เจ้าอาวาสวัดสามแยกเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.น้ำหนาวแล้ว [06-08-2551 | 19:40 น.]

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 7 สิงหาคม 2008.

  1. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    ท่านขาดจากความเป็นพระตั้งแต่คิดไม่ดีกับพระพุทธรูป ที่เป็นองค์แทน

    ท่านขาดจากความเป็นพระตั้งแต่คิดไม่ดีกับพระพุทธรูป ที่เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า ผู้ที่ชี้แนวทางให้สัตว์โลก หลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร สู่แดนพระนิพพานพระพุทธรูปนั้นเป็นพุทธานุสติ คนเราต้องระรึกถึงคุณงามความดีของพระองค์แม่แต่ในการฝึกกสิน ก็ใช้พระพุทธรูป เรียกว่ากสินพระ เป็นกสินกองใหญ่
    จะเห็นนรก หรือ สวรรค์ ก็ไช้กสินกองนี้เหมือนกัน คนที่ยังไม่เคยเห็นนรก สวรรค์ อย่าไปเถียงแทนคนอื่นนะครับ ขอแนะนำไว้สักนิด ประเดียวท่านจะตกนรกไปด้วยนะจะบอกให้ คนเราเป็นไปตามกรรม ถ้าเดินทางผิดรุนแรงอาจจะตกอเวจีมหานรกก็ได้ แม่พระถ้าสอนผิด ตกนรกง่ายกว่าคนธรรมดานะ

    ความหมายคำว่า พระ แปลว่า ผู้ประเสริฐ
    ความหมายคำว่า สมมุติสงฆ์ แปลว่า ยังไม่เป็นพระ แปลแบบง่าย ๆ
     
  2. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    ช่วยกันดูแลหน่อยนะครับเพราะเดี๋ยวนี้มารศาสนามีเยอะมาก
    มีอยูในทุกชนชั้น
     
  3. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    นาม เป็นเรื่องยากที่จะรู้ตามได้ ความคิดเห็นไม่เท่ากัน ท่านสอนเรื่องนาม คนรู้ตามมีน้อย แต่ในเรื่อง รูป คนรู้เรื่องรูปและยึดมั่นมีมาก สงสัยจะแก้ตัวลำบาก
     
  4. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122

    ครับ.......อยากช่วยครับ

    เริ่มจากยังไงก่อนดีครับ........ถ้าผมเห็นดีด้วย
    ผมช่วยอีกคนครับ
     
  5. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    คนที่เถียงกัน
    เห็นนรกสวรรค์หรือยัง ถ้ายัง
    ให้หันมาฝึกมโนมยิทธิกันก่อน เมื่อได้แล้ว จะเถียงผมก็ไม่ว่า
    เพราะการเจริญพระกรรมฐาน ๔๐ นี้ พระท่านก็ให้แนวทางกับพุทธสานิกชนไว้ให้ปฏิบ้ติ เป็นแนวทางที่ท่านสอนให้ไปสู่แดนพระนิพพานแนวทางหนึ่งที่ท่านบรรญัติไว้
    (เรียกว่าฤทธิ์ทางใจ)
     
  6. นะโมวิมุตตานัง

    นะโมวิมุตตานัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +41
    เป็นพระอรหันต์หรือไม่เป็นนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ

    สำคัญที่เอามือไปตบหัวรูปแทนองค์พระศาสดา ตบทำไม?

    ตบเพื่อสอนชาวบ้าน....

    เกิดชาวบ้านตบตาม สมควรไหม?

    ดี ชาวบ้านจะได้ไม่ติดในสมมติ.....

    เกิดชาวบ้านยังติดในสมมติแล้วตบตาม สมควรไหม?

    ......

    ได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใดจากการตบศรีษะรูปแทนพระศาสดา?

    .....

    เด็กน้อยไม่รู้เรื่อง เห็นพระทำ ก็ทำตาม ไล่ตบหัวองค์พระพุทธรูป ต่อไปโตขึ้น ตบหัวพระเลย ดีไหม? เพราะมันเป็นสมมติ

    .....


    เอ วัง
     
  7. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    ถ้าใครปรามาส พระรัตนตรัย นำบทนี้ไปใช้นะครับเพื่อความไม่ประมาท

    บทขอขมาพระรัตนตรัย

    สวดนะโม ๓ จบ
    สัพพัง /อะปะราธัง /ขะมะถะเม ภันเต/
    อุกาสะ/ทวารัตตะเยนะกะตัง/สัพพัง/
    อะปะราธัง/ ขะมะถะ เม ภันเต/
    อุกาสะ ขะมะมิ ภันเต
     
  8. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ศึกษากันไว้เถอะ จะเหมือนหรือไม่เหมือนกับที่เคยรู้มาก็ศึกษาไว้

    หากศึกษาแล้วลดโลภ โกรธ หลง ลดการยึดติดในสัตว์บุคคลตัวตนเราเขาได้ ก็นับว่ามาถูกทางแล้วล่ะ



    ปล ดิฉันเป็นผู้น้อย มิได้อาจหาญจะสอนผู้ใหญ่
     
  9. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    ขอให้ผู้ที่ช่วยปกป้องพระพุทธศาสนา และวัตถุถาวรทางพุทธศาสนา จงเจริญรุ่งเรือง สถาพรตลอดไป ให้มีชื่อเสียงดังไปถึงแดนพระนิพพานเทอญ สาธุ ๆ อนุโมทามิ
     
  10. มาตรมณี

    มาตรมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +555
    พระไตรปิฎกไม่เคยกล่าวถึงพระพุทธรูป เพราะพระพุทธรูปถูกสร้างขึ้นภายหลังพุทธกาลประมาณ ๖๐๐ ปี

    ตำนานการสร้างพระพุทธรูป ดูตาม link ที่ให้มา http://palungjit.org/showthread.php?t=39037

    ความจริงอาจกล่าวได้ว่า หลวงพ่อเกษมตีความถูกครึ่งหนึ่งและผิดครึ่งหนึ่ง

    ที่นับได้ว่าถูกครึ่งหนึ่งคือ วัตถุประสงค์ในการกระทำของหลวงพ่อเกษม เกิดจากการที่ท่านตีความพระไตรปิฎกอย่างตรงตัวว่าต้องนับถือพระพุทธ (พระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระพุทธรูป) พระธรรม พระสงฆ์ จึงเกิดการกระทำอย่างที่ปรากฏให้เห็น ถ้ามองในแง่ดีก็คือ ท่านไม่เห็นด้วยกับการยึดถือแบบลุ่มหลงในวัตถุ กลายเป็นพุทธพาณิชย์ แล้วละเลยพระธรรมอันล้ำเลิศที่พระพุทธ (เจ้า) ทรงตรัสรู้ และทรงถ่ายทอดทางประเสริฐไว้ให้ชาวพุทธ สืบทอดผ่านมาโดยพระสงฆ์สาวกของพระพุทธ

    ส่วนที่นับว่าผิดครึ่งหนึ่งคือ วิธีการสอนของหลวงพ่อเกษมแรงเกินไป และตีความไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเจตนาในการกราบไหว้พระพุทธรูปของชาวพุทธ (บางส่วน) ที่นับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างแท้จริง และยึดการกราบไหว้พระพุทธรูปเป็นเสมือนการกราบไหว้พระพุทธเจ้า หลวงพ่อเกษมไม่เข้าใจว่าที่จริงแล้วมีชาวพุทธ(ดีๆ) จำนวนมากที่กราบไหว้พระพุทธรูปโดยมิได้ลุ่มหลงไปกับการยึดติดว่าพระพุทธรูปที่กราบไหว้นั้นผ่านการปลุกเสกมาแล้วหรือยัง เกจิวัดไหนเป็นผู้นั่งปรก

    ก่อนหน้านี้ดิฉันได้ติดตามอ่านคำสอนของหลวงพ่อเกษมมาบ้าง หลายๆ เรื่องดิฉันคิดว่าท่านสอนได้ดีมากๆ ในขณะที่บางเรื่องก็สร้างคำถามในใจดิฉันมากมายเช่นกันว่าทำไมท่านสอนแปลกแหวกไปจากที่เคยได้ยินได้ฟังจากคำสอนหรือแนวทางปฏิบัติของหลวงพ่อท่านอื่นๆ มากนัก แต่ส่วนมากที่แปลกไปมักจะเป็นเรื่องไม่ให้ยึดติดกับวัตถุสมมติ เชน พระเครื่องห้อยคอ เป็นต้น

    จะอย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ในความคิดเห็นส่วนตัวของดิฉันก็ยังไม่กล้าปรามาสท่าน เพียงแต่คิดแบบกลางๆ ว่า ประสิทธิภาพและทักษะในการอ่าน การตีความ การจับใจความ และการแปลความ ของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับระดับและพื้นฐานการศึกษาเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เมื่อเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาแล้ว ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานและผู้มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง ต้องออกมาทำหน้าที่ปุจฉา วิสัชนา พระไตรปิฎกให้ชัดเจน สำคัญตรงที่ว่าจะมีใครจริงใจออกมาทำเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด ถ้าไม่กล้า เกรงว่าทำไปก็จะกลายเป็นการลูบหน้าปะจมูก ขัดแข้งคนกันเองเรื่องผลประโยชน์ ความคลุมเครือก็จะค้างคาอยู่ต่อไป
     
  11. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    ที่พระเกษมทำเขาเรียกว่า ถอยหลังเข้าคลอง

    สงสัยจะเอาแบบพวกไอ้บ้า ตาลีบัน ที่ระเบิดพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่สลักอยู่ที่หน้าผาหิน ( มันเป็นมรดกโลกนะนั่นมันกำแหงทำขนาดนั้นได้ไง ชาวพุทธด่ากันทั่วโลกเลยนะนั่น)
    อะไรที่มันดีงามอยู่แล้ว รักษาไว้เถิดพ่อ

    ถ้าตาลีบันมันไม่บ้าประสาทแดก ทำลายพระพทุธรูปที่ใหญ่สุดในโลก ประเทศมันก็ยังมีรายได้เข้าประเทศทุกปี เป็นพันล้าน พวกชาวบ้านก็ยังสามารถขายของพวกนักท่องเทื่ยวได้

    การทำลายไป หรือ สร้างกระแสแห่งการทำลายออกมามันไม่ใช่การสร้างสรรค์เลยนะ

    บาปมหันต์ ขุมนรกรออยู่เลยเชียวนา

    ใครอยากลงนรกก็เชิญเลย ไล่ทำลายพระพุทธรูปได้เลย

    แต่พวกที่นับถือแล้ว ไม่ทำลายพระพุทธรูป
    หรือเอา พระพุทธรูปไปทิ้ง
    ก็ไม่ได้หนักหัวใคร ก็เชิญตามใจชอบเถิด

    กลัวพวกที่เชื่อเรื่องบ้าๆ
    จะแอบไปทำลาย พระพุทธรูป โบราณสถานด้วยความโง่เง่าสิ

    ของมันดีอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าคนที่นับถือเขาแบกแล้วหนักอะไรนะ

    มันเป็นที่พึ่งทางใจ ( คนที่เชื่อผิดๆนี่สิ จะแบกหน้าเอาความเชื่อผิดๆของตัวเองไปพูดเขาหาว่าสติไม่ดี นะแม่คุณ)

    -- ห้ามติดยันต์**เพราะผีไม่ชอบ
    --ห้ามไหว้พระ**เพราะผีไม่ชอบ
    --ห้ามสวดมนตร์**เพราะผีไม่ชอบ ( ผีชั้นต่ำ ผีชั่วหน่ะสิไม่ชอบ)
    --ห้ามรดน้ำมนตร์ (เพราะผีจะแขนขาขาด) **ก็ให้มันขาขาดไปเลย
    เสือกมาเบียดเบียนสิงร่างคนทำไม
    --ห้ามบูชาของขลัง พระต่างๆ ห้ามห้อยเข้าวัด ** กลัวผีในวัดจะ กระเจิงเหรอคะ

    หลวงพ่อเกษม แกจะเลี้ยงผี แทนเทพหรือไงไม่เข้าใจ
    ถ้าคนปรกติอยู่ดีๆ เกิดกลัวพระพุทธรูป ไม่ไหว้ ไม่กล้าโดนน้ำมนตร์
    ไม่กล้าเหยียบเข้าวัด --- เขาเรียกผีเข้านะ

    ยันต์ท้าวเวสสุวรรณ เขามีกันทุกบ้าน มันเสียหายตรงไหนไม่เข้าใจเลยสักนิดถึงห้ามติด ( เพราะนอกจากกันผีและยังช่วยเรื่องเงินๆทองๆด้วย)
    แถมทำให้เด็กแดงๆ ที่พึ่งเกิดไม่ร้องกวนตอนดึก หลับสนิท

    ยันต์ทางพุทธศาสนาเยอะไป

    - ยันต์พระสีวลี(เรามีแค่ผืนเดียว บูชาทุกวัน)
    -ยันต์พระเจ้า 5 องค์
    รวมไปถึงยันต์ค้าขายดี
    -ยันต์นาคราช กับพระพุทธเจ้า
    -ยันต์นางกวัก ยันต์กุมารทอง ยันต์นกคุ้ม

    *** ไม่ได้เป็นคนเก่งเรื่องยันต์ รู้ไม่กี่ชื่อ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  12. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    ท่านอรมณีจันทร์กล่าวได้ใจวัยเกือบรุ่นอย่างข้าพเจ้านัก นับถือๆ
     
  13. little_off2

    little_off2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +27
    ถ้าตบพระพุทธรูปไม่บาป คราวหน้าใครเจอพระเกษมที่ไหนก็เดินเข้าไปตบหัวซะ ไม่บาปเหมือนกัน เพราะร่างกายท่านก็เป็นสมมติ ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่โสโครกเหมือนเราๆ ที่ล้วนโสโครกกว่าพระพุทธรูปด้วยซ้ำ ยอมไหมล่ะครับ ให้คนเดินเข้าไปตบหัวพระเกษม คุณไม่ต้องห้ามปรามใคร ไม่ต้องด่าใคร ลูกศิษย์ต้องไม่กัน..

    เพราะถ้ากัน ก็แสดงว่าคุณยังยึดติดกับ รูป ไม่ต่างจากที่คุณบอกว่าคนอื่น ยึดติด รูป ของพระพุทธรูป...
     
  14. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
  15. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    ใจเย็นครับทุกท่าน
    หลวงปู่ดู่ท่านสอนไว้ว่า คนดีเค้าไม่ตีใครนะ
    หลวงพ่อพุธท่านสอนไว้เช่นกันว่า
    เราไปด่า ว่า โดยที่มีโทสะ หรือมีผลทำลาย ไม่ได้ติเพื่อก่อแล้ว
    ต่อให้ใครคนผู้นั้นทำผิด เราไปด่า ว่า เค้า เราก็บาปไปด้วย

    สิ่งที่ท่านเห็นในนิมิต ท่านเห็นจริงๆ แต่สิ่งที่ท่านเห็นมันไม่จริง
    อย่าไปหลง เชื่อกับเทวดา มาร พรหม ที่เห็นในนิมิตเลย
    ไปหาอ่านเรื่องหลวงตาบัวไล่ แม่ชีลงจากเขา ให้ดีว่าเพราะเหตุใด
     
  16. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    ขอบคุณข้อความ คุณ อรมณีจันทร์ นะครับ

    พูดถึงเรื่องนํ้ามนต์ จะขอเล่า ความเป็นมานิดนึง คิดว่าหลายๆคนคงจะรู้แล้ว ขอเล่าแบบย่อๆ

    นํ้ามนต์ เกิดขึ้น ในศาสนาพุทธเราครั้งแรก พระพุทธเจ้า สั่งให้พระอานนต์เป็นผู้ทํา

    เหตุเกิดที่เมืองไพสารี(มีอณาจักรติดกับกรุงราชคฤห์) ตอนนั้นเกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจํานวนมาก

    ฝังและเผาไม่ทัน ซากศพก็เลยถูกทิ้งอยู่ทั่วไปเป็นจํานวนมากขึ้นๆ เมื่อมีซากศพมากพวกอมนุษย์ "พวกเปรต พวกอสุรกาย" ก็ออกมามาก เพื่อกินซากศพ

    ฝ่ายทางพระราชา จึงประชุมอํามาตย์ และคนที่มีความรู้ต่างๆ ได้ความว่า ภัยเกิดขึ้นสามอย่าง

    1 ภัยเกิดจากอาหาร เพราะความแล้งมาก หาอะไรจะกินไม่ค่อยมี

    2 ภัยเกิดจากพวกอมนุษย์ คือพวกผีพวกเปรตบ้าง อสุรกายบ้าง ที่ออกมากินซากศพ

    3 ภัยเกิดจากโรค โรคที่มันเกิดขึ้น เพราะอากาศไม่ดี

    พระองค์จึงได้ถามว่าจะเอาอย่างไรกันดี

    ก็มีคนในที่ประชุม ที่ทราบข่าวว่า เวลานี้ มีพระพุทธเจ้า เกิดขึ้นแล้วในโลก ขอให้ไปนิมนต์พระพุทธเจ้ามาที่นี่

    ขณะที่ปรึกษากันอยู่นั่น ก็มีจ้าวลิจฉวีองหนึ่ง ที่เคยไปฟังธรรมกับพระพุทธเจ้า ท่านก็ทรงยืนยันกับพระราชาว่า พระพุทธเจ้ามีเกิดขึ้นจริง เคยฟังธรรมพร้อมกับพระเจ้าพิมพิศาร

    ทุกคนในที่ประชุม จึงลงความเห็นว่า ให้เจ้าลิจฉวี ไปนิมนต์พระพุทธเจ้ามาเพื่อสงเคราะห์

    เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จมาถึงเมืองไพรสารี จึงรับสั่งให้พระอานนต์เอาบาตร ของพระพุทธเจ้า ใส่นํ้า และสวดบท"รัตนสูตร"คือบทที่ใช้ทํานํ้ามนต์

    คืนนั้นพระอานนต์เดินสวดมนต์บทรัตนสูตรตลอดสามยามรอบเมือง เสร็จแล้ว ใช้นํ้ามนต์ สาดนํ้าขึ้นไปข้างบน

    สาดครั้งแรก นํ้าตกลงใส่หัวของพวกผีอมนุษย์ คือเปรต อสุรกายเป็นต้น เมื่อถูกนํ้ามนต์พวกนั้นก็อยู่ไม่ได้ ทนไม่ใหว วิ่งกันพล่านไปหมด และพากันหนี้ออกนอกเมือง ในที่สุดออกทางประตูไม่ทันเพราะมีจํานวนมาก จึงได้พากันทําลายกําแพงหนี้ออกไป

    เมื่อพระอานนต์สาดนํ้ามนต์ต่อ ผู้คนที่มีอาการป่วยก็หายป่วย

    ที่เล่ามาย่อๆ เพื่อยกตัวอย่างว่า นํ้ามนต์ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล เป็นเรื่องจริง ถ้าทํานํ้ามนต์ถูกต้อง จะมีคุณมาก

    พวกที่กลัวว่าผีแขนขาจะขาดเพราะนํ้ามนต์ ก็แสดงว่า เขาเป็นพวกผี ก็ปล่อยเขาไป

    ดูๆแล้ว พวกผีมีไม่มาก มีไม่กี่ตัว ตอนนี้ผมสบายใจขึ้นแล้วล่ะครับ

    พระพุทธศาสนากว่าจะมาถึงคนรุ่นเรา ปู่ย่าตายายเรา พุทธบริษัททั้งหลาย ได้ช่วยกันประคับประคองอย่าง ถือเป็นสมบัติลํ้าค่า เราก็จะสืบทอดช่วยกันดูแลต่อไป..สาธุ




     
  17. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499

    เป็นหมอดูมา 10 ปีแล้วทำไมเหรอ

    ส่วนของขลังมีไม่ถึง 10 อย่างเลยทุนน้อย
    - แต่ภูมิใจมากมายด้วย
    เพราะเคารพนับถือ สนใจเลยอยากขาย
    เพราะลองบูชาดูทีหล่ะอย่างแล้วได้ผลดี เทพยังมาเข้าฝันเลย
    พระสีวลีมาให้เห็นในฝัน1ครั้ง
    องค์ราชันย์ดำ ก็เมตตามาให้เห็นแค่ 1 ครั้ง
    แต่เทพทางฮินดูจะมาให้เห็นในฝันบ่อยมาก

    ดีกว่าคนบางคนไม่ได้นับถือเลยสักนิด
    แต่ก็มาขาย แถมบอกอีกนะ ว่าไม่ไหว้พระพุทธรูปเพราะเชื่อพระเกษมแต่ขายเอาเงินอย่างเดียว (แล้วมันจะขลังเหรอ)

    นอกนั้น สบู่สมุนไพร แชมพูไพร เครื่องสำอางค์สมุนไพรหมด ( ไม่ได้หนักหัวใครนี่)

    ขายเครื่องสำอางค์นานแล้วแต่ไม่จริงจัง แต่ขายก่อนพระเกษมจะดังอีกมั๊ง ตัวไหนใช้ดีก็เอามาลงขายก็เท่าน้าน คนทำมาหากิน
    ไม่ใช่ อวดอภินิหารแต่ไม่มีจะกินเพราะไม่ทำงาน
    เอาอ้างธรรมะแต่บ้าผู้หญิงมากๆ

    บางคนอ้างตัวเป็นศิษย์พระ แต่ไล่แฟนไปทำแท้งอ้างจะเข้าทางธรรม ถามหน่อยเถอะ มาตราฐานจิตใจยังเป็นคนเปล่า

    เราทำมาหากิน เราไม่คิดว่าผิดนะเพราะ ภาษีเราก็เสีย
    ถ้าไม่นับถือของขลัง เราก็จะไม่ขาย
    เพราะเราไม่ใช่คนลวงโลก ........เข้าใจไว้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  18. Hyojin

    Hyojin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมเป็นคนหนึ่งที่นับถือศาสนาพุทธ แม้จะไม่ได้นับถือนิกายเถรวาท

    แต่ก็ไม่อยากให้ใครไปยึดติดกับข่าวที่ ไม่เป็นอันมงคลนี้

    สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้มา จากพระธรรมแห่งโพธิสัตว์ คือ เหตุและผล

    พระองค์มักตรัสสอนอยู่เสมอ ว่า "พุทธอริยะ กลัวเหตุ ปุถุชนกลัวผล"

    อารายก็แล้วแต่ ที่เราทำให้ผู้อื่น ทุกข์ใจ ก็มิควรทำ

    แต่ เหตุการณ์นี้ กำลังทำให้คนแตกแยกกันไม่ใช่เหรอครับ..

    เพียงแค่ความคิดเห็น เดียว กลับทำให้คนในศาสนาต้องแตกแยกกัน แล้วอานิสงค์จะเกิด

    ขึ้นได้อย่างไรครับ ยังคงจำความล่มสลายของศาสนาที่อินเดียกันได้น่ะครับ ว่ามาจาก

    อาราย ในประเทศจีนเอง พระสังฆปรินายกฮุ่ยเหนิง เองก็ เคยบอกเราว่า..อย่ายึดติด

    ในพระธรรมคำสอน ที่เป็นตัวหนังสือ แต่จงรับรู้พระธรรม จากการดื่มด่ำของจิตพุทธะ

    ที่มีอยู่ภายใน ของเราทุกตน ...(แค่เอาว่า พระจีน ทานเจ พระไทย ไม่ทาน ก็แตก

    ต่างกันแล้ว ครับ มองง่าย ง่าย ) และสมัยนั้นก็เลย เกิด แบ่ง เป็น สองสาย สาย

    หนึ่งคือ สายพระสังฆปรินายกฮุ่ยเหนิง เป็นฝ่ายใต้ และ สายพระอาจารย์ชินเชา เป็น

    ฝ่ายเหนือ ..แต่โดยรวม ในสมัยนั้นแม้ความเห็นจะแตกต่างกัน แต่ก็ไม่แตกแยก และ

    ทำให้ สองฝ่าย อยู่กันได้โดยความสงบ ด้วยเหตุ ที่มี พระพุทธองค์เดียวกัน..

    ผมเองคิดว่าไม่มีใครผิด ใครถูก น่ะครับ ..แต่ที่ผิด คือกาลเวลา..คือ สิ่งที่ท่านสมมุติ

    สงฆ์ รูปนี้ ทำอยู่ อาจจะดี แต่ มัน ไว ไป ครับ ไว ไปจริง

    และการกระทำก็อาจจะแข็งไปนิด ..ผมเชื่อ ว่า ทุกคนทราบโดยทั่วกัน ในเรื่องไม่ยึดติด

    แต่อย่าลืม ว่า เราอยู่ในสังคม..บ้างครั้งการฝืนกระแส ก็เป็น สิ่งที่ไม่ควรทำ..

    เอาง่าย ง่าย น่ะครับ ยกตัวอย่าง เงินทองนี้ มานไม่ดี ไม่ต้องไป ยึดติด กับมัน แต่

    ถามว่า เราทิ้งมันได้ไหม ก้ไม่ได้ ในเมื่อ สังคมทุกวันนี้ ยังต้องใช้ น่ะครับ..

    เพราะฉะนั้น รูปธรรม ทั้งหลาย จึงจำเป็นต้องมี เพื่อเป็น เส้นทางต้น ไปยัง

    นามธรรม และท้ายสุด ถึงนิพพาน

    จึงอยากให้ทุกคน ..อย่าแตกแยกกันน่ะครับ จงใช้สติ พิจารณา น่ะครับ

    แล้ว ก็ อย่าลืม ความเชื่อ สิบ ที่พระศาสดา ทรง สอน น่ะครับ..

    ถ้าเรามัวแตกแยกกัน วันหนึ่งเราจะไม่มีศาสนาให้กราบไหว้ ครับ

    (ถ้าใครบ้างคนได้อ่าน..อยากให้นึกถึง เด็กน้อยในไร่แตงโม..น่ะครับ)

    จงมีสติ ทุกฝีก้าว ว่าเราเป็นเหตุให้ผู้อื่น สะดุดในการปฏิบัติธรรม หรือไม่..

    สาธุ สาธุ ...บาป นี้ น่ากลัวครับ...
     
  19. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    -อยู่ที่เจตนา แต่เจตนานั้นเป็นนามธรรม จะไปตีความจากสิ่งที่โพสต์กันอยู่นั้น จะเข้าไม่ถึง เพราะมันลึกน่ะสิ

    -ตบดิฉันดีกว่า ตบพระ ท่านถือศีลมากกว่าเราหลายร้อยข้อ มันไม่ดี (ไม่ได้แปลว่าดิฉันจะไปห้าม หรือกันว่าคุณอย่าทำเพราะนั่นคือพระเกษม หรือเพราะท่านเป็นครูบาอาจารย์ของฉัน แต่ให้มองที่ท่านเป็นสงฆ์ อยู่ในสมณเพศ)

    -จะให้ใครเดินไปตบหัวท่านดีน้อ เราไม่โกรธนะ... แต่จะให้ใครลองไปตบหัวดีล่ะ คิดดีๆนะ
     
  20. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อยากให้ค่อยๆลอก เลาะเปลือกออกทีละขั้นๆๆ

    โดยวางอารมณ์ที่ปรุงแต่งออกไปก่อน

    เพราะถ้าโพสต์ด้วยความมีอารมณ์

    คนที่เข้ามาอ่านต่อก็จะมีอารมณ์

    .....แล้วก็จะเกิดอารมณ์กันทั้งบอร์ด......



    แย่เลย..........................
     

แชร์หน้านี้

Loading...