ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ทำได้หลายอย่างแบบนี้ คงวุ่นวายน่าดูเลย
เหมาะสมแล้วนะคะ ที่จะมีได้กับคนละวางตัวตน อัตตาได้แล้ว
ว่าแต่ ถ้าสามารถเปิดดวงตาที่ 3 ให้มนุษย์มีดวงตาเห็นธรรมได้
ผู้ทำการเปิดเอง ก็น่าจะมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว ใช่หรือไม่คะ

แหม.. ฝากเนื้อฝากตัว ช่วยเปิดให้ข้าน้อยซักดวงจะได้ไหมเนี่ย
อยากจบๆซักที ไม่อยากจะเกิดวนเวียนอีกแล้วล่ะค่า..

ยังงัยก็ยินดีกับคุณ จักษวัชร์ ด้วยนะคะ (คำหลังเนี่ย อ่านว่า วัด หรือ หวัดคะ)
และท่านอื่นๆด้วย ขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่นะคะ

 

ขออนุโมทนา กับทุกๆขันธ์ห้า "ขันธ์ห้าสาธารณะ" จะหาใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงหามีไม่ ขอให้ทุกๆขันธ์ห้า ให้มีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

 

ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาบุญกับทั้ง 2ท่านด้วยค่ะ
;aa20;aa20;aa20

 

ขอแสดงความยินดีกับคุณธนวรรณ เกาะเรียนไชย( Digital )และ คุณจักรวัชร์ สีนุกูล (Juksawat ) ด้วยครับ

ขออนุโมทนาครับ

 

สองวันที่ผ่านมานี้ ได้มีโทรศัพท์สอบถามเข้ามา พอจะประมวลประเด็นสำคัญได้ดังนี้ครับ.-

ถาม...การบอกไม่ให้ยึดติดในอัตตาตัวตนนั้น ในความเป็นจริงก็อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่ในสภาวะปัจจุบัน เรามักใช้คำพูด เช่น อยากไปที่นั่น อยากกินอาหารที่นี่ ซึ่งคำพูดเหล่านี้เหมือนเป็นการส่งเสริมให้เราไม่ห่างจากตัวตนเลย เราจะมีวิธีใด
ที่จะละเว้นคำพูดที่ส่งเสริมตัวตน เพื่อให้เข้าถึงการละวางตัวตนได้อย่างจริงจัง


ตอบ...คำพูด คือสมมุติที่กำหนดขึ้นมาให้ใช้เพื่อความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน
แต่ปลายทางของความหมายนั้น มันอยู่ที่จิต ว่าเราจะยึดติด หรือจะปล่อยวาง เท่านั้น

 

เรียนถาม พี่เม้าท์ค่ะ แล้วการที่เราอยากปล่อยวางตัวตน เราก็ต้องถามจิตเราอีกว่า เราอยากเพื่ออะไรใช่ไหมคะ ถ้าเราตอบว่าเพื่อเราจะได้ช่วยเหลือผู้อื่นและตัวเองได้ท่ามกลางสภาวะ
ที่วิกฤติเช่นนี้ คิดแบบนี้ถูกต้องแล้ว?

หรือว่าเราต้อง คิดอีกแบบหนึ่ง ว่า ต้องให้จิตไม่อยากอะไรทั้งสิ้น ปล่อยวางไปให้หมด แม้กระทั่งการอยากให้จิตปล่อยวาง หรือการที่เราอยากให้จิตเราละตัวตน เราก็ควรตัดความอยากให้จิตปล่อยวางออกไปด้วย

จริงๆ แล้ว การคิดแบบไหนที่จะปล่อยวางได้อย่างแท้จริงคะ แต่เปิ้ลคิดว่าน่าจะเป็นแบบหลังนะ

และสุดท้ายคิดว่า น่าจะเป็นคำถามที่หลายๆ คนอยากรู้ด้วยค่ะ เราจะรู้ได้ยังไง ว่าจิตเราตอนนี้ปล่อยวางได้
แล้วคะ หรือว่า มันจะเป็นสภาวะ แบบขึ้นๆ ลงๆ เด๋วปล่อยมั่ง ไม่ปล่อยมั่ง ซึ่งเราต้องตามดู รู้ความคิด ดูจิตไปเรื่อยๆ เพื่อให้มันสติมันทันความคิดที่จะอยาก และดับความอยากไปในที่สุด

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ และอนุโมทนาด้วยค่ะ สำหรับคำตอบ

 

ถาม... ทำไม ตอนเชื่อมระบบ จึงสามารถรับสัมผัสจากสิ่งที่มองไม่เห็นได้ดี แต่หลังจากนั้น ไม่สามารถรับได้เลย เป็นเพราะอะไร


ตอบ...ตอนเชื่อมระบบ ในสภาวะนั้น เราสามารถกำหนดจิตเป็นสมาธิ มีการปล่อยวางได้บ้าง แต่เมื่อผ่านพ้นไป สิ่งกระทบทางสังคมที่เราดำรงชีวิตอยู่ประจำ ก็เข้ามามีผลทำให้ เราไม่สามารถปล่อยวางตัวตนได้ ผลกระทบนั้น อาจเกิดจาก วิบากกรรม ที่เกิดจากการกระทำทั้งในปัจจุบัน และอดีตชาติ จึงทำให้เราไม่สามารถปรับสภาวะให้เกิด ปล่อยวาง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการการละ ลด เลิก ในอัตตาตัวตน

โดยเฉพาะกรรมที่มีต่อบุพการี ควรขอขมากรรม เป็นอันดับแรก ด้วยธูปแพเทียนแพ น้ำสะอาด 1 แก้ว กล่าวคำขอขมา ว่า ตั้งแต่เล็กจนโต ลูกกระทำให้บิดา/มารดา ต้องเสียใจ ทุกข์ใจ บัดนี้สำนึกผิดแล้ว ขออโหสิกรรมให้ลูกด้วย เมื่อพ่อแม่กล่าวอโหสิให้แล้ว จึงนำน้ำสะอาด เทลงฝ่าเท้าของท่าน นำน้ำที่ผ่านเท้า มาลูบศีรษะ จะเป็นมงคลแก่ชีวิต คิดทำสิ่งใดก็สำเร็จ

หากบุพการีใด ที่ยังไม่อโหสิกรรม จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฝากพระแม่ธรณีไว้ก่อน.

 

รู้จักตัวตน ใช้ตัวตนให้เป็นประโยชน์ สุดท้ายปล่อยวางตัวตน



ทุกสิ่งมีอยู่ เป็นอยู่ เห็นอยู่ ปฏิเสธไม่ได้
เมื่อเกิดการกระทำ ทำให้เกิดผล ผลที่ได้ไม่ใช่เรากระทำ เป็นเรื่องของระบบ จึงไม่มีเรา ไม่มีตัวตนของเราเป็นผู้กระทำ..ว่าง โล่ง โปร่ง สบาย

 

ยินดีกับพี่วรรณด้วยค่ะ

 

ขอสนับสนุนพี่เมาท์ค่ะ ที่ว่า
"รู้จักตัวตน ใช้ตัวตนให้เป็นประโยชน์ สุดท้ายปล่อยวางตัวตน"

มีหลายต่อหลายจิตวิญญาณที่เข้าใจสภาวะการปล่อยวางแบบผิดๆ
กลายเป็นการปล่อยปละ...
โดยคิดว่าการปล่อยปละนั่นคือการปล่อยวางที่ถูกต้องแล้ว
พระพุทธองค์ท่านทรงสอนเน้นให้เราเข้าใจในเรื่อง พรหมวิหาร ๔
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
หลายท่านได้แต่ท่องๆ ทำตามตัวอักษร เข้าใจตามตัวอักษร
ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง
เพราะในแต่ละข้อ ตั้งแต่ข้อเมตตา เปรียบได้กับบันไดที่ละขั้น
ที่เราต้องค่อยๆ ก้าวขึ้นไป ผ่านไปที่ละขึ้น
ถึงจะพบกับการปล่อยวางที่ถูกต้องอย่างแท้จริง

 

ถาม.....เราจะต้องปฏิบติอย่างไร จึงจะเข้าถึงสภาวธรรม ได้โดยเร็ว หรือหลุดพ้นในการยึดถือตัวตน ในปัจจุบัน


ตอบ...สมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ใช้เวลาแสดงธรรม ไม่มาก ผู้ฟังก็เกิดดวงตาเห็นธรรม บรรลุธรรมโดยลำดับ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เป็นเพราะภูมิกำเนิดของผู้คนเหล่านั้น มีการสั่งสมปัญญาบารมีมายาวนานอย่างต่อเนื่อง

แต่ปัจจุบัน การบรรลุธรรม ไม่ใช่ของง่าย และก็ไม่ใช่ของยาก ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ สิ่งแวดล้อม และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเข้าใจใน โลกธรรม 8 ซึ่งเป็น
สิ่งที่เรารู้เห็นและสัมผัสใกล้ชิดตลอดเวลา ซึ่งเป็นของคู่กัน แต่เราลืมนำมาพิจารณา
หากนำมาพิจารณาเป็นพื้นฐานแล้ว เราจะพบคำพูดที่สละวางได้ นั้นคือคำว่า มันเป็นอย่างนั้นเอง

(โลกธรรม 8 = มีลาภ-เสื่อมลาภ/มียศ-เสื่อมยศ/มีสุข-มีทุกข์/มีสรรเสริญ-มีนินทา)

 

ขออนุโมทนากับ คุณธนวรรณ เกาะเรียนไชย( Digital ) และ คุณจักรวัชร์ สีนุกูล (Juksawat )ด้วยนะคะ ที่ได้รับความไว้วางใจจากระบบ ให้ใช้อุปกรณ์ในการรักษาได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่มีอัตตาตัวตน ของตน เข้าไปเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เหล่านั้น

อุปกรณ์เหล่านี้ หรือพลังในการรักษาเหล่านี้ มิได้วัดกันที่ ความพยามค้นหา ไขว่คว้า อยากได้ อยากมี อยากเป็นจึงจะสามารถหามาได้
<O</O
แต่วัดกันที่การปล่อยวาง การลดอัตตาตัวตน การไม่ยึดมั่นถือมั่นในอุปปาทานขันธ์ห้าเป็นหลัก เมื่ออัตตาตัวตนน้อยลง ก็จะมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น

ประสิทธิภาพของการใช้อุปกรณ์เพื่อทำงานก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
<O</O
ยิ่งเพิ่มอุปกรณ์ ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของขันธ์ห้ามากขึ้น อัตตาตัวตนจะยิ่งลดลงทุกวัน ความอุปปาทานว่าขันธ์ห้านี้เป็นตัวเรา ของเรา ยิ่งน้อยลงทุกวัน จนสุดท้ายจะได้แต่มองดูขันธ์ห้าที่เคยเป็นของเรา ไปทำงานเพื่อประโยชน์ผู้อื่นเท่านั้น เริ่มไม่มีที่ว่างให้อุปปาทานไปอาศัยอยู่ ไปยึดอยู่ว่านี่เป็นตัวเรา เป็นของเรา
<O</O
เมื่อขันธ์ห้าทำงานให้กับระบบไปเรื่อย ๆ จิตก็ได้แต่มองดูขันธ์ห้าเขาทำงานของเขาไป โดยไม่เข้าไปรับผิดชอบความสุข ความทุกข์ ที่เกิดจากขันธ์ห้าเหล่านั้น ก็จะเริ่มเกิดความเบื่อหน่าย จางคลายจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ขันธ์ห้าที่เคยแบกกันมา เคยยึดเคยเกาะกันมา หนักหนาสาหัสนัก ด้วยความคิดว่าเป็นตัวเรา ของเรา ก็จะเริ่มเบาบางลง ที่เคยแบกก็เริ่มวาง ที่เคยยึด ก็เริ่มคลาย ที่เคยเกาะก็เริ่มปล่อย จิตก็จะเริ่มกลับคืนสู่ธรรมชาติ คืนสู่ความรู้แจ้งแห่งปัญญา ที่ไม่มีอวิชชามาครอบงำอีกต่อไป<O</O
<O</O
ขออนุโมทนากับทั้งสองท่าน และท่านอื่น ๆ ที่กำลังปฏิบัติในแนวทางเพื่อลด เพื่อละในอัตตาตัวตนอยู่ในขณะนี้ ขออนุโมทนาและเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน เพราะอุปกรณ์ที่จะติดตั้งให้ยังมีอีกมาก คนที่รอการช่วยเหลือก็ยังมีอีกมาก แต่ผู้ที่จะปล่อยวางเพื่อมารับอุปกรณ์เหล่านี้ กลับมีน้อยเหลือเกิน . <O</O

 

ขออนุโมทนากับคุณ MOUNTAIN เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ตอบข้อซักถาม และให้คำแนะนำอันเป็นประโยชน์ยิ่งกับน้อง ๆ เพื่อน ๆ สมาชิกที่สอบถามมา

ธรรมะทั้งหลาย ที่คุณ MOUNTAIN ได้ศึกษา ได้ปฏิบัติมา ที่เป็นไปเพื่อการปล่อยวางมาแต่ต้นนั้น ก็เพื่อนำมาใช้ในวันนี้ นำมาแนะนำรุ่นน้อง ๆ ในวันนี้ นำมาเป็นตัวอย่างให้รุ่นต่อ ๆ มา ได้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีการใช้อุปกรณ์ในการให้ปัญญากับผู้อื่นมากเท่าไร ความมีอัตตาตัวตนก็จะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ นั่นก็เพราะมีความเข้าใจในการปล่อยวางที่ถูกตรงนั่นเอง

การที่ระบบได้ให้ความไว้วางใจ และมอบหมายหน้าที่สำคัญ อันจะเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ที่มีข้อสงสัยในการปฏิบัตินั้น

นั่นหมายความว่าคุณ MOUNTAIN มีสภาวะจิตของการปล่อยวางเพียงพอตามมาตรฐานของระบบ มีการยกระดับจิตสูงขึ้น จนเข้าสู่ระดับจิตที่สามารถเข้าร่วมทำงานกับมนุษย์ต่างดาวได้

และคงจะได้ทำความรู้จักกับทีมงาน เพื่อนร่วมงานที่มาจากดวงดาวอื่น ในเร็ว ๆ วันนี้

อนุโมทนาค่ะ

 

;aa30;aa13;ปรบมือ;ปรบมือ_Hi__

 

ขออนุโมทนากับท่านทั้งสองด้วยครับ......คุณ Digital จะเป็น Florence Nitingale ในยุคใหม่แน่ๆ เลยครับ (rose)(rose)(rose)

 

ไม่รู้ว่าจะมีใครสามารถระบุกรรมหนักๆที่เราเคยทำมาแต่ในอดีตได้เลยหรือเปล่าครับพี่เมาท์ จะได้แก้ให้ตรงจุดไปเลยทีเดียว

 

พระสมเด็จเขากะลา ที่พี่สุดใจ มอบให้กับผู้เชื่อมระบบแล้วและมีการแจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรเข้ามา เพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลระบบ พระชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายไม่มีอีกแล้ว
จะนำไปแจกให้ตามรายชื่อ ที่เขากะลา 2 ในวันเสาร์ที่ 20/9/51 นี้ครับ

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ตามลำดับ ดังนี้.-

1.คุณกิตติคุณ ผะอบเพ็ชร
2.คุณอภิฌาน กาญจนวาปสถิตย์
3.คุณวิโรจน์ กรึงไกร
4.คุณศักดิ์ดา เทพสนิท
5.รศ.ดร. สุธาทิพ ภมรประวัติ
6.นายอารัณย์ เอเมอรี่
7.คุณดาวิษา พงษ์เนื่องธรรม
8.คุณคณิน หงส์ดุสิต
9.คุณธิติวัฒน์ เสรีหทัยรัตน์
10..คุณจักษวัชร์ ลีนุกูล
11.คุณประพาฬพงศ์ ศิริธีรานนท์
12.คุณประสิทธิ์ วิศิษฏจินดา
13.คุณชุดา เจนธนพิพัฒน์
14.คุณบุณยวีร์ เจนธนพิพัฒน์
15. คุณพรลภัส ภักดีประพฤทธิ์
16.คุณสุวิชชา มะโนแสน ส่งไปรษณีย์
17.จ.ส.อ.สมเจตน์ นาวีชลนิยม.
18.คุณเขมณัฏฐ์ ศรีพรหมภัทร์
19..คุณจินตวดี
20.คุณศศิสมัย มีทรัพย์
21.คุณธัชพร รัตนโมรา
22.น.ส. อังคณา ศรีทุม
23..นายพิพัฒน์ วงศ์เลิศสุวรรณ
24.คุณพิจิตรา ทองคำสุข
25.คุณจารุภา มีศรีสุข
26.นาย ภวัต สิงห์ลี


ขอโมทนาสาธุ

 

พักนี้ฝันบ่อยมาก เรียกว่าทุกวันเลย

ฝันว่าได้ไปวัดแห่งหนึ่ง มีพระราชวงศ์ท่านหนึ่งมาทำบุญ ผมก็ยืนต้อนรับท่าน (อยู่หัวแถวสุด ) ท่านได้ประทาน ข้าว(ในความฝันบอกตัวเองว่าเป็นข้าวมธุปายาส) ขนาดเท่าลูกมะนาวมีสีดำและขาวอย่างละครึ่ง ผมก็กินไป 1 คำและก็ส่งต่อให้คนอื่นกิน...

ผมขอถามพี่ลิตเติ้ล Duck หน่อยครับว่ามีความหมายหรือเปล่าหรือเป็นแค่ฝัน

 

<TABLE class=tborder id=post1311724 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> 27-06-2008, 06:52 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1791 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Little Duck<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1311724", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: May 2008
ข้อความ: 289
ได้ให้อนุโมทนา: 1,777
ได้รับอนุโมทนา 5,974 ครั้ง ใน 291 โพส
<IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################--> <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
</IF>พลังการให้คะแนน: 33








</TD><TD class=alt1 id=td_post_1311724 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->[FONT=&quot]หลังจากทีที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก พอลืมตาขึ้นมาก็เห็น เป็นแสงสีชมพูออกม่วง อยู่ตรงหน้า เห็นลาง ๆว่า หน้าตาคล้ายมนุษย์ต่างดาวที่มาให้เห็นเมื่อวันก่อน ซักพักภาพนั้นก็หายไป จากนั้น ปฏิบัติภารกิจตอนเช้าตามปกติ ก่อนที่จะเริ่มสวดมนต์ กำลังตั้งนะโม ก็ปรากฏแสงสีชมพูม่วง ๆ เห็นลางๆ คือ พอจะมองออกว่า ลักษณะเป็นแบบไหน น่ะค่ะ เห็น หน้าตา บริเวณลำตัว ช่วงไหล่ ไล่ลงมาตามบริเวณลำตัว ไม่เห็นแขน ขา นะคะ .. สักพัก ก็หายไป จากนั้นก็มาสวดมนต์ และนั่งสมาธิ ตามปกติ ช่วงนั้น เห็นแสงสีชมพูม่วง ๆ ผ่านเข้ามา แล้วก็ หายไป คล้ายๆ กับ กำลัง จะสื่อสารอะไร ซักอย่าง คือ มา ๆ หายๆ สักพัก ก็ปรากฎแสงสีม่วง ๆ ฟ้า ๆ ขึ้นตรงหน้าค่ะ แต่ ภาพนี้ ชัดเจนมากค่ะ แต่ไม่ได้มีการส่งสัญญาณอะไร แล้วก็หายไป สักพัก แสงสีชมพู ม่วง ลักษณะตามที่ได้แจ้งไปแล้ว นั้น ปรากฏอยู่ตรงหน้าให้เห็น อีกคร้ง สื่อสารออกมาว่า ยี ยี สองครั้ง ตอนนั้น ยังถามกลับไปเลย ว่า หมายถึงอะไร คะ .. แต่ไม่มีเสียงตอบ นอกจาก ตัวอักษร คำว่า [/FONT][FONT=&quot]Gee, ตัวอักษรชัดเจนมาก ค่ะ.. หลังจากนั้น ก็ นั่งสมาธิ จนกระทั่ง เสร็จภารกิจแล้ว มาทำงานตามปกติ ..หลังจาก ออกจากสมาธิ ยังทบทวนอยู่เลย ค่ะ ว่า หมายถึงอะไร เลยถอดตัวเลขออก มา ได้ GEE = 7+5+5 = 17 แต่การออกเสียงที่ได้ยินนั้น ว่า ยี นะคะ แต่ถ้าเราเอง จะอ่านได้ว่า จี ใช่มั้ย คะ <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]พอมาถึงที่ำทำงาน วันนี้ ที่ทำงานมีพิธีทำบุญ หลังจาก พิธีการ เสร็จลง ก็มาถึงขั้นตอน การถวายสังฆทาน พระ [/FONT][FONT=&quot]9 รูป นั่งเรียงกัน เป็นรูป ตัว L น่ะค่ะ ดิฉัน คือ อยู่หัวแแถว น่ะค่ะ ขณะที่กำลังจะประเคนสังฆทาน พร้อมกันนั้น จะมีสังฆทานเกินมา ชุด 1 พระองค์แรก เลยบอกว่าให้นำมาวางตรงกลาง ระหว่างพระองค์แรก กับ พระองค์ที่ 2 ดิฉัน ก็เลยยกมาวางตรงตำแหน่งที่พระองค์แรกบอก โดยที่พระยังไม่ได้รับประเคนจากดิฉัน ดิฉันนำมาวางไว้ เฉย ค่ะ จากนั้น ท่านก็ให้ดิฉันประเคนอีก 1 ชุด ซึ่งชุดนี้ ท่านรับประเคนค่ะ หลังจากนั้น ท่านก็ให้พร รดน้ำมนต์ เป็นอันเสร็จพิธี <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]จากนั้น พนักงานรายงานว่า ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ รวมถึงเงินร่วมทำงบุญ ทั้งหมด [/FONT][FONT=&quot]7,630 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้ว คงเหลือเงินที่ต้องนำนำถวายวัด เเพื่อทำบุญให้กับทางวัด เป็นเงิน 1952 บาท = 1+9+5+2= 17 <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]สังเกตุ ดูนะคะ ว่า [/FONT][FONT=&quot]GEE = 17 , เงินทำบุญให้กับทางวัด 1952 = 17, อีกทั้ง เงินส่วนตัวของดิฉัน ที่ดิฉัน จะเก็ยสะสม โดยหยอดกระปุกไว้ เพื่อทำบุญโดยเฉพาะ โดยอาทิตย์ หนึ่ง จะต้องเอาเงินในกระปุกมานับ และ นำไปทำบุญ จะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ให้กับทางวัด ก็แล้ว แต่จะ จัดสรร น่ะค่ะ ครั้งนี้ นับแล้ว เป็นเงิน 1817 = 17 .. <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]อนุโมทนา ค่ะ .. [/FONT][FONT=&quot]17 <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]<O>Little Du</O>[/FONT][FONT=&quot]ck.. [/FONT][FONT=&quot] <O></O>[/FONT]
<!-- / message -->





</TD></TR></TBODY></TABLE>


hello10 สวัสดีค่ะ คุณ mooing2546

" ซื้อลอตเตอร์รี่ให้กับพี่ที่ทำงาน 557 ก้อได้มา 3 ใบ เราแบ่ง 1 ใบ ซึ่งตัวเลขเนี่ยอยู่ๆก้อขึ้นมาเองในโทรทัพท์... "

557 = 755 = GEE = 7+5+5 = 17 งานที่ได้รับมอบหมายจากระบบ ดูข้างบนประกอบนะคะ..
.......................

" เราตั้งใจเลยว่าจะเลิกซื้อหวยใต้ดินแล้วแต่บังเอิญโชคดีได้เงินจากเลขตัวนี่ งวดที่แล้วเลขก้อขึ้นในโทรศัพท์พี่เค้าอีก 413 "

413 = DM = MD = Doctor of Medicine = แพทย์ /หมอรักษา
.....................

แต่เราหาซื้อได้แต่ 410 ก้อเลยไม่ถูก ...?

410 = DJ = Disk Jockey = นักจัดรายการวิทยุ

..ไม่ถูกจริง ๆๆ จ้ะ (one-eye)..


แจ้งมาเพื่อทราบ

Little Duck ..

 

เรื่องเจ้ากรรมนายเวร นั้น เปรียบเหมือนคู่กรณี
หากทั้งคู่สามารถนำขึ้นสู่ศาลเพิ่อพิจารณาคดี ได้ เราก็สามารถ เห็นหน้าค่าตากัน
แต่หากเขาไม่ยอมขึ้นสู่ศาล แต่แอบทำร้ายเรา หรือจ้างวานคนมาทำร้ายเรา
แบบศาลเตี้ย เราก็ไม่อาจเห็นหน้าค่าตาของเขาได้

ปัญหาจึงมีว่า จะต้องหาคนกลางที่มีความสามารถ ไกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่ หันเข้ามาตกลงกันได้ แต่ถ้าเขายังดึงดันไม่ยอมมาเจรจา ก็คงทำอะไรไม่ได้
เราคงต้องเป็นฝ่ายกระทำฝ่ายเดียว จนกว่าเขาจะใจอ่อนครับ