เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    พี่นักเขียนกลับมาแล้ว ..เย้ดีใจค่ะ รอมาหลายวันเลย : bat:
    โซลอ่านแล้วก็รู้สึกเหมือนคุณขจรวรรณค่ะ น้ำตาไหล ..
    . (kiss) ขอบคุณสำหรับทุกความรักที่แบ่งปันให้กันและกันในห้องเรียนที่แสนอบอุ่นห้องนี้ค่ะ ....... คุณขจรวรรณสู้สู้ คุณไม่เดียวดายนะคะยังมีพวกเราอยู่เคียงข้างตลอดเวลา..เพียงเสี้ยวหนึ่งของความคิดถึงก็ไปหากันแล้วค่ะ ..(kiss)
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ถูกต้องครับ คุณศิราไปหยิบเอาบทในอนาคตมาโพสล่วงหน้าแล้วนะครับ
    เป็นตอนที่เด็กทั้ง 17 คน มาพบกัน..เรียกว่าแต่งรอพวกเราล่วงหน้าไปแล้ว
    ถ้าพวกเราคิดไม่ออกก็พักก่อนครับ ให้จินตนาการลื่นไหลแล้วมาต่อกันครับ

    คุณขจรวรรรณแบ่งความรู้สึกมาให้พวกเราได้นะ..ทางนั้นจะได้เหลือน้อยๆครับ

     
  3. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ครับ แบ่งออกมาได้เลยครับ มีที่เหลือเพียบครับ (kiss)(kiss)
     
  4. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    นั่นซิค่ะ ห้ามหวงนะค่ะ...ห้องวิทย์ และเพื่อนๆ เราต้องแบ่งปันกันทุกอย่าง...นี่เป็นสัญญาใจค่ะ(kiss)
     
  5. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ต่อกันได้เลยครับ (good)
     
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ชอบพล็อตนี้...


    ท่ามกลางสายฝน ที่ตกพรำๆ...จีนทาร่อน เดินกลับจากมหาวิทยาลัย อย่างหงุดหงิด 'หนาวก็หนาว รถที่ใช้ขับ ดันมาเสีย

    ...ขอพ่อ เปลี่ยน พ่อก็บอก ต้องได้ทุนในโครงการณ์ เด็กอัจฉริยะก่อน...โอ๊ย!!!...มันจะอะไรหนักหนา เนี่ย ทุกวันนี้ ก็ทำคะแนน ได้ติดบอร์ด มหาวิทยาลัย ประจำอยู่แล้ว...เชอะ มีแต่พวกหน้าโง่ เรียน ก็ไม่เรียน เอาแต่เท่ยวสนุกไปวันๆ...นี่พ่อ ยังไม่พอใจอีกเหรอ ที่มีลูกดีๆ แบบนี้

    ดูซิ คนอื่นๆ เอาแต่เที่ยว รวมกลุ่มกัน ยกขโยงไปนู้นมานี่ ทำกิจกรรมบ้าบอ เรียนก็ไม่เรียน ...กลับได้คะแนนพิศวาส เพราะเป็นนักกีฬา ดีเด่น...โง่ๆๆๆ....เบื่อ...."

    ชายหนุ่ม เฝ้าครุ่นคิด จนมาถึงทางแยก สามแยก ริมถนนใหญ่
    เค้ามอง ซ้าย-ขวา ไปทางไหนดีล่ะ หลงแล้วเนี่ย เฮ้อ!...จะเดิน กลับ หรือไปต่อดีเนี่ย

    ....ระหว่างที่กำลัง จะเลือกตัดสินใจ ....แว่บนึง จืนทาร่อน เห็นตัวเองเลี้ยว ก้าว ข้ามถนน เพื่อไปทางขวา อย่างทันที...โดยไม่ได้สังเกตุ รถสีฟ้าที่กำลังวิ่งตรงมาเปรี้ยง โครม!!!....ร่าง จีนทาร่อน ลอยละลิ่วไปในอากาศ แล้วตกกระแทกพื้น อย่างแรง เค้าสลบเหมือด....

    ....จืนทาร่อน ตกใจอย่างแรง สติสัมปชัญญะ ทุกอย่างหยุดนิ่ง....แล้ว เมื่อระลึกได้อีกครั้ง

    เค้ากำลัง ยืนอยู่บน ฟุตบาธ...เมื่อกี้ มันอะไรน่ะ...เค้ามองกลับไปที่ถนน อีกครั้ง ขวามือ รถสีฟ้า กำลังวิ่งผ่านหน้าเค้า...ไปอย่างรวดเร็ว....แรงลมพัดปะทะ จนตัวเอน

    ชายหนุ่ม แทบหยุดหายใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ในภวังค์
    จากนั้น...ก็ มีแสงสีแดง พุ่งผ่านหน้าเค้า ไปตกลงบนฝั่งถนน ตรงทางซ้ายมือ เขามองตามอย่างสงสัย...แล้วขยับเริ่มเดินต่อ ค่อยๆมอง ซ้ายที-ขวาที แล้ว ก้าว ข้ามถนน ไปทางแยกซ้าย....ตรงจุด ที่แสงนั้น ตกลง

    ที่พื้น ดอกกุญแจโลหะ รูปร่างประหลาด สีแดงเข้ม แดงจนน่ากลัว.....
    เขาก้มลง หยิบ มันขึ้นมา....ทันใด นั้น อากาศตรงหน้า ก็แหวก เป็นช่องว่าง สีขาวขุ่น ทึบไปด้วยหมอก ควัน ....ค่อยๆ ปรากฎ ร่างของ ชายผิวเข้ม หน้าตาดุดัน อายุอานาน น่าจะใกล้เคียงเขา เด็กหนุ่ม ผิวเข้ม ชี้นิ้ว ตรงมาที่ จินทาร่อน...นาย อยู่ ในกลุ่ม ของฉัน....กลุ่ม ผู้พิทักษ์.......

    ใครมาต่อหน่อยค่ะ ตันค่ะ....อิอิ
     
  7. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    มีนักแสดงเพิ่มมาอีกคนนึงแล้ว เดี๋ยวขอพ้นจากชั่วโมงงานก่อนจะมาช่วยแต่งเพิ่ม แต่ตอนนี้มีเรื่องานอยู่ในหัว มันไม่มี inspiration เลย
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ถึงตอนที่เด็กๆตื่นกันแล้วนะครับ ผมต่ออีกหน่อยครับ

    4+4+5+5=18-1 เพื่อรหัสไข 15-15-15 และกล่อง Pounamu
    เด็กๆแต่ละคนตื่นขึ้นจากความฝัน ด้วยความตื่นเต้น และ กระตือรือลัน
    Mead Zizz Dred Sorel และเด็กๆทุกคนนั่งลงทบทวนความฝันทั้งหมดอีกครั้ง
    ทุกอย่างเหมือนจริงมาก จนแทบปฎิเสธไม่ได้ แต่จะมีอะไรที่พิสูจน์เรื่องเหล่านี้ได้บ้าง?

    ภาพตัดไปที่บ้านพักหลังหนึ่งริมแม่น้ำสายใหญ่ เป็นยามเช้าสายฝนเพิ่งจะหยุดตก
    Wanphen (ขจรวรรณ) ยังไม่ใส่ใจกับประสบการณ์เหล่านั้น..คิดว่าตนเองอาจเพ้อเจ้อ หรือคิดไปเองแน่ๆ
    จึงลุกเดินออกมาสูดอากาศหน้าระเบียง...สักพักได้ยินเสียงแม่เรียกดังๆ "สายแล้วลูก
    ลงมาทานข้าวได้แล้ววววว" Wanphen เดินลงไปที่โต๊ะอาหาร พบกล่องพัสดุกล่องเล็กๆ 1 กล่อง
    วางอยู่บนโต๊ะจ่าหน้าซองถึงเธอ แต่ไม่มีชื่อผู้ส่ง อยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาลประทับตราสัญลักษณ์แปลกๆ
    ระบุวันที่ 4 เดือน 4 ค.ศ.1855 เธอคิดว่าตัวเลขคุ้นๆมาก...
    พอเธอเปิดกล่องพัสดุนั้นออกมา..เธอถึงกับตะลึงงันกับภาพที่เห็น
    เพราะเป็น กุญแจประดับหินสีเหลืองทอง ถูกส่งมาเป็นพัสดุวางอยู่ตรงหน้าเธอ
    เธอหยิบขึ้มาพิจารณา พบข้อความสลักไว้ว่า พยานและการสืบทอด
    เธออึ้งไปนาน พร้อมกับภาพแห่งความฝันทั้งหมดก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
    หรือว่านี่จะเป็นภาระกิจในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเราจริงๆ?
    หัวใจเธอเต้นตื่นตูมตามเต้นจนแทบจะลืมเรื่องทานอาหารมื้อเช้าไปเลย [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • aaaa.jpg
      aaaa.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.9 KB
      เปิดดู:
      52
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  9. Campanile

    Campanile สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    I completely agreed with this quote. I apologize for typing in English. I have no access to Thai keyboard - work and live in USA. Great blog!!!!!!!!!!!!!!!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  10. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    JINTA (JINTAWADEE) ตกใจตื่นขึ้นมา กับฝันที่เสมือนจริงเมื่อคืนนี้

    ถึงแม้เธอจะตื่นขึ้นมาในโลกปัจจุบันของเธอแล้ว แต่เสียง "ให้ตามหา 4+4+5+5 รหัสไข Pounamu 15-15-15 " ก็ดังอยู่ในสติสัมปชัญญะของเธออย่างไม่เสื่อมคลาย


    jinta เธอมีความสามารถทางพลังที่เข้มข้นมาตั้งแต่เด็ก เพียงแต่เธอต้องการ ก็จะมีแรงดึงดูดเหตุการณ์ วัตถุสิ่งของที่เธอต้องการ มาหาเธอ ในเวลาไม่นาน

    ถึงเธอจะไม่รู้ถึงเบื้องหลังการทำงานของพลังงานดังกล่าวก็ตาม

    จนเธอรู้สึกกลัวถึงอารมณ์ ความคิด และจินตนาการของเธอ

    เธอสามารถดึงดูดสิ่งต่างๆมาหาเธอได้อย่างง่ายดาย ทั้งบ้าน รถ สิ่งของอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อน สังคม สิ่งรอบตัวในสิ่งที่เธอต้องการ

    jinta คิดทบทวน ถึงความฝันเมื่อคืน เป็นความฝันที่ชัดเจนมากสำหรับเธอ และมีแรงดึงดูดให้เธอต้องไขปริศนาความฝันเมื่อคืนให้ได้


    เธอคิดแต่ว่า ไร้สาระ จะเป็นจริงได้ยังไง ฝันก็คือฝัน ไม่ใช่ความเป็นจริง


    แต่เธอยิ่งคิด ความฝันเมื่อคืน ก็จะเหมือนเทปที่เล่นซ้ำอยู่ในหัวเธอ ไม่ว่าเธอจะออกไปข้างนอก พูดคุยกับครอบครัวและเพื่อน หลับตา อาบน้ำ กินข้าว

    เทปฝันนี้ก็จะอยู่ในความทรงจำเธอตลอดเวลา

    จน jinta ไม่สามารถหนีได้ ต้องมานั่งคิดว่าเธอต้องแก้ไขปริศนาความฝันเมื่อคืนให้ได้ เพียงแต่เธอครุ่นคิดด้วยจิตที่แน่วแน่


    ติ๊งหน่องๆๆๆ เสียงออดดังขึ้น


    jinta หลุดจากภวังค์ความคิด และวิ่งออกไปรับพัสดุจากบุรุษไปรษณีย์ที่คุ้นเคย

    เธอรู้สึกประหลาดใจว่า พัสดุนี้คืออะไร ไม่น่าจะมีใครนำพัสดุมาส่งให้เธอได้ เพราะเธอไม่ได้สั่งสินค้า เธอคิดว่าอาจจะเป็นพัสดุที่เพื่อนๆนำมา surprise ก็ได้


    ก่อนที่เธอจะกลับเข้าบ้าน พี่บุรุษไปรษณีย์ก็ได้บอกกับเธอว่า จริงๆพัสดุชิ้นนี้จะต้องส่งรอบบ่าย แต่ทำไมถึงติดมากับพัสดุรอบเช้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ถือเป็นโบนัสละกันนะ เดี๋ยวผมไปก่อนหละ ต้องไปส่งบ้านอื่นต่อไป

    jinta งงที่ว่าไม่มีชื่อผู้ฝากส่ง มีแต่ผู้รับที่เป็นชื่อเธอ jinta ได้เปิดกล่องออกด้วยความสนใจ เปิดออกมาแล้วเธอพบกับกุญแจทองเหลือง พร้อมกับสลักคำว่า พลัง


    เมื่อเธอหยิบกุญแจขึ้นมาดูด้วยความสนใจ คำว่าพลังนั้นก็ได้กลายเป็นแสงสีเขียวเข้าไปที่หน้าผากของเธอ


    jinta ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง ภาพความฝันเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมา ราวกับอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนไม่มีผิด


    เธอรับรู้ได้ด้วยสติสัมปชัญญะภายในของเธอว่า เธอต้องออกตามหา

    จีนทาร่อน-ผู้พิทักษ์รักษา
    wanphen-พยานและการสืบทอด
    และ sawikana (sawiika)-ผู้ถอดรหัส
    ซึ่งเธอรู้ว่า เธอคือ jinta-พลัง

    ต่อกันได้เลยครับ อิอิ (good)
     
  11. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ความปรารถนาอันเป็นอมตะ

    พวกเราชาวห้องวิทย์ฯกำลังก้าวไปสู่ภาวะที่ต่างก็ค้นพบความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์ผลงาน และแสดงออกซึ่งอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองออกมาสู่สายตาผู้อ่าน การสร้างสรรค์ทั้งหลายล้วนเป็นความปรารถนาอันลุ่มลึกตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ ซึ่งมาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังเพื่อเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ โดยอาศัยกระบวนการทั้งหลายที่เราเรียกกันว่า การทำความดี-การทำความชั่ว การสร้างสรรค์-การทำลายล้าง การทำในสิ่งที่ถูก-การทำในสิ่งที่ผิด การทำในสิ่งที่ให้คุณ-การทำในสิ่งที่ให้โทษ

    ไม่ว่าเราจะเรียกกระบวนการทั้งหลายเหล่านี้ว่าอะไร จากมุมมองของจิตวิญญาณแล้ว กระบวนการทั้งหมดคือการสร้างสรรค์ทั้งสิ้น เพราะหากปราศจากกระบวนการขั้วหนึ่ง กระบวนการอีกขึ้วหนึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้ เช่น หากปราศจากการทำความชั่ว ก็ย่อมปราศจากการทำความดี เพราะการทำความดีจะกลายเป็นคุณสมบัติที่ปราศจากการเปรียบเทียบ ปราศจากความแตกต่างไปจากคุณสมบัติอื่นๆ หากทุกอย่างในโลกหรือบุคคลทุกคนในโลก ล้วนเสมอเหมือนกันหมดคือ เป็นบุคคลที่เราเรียกว่าเป็นผู้กระทำแต่ความดี-เป็นคนดี ความดีเหล่านั้นก็หมดความหมาย เพราะมันกลายเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่ปราศจากความแตกต่าง เราจะมองเห็นความดีทั้งหลายเป็นเพียงความธรรมดาสามัญ ไม่มีคุณค่าพิเศษใดๆ แต่ความชั่วทำให้ความดีสูงส่ง ความชั่วทำให้ความดีกลายเป็นที่พึงปรารถนา ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า แม้แต่ความชั่วก็มีคุณค่า เพราะมันทำให้ความดีนั้นมีคุณค่าอย่างสูง

    ตามปกติแล้วหากพี่นักเขียนหายไปหลายวัน เมื่อกลับมาจะพบหัวหน้ายกทัพไปสร้างปิรามิดและหุ่นยนต์กันง่วนอยู่ใต้โต๊ะ แต่กลับมาคราวนี้หัวหน้ายกทัพไปห้อยอยู่บนเพดานห้อง พี่นักเขียนรู้สึกปลาบปลื้มกับบทละครชีวิตต่างมิติที่พวกเราร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์กันขึ้นมา เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของพวกเรา ที่พลิกผันไปด้วยการเรียนรูู้และความเข้าใจที่ลุ่มลึกจากสาระที่พวกเรารับมาจากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย ซึ่งทำให้เราแต่ละคนสามารถใช้จินตนาการได้อย่างกว้างไกล

    แม้ว่าธรรมชาติความเป็นจริงที่เราได้เรียนรู้จะถูกแปลงเป็นนวนิยาย แต่มันก็เป็นนวนิยายเรื่องเดียวกันกับจิตวิญญาณของเราทั้งหลาย ความสัมพันธ์ ความผูกพันธ์ที่อยู่นอกเหนือประสาทสัมผัสทั้งห้า ความรัก ความเอื้ออาทรที่ครอบคลุมข้ามมิติ ข้ามชาติภพ ประสานจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดในรูปกายอันหลากหลายไว้อย่างไม่เคยเสื่อมคลาย ทำให้เราต่างก็ตระหนักได้ว่า เรามี-เป็น-และทำได้มากกว่าที่เราเชื่อว่าเรามี-เป็นและทำได้ด้วยร่างกายเนื้อหนังเพียงร่างเดียว เรามีพลังมากมายจากจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ
    จากจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์
    และจากจิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติ
    ที่สนับสนุนเรา รัก และ เอื้ออาทรเราเสมอ ทั้งยามหลับ ยามตื่น ยามฝัน


    เราเพียงแต่จะต้องรู้จักที่จะมองเห็นเขา ตระหนักในคุณค่าของเขา เช่นเดียวกับที่ความดีหรือคนดี ควรจะตระหนักในคุณค่าของคนชั่วหรือความชั่ว เพราะไม่ว่าเขาจะเป็นใคร หรือเป็นอย่างไร จะเป็นคนดีหรือคนชั่ว จะเป็นคนรักหรือศัตรู แม้ว่าเราจะวินิจฉัยว่าเขาคือคนชั่วหรือศัตรู เขาก็คือพลังที่ทำให้เราฮึดสู้ เขาคือผู้ถอดรหัสความดี เขาคือผู้พิทักษ์ความถูกต้องในตัวเรา และเขาคือพยานผู้สืบทอดให้เราประจักษ์ว่า ความดีนั้นเป็นสิ่งที่พึงปรารถนา เขาก็คือส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณอันเป็นหนึ่งเดียวกับเราเสมอ และหากปราศจากเขา เราจะเป็นเราได้อย่างสมบูรณ์ไม่ได้ เช่นเดียวกับที่พวกเราชาวห้องวิทย์จะกลายเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ไม่ได้ หากปราศจากผู้อ่าน ที่สละเวลาเข้ามาอ่่านเรื่องราวของพวกเรา แม้ว่าผู้อ่านทั้งหลายจะดูเสมือนว่าปราศจากบทบาท หรือแม้แต่ปราศจากตัวตน แต่ชาวห้องวิทย์ก็จะมองข้ามความสำคัญของผู้อ่่านไปไม่ได้ เช่นเดียวกับที่นักดนตรีวงมโหรี จะมองข้ามความสำคัญของผู้ชมไปไม่ได้ เพราะหากปราศจากผู้ชม(ที่แม้จะเฝ้าชมเงียบๆ) ดนตรีที่ศิลปินสร้างสรรค์และแสดงออกก็ย่อมจะปราศจากความหมาย
    [​IMG]

    คุณค่าของความเกลียดและศัตรู คือ การก่อให้เกิดความรักและความเป็นหนึ่งเดียว
    คุณค่าของความรุนแรงก้าวร้าวและความชั่ว คือ การก่อให้เกิดความอ่อนไหวและความรัก


    เราต่างก็แสวงหาส่วนของตัวตนที่เรารู้สึกเสมือนว่าขาดหายไปจากชีวิต ไม่ว่าเราจะเรียกมันว่าอะไรก็ตาม เราต่างก็ใช้เวลาตลอดชีวิตแสวงหามัน
    บางคนเชื่อว่า-เขาต้องแสวงหาความสามารถสูงสุดในตนเอง หรือแสวงหาหน้าที่ที่แท้จริงที่ตนเลือกมาถือกำเนิด
    บางคนเชื่อว่า-เขาต้องแสวงหาความปรารถนาที่แท้จริง หรือแรงบันดาลใจสูงสุดของตนเอง
    บางคนเชื่อว่า-เขาต้องแสวงหาความสูงส่งของตัวตน ที่เหนือกว่าการเป็นร่างกายเนื้อหนัง หรือภาวะจิตวิญญาณที่เป็นเลิศ

    ไม่ว่าเราจะเชื่อว่าเรามาถือกำเนิดเพื่อแสวงหาสิ่งใด ในที่สุดแล้วเราย่อมจะพบว่า การแสวงหาดังกล่าวนั้นปราศจากจุดจบ เช่นเดียวกับนวนิยายที่ชาวห้องวิทย์กำลังบรรจงสร้างสรรค์ มันอาจจะเป็นเพียงการจบของบทแรก-ของการแสวงหาเท่านั้น แต่จะมีบทต่อๆไป มีการผจญภัยใหม่ๆอันยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีความท้าทายในทิศทางใหม่ๆเกิดขึ้นต่อไปอีกตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ ซึ่งเต็มไปด้วยความปรารถนาอันเป็นอมตะที่จะแสวงหาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์อันหลากหลาย-เป็นอนันต์-ต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  12. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบพระคุณ พี่นักเขียนมากค่ะ...
    ถ้าพวก เราไม่พบพี่นักเขียน เราคงไม่มีความเชื่อมั่นพอ และกล้าที่จะสร้างสรร ในสิ่งที่เราไม่มีความถนัดกันแบบนี้

    ...ทั้งยังมี เพื่อนๆ ที่ร่วมวัตถุประสงค์ เดียวกัน โดยเฉพาะ คุณ mead หัวหน้าห้อง ที่คอยหากิจกรรมมาป้อนให้พวกเรา เพื่อพัฒนาและเติมเต็มจิตวิญญาณของ พวกเราอยู่เสมอ.....(ขอนุญาติ เอาคำพูดพี่นักเขียนมาใช้ค่ะ)


    ........ขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านมากๆ....อีกครั้งค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2008
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ตัวแสดง เริ่มทะยอยมาเรื่อยๆ แล้วนะค่ะ...กลุ่มต่างๆ ก็ เปิดตัวแล้ว
    ...อยากให้ เพื่อนทุกคนมีส่วนร่วมด้วย อะค่ะ...เรา มาสรวมบท ทั้ง ผู้เขียน ตัวละคร ผู้กำกับ หาภาพประกอบ หูย...สารพัด..ฯลฯ
    ...และที่ขาดไม่ได้ เช่น พี่นักเขียนกล่าว คือ บทท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลาย...เป็นอย่างไรบ้างค่ะ...ไม่เห็นมีใคร คอมเม้นท์ บ้างเลย...มันดีหมด เลย จริงๆเหรอ....วิจารณ์ กันบ้างซิค่ะ...รับรอง ไม่โกรธค่ะ...แต่จำ..อิอิ
    ...คนเขียนเอง ให้กำลังใจกันเอง...มัน ก็...แหม......อืมม์.........อ่ะนะ......เข้าใจใช่มั๊ยค่ะ...อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2008
  14. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เปิดตัว JINTANA

    ท่ามกลางความมืดมิด หญิงสาวได้กลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดหนึ่ง มันหอมประหลาด หอมเย็นในความรู้สึก พลันเสียงหนึ่งแว่วขึ้นมาภายในโสตประสาทของหล่อน เสียงดัง นุ่มลึก แต่ทรงอำนาจอย่างประหลาดของชายสูงวัยffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    "ลืมเลือนหน้าที่ของเจ้าแล้วหรือไร มัวแต่เล่นอะไรอยู่ จงตื่นเถอะ จินตดารา และจดจำไว้ว่า ชื่อของเธอคือ จินตดารา"<O:p></O:p>
    หญิงสาววัย 30 ต้น ๆ นามจินตนาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกระพริบตาถี่เพื่อปลุกความรู้สึก หล่อนไม่แน่ใจว่าเสียงที่เพิ่งจะได้ยินมันเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ แต่ถ้ามันเป็นความฝัน ทำไมกลิ่นหอมประหลาดนั้นถึงยังคงติดจมูกเธออยู่ล่ะ จินตนาค่อย ๆทบทวนความฝันที่ผ่านมาอยู่ครู่หนึ่งพร้อมขบคิดอยู่ในใจ "ฝันอะไร แปลกจัง" พลันหวนนึกถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เพิ่งผ่านมาเมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่เธอกำลังรอเรือข้ามฟากเจ้าพระยาเพื่อกลับไปเยี่ยมมารดาที่บ้านสวนฝั่งธนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ<O:p></O:p>
    ชายชราสูงวัยเดินออกมาจากร้านดูดวงชื่อดังริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ธรรมดาที่ร้านนี้มักจะมีผู้คนมากมายแวะเวียนเข้ามาใช้บริการ แต่วันนี้ภายในร้านกลับปราศจากผู้คน ชายสูงวัยเดินออกมาพร้อมกวักมือเรียกเธอ จินตนาคิดว่าชายชราคงแค่เรียกลูกค้าตามปกติเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงเอ่ยปากปฏิเสธชายชราอย่างสุภาพ ไม่ใช่เพราะเธอไม่ค่อยเชื่อถือศาสตร์ประเภทนี้ แต่เธอไม่มีเงินต่างหาก ชายชราส่ายหน้าเล็กน้อย พร้อมกล่าวว่า <O:p></O:p>
    "ลุงไม่ได้อยากดูดวงให้หนู แต่ลุงอยากให้หนูดูอะไรอย่างหนึ่งต่างหากล่ะ เข้ามาก่อนเถอะ" หญิงสาวไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้เดินตามชายชราผู้นั้นเข้าไปในร้านอย่างง่ายดายนัก ชายแก่ชี้ชวนให้เธอดูหิ้งพระใหญ่ทางด้านขวามือของร้าน บนหิ้งนั้น ชั้นบนสุดมีพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดไม่ใหญ่นักตั้งอยู่ ชั้นถัดมาประกอบไปด้วย เทวรูปต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเทพเจ้าทางฝ่ายฮินดูที่เธอรู้จักดี แต่ที่สะดุดตาเธอที่สุดหาใช่พระพุทธรูป หรือ เทวรูปฮินดูเหล่านั้นไม่ แต่กลับเป็นตุ๊กตากุมารทองที่ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย โดยแต่ละตัวใส่เสื้อผ้าสีสันแตกต่างกันไป ชายแก่มองตามสายตาหญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่าพร้อมเล่าถึงที่มาของตุ๊กตาเหล่านั้นอย่างกับล่วงรู้ถึงความสนใจของเธอ<O:p></O:p>
    "ตุ๊กตากุมารชุดนี้ มีทั้งหมด 17 ตัว พ่อของลุงเคยเล่าให้ฟังว่า ตุ๊กตากุมารทั้ง 17 ตัวนี้ เป็นสัญญลักษณ์ของจิตวิญญาณที่แตกตัวออกมาจากจิตวิญญาณดวงใหญ่ดวงหนึ่งที่มีอายุหลายพันปี สีสันของเครื่องแต่งกายแต่ละตัวเป็นสัญญลักษณ์ทดแทนบุคลิคภาพต่าง ๆของจิตวิญญาณดวงใหญ่ดวงนั้น" ชายชรากล่าว<O:p></O:p>
    หญิงสาวประหลาดใจกับข้อมูลที่ได้ยิน แต่ก็ยังได้ยินตัวเองถามกลับชายชรา<O:p></O:p>
    "จิตวิญญาณดวงใหญ่คืออะไรหรือคะ"<O:p></O:p>
    ชายชรากล่าวตอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนยิ้มเล็กน้อย<O:p></O:p>
    "พ่อของลุงเคยเล่าให้ฟังว่า ในสมัยก่อนเมื่อประมาณ 9,999 ปี เคยมีอาณาจักรแห่งหนึ่งที่รุ่งเรืองไปด้วยวิวัฒนาการ เทคโนโลยี่ล้ำสมัยกว่าปัจจุบันหลายเท่านัก ผู้คนที่นั่นมีความเจริญทั้งทางด้านวิทยาการแขนงต่าง ๆ และ ทางด้านจิตวิญญาณ ทุก ๆคนที่นั่นสามารถใช้ความสามารถทางจิตวิญญาณได้สูงจนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทุกคนรักใคร่ปรองดองกัน แต่แล้ววันหนึ่งมีผู้คนส่วนหนึ่งเริ่มใช้ความสามารถทางจิตวิญญาณที่พิเศษนั้นไปในทางที่ผิด พวกเขาเริ่มเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม และความเห็นแก่ตัวนั้นเองก่อให้เกิดความวิบัติแห่งอาณาจักรนั้น แต่ก่อนที่อาณาจักรนั้นจะล่มสลายลง พ่อเมืองแห่งอาณาจักรนั้นได้ตั้งจิตอธิษฐานขอกลับมาแก้ไขอดีตที่เคยทำผิดพลาด เพราะท่านรู้ดีว่าอดีตที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขย่อมจะกลับมาอุบัติขึ้นอีกครั้ง เขาว่ากันว่าจิตวิญญาณของพ่อเมืองนี้แหละที่แตกตัวออกมาเป็นกุมารทั้ง 17 องค์ รอเวลาให้เหตุการณ์ในอดีตหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณทั้ง 17 นั้นจึงจะกลับมารวมตัวกันอีกหนเพื่อชำระปัญหาที่ได้ติดค้างเอาไว้ แล้วหนูชอบตัวไหนเป็นพิเศษล่ะ" ชายชราถาม ใจจริงจินตนาชอบอยู่ 2 ตัว คือตัวที่ใส่ชุดสีแดง และสีน้ำเงิน แต่ถ้าจะให้เลือกล่ะก็ เธอชอบตัวที่อยู่หัวแถวมากกว่า อีกอย่างเธอชอบอาวุธที่อยู่ในมือตุ๊กตาตัวนั้น <O:p></O:p>
    "หนูชอบตัวที่ใส่ชุดสีแดง มือถือตรีศูรย์นั่นแหละค่ะ" เธอกล่าว ชายชราหัวเราะเล็กน้อย พร้อมกล่าวว่า<O:p></O:p>
    "หนูยังเหมือนเดิมทุกประการ แกร่งกล้า เด็ดเดี่ยวเหมือนเดิม สีแดงเป็นสีแห่งพลังอำนาจนะ แม่หนู" <O:p></O:p>
    "ลุงรู้ได้อย่างไรคะ" หญิงสาวถาม ชายแก่จ้องหน้า ไม่ตอบคำถาม แต่ถามเธอกลับว่า<O:p></O:p>
    "หนูอยากรู้ชื่อของเขาไหมล่ะ" <O:p></O:p>
    "อยากค่ะ" หญิงสาวตอบ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากรู้นัก<O:p></O:p>
    "แล้วหนูจะได้รู้ อีกไม่นาน" ชายชราตอบ<O:p></O:p>
    เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้จินตนาหวนนึกถึงความฝันที่เพิ่งจะผ่านพ้น "เอ หรือว่าเราคิดมากไป ขนาดเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้เนี่ย ฉันก็แค่อยากรู้ชื่อเจ้าตุ๊กตาสีแดงตัวนั้น ไม่ใช่ชื่อฉันสักหน่อย" เธอหัวเราะในลำคอ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    และเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ จินตนาตัดสินใจไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน อย่างน้อยก็ยังดีกว่าอยู่เงียบ ๆ คนเดียวที่บ้าน จุดมุ่งหมายของเธอคือร้านหนังสือชื่อดังภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น เธอใช้เวลาในการเลือกหาหนังสือถูกใจสักเล่มกลับบ้าน วันหยุดกับการอ่านหนังสือคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว ขณะกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกหนังสือตามชั้นต่าง ๆ พลันหนังสือเล่มเล็กเล่มหนึ่งตกลงมาจากชั้นบนสุด หนังสือที่เธอไม่น่าจะหาเจอถ้ามันไม่ตกลงมาต่อหน้าเธอในขณะนี้ เธอมองหนังสือที่ตกลงมาบนพื้นด้วยความประหลาดใจ "ลมก็ไม่มี ตกลงมาได้ยังไงกันเนี่ย สงสัยอยากให้เราอ่านแฮะ" หญิงสาวก้มลงเก็บหนังสือเล่มเล็กพร้อมทั้งเหลือบดูหน้าปก เธอประหลาดใจอีกครั้งหนึ่ง ก็หน้าปกหนังสือเป็นรูปอักษร A ตัวใหญ่ ก็นี่มันเป็นชื่อเล่นของเธอนี่นา ใครหนอช่างเอาชื่อเล่นเธอมาตั้งเป็นชื่อหนังสือได้ "แปลกดี" เธอหัวเราะพร้อมทั้งพลิกเข้าไปดูเนื้อหาภายในเล่ม แต่เพียงแค่อ่านคำนำ 2 หน้าเท่านั้น จินตนาก็ตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนั้นกลับบ้านทันที เย็นนั้นเธอไม่ทานข้าวแต่ก็อิ่มกับการอ่านหนังสือจนไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ <O:p></O:p>
    ในฝัน เธอได้กลิ่นหอมของดอกไม้ประหลาดอีกครั้ง จินตนาเห็นตัวเองถืออาวุธที่ดูคล้ายตรีศูรย์อยู่ในมือขวา และที่กลางฝ่ามือซ้ายมีจักรเล็ก ๆ สีทองหมุนอยู่ บนศรีษะเธอรู้สึกว่ามีอะไรหมุนอยู่เช่นเดียวกัน ในฝันเธอตกใจและพยายามเรียกหาใครสักคน พลันปรากฏร่างของพระภิกษุชรารูปหนึ่ง <O:p></O:p>
    "หลวงปู่เจ้าคะช่วยหนูด้วย ทำไมหนูเป็นอย่างนี้" เธอพูดพร้อมแบมือให้พระภิกษุชราดู ภิกษุชรายิ้มเล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเมตตาก่อนกล่าวว่า<O:p></O:p>
    "อาตมาไม่พบอะไรในตัวโยมเลย นอกจากพลังของเจ้ากรรมนายเวรที่สถิตอยู่ในตัวของโยมเท่านั้น" แปลก เธอกลับไม่รู้สึกกลัวกับคำว่าเจ้ากรรมนายเวร แต่กลับรู้สึกถึงภาระหน้าที่บางอย่างแทน<O:p></O:p>
    "โยมพบเขาแล้ว เขาเพิ่งแสดงตัวให้โยมเห็นเมื่อไม่นานมานี้เองไม่ใช่หรือ จำไว้โยมมีหน้าที่ หาตัวของโยมและที่เหลือให้เจอ บางครั้งเขาก็จำเป็นที่จะต้องมาเตือนโยม เพราะถ้าโยมเลือกทางผิด โยมจะต้องทนทุกข์ทรมานไปอีกนาน หลายชาติภพนัก"<O:p></O:p>
    จินตนาสะดุ้งตื่นขึ้น กลิ่นหอมจาง ๆของดอกไม้ประหลาดยังคงอยู่ในความรู้สึก ความฝันยังคงกระจ่างชัดในความทรงจำ เธอหยิบหนังสือที่ตกลงข้างตัวขึ้นมา พร้อมเปิดหนังสืออย่างไร้จุดหมาย แวบแรกที่ก้มลงดูหนังสือหน้าที่เปิดนั้น เธอสะดุดตากับประโยคที่ว่า "หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เธอได้รู้ว่า เธอคืออะไร และอะไรมาเป็นเธอ" มันเป็นประโยคเดียวกับที่ทำให้เธอตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้กลับมาบ้านอย่างง่ายดาย เธอกลับไปเปิดคำนำอีกครั้ง ชื่อผู้เขียน THE WRITER แจ่มชัดในสายตา จินตนาเธอไม่รู้เลยว่า หนังสือเล่มนี้จริง ๆแล้ว มันถูกใช้เป็นสื่อกลางที่จะทำให้ THE WRITER ได้พบกับคนซึ่งเป็นตัวแทนลูกกุญแจทั้ง 17 ดอกที่จะใช้ไขกล่องปริศนาซึ่งบรรจุความลับซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของมหานครที่ล่มสลายเมื่อนานมาแล้ว จินตนาหารู้ไม่ว่าตุ๊กตากุมารทองทั้ง 17 ตัวที่เธอเพิ่งพานพบในร้านริมฝั่งเจ้าพระยาวันนั้น มันได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปแล้วอย่างสิ้นเชิง <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2008
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้างล่างนี้มาจากความฝันเมื่อคืนของจินตวดี

    จินตวดีเดินออกจากบริษัทเป้าหมายคือร้านขายเป็ดย่างที่อยู่อีกฟากของถนน "แดง" เพื่อนของเธอทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ร้านนี้ และนี่เป็นกิจวัตรประจำวันที่เธอต้องทำทุกเย็นคือเดินไปขอ เศษกระดูกเป็ดที่เขาลอกเอาเนื้อออกมาแล้วเพื่อแจกจ่ายให้กับสุนัขที่อยู่ในบริเวณบ้านและนอกบ้านของเธอ

    เพื่อนสาวยิ้มทักทายเมื่อเห็นจินตวดีเดินเข้าไปในร้านเหมือนเคย
    "พี่เอเข้าไปหาเชพที่หลังร้านได้เลย เชพแกใจดีเดี๋ยวแกจัดให้เองบอกว่าแดงให้มาเอา"
    จินตวดียิ้มตอบ พร้อมเดินเข้าไปที่หลังร้าน พนักงานเสริฟที่คุ้นหน้ากันชี้ประตูห้องครัวให้เธอดู ในขณะที่เธอกำลังจะผลักประตูบานนั้นเข้าไป เหตุการณ์ประหลาดกลับเกิดขึ้นตรงหน้า คุณพระช่วย เธอมองทะลุประตูเข้าไปได้ เธอเห็นเชพหนุ่มกำลังคุยกับชายชราท่านหนึ่ง แถมเธอยังได้ยินบทสนทนานั้นอีกด้วย
    "จำไว้อย่าให้หญิงสาวคนนั้นได้ของที่หล่อนต้องการไป ข้าเชื่อว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็น 1 ใน 12 ลางสังหรณ์หลักของข้า" ชายชรากล่าว
    "ลางสังหรณ์อะไรครับนายท่าน" เชพตั้งคำถามกับชายชรา
    "ลางสังหรณ์ที่ว่า เธอคนนี้จะเป็นหนึ่งที่จะทำให้ข้าได้บรรลุเป้าหมายที่รอคอยมานานแสนนานซักทีน่ะสิ จริง ๆ แล้ว ข้ามีลางสังหรณ์มากมายนับร้อย แต่ที่ข้าเชื่อที่สุดมีแค่เพียง 12 เท่านั้น จำไว้ ต้องขัดขวางหล่อนทุกวิถีทางอย่าให้หล่อนได้ของที่ต้องการไป ผู้หญิงคนนั้นจะได้สิ่งที่เธอต้องการต่อเมื่อเธอหัดใช้จินตนาการของเธอให้เป็นเท่านั้น"
    "แล้วข้าจะได้อะไรตอบแทนนายท่าน" เชพหนุ่มกล่าวถาม
    "อะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ 1 อย่าง จินตนาการเอา แล้วเจ้าจะได้สิ่งที่เจ้าต้องการ จำไว้" เสียงของชายชราเน้นหนัก เชพยิ้มร่าพร้อมทั้งจินตนาการถึงเมนูเด็ดที่จะทำให้เขาได้รับรางวัล เชพดีเด่นของโลกปีนี้ทันที

    จินตวดียืนงงกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นตรงหน้าหล่อน พร้อมรำพึงกับตัวเอง
    "ฉันแค่มาขออาหารหมานะ ไม่ได้มาขอเงินล้าน ทำไมต้องทำเรื่องง่ายให้ยากขนาดนี้ด้วย" หล่อนหัวเสียเดินกลับมาหาเพื่อนสาวที่นั่งรออยู่ ได้ยินเสียงเพื่อนถามกลับมาว่า
    "ได้มั้ย"
    "ได้กับผีอะไร เขาไม่ให้หรอก ฉันรู้"
    สักพักปรากฏร่างเชพหนุ่มเดินออกมาจากหลังครัวตรงมาที่เธอและเพื่อนนั่งอยู่
    "แดงจ๊ะ คุณจินต์ครับ ผมขอโทษด้วย คือเจ้าของร้านท่านเพิ่งออกกฏมาใหม่ครับว่าห้ามนำเศษอาหารออกนอกร้าน ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ" ชายหนุ่มกล่าวเสร็จพร้อมเดินหันหลังกลับ
    จินตวดีสบสายตาเพื่อนสาว คำตอบอยู่ในใจเธอ "ฉันว่าแล้วไง" เสียงเพื่อนปลอบโยน
    "คิดมากน่าแก เขาคงไม่ได้เจตนาหรอก"
    "เขาตั้งใจนะแดง ถ้าเธอไม่เชื่อฉันจะกลับไปหาหลักฐานให้เธอดู" จินตวดีเดินกลับไปทางห้องครัว เธอเองก็งงตัวเองเหมือนกันว่าจะไปหาหลักฐานจากไหนมาพิสูจน์ พลันสภาพแวดล้อมรอบตัวหล่อนเปลี่ยนไป จากสภาพห้องครัวภายในร้านอาหาร กลับกลายเป็นว่าเธอเดินเข้าไปภายรั้วบ้านใหญ่ ลักษณะคล้ายวังมากกว่า แถมข้างหน้ามี ส.ห. ซะด้วย

    "กริ๊ง ๆๆๆ" เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น จินตวดีลืมตาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เห็นด้วยกับพี่นักเขียนอย่างยิ่งครับ เชื่อว่ายังมีจินตนาการที่รอการค้นพบอยู่ข้างหน้าอีกมากมายครับ การทดลองนี่เพิ่งจะเป็นการจบของบทแรกของพวกเราเท่านั้นครับ..หลายๆคนไม่เคยทำมาก่อนแต่ก็ทำได้ดีเกินคาดจากการเรียนรู้-ถ่ายทอดผ่านมุมมองของแต่ละคนร่วมกัน และน่าทึ่งจริงๆครับที่แต่ละคนทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตุณเอก็ทำได้เยี่ยมครับ ขอปรบมือให้ทุกๆท่านด้วยครับ

    การทดลองนี้ทำให้เรียนรู้เพิ่มขึ้นอีกครับว่า เส้นทางต่างๆนั้นพลิกผันได้เสมอ เส้นทางชีวิตตัวละครก็เปลื่ยนเส้นทางได้จากมุมมองของแต่ละคน ดูแล้วคงอีกยาวครับกว่าเรื่องจะจบ คิดว่าบทละครนี้ สิ่งที่เราจะขาดไปไม่ได้เลยคือความสมจริงน่าเชื่อถือครับ ที่มีส่วนทำให้คนอ่านคล้อยตามด้วยเหตุและผลที่เชื่อมโยงกันพร้อมทั้งบทสรุปที่ดีของเรื่องทั้งหมด ความรู้และประสบการณ์ของคนประพันธ์จึงมีความสำคัญอย่างมากจริงๆที่จะทำให้เรื่องนั้นประสบผลสำเร็จได้หรือไม่นะครับ..อันนี้จากมุมมองพื้นๆ ว่าการดึงคนอ่าน สะกดใจคนอ่านให้ติดตามอ่านนี่ก็ไม่ไช่เรื่องง่ายเลยครับ..การนำเสนอต้องกระชับ ตรงจุด และขยายจินตนาการให้กับคนอ่านถึงทางเลือกต่างๆ ซึ่งมีอยู่แล้วทุกๆเส้นทาง แต่เราจะเลือกเส้นทางไหนที่เหมาะสมและดึงดูดใจมากที่สุดบนเหตุผลที่เป็นไปได้ของจินตนาการอันหลากหลายครับ

    งานนี้สนุกมาก เชื่อว่าเพื่อนๆก็ยังสนุกกันอยู่ที่ได้สวมบทบาทของ "นักแต่งวรรณกรรม" กันมาพักใหญ่ๆ แต่ตอนนี้คิดว่าเดี๋ยวจะไม่เป็นการจดจ่อกับสาระความรู้ของอาจารย์อนาลัยและพี่นักเขียนไปซะก่อนครับ ถ้าขอย้ายการแต่งบทละครไปไว้ที่ Page อื่นก่อนจะดีมั๊ยครับ?..ไว้เสร็จเมื่อไหร่จะส่ง link มาให้เพื่อนๆอ่านกันอีกครั้ง เพื่อนๆเห็นว่าไงกันบ้างครับ แต่ถ้ายังสนุกกันอยู่ก็ยินดีครับ จะหาการทดลองอื่นมาเล่นกันต่อก็ได้ เพราะห้องวิทย์ฯเป็นห้องทดลองของพวกเราอยู่เสมอครับ :-

    (kiss)(kiss)(kiss)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2008
  17. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    หวัดดีค่ะทุก ๆ คน.. วันนี้อารมณ์ดีและมีความสุขเป็นปกติแล้วค๊าทุก ๆ คน..
    หลังจากที่ทานขนมของเพื่อน ๆ จนหมดเกลี้ยงแย้ววว..
    ลองดูพลังอำนาจในการกินของเราดูดิ.. อิอิ..(||)(||)(||)
    [​IMG][​IMG]
     
  18. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    จริงสิคะพี่นักเขียน ถึงแม้ว่าเราจะพยายามจะแสวงหาหน้าที่ หรือที่สุดของความปรารถนาแล้ว แต่มันก็คงเป็นเพียงบทแรกของการแสวงหาเท่านั้น เพราะอาจมีการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่และท้าทายกว่าทางเลือกเดิมของจิตวิญญาณที่มาถึอกำเนิดในชาติภพนี้มิตินี้ก็เป็นได้นะคะ.. :)
     
  19. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    หลังจากความฝันประหลาด และการค้นพบหนังสือโดยบังเอิญ จินตนาก็เปลี่ยนไป เธอขมักเขม้นกับการอ่านหนังสือนั้นรอบแล้วรอบเล่า เนื้อหาสาระในหนังสือเล่มนี้อธิบายถึงความหมายและเป้าหมายของจิตวิญญาณ การใช้พลังอำนาจของจินตนาการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ให้มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง จินตนาอ่านพร้อมทั้งฝึกฝน เธอไม่รู้ตัวเลยว่าพลังอำนาจของจิตวิญญาณของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย แต่น่าเสียดายนักจินตนาไม่ฉลาดในการใช้มัน เธอเผลอใช้มันไปในทางที่ผิดไป

    ในยุคสมัยที่ผู้คนในสังคมต่างก็ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดจากพิษเศรษฐกิจ สงคราม และมลภาวะเป็นพิษ ผู้คนมากมายต่างเริ่มตระหนักถึงมหันตภัยร้ายแรงที่ใกล้ตัวเข้ามาทุกที ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติจากธรรมชาติ หรือ สงคราม จินตนาเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน เธอติดตามข่าวสารอย่างกระชั้นชิด พร้อมทั้งวาดมโนภาพของภัยพิบัติต่าง ๆ ทั้งหลายด้วยโดยไม่รู้ตัว เธอหารู้ไม่ว่าเธอได้ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงเพราะตอนนี้พลังแห่งจิตวิญญาณของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว มันเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม ยิ่งจินตนาจดจ่อกับเรื่องภัยพิบัติ และสงครามมากขึ้นเท่าไร ภัยพิบัติ หรือ สงครามขนาดย่อยต่างก็เรียงรายมาให้เธอประสบพบเจอไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นสงครามของครอบครัว หรือแม้แต่เวลาเธอโกรธจัด เธอสามารถดลบันดาลให้เกิดภัยพิบัติกับคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือ บ้านสะเทือนก็ตาม จินตนาเริ่มกลัวตัวเอง เธอเริ่มเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครและเก็บกด สุขภาพร่างกายของเธอเริ่มทรุดโทรม เธอล้มป่วยลงด้วยโรคที่หมอก็หาสาเหตุไม่เจอ แต่แล้ววันหนึ่งวันแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงก็บังเกิดขึ้น จินตนากลับไปร้านหนังสือเดิมที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เธอเจอหนังสือของนักเขียนนาม THE WRITER อีกเล่ม เล่มนี้มีชื่อว่า "จิตวิญญาณประสานกาย" เธอไม่ลังเลที่จะซื้อมันกลับบ้าน และอีกครั้งหนึ่งที่เธอลืมทานข้าวเย็นเพราะมัวแต่อ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ จินตนาประหลาดใจอีกครั้งเพราะบทความในหนังสือนั้นต่างเน้นและย้ำถึงการใช้อำนาจจินตนาการอย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นการทำให้สุขภาพร่างกายกลับมาสมบูรณ์แข็งแรง รวมการกล่าวถึงพลังความคิดที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติอีกด้วย ความรู้สึกหมดหวังที่มีมาแต่แรกหายไป หญิงสาวรู้สึกถึงความหวังและพลังแห่งการสร้างสรรค์อีกครั้ง หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบลง จินตนาหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติทันที เธอคิดใหม่ที่แปลกแตกต่างไปจากเดิม เธอคิดถึงแต่สิ่งที่สร้างสรรค์ และโลกที่สวยสดงดงามของธรรมชาติ และ ผู้คนที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ปรองดอง
    เพียงแค่อาทิตย์หนึ่งหลังจากนั้น โลกของเธอเปลี่ยนไป จินตนาสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงขึ้นจนแม้กระทั่งหมอยังแปลกใจ โลกของเธอเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา และ เสียงหัวเราะ เธอทำทุกอย่างที่เธอเคยอยากทำแต่ไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป เล่นดนตรี หรือแต่งนวนิยายสักเรื่องก็ตาม แล้วคืนนั้นเอง จินตนาก็หลับฝันไปว่า

    ท่ามกลางความมืดมิดกลิ่นดอกไม้ประหลาดโชยมา ปรากฏร่างของชายชราที่เธอคุ้นหน้า ชายชราคนเดียวกับเจ้าของร้านดูดวงชื่อดังริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั่นเอง
    "ไงล่ะ จินตดารา เจ้ารู้สึกถึงพลังอำนาจของจินตนาการหรือยัง โลกใบนี้จะสวยงามหรือเต็มไปด้วยภัยพิบัติ มันขึ้นอยู่กับการจินตนาการของหนูทั้งนั้น มนุษย์ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับมัน แต่กลับใช้มันไปในทางที่ผิด มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายนัก ในอดีตกาลอาณาจักรแห่งข้าก็เคยล่มสลายในทำนองนี้มาแล้วเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงกลับมาที่นี่อีกครั้งพร้อมพวกเจ้าทั้ง 17 คนเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตนานมาแล้ว จงจำไว้ เจ้าจงฝึกฝน จดจำ เรียนรู้ที่จะใช้จินตนาการของเจ้าไปในทิศทางที่สร้างสรรค์แก่โลก จงอย่าให้อดีตที่ผิดพลาดกลับมาซ้ำรอยเดิมอีก ตั้งแต่นี้ไปข้าขอทำนายว่า ภัยพิบัติที่พวกเจ้ากลัวกันนักหนา มันจะไม่เกิดภายในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน เพียงแค่จินตนาการที่สร้างสรรค์ของเจ้าคนเดียว ก็สามารถเลื่อนภัยพิบัติไปเกิดในปี ค.ศ. 2012 แทน จงฝึกฝนและตามหาพวกของเจ้าที่เหลือให้เจอ ปลุกพวกเขาให้ตื่นด้วยหนังสือที่อยู่ในมือของเจ้า พวกเขายังมีกุญแจที่เหลืออีกทั้ง 16 ดอก ถ้าพวกเขาระลึกรู้ได้เหมือนเจ้า พลังการสร้างสรรค์ของเจ้าทั้ง 17 คน จะช่วยพลิกฟื้นโลกให้พ้นจากหายนะได้ตลอดกาล และเมื่อนั้น พวกเจ้าทั้งหลายจะได้กลับมาสู่เราอีกครั้งหนึ่งเมื่อเป้าหมายของเราสำเร็จลุล่วง อย่าเสียเวลาอีกต่อไปเลย เจ้าเวียนว่ายตายเกิดในเนื้อหนังของมนุษย์มาเพียงพอแล้ว มันถึงเวลาที่เราจะต้องไปเรียนรู้ต่อที่มิติอื่นเสียที"

    จินตนาลืมตาตื่นขึ้น เธอคิดว่าเธอพบส่วนที่เหลือแล้วภายในห้องวิทยาศาสตร์ของเว็บไซด์แห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้

    "พี่น้องของข้าทั้งหลาย ตื่นกันหรือยัง"
     
  20. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    กรี๊ดดดดด.. ไม่ยอมโยนมาโครมเลย.. อิฉันชื่อ Prissila ต่างหากล่ะคะ.. เอาเป็นว่า..
    ....................
    เมื่อฝนหยุดตก ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าครามถักทอด้วยสายรุ้งทอดยาวออกไปไกลแสนไกล..

    Prisila ก้าวเดินช้า ๆ ไปยังท่าน้ำกว้างใหญ่ ในมือถือกุญแจประดับหินสีเหลืองทองอย่างทะนุถนอม และทรุดตัวลงนั่งใต้ต้นหูกวางขนาดใหญ่ที่แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไป เธอเฝ้ามองวัตถุในมือด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกนึกคิดที่ลุ่มลึก ฉับพลันก็เกิดอำนาจประหลาดให้เธอหวนนึกถึงความฝันในคืนที่ผ่านมาคืนแล้วคืนเล่า และยังจดจำความรู้สึกของ มิ๊ด, เดร็ดก้า, Zizz, Sorel, จินตดารา ฯลฯ ได้อย่างดี พวกเค้ากำลังมีความสุขตื่นเต้นกับการผจญภัยที่เค้าเลือก เธอรับรู้ว่าเธอสามารถเรียนรู้ประสบการณ์เหล่านั้นด้วยการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปะชัญญะอันคมชัด และเหนี่ยวนำความรู้ความสามารถที่พวกเค้าทั้งหลายมีมาสู่ตัวเองได้ด้วยการจดจ่อ และรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของจิตวิญญาณ

    เธอตระหนักรู้ถึงความรู้ความสามารถทางจิตวิญญาณที่เป็นต้นกำเนิดของพวกเราทุกคนเป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าจิตวิญญาณทั้งหลายที่มาถือกำเนิดในร่างกายเนื้อหนังลืมเลือนไปหมด จากที่สว่างสุดก็เปลี่ยนมาเป็นมืดที่สุด พวกเราไม่ต้องพยายามแสวงหาความรู้หรอกเราเพียงแต่ต้องมีสติสัมปะชัญญะที่จะจดจำข้อมูลความรู้ความทรงจำข้ามชาติ ด้วยอารมณ์จินตนาการแล้วความรู้สึกนึกคิดเท่านั้น แล้วความพลังสามารถทั้งหลายที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใต้สำนึกก็จะกลับคืนมา

    Prissila หายใจออกมายาว ๆ ช้า ๆ แล้วจิตวิญญาณที่กำลังแสวงหาประสบการณ์เช่นเรามีมากมายแค่ไหนนะ 1, 2,3,.... กี่คนนะที่เป็นหนึ่งเดียวกับเรา ฉับพลัน Prissila ก็นึกถึงความฝันคืนก่อนที่ได้เจอกับที่ Mrs.writer ผู้มีแววตาเต็มไปด้วยความรักและเมตตา เธอคงจะเป็นผู้รับหน้าที่จากต้นกำเนิดมาไขปริศนาให้ Prissila เป็นแน่แท้..
    ....................
    บรื๊อออ.. แต่งไปได้ยังเนี่ยคุณ Mead..
    เอาแบบสด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ เห็นเป็นนวนิยายรึปล่าวเอ่ย?? :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...