาที่หน้าจอเพื่อเรียกโปรแกรม Speed Navi ขึ้นมาโปรแกรมตัวนี้ผมว่าหลายๆคนก็รู้จักดีครับ มันเป็นโปรแกรมสไตล์เดียวกับในเครื่อง GPS PDA Phone หลายๆยี่ห้อแต่อาจจะมีเมนูต่างกันบ้างนิดหน่อย แต่โดยรวมๆแล้วใช้งานคล้ายๆกันเลย



เมื่อโปรแกรมทำงานแล้วหน้าจอโปรแกรมจะเป็นแบบนี้หละครับ โดยมีเมนูคำสั่งอยู่ทางซ้ายมือ สามารถ Zoom Out / In ได้ง่าย กว่าแบบของ Mobile XT ในเครื่อง Garmin เพราะมีเครื่องหมาย +- ในการควบคุมได้ง่ายกว่า หากจะเถียงกันว่า Mobile XT หรือ Speed Navi ดีกว่ากัน ผมว่าเถียงกันไม่จบแน่ เพราะแต่ละโปรแกรมมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างๆกัน แต่สำหรับ Speed Navi จะได้เรื่องอินเตอร์เฟสสวยงามกว่า เข้าใจก็ง่ายพอๆกัน ส่วนเรื่องความแม่นยำก็พอๆกับ Mobile XT




หากแตะที่เมนูรูปจานดาวเทียมก็จะเข้าสู่หน้าดูสถานะการรับสัญญาณเครื่อง ตอนนี้เริ่มจับสัญญาณได้แล้วครับ ใช้เวลาการจับสัญญาณในที่โล่งครั้งแรก ประมาณ 3 นาที ก็จับสัญญาณพร้อมนำทางได้แล้ว



เมื่อสัญญาณพร้อมรูปจานดาวเทียมจะเปลี่ยนจาก icon รูปกากบาทเป็นรูปการรับสัญญาณแบบในภาพบนครับ



ส่วนขั้นตอนวิธีใช้โปรแกรม Speed Navi แบบ Step by Step นั้นผมไม่ขอพูดถึงก็แล้วกันไม่งั้นอธิบายแบบคู่มือคงสามวันสามคืนไม่จบแน่ แต่ก็บอกได้เลยครับว่าโปรแกรม Speed Navi นั้นใช้ไม่ยากครับ สามารถเรียนรู้ได้จากในคู่มือแผ่น CD ที่ให้มาในเครื่อง สำหรับคำสั่งเริ่มการใช้งานค้นหาสถานที่ที่เราจะไป ก็แตะที่รูป icon ตัว S ด้านมึมซ้ายล่างของจอ ก็จะแสดงข้อมูลเมนูย่อยการใช้งานการนำทางแบบในภาพด้านบน




แท่นติดกระจกที่แถมมาให้ก็ใช้งานได้แน่นอนหนาดีครับ ตัวเครื่องสามารถติดตามใจเราในมุมมองสายตาที่ชัดเจน แต่ในภาพผมไม่ได้ต่อกับสายที่จุดบุหรี่ในรถ หากต่อสายอาจจะดูเกะกะรุงรังนิดหน่อย ผมแนะนำว่าหากคิดจะซื้อเครื่องรุ่นนี้มาใช้ แล้วกะว่าเอาไว้ในรถไม่ถอดเข้าออก แนะนำให้ติดที่มุมขวาของกระจกแล้วเดินสายไฟหลบข้างเสาแนบมากับประตูรถแล้วค่อยจั๊มไฟ ต่อผ่านที่จุดบุหรี่อีกที จะทำให้ดูสวยงามขึ้น



หน้าจอบอกสถานะพร้อมการเดินทางแล้ว



ลองหาจุดหมายกันหน่อย ลองให้มันนำทางไปห้างสรรพสินค้าดูดีกว่า โปรแกรม Speed Navi จัดหมวดต่างๆได้ค่อนข้างดีแต่เมนูต่างๆอาจจะลึกกว่า Mobile XT แต่ก็เข้าใจไม่ยาก



ไปเซ็นทรัล วังบูรพากันครับ เมื่อค้นหาเจอก็แตะที่เมนูนำทางแล้วก็จะมีเส้นบอกนำทางโชว์บนหน้าจอแบบเครื่อง GPS ทั่วๆไป




ในโปรแกรมสามารถกำหนดการตั้งค่าย่อยของโปรแกรมได้อีกนะครับ



รูปของขาติดกระจกที่สามารถปรับมุมองศาตัวเครื่องได้ง่ายมาก ผมชอบขาแบบนี้มากกว่าแบบขา Flex ที่งอไปงอมาอีก แบบนี้มันดูแน่นหนากว่าเยอะ เพราะขา Flex เวลาขับรถในที่ขรุขระ หรือแค่สตาร์ทรถบางทีก็กระเด้งๆ ดึ๋งๆแล้ว



สรุปโดยรวมๆแล้ว เท่าที่ผมใช้ C220 มาประมาณสองอาทิตย์ ค่อนข้างชอบครับ หน้าจอมันใหญ่ดี การทำงานต่างๆก็เสถียรดีมาก เรื่อง Speed ความเร็วตัวเครื่องก็เร็วใช้ได้เลยครับ ตัวเครื่องผมว่ามันออกแบบได้ดูดีใช้ได้เลย ก็อย่างที่บอกหละครับถ้าคิดจะใช้ GPS จริงๆจังๆ C220 น่าใช้ครับ แม้จะไม่มีลูกเล่นฟังเพลง MP3 ดูภาพถ่าย เอาแค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วหละครับ ส่วนเรื่องความแม่นยำในการนำทางก็แม่นดี เรื่องราคาผมว่าไม่แพง สำหรับอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่จะหาซื้อ GPS ราคาประหยัดมาใช้ก็น่าจะลองดู Garmin Nuvi200 ตัวนั้นก็ราคาแพงกว่า C220 หน่อยคือประมาณ 14,700 บาท ก็เป็นเครื่องในกลุ่มเดียวกันคือราคาประหยัด แต่เท่าที่ลองใช้ C220 มาผมยังไม่เจอข้อเสียที่ซีเรียส จะมีก็แต่เรื่องฝาหลังถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่ได้ แต่ถ้าเราใช้ในรถก็คงไม่จำเป็นหละครับ ส่วนเรื่องฟังเพลง หรือลูกเล่นอื่นๆผมก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไรอยู่แล้ว ดังนั้นหาก C220 จะไม่มีลูกเล่นเหล่านั้นก็ไม่ซีเรียสครับ
ข้อดีของเครื่องแบบ GPS เดี่ยวๆแบบนี้ที่เหนือกว่า GPS PDA Phone ก็คือเรื่องของความสะดวกครับ เพราะหากเป็น GPS PDA Phone เวลาใช้งานนำทางอยู่แล้วเกิดมีโทรศัพท์เข้ามาเราก็ต้องหยิบเครื่องมาคุย แยกก็สะดวกกว่าครับ แต่อาจจะจ่ายงบที่ราคารวมแล้วแพงกว่า

สนใจลองสอบถามและสั่งซื้อได้จากร้านตัวแทนเหล่านี้ครับ

http://www.isystem.co.th/ โทรศัพท์: 086-3009000
http://www.platinumpda.com/ โทรศัพท์: 02-6411180
http://www.smartmobile.co.th/ โทรศัพท์: 02-6420433
http://www.zu-zon.com/ โทรศัพท์: 02-632-8057
http://www.global5thailand.com/products/products.htm โทรศัพท์: 02 721 9811
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.mrpalm.com/list3.php?cont_id=895

 

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=+2]Mio C520 พี่ของ C220 จอ 4.3 นิ้ว มีของวันนี้ [/SIZE]
ผมจะได้ของตอนเย็นวันนี้ ดีใจจัง
ท่านที่อยากได้เช็คที่ดีลเลอร์Synnex ครับผม
sunsermsuk@gmail.com
By : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 07:50:01 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 1
ทราบว่า ลุงไมโล เป็นตัวแทนจำหน่ายด้วย อยากให้ลองรีวิว การใช้งาน ให้ดูบ้าง
From : . [ 18 ส.ค. 50 - 09:01:14 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 2
ยังไม่เคยเล่นนะครับ ตัวนี้ แต่ได้แนะนำให้เชลล์ที่หาดใหญ่บอกmarketing ให้ทางsynnex ส่ง สินค้าให้อาจารย์หวัง ลองtestดู แต่ไม่ทราบว่าเขาจะเชื่อคำแนะนำหรือเปล่า แล้วทุกคนจะได้ความรู้ จากผู้รู้จริง ดีกว่าผม นะครับ แต่อาทิตย์หน้าจะไปเกาะสมุย แล้วจะtest แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 09:26:02 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 3

เปรียบเทียบกับคุณแก่ของลุง
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 14:14:31 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 4

โปรแกรมที่มีให้ Speed nuvi and Mio tranfer .ใช้จัดการ 3 เรื่องครับ
1. จักการเรื่อง เบอร์โทร
2. จัดการเรื่องเพลง
3. จัดการเรื่องภาพ
ยังไม่ทดลองใช้นะครับ อ่านเอาอะครับ
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 14:17:32 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 5
อยากได้โปรแกรม speed navi ใส่ C520 พอดี น้องชายอยู่ต่างประเทศ กับมาไทย ใครมีขายบ้าง โทร 081-6545444 ติดต่อ ตั้ม
From : tum [ 18 ส.ค. 50 - 14:29:53 น. ]
</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 6

กล่องใส่น้องหนู
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 14:54:40 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 7

register code
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:01:42 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 8

กระเป๋า
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:03:01 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 9

อุปกรณ์ที่มีมาเหมือนๆๆกับ C220 แต่ตรงนี้ไม่ทราบนะครับ
มีสาย
1.usb
2.สายชาร์จในรถ
3.ที่ติดกระจก
4.หัวปลั๊กต่าง
4. ที่ติดกับเครื่อง
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:07:38 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 10

ดูให้ชัดๆๆ
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:09:15 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 11

ก่อนเอาเครื่องปลั๊กเข้าไป
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:10:48 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 12

หลั่งใส่เข้าไปเรียบร้อย
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:12:17 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 13

ข้างๆๆคือที่ใส่กระจก
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:13:45 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 14

หลังเปิดเครื่อง
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:22:23 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 15

หน้าตาหลังจากเข้าไปแล้ว
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:23:28 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 16

เข้ามาที่map
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:25:45 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cols=1 width="95%" bgColor=maroon border=0><TBODY><TR><TD>ความเห็นที่ 17

วางข้างหน้าต่าง เห็นดาว3 ดวง
From : uncle MILO [ 18 ส.ค. 50 - 15:33:39 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

อ่านต่อที่....http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=170209

 

Mio C520 น่าใช้รึเปล่าครับ

อ่านต่อที่....http://www.pdamobiz.com/forum/PDAforum_posts.asp?TID=93259&PN=1

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD align=middle background=content/images/main_bgpage.gif height=15><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width=473>เครื่อง GPS ของ Garmin ลดราคาพิเศษเพียง 5 วัน 20-24 มีค นี้เท่านั้น </TD><TD class=nolink_black align=right width=127>>> เรื่องอื่นๆในหมวด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=597 border=0><TBODY><TR><TD align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
21 มีนาคม 2551
จำนวนผู้อ่าน 3198 คน

Special Promotion เพียง 5 วัน เท่่านั้น
สินค้าทุกรุ่นมีจำนวนจำกัด หากโควต้าที่มีหมด ขายราคาปกติ​

​

( คลิกที่ภาพเพื่อดูรายละเอียดเครื่อง )
Nuvi 200 ราคา ปกติ 14,700 บาท เหลือ 12,700 บาท

( คลิกที่ภาพเพื่อดูรายละเอียดเครื่อง )
Nuvi 200W ราคา ปกติ 18,700 บาท เหลือ 16,700 บาท

( คลิกที่ภาพเพื่อดูรายละเอียดเครื่อง )
Nuvi 200 Pink ราคา ปกติ 14,700 บาท เหลือ 12,700 บาท​

มีจำหน่ายที่

Gadgetrend - ทองหล่อ 0-2712-9751 & 0-2712-9752
Platinum - Fortune 0-2641-1180
Selectmore - Fortune 0-2642-0757 ต่อ 112
Inmax - Fortune 0-2642-1111 ต่อ 3059
Touch Shop - Central World 0-86-336-3781
Next Step - Fortune 0-2642-0727
Oxygen - Fortune 0-2642-0757
Compact Sync - Mall บางแค 0-2803-8519
ฺฺBrilliant Notebook - พันธุ์ทิพย์ 0-2256-0410


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เอาเป็นว่า พี่หนั่นถอยจีพีเอสมาใช้แน่ๆ ว่าแต่เลือกรุ่นไหนครับผม

 

กำลังหาข้อมูลครับท่าน...ช่วงนี้กรอบ....คร๊าบบบบบบ....

 

สวัสดีครับคุณสนั่น
ผมได้ตัวนี้มาครับ(เป็นของขวัญวันเกิด)
HP ipaq 312
กำลังอ่านพวกรีวิวอยู่ ตอนนี้เมนูทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษครับ
แต่ข้อมูลบางส่วนแสดงเป็นภาษาไทยได้
(ร้านขายสังฆภัณฑ์ หน้าปากซอยบ้านผมยังแสดงข้อมูลเลย)
อันนี้มีพวกแคร๊กอยู่ กำลังศึกษาดูครับ
http://www.pdamobiz.com/show_news.asp?NewsID=107316&PN=1



กำลังลองหัดเล่นอยู่
% CPU 600MHz Dual Core
% จอ 4.3 นิ้ว 800x480 pixel ละเอียดสุดๆ
% 128MB RAM, ROM 2 GB โคตรเยอะ
% Bluetooth 2.0
% _Advanced_ SiRF w/ InstantFix
% แถมยังใจดีสุดๆ มาพร้อมแผนที่ 5 ประเทศ: ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง อินโดนีเชีย เป็นภาพสามมิติ
% ตัว Software เป็น Windows CE 5.0 Interface แบบใหม่จาก HP


http://www.brightcove.tv/title.jsp?title=1173351735

 

ครับ โชคดีอยู่อย่าง เวลาอยากได้อะไร
ต้องไปบ่นบ่นให้เพื่อนเพื่อน หรือพี่พี่ ฟังครับ
ถ้ามีเสปค แคตตาล๊อกด้วยจะดีมาก
(แล้ว วันดี คืนดี จะได้มาเอง อิอิ)