ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<table class="news2006_topic" width="595" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="585" height="10"><table class="news2006_topic" width="100%" border="0"><tbody><tr><td valign="bottom" align="left">สมิทธเตรียมลาออกแล้วพิษสตอร์มเซิร์จ

</td> <td width="100" align="right">
</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td></td> </tr> <tr> <td class="news2006_graylight" height="10">โดย INN News <script language="JavaScript" src="http://news.sanook.com/global_js/global_function.js"></script><!--START-->วัน พฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="595" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td height="10">
</td> </tr> </tbody></table> <table class="news2006_black" width="595" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td rowspan="6" width="10">
</td> <td width="575">สมิ ทธ ธรรมสโรช เตรียมลาออกจากตำแหน่งศูนย์เตือนภัย หลังโดนถล่ม เหตุเผยจะเกิดน้ำท่วมใหญ่สมุทรปราการและ กรุงเทพเดือน ก.ย.นี้ ระบุชัดจะมีคนตายจำนวนมากเท่าพายุนาร์กีส

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช
ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ​

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยกับรายการไอเอ็นเอ็นฮอทนิวส์ ยอมรับว่า จะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่ได้มีการออกมาเตือนเรื่องปรากฏการณ์ สตอร์ม เซิร์จ หรือ ภัยน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น และ อาจท่วมพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มีความรุนแรงเท่าพายุนาร์กีส แต่ปรากฏว่า ได้รับกระแสต่อว่าอย่างมาก โดยย้ำว่าเหตุที่มาเตือน เพราะได้ตรวจสอบจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ โดยอาศัยสถิติพายุคิม ในปี 2526 ที่ทำเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ ซึ่งการคำนวณตามหลักสถิติและวิทยาศาสตร์พบว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวจะกลับมา เกิดอีกครั้งระหว่างเดือน ส.ค.ถึง ก.ย. จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเร่งดูรับมือ แต่กลับไม่มีใครสนใจ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ เพราะอาจส่งผลน้ำให้น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ และมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก

ดร.สมิทธ บอกด้วยว่า การเตรียมลาออกไม่ได้น้อยใจ แต่เพราะหากทำงานไปและเมื่อออกมาเตือนแล้วหน่วยงานอื่นเพิกเฉยก็ไม่รู้ว่าจะ อยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่ออะไร

from http://news.sanook.com/social/social_297522.php

<table width="100%" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td colspan="2">สตอร์ม เซิร์จ

</td> </tr> <tr><td> [ แก้ไข ][ เก็บไว้เป็นเรื่องที่ติดตาม ]
สร้างเมือ 14-08-2008 โดย KaeJangandZugaS </td><td align="right">
</td> </tr> </tbody></table>
รู้ทัน “Storm surge” มหันตภัยร้ายแห่งท้องทะเล
หากลองนึกภาพเหตุการณ์ภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศ ไทยในอดีต แน่นอนว่า ภาพของเหตุการณ์ไล่ตั้งแต่พายุแฮเรียต ในปี พ.ศ. 2505 ที่ซัดแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช จนราบเป็นหน้ากลอง ถัดมาในปี พ.ศ. 2532 มหาวิบัติพายุเกย์ ก็สร้างความเจ็บช้ำให้แก่ชาวบ้านหลายพื้นที่ใน จังหวัดชุมพร จนมาถึงช่วงปี พ.ศ. 2540 พายุลินดา ก็ซัดซ้ำรอยเดิมใน จังหวัดชุมพร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ จังหวัดเพชรบุรี

เหตุการณ์ทั้ง หมดคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยหลายคน กระทั่งล่าสุดในช่วงต้นปีที่ผ่านก็เกิดเหตุพิบัติภัยจากพายุนาร์กีสที่ถล่ม ประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า จนสร้างความเสียหายเกินคณานับ ซึ่งภาพเหตุการณ์ที่ไล่เรียงมานี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าล้วนแล้วเกิดขึ้นจากความรุนแรงของพายุที่พัดเข้าหา ชายฝั่งในลักษณะที่เรียกว่า “Storm surge”
Storm surge มหัตภัยร้ายเกินมองข้าม

นาวาเอก กตัญญู ศรีตังนันท์ ผู้บังคับหมวดเรืออุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ให้คำอธิบายว่า Storm surge คือ ปรากฏการณ์คลื่นที่เกิดขึ้นพร้อมกับพายุหมุนโซนร้อนที่ยกระดับน้ำทะเลให้สูง ขึ้นกว่าปกติ อันเนื่องมาจากความกดอากาศต่ำที่ปกคลุม ณ บริเวณนั้น ซึ่งเวลาที่หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านไปพร้อมกับศูนย์กลางของพายุ ทำให้แรงกดนั้นยกระดับน้ำจนกลายเป็นโดมน้ำขึ้นมา โดยเคลื่อนตัวจากทะเลซัดเข้าหาชายฝั่ง

Storm surge มีความเหมือนหรือแตกต่างจาการการเกิดสึนามิ หรือไม่?

นาวา เอก กตัญญู ชี้แจงว่า สิ่งที่คล้ายกัน คือ รูปแบบการเคลื่อนตัวที่เป็นเหมือนคลื่นขนาดใหญ่แล้วพัดเข้าชายฝั่ง แต่ที่แตกต่างกัน คือ ลักษณะของการเกิด คือ สึนามิ เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหวใต้ทะเล ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ซัดเข้าชายฝั่ง แต่กับ Storm surge จะเกิดขึ้นโดยมีตัวแปรจากพายุ

ส่วนความเสียหายนั้น คิดว่า Storm surge จะเลวร้ายมากกว่า กล่าวคือ การเกิดสึนามิจะเกิดขึ้นวันไหนก็ได้ โดยท้องฟ้าอาจจะแจ่มใส อากาศเป็นปกติ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทางฝั่งอันดามันของไทย แต่หากเป็น Storm surge จะ เกิดขึ้นพร้อมกับพายุ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นวันที่ท้องฟ้าปั่นป่วน ไม่แจ่มใส สภาพอากาศเลวร้าย มีการก่อตัวของเมฆฝน ฝนตกอย่างหนัก ลมพัดแรง บริเวณชายฝั่งเกิดคลื่นโถมกระแทกอย่างหนัก คลื่นในทะเลสูง แต่เมื่อศูนย์กลางของพายุเคลื่อนเข้ามา ก็จะหอบเอาโดมน้ำขนาดใหญ่ซัดเข้ามาอีกครั้ง ดังนั้น ความเสียหายจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ
เมื่อ Storm surge เกิดมาพร้อมกับพายุโซนร้อน เพราะฉะนั้นเมื่อพายุเข้ามา เราก็จะเห็นสัญญาณเตือนหลายอย่าง เช่น การเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา และจากการสังเกตลักษณะอากาศที่จะค่อยๆ เลวร้ายลง ทำให้เรารู้ตัวล่วงหน้าหลายวัน และสามารถหาทางอพยพได้ทัน แต่กับสึนามิอาจจะไม่รู้ได้เลย เพราะบางครั้งก็เกิดขึ้นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีสัญญาณบอกเหตุร้ายแต่อย่างใด แต่ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ในช่วงหลายปีมานี้ก็เป็นอะไรที่คาดเดา พยากรณ์ได้ยากเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเกิดภาวะโลกร้อน ที่ทำให้สภาพอากาศในทุกมุมโลกเกิดความแปรปรวน และยิ่งทวีความรุนแรงของเหตุการณ์ขึ้น สิ่งนี้จึงเรื่องที่ต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด”
กรุงเทพฯ ไม่น่าห่วงเท่าชายฝั่งอ่าวไทย

นาวา เอก กตัญญู อธิบายต่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้หลายคนจึงตั้งคำถามว่าพื้นที่ของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ชายฝั่ง แล้วจะได้รับผลกระทบที่เกิดจาก Storm surge หรือ ไม่นั้น ต้องบอกว่าถึงแม้พื้นที่เสี่ยงการเกิดพายุจะอยู่ในอ่าวไทย แต่บริเวณก้นอ่าว หรือบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา กลับไม่เคยพบการเกิดพายุหมุนโซนร้อนมาก่อน ที่พบก็จะมีแต่ปลายๆ ของหางพายุดีเปรสชัน ซึ่งก็ไม่ได้เกิดความรุนแรง แต่พื้นที่ที่น่าห่วง คือ ตลอดแนวพื้นที่ราบชายฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่ จังหวัดชุมพรลงไป ซึ่งในอดีตพื้นที่เหล่านี้ ก็เคยเกิดพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ซัดถล่มมาแล้ว หากมองในพื้นที่บริเวณชายฝั่งของกรุงเทพฯ โอกาสที่จะเกิดน้อย เนื่องจากพื้นที่ของกทม. เป็นพื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน แต่หากว่าเกิดพายุพัดผ่านเข้ามาบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาจริงอิทธิพลจะเข้า มาถึงตัวเมืองแน่นอน โดยเฉพาะร่องแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะมีมวลน้ำทะลักเข้ามาไหลเอ่อท่วมพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ

นาวาเอก กตัญญู บอกอีกว่า ทางฝั่งของทะเลอันดามันก็ยังพอเบาใจได้เนื่องจากการเกิดของ Storm surge จะ เกิดขึ้นได้จากการเคลื่อนตัวของศูนย์กลางพายุเข้าหาชายฝั่ง แต่หากสังเกตเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุที่เกิดขึ้นในไทยนั้นจะเริ่มพัด ขึ้นฝั่งอ่าวไทยแล้วพัดออกจากฝั่งทางอันดามันไปพม่า บังคลาเทศ อินเดีย ทำให้ฝั่งอันดามันเป็นการเคลื่อนตัวออกนอกชายฝั่ง ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบจาก Storm surge เหมือน อ่าวไทย แต่ที่ไม่ควรมองข้ามคือหากพายุหมุนเกิดขึ้นภายในแผ่นดิน และบริเวณแหล่งน้ำภายในเช่น กว๊านพะเยา บึงบอระเพ็ด หากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่านแหล่งน้ำเหล่านั้น น้ำก็จะยกตัวขึ้นมาเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในทะเลและก็อาจทำให้เกิดคลื่นพัด เข้าสู่ฝั่งได้เช่นกัน

“ที่ผ่านมา หลายคนให้ความสนใจในการเฝ้าระวังสึนามิ เพราะยังเป็นของใหม่ในบ้านเรา แต่ความจริงแล้วภัยคุกคามที่แท้จริงคงหนีไม่พ้น Storm surge เพราะโอกาสที่จะเกิดพายุหมุนโซนร้อนที่พัดเข้าอ่าวไทยเกิดได้ถี่กว่า สึนามิหลายเท่า”
ปลูกป่าชายเลน แนวป้องกันชั้นยอด

ใน ส่วนของการเฝ้าระวัง และวิธีการเตรียมรับมือนั้น รศ.อัปสรสุดา ศิริพงษ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ระยะเสี่ยงการเกิดพายุจะอยู่ที่ 3 เดือนอันตราย เพราะจากสถิติการเกิดพายุหมุนโซนร้อนที่ขึ้นทางฝั่งอ่าวไทยนั้น เมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนตุลาคม พายุจะก่อตัวทางตอนใต้ของปลายแหลมญวนทางเขมร และเมื่อถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนพายุจะเคลื่อนลงจากแหลมญวนจนเคลื่อนสู่อ่าว ไทย ไปตลอดจนถึงเดือนธันวาคมพายุจึงจะสลายไปในที่สุด

สำหรับในบ้านเรานั้นหลายคน กลัวว่า Storm surge จะเกิดผลกระทบต่อเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ แต่อยากให้อุ่นใจได้ว่า Storm surge คงเข้ามาไม่ถึง ที่ต้องระวังคือปัญหาเดิมๆ อย่างน้ำท่วม เพราะกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่รับน้ำ อีกทั้งภายในตัวเมืองชั้นในยังมีสิ่งปลูกสร้างสูงๆ ป้ายโฆษณาตามตึกต่างๆ ก็ควรระวังหากเกิดลมพายุรุนแรงเพราะจะพัดป้ายให้พัง และเกิดความเสียหายได้ จึงเป็นเรื่องที่ควรหาทางป้องกันอย่างเร่งด่วน

การเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับ Storm surge นั้น อยากฝากให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยศึกษาลักษณะของการเกิด และความรุนแรงเพื่อที่จะได้หาทางหนีทีไล่ได้ทัน ซึ่งการหนีนั้นต้องมีหน่วยงานที่ร่วมทำแผนที่เสี่ยงภัย หากบริเวณไหนมีประชากรหนาแน่นบริเวณนั้นจะมีความเปราะบางมาก จึงต้องทำแผนที่ให้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเมือท่องเที่ยว

“ วิธีการป้องกันมีอยู่หลายแนวทาง ทั้งการสร้างกำแพงป้องกัน แต่ก็ไม่ควรนำมาใช้กับบ้านเรา และอาจจะเป็นการสูญเงินอย่างมหาศาล ทางออกที่ดีที่สุด คือ การช่วยกันรักษาป่าชายเลนตามแนวชายฝั่ง หรือปลูกป่าชายเลนเพิ่มในพื้นที่ชายฝั่งซึ่งจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่จะช่วยลดความรุนแรงได้ อีกทั้งควรกำหนดเป็นหลักสูตรในเรื่องของภัยพิบัติลงในแบบเรียน เพราะเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังให้เด็กเกิดความตื่นตัว จึงต้องสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้น และต้องมีการซ้อมแผนเตือนภัยอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงคราวเกิดขึ้นจริง จะได้ช่วยลดความเสียหายจากชีวิตและทรัพย์สินได้ ”



ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 13 สิงหาคม 2551


from


http://guru.sanook.com/pedia/topic/สตอร์ม_เซิร์จ/



</td></tr></tbody></table>

 

ขอโทษค่ะ ไม่ทันเห็นว่าข่าวท่านอาจารย์ ดร.สมิทร โพสแล้วก็เลยโพสซ้ำ ขอบารมีพระดลให้ทุกท่านอยู่ดีปลอดภัย ใจเกาะพระนะค่ะ

 

ควรเอาชื่อคนที่กดดันอธิบดีสมิทธออกมาประจานให้สาธารณชนได้รับทราบถึงโคตรเหง้าบรรพบุรุษและวงศ์ตระกูล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เริ่มจากเจ้าผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตคนที่ด่าว่าอธิบดีสมิทธอย่างกักขฬะและไร้ปัญญา ครั้งที่ท่านแรกออกมาเตือนภัยจากซึนามิ พอคนตายเป็นพันเป็นหมื่น คนประเภทนี้กล้าออกมารับผิดชอบอะไรบ้าง ควรกดดันกำจัดพวกขยันโง่พวกนี้ให้สิ้นไปโดยเร็ว

 

ขนาดพระองค์ท่านเคยตรัส ให้เชื่อให้ฟังคนที่รู้ เช่น ดร.สมิทธ อะไรไม่เคยเกิด ก็อาจเกิดเพราะขณะนี้โลกเราเปลี่ยนไปมาก แผ่นดินไม่เคยไหวยังไหวซะรุนแรงเลย คุณหนุมานก็เคยลงมาให้ระวังน้ำโขงล้นเข้าไทย นานแล้ว ตอนนี้มันล้นแล้ว และก็อันตรายมากด้วยคนที่เป็นรัฐบาลกลับไม่เหลียวแล แย่จังเลย

 

ผมเชื่อ อ.สมิทธครับ แต่ว่า บางนา เอแบค สมุทรปราการนี่จะโดนรึเปล่าครับ

ผู้รู้ ชัวๆ ช่วยบอกหน่อยครับ - -

 

ขออนุญาตแสดงทัศนะและขอเป็นกำลังใจให้ อ. ดร. สมิทรค่ะ

บางทีคนเราเมื่อทำดีใหญ่ก็ถูกทดสอบกำลังใจหนักๆเป็นธรรมดานะค่ะ แล้วก็ธรรมดาเมื่อมีอุปสรรคเราต้องท้อเหมือนกัน แต่ถ้าหากเราทำสิ่งที่เราคิดว่าดี โดยทำแล้วทิ้งไม่มีความปรารถนาใดๆจากผลการกระทำ ทำสักแต่ว่าทำให้ดีที่สุด ณ.ขณะนั้นทำสักแต่ว่าเป็นพุทธบุชา
ผลเรากำหนดไม่ได้ คนอื่นเราคุมเขาไม่ได้ เขาคิดไม่ดีก็ปล่อยให้เขารับวิบากของเขาเอง เขาต่างหากที่น่าสงสารเพราะกำลังใจไม่ถึงซึ่งความดีเราควรส่งความปรารถนาดีแผ่เมตตาให้เขาเข้าถึงความดีและเข้าถึงพระไตรสรณ์คม เราทำหน้าที่ของเราให้ดี หากยังอยู่ในหน้าที่แล้วคิดว่าทำประโยชน์ได้มากกว่าขอจงทำให้ดีที่สุดโดยไม่หวังสิ่งใดไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม แต่ถ้าหากคิดว่าลาออกแล้วทำประโยชน์ได้มากกว่า ก็น่าทำ
บางทีที่เขาไม่เชื่อกันเป็นเพราะกระแสโมหะและวิบากกรรรมที่รุนแรงก็ได้นะค่ะทำให้เราสร้างเกราะป้องกันไม่ได้เต็ที่เพราะกระแสกรรมกั้นไว้ให้มิจฉาทิฏฐิทรงพลังดังนั้นเราจะโทษเขาเหล่านั้นก็ไม่ถูกได้แต่ทำหน้าที่ให้ดีถวายชีวิตเป็นพุทธบูชาได้แค่ไหนแค่นั้น

ความคิดนี้อาจคิดออกมาได้พูดได้เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เป็นคนประสบมรสุมนั้นด้วยตัวเอง แต่ถ้าเจอกับตัวไม่แน่ข้าพเจ้าอาจฆ่าตัวตายไปเลยก็ได้เพราะกำลังใจไม่แกร่งเท่า อ.ดร. สมิทร

ขอบารมีในหลวงช่วยดลให้อ.ดรสมิทรสู้ต่อ และดำรงตนเฉกเช่นนายอินผู้ปิดทองหลังพระในพระราชนิพนธ์เถิด

 

อ.สมิทธ คนดีอยู่คู่ไทยครับ
เป็นกำลังใจให้ท่านต่อไปครับผม

 

ขอลองโพสหน่อยครับ ไม่รู้จะอ่านได้ไหม

ขอเรียนว่า ปีนี้ขอให้ท่านมีสติรอบคอบมากเป็นพิเศษ ในวันที่ 11 เดือน 11 ปี 51 บวกลบไม่เกิน 3 วัน น่าจะเกิดเหตุเภทภัยใหญ่ มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ในขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเกิดขึ้นในพื้นที่ใด เพียงแต่ทราบว่า หากครูบาอาจารย์ และสาวกผู้ประเสริฐของพระพุทธองค์ ไม่สามารถร่วมกันแผ่พลังเมตตาจิต แผ่อภิจิตให้สถานการณ์คลี่คลาย พวกเราจะได้พบเหตุการณ์ดังกล่าว และถ้าประชาชนคนในชาติ ยังคงคิดแต่จะหาเรื่องที่จะเกลียดชังกัน จ้องคิดจะทำลายล้างกัน ด้วยเล่ห์กลเพทุบายต่าง ๆ เป็นอยู่เช่นนี้ต่อไป ก็คงต้องยอมรับชะตากรรม ซึ่งเป็นบ่วงกรรมที่ประชาชนคนในชาติของเรา เป็นผู้สร้างกระแสเลวร้ายให้เกิดขึ้นเอง ก็อาจยากที่จะผ่อนหนักเป็นเบาได้ หายนะนี้คงเกิดขึ้นให้เห็นค่อนข้างแน่ หากท่านใดได้มีโอกาสอ่านข้อความนี้ และมีครูบาอาจารย์ที่มีพลังฌานแก่กล้า ขอย้ำว่า เฉพาะครูบาอาจารย์ที่มีพลังฌานแก่กล้า หรือมีญาณทัศนะ ญาณวิถีสูงเท่านั้น ที่ควรหาจังหวะเข้าไปกราบเรียนถามท่าน ( มิใช่ไปสอบถามจากครูบาอาจารย์ที่เป็นนักเทศน์ หรือที่เป็น
นักปราชญ์ ผู้ที่ไม่มีพลังฌานแก่กล้า หรือไม่มีญาณทัศนะ ซึ่งท่านไม่มีทางทราบเหตุการณ์ในอนาคตแน่นอน โปรดอย่าได้สอบถามจากผู้ไม่รู้ในเรื่องดังกล่าว )
สำหรับท่านที่โชคดีมีครูบาอาจารย์ที่มีพลังฌานแก่กล้า หรือมีญาณทัศนะ ญาณวิถีสูง ขอให้ท่านกรุณากราบเรียนถามท่านเพิ่มเติม ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น สถานที่เกิด วันเวลาที่จะเกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฎิบัติตน ก่อนและหลังเหตุร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น และกรุณาส่งข่าวต่อให้ผม (นายมงคล กริชติทายาวุธ) ได้ทราบด้วย ที่ e-mail:mkrichti_999@yahoo.com ก็จักขอบพระคุณยิ่ง แต่ขอให้ท่าน ญาติพี่น้องของท่าน เพื่อนสนิทมิตรสหายที่ท่านมีความปรารถนาดีด้วย โปรดใช้ความมีสติมีสัมปชัญญะให้มากเป็นพิเศษ ในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ก่อน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใด ๆ เดินทางไปที่ไหน หรือแม้แต่อยู่ในที่พักอาศัยของท่านเอง โดยขอให้สังเกตเส้นทางหนีทีไล่ ขอให้ท่านจินตนาการว่า หากเกิดเหตุร้ายแรงใด ๆ เกิดขึ้นฉับพลันทันที ไม่ว่าวาตภัย (พายุใหญ่) อุทกภัย (น้ำท่วมใหญ่) อัคคีภัย (ไฟใหม้) ธรณีพิบัติภัย (แผ่นดินไหว) โคลนถล่ม / น้ำป่า ( ซึ่งมาเร็ว

 

11 พฤศจิกายนครับ

 

๑๑ ไทยหรือ ๑๑ ที่แปลว่าพฤศจิกายนคะ

 

อ๋อ.. ทราบค่ะ หวังว่าคงไม่ได้เป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนะคะ
พอดีว่า เห็นคุณมงคลหยุดเขียนบทความไปพักหนึ่ง แล้วบังเอิญเมื่อวาน
เพิ่งมีโอกาสได้กลับไปอ่านอีกที ก็ได้เห็นว่าคุณมงคล เพิ่งเริ่มกลับมาเขียน
บทความอีกครั้งเมื่อเดือน ก.ค. นี้เอง แล้วก็เห็นว่าจะมีการจัดบรรยายด้วย
ไม่แน่ใจเหมือนกัน เผื่อมีท่านอื่นๆยังไม่ทราบข่าวน่ะค่ะ เลยเอามาโพสที่นี่
ช่วยๆกันนะคะ

 

หนังเรื่อง FLOOD มหาอุทกวิบัติถล่มลอนดอน มีเนื้อหาคล้ายกับสตอร์มเซิร์จ
http://video.mthai.com/player.php?id=23M1213435519M0

 

จังหวัดริมโขงวิกฤติ​

​

นครพนม 15 ส.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขงยังน่าห่วง ที่จังหวัดนครพนม ตอนนี้พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วเกือบ 2 แสนไร่ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 120,000 คน ส่วนที่มุกดาหาร หนักสุดอยู่ในเขตเทศบาลเมือง ระดับน้ำยังสูงเกือบ 1 เมตร

อีกจังหวัดที่ยังวิกฤติหนัก คือที่หนองคาย ชาวบ้านกว่าพันครัวเรือนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังมีปัญหาการเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งไม่สามารถเดินทางไปหาหมอได้ ทางโรงพยาบาลจึงต้องจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปช่วยเหลือ แม้จะมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรก็ตาม. -สำนักข่าวไทย

2008-08-15 20:15:11

พิษณุโลกห่วง 4 พื้นที่เสี่ยงบางระกำน้ำท่วมฉับพลัน​

​

พิษณุโลก 15 ส.ค.- นายนริศ ปิยพฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยถึงการรับมือน้ำท่วมจากฝนตกหนักว่า แม้ขณะนี้แม่น้ำยมใน อ.บางระกำ น้ำต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.23 เมตร แต่ถ้ามีฝนตกต่อเนื่อง จะทำให้พื้นที่ลุ่ม 4 ตำบล คือ ชุมแสงสงคราม คุยม่วง ท่านางงาม และบางระกำ เกิดปัญหาน้ำท่วมทันที

เพื่อความไม่ประมาทจึงเร่งแจ้งเตือนประชาชนให้ขนย้ายสิ่งของไว้ล่วงหน้า สำหรับแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านใน จ.พิษณุโลก คือ แม่น้ำน่าน แม่น้ำวังทอง และแม่น้ำแควน้อย ระดับน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และเขื่อนแควน้อย ที่ อ.วัดโบสถ์ สามารถกักเก็บน้ำได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจะช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ตอนล่างของจังหวัดได้ หากแม่น้ำน่านสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

2008-08-15 10:55:42

หลายจังหวัดภาคอีสานสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ดีขึ้น​

​

ภูมิภาค 15 ส.ค.- หลายจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้น้ำโขงทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ถนนหลายสายรถเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางได้

ส่วนที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พ่อค้ายังซ้ำเติมชาวบ้าน ด้วยการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาผักขึ้นอีกเท่าตัว โดยอ้างเป็นผลพวงมาจากน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร ส่วนฝนที่ยังตกลงมาหนุนให้น้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเขื่อนลำปาวปล่อยน้ำออกจากเขื่อนลงลำน้ำสาขาทั้ง 3 สาย ยิ่งทำให้สถานการณ์น้ำท่วมขยายวงกว้างออกไปอีก

ด้านจังหวัดมุกดาหารก็วิกฤติไม่แพ้กัน เนื่องจากระดับน้ำโขงยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลเมือง บางแห่งระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และเพิ่มระดับขึ้นเฉลี่ย 2 เซนติเมตรต่อชั่วโมง พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วนับพันไร่

ล่าสุดจังหวัดนครพนม ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากน้ำท่วมเพิ่มอีก 7 ตำบลครอบคลุมทั้ง 11 อำเภอ พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบเกือบ 2 แสนไร่.-สำนักข่าวไทย

2008-08-15 10:11:55

ซ้อมพายุเข้าถล่มอ่าวไทยที่ชลบุรีและระยอง​

​

สำนักข่าวไทย 15 ส.ค. - กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมซ้อมแผนเผชิญเหตุสมมติสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนพัดถล่มอ่าวไทย

รายงานข่าวจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้งว่า กรมฯ เตรียมเป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝึกซ้อมแผนดังกล่าวระดับภูมิภาคอาเซียนประจำปี 2551 หรืออาร์เดค 18 ระหว่างวันที่ 23-29 สิงหาคมนี้ที่จังหวัดชลบุรี และระยอง โดยในแผนจะสมมติผลกระทบจากพายุทำให้เกิดอุบัติภัยสารเคมีรั่วไหลรุนแรงและภัยพิบัติอื่น ๆ ตามมา เพื่อพัฒนาศักยภาพในการจัดการภัยพิบัติระดับภูมิภาคอาเซียน -สำนักข่าวไทย

2008-08-15 15:49:06

กทม.เตือนผู้ใช้อาคารวางแผนเผื่อไฟไหม้หวั่นซ้ำรอยตึกแถวเจริญกรุง

​

สำนักข่าวไทย 15 ส.ค.-นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่ใช้อาคารทั้งเพื่อพักอาศัยและเป็นสถานประกอบการ หากต้องการตกแต่งต่อเติมอาคาร จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ด้วย ทั้งการจัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย การจัดให้มีไฟฟ้าส่องสว่างฉุกเฉินกรณีไฟฟ้าดับ การจัดให้มีเครื่องดับเพลิงและซักซ้อมให้ทุกคนในอาคารรู้จักใช้และเอาตัวรอดจากเพลิงไหม้ ซึ่งสามารถขอให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เข้าไปซักซ้อมให้ได้

ทั้งนี้ จากกรณีที่เกิดเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 8 คูหา ซ.เจริญกรุง 8 เขตสัมพันธวงศ์ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมาและมีผู้เสียชีวิตนั้น มีสาเหตุจากการติดแผงกระจกด้านหน้าอาคารติดกับหน้าต่าง ไม่สามารถหนีออกมาด้านนอกหน้าต่างได้ อีกทั้งการติดกระจกยังทำให้ความร้อนในตัวอาคารสูงขึ้น จนเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว ความร้อนได้ดันกระจกแตกกระจายเป็นอันตรายต่อประชาชน นอกจากนั้น ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีความยากลำบาก เพราะภายในอาคารเก็บวัสดุสินค้าไม่เป็นระเบียบ ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าที่ควร.-สำนักข่าวไทย

2008-08-15 18:42:30

ลูกเรือบนเรือสินค้าไทยที่ถูกโจรสลัดปล้นปลอดภัยดี​

​

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.

 

เปิดคำทำนายบ้านเมือง จากหมอดูที่ผมรู้จัก รวมทั้งคำทำนายจากผม
Posted by คุณชายยอดฟ้า (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>ต้องบอกก่อนครับว่า ตัวผมนั้นศึกษาทั้งในเรื่องของ Astrology ยูเรเนี่ยน รวมไปถึงศาสตร์ Fortune Teller ในการใช้ไพ่ยิปซี ถือว่าพอตัวล่ะ ก่อนหน้านี้เคยดูว่าท่านทักษิณจะโดนปฏิวัติ ก็ไปตามนั้นจริงๆมาครั้งหนึ่ง ผิดวันไปประมาณ ไม่เกินเดือน เพราะไม่มีเวลาเกิดของท่านทักษิณ เคยลงไว้ที่เสรีไทย

มีคนถามมาครับว่า เอ๊ะ แล้วช่วงนี้ล่ะ จะมีอะไรเกิดขึ้นกับประเทศไทยหรือเปล่า ประกอบกับผมได้มีโอกาส พูดคุยกับนักโหราศาสตร์ หมอดูพลังจิต หลายท่าน นักโหราศาสตร์ส่วนใหญ่ที่พูดคุย จะเป็นนักโหราศาสตร์ไทย ส่วนพลังจิตนั้นก็เป็นคนทรง หรือใช้จิตในการมองสิ่งต่างๆ คนนี้ดังครับ

น่าแปลกที่คราวนี้ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า จะมีเหตุใหญ่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในเร็วๆ นี้

ทุกคนพูดเหมือนกันครับว่า การปฏิวัติแบบเบ็ดเสร็จกำลังจะเกิดขึ้นและชนวนเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น ก็ค่อยๆเผยให้เห็นมากขึ้น มากขึ้นทุกที จริงๆพี่ๆแนะนำว่าให้เขียนเป็นนิทาน แต่กว่าจะแปลความมันยาก เอาตรงๆเลยละกันครับ แต่บางส่วนผมขออนุญาตอ้อมๆนะครับ เพราะเขียนไปไม่เหมาะเช่นกันครับ

อาจจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในประเทศ ทำนายว่าเป็น การปฏิวัติ โดยดวงปฏิวัตินั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในเดือน มิถุนายน และ สิงหาคม ปีนี้ และคราวนี้ประเทศไทย ไม่สามารถจะหลีกหนีการนองเลือดได้อีกแล้ว จะมีผู้คนจะต้องสูญเสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้มากมาย (ยูเรเนี่ยน, โหราศาสตร์ไทย, พลังจิต)

เหตุการณ์จะเกิดจากการที่ผู้ที่ทำการคัดค้าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกมาชุมนุมต่อต้านแต่แล้วเหตุจะบานปลาย เมื่อฝ่ายที่สนับสนุน ออกมายกพลขับไล่ ในขณะเดียวกัน เรื่องของการดูหมิ่นสถาบัน จะเริ่มรุนแรงมากขึ้น กบฎจะเริ่มเผยตัวให้เห็นในช่วงเดียวกัน การนิ่งเฉย ไม่ทำการปราบปรามผู้ที่ดูหมิ่นสถาบันของรัฐบาลอย่างจริงจัง จะทำให้มือที่มองไม่เห็น ขยับตัว โดยครั้งนี้ เป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ ไม่ต้องเชื่อนะครับ แค่ติดตามชมก็พอ

ชายยอดฟ้า
วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม 2551 12:04:35 น.

ที่มา ok nation.net
http://www.oknation.net/blog/if-i-am/2008/05/22/entry-1

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เกิดแผ่นดินไหว 5.7 ริกเตอร์ตอนกลางฟิลิปปินส์


มะนิลา 15 ส.ค.-สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ ตอนกลางของฟิลิปปินส์ในวันนี้ แต่ไม่มีการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์ และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด

รายงานระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเลกาสปี บนเกาะลูซอน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 66 กม. และอยู่ลึกลงไป 10 กม. เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.25 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 17.25 น.ตามเวลาในไทย
ประชานบนคาบสมุทรบิโคล ทางตอนใต้สุดของเกาะลูซอน กล่าวว่า สังเกตเห็นสิ่งของสั่นไหวไปมา แต่ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-08-15 19:12:05


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำมันร่วงแตะ111ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 สิงหาคม 2551 05:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ราคาน้ำมันดิบร่วงอีกครั้งเมื่อวันศุกร์(15) แตะ 111 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว จากดีมานด์พลังงานเติบโตต่ำกว่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้ สืบเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.12 ดอลลาร์ตาอบาร์เรล ส่วนงวดส่งมอบเดือนกันยายน ซึ่งหมดอายุเมื่อวันพฤหัสบดี(14) อยู่ที่ 112.64 ดอลลาร์

ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนกันยายน ดิ่งลง 2.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 122.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

"สถานการณ์เศรษฐกิจที่อ่อนแอนำไปสู่ดีมานด์น้ำมันเติบโตเบาลง" องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) คาดการณ์รายเดือนเมื่อวันศุกร์(15) ทั้งนี้โอเปก ซึ่งผลิตน้ำมันราว 40 เปอร์เซนต์ของโลกใบนี้ ยังได้แก้ไขคาดการณ์การเติบโตทางดีมานด์น้ำมันของโลกสำหรับปี 2008 ลดลงมาอยู่ที่ 1.17 เปอร์เซนต์ จากเดิม 1.20 เปอร์เซนต์ในเดือนกรกฎาคม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กทม.ใช้ ICS รับ Storm surge ชี้ พท.เสี่ยงบางนาถึงสมุทรปราการ อาจท่วมถึง 2 เมตร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 สิงหาคม 2551 09:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=507 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>

ภาพจำลองการเกิดStorm surge ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> กทม.นำระบบ ICS ของอเมริกาที่ใช้หลังเกิดเหตุวินาศกรรม 911 ของอเมริกา รับมือ Storm surge ขณะที่คาดการณ์พื้นที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่แยกเขตบางนา ไป จ.สมุทรปราการ ส่วนเขตบางขุนเทียน ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ จอมทอง อาจจมใต้น้ำถึง 1 เมตร ส่วนพื้นที่ใน จ.สมุทรปราการ จะมีน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมายืนยันถึงการเตือนภัยปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูง (Storm Surge) ซึ่งทำนายว่า อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ ซึ่งมีความรุนแรงไม่ต่างจากพายุนาร์กีสในพม่า โดยเอาตำแหน่งประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติเป็นประกัน ว่า

เรื่องนี้ กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือต่อต้านการออกมาเตือนเรื่องดังกล่าว แต่จากการหารือกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า จากข้อมูลสถิติในช่วง 57 ปี ที่ผ่านมา ไม่เคยมีพายุไต้ฝุ่นก่อตัวขึ้นแล้วพัดเข้า กทม.อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ กทม.จะจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการซักซ้อมแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.ในระดับวิกฤต และกรณีเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่กองบัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก เขตบางนา ซึ่งที่ประชุมจะหารือถึงกรณีหากเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูง แล้วพื้นที่ใดจะได้รับผลกระทบบ้าง ความรุนแรง และแผนการให้ความช่วยเหลือ เป็นต้น

สำหรับแผนการป้องกันภัยพิบัติของ กทม.นั้น ได้นำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.ในระดับวิกฤตมาใช้ มีสำนักการระบายน้ำ (สนน.) และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ดำเนินการร่วมกัน ทั้งนี้ มีการประเมินพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบกรณีเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูงจะเป็นพื้นที่ใกล้แม่น้ำ ประกอบด้วย เขตบางนา ตั้งแต่แยกบางนา ไป จ.สมุทรปราการ เขตบางขุนเทียน เขตทุ่งครุ เขตราษฎร์บูรณะ เขตจอมทอง จะเป็นเขตที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คาดว่า พื้นที่จะจมอยู่ใต้น้ำ 50 เซนติเมตร-1 เมตร ส่วนพื้นที่ใน จ.สมุทรปราการ จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพเหตุการณ์จริงการเกิดStorm surge ในต่างประเทศ</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ทั้งนี้ กทม.มีแผนที่จะอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเบื้องต้นจะประสานกับเหล่าทัพในการจัดหาเรือท้องแบน รถบรรทุก ในการเข้าไปรับประชาชนออกจากพื้นที่ ส่วนสถานที่รองรับได้เตรียมการประสานกับศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติกรุงเทพ (ไบเทค บางนา) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลซิตี้ บางนา โรงเรียน และวัดในพื้นที่ เป็นต้น

ส่วนแผนป้องกันและเผชิญเหตุ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น กรณีที่เกิดเหตุจะมีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมภัยพิบัติ โดยจะนำระบบ ICS (Incident command System) ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาใช้หลังจากเกิดเหตุวินาศกรรม 11 กันยา โดยจะแบ่งการทำงานเป็น 12 ฝ่าย เช่น ฝ่ายดำเนินการ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ฝ่ายสื่อสาร ฝ่ายจัดหาที่พักพิง ฝ่ายรับบริจาค ฝ่ายเข้ารื้อถอน หน่วยเข้าไปค้นหาผู้รอดชีวิต ฝ่ายควบคุมโรคติดต่อ ฝ่ายอาหาร เป็นต้น มีตัวแทนกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เข้ามาเป็นกรรมการ หากกรมอุตุนิยมวิทยาตรวจพบว่ามีพายุก่อตัวขึ้นในอ่าวไทย ศูนย์ดังกล่าวจะต้องสามารถเรียกประชุมได้ภายใน 1 ชั่วโมง รวมทั้งออกประกาศแจ้งเตือนกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000096615

 

สว่างตา ด้วยแสงไฟ สว่างใจ ด้วยแสงธรรม
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

สรณะอื่น ไม่มี ชีวิตนี้เพื่อพระรัตนตรัย

จงมองไปข้างหน้า เพื่อก่อความหวัง

จงมองไปข้างหลัง เพื่อแก้ความผิด

ถ้าไม่มีความหวัง ก็เหมือนคนสิ้นคิด

ถ้าไม่มีความผิด ก็เหมือนไม่ใช่คน

สาธุ......................................

 

ในที่สุด แหล่งอาหารที่สำคัญ กำลังจะร่อยหรอไปเรื่อยๆ

http://news.yahoo.com

Ocean dead zones become a worldwide problem
<!-- BEGIN STORY BODY -->By RANDOLPH E. SCHMID, AP Science Writer Thu Aug 14, 3:09 PM ET


<!-- end storyhdr -->WASHINGTON - Like a chronic disease spreading through the body, "dead zones" with too little oxygen for life are expanding in the world's oceans

มนุษย์ได้ทำลายแหล่งอาหารที่สำคัญของตัวเอง ปู ปลา กุ้ง ก็คงจะหมด

"If we screw up the energy flow within our systems we could end up with no crabs, no shrimp, no fish. That is where these dead zones are heading unless we stop their growth," Diaz said in a telephone interview.

การทำลายระบบนิเวศน์ที่ไม่รู้ตัว

Scientists mainly blame fertilizer and other farm run-off, sewage and fossil-fuel burning.

 

เมื่อสักครู่ข่าวตปท. แจ้งว่า รัสเซีย อาจโจมตี โปแลนด์ด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ หาก โปแลนด์ยังไม่ถอน การติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ ของอเมริกันออกจากโปแลนด์ เพราะคุกคามความมั่นคงของรัสเซียโดยตรง

การแผ่ขยายกำลังรบภายใต้ "โครงการขีปนาวุธป้องกันตนเอง" ของสหรัฐเริ่มส่งผลลบต่อ ชาวโลกแล้ว


หากสหรัฐดำเนินแผนแบ่งแยก ธิเบตและไต้หวัน รวมทั้งพม่าสำเร็จ พร้อมทั้งมาติดตั้ง ฐานขีปนาวุธ เราคิดว่า จีนจะดำเนินการทางการทูต การทหาร อย่างไร