โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

โอ้โฮ..เห็นแต่ละท่าน อาบน้ำแข็งแล้วได้ผลและมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น..แล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ...เชียร์ เชียร์ เชียร์..

 

ข้อความของคุณโอมข้างบน จริงแท้แน่นอน

เล่าให้ฟังนะ คืองิ...ประมาณ 2ทุ่มครึ่งผมก็ออกไปเดินทำขนลุกเล่น ก็หายใจยาว...

ถึงลิ้นปี่นั่นแหล่ะ โห! ขนลุกเป็นเม็ด ๆ ตั้งเด่เลย แต่พอเดินไปได้หน่อย รู้สึกเซ็งอ่ะ

ขนลุกน้อยกว่าเดิม.....


เอาใหม่ทีนี้ ลองหายใจสั้นมั่ง...งิงิ ขนลุกตั้งเด่แรงเหมือนเดิม โอ้! สุดยอดมาก

เดินต่ออีกหน่อย..ไรฟะเนี่ย! ขนลุกอ่อนพลังลง เซ้งอีกแระคราวนี้

ตกลงก็เลยต้องหายใจยาวมั่ง สั้นมั่งสลับกันไป เพื่อดึงพลังคุณฑาลิณีขึ้นมา


เดินไปอีกหน่อย..ลองหายใจถี่ขึ้น แต่ไม่ต้องแรง เอาแค่จมูกถึงลิ้นปี่ แนบความ

รู้สึกขึ้นลงให้ชัดเจน เดินไป..เดินไป..ย่ำเท้าไปเรื่อย... อืม..อืม..อืม..



ระหว่างที่หายใจออก แล้วจะหายใจเข้า...ลมมันชิงวิ่งเข้าที่ลิ้นปี่เสียก่อน...

อา..มันวิ่งไปของมันเองนะ ผมเปล่าบังคับ จิตเกือบตามลมไม่ทันแระ คือว่า

เริ่มเป็น AUTO ไม่ต้องบังคับให้เมื่อยจมูก อิอิ...แต่เดิมเคยเดินครึ่งชม. วันนี้

เดินอยู่ 45 นาที...พอเดินเสร็จเข้าบ้าน มันมีอาการนะ มันรายงานผลว่า...


ช่องท้องข้างในและแถวหน้าอก มีความเย็นอยู่ภายใน, ที่สมองคืออยู่ในหัวนั่นแหล่ะ

มีเส้นเย็น ๆ เสียว ๆ (บอกไม่ถูกวุ้ย) วาบ ๆ อยู่ระยะหนึ่ง...สักครู่ โอ้โฮ!

หน้าผากร้อนผ่าว ๆ แผ่ออกมา เหมือนตอนเอาน้ำเย็นราด จบก่อนครับ ง่วง!

 

มีอาการเหมือนเป็นหวัดมาสามวันแล้ว และได้กินใบพลูมาสองวัน ทำให้รู้สึกมึนนิดๆ ในวันแรก และวันนี้วันที่สองที่กิน ไม่สบาย ตัวร้อนผ่าวๆ และปวดหัวใจนิดๆ ไม่ค่อยมีแรง จืดปากจางคอ ปวดหัวเป็นพักๆค่ะ

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


ทานแล้ว ต้องหายใจเร็วๆ สักระยะ เพื่อกระจายตัวยาไปทั่วร่างกาย


ร้อนภายในผ่าวๆ เป็นอาการกุณฑาลิณีขึ้นมามาก แต่ ......

ยังไม่สามารถเปลียนเป็นปราณเย็นได้ อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก ช่วงนี้ เธอเดินน้อย การทำงานของจักรทั่วตัวไม่สมดุลย์

แก้ง่ายๆ เบื้องต้น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น เช็ดหน้า เช็ดหัว โปะหน้าผาก โปะศีรษะ ช่วยเสริมการทำงานของจักรหก และจักรเจ็ด เค้าจะช่วยแปรปราณร้อนเป็นปราณเย็นได้เร็ว

คลายกล้ามเนื้อตา มองไม่โฟกัส ไปยังที่โล่งกว้าง


คลายความรู้สึก นึก คิด ออกกับลมหายใจออกไป เรื่อยๆ







ปวดหัวใจนิดๆ อ่อนแรง

ความเครียดและ อารมณ์ที่สั่งสม ถูกดันออกมาแล้ว


....ไม่ว่าจะเกิดอะไร ให้กัดฟัน หายใจลิ้นปี่เร็วๆ สักระยะ ดูมายาของสิ่งแฝงในร่างกายซีกซ้ายของเธอ ที่เค้ากำลังป่วน....

ถ้าเดินได้ด้วยยิ่งดีมากๆ


กระบวนท่าง่ายๆ ที่สุดแล้ว แค่ เดินแกว่งแขนธรรมชาติ + กัดฟัน+

หายใจเร็วๆ


..............................ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน............................



;aa13;aa24

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ผมมาเที่ยวทะเล ที่บางแสน

ถือโอกาสเดินที่ริมหาด


ตอนแรกพลังอัดแน่นในตัว จะรู้สึกตึงๆ ไม่เบาตัว


พอเห็นขอบทะเล ที่โล่งกว้าง และ กำหนดแผ่อาณาเขตใจไปสุดขอบตา

คงหลายกิโลอยู่ พลังขนลูกบวกกับเมตตาที่แผ่ออกทุกทาง


ทำให้ตัวเบาโหวงทันที เหมือนเมฆที่ลอยกลางท้องฟ้า



................พลังจิตที่พอกพูนอัดแน่นในกาย

หากมากเกิน จะเสริมอัตตา ที่ง่ายต่อการถูกกระทบ และทำลาย

จึงแผ่ออกอย่างกว้างขวาง ในระดับที่พอทรงตัวได้


จิตจึงไต่ไปบนสุข เอกัคตา อุเบกขา......


ผมลองเปลี่ยน การวางจิตนิดนึง

เดินๆไป พอผ่อนจิตมาจับที่ขา ฝ่าเท้า เห็นตัววูบๆๆๆๆ ที่แล่นมาจากฝ่าเท้าขึ้นมาขา กำหนดเห็นเกิด _ ดับ ที่เท้า ตามการเดิน เสริมพลังสติ
เห็นการเกิดดับไป ก็สามารถ สร้างความร้อนจากล่างขึ้นบน ล้างกายได้ ( กระแสญาณชำระล้างธาตุขันธ์ ) ตัวจะโปร่ง โล่ง เย็น มาเป็นลำดับ


กายสบาย จิตสบาย เป็นการเสริมฐาน การเจริญสมาธิ วิปัสสนา ไดต่อไป


ไม่ว่าใครจะอยู่กรรมฐานสายไหน............

 

สวัสดีค่ะ
เมื่อวานตอนกลางคืนเข้าเวปไม่ได้...ขอเล่าย้อนนะคะ
สูตร2วันที่8ตอนเช้ามีอาการลังเลไม่อยากอาบน้ำแข็งเหมือนขยาดกลัวน้ำแข็งทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เป็นนะคะ....ตั้งสติกัดฟันราดไปครบ10ขันสั่นต่อเนื่องจนเช็ดตัวก็ยังสั่นหายใจช่วย...มีอาการขนลุก.....
เดินวันนี้คล้ายเมื่อวานเหมือนมีลมเย็นออกมากลางฝ่ามือ...ระหว่างเดินช่วงท้ายมีอาการปวดบ่า...ไหล่...ต้นคอขวาเหมือนเดิมแต่อาการปวดน้อยกว่าเดิม...หายใจเร็วขึ้นรู้สึกจมูกซ้ายโล่ง...เดินต่อไปสักพักอาการปวดต่อเนื่อง
ระหว่างวันที่กำลังสู้กับอาการง่วงนอนเพื่อนโทรมาเรื่องทำบุญ....
ข้อความคุณโอมลอยมาเลยค่ะ....ทำสังฆทาน
ไปอาบน้ำแข็ง+ยาเขียว
...ทำสังฆทานให้กับเจ้าบุญนายคุณและเจ้ากรรมนายเวร
ตอนเย็นออกมาเดินเล่นกัดฟันหายใจเร็วขนไม่ลุกค่ะ
แต่อิ่มใจ..สบายใจอีกแบบ..นึกขอบคุณเพื่อนกับคุณโอมที่ทำให้มีวันดีดีแบบนี้

 

โมทนาครับคุณอภิญญ์

เจ้ากรรมนายเวร หรือ จิตวิญญาณที่มาเกี่ยวเนื่องกับเรา ก็ล้วนทำกรรมต่อกันมา

เราจะขับไล่เค้าอย่างเดียวไม่ได้ บางครั้งที่เค้าขวางเราได้อยู่ เพราะ เหตุแห่งกรรม
ยังไม่เบาบาง หรือ อโหสิกรรม ก็อดทนทำต่อไป ชีวิตย่อมดีขึ้น


สรรพสิ่งล้วน เกิด แล้ว ดับ สลาย จาง คลาย ....

วันนี้ เราใช้หนี้เก่า อดทนสะสมบุญใหม่เรื่อยๆ ชีวิตเราย่อมมีแต่จะดีขึ้น


บางทีจิตเปรต เจ้ากรรมนายเวรฯ แทรกมาตามวาระ เราอาจหิวๆๆๆ ง่วง ไร้สาเหตุ

บางทีจิตยักษ์ เจ้ากรรมนายเวร แทรก เราอาจอาละวาด โมโหอย่างไร้เหตุผล
อยากกินของดิบๆสุกๆ

มีมากมาย ..หลายสาเหตุ


..........เพียงแค่ รู้ แล้ว ปล่อยวาง....

ทาน ศีล ภาวนา เดินเล่นสบายๆ แกว่งแขวนธรรมชาติ หายใจแค่ลิ้นปี่

ทำ(นึก)ภาวนาจน ปิติซาบซ่านขนลุกทั่วตัว..

ต่อเนื่อง เต็มหัว เต็มหน้า

............กรวดน้ำ อุทิศกุศล ทุกครั้งหลังภาวนา และ หลังการเดิน

เพราะ เราถือว่าเป็นการเดินภาวนา เพราะ เดินด้วยสติ รู้แล้วปล่อยวาง


มีอาสิสงส์มาก


ไม่ต้องมีเงิน ก็อุทิศบุญ กุศล ได้ครับ...

 

สูตร 2วันที่ 9
ยังมีอาการขยาดน้ำแข็งเหมือนเดิมค่ะ....ตอนอาบ3ขันแรกยังสั่น
ถึงขัน10อาการดีขึ้น..ไม่สั่นค่ะ
ออกไปเดิน..หายใจเร็วช้าสลับกัน....แต่ไม่แรง
จมูกซ้ายโล่งดี... จมูกขวาเหมือนลมไม่ออก
หายใจเร็วช้าสลับไปเรื่อยๆได้กลิ่นอะไรฉุนๆ
....จามอยู่2-3ครั้ง...ขนลุกที่แขน(รู้สึกจมูกโล่งดี)
อาการเจ็บก็มาช่วงปลายปลายเหมือนเดิมค่ะ
จบการเดินก็แผ่เมตตา........
หลังทานยาเขียวช่วงกลางวันนี้ไม่ง่วง....
ใครใช้อะไรอาสาทำให้หมด
(ถ้าง่วงปุ๊ปเดินปั๊ป....พร้อมกับกัดฟันหายใจเร็วช้าสลับไป...)
รู้สึกอารมณ์ตัวเองดีขึ้นเวลาเดิน..มีอาการเจ็บนิดหน่อย
รบกวนถาม"โยคาวจร" หมายถึงอะไรคะ
กรวดน้ำที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไรคะ(ติดสงสัยค่ะ)

 

สิ่งที่แฝงลึกๆ เริ่มต้านการอาบฯ ได้น้อยลง แต่ยังดื้ออยู่


โยคาวจร หมายถึง ผู้เพียรฝึกฝนตนในเส้นทางศีล สมาธิ ปัญญา


การกรวดน้ำ มีหลายตำรา หลายอาจารย์ (ลองหาดู )



ผมตั้งจิตให้สบาย


กล่าวรวมง่ายๆ ดังนี้

นึกหรือกล่าว อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ พระมหาโพธิสัตว์ทุกพระองค์ เทพ เทวดา พรหม
ทุกชั้นฟ้า ชั้นดิน ( นึกถึงท่านใดที่ศรัทธาเป็นพิเศษก็เอ่ยนามไปเช่น
พระโพธิสัตว์ หลวงปู่ทวด พระแม่กวนอิม
แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระยายมราช ท้าวมหาราชทั้งสี่
ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ในบริเวณณี้ และ ใกล้เคียง
พระสยามเทวาธิราช ฯลฯ เป็นต้น )

ขออาราธนา อัญเชิญ
มาร่วมเป็นสักขีพยาน
ให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำมาจนบัดนี้

จงมีแก่ เจ้าบุญนายคุณ เจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน

ขอให้อโหสิกรรมต่อกัน

และเปิดทางชีวิตให้ดำเนินก้าวหน้าต่อไปทั้งทางโลกและทางธรรม

ด้วยเทอญ สาธุ

 

อาบน้ำสูตร 2 ทำบ้างสลับกันไป แต่อาบน้ำแข็งทุกวันตอนเย็นไม่ได้ทานยาเขียวร่างกายปรับอุณภูมิได้เร็วอาจ อาบเสร็จช่วงนี้มีอาการปวดที่ปลายมือซ้ายและเท้าซ้ายมาก แต่ก็รู้สึกดีเหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบ้างอย่างที่ทำให้เราปวดออกไป ไม่ค่อยมีอาการหิวข้าวเลย มีความรู้สึกอิ่มไม่หิวเหมือนแต่ก่อน นอนหลับสบายไม่ฝันไร้สาระ เหมือนร่างกายเราได้มีการพักผ่อน ไม่รู้สึกเหนื่อยล้า อารมณ์ไม่หงุดหงิดง่าย ถ้าเราไม่ได้ทานสูตรที่ 2 จะเป็นอะไรไหมค่ะ เพราะช่วงเช้าเป็นเวลาที่รีบมากทำอะไรไม่ทันเลย ขอบคุณค่ะ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

เลื่อนเวลาตอนสายหรือเที่ยงก็ได้

ให้สังเกตุสิว่า...ทานสูตรสองแล้ว ร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ร่างกายเป็นไงบ้างตลอดวัน เช่น อิ่มลึกๆในกายในใจไหม ตัวเบาแต่อิ่ม

ไม่ต้องทานมากไหม? การช่วยขับอาการไม่ดีทางกาย ดีขึ้นไหม


ที่ให้ทานหลังการอาบฯตอนเช้า เพื่อเสริมกำลังและอัพเกรดร่างกาย

หลังการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกไปทันที และเสริมการสร้างพลังใหม่


ทำตามสะดวก ปรับได้ ตามความเหมาะสม

แล้วมาเล่า มาถาม เป็นวิทยาทานกันนะครับ สาธุ



หมายเหตุ อย่าประมาท ควรทานยาทุกครั้งหลังอาบ

 

สวัสดีค่ะ
สูตร2วันที่10
วันนี้อาบนำ้ตามปรกติ...มีอาการสั่นหนาวหลังอาบ
ครึ่งแรกระหว่างเดิน...มีลมเย็นเย็นอยู่ที่กลางมือซ้าย จมูกซ้ายหายใจโล่ง
ครึ่งหลังช่วงปลาย...เหมือนเป็นเหน็บชาที่มือขวา...ปวดต้นคอ..บ่าเสียวนิดนิด
ระหว่างวันสังเกตว่า..นั่งเฉยๆจะหลับ ขอใช้สูตรหายใจเร็วช้า+ใครใช้อะไรทำหมด
มีอาการปวดต้นคอกับลมในหู ....ไม่ง่วงแต่สนุกกับการทำงานค่ะ

 

อนุโมทนากับทุกท่านครับ
ช่วงนี้ยุ่งเรื่องงานไม่ค่อยได้เข้ามา post แวะมาบอกยังอาบสูตร1ทุกวันครับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเย็นปกติ ยกเว้นขันสุดท้ายไม่ได้ราดที่ศรีษะแต่ราดตัวศรีษะจะอุ่น ส่วนตอนขับรถฝีเย็บอุ่นทุกวันเมื่อก่อนอาทิตย์นึงเจออุ่น 2-3ครั้ง
ตอนนี้ยังหาใบพลูเขียวไม่ได้ เมื่อก่อนขึ้นรอบบ้านถอนทิ้งหมดแล้ว

 

ตอนนี้อาการอิ่มลึกในกายมีอยู่ไม่หิว รู้สึกว่าท้องอิ่มตลอดเวลา แต่ถ้ากินก็กินได้นิดหน่อย การนอนหลับเหมือนตัวเองนอนหลับเต็มที่ทั้งที่ต้องตื่นเช้า และยังตื่นเช้ากว่าปกติ อาการง่วงนอนไม่ค่อยมีแต่แสบตาบ่อยมาก รู้สึกตัวสบายมากขึ้น อารมณ์เบาสบายไม่มีความเครียดเหมือนเมื่อก่อน สวดมนต์นึกถึงครูบาอาจารย์ทุกครั้ง ทุกวันนี้เป็นอย่างนี้ได้เพราะเรามีครูบาอาจารย์คอยสั่งสอนตลอดเวลาทั้งทางโลกและทางธรรม ชีวิตเดินทางไปอย่างช้า ๆ และเรียบง่าย คิดเสมอสักวันหนึ่งต้องถึงที่หมายปลายทางแน่นอน

 

สวัสดีค่ะ
สูตร2วันที่11
อาบน้ำเช้าตามปรกติ...(ไม่รู้สึกขยาดค่ะ)มีแถมอีก4-5ขัน
ช่วงเดินตอนท้ายๆมีอาการตึงที่ต้นคอ....ไหล่ขวา
เดินต่ออีก15นาที...ก็ยังตึงนิดๆ
เหมือนมีน้ำอยู่ที่หูซ้าย...จับดูก็ไม่มี
ขนลุกที่แขนกับขาได้2-3ครั้ง
สังเกตุดู..ที่สะบักขวาไม่ปวด
ช่วงกลางวันหลังทานข้าวยังมีอาการง่วงนั่งกัดฟันหายใจเร็วช้าได้5นาทีค่อยยังชั่วขึ้น.....และไม่มีง่วงอีกเลยค่ะ

 

โมทนา และ นับถือจิตใจที่เข้มแข็ง พากเพียร ของคุณอภิญญ์มากครับ วันหนึ่ง
เมื่อคุณรักษาตัวเองได้ ก็จะเชื่อมั่นในสิ่งที่พระท่านสอนมาก ยากที่ใครจะสั่นคลอนได้

เพราะ ผ่านมาด้วยตนเอง ไม่ต้องกลัวหนี่เสือปะจระเข้ ไม่ต้องถูกใคร หรือ สิ่งใดครอบงำอีก

เมื่อร่างกายแข็งแรง ไร้สิ่งแฝง การปฏิบัติทางจิตที่สูงขึ้น จะสะดวกยิ่งขึ้น


สาธุ สาธุ สาธุ



OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

โมทนา กับคุณ nunapath


ที่ก้าวหน้าเรื่อยๆ ชีวิตเปลี่ยนไป มีตนเป็นที่พึ่งของตน

 

คุณอินเนอร์ สไมล์

ถ้าเปลี่ยนความอุ่น เป็นความเย็นทุกจักร เหมือนมีลมแผ่วๆ เย็นๆ ออกตลอด ทั่วทุกจักร ...........จะเยี่ยมมาก จักระเคลียรสะอาด


คุณ อภิชาน

ลองหาตามร้านขายดอกไม้ ถาม หรือ สั่งเค้าเอามาให้ จะได้อัพเกรด ภูมิต้านทานในร่างกาย และความก้าวหน้าด้านพลังด้านใน

 

เปรี้ยวปากจริงวุ้ย! อดอยากปากแห้ง ขอโพสต์มั่ง

เวลาที่ร่างกายได้รับการซ่อมแซม ใช่แต่รักษาโรคเท่านั้น ยังมีอีกหลายอย่าง

ที่คาดไม่ถึง...นอกเหนือความคาดหมาย....ความเข้าใจ

ขนาดยืนหัวโด่อยู่กลางแดด มันไม่ร้อนนะ ในหัวเย็นฉ่ำเหมือนอมฮอลล์...ซ่าส์

ร่างกายมีปัญหา เจ็บตรงไหน ป่วยตรงไหน ส่วนใดที่ถูกบีบ...เดี๋ยวก็ดีขึ้น

พอดีเมื่อคืนถูกครูบาอาจารย์ เคาะกะโหลก...เคาะถูกที่...แรงด้วย...อิอิ

เห็นว่ามีประโยชน์ เอ้า! อ่านข้างล่างนะ


เวลาเดินลมจากจมูกไปลิ้นปี่ หรือเดินลมทำขนลุก ไม่ใช่ว่า จะทำเฉพาะหลังอาบน้ำแข็ง

หรือกินยาเขียว/ใบพลูอ่ะนะ... ตอนไหนมีเวลา 5 นาที , สิบนาที , เมื่อนึกได้

ต้องทำเลย ทำทั้ง ๆ ที่ลืมตานั่นแหละ ทำได้ทุกที่ทุกเวลา....ให้ฝึกจับลมไว้

เรื่อย ๆ บ่อย ๆ ให้ทำวันละหลาย ๆ ครั้ง นึกได้เมื่อไหร่ให้รีบทำ

ปั๊มลมให้ถี่ ๆ เข้า ถ้าจิตตอนนั้นจับสองจุดไม่ทัน เพราะจิตและลมจะเดินไป

ของมันเอง ให้คงไว้ที่ลิ้นปี่จุดเดียวก็ได้ ปักให้แน่น รับรู้ลมตรงนั้น มองไป

เฉย ๆ มองด้วยสติ พอมันนิ่งปุ๊บ...ซ่าส์...เย็น...โล่งสะบา..ย

 

ขอบพระคุณครับพี่มังกรฯ



พระท่านกล่าวไว้ว่า " ภาวิตา พหุลีกะตา "
ทำให้บ่อยๆ เนืองๆ จนชำนาญ เป็นเอง โดยอัตโนมัติ


ตราบใดมีลมหายใจ ตราบนั้นถ้ามีสติ ก็เป็นภาวนา

เป็นอานาปราณสติ .... เมื่อมีสติรู้ลมจากจมูก- ลิ้นปี่

 

สรุป มาจนถึงวันนี้


ที่เห็นประโยชน์อย่างหยาบสุดของการอาบน้ำแข็งคือ กระตุ้นกุณฑาลิณี ขึ้นมาชำระล้างระบบร่างกาย ถ้าจักรทุกจักรเคลียรแล้วจะ เบา โปร่ง โล่ง เย็น

การทำขนลุก อาศัยกระแสไฟฟ้าชีวะ ในร่างกาย ช่วยไล่สิ่งที่แฝงในกาย

ถ้าทำได้แรงและชำนาญ จะไล่ที่ลึกๆได้ , ทำให้ศูนย์พลังทั่วกายสมดุลย์

การปลดปล่อยพลังของเราเองออกมา ทำได้ดีขึ้น




ประโยชน์ลึกๆมีอีก แต่ ต้องทำเอง

คนที่ทำได้ก็มีแล้ว เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย