ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

เก็บตกภาพ ผู้อาวุโสแห่งเขากะลา 1 เมื่อวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา

 

ผู้ที่ได้เข้ามาอ่านในช่วงหลัง ๆ อาจจะมีความสงสัยในเรื่องของอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาว ว่าเป็นอย่างไร เป็นรูปแบบไหน เป็นวัตถุหรือเป็นโลหะใช่หรือไม่ เมื่อติดตั้งแล้วจะต้องทำอย่างไรบ้าง?

พี่สุดใจได้เคยตอบคำถามเหล่านี้มาแล้วในช่วงแรก ๆ ของการเข้ามาเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ ก็จะขอนำมาให้ท่านอ่านกันอีกสักครั้ง เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องของอุปกรณ์กันสักเล็กน้อย ซึ่งในตอนนั้น ยังไม่มีการติดตั้งให้กับบุคคลอื่น ๆ เพราะตอนนั้นยังไม่มีเขากะลา 2 เกิดขึ้น ยังไม่มีอาจารย์นีโม่ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เป็นตัวอย่างเหมือนในวันนี้

แต่ในตอนนี้ หลายท่านได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ไปแล้ว และเริ่มใช้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานกันบ้างแล้ว บางท่านก็กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์กันอยู่ บางท่านกำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ ทดลองกันอยู่ก็มี

ก็ขอนำข้อมูลเรื่องของอุปกรณ์มาให้รับทราบประกอบความเข้าใจเพิ่มเติมค่ะ

วันที่ 22 - 09 - 2007

พี่สุดใจเข้าใจในความรู้สึกของน้อง ๆ ดี กับความคิด กับความรู้สึก กับสิ่งที่เรียกว่า “อุปกรณ์”
​

<O</Oความจริงแล้ว ในธรรมชาติ ก็มีพลังงานอยู่มากมาย ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ คนที่ฝึกในขั้นที่สามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้ ก็สามารถนำเอาพลังต่าง ๆ เหล่านั้นมาใช้ได้ มารักษาโรค มาปรับคลื่นไฟฟ้าในร่างกายให้สมดุลย์ หรือมาทำอะไรอื่น ๆ ได้อีกมากมาย
​

ดังนั้น ถ้าจะเรียกว่ามนุษย์ต่างดาวเขามาให้ “พลัง” เราจะไม่ค่อยรู้สึกแปลกใจ เพราะเคยรับรู้ รับทราบมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะคนที่ฝึกพลัง มีพลังรักษาบำบัด ยิ่งมีพลังสามารถทำให้วัตถุเคลื่อนไหวได้ หรือทำอะไรที่เกินปกติ เราจะมองว่าเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สามารถฝึกจนมีพลังได้ขนาดนี้ ดังนั้น ยูริ กิลเลอร์ นักพลังจิตที่มีชื่อเสียง ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ดี
​

ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า “ได้รับพลังจากมนุษย์ต่างดาว” มนุษย์ก็จะไม่แปลกใจ แต่ถ้าบอกว่าเป็น อุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาว อันนี้ไม่น่าฟังเท่าใดนัก ซึ่งความจริงจะบอกว่าเป็น “พลัง” ก็ทำได้ แต่จุดมุ่งหมายของมนุษย์ต่างดาว มีมากกว่านั้น...
​

จริง ๆ แล้วพลังทุกอย่างมีอยู่ในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน หรือไม่ว่าจะเป็นการฝึกจิต การเห็นทะลุวัตถุ การรู้ล่วงหน้า การเหาะเหินเดินอากาศ การหายตัว ทุกอย่างมีอยู่ในธรรมชาติ แต่ทุกอย่างต้องใช้จิตเป็นตัวคอนโทรล เป็นตัวสั่งให้ทำ ดังนั้นจึงต้องมีการฝึกจิตหลายรูปแบบ ฝึกแบบเพ่งให้ทำอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างโยคีก็ได้ หรือฝึกให้จิตปล่อยวาง มีความสงบ มีความเบา จนเข้ากับธรรมชาติชนิดนั้น อย่างการปฏิบัติของพุทธศาสนาก็ได้
​

ดังนั้น ไม่ว่าพรามณ์ ไม่ว่า โยคี ก็มีฤทธิ์ได้เช่นกัน เพราะการฝึกให้จิตทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น แต่ว่า สิ่งที่เพิ่มมาด้วย ก็คือความมีตัวตนของผู้ฝึก ที่ยึดถือว่าเราเป็นผู้ทำได้นั่นเอง
​

สิ่งที่เราเรียกว่า อิทธิปาฏิหารย์นั้น ก็เป็นของมีอยู่แล้วในธรรมชาติ แต่ผู้ไม่เคยรับรู้ก็คิดว่าแปลก เป็นปาฏิหารย์ เป็นผู้วิเศษ แล้วก็บูชาผิดทางกันไปก็มี
​

มนุษย์ต่างดาว ก็เข้าใจความรู้สึกของมนุษย์โลกดี ดังนั้น หลายจุด หลายสถานที่ จึงรู้จักอุปกรณ์เหล่านี้ในรูปแบบของพลัง จะพลังอะไรก็แล้วแต่ แต่คุณสามารถเอามาใช้รักษา เอามาใช้บำบัดอาการเจ็บป่วย ได้ คนที่รับพลังนั้นมาก็ไม่หวาดกลัว คนที่มารักษาก็ไม่หวาดกลัว เพราะรักษาได้จริงไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม
​

แต่ทำไม มนุษย์ต่างดาวให้เราเรียกว่าสิ่งที่จะติดตั้งให้กับมนุษย์ ว่าเป็น “อุปกรณ์” ล่ะ
​

ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันเป็นอุปกรณ์ เป็นเทคโนโลยี ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ในเหตุการณ์เฉพาะกิจครั้งนี้ ซึ่งมันไม่ใช่อุปกรณ์ที่เป็นมวลสาร หรือเราคิดว่าเป็นเหล็ก เป็นแร่ธาตุมาฝังไว้ในตัวเรา มันไม่ใช่อย่างที่เราเข้าใจ มันเป็นกลุ่มพลังงานที่สามารถใช้แทนวัตถุได้ คุณจะมองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ เหมือนบุคคลที่ฝึกพลังมามาก ๆ แต่คนธรรมดาก็มองไม่ออก นอกจากพวกที่ฝึกพลังด้วยกันเท่านั้นที่มองออก ดังนั้น สิ่งที่เป็นอุปกรณ์นี้ ก็เป็นในรูปแบบของพลังงานอย่างหนึ่ง ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้จริง มีประสิทธิภาพสูง และผู้ที่ใช้อุปกรณ์ก็ไม่เหนื่อย จึงเป็นรูปแบบที่มนุษย์ต่างดาวมองเห็นแล้วว่า เหมาะสมที่สุดกับมนุษย์โลกในยุคนี้
​

อุปกรณ์ที่มนุษย์ต่างดาวนำมาใช้ประกอบการสอน ที่ผู้ฝึกได้เคยเห็น ได้มีประสบการณ์มาแล้ว หลายรูปแบบ ดังจะยกบางตัวอย่างให้ทราบ
​

<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

 

โอ้โห..... จารย์ โม่ เล่น เตะลูก Free-kick จาก ชั้น 11 เข้าประตูแบบ กรรมการยังไม่เป่าเลยนะคร๊าบๆๆ

วันนี้อาจติดธุระไม่ได้เข้ามาดูกระทู้ ดังนั้น กรุณาติดต่อที่ 086 4487582

ป.ล. ตามที่ จารย์ไม่แจ้งไว้นะครับ คืนวันเสาร์นี้มีจำนวนเพียงไม่กี่เส้น ดังนั้นขอให้ทุกท่านไม่ต้องรีบร้อนนะขอรับ...กรุณา...ตั้งสติและให้รู้ทันขันธ์และความคิด...ก่อน.....ขอให้การจองประคำเพื่อการละวางอัตตานะครับ ขันธ์ห้าและตัวผู้รู้ยังต้องถอยออกมาดูและปล่อยวางใช่ไหมครับ

สำหรับท่านที่มีฝึมือทางเย็บปักถักร้อยนะครับ สามารถที่จะไปสร้างสรรค์ผลงานสำหรับตัวเอง..และสงเคราะห็ท่านอื่นๆ ได้นะครับ

ที่ว่าสร้างสรรค์คือประการแรกต้องร้อยตามที่ระบบกำหนดก่อน จากนั้นก็สร้างสรรค์ตามสะดวกครับ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

 

การใช้อุปกรณ์ ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปศึกษาเรื่องเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวให้มากมายเหมือนต่างประเทศ ที่ต้องเอามาวิเคราะห์ วิจัย และต้องการเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวเพื่อเอามาจำลอง และทำขึ้นเลียนแบบ จึงต้องศึกษาวิเคราะห์ ติดตามค้นหา เพื่อต้องการเทคโนโลยีของเขานั่นเอง

แต่สำหรับกลุ่มที่มนุษย์ต่างดาวได้วางไว้แล้ว ได้มีการมาฝึกให้แล้ว ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ให้แล้วนั้น ในจำนวน 5,000 คน ก็จะอยู่นอกเหนือจาก สิ่งที่ชาวตะวันตกจะคิดถึงได้ เทคโนโลยีก็น้อย ประเทศก็เล็ก ความน่าสนใจก็ไม่มี แล้วมนุษย์ต่างดาวจะให้ความสนใจได้ยังไง

มันจึงเป็นเรื่อง เกินคาด สำหรับชาวตะวันตกจริง ๆ และเราก็ไม่จำเป็นต้องไปศึกษาเทคโนโลยีจากชาวต่างชาติด้วย เพราะมนุษย์ต่างดาว เมื่อแจกอุปกรณ์แต่ละอย่างเพื่อให้แต่ละท่านได้ใช้ทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็จะแจก คู่มือการใช้อุปกรณ์ แนบมาด้วยในแต่ละอุปกรณ์

ดังนั้น ผู้ที่ใช้อุปกรณ์ ก็ไม่จำเป็นต้องไปศึกษามากมาย เพราะมนุษย์ต่างดาวจะสอนแค่ให้ "อ่านออกเขียนได้" เท่านั้นก็พอ

อ่านออกเขียนได้ ในความหมายของมนุษย์ต่างดาวคืออะไร?

พี่สุดใจได้เคยโพสไว้แล้ว เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา วันที่ 21 - 09 -2007 ในกระทู้แห่งนี้ หน้า 13 ก็จะขอนำมาให้อ่านกันอีกสักครั้ง

เพราะตอนนี้ จะได้เห็นแพทย์แผนอนาคตหลายท่าน ใช้อุปกรณ์การรักษาไปแล้ว และแต่ละท่านก็บอกว่า รักษาแต่ละเคท วิธีรักษาก็ไม่เหมือนกัน จะมีข้อมูลมารักษาแต่ละรายไม่เหมือนกัน ก็ต้องทำไปตามการรักษาแบบนั้น ซึ่งรูปแบบไม่เหมือนของมนุษย์ที่รักษากัน

เช่นบางครั้งปวดขา แต่ข้อมูลมาบอกให้ไปแตะที่ใหล่ คนให้การรักษา รับข้อมูลก็งง คนไข้ยังท้วงว่า ปวดขานะทำไมไปแตะไหล่ แต่ก็ได้ทำไปตามคู่มือที่ส่งมานั้น

ปรากฏว่าคนไข้บอกว่า มีพลังร้อนวิ่งจากไหล่ลงมาที่ขาไปจนถึงปลายเท้าเลยทีเดียว และอาการปวดขาก็หายไปได้จริง

นี่ก็เป็นคู่มือเฉพาะกิจ สำหรับคนไข้คนนั้น ดังนั้น การใช้อุปกรณ์ในการรักษาแต่ละราย จึงไม่เหมือนกัน แล้วแต่คู่มือประกอบอุปกรณ์นั้น ๆ นั่นเอง


วันที่ 21 - 09- 2007

คำถาม

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ WebSnow
สวัสดีครับ คุณ สุดใจเขากะลา
น่าสนใจมากเลย ผมตามอ่านอยู่ระยะหนึ่ง
ตอนนี้ยังมีการติดต่อมนุษย์ต่างดาวอยู่ไหมครับ

ทางกลุ่มเขากะลาได้มีการสอนวิธีใช้พลังจิตติดต่อกับ UFO บ้างไหมครับ
พอจะเผยแพร่ เป็นธรรมทานได้ไหมครับ
เผื่อว่าคนอื่นๆจะได้ลองติดต่อเองดูบ้าง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_692897", true); </SCRIPT>


ตอบคำถาม

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เป็นกลุ่มที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีจากมนุษย์ต่างดาว เพื่อรับข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาวโดยตรง ในแต่ละงานของแต่ละแผนก

ดังนั้น ทางกลุ่มฯ จึงไม่สามารถที่จะบอกวิธีการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ ไม่ใช่เราไม่อยากจะให้ท่านทราบ แต่เพราะเราเองก็ยังไม่ได้ใช้วิธีการทำสมาธิ หรือการใช้โทรจิต เพื่อติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ในแบบที่คุณพ่อ หรือ ดร.เทพนม หรือหลายท่านที่ฝึกสมาธิมานาน สามารถติดต่อสื่อสารได้ด้วยสมาธิของท่านเหล่านั้นเอง

สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวได้บอกกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ก็คือ

โครงการเพื่อช่วยเหลือเรื่องของภัยพิบัตินี้ มีกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมาก ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวในโครงการนี้ การที่หลายท่านเกิดมาแล้วมีความสนใจเรื่องของการปฏิบัติจิตเพื่อยกระดับจิตใจตนเอง การสนใจที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่น สนใจเรื่องของภัยพิบัติ และพร้อมที่จะทำเท่าที่มนุษย์จะทำได้ เพื่อที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และพร้อมที่จะเผยแพร่เรื่องราวของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ให้กับผู้ที่สนใจได้รับทราบ ให้ได้ตระหนักถึงวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นในภายหน้านั้น

บุคคลเหล่านั้น ได้สร้างพื้นฐานเพียงพอแล้วที่จะทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว กล่าวคือ

ท่านที่ปฏิบัติธรรม หรือมีจิตเมตตา มีความปราถนาที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่นเป็นประจำอยู่แล้ว นี่เป็นพื้นฐานของจิตที่มนุษย์ต่างดาวบอกว่า สามารถทำงานร่วมกันได้

ซึ่งเปรียบเสมือน ท่านเหล่านั้นถ้าบังเอิญนั่งทำสมาธิอยู่ริมน้ำกันเป็นกลุ่ม แล้วบังเอิญเรือที่พาเด็กนักเรียนจะข้ามแม่น้ำ แล้วเกิดล่มลงกลางแม่น้ำ ซึ่งไม่กว้างเท่าไรนัก ถ้าท่านนั่งสมาธิอยู่ ท่านก็คงไม่คิดว่า ช่างเถอะ..ไม่ใช่เรื่องของเรา เดี๋ยวคนอื่นเขาก็ช่วยกันเอง ซึ่งคนปกติบางส่วนอาจจะคิดเช่นนั้น หรือยืนรอผู้อื่นไปช่วย

แต่สำหรับผู้ที่ปราถนาจะช่วยเหลือผู้อื่นเป็นทุนอยู่แล้ว ต่อให้นั่งสมาธิอยู่ คุณก็ต้องออกจากสมาธิเพื่อช่วยเหลือเหตุการณ์เฉพาะหน้า ใครว่ายน้ำเป็นก็รีบว่ายไปช่วย ใครว่ายไม่เป็นก็วิ่งไปหาอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือ ใครแข็งแร็งก็วิ่งไปตามบุคคลอื่น ณ สถานการณ์นั้น ไม่มีใครนิ่งดูดายแน่นอน ใครมีอะไรที่พอช่วยเหลือได้แค่ไหน ก็
ทำกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการนั่งคิดถึงตัวเองสักนิดในเวลานั้น

แต่มนุษย์ ก็ทำได้เต็มกำลังที่มนุษย์ทำได้ อาจจะว่ายไปช่วยได้ครั้งละสองคน หลายเที่ยวก็อาจหมดแรง ว่ายไม่ไหว เพราะร่างกายของมนุษย์มีขีดจำกัด แต่ความพยายามที่จะช่วยเหลือมีเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว

มนุษย์ต่างดาว เป็นเพียงผู้ให้อุปกรณ์ เมื่อเห็นมนุษย์ที่ปราถนาจะช่วยเหลือคนอื่น แต่มีพื้นฐานการเสียสละอยู่แล้ว ก็ต้องช่วยเหลือเป็นธรรมดา
โดยการให้เรือลำใหญ่ที่ติดเครื่องยนต์ไว้พร้อม มีอุปกรณ์การช่วยเหลือเช่นห่วงยางจำนวนมาก แค่สอนวิธีการใช้เล็กน้อย ก็สามารถนำเรือนั้นไปช่วยผู้กำลังจะจมน้ำเหล่านั้นได้ครั้งละมาก ๆ โดยผู้ที่ไปช่วยเหลือก็ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยจนเกินไป เพราะใช้อุปกรณ์ ในการช่วยเหลือนั่นเอง

ก็ไม่แตกต่างจากของมนุษย์ ถ้าให้เราขนก้อนหินกองใหญ่ให้หมด เราก็ต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะขนเสร็จ เหนื่อยแทบขาดใจ แต่ถ้ามีคนให้ยืมรถตักหิน แล้วสอนวิธีใช้เล็กน้อย เราก็ขับรถนั้นไปตักหิน ไม่เหน็ดเหนื่อย และรวดเร็วเพียงชั่วโมงเดียวเสร็จ เพราะใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องทุ่นแรงนั่นเอง

 

มนุษย์ต่างดาว จึงไม่ได้มีกฏเกณฑ์ต้องเป็นแบบนั้น ต้องเป็นแบบนี้ ต้องปฏิบัติอย่างนี้ อย่างนั้น เพราะไม่จำเป็นต้องกำหนด
เป็นมาตรฐานสำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไป เพราะทุกคนปฏิบัติจิตกันอยู่แล้ว ในกลุ่มเป้าหมายที่มนุษย์ต่างดาวต้องการ

แต่สำหรับกลุ่มบุคคล ที่ต้องฝึกอย่างเข้มข้นกับมนุษย์ต่างดาว เป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน ก็เพราะต้องมีความเข้าใจในโครงการนี้อย่างครอบคลุม เพื่อที่จะได้บอกกับบุคคลรุ่นต่อ ๆ ไป ที่มีอุปกรณ์ติดตั้งไว้แล้ว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับอุปกรณ์เหล่านั้น

สิ่งหนึ่งที่เขาบอกไว้นานแล้วก็คือ เขาสอนแค่ให้ อ่านออก เขียนได้ เท่านั้นเอง

อ่านออกเขียนได้ คืออะไร?

มนุษย์ต่างดาว เคยถามกลุ่มผู้ฝึกว่า ผู้หญิง กับผู้ชาย ใครแข็งแรงกว่ากัน

ซึ่งความคิดของมนุษย์ก็คือ ผู้ชาย ต้องแข็งแรงกว่าผู้หญิง

แต่มนุษย์ต่างดาวบอกว่า สิ่งที่เขาต้องการมิใช่กำลังของมนุษย์ เพราะผู้ฝึกแต่ละคนเป็นผู้หญิงส่วนมาก อายุมากเกินไป อายุน้อยก็มี ร่างกายอ่อนแอก็มี แต่เขาบอกว่าต้องการแค่จิตที่มีพลังเท่านั้น

ถ้าให้มนุษย์ ยกเหล็กร้อยกิโลกรัม ผู้ชายอาจจะยกได้ แต่ผู้หญิงอาจยกไม่ไหว

แต่ถ้าเป็นเหล็กพันกิโลกรัมล่ะ ผู้ชายก็ยกไม่ไหว ผู้หญิงก็ยกไม่ไหว
เพราะเกินกำลังมนุษย์ แต่รถแม็คโครยกได้ เพราะเป็นเครื่องจักร

มนุษย์ต่างดาวจึงไม่จำกัดรูปแบบของผู้จะร่วมงานกับเขา อายุมาก อายุน้อย แข็งแรง อ่อนแอ เป็นชาย หรือเป็นหญิง แต่ดูจากพื้นฐานของการเสียสละ การปล่อยวาง เพราะสภาวะจิตเช่นนี้สามารถใช้ประกอบกับเทคโนโลยีของเขาได้ เป็นรูปแบบพลังงานเพื่อใช้ขับเคลื่อนเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์เหล่านั้นให้ทำงานได้

ดังนั้น มนุษย์ต่างดาวมีหน้าที่ให้อุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ คือให้รถแม็คโครกับผู้ที่ขับรถเป็นแล้ว พร้อมกับให้คู่มือการใช้ไฮโดรลิคสำหรับยกเหล็ก แต่มนุษย์ต้องไปหัดอ่านหนังสือให้ได้เสียก่อน จะได้มาอ่านวิธีการใช้อุปกรณ์เหล่านั้น

เหมือนซื้อโทรทัศน์มาเครื่องหนึ่ง คนที่ซื้อมาไม่เคยใช้โทรทัศน์มาก่อนเลย ก็ทำอะไรไม่ถูก เสียบไฟ แต่เปิดไม่มีภาพ ไม่มีอะไรเลย

แต่ถ้าเราอ่านหนังสือออก เราก็เอาคู่มือการใช้มาอ่าน แล้วทำตามวิธีการนั้น เช่น

- เสียบไฟ
- กดปุ่ม power
- กดเมนู
- กด ตั้งช่อง
- กด บันทึกช่อง
- และอื่น ๆ ตามขั้นตอน

เมื่อเรียบร้อย เราก็สามารถใช้อุปกรณ์นั้นได้ เพื่อการรับรู้ข่าวสาร และความบันเทิงได้ หรือเขียนอธิบายให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจได้

นี่คือการ "อ่านออกเขียนได้" ในความหมายของมนุษย์ต่างดาว

และผู้ที่จะอ่านออกเขียนได้ ก็คือผู้ที่เตรียมพร้อมในการฝึกจิต ฝึกสมาธิ วิปัสสนา กรรมฐาน ฝึกการปล่อยวางตัวตน ของตน จะฝึกสมาธิสายไหนก็ได้ เมื่อคุณมีสมาธิในแบบที่คุณเป็น มนุษย์ต่างดาว ก็พร้อมที่จะนำอุปกรณ์มาติดตั้งให้ได้เลย และคุณสามารถเข้าใจได้ว่า สิ่งนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง

อย่างที่เราพบเจอตัวอย่างมามากมาย หลายท่านไม่เคยรู้จักเขากะลามาก่อน พอมารับรู้ ก็เริ่มพบสิ่งที่แปลก ๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือบางคนเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน แต่เมื่อได้คุย ได้สนทนากัน ก็เริ่มเข้าใจ และเริ่มทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้แล้วนานแล้ว ซึ่งพี่สุดใจมีตัวอย่างมากมาย ถ้ามีโอกาสจะนำมาเล่าให้ฟัง

หรือบางท่าน ได้เห็น UFO หลายครั้ง หลายหน หรือมีการรับข้อมูลมาจากบางสิ่งบางอย่าง จะเป็นจากจักรวาล หรือจากที่ใดก็ตาม ไม่มีใครฝึกเพื่อสื่อสารกับสิ่งต่าง ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นผู้สื่อสารลงมา เพราะท่านนั้นมีฐานความพร้อมของจิตอยู่แล้ว

พี่สุดใจอาจจะอธิบายยาวไปสักหน่อย เพื่อให้ผู้ที่สนใจจะฝึกกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้มีความเข้าใจว่า เรามิได้มีเจตนาที่จะปกปิด หรือปิดกั้นใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่เพื่อให้มีความเข้าใจว่า สิ่งที่ทุกท่านได้กระทำนั้น ถูกต้องตามความต้องการของมนุษย์ต่างดาว ที่ต้องการเพียงฐานของจิตที่มีการเสียสละ การมีความเข้าใจในกฏของธรรมชาติ มีความเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพียงเท่านี้ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถรับการติดตั้งอุปกรณ์ และร่วมในโครงการเดียวกันกับมนุษย์ต่างดาวแน่นอน

ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวต้องฝึกให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) อย่างเข้มข้น และเฉพาะกิจเพียงรุ่นเดียวนั้น เพราะต้องสอนให้ "อ่านออกเขียนได้" ในรุ่นแรกก่อน และเรียนรู้อุปกรณ์เทคโนโลยีที่นำมาให้เห็น ให้ศึกษา เพื่อบอกต่อกับบุคคลรุ่นต่อไป

ซึ่งพี่สุดใจ ก็จะขอนำภาพการฝึกตั้งแต่พื้นฐานในปัจจัยสี่ การฝึกสื่อสารด้วยอุปกรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลา และปัจจุบันก็ผ่านการฝึกแล้ว และมีพื้นฐานเพียงพอที่จะให้คำแนะนำผู้ที่มีประสบการณ์แปลก ๆ เจอเหตุการณ์แปลก ๆ ให้ได้รับทราบต่อไป เพราะมีการทำตัวอย่างไว้ให้เราเห็นมากมาย สิ่งที่ท่านพบ ก็ไม่เกินกว่าที่เราเคยเห็นมาแน่นอน<!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message -->

 

ของDigital หายแค่แบงค์ 10(ดอลล่าร์) วันรุ่งขึ้นแทนที่จะเอา แบงค์ 10 มาคืน ตามเดิม กลับเอามาคืนเป็น แบงค์ 5 ดอล 2 ใบ เล่าให้อาจารย์สุดใจฟัง ยังหัวเราะขำกันเลยค่ะ

 

ถ้าไม่ต้องบริกรรมคาถาอะไร สวดมนต์เสร็จต่างคนต่างร้อย ของใครของมัน เสร็จแล้วอาจารย์นีโมมอบให้ ก็ดีนะครับ จะได้คุยได้ว่าทำมากับมือ

 

วันนี้ คงไม่ได้ไปร่วมสวดมนต์กับเพื่อนๆครับ เพราะเมื่อคืนได้เดินทางมาถึงอุตรดิตถ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อปฎิบัติภารกิจส่วนตัวและจะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯในเช้าวันจันทร์ครับ

ในการเดินทางมาครั้งนี้ ได้รับมอบภารกิจจากระบบที่จะต้องปฎิบัติ 2 เรื่อง คือ

1. อ.สุดใจ แนะนำผู้ป่วยที่อยู่ จ.แพร่ ให้มารักษากับผม ซึ่งรับผิดชอบเขตภาคเหนือ ได้ติดต่อประสานงานกันแล้ว ทราบว่าผู้ป่วยไม่สะดวกในการเดินทางมาหาผมที่อุตรดิตถ์ แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่จะต้องปฎิบัติ ผมจึงตัดสินใจจะขับรถไปรักษาผู้ป่วยที่ จ.แพร่ เอง
2. ผมจะต้องขับรถไปที่ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเหล็กน้ำพี้ เพื่อไปเอาลูกประคำเนื้อดินผสมแร่เหล็กน้ำพี้ ให้ อ.นีโม่ นำไปร้อยเป็นลูกประคำสำหรับเพื่อนๆ รบกวนเพื่อนๆมาช่วยกันทำนะครับ

แจ้งเพื่อทราบ........อิอิ (อันนี้ยืมคุณ Little Duck เค้ามา)

 

ผมมีเรื่องแปลกที่จะเล่าให้เพื่อนฟังอีกแล้วครับ......โปรดติดตาม

1. เมื่อคืนวันที่ 8 ตค.2551 ผมมีอาการเย็นๆวาปๆเข้าไปข้างในบริเวณเหนือข้อมือขวาและต้นคอเฉียงลงมาที่บ่าขวาเล็กน้อย รับรู้ได้ทันทีว่าได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มและจะต้องได้รับมอบหมายภารกิจอีกแน่นอน พอมาวันที่ 9 ตค.2551 ผมได้รับโทรศัพท์จาก จ.แพร่ ว่า อ.สุดใจแนะนำมาขอให้ผมทำการรักษาให้ บังเอิญว่าวันเสาร์อาทิตย์นี้ผมมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนจะต้องไปอุตรดิตถ์พอดี ทั้งที่ไม่ใช่กำหนดกลับ (ปกติจะกลับอาทิตย์เว้นอาทิตย์) เลยนัดแนะจะไปทำการรักษาให้ที่ จ.แพร่ ที่สำคัญ อ.สุดใจ รู้ได้ยังไงว่าผมจะไปอุตรดิตถ์ในวันเสาร์อาทิตย์นี้

2. จากการโทรศัพท์ถึงอาการที่เป็น ทำให้ทราบว่าเป็นเรื่องของกระดูก เป็นงานที่หนักมากๆที่เดียว เหมือนเป็นการท้าทายในการรักษา แต่มาเมื่อวานขณะนั่งรถทัวร์ไปอุตรดิตถ์ ก็มีอาการแปลกๆเหมือนได้รับการติดอุปกรณ์เพิ่มอีก ทราบอีกด้วยว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำการรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูก แต่ยังไม่ได้รับทราบถึงวิธีการใช้อุปกรณ์ คาดว่าอีกไม่นานก่อนทำการรักษา (นัดทำการรักษาในวันอาทิตย์) คงจะทราบวิธีการใช้ เหมือนทุกครั้งที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ จะติดตั้งก่อนแล้วค่อยทราบวิธีใช้ตามหลัง

แจ้งเพื่อทราบอีกแล้วครับท่าน.....

 

"ธรรมะจากต่างดาว ถ่ายทอดโดย อ.สุดใจเขากะลา"

;welcome2
ขออนุญาตรวบรวมธรรมะที่พี่สุดใจได้เมตตาโพสต์ลงในกระทู้นี้
ที่ท่านสอนเรื่องการปฏิบัติธรรม เสียดายที่จะผ่านเลยไปเฉยๆ ครับ
ผมเลยใช้ชื่อเรื่องว่า
"ธรรมะจากต่างดาว
ถ่ายทอดโดย
อ.สุดใจเขากะลา"

ดาวน์โหลดจากลิงค์ด้านล่างนะครับ​

 

วันนี้พยายามพยุงตัวเองออกมานอกบ้าน หลังจากนอนซมอยู่หลาย ๆวัน แล้ว พอเข้ามาในเว็บก็เรื่องต่าง ๆมากมาย มีหลายท่านทั้งที่แสดงตนและไม่แสดงตน แต่ก็ได้แวะเวียนมาเยี่ยมดู บางท่านจินตวดีก็รู้ว่าท่านห่วงใยในฐานะคนสนิทคุ้นเคย ท่านก็ห่วงว่าจินตวดีกำลังยึดติดกับอะไรอยู่หรือเปล่าหนอ คิดว่าจินตวดียึดติดกับตำแหน่งหน้าที่หรือเปล่า ก็ขอแจ้งให้ทราบเลยละกันว่า จินตวดีไม่ได้ยึดติดเลย ก็เน้นเสมอว่า ตำแหน่งได้มาก็มีค่าเท่านั้น เลขหมายได้มาก็มีค่าเท่านั้น เพราะจริง ๆแล้ว มันไม่ได้มีอะไร ไม่มีความสำคัญอะไร อยากจะบอกตรง ๆ ว่า จริง ๆแล้ว ไม่อยากได้ด้วยซ้ำ เคยทำสมาธิบอกขอคืนตำแหน่งแล้วด้วย เพราะว่าขันธ์ห้ามันไม่พร้อม มันคงทำอะไรไม่ได้หรอก ตำแหน่งอะไรเราก็ไม่อยากได้ แต่มันก็แปลกเพราะระบบเขารู้ เขาตอบจินตวดีมาแล้ว เราก็มีความเข้าใจพอสมควร หลายคนไม่รู้จินตวดีเคยถอนตัวมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนแรก ๆ แต่ระบบก็ยังมาตามเราจนได้ เอาตำแหน่งมาให้ถึงที่ เราก็บ่นกับน้องลิตเติ้ลดั๊กว่า เอามาให้เราทำไม เราไม่อยากทำ เราไม่อยากได้ตำแหน่งเลย เพราะฉะนั้นสำหรับท่านที่เข้าใจเราผิดว่าเราหลงกับตำแหน่งหน้าที่ เต็มไปด้วยอัตตานั้น อยากให้ท่านเข้าใจว่า เรานั้นมิได้มีความต้องการในตำแหน่งหรือลาภยศชื่อเสียงเลยแม้แต่น้อย ถ้าท่านทั้งหลายเป็นเรามีชีวิตอยู่กับโรคภัยไข้เจ็บ มีความทุกข์ทรมานดั่งเราเช่นนี้ ท่านจะเข้าใจเราได้เป็นอย่างดีว่าลาภยศชื่อเสียงนั้นจะมีความหมายกับเราแต่อย่างใดหาไม่ เรามีชีวิตแค่ลืมตาดูลมหายใจที่ยังหายได้อยู่แค่นั้น เราอยากจะบอกว่าท่านไม่มีสิทธิตัดสินเราจากมุมมองของท่าน เพราะท่านไม่ได้เป็นเรา อย่างไรก็ตามแม้เราจะตายลงในขณะนี้เราก็ดีใจที่ได้พบพี่สุดใจและโนวาอนาลัย

 

ขออนุโมทนาครับกับธรรมทานอันยิ่งใหญ่......
และขอขอบคุณคุณจิตตานุปัสสนาเป็นอย่างสูงครับที่ได้รวบรวมและนำมาให้เพื่อนๆได้ดาวน์โหลด จักได้นำไปศึกษาและปฏิบัติตาม เพื่อเป็นการลด ละ เลิก และปล่อยวาง ไม่ยึดติดในอุปทานขันธุ์ 5....

ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ
;38;38;38

 

สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ แต่ติดตามข้อความของกลุ่มเขากะลาตลอด พอจะทราบจุดประสงค์และการทำงานของกลุ่มเขากะลาพอสมควร คือผมขอความช่วยเหลือหมอแผ่นอนาคตครับเห็นว่าระบบแต่งตั้งอีกหลายคน ช่วยเหลือคุณตี๋ครับ และคุณรุ่งทิวา ตามลิ้งมีรูปครับ
ผมเห็นแล้วสะเทือนใจมากครับ รับไม่ได้จริงๆแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง
คุณชิงชัย อุดมเจริญกิจhttp://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9510000120698
คุณรุ่งทิวา ธาตุนิยม http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000120985
เห็นว่ามีรูปก็ใช้ได้ และคนอื่นๆอีกถ้าเป็นไปได้ครับ ขอความกรุณาด้วยครับ

 

ภาพบรรยากาศการทำขอขมากรรม

 

ประคำประมวลพลัง

 

โอ้..พระเจ้าจอร์จ..งอมแงมเหมือนกันเลย

เมื่อคืนกลับมาจากประเทศจีน ถึงบ้านประมาณตีหนึ่ง
นอนหลับเมื่อเช้านี้ฝันว่า มีการมาประกาศคะแนนสอบให้ทราบด้วย

จำไม่ได้ว่าคะแนนเต็มเท่าไหร่ แต่เขาบอกว่าคุณสอบผ่านนะ
(แบบคะแนนเกินครึ่งมานิดเดียวเอง) เขาชี้แจงข้อบกพร่องให้รู้ด้วยว่า

1. ร่างกายคุณยังไม่แข็งแรงเพียงพอ (แพ้อากาศตลอดรายการครับ)
2. บางหัวข้อธรรมะที่เรายังไม่ได้สอนคุณ (แต่แอบใส่ไปในข้อสอบด้วย)
คุณยังมั่ว (บอกคนอื่นต่อ)ได้ไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะจิตคุณยังคิดบวก (และปล่อยวาง)
ได้ไม่มากพอ

ก็ดูท่าจะจริงนะครับ เพราะตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง ก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับผมโดยตลอด
ไปกันสองคน อีกคนไม่มีปัญหาอะไรเลย เช่น
- วีซ่าหมดอายุ เลยโดนขูดใต้โต๊ะไป 300 USD
- พอไปต่ออีกเที่ยวบินหนึ่ง ซึ่ง Supplier จองตั๋วให้ ก็พิมพ์ชื่อ-สกุลบางตัวของผมผิด
ก็ติดอยู่สักพัก แล้วก็เคลียร์ได้ อะไรแบบนั้นครับ

และตลอดระยะที่ไปก็เกี่ยวข้องกับเลข 10,11,12,13,22 อะไรพวกนี้ตลอดเลย

เช่น Check In สังเกตดูว่าจะเป็น Counter 13 บ่อยครั้งมาก (ต้องนั่งเครื่องไป-กลับ 4 ครั้ง
และต่อด้วยไปที่โรงงาน Supplier อีก 2 ครั้ง รวม 6 ครั้งหนะครับ)
ห้องพักที่ supplier จองให้ผมก็หมายเลข 1615 (13 อีกแล้ว) ที่นั่งบนเครื่องก็จะเป็นเบอร์ 11 หรือ 10 หรือ 19 อะไรแบบนั้น

 

เมื่อคืนระบบจัดสรร ให้ครอบครัวผมทั้งสาม
ได้เดินทางไปที่เขากะลา 2
ขณะนั่งอยู่บนรถ ผมได้คุยให้ฟังถึงเรื่อง ทะเบียนรถ
ที่เป็นเลขเบิ้ล เช่น 55, 66 จะมาปรากฏให้เห็นตลอดทาง
ซึ่งเป็นการแสดงแบบหนึ่งของมนุษย์ต่างดาว
เพื่อให้เรามั่นใจว่า เขาอยู่กับเราตลอดเวลา
และร่วมทำงานกับเราอย่างใกล้ชิด

ระหว่างทาง ก็พบรถทะเบียนเลขเบิ้ล มาเป็นระยะๆ
มาให้เห็นทีก็เฮฮากันไปเป็นพักๆ
ภรรยาผมบอกว่า อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาก็ได้เพราะตอนนั้นบนท้องถนนรถเยอะมาก
หากจะให้ดูพิเศษต่างจากปกติ ก็ขอให้มากันเป็นกลุ่มๆ 3- 4 คัน

ขาไปนั้นยังกระจายๆกันมา แต่ก็ได้เห็นเลขเบิ้ล ครบทุกเลข
แต่พอขากลับเจอแท๊กซี่ 4 คันจอดติดไฟแดงอยู่ข้างหน้า
ทุกคันล้วนมีเลขเบิ้ล 99 แถมยังเป็นแท๊กซี่สีชมพูเหมือนกันอีกด้วย
ทั้งภรรยาและลูกผม หัวเราะและ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ของเขาแน่จริงๆ
ผมได้แต่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างหลัง

จึงรายงานมาเพื่อทราบครับ

 

เมื่อเช้า คุณธนทรงพรบัญฑร ซึ่งเป็นป้าของคุณ mooing
ได้โทรมาคุยและสอบอารมณ์ เพื่อขอเข้าร่วมเชื่อมระบบ
ผลการสอบอารมณ์ คุณธนทรงพรฯ มีความรู้เรื่องการปล่อยวาง
ได้ในระดับหนึ่ง และมีความขวนขวายที่อยากจะเข้ามาทำงานร่วมกับทางกลุ่มเขากะลา เพื่อช่วยเหลือผู้คนยามเมื่อเกิดภัยพิบัติ


จึงเห็นว่า คุณธนทรงพรฯ มีความพร้อมสามารถเข้ารับการเชื่อมระบบ ได้
แต่ยังไม่สามารถเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ในวันและเวลาที่มีกำหนดให้เชื่อมระบบได้ เพราะอยู่ถึงจังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงให้ขึ้นบัญชี รอเชื่อมระบบไว้ก่อน
หากมีโอกาส เมื่อไร ก็สามารถทำการเชื่อมระบบได้ทันที

จึงแจ้งให้ อาจารย์นีโม่ ได้พิจารณารับคุณธนทรงพรฯเข้าเชื่อมระบบ ในโอกาสต่อไปครับ

 

ภาพบรรยากาศ ณ เขากะลา 2 คืนวันที่ 11 ตุลาคม 2551


เริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็น เวลา 20.00 น.

 

สวดมนต์เย็น นำสวดโดย อาจารย์ไก่