ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

รายงานผลครับ เดินพลังขึ้นลง ด้านหลังโดยรวมดีขึ้นครับ
ส่วนตรงหน้าผากยังคงอยู่ครับ แต่ดูเหมือนจะเลื่อนขึ้นข้างบนครับ ตอนนี้ที่รู้สึกเหมือนขยับขึ้นไปประมาณ 1นิ้วครับ
ส่วนตัวยายังไม่ได้ลองครับ ทุกเช้าจะชง นม หรือ กาแฟ ดื่มอยู่แล้ว ตอนนี้เลยชง น้ำขิง+นม ดื่มแก้ขัดไปก่อนครับ

 

ให้ยังคงเดินพลังต่อไป
ขณะเดินพลังขึ้นมาถึงคอ ขึ้นหัวแล้วทะลุขึ้นไปบนฟ้า
ในขณะที่ขึ้นหัว ให้กำหนดพื้นที่คลุมไปถึงด้านหน้า ผ่านหน้าผากด้วย (ทั้งหน้าหลังพร้อมกัน)

 

อาจารย์ suwi แอบมาเปิดคลีนิครักษาโรคแผนไทย อยู่ที่นี่เอง
เพิ่งตามมาเจอครับ

ขออนุโมทนาอย่างมากมายมหาศาลครับ

 

คุณนักเดินทาง โชคดีแล้วครับ ที่ได้มาพบ อ. suwi

ขอให้หายจากการเจ็บป่วยโดยเร็ววันทันใดนะครับ
จะได้มาร่วมเดินทางสร้างบุญกันเหมือนอย่างเคย

 

ขอบคุณครับพี่เม้า ขอบคุณอาจารย์ suwi

วันนี้ผมเพิ่งไปรับยาที่สั่งบดไว้ กำลังปรุงยาอยู่ครับ พรุ่งนี้คงจะเริ่มกินยา อาการเป็นอย่างไรจะมาปรึกษาอาจารย์ต่อครับ

 

หลายๆท่านที่รู้จัก สุวิ คงสงสัยว่า
ก็ในเมื่อ สุวิมีความรู้เรื่องพลัง และสามารถให้คำตอบในเรื่องของพลังได้เกือบทุกแง่มุม
ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วยอันเกิดจากกุลฑาลินี
การรับปิดจักระ(ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน)
การแก้ปัญหาพลังกระจุกตัวในร่างกายแบบต่างๆ
ฯลฯ

เมื่สุวิ สามารถใช้พลังได้มากมายหลายรูปแบบ
และเคยใช้พลังรักษาข้ามโลกมาแล้ว
แต่ทำไมวันนี้ สุวิ จึงหันกลับมาใช้ยา(สมุนไพร) และการนวด ในการรักษาโรคต่างๆ
แต่ถ้าถามว่า วันนี้สุวิ เลิกใช้พลังรักษาโรคแล้วหรือ
เปล่าเลย ยังคงใช้อยู่ แต่แอบใช้ปนๆกันไปกับการใช้ยาและการนวด

เพื่อนๆลองหา หาสาเหตุดู ว่าทำไม

 

อ้อ..มีทริก ตอนปรุงยานิดหน่อย ลืมบอกไป

ลูกมะกรูด เวลาผ่าสี่ส่วน ให้ผ่าตามแนวตั้งของลูก ห้ามผ่าขวาง

ท่านให้ผ่าสี่ส่วน เราเอามาใช้ทำยาเพียงสามส่วน ทิ้งหนึ่งส่วน
ระวังเวลาผ่า แยกให้ดี ลูกใครลูกมัน ห้ามมั่ว
มีมะกรูดห้าลูกแต่ละลูกผ่าสี่ส่วน แยกออกมาทิ้งลูกละหนึ่งชิ้น แต่ละชิ้นแยกมาจาก หนึ่งลูก

ส่วนที่จะทิ้งห้าชิ้น ให้ทำดังนี้
ให้ตั้งจิตอธิฐาน นึกถึงบุญที่ทำมา และนึกถึงชิ้นมะกรูดทั้งห้าชิ้นกำหนดให้เป็นยาทิพย์
บุญและยาทิพย์นี้ ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร จงใช้ประโยชน์บุญและยาเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข หายเจ็บหายไข้จากโรคที่เป็นอยู่ ....ฯลฯ.....
และขอให้ตัวเองหายจากโรคที่เป็นอยู่เช่นกัน ฯลฯ

 

สวัสดีครับ พี่สุวิ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันจะคอยมาฟังเฉลยครับ
ผมพอมีเค้าๆ แต่ไม่แน่ใจนักครับ เพิ่งมาเริ่มศึกษาเรื่องพลังครับ
ยังอ่อนหัดอยู่มาก จะมาขอคำแนะนำบ้างครับ เพราะพอจะรู้สึก
ถึงปัญหาบางอย่างครับ

จะแวะเวียนมาขอคำชี้แนะนะครับ

ขอบพระคุณครับ

 

เมื่อกี้นั่งเดินปราณ นั่งไปได้ซักพักมันไม่ยอมไปไหนต่อ มารวมกองอยู่เต็มแผ่นหลังเลยครับ ต้องขยับมือขึ้นลงด้วยปราณถึงจะเคลื่อนวิ่งขึ้นวิ่งลงตามมือ มันเกิดอะไรขึ้นครับ เดินปราณมากไปหรือปล่าวครับ;2

 

เป็นเรื่องปกติครับ เมื่อเราจะเดินปราณ ก็มีผู้ไม่อยากให้เราเดิน ด้วยถูกรบกวนด้วยกระแสปราณ
การเคลื่อนไหวร่าง เป็นการแก้ที่ถูกต้องครับ
มีสติรู้กำกับก่อนที่ร่างจะเคลื่อนไหวจริงหนึ่งวิปตา
อย่าปล่อยให้เคลื่อนเองแล้วตามดู (จะมีปัญหาภายหลัง)

เราต้องเป็นผู้สั่งให้เคลื่อนไหว
ตรงนี้เป็นเทคนิค จะว่าเป็นผู้สั่ง ก็ไม่ใช่ จะไม่ใช่ผู้สั่งก็ไม่เชิง
ตรงนี้เป็นกายานุสติกรรมฐานครับ ยินดีด้วยก้าวเข้าสู่วิชาใหม่แล้ว
ฝึกให้ได้ นะครับ

 

สวัสดีค่ะ อ.suwi

วันนี้แอบตามพี่เม้าท์มาค่ะ เห็นโพสกระทู้นี้ไว้ในห้องภัยพิบัติ
ไม่ได้พบ อ.เลยค่ะ หวังว่า อ.suwi คงสบายดีนะค่ะ
ดาหลีค่อยๆไล่อ่านตั้งแต่กระทู้แรกเลยค่ะ มีประโยชน์มาก
โรคภัยไข้เจ็บนี่เป็นเพื่อนกับมนุษย์ทุกคนเลยค่ะ มากบ้างน้อยบ้าง ยิ่งอายุเพิ่มขึ้นอาการเจ็บป่วยก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย อย่างคุณแม่ดาหลีเมื่อก่อนก็แข็งแรงดี พออายุ 71 ปี ก็เริ่มเป็นความดันสูง กินยามาตลอด ตอนนี้อายุ 75 ปี แล้ว มีอาการบวมที่ตาตุ่ม เท้า น่อง และคล้ายมีกระดูกงอกบริเวณเอ็นร้อยหวาย อาการบวมตึงจะเป็นทุกวัน ถ้าเดินมากจะเป็นมาก และมีอาการปวดหัวเข่าและแสบ คุณหมอได้ฉีดยาที่หัวเข่าให้และบอกว่าข้อเข่าเสื่อม ถ้าไม่หายจะต้องผ่าตัด

อาการเหล่านี้มีวิธีรักษาหรือช่วยบรรเทาได้อย่างไรค่ะ...
ขอบพระคุณค่ะ...

 

หวัดดีจ้า...สาวน้อนตัวกลมๆที่น่าเอ็นดู

อาการที่คุณแม่ของดาหลี่เป็น เกิดจาก ข้อสะโพกเคลื่อนเล็กน้อย (ไม่อาจตรวจรู้ได้โดยการแสกน หรือเอ็กสเรย์)
การเคลื่อนนี้ทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมขาบิดตัว และค่อยๆตึงรั้งขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเดินมาก และหิ้วของหนัก การบิดรั้งของกล้ามเนื้อจะมากขึ้น(ปวดเสะโพก)
ร่างกายจะปรับตัวเพื่อชดเชยความไม่สมดุลย์ที่สะโพก โดยการบิดข้อเข่าชดเชย และรั้งไปถึงกระดูกหลัง และท้ายสุดข้อเท้าต้องบิดตาม (สะโพกจะหายปวด แต่มาปวดข้อเข่า และหลังแทน)

เริ่มแรก จะปวดหน่วงที่สะโพกก่อน พอร่างกายปรับตัวเอง อาการปวดจึงย้ายมาลงที่ข้อเข่า และหลัง ท้ายสุด อาการปวดที่ข้อเท้าก็ตามมา

การรักษาต้องนวดจัดกล้ามเนื้อและกระดูกก่อนแล้วให้กินยาตาม
ยาที่จะใช้เป็นยาง่ายๆ
ใช้ ใบชาจีนอย่างดี หญ้าหนวดแมว และน้ำต้มมะละกอดิบ
ชงกินลดกรดยูริคที่สะสมในข้อกระดูก จะลดอาการปวดในข้อกระดูกเข่าได้ดี และลดโคเลสเตอร์ล่อนได้ระดับหนึ่ง

ถ้าได้กินยาบำรุงธาตุไฟด้วยจะช่วยลดความดันได้ระดับหนึ่ง

ยาแก้ปวดข้อ และยาเพิ่มธาตุไฟ ได้เขียนไว้แล้ว ลองย้อนกลับไปหาดู

อ้อใช้พลังในการรักษา อาการจะดีขึ้น จนน่าพอใจ แต่ต้นเหตุไม่ได้ถูกกำจัด พอพลังเริ่มจางลงตามเวลา อาการต่างๆก็จะกลับมาอีก

 

รายงานความคืบหน้าครับตอนนี้ด้านหลัง เวลาปกติจะไม่รู้้สึกหน่วงแล้วครับ จะเป็นบ้างตอนมีสมาธิกับงาน หรือตอนกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกครับ
ส่วนที่หน้าผาก ยังคงอยู่ครับแต่ขยับเลื่อนสูงขึ้นไปจะรวมกับจักระ7อยู่แล้วครับ

 

เมื่อถึง 7 แล้ว รวมพลังหมดทั้งตัว ดั่งมังกรทะยานฟ้า ทะลุ 7 ขึ้นฟ้า
กำหนดรู้ฟ้า และร่างกาย รอมังกรฟ้าลงสวมร่าง ดั่งน้ำทิพย์ชะโลมกาย
และนิ่งเฝ้ารู้อยู่เช่นนั้น รอมังกรดินทะยานขึ้น

เมื่อคล่องแล้ว ให้รวมฟ้าดินเป็นหนึ่ง

 

สวัสดีค่ะ อ.suwi อยากรบกวนถามอ.suwi ว่า การฝึกพลังปราณ ในที่นี้
ต่างจากการฝึกสมาธิอย่างไร และมีผลดี ผลเสียอย่างไรคะ?
ขอบคุณค่ะ

 

ถ้าว่ากันจริงๆแล้ว การฝึกสมาธิมีสามรูปแบบ

1. นิ่งในนิ่ง (สมถะกรรมฐาน-การเดินฌาน)<O</O
2. นิ่งบนความเคลื่อนไหว (การเดินพลัง(ปราณ)-จิตเกาะนิ่งบนความเคลื่อนไหว (ในประเทศไทยเรา ส่วนนี้จะขาดหายไป)
3. เคลื่อนไหวในความนิ่ง (วิปัสนากรรมฐาน-จิตเคลื่อนไหวพิจารณาธรรมในความนิ่ง(ฌาน))

การเดินปราณที่ได้แสดงไว้นี้ ถูกตัดทอนเพียงบางส่วนจากวิธีฝึกสมาธิแบบ เกสา โลมา ฯ
มีจุดมุ่งหมายเพื่อประกอบการรักษาโรค แปลกๆ ที่ปกติทั่วไปรักษายาก
แต่ผู้จะใช้ต้องรู้เรื่องพอควร
ดังคุณ Inner Smile มีปัญหาเลือดลมกระจุกตัว และมีแนวโน้มจะเป็นโรครักษายาก
จึงให้ใช้วิธีเดินปราณรักษาตัว และเห็นความก้าวหน้าในการเดินปราณ จึงต่อยอดให้
คำพูดที่ใช้ เพียงใช้คำพูดให้หวือหวาน่าตื่นเต้นเท่านั้น
มันไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากหนอไม้

ถามถึงผลดีผลเสีย
ปราณ เป็นพลังชีวิต ใช้เป็น ก็รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ทำลายเชื้อโรคได้ฯลฯ
ใช้ไม่เป็น ทำให้เลือดลมกระจุกตัว เป็นเหตุก่อโรคได้ ทำลายร่างกายตัวเองได้

คุณเป็นคนที่มีพลังจิตดี และเย็น เพียงให้จิตเคลื่อนไหว พลังก็กระจายออกรอบเส้นทางที่จิตเคลื่อนที่
ลองหัดใช้ดูครับ

การเคลื่อนไหวของจิต มากๆ ก็ฟุ้ง (ไม่เป็นงาน) สมาธิก็เสื่อม
อย่าประมาท

 

ขอบคุณมากค่ะ อ.suwi ที่แท้ ปราณเป็นดาบ 2 คม ก็คือกระบี่นี่เอง
อยากใช้ปราณเป็นจังเลยค่ะ ฝึกยากไหมคะ?

คุณเป็นคนที่มีพลังจิตดี และเย็น เพียงให้จิตเคลื่อนไหว พลังก็กระจายออกรอบเส้นทางที่จิตเคลื่อนที่
ลองหัดใช้ดูครับ => อ.ทราบจากอะไรคะ?

 

ผลเสีย ตามที่ อ.suwi บอกครับ
ผมรู้แต่ผลดีคือสุขภาพดีขึ้น ที่เห็นชัดแน่ๆปกติจะร้อนในเพราะกัดโดนกระพุ้งแก้มบ่อย กัดโดนเมื่อไรเป็นแผลร้อนในทุกที ปีนี้กัดโดนเกิน 10 ครั้งแล้วอย่างมากก็นูนๆเล็กๆ2-3วันก็ยุบ แค่เดือนนี้ก็กัดตัวเองไป 3 ครั้งแล้ว (intend ตามกระแส..ค่าครองชีพสูง กัดปากตีนถีบ)

 

คุณลองย้อนกลับไปที่ หน้า 3-4 จะมีวิธีการฝึกอยู่ ลองฝึกดูครับ สงสัยมีอาการอย่างไรถามได้ ไม่หวงความรู้ครับ

เมื่อคุณใช้พลังจิตเป็น สิ่งที่คุณอยากรู้อยากถาม ผมไม่ต้องตอบครับ คุณจะรู้จะเห็นเอง
มีทุนอยู่แล้ว หัดใช้นะครับ

 

ส่วนของคุณ เมื่อมังกรทะยานฟ้าคล่องแล้ว
เวลามังกรทะยานขึ้นฟ้า เวลากลับลงมาให้เก็บความเย็นจากจักรวาลลงมาด้วย (ธาตุน้ำ) แล้วกำหนดปรับธาตุให้สมดุล
จะแก้ อาการร้อนในได้ หากมากเกิน จะหนาวสะท้าน

มังกรดินจะนำความร้อนทะยานขึ้นมา ประสานรับกับความเย็นจากฟ้า
กำหนดสองส่วนนี้ให้สมดุลย์ จะได้ไออุ่นแห่งปราณใหลเวียนในร่างกาย