เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

หลายเดือน ต่อมา..ปุกกี้.. บอกว่า อยาก จะพบ พ่อ
ที่ ที่ ใกล้ที่ สุด จากกทม..ที่ มีช่องทางขึ้น ของ พญานาค ขึ้นมาได้
คือ แถว แก่งคอย..อันเป็นแหล่งที่อยู่ ขนาด ใหกญ่ ของ นาค ภูเขา
มี สอง ที่ ตือ..บริเวณ วัด ถ้ำ นาคราช...และ วัด ถ้ำ พระโพธิสัตว์
......................................................................
จากการสำรวจเบื้อง ต้น พบ ว่า..
ที่ วัด ถ้ำพระโพธิสัตว์ เป็น วัด ที่ สวยงาม / สงบ /
มีทางขึ้นลง ของ นาค ขนาดใหญ่..เป็นสระ น้ำใส
ขนาด รัศมี ประมาณ 10 เมตร เป็นวง เกือบกลม
เราจึงเลือกที่ นั่น..เป็น จุดนัดพบ ของ พ่อ นาค และ ลูกนาค
................................................................
ที่กลางสระน้ำใส มี ศาลา สูง จาก น้ำ ประมาณ เมตร ครึ่ง
มีที่ นั่ง เป็น ขอบระเบียงยาว.
ด้านหน้า มีรูปปั้น พญานาค ที่ ท่อนล่าง เป็นงู / ท่อนบน เป็น คน
......................................................................
ให้ ปุกกี้ นั่งในท่าสมาธิ เพชร..ส่วน ผม ก็ นั่ง ทาง ขวา ของ เธอ
พอ เสร็จ ..ก็ ตั้ง จิต.." พญานาคผู้ มีฤทธิ์อันยิ่งใหญ่
.บัดนี้ ..เราพาลูก ท่า น มารอ แล้ว..ขอให้ ขึ้นมาได้.."
.........................................................................
บัดดล..ก็มีแสงสว่างสืทอง..เรืองแสง..นำหน้า มาก่อน..ใต้ น้ำ
แสงสีทอง ค่อยๆๆ จ้า ขึ้น..แต่ก็มองได้ อย่าง สบายและเย็น ตา
ส่วนหัวค่อยๆๆ โผล่ ขึ้นมาแล้ว อย่าง ช้าๆๆ
เป็น พญานาค 7 เศียร ซึ่งแสดง ฐานันดรศักดิ์ ว่า เป็น พญานาค ระดับ สูง
ค่อยๆๆ ลอยสูง ขึ้นมาระดับ สายตา เรา
ขนาดตัว ประมาณต้นตาล ขนาด
หรือ ขนาด ลำตัว เด็ก อายุ6 ขวบ..ตัวน่าจะยาว มากกว่า 7 เมตร..
เพราะ ส่วนที่ ลอย เหนือ น้ำ ขึ้นมา ก็ เกือบ สองเมตร ครึ่งแล้ว
....................................................................
พญานาค โดยทั่วไป จะมีหงอน และ หนวด เครา ค่อน ข้างรุงรัง
ปากกว้าง..ฟันสแห่ยะ..เลยดู ค่อนข้าง จะน่า กลัว
แต่ รังสี แห่งกายที่ เปล่งออกมา..เป็น รังสี แห่ง ความอบอุ่น.
.เป็น รังสี แห่ง ความรัก..ที่ พ่อ จะพึงมี ต่อลูก..บรรยากาศ จึง ดู อบอ่น
...........................................................................

 

พ่อเขาขึ้นมาแล้ว..แล้วลูกเขา..ล่ะ
ก็หันมามอง ..ปุกกี้..ที่ นั่งอยู่ เยื้องหลังไป ทางซ้ายมือ
ก็ทำให้สดุ้ง ด้วย ภาพ อันมหัศจรรย์
จาก ท่า นั่งที่ เป็นสมาธิเพชร..ร่างค่อยๆๆ กลายเป็น ร่างของ นาค.
.ที่ ค่อยๆๆ กลายตัว ..ขดเป็นเกลียว ขนด.
.ชูคอ เสมอ ระดับ เดียวกับ พ่อ นาค ของเธอ
.......................................................................
การติดต่อ ใข้ โทรจิต หรือ เจโทร..เราก็ตั้งจิตฟังด้วย
"..พ่อรู้ว่า ลูกลำบาก..อยู่ข้างล่าง.เจ้า ค่อนข้างซุกซน
ถือ ว่า มีรูปหล่อ..จึงวุ่นวาย มาก เกี่ยว กับ ผู้หญิง..
ทำให้เสียหายทางเพศ และการสมสู่..ที่ไม่ถูกต้อง
ทำกรรมไว้ กับเขาเหล่า นั้นไว้ มาก..
ต่อไป ลูกจะต้อง มาบริหาร ในการปกครอง แทนพ่อ
การจะเป็นผู้ บริหาร ที่ ดี..จะต้องมีจิตใจดี
..............................................................
พ่อส่งลูกมาเกิด เป็น มนุษย์..ก็เพื้อ จะได้ เข้าใจ และมีประสบการณ์ ว่า
มนุษย์ บนโลก..ที่ มีโอกาส ที่ จะ ทำบุญ สร้างบารมี..นั้น เขาทำกันอย่างไร
เพื่อ ต่อไป..จะได้ ทำตัวได้ ถูกต้อง
.................................................................................
ลูกเป็นชายก็จริง..แต่พ่อ เลิอก มาให้เกิด เป็น หญิง.
.ก็เพื่อให้รู้ว่า.การเกิดเป็นหญิง..และเป็นฝ่ายถูกกระทำ โดยชาย นั้น
เป็นอย่างไร..ปวดร้าว แค่ไหน..น่าสงสารแค่ไหน
เมื่อลูกกลับลงมา..และเป็นชาย อย่างเดิม..จะได้ เข้าใจ หญิงได้ ดี ขึ้น
จะได้ ทำตัวให้ดี ขึ้น....นะ.ลูก นะ..พ่อ จะไปล่ะ.
.ขอให้ลูกอดทน..พอได้ เวลา แล้ว พ่อ จะมารับกลับ..."
..........................................................................
หันมา มอง ข้าพเจ้า
"..อ้อ..ท่านมหาฤาษี.ไม่ได้ เจอ
ดูท่านยังสง่า งาม เหมือนเดิม..หวังว่า ท่านคง จะ ประสบความสำเร้
ในสิ่งที่ ปฏิบัติ และสิ่งที่ หวัง..ไว้นะ
ขอฝาก ควบคุม ดูและ ลูก ของเราด้วย..
.ขอความศักดิ์ สิทธิ์ ทั้งหลาย จงคุมครองท่าน ด้วยเทอญ..."
..........................................................................
ข้าพเจ้า"ก็เช่นกัน..ขอให้ ท่านมีความสุข ในการปฏิบัติ
เพื่อการหลุดพ้น เช่นกันเถิด."
หันกลับมามอง.."ลูกสาวของพญานาค
ร่างค่อยๆๆ กลายคัว มาเป้น หญิง สาว เช่นเดิม.น้องไห้ น้ำ ตาซึม
............................................................................

 

นี่เป็นประสบการณ์ ที่หาดูได้ ยาก
ที่ได้ เห็น พญานาค 7 เศียร ปรากกตัว ขึ้นมา ด้วยตาเนื้อๆๆ
และได้ เห็น ว่า คน กลายเป็น นาค
แล้ว จาก นาค กลายเป็นคน อย่างเดิม..ต่อหน้า ต่อ ตาเลยทีเดียว
.........................................................................
การปรากฏ ตัว ของ นาค ที่ ขึ้นมาจาก โลก ใต้ บาดาล
แล้ว แปลงเป็น คน..มาขอรับฟังการเทศ นา..ของ หลวงปู่ มั่นภูริฑัตโต
ที่หลวงปู่ ท่านได้ เขียนเล่าไว้..ในหนังสือ อัตตชีวะ ประวัติ ของ หลวงปู่
เป็นการยืนยันการแปลงตัวของ นาค และ การมีตัวตนของ นาค
นั้นเป็น เรื่อง จริง
.............................................................................

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ deejaimark
<TABLE class=tborder id=post1658050 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> เมื่อวานนี้, 11:03 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#25 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>มังกรบูรพา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1658050", true); </SCRIPT>




</TD></TR></TBODY></TABLE>

มิน่าล่ะครับ คือเห็นอาจารย์บอกว่าตาที่สามผมเปิดแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นผีซักตัว

อ่านข้อความที่น้องบาสโพสต์แล้ว เลยถึงบางอ้อ..นี่เอง หุหุ แสดงว่ากำลัง

ของสมาธิมีส่วนสำคัญ ต่อไปคงต้องเพิ่มการนั่งสมาธิให้มากขึ้น<!-- / message -->


คลายข้อสงสัยของตัวเองเลยคะ ว่่าทำไม? ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มาบอกกล่าวคะ โดนใจ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

กำลังจะมีมวยอีกคู่รึป่าวเนี่ย แรงนะ

 

โอ๊ะ โอ.....มีผู้ตรวจสอบกระทู้ด้วยอ่ะ


ไม่มีอะไรในกอไผ่คะ ขอบคุณคุณเฮง เฮง ที่เป็นห่วง

คุณโอมเค้าล้อเล่น และทักทายกันประสาคนหนิทหนมคะ ขอขอบคุณอีกครั้ง

 

มาอ่าน และ
ขอบคุณ ครับ

 

คุณ โอม มาช่วยกันเขียนจะดีกว่าไหมล่ะครับ น่าจะมีเรื่องดี ๆ เยอะน่ะครับ

 

ขอเล่าบ้างนะคะ หนุ่มหล่อทุกท่าน

มีโอกาสได้ไปที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพโดยบังเอิญมาก ก็ไปเที่ยวธรรมดา ได้อ่านหนังสืออาจาร์สามตาเกี่ยวกับพลังของบัวยอด ก็เลยไปลองดู ง่ะ ไม่รู้สึกแฮะ ก็เลยเปลี่ยนวิธีใหม่ ลองจับดูแล้วหลับตา ทำสมาธิและส่งกระแสจิดอันดีออกไปรอบข้าง ได้ผลแฮะ ใบไม้ร่วงเกรียวกราว เฉพาะต้นที่เรายืนอยู่ข้างใต้ ร่วงจนเพื่อนอีกสองคนที่มาด้วยกันมองอย่างประหลาดใจว่ามันอะไรกัน และงงว่าเราทำอะไร ก็มองบนยอดไม้และมองมาที่เราสลับกันไปมา แบบงงๆ

ส่วนความรู้สึกของเราเอง ณ ตอนที่หลับตา แล้วส่งสาส์นดีออกไป ก็รู้สึกเหมือนได้รับการตอบกลับมา เรายังอ่อนหัดนัก จึงแปลไม่ออก รู้สึกแต่ว่ามันเศร้าเหลือเกิน เศร้าจนเราอยากร้องไห้ และหูแว่วว่าได้ยินเสียงร้องไห้ระงม อึงอลไปหมด ถ้าใครที่เก่งๆ ได้มีโอกาสไปที่นั่น ได้โปรด ไปช่วยพวกเขาหน่อยนะคะ เราเสียใจ ที่เราช่างไร้ความสามารถ เสียใจจริงๆ และขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

มีสมาชิกล่องหนตั้ง 3 คน ทักทายกันหน่อยสิคะ ^^

 

แวะมาอ่านครับ....

เป็นเรื่องที่น่าติดตามมากครับ...

 

ขออภัยคุณโอม


ไม่ได้มีเจตนาป่วน

 

มองโลกในแง่ดี ชีวีมีสุขค่ะ

 

เราเคยเห็นวิญญาณไม่กี่ครั้งเมื่ออายุ 17-18 ต่อจากนั้นไม่เห้นอีกเลย แต่จะสัมผัสสื่อสารด้วยการเขียนทางนิ้วมือมาตลอด จนถึงปัจจุบัน ไม่เคยได้ยินเสียง วิญญาณจะตอบทางการเขียนเหมือน แชต msn ส่วนเราก็คุยด้วยจิต การคิด อยากเห็นเหมือนกันจะได้รู้ว่า ใครสื่อสารกะเรา เพราะที่คุยด้วยนี่ งง ไปหมดว่า ใครคุยกะเรา ถ้าไม่มาให้เห็นในฝัน ก็ไม่รู้

มีใครสื่อกะเทพทางนิ้วมือเหมือนเราบ้างไหมเนี่ยะ

 

วัดพระแท่นศิลาอาสน์

เรื่องต่อไปครับพี่น้อง เรื่อง ถอดกายทิพย์ครับแรก หลังจากเรียนจบ วค. ปี พ.ศ. 2533..........ในระหว่างรอผลสอบบรรจุ ผมก็ได้ไปเล่นดนตรี แถวภาคเหนือ จังหวัดแรกคือ จ. ลำปาง เล่นได้ เพียง 1สัญญา คือ 6 เดือน ก็ย้ายมาเล่นที่ จ. อุตรดิตย์ โรงแรมวิวัฒน์

................................................จังหวัดนี้มีสถานที่น่าท่องเที่ยวคือน้ำตกแม่พลู และมีวัดที่มีความสำคัญวัดหนึ่งคือ วัดพระแท่นศิลาอาสน์วันนี้มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ และเป็นวัดที่มีความร่มรื่นมาก เมื่อย้ายมาเสร็จก็จัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางแล้ว ผมก็ชวนพวกพวกภายในวงดนตรีไปเที่ยววัดกัน
​

 

ถอดกายทิพย์

ออกจากที่พักราว ๆ บ่ายโมง ขับมอเตอร์ไซด์เพียงแค่ 25 นาทีก็ถึงแล้ว วัดพระแท่นดงรัง มีความเงียบสงบ ร่มรื่นมาก ส่วนใหญ่ยังคงเป็นป่าครับ วิวทิวทัศน์สวยงามทีเดียว กราบรอยพระพุทธบาท ผมก็ยังคงนั่งเล่นในวัดต่อ เพราะผมชอบบรรยากาศ ราว ๆ 5 โมงเย็น ก็กลับไปเตรียมตัวเล่นดนตรี

...........................................หลังจากเล่นดนตรีเสร็จราว ๆ ตี 1 ก็กลับมาอาบน้ำอาบท่า วันนั้นรู้สึกว่า ไม่มีความง่วงแม้แต่น้อย ก็เลยตั้งใจว่า จะนั่งสมาธินานหน่อย ว่าแล้วก็เลยกราบพระสวดมนต์ แล้วนั่งขัดสมาธิเพชร

..............................คืนนี้รู้สึกว่ามีสมาธิดีเป็นพิเศษเพราะได้ไปเที่ยววัดมา ยังมีปีติไม่หาย จึงได้จับลมหายใจได้ละเอียด มองเห็นลมหายใจค่อย ๆ ไหลเข้า และออก สามารถตามลมหายใจได้ทุกขณะจิตเลยครับ การจับลมหายใจได้แบบนี้พร้อมกับภาวนา พุทโธ เป็นเหตุให้เข้าได้ถึง ฌาณ 4 ปกติแล้ว ฌาณ 4 นี้ ผมก็เข้าได้บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทุกครั้งน่ะครับ ...........


คืนนี้ดัวยความประทับใจในการไปวัดทำให้เข้าได้เร็ว ขณะที่ตามลมหายใจอยู่นั้น ก็มารู้สึกตัวอีกที่ว่าตัวเองได้มายืนอยู่หน้าวัด ๆ หนึ่ง จำได้อย่างแน่ชัดว่าคือวัดพระแท่นดงรัง วัดที่ผมได้ไปเที่ยวมาเมื่อกลางวันนี่เอง เพราะจำประตูวัดที่มีความสวยงามได้เป็นอย่าง เพียงแต่เป็นกลางคืน มีเพียงไฟหน้าวัดเพียงไม่กี่ดวง แต่ก็สามารถมองเห็นได้ดี

..........................................พอรู้ว่ามายืนอยู่หน้าวัด ก็ดีใจ ก็จะเดินเข้าวัด ก็เกิดเหตุการณ์น่าตกใจและไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นครับ.................................;aa36​

 

ก็แค่ผี ที่ยังมีร่าง

ปรากฎว่า มีแสงสีแดงยิงมายังตัวผม ผมยังทันได้เห็นว่า ที่มาของแสงสีแดง มาจากลูกแก้วที่ราหูอมอยู่ .... ซึ่งรูปราหูนี้อยู่ที่หน้าบันของประตูวัดนั่นเอง .........ในขณะที่แสงมากระทบตัวผม ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บปวดแต่อย่างใด รู้สึกตกใจมากกว่า ........................................การตกใจนี้ ทำให้เกิดการกระชากกายทิพย์ของผมที่ยืนอยู่หน้าวัดให้ลอยละลิ่วกลับมาเข้าร่างที่นั่งสมาธิอยู่ที่ห้องนอน ในการกระชากกลับนี้ ใช้เวลาในการเดินทาง ชั่ว เศษเสี้ยววินาทีก็จริง แต่ผมก็รู้สึกถึงการเดินทางของกายทิพย์จากวัดมาถึงห้องพัก ทำให้ผมมั่นใจว่า นี่เป็นการออกจากร่างของกายทิพย์อย่างแน่นอน...................................................................................เมื่อออกจากสมาธิก็มาพิจรณาว่า ทำไมถึงมีแสงสีแดงจากลูกแก้วหน้าวัดยิงมาที่ผม ทำให้ผมทราบว่า ในการสร้างวัดทุกวัด จะต้องมีผู้ที่มี พระที่มีฌาณแก่กล้า มาอธิฐาน จิตป้องกันวิญญาณเร่ร่อน เข้ามาในวัดอย่างแน่ ๆ .............ในขณะนั้นผมก็คงมีสภาพเป็นแค่วิญญาณดวงหนึ่งเท่านั้น และจะเดินเข้าไปในวัดโดยไม่ได้ขออนุญาติเจ้าที่เจ้าทางอีกด้วย ผมจึงต้องโดนยิงด้วยแสงสีแดงเข้าครับ ท่านได้มีความเห็นอื่น ๆ ก็แนะนำกันได้ครับ ...........................;aa13เรื่องต่อไปผมจะเล่าเรื่อง ..พบวิญญาณเนื้อคู่ในอดีตชาติ ยังไม่ไปเกิด รอผมกลับมาหา มาทำบุญให้ เป็นเวลา ร่วม 400 ปี ที่เชียงใหม่ คืนพรุ่งนี้ครับ
​

 

Thank You

Thank You

Thank You​

 

รอฟังต่ออย่างใจจดจ่อ

ฟังแล้วขนลุกอ่ะค่ะ รอฟังต่อ สนใจมากเลย เรื่องวิญญาณเนื้อคู่ในอดีตชาติของคุณอ่ะ เราก้อกำลังจะไปปฎิบัติธรรมที่เชียงใหม่พอดีเลย มีชื่อมั๊ยอ่ะคะ จะได้ช่วยแผ่ส่วนกุศลไปให้ด้วย ช่วยกันเยอะ ๆ เค้าจะได้ไปเกิดเร็ว ๆ สงสารเค้า ตั้ง 400 ปี รอคุณคนเดียว(cry)

อนุโมทนาให้ไปก่อนเรย

 

แล้วเค้าเศร้ากันเรื่องอะไรอ่ะคะ

ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นที่อุทยานคะ สนใจใคร่รู้ เผื่อช่วยเหลืออะไรได้

 

เห็นจารย์ชยาเล่าถึงจ.ลำปาง ก็มีเรื่องเล่าเหมือนกันคะ


เืมื่อ ต้นปี 2537 ซึ่งเป็นปีที่กำลังจะเรียนจบมัธยมปลาย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องวิ่งหาที่สอบเรียนต่อกัน ตัวเองก็ได้มีโอกาสมาสอบทีวิทยาลัยโยนกที่ลำปาง (สงสัยจะเป็นมหาวิทยาลัยแล้วล่ะ) จำได้ว่ามากันหลายคน มีคุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนขับรถพามา ออกจากอุดรตอนเช้าตรู่ มาถึงลำปางก็เย็นพอดี...

ทีนี้ล่ะ ต้องหาที่พัก ก็แวะเข้าโรงแรมนึงคะ โรงแรมอยู่ติดริมถนนใหญ่ อยู่ระหว่างวิทยาลัยโยนกกัยตัวเมืองลำปาง เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปสอบที่วิทยาลัยโยนกแต่เช้า ประเด็นอยู่ที่โรงแรมคะ จำชื่อไม่ได้ว่าโรงแรมอะไร พอเดินเข้าโรงแรมจะเข้าไปcheck in ขาสั่น เกิดอาการกลัวออกมา คืออาการกลัวผี อย่างสุดๆ (เคยเป็นไหมคะ ตอนเด็กๆ มักจะถูกผู้ใหญ่หลอกให้รีบเข้านอน ไม่งั้นผีจะมาหลอก อาการกลัวอย่างนั้นล่ะคะ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นผีมาก่อน) กลัวมาก ก็เลยบอกคุณพ่อ คุณแม่ของเพื่อนว่า หนู่กลัวผี เราไปพักที่อื่นกันไหมคะ..ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าผีเป็นอย่างไร ก็กลัว......เค้าก็ตามใจคะ พาไปพักในตัวเมืองแทน..
รุ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่เพื่อนก็ มาเล่าให้ฟังว่า ดีแล้วที่เราย้ายโรงแรม เพราะโรงแรมนั้นเพิ่งจะมีคนตายในห้องพัก
หลังจากสอบเสร็จ คุณพ่อคุณแม่เพื่อน ท่านเมตตา พาไปเที่ยวเชียงใหม่ต่อ และได้มีโอกาสขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพเป็นครั้งแรกคะ


สมัยโน้น ตัวเองยังไม่ได้รู้เรื่องของการฝึกสมาธิแต่อย่างใดคะ ไม่สนใจ แต่ก็ชอบไปวัด ไปวัดทีไรจะชอบคิดว่า อยากกินนั่น อยากกินนี่ แล้วก็ได้กินไอ้ที่คิดอยากจะกินคะ อิ อิ อิ อิ แต่ก็ยังไม่สนใจ ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการฝึกแต่อย่างใด เพิ่งจะมาสนใจฝึกก็ประมาณสามปีมานี้เองคะ ....


จบข่าว