ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เรื่องหน้าหนาวแล้วฝนตกทางภาคเหนือเป็นเพียงส่วนน้อยนิดที่ธรรมชาติกำลังบอกมนุษย์คนไทยว่าความผิดปกติต่างกำลังคืบคลานเข้ามาหาเราอย่างช้าๆ
ส่วนพวกเราจะสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้หรือไม่ ลองถามตัวเราเองว่า เราคนไทยจะเลิกทำร้ายธรรมชาติได้หรือไม่ เราจะเลิกทำร้ายกันเองได้หรือไม เราจะเลิกทะเลาะเบาะแว้งกันได้หรือไม่ เราจะรักษาความดีงามกันได้หรือไม่ เราจะให้รอยยิ้มและเมตตาจิตต่อกันได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องรับผลอันหฤโหดจากธรรมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เข้าใจว่าณ.ตอนนี้มีหลายๆคนพยายามจะช่วยกันแก้ไข ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายเหล่านั้นอย่างสุดจิตสุดใจ สาธุ สาธุ

 

วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6602 ข่าวสดรายวัน


พรฮิตคริสต์มาสปีนี้-ขอพ้นภัยศก.



เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 25 ธ.ค. ผู้นำคนสำคัญของโลกออกมาส่งสารอวยพรเนื่องในวันคริสต์มาส ประเด็นหลักกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถดถอย และสงคราม เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ตรัสกับคริสตชนว่า พิษเศรษฐกิจ สงคราม และความขัดแย้งสะท้อนอยู่ในการเฉลิมฉลองคริสต์มาสทั่วโลก ทรงเรียกร้องให้ช่วยกันยุติความเกลียดชังและความรุนแรงในตะวันออกกลาง

ด้านสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงส่งสาส์นจากพระราชวังบักกิ้งแฮมในกรุงลอนดอน ความว่า คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ปีนี้มีเรื่องเศร้าโศกเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะวิกฤตสินเชื่อที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยและคนตกงานจำนวนมาก ทำให้คนเกิดความไม่สบายใจ

นายบารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้อเมริกันชนรวมพลังกันขับเคลื่อนสังคมหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจไปสู่วันข้างหน้าที่สดใสกว่า ขณะที่ประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจัด ผู้นำอิหร่านกล่าวว่า ถ้าหากพระคริสต์ยังมีพระชนม์อยู่ถึงวันนี้คงจะทรงต่อต้านการกดขี่ข่มเหง และการแผ่ขยายอำนาจ

ที่ออสเตรเลีย ประเด็นวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้คนพูดถึงกันกว้างขวางในช่วงวันหยุด ขณะที่ชาวออสเตรเลียต่างไปฉลองกันที่ชายหาด ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ ต่างจากฝั่งซีกโลกเหนือ

ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ถึงแม้ยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจอย่างโซนี่และโตโยต้าของญี่ปุ่นจะเผชิญภาวะดิ้นรนกับวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ดิสนีย์แลนด์ในโตเกียวกลับเฟื่องฟูขึ้น รวมถึงคืนคริสต์มาสที่ผ่านมา เช่นเดียวกับดิสนีย์แลนด์ที่ปารีสทำยอดผู้เข้าเที่ยวได้สูงมาก เพราะผู้คนต้องการลืมความกลัดกลุ้มในเศรษฐกิจช่วงนี้

บริษัทโอเรียนทัล แลนด์ โค. ผู้จัดการดิสนีย์แลนด์ โตเกียว ประเมินว่า เมื่อถึงเดือนมีนาคมปีหน้าจะมียอดผู้เข้าเยือนดิสนีย์แลนด์ในโตเกียวและสวนสนุกในเครืออีกแห่ง รวม 26.5 ล้านคน และยอดทำเงินจะพุ่งเป็นสถิติที่ 4,200 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10

ฮิโรชิ วาตานาเบะ นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันไดวา ในโตเกียว กล่าวว่า ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ผู้คนมักหยุดซื้อรถซื้อบ้าน หรือหยุดแผนไปเที่ยวฮาวาย โดยทดแทนความสุขด้วยการไปดิสนีย์แลนด์แทน ซึ่งสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ทั่วโลกกลายเป็นจุดดึงดูดผู้คนที่ต้องการหลีกหนีจากช่วงเวลาแย่ๆ

ดิสนีย์แลนด์ฮิตสวนทางวิกฤต



เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 25 ธ.ค. ผู้นำคนสำคัญของโลกออกมาส่งสารอวยพรเนื่องในวันคริสต์มาส ประเด็นหลักกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถดถอย และสงคราม เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ตรัสกับคริสตชนว่า พิษเศรษฐกิจ สงคราม และ ความขัดแย้งสะท้อนอยู่ในการเฉลิมฉลองคริสต์มาสทั่วโลก ทรงเรียกร้องให้ช่วยกันยุติความเกลียดชังและความรุนแรงในตะวันออกกลาง

สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงส่งสาส์นว่า คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิม ฉลอง แต่ปีนี้มีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะวิกฤตสินเชื่อที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยและคนตกงานจำนวนมาก ทำให้คนเกิดความไม่สบายใจ

บารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้อเมริกันชนรวมพลังกันขับเคลื่อนสังคมหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจไปสู่วันข้างหน้าที่สดใสกว่า

ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ถึงแม้ยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจอย่างโซนี่และโตโยต้าของญี่ปุ่นจะเผชิญภาวะดิ้นรนกับวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ดิสนีย์แลนด์ ในโตเกียวกลับเฟื่องฟูขึ้น รวมถึงคืนคริสต์มาสที่ผ่านมา เช่นเดียวกับดิสนีย์แลนด์ที่ปารีสทำยอดผู้เข้าเที่ยวได้สูง เพราะผู้คนต้องการลืมความกลัดกลุ้ม

บริษัทโอเรียนทัล แลนด์ โค. ผู้จัดการดิสนียŒ แลนด์ โตเกียว ประเมินว่า เมื่อถึงเดือนม.ค.ปีหน้าจะมียอดผู้เข้าเยือนดิสนีย์แลนด์ในโตเกียวและสวนสนุกในเครืออีกแห่ง รวม 26.5 ล้านคน และยอดทำเงินจะพุ่งเป็นสถิติที่ 4,200 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10 ซึ่งนายฮิโรชิ วาตานาเบะ นักเศรษฐ ศาสตร์ของสถาบันไดวา ในโตเกียว กล่าวว่า ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ผู้คนมักหยุดซื้อรถซื้อบ้าน หรือหยุดแผนไปเที่ยวฮาวาย โดยทดแทนความสุขด้วยการไปสวนสนุก หลีกหนีจากช่วงเวลาแย่ๆ

หน้า 7
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 453 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6602 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


[FONT=Tahoma,]ตำรวจเหล็ก[/FONT]

[FONT=Tahoma,]เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์[/FONT]



[FONT=Tahoma,]<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[/FONT]
[FONT=Tahoma,][/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE>อื้อหือ...กว่าจะเรียนจบมาเป็น "ตำรวจอิรัก" นี่ไม่ใช่ง่ายๆ!

[FONT=Tahoma,]ตอนฝึกก็หนักอ้วกแตกอยู่แล้ว แต่พอถึง "พิธีจบการศึกษา" นั้นยากยิ่งกว่า..[/FONT]

[FONT=Tahoma,]เพราะต้องผ่านด่านโชว์ความแข็งแกร่ง ทำท่าโก้งโค้งเอาก้อนอิฐวางบนหลัง ส่วนข้างล่างมี "มีด" ปักรอจิ้มท้องอยู่..[/FONT]

[FONT=Tahoma,]จากนั้นครูฝึกจะเอาค้อนปอนด์ทุบอิฐเข้าให้เปรี้ยงๆๆ จนแตกละเอียด [/FONT]

[FONT=Tahoma,]ว่าที่นายตำรวจคนไหนยันกายสู้แรงกระแทกไม่ไหว ถ้าทิ้งตัวลงไปก็มีหวังโดนมีดจิ้มพุงกะทิฉึกๆๆ น่ากลัวชะมัดยาด![/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>ตาลิบันปากีฯกีดกันด.ญ.



เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 25 ธ.ค.ว่า นายชาห์ เดอร์ราน ผู้บัญชาการกลุ่มตาลิบัน สายคลั่งลัทธิในปากีสถานประกาศผ่านวิทยุท้องถิ่นผิดกฎหมาย ห้ามทุกครอบครัวส่งเด็กสาวไปโรงเรียน พร้อมข่ม ขู่เอาชีวิตว่า "พวกท่านมีเวลาเหลือแค่ 15 มกราคมนี้ให้หยุดส่งลูกสาวไปโรงเรียน หากเมินเฉยคำเตือนนี้เราจะฆ่าเด็กสาวเหล่านั้น และขอเตือนโรงเรียนด้วย หากที่ใดรับผู้หญิงเข้าเรียน โรงเรียนของท่านจะถูกระเบิดทิ้ง" คำประกาศทางวิทยุดังกล่าวส่งสัญญาณอยู่ในบริเวณพื้นที่หุบเขาสวอต ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ พื้นที่ดังกล่าวมีปัญหามากในด้านการศึกษา

หน้า 7
สื่อนอกตีข่าวทรัพย์สินแม้วหดเหลือ 500 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์อีก 4.2 พัน ล.

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ของสิงคโปร์รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยกำลังตกที่นั่งลำบาก หลังสูญเงินมหาศาลจากการขาดทุนในตลาดหุ้นและการเก็งกำไรน้ำมันในตลาดล่วงหน้า ทำให้มีเงินเหลือแค่ 500 ล้านดอลลาร์ (1.75 หมื่นล้านบาท) พร้อมทั้งระบุว่าก่อนหน้านี้ทักษิณเพิ่งถูกรัฐบาลอังกฤษระงับทรัพย์สินเป็นมูลค่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ เงินจำนวนดังกล่าวประกอบด้วยเงินส่วนตัว 1.4 พันล้านดอลลาร์ เงินลงทุนในตลาดหุ้นล่วงหน้า 40 ล้านดอลลาร์ และเงินในธนาคารสวิส 300 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ทักษิณจำเป็นต้องพิสูจน์แหล่งที่มาของเงินเหล่านี้เพื่อให้เงินหลุดจากการถูกระงับชั่วคราว ซึ่งการที่เขาเป็นผู้ต้องหาคดีคอร์รัปชั่นทำให้เขาไม่สามารถหลุดพ้นจากปัญหานี้ได้แม้จะมีหุ้นในบริษัทต่างประเทศเป็นจำนวนมากก็ตาม
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณเหลือทรัพย์สินเพียง 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้นตนเข้าใจว่าทรัพย์สินที่มีการระบุนั้นเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นในบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น เพราะทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับบริษัทชินคอร์ปฯได้ถูกอายัดทรัพย์ไว้นานแล้ว ส่วนจะขาดทุนจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เป็นเรื่องธรรมดาของการเล่นหุ้น ส่วนข่าวที่ระบุว่ารัฐบาลอังกฤษยึดทรัพย์นั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะการยึดทรัพย์จะต้องมีเหตุผล และมีกฎหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่อยู่ดีๆจะมายึดทรัพย์ได้ทันที และโดยปกติแล้วจะต้องมีความผิดในประเทศนั้นๆ หรือมีการขอความร่วมมือในการอายัดทรัพย์ เช่น การขอความร่วมมือในคดีอาญาโดยเฉพาะยาเสพติดที่รัฐบาลจะมีการทำเรื่องขอความร่วมมือระหว่างกัน แต่ต้องมีความชัดเจนว่าทรัพย์สินเหล่านั้นอยู่ในประเทศนั้นๆจริง จึงต้องร้องขอให้รัฐบาลอายัดทรัพย์สินไว้ก่อน ส่วนความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯนั้น ตนไม่ทราบว่าตอนนี้พำนักอยู่ที่ใด ล่าสุดที่คุยกันก่อนหน้านี้หลายวันทราบว่าอยู่ที่อินโดนีเซีย

กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจที่สุดแห่งปี 2551

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้สำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2551 ในสายตาคนกรุงเทพฯ” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทุกสาขาอาชีพในเขตกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20-23 ธ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 1,206 คน ด้วยคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบแบบสอบถามระบุคำตอบเอง โดยไม่มีข้อคำตอบให้เลือก
สรุปผลว่าข่าวหรือเหตุการณ์ในประเทศไทยที่สร้างความปิติยินดีมากที่สุดในรอบปี เรียงตามลำดับ ข่าวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น ข่าวทรงหายจากพระอาการประชวร และข่าวการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ร้อยละ 22.2 การได้รัฐบาลใหม่ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 21.2 การยุติการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ร้อยละ 11.4 นักกีฬาไทยได้เหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมที่กรุงปักกิ่ง. ร้อยละ 8.9 น้ำมันลดราคา ร้อยละ 5.4 คนไทยน้อมส่งเสด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สู่สวรรคาลัย ร้อยละ 2.0 การออกนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน อาทิ ขึ้นรถเมล์ฟรี และรัฐรับภาระเรื่องการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ร้อยละ 1.9 ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ร้อยละ 1.5 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศร้อยละ 1.3 และอื่นๆ อาทิ ปรากฏการณ์พระจันทร์ยิ้ม เด็กไทยได้เหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ และการไม่โดนให้ออกจากงาน เป็นต้น ร้อยละ 5.5 ทั้งนี้ ร้อยละ 18.7 ระบุไม่มีข่าวหรือเหตุการณ์ใดที่สร้างความปลื้ม ปิติ ยินดีมากที่สุด
ข่าวหรือเหตุการณ์ในประเทศไทยที่สร้างความเศร้าสะเทือนใจมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ การชุมนุมประท้วงยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาล ของกลุ่มพันธมิตร ร้อยละ 26.0 การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ร้อยละ 23.8 การสลายการชุมนุมของตำรวจบริเวณหน้ารัฐสภาและการปะทะกันของกลุ่มต่างๆจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ร้อยละ 19.4 สังคมไทยแตกความสามัคคี มีการแบ่งฝ่าย ทำให้เกิดการขัดแย้งกันทางความคิด ร้อยละ 12.5 การมีรัฐบาลที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องมากกว่าประเทศชาติ ร้อยละ 5.3 ข่าวความไม่สงบใน 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 4.1 เศรษฐกิจตกต่ำ การเลิกจ้าง การขึ้นราคาสินค้ ร้อยละ 3.7 และอื่นๆ อาทิ กรณีปราสาทพระวิหาร การชุมนุมประท้วงของกลุ่ม นปช. เป็นต้น ร้อยละ 4.5 และร้อยละ 0.7 ไม่มีข่าวหรือเหตุการณ์ในประเทศไทยที่สร้างความเศร้าและสะเทือนใจมากที่สุด
บุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่มีพฤติกรรมน่าชื่นชมยกย่องมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ สมจิตร จงจอหอ และทีมนักกีฬาไทยที่คว้าชัยชนะในโอลิมปิกเกมที่กรุงปักกิ่ง ร้อยละ 15.8 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 8.3 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร้อยละ 5.3 ทหาร ตำรวจที่ประจำอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 4.1 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ร้อยละ 3.0 ทหาร ร้อยละ 2.6 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 2.5 ตำรวจ ร้อยละ 2.0 กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร้อยละ 1.8 นายสมัคร สุนทรเวช ร้อยละ 1.5 นักเรียนไทยที่ชนะการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ร้อยละ 1.4 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ร้อยละ 1.2 อื่นๆ อาทิ ปู่เย็น ศาลรัฐธรรมนูญ และทีมจัดงานพระราชพิธีพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เป็นต้น ร้อยละ 18.9 และร้อยละ 31.6 ระบุไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่มีพฤติกรรมน่าชื่นชมยกย่องมากที่สุด
บุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่มีพฤติกรรมน่าผิดหวังมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร้อยละ 31.1 ทั้งกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มนปช. ร้อยละ 13.8 นักการเมืองไทย ร้อยละ 11.5 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 7.9 กลุ่มนปช.ร้อยละ 7.8 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ร้อยละ 7.0 นายสมัคร สุนทรเวช ร้อยละ 4.1 ตำรวจ ร้อยละ 1.3 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 1.2 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 1.0 พรรคพลังประชาชน ร้อยละ 1.0 อื่นๆ อาทิ หมอดูกฤษ นายนพดล ปัทมะ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายสราวุฒิ มาตรทอง เป็นต้น ร้อยละ 6.5 และไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่มีพฤติกรรมน่าผิดหวังมากที่สุด ร้อยละ 5.8
เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดสำหรับประเทศไทยในปี 2552 ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และการว่างงาน ร้อยละ 69.1 ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองและการใช้ความรุนแรงในการชุมนุมของฝ่ายต่างๆ ร้อยละ 26.4 ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 1.0 อื่นๆ อาทิ ปัญหาโจรกรรม ปัญหาสังคม และปัญหาครอบครัวอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจ ร้อยละ 3.2 และไม่มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดสำหรับประเทศไทยในปี 2552 ร้อยละ 0.3

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>พบซากพยูนเพิ่มที่ทะเลตรังอีก

เผยปีนี้พบแล้ว 3 ตัว

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจาก นายอะเบ็น สักหลาด อายุ 52 ปี ชาวประมงพื้นบ้านหมู่ที่ 6 บ้านหาดยาว ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง ว่า ขณะที่ตนเองพร้อมลูกเรือได้ออกทะเลหาปลา โดยล่องไปตามคลองบ้านพร้าว บริเวณแหลมจุโหย หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง ได้พบซากพยูนตายในลักษณะท่อนหางติดอวนลากปริงของชาวบ้าน จึงช่วยกันนำซากพยูน พร้อมอวนลากปริงขึ้นมาเหนือน้ำ แล้วเอาขึ้นเรือประมงนำมาขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเทียบเรือหาดยาว พร้อมทั้งได้โทรศัพท์แจ้งประสานไปยัง นายสมชาย พ่วงบุรี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 6 บ้านหาดยาว ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ตำบลเกาะลิบง ให้เดินทางมาช่วยทำการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า เป็นเพศเมีย อายุ 3 ปี มีความยาว 2.44 เมตร วัดรอบตัวได้ 1.73 เมตร หนักประมาณ 300 กิโลกรัมเศษ สภาพซากยังสมบูรณ์ คาดว่าน่าจะตายมาแล้วประมาณ 1 คืน พร้อมทั้งส่งมอบซากพยูนให้แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมต่อไป เพื่อส่งมอบให้มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย เขตการศึกษาตรัง พิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป
สำหรับบริเวณพื้นที่แหลมจุโหย จุดที่พบพยูนตายตัวล่าสุดนี้ ถือเป็นแหล่งอาศัยที่สำคัญของพยูนฝูงสุดท้ายในท้องทะเลตรัง โดยในปี 2551 จากรายงานข่าวพบว่า มีพยูนตายลงไปแล้ว 3 ตัว โดยตัวแรกเป็นพะยูน เพศผู้ อายุประมาณ 3 ปี มีความยาว 1.61 เมตร และมีน้ำหนัก 96.5 กิโลกรัม พบซากที่บริเวณชายฝั่งหมู่ที่ 5 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา ส่วนสาเหตุการตายคาดว่าน่าจะเกิดมาจากเครื่องมือประมง ตัวที่ 2 เป็นพะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 2-3 ปี มีความยาว 1.52 เมตร และมีน้ำหนัก 61.5 กิโลกรัม พบซากที่บริเวณชายฝั่งตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ ส่วนสาเหตุการตายคาดว่าน่าจะเกิดมาจากเครื่องมือประมงเช่นกัน และพยูนตัวล่าสุดที่ตายลงในปีนี้ถือเป็นตัวที่ 3 แล้ว ในขณะที่จำนวนฝูงพะยูนของจังหวัดตรังในปัจจุบันมีตัวเลขไม่ชัดเจน แต่คาดว่าจะยังหลงเหลืออยู่ประมาณ 100-120 ตัว

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ผบช.ภ.3ขยายผลจับแก๊งปลอมธนบัตรกลางกรุง

พร้อมของกลางอุปกรณ์การผลิต

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวาดล้างเครือข่ายปลอมแปลงธนบัตรปลอมรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายวิทยา หรือเจ๋ง บัวรอด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ 2 ต.หนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี นายสนอง หรือไมค์ เงินจันทร์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 4 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก และนายดำรงชัย หรือเด มะยมหิน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 359/4 หมู่16 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมด้วยของกลางอุปกรณ์ในการผลิตธนบัตรปลอม จำนวน 17 รายการ ประกอบด้วย ธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 46 ฉบับ กระดาษชนิดมันที่ใช้ผลิตธนบัตรปลอม จำนวน 800 แผ่น แผ่นแถบสะท้อนแสง จำนวน 1 แผ่น แท่นพิมพ์จำนวน 2 แท่น , แผ่นเพลท สำหรับทำแม่พิมพ์ จำนวน 2 ม้วน แผ่นเพลทตัวอย่างที่จัดทำพิมพ์เรียบร้อย จำนวน 20 แผ่น แผ่นเพลทรูปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 3 ภาพ ที่ใช้สำหรับปลอมธนบัตรใบละ1,000 บาท จำนวน 1 แผ่น เครื่องอัดเพลท จำนวน 1เครื่อง เครื่องประมวลผล จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 ชุด ปริ๊นเตอร์สี จำนวน 2 เครื่อง สีกระป๋องที่ใช้พิมพ์ธนบัตร ประกอบด้วย สีม่วง สีแดง สีขาว สีดำและสีเหลือง จำนวน 5 กระป๋อง, ที่รองกระดาษ และกาวทาเพลท โดยตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา โดยการนำของ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผบก.ภ.นครราชสีมา, พ.ต.ท.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน, พ.ต.ท.พงษ์ชิต พุ่มชุมพล รอง ผกก.(ป.)สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ช่วยราชาการตร.ภาค 3,พ.ต.ท.มนัส ชมเชย สารวัตรกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและ พ.ต.ท.สุรดิษฐ์ พิมพ์เจริญ สวป.สภ.จักราช จ.นครราชสีมา และกำลังตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขณะร่วมกันลักลอบผลิตธนบัตรปลอมที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก ตั้งอยู่เลขที่ 4032/2 ถ.จตุรทิศ เขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายธงชัย ประเสริฐ พร้อมของกลางธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 46 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าภายในรถกระบะ ที่บริเวณ 3 แยกตลาดแค ต.ตลาดแค อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา จากนั้นตำรวจได้ขยายผลติดตามจับกุมตัวนายสัญชิต เทศนา ผู้ต้องหาร่วมแก๊งค์ได้ที่ห้องพักภายในแฟลตดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยนายสัญชิตฯซัดทอดว่ารับของกลางธนบัตรปลอมทั้งหมดมาจากโรงพิมพ์เอ็มบางกอกฯ
นายดำรงชัย หรือเด มะยมหิน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนร่วมกับกับพวกปลอมแปลงธนบัตรปลอมตนเองเคยประกอบอาชีพเป็นช่างสแกรนเนอร์ หรือช่างแยกสี ของโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง ก่อนจะออกมาร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมรับจ้างนายทุนคนหนึ่งในกรุงเทพฯลักลอมปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลไทยโดยทำเฉพาะธนบัตรใบละ1พันบาท มานานกว่า 4 เดือน โดยอาศัยโรงพิมพ์เอ็มบางกอกฯเป็นแหล่งผลิตซึ่งมีนายนายสนอง หรือไมค์ เงินจันทร์ ผู้ต้องหาอีกรายที่ถูกจับกุมเป็นเจ้าของ และจะผลิตธนบัตรปลอมออกมาตามใบสั่งของลูกค้าโดยจะจำหน่ายธนบัตรปลอมใบละ1,000 บาท ในราคาใบละ 200 บาท โดยที่ผ่านมาสามารถผลิตธนบัตรปลอมส่งให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า10,000 ฉบับ ก่อนจะมาถูกจับกุม
ด้านพล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจ สภ.โนนสูง สามารถจับกุมตัวนายธงชัย ประเสริฐ นายสมบัติ บุญจรัญ และนายสัญชิต เทศนา เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณแยกตลาดแค ต.ตลาดแค อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ขณะนำธนบัตรใบละ 1,000 บาท ไปซื้อสินค้าและถูกจับกุม ก่อนจะทำการขยายผลจับกุมเครือข่ายซึ่งเป็นโรงงานผลิตธนบัตรปลอมได้ทั้งหมดในพื้นที่ กทม. ส่วนเครือข่ายแก๊งปลอมธนบัตรที่จับกุมได้ครั้งนี้ผู้ต้องหาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายผลในการจับกุมนายทุนที่บงการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบหมดแล้วว่ามีใครร่วมขบวนการบ้าง และจะเร่งติดตามจับกุมเครือข่ายทั้งหมดให้ได้โดยเร็วที่สุด

วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6600 ข่าวสดรายวัน


น้องโฟม สาวน้อยไอเดียปิ๊ง สร้างเขื่อน"น้ำกั้นน้ำ"แก้น้ำท่วม

คอลัมน์ ไอคิวทะลุฟ้า



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>"นํ้ากั้นน้ำ" แนวคิดหนึ่งเพื่อป้องกันน้ำท่วม น่าจะมีที่มาจากสำนวนไทย "เกลือจิ้มเกลือ"

นั่นก็คือ เมื่อน้ำจะท่วมก็ใช้น้ำเป็นตัวป้องกันน้ำท่วม

ความคิดเรื่อง "น้ำกั้นน้ำ" นี้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะประสบความสำเร็จได้รับคัดเลือกเป็นโครงงานวิทยาศาสตร์ไปแข่งขันที่ศูนย์แรคแซม ประเทศมาเลเซียมาแล้ว และได้รับความสนใจมาก

น้องโฟม น.ส.กฤษฎี เทศประพีป์ นัก เรียนโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา นักเรียนทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) คิดค้นแนวคิดนี้ขึ้นมา เพราะมองเห็นว่าปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายอย่างมาก

เมื่อเกิดน้ำท่วมแต่ละครั้ง อุปกรณ์เบื้องต้นในการป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าบ้านเรือนหรือพื้นที่ต่างๆ คือ "กระสอบทราย" ซึ่งกั้นน้ำได้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งการขนบรรทุกทรายจากที่ต่างๆ มาบรรจุกระสอบทำเป็นเขื่อนกั้นน้ำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

โฟมจึงคิดว่า จะดีกว่าไหมถ้าในภาวะน้ำท่วมเราจะใช้สิ่งที่มีอยู่รอบๆ ตัวมาทำเขื่อนกั้นน้ำแทนกระสอบทรายได้ โดยมีประสิทธิ ภาพในการป้อง กันน้ำสูงกว่า เมื่อมองไปรอบๆ ตัว ก็เห็นเพียงสิ่งเดียวคือ "น้ำ"

ด้วยลักษณะเด่นของน้ำที่จะเปลี่ยนรูปร่างไปตามรูปทรงของภาชนะที่บรรจุ ทำให้โฟมเกิดแนวคิดว่าหากนำน้ำที่มีคุณสมบัติเป็นของเหลวไหลมาบรรจุในถุงพลาสติก น้ำจะไหลอย่างอิสระกระจายไปตามบริเวณต่างๆ ภาย ในถุงพลาสติกซึ่งมีความยืดหยุ่น เมื่อวางถุงเรียงซ้อนทับกันก็จะแทรกไปปิดช่องว่างระหว่างถุงแต่ละถุง ทำให้สามารถกั้นน้ำได้ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีช่องว่างให้น้ำแทรกตัวผ่านเข้าไปได้เลย

ส่วนกระสอบทรายที่ใช้กั้นน้ำท่วมในปัจจุบัน ลักษณะการบรรจุทรายในกระสอบจะค่อนข้างแน่นและเต็มไปด้วยทราย ทำให้กระสอบทรายมีรูปร่างที่แน่นอน ทรายจึงไม่สามารถกระจายภายในกระสอบทรายได้ เมื่อจัดเรียงกระสอบทรายเพื่อกั้นน้ำ จึงเกิดช่องว่างระหว่างกระสอบทราย ประสิทธิ ภาพในการกั้นน้ำจึงน้อยกว่าถุงน้ำข้างต้น

แต่ปัญหาคือ ในภาวะน้ำท่วมแรงดันของน้ำที่หลากมานั้นย่อมมีมากกว่าปกติ ถุงน้ำที่วางเรียงกันเฉยๆ จะต้านไหวหรือ

โฟมจึงต้องเพิ่มแนวคิดในการสร้างเขื่อน โดยอาศัยหลักการของเขื่อนที่ว่า ความดันน้ำตรงฐานใต้สุดจะมีค่ามากที่สุด และออกแบบโครงเขื่อนให้มีฐานกว้างเพื่อรับแรงดันน้ำได้ และเป็นเขื่อนแบบถอดชิ้นส่วนประกอบได้ สามารถใช้งานได้ทั้งในการใส่ถุงกั้นน้ำ เพิ่มความยาวของเขื่อนได้อย่างไม่จำกัด และไม่มีการใช้นอตที่ทำให้ถุงน้ำเสียหาย

วัสดุที่โฟมนำมาใช้คือ "ท่อพีวีซี" ซึ่งทำให้เขื่อนนี้กลายเป็นเขื่อนประดิษฐ์ที่เป็นกรอบคงรูปให้กับถุงน้ำได้ ขณะเดียวกันเคลื่อนย้ายสะดวก และพร้อมจะประกอบได้ทุกเมื่อทุกสถานที่

การทำถุงน้ำเพื่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำนี้ ไม่ใช่ว่าจะใช้ถุงอะไรก็ได้ การเลือกชนิดและขนาดของถุงมีผลต่อความแข็งแรงของเขื่อนน้ำนี้เช่นกัน โฟมทดลองประสิทธิภาพของถุงแบบต่างๆ พบว่าเขื่อนที่ทำจากถุงพลาส ติกทนความร้อน PP (Polypropylene) จะมีประสิทธิภาพกั้นน้ำได้ดีกว่าถุงพลาสติกทนความเย็น PE (Polyethylene) เนื่องจากลักษณะของเนื้อถุงพลาสติกทนความร้อนมีความหยาบและเหนียวกว่าถุงพลาสติกทนความเย็น ทำให้มีแรงเสียดทานระหว่างถุงต่อถุงและทนแรงดันน้ำได้มากกว่า ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการกั้นน้ำที่ดีกว่าตามมาด้วย

โฟมใช้เวลา 3 เดือนในการสร้างเขื่อนน้ำจำลองนี้ โดยทดลองสร้างเขื่อนด้วยท่อพีวีซีเพื่อหาโครง สร้างเขื่อนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และประสบความสำเร็จในที่สุด เมื่อเขื่อนที่มีโครงสร้างเป็นท่อพีวีซีซึ่งเต็มไปด้วยถุงพลาสติกทนความร้อนที่บรรจุน้ำอยู่ภายในสามารถป้องกันน้ำได้จริง โดยควรใช้ถุงน้ำปริมาตร 1500, 2,000 และ 2,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร สามารถกั้นน้ำไม่ให้น้ำรั่วออกมาจากเขื่อนได้มีประสิทธิภาพมากกว่าถุงขนาดใหญ่กว่า โดยอย่าใส่น้ำจนเต็มถุง คือต้องเหลือที่ว่างไว้เล็กน้อยเพื่อให้น้ำกระจายเรียงซ้อนทับกันในแต่ละถุงได้

คนที่จะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมที่เธอคิดค้นนี้มากที่สุดคือชาวบ้านและชุมชนนั่นเอง เพราะสามารถนำไปพัฒนาเขื่อนประดิษฐ์ "น้ำกั้นน้ำ" ซึ่งทำได้ง่าย ราคาไม่แพง และทำเองได้ในทุกชุมชน

[FONT=Tahoma,]หน้า 24[/FONT]
ภูเขาไฟ

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ภูเขาไฟทำไมถึงเป็นภูเขาไฟครับ

โจอี้

ตอบ โจอี้



ความรู้ว่าด้วยภูมิศาสตร์ กายภาพ โดย อ.ลักษณา สัมมานิธิ ภาควิชาภูมิทัศน์และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อธิบายว่า ภูเขาไฟ (Volcano) คือ ภูเขาที่เกิดขึ้นโดยการปะทุของหินหนืดร้อน แรงดันสูงภายใต้เปลือกโลก แล้วปรากฏตัวเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งทางภูมิศาสตร์ นอกจากนั้นการเคลื่อนที่เข้าหากันของแผ่นทวีปทำให้เกิดแนวมุดตัวของแผ่นทวีปหนึ่งเข้าไปอยู่ใต้แผ่นทวีปหนึ่ง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ภูเขาไฟได้เช่นกัน

ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภูเขาไฟ ได้แก่ ทฤษฎีพลูม (Plume Theory) โดยเจสัน มอร์แกน กล่าวว่า การเกิดภูเขาไฟระเบิดเกิดจากจุดศูนย์รวมความร้อน หรือเรียกว่า พลูม เกิดการถ่ายเทพลังงานของมวลที่แข็งและร้อนในชั้นของเปลือกโลกแมนเทิล ซึ่งเป็นชั้นหินหลอมเหลวใต้เปลือกโลก ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดภูเขาไฟและภูเขาไฟระเบิด

ทั้งนี้ จำแนกปรากฏการณ์ภูเขาไฟได้เป็น 2 ประเภท คือ ปรากฏการณ์ภูเขาไฟภายใน เกิดจากหินหลอมละลายภายใต้เปลือกโลกเกิดแรงกดดันมากขึ้นจึงไหลแทรกตัวขึ้นมายังเปลือกโลก ลักษณะภูมิประเทศของปรากฏการณ์ภูเขาไฟประเภทนี้เมื่อเกิดขึ้นจะไม่สามารถเห็นปรากฏแก่สายตาเป็นที่เด่นชัดเนื่องจากเกิดภายใต้เปลือกโลก

และ ปรากฏการณ์ภูเขาไฟภายนอก เกิดจากหินหลอมละลายภายใต้ความกดดันมหาศาลแทรกตัวมาตามรอยร้าวของเปลือกโลก และหินหนืดเหล่านั้นมีก๊าซเข้าไปผสมมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไฮโดรเจน ทำให้เกิดแรงผลักดันมหาศาล เกิดการระเบิดรุนแรง หรือผลักดันให้หินหนืดไหลออกมาตามรอยร้าวของเปลือกโลก

ปรากฏการณ์การระเบิดของภูเขาไฟจึงเกี่ยวกับสภาวะของเปลือกโลกที่ยังไม่มั่นคง แต่ยากจะแยกแยะระดับความรุนแรง เพราะอาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกได้ ภูเขาไฟที่เพิ่งเกิดเมื่อประมาณ 1-2 ล้านปีมาแล้ว มักเกิดโอกาสปะทุได้อีก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผ่นดินไหว ทั้งนี้ การระเบิดอย่างรุนแรงมักเกิดขึ้นในบริเวณที่เปลือกโลกชนกัน ผลของการระเบิดภูเขาไฟจะมีลาวาประเภทหินไรโอไลต์ที่มีลักษณะหนืดข้น เกิดขึ้นพร้อมกับกลุ่มควันของผงฝุ่นและเศษหินภูเขาไฟ (ชิ้นส่วนที่เกิดจากลาวาเย็นตัว)

อย่างไรก็ตาม จำแนกประเภทของภูเขาไฟจากปรากฏการณ์ได้เป็น 3 ประเภท คือ "ภูเขาไฟมีพลัง" หมายถึง ภูเขาไฟที่เคยมีประวัติถูกบันทึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น จัดว่าเป็นภูเขาไฟยังมีพลังอยู่ เช่น ภูเขาไฟเอตนา ในเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี "ภูเขาไฟที่สงบ" หมายถึง ภูเขาไฟที่ไม่เคยถูกบันทึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น และไม่มีการผุพัง จัดว่าเป็นภูเขาไฟที่สงบ มันอาจเกิดการระเบิดเมื่อใดก็ได้ เช่น ภูเขาไฟวิสุเวียส ในอิตาลี "ภูเขาไฟที่ดับแล้ว" หมายถึง ภูเขาไฟที่ไม่เคยถูกบันทึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น เช่น ไม่มีไอน้ำร้อนขึ้นมา หรือไม่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในท้องถิ่นนั้นๆ ภูเขาไฟประเภทนี้จัดเป็นประเภทภูเขาไฟที่ดับแล้ว เช่น ภูเขาไฟหลวง จ.สุโขทัย

กว่าร้อยละ 75 ของภูเขาไฟบนโลกคือ 637 ลูก จาก 850 ลูก ยังมีพลัง และอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า วงแหวนของไฟ ตั้งแต่ตอนใต้ของซิซิลีขึ้นไปทางขอบตะวันตกของอเมริกาใต้ อเมริกาเหนือถึงรัฐอลาสกา โค้งไปยังตะวันออกของเอเชียจากไซบีเรียลงไปถึงนิวซีแลนด์ และที่เหลือร้อยละ 20 คือภูเขาไฟในอินโดนีเซียและญี่ปุ่น หมู่เกาะอาลิวเชียนและอเมริกากลางเป็นเขตที่มีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่ทั้งหมด พบว่าภูเขาไฟมักอยู่ตามขอบของแผ่นทวีป ซึ่งขอบเขตของวงแหวนของไฟเป็นบริเวณขอบทวีประหว่างแผ่นทวีปแปซิฟิกกับแผ่นทวีปโดยรอบมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนภูเขาไฟที่ยังมีพลังอื่นๆ ได้แก่ เขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและเกาะไอซ์แลนด์ อยู่บริเวณขอบแผ่นทวีปเช่นกัน

[FONT=Tahoma,]หน้า 24[/FONT]

</TD><TD vAlign=top align=left>




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD><TD vAlign=top align=left>




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

​

เราต้องสร้างกำลังใจให้ได้เหมือนพระมหาชนกครับ ดั่งคติคำสอนเตือนใจจากทศชาติชาดกเรื่อง"พระมหาชนก"ที่มหาชนกกุมาร ทรงตอบนางมณีเมขลา ขณะที่ทรงแหวกว่ายลอยตัวอยู่ในทะเลนานถึง ๗ วัน ว่า

"ความเพียรย่อมมีประโยชน์ แม้จะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็จะว่ายไปจนกว่าจะถึงฝั่งเข้าสักวันหนึ่ง" "คนที่ทำความเพียรนั้น แม้จะต้องตายไปในขณะกำลังทำความเพียรพยายามอยู่ ก็จะไม่มีผู้ใดมาตำหนิติเตียนได้ เพราะได้ทำหน้าที่เต็มกำลังแล้ว " และ "แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เรา กำลังกระทำนั้นอาจไม่สำเร็จก็ตาม

ถ้าไม่เพียรพยายามแต่กลับหมดมานะเสียแต่ต้นมือ ย่อมได้รับ ผลร้ายของความเกียจคร้านอย่างแน่นอน ย่อมไม่มีวัน บรรลุถึงเป้าหมายที่ต้องการ บุคคลควรตั้งความเพียรพยายาม แม้การนั้นอาจไม่สำเร็จก็ตาม เพราะเรามีความพยายาม ไม่ละความตั้งใจ เราจึงยังมีชีวิตอยู่ได้ในทะเลนี้ เมื่อคนอื่นได้ตายกันไปหมดแล้ว เราจะพยายามสุดกำลัง เพื่อไปให้ถึงฝั่งให้จงได้"

ที่มา http://www.learntripitaka.com/Chadok/Chadok02.html

 

เป็นหนึ่งในอาเพท 16 ประการ ก่อนที่จะเสียกรุงศรีอยูธยาครั้งที่สองครับ

คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพท..... .....อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล.............เกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก....อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง..... ...............ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี..... ...........พระกาลกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกไห้..... ......................อกพระกาลจะไหม้อยู่เกรียมกรม
ในลักษณะทำนายไว้บ่อห่อนผิด..... .เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม............. มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด..... ........เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา................จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
สัปรุษจะแพ้แก่ทรชน..... ...................มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว..... ..................คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูนัก............................. จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ..................... นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย..................... น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า.......................... เพราะจัณฑาลมันเข้ามาเสพสม
ผู้มีศิลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์..... ..........เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท..... ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
อาสัจจะเลื่องลือชา.......................... พระธรรมาจะตกลึกลับ
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ........................ จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์.................... สัปรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
ทั้งอยุศฆ์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปี....ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป..... ...............ผลหมากรากไม้จะถอยรส
ทั้งแพทย์พรรณว่านยาก็อาเพท..........เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด
จวงจันทร์พรรณไม้อันหอมรส..... ......จะถอยถดไปตามประเพณี
ทั้งข้าวก็จะยากหมากจะแพง.............. สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี....................ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
กรุงประเทศราชธานี...........................จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล..... ...........จะสาละวนทั่วโลกหญิงชาย
จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์.......... จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย..... ...............ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ
ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก............... เวียงวังจะรกเป็นป่าเสือ
แต่สิงห์สาระสัตว์เนื้อเบื้อ.................. นั้นจะหลงเหลือในแผ่นดิน
ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย............ จะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
ด้วยพระกาลจะมาผลาญแผ่นดิน...... จะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม
กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้ว................... จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
ไปจบคำรบปีเดือนคืนยาม................ จะสิ้นนามศักราชห้าพัน
กรุงศรีอยุธยาเขษมสุข..................... แสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์
จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์..... .........นับวันจะเสื่อมสูญ เอย

เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา เป็นวรรณคดีสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.๒๑๙๙-๒๒๓๑)

ที่มา http://blogazine.prachatai.com/user/bookgarden/post/994

ลำปางอากาศแปรปรวน"ฝนตกฤดูหนาว"เตือนระวังอุณหภูมิเย็นอีก

ลำปาง 27 ธ.ค.- นายทิวา พันธุ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เตือนประชาชนให้ระวังอากาศแปรปรวน เนื่องจากวันนี้มีฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่เช้ามืดกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งจากการใช้เรดาห์ตรวจวัดพบว่าปริมาณน้ำฝนมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ และท้องฟ้ายังมีเมฆปกคลุม คาดว่าจะมีฝนตกโปรยปรายในช่วง 1-2 วัน จากนั้นอากาศจะเย็นอีกอุณหภูมิลดลง 2–3 องศาเซลเซียส เนื่องจากฝนที่ตกลงมา ประกอบกับจะมีหมอกหนาในตอนกลางดึก และตอนเช้า ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรต้องเพิ่มความระมัดระวังการขับขี่ รวมถึงการดูแลสุขภาพอาจเจ็บป่วยได้ง่ายจากโรคไข้หวัดและปอดปวม.-สำนักข่าวไทย

2008-12-26 09:49:07

ที่มา http://news.mcot.net/local/inside.php?value=bmlkPTcxMDc4Jm50eXBlPXRleHQ=

 

เมื่อสักครู่ตอน 4 ทุ่มกว่าๆ มีฝนตกที่หนองแขมด้วย

 

ถ้าฝันไม่ผิด จาก The Third Eyes​

​

คนกรุงเทพฯ ไม่ได้พบ เคอร์ฟิวมาหลายปีแล้ว เคอร์ฟิว คือ การห้ามออกนอกบ้าน ระหว่าง 18.00-6.00 น เราเคยเจอครั้งสุดท้ายเมื่อ หลายสิบปีมาแล้ว คนรุ่นหลังคงจะไม่ได้เจอ เลยไม่รู้จัก​

ประมาณ กลางๆ ระหว่าง วันที่ 17 หรือ 18 มกราคม เราอาจจะเจอ เคอร์ฟิว เราจะต้องกลับบ้านเลิกงานเร็วขึ้น เพื่อให้เข้าบ้านให้ทัน หกโมงเย็น​

ผลที่จะเกิด​

1. ผู้คนจะแห่เข้าซุปเปอร์มาเก็ต ซื้ออาหารแห้ง ตุนไว้ เพราะตลาด ธรรมดาจะมีปัญหา เปิด ขายไม่ได้ รถขนของวิ่งไม่ได้ ปากคลองตลาด ต้นทางส่งผักจะหยุด ของจะเกลี้ยง ซุปเปอร์มาเก็ต โดยเร็ว โดยเฉพาะพวก มาม่า น้ำปลา อาหารกระป๋อง ฯลฯ

2. อีก 10 เดือน ต่อมาสูตินารี แพทย์จะต้องทำงานหนัก เพราะเด็กจะเกิดมามากผิดปกติ(เพราะเคอร์ฟิว)

เขตที่น่าจะหลีกเลี่ยง ช่วง 23-24-25-26 ม.ค.
สมุทรปราการ ป้อมพระจุล คลองเตย ช่องนนทรี สีลม บางรัก

ผมฝันทั้งนั้น เลยเอาความฝันมาเล่าให้ฟัง อย่าซีเรียสครับ ฝันอย่าเป็นจริงเลย เดี๋ยว..ยุ่งตาย....

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=3906&page=78

<!-- / message --><!-- edit note -->

 

<TABLE class=tborder id=post1758442 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1758442 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ปรากฏการณ์ Crop Circles บนท้องฟ้า
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE class=px15 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>

​

</TD></TR><TR><TD>ขอบคุณที่มา : forwardmail
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1758442")</SCRIPT></TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ปีกซ้ายพร้อม ปีกขวาพร้อม กองหน้าพร้อม กองหลังพร้อม
เต้นท์ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำ ผ้าห่ม ตะเกียง เตา น้ำมัน
หยูกยาพร้อม ผ้าก๊อดผ้าพันแผล ยาดม ยาลมยาหม่องพร้อม

เชื้อเพลิงพร้อม กำลังใจพร้อม ทุกอย่างถูก Setup ไว้แล้ว
ยานพาหนะพร้อม จักรยานพร้อม แมงกะไซค์พร้อม พร้อม...

แต่ตรูข้ามถนนไม่ดูตาม้าตาเรือ โดนรถเฉี่ยว ขาซ้ายเดี้ยง
มือซ้ายเดี้ยง นอนวัดพื้นถนนหลวง คนมุงดูเพียบ ไทยมุง
คนช่วยไม่มีเลยสักคนเดียว ถึงแม้นจะเดี้ยง .. แต่พร้อม

(cry) (cry) (cry)

ทุกอย่างพร้อม เตรียมไว้แล้ว แต่ผมโดนรถเฉี่ยว หมดหล่อ

ปล. ใครที่แช่งผมไว้ ท่านได้สมความปรารถนาแล้ว ในเวลานี้ผมเสียเลือด เสียเนื้อแล้ว เจ็บแล้ว ปวดแล้ว ขอให้ทุกท่านสบายใจ เลือดเนื้อของหล่อลากดิน นอนวัดพื้นถนน เจ็บปวดร่างกาย ถึงแม้นร่างกายของผมจะเดี้ยง แต่ปากของผมยังใช้ได้ .... ขอบคุณทุกๆท่าน ...ขอบคุณที่ทำให้ผมได้เจ็บ ... เจ็บนี้เป็นแต่เพียงร่างเท่านั้น แต่จิตใจของผมนั้นพร้อมแล้ว ... พร้อมที่จะตาย .........หากผมเป็นผี ... ผมจะมาเยี่ยมทุกๆ คน ... ...... ..... ในเวลานี้ ..... ... ... ครับ ท่าน !!

 

ผู้อวยพรย่อมได้รับพร
ผู้สาปแช่งย่อมได้รับการสาปแช่ง
โดยคุณ ดังตฤณ​

​

ถาม – คำอวยพรต่างๆมีผลจริงหรือไม่? จะบังเอิญหรืออย่างไรก็ยากจะเดา คือบางทีเห็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือบางท่าน อวยพรใครแล้วคนนั้นก็มักได้ดีตามปาก ขณะที่บางท่านอวยพรไม่ขึ้น แต่แช่งแล้วได้ผล หากคำอวยพรและคำแช่งเป็นจริง ก็เห็นท่าจะขัดกับหลักที่ว่าคนเราเป็นไปตามกรรม ไม่เป็นไปตามคำคนอื่นกระมัง?

ตอบ - หากจำแนกตามโอกาส คำอวยพรมีอยู่ ๓ ประเภทหลักๆ คือ

๑) คำอวยพรเฉพาะกิจ เช่น ถ้าต้องเดินทางแบบเสี่ยงอันตรายก็ขอให้ไปดีมีสวัสดิภาพ
๒) คำอวยพรตามเทศกาล เช่น อวยพรวันเกิดและวันขึ้นปีใหม่
๓) คำอวยพรไม่จำกัดโอกาส เช่น เมื่อล่ำลากันคนทุกประเทศมักทิ้งคำสุดท้ายให้ญาติมิตรว่าขอให้โชคดีนะ

ในระหว่าง ๓ ประเภทหลักข้างต้น คำอวยพรเฉพาะกิจมีผลมากที่สุด เพราะคนอวยพรรู้จริงๆว่าตนพูดอะไรออกไป ไม่ใช่สักแต่พูดเป็นพิธี เช่นพ่อแม่มาส่งลูกที่สนามบินด้วยความเป็นห่วง คำว่า ‘ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ’ มักไม่ใช่แค่ลมปาก แต่เป็นพลังคุ้มครองชนิดหนึ่ง ส่วนจะมากหรือน้อย จะคุ้มครองได้หรือไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับพลังบุญของผู้พูด และความแรงของวิบากที่ผู้เดินทางต้องประสบ หากวิบากของผู้เดินทางต้องประสบอันตรายแน่ๆ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ คำอวยพรมีพลังช่วยแค่ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ หายนะในการเดินทางก็ต้องอุบัติอยู่วันยังค่ำ

เมื่อจำแนกตามจิตของผู้อวยพร ก็ต้องกล่าวว่าคำอวยพรมีอยู่ ๒ ประเภทหลักๆ คือ

๑) อวยพรออกมาจากจิตที่เป็นกุศล คือมีความปรารถนาดีหวังประโยชน์สุขต่อผู้รับพรจริงๆ ขณะกล่าวอวยพรจิตจะอยู่ในภาวะแผ่เมตตาครู่หนึ่ง ซึ่งจะมีกำลังมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับบุคคล ตัวอย่างที่เห็นง่ายได้แก่พ่อแม่ปู่ย่าตายายอวยพรลูก ถ้าเป็นลูกหลานหัวแก้วหัวแหวนจริงๆ กำลังของเมตตาจิตซึ่งแผ่ซ่านออกมาอย่างล้นหลามจะเป็นที่รู้สึกชัดแก่คนรับ ฟังแล้วชื่นอกชื่นใจ ยิ่งถ้าหากเป็นผู้ทรงคุณใหญ่เช่นพระอริยบุคคลให้คำอวยพร คนธรรมดาทั่วไปฟังแล้วจะสามารถสำเหนียกถึงพลังอบอุ่นยิ่งใหญ่ที่แผ่มาปกคลุมตนและอาณาบริเวณรอบข้าง โดยแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นอุปาทานหรือของจริง

๒) อวยพรออกมาจากจิตที่ไม่เป็นทั้งกุศลและอกุศล คือก่อนพูดและขณะพูดไม่ได้มีจิตปรารถนาดีหวังประโยชน์สุขต่อผู้รับพรสักเท่าใด สักแต่เจื้อยแจ้วตามหน้าที่หรือตามโอกาสบังคับไปอย่างนั้นเอง ตัวอย่างที่เห็นง่ายได้แก่คนแปลกหน้าซึ่งโคจรมาพบและมีปฏิสันถารกันเพียงครู่ ยังไม่มีความประทับใจในกัน หรืออาจจะยังไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยซ้ำ แต่โดยหน้าที่ต้องขยับปากพูดแบบนกแก้วนกขุนทองทำนอง ‘ขอให้โชคดีในการเดินทาง’ อันนั้นจิตคิดปรารถนาดีย่อมเกิดขึ้นยาก (หากผู้อวยพรจะได้บุญก็เป็นเพียงบุญเล็กน้อยอันเกิดขึ้นจากการพูดคำที่เป็นมงคลบ่อยๆ ไม่ใช่บุญที่เกิดจากการมีเมตตาจิต) คุณจะรู้สึกคล้ายกับใครยื่นแก้วเปล่าให้แล้วบอกว่าเอ้า! ดื่มซะ น้ำแก้วนี้ดื่มแล้วจะอิ่ม! และคุณก็อาจไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจ แสร้งหยิบแก้วเปล่ามาดื่มอั้กๆ เสร็จแล้วประชดว่าขอบคุณนะ อร่อยดี หายคอแห้งเลยเนี่ย

ในกรณีผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ให้พรแล้วผู้รับพรได้ดีตามปาก กระทั่งเป็นที่ร่ำลือถึงความมีวาจาสิทธิ์นั้น ผมขอจำแนกเป็นสองประเภท คือ

๑) พรอันเกิดจากความรู้แจ้ง ผู้อาวุโสที่ผ่านโลกมามาก หรือผู้มีอภิญญา ย่อมรู้แจ้งถึงความเป็นฐานะและความไม่ใช่ฐานะ ที่ใครสักคนจะได้ดีตามปรารถนา เช่นนายทหารสักคนกราบขอพรให้ได้เป็นนายพล คนมีสายตาแหลมคม หรือผู้มีญาณหยั่งรู้ ท่านย่อมทราบอยู่ว่าตำแหน่งนายพลสมควรกับตานี่ในเวลานี้ไหม ถ้าสมควร ท่านก็จะให้พร ขอให้สมพรตามปรารถนา แต่ถ้าท่านรู้ว่าจะชวด ท่านก็แค่เงียบๆยิ้มๆ หรือพูดเลี่ยงไปว่าอย่าเอาเลยพร เอาความจริงดีกว่า ความดีที่บำเพ็ญมามีมากแค่ไหนก็ขอให้เผล็ดผลแค่นั้น

๒) พรอันเกิดจากพลังบริสุทธิ์ พลังบริสุทธิ์ในที่นี้หมายถึงพลังที่เกิดจากการสั่งสมเมตตามามากพอจะมีอำนาจบันดาล หรือก่อแนวโน้มเรื่องดีให้เกิดขึ้นจริง มีเงื่อนไขคือผู้รับพรต้องมีวิบากเดิมเป็นทุน คำอวยพรจะมีส่วนเร่งรัดให้เร็วขึ้น หรือขจัดอุปสรรคฝ้ามัวให้สลายลง เปิดทางให้วิบากด้านดีสัมฤทธิ์ผลโดยปราศจากความติดขัด ทำนองเดียวกับเศรษฐีมีบริวารมาก ย่อมสามารถสั่งคนของตนให้ไปช่วยรื้อถอนแนวป่ารก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ชาวบ้านผู้อ่อนแรงอ่อนกำลัง อย่างไรก็ตาม การช่วยถางทางรกไม่ได้หมายถึงช่วยแบกหาม คนเดินต้องเดินเองอยู่ดี ถ้าไม่มีกำลังเดินก็ต้องหยุดพักรอไปก่อน อีกประการหนึ่ง ผู้มีพลังบริสุทธิ์ไม่ใช่หาง่ายๆ โดยมากต้องบำเพ็ญคุณงามความดี ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากมาหลายสิบปี หรือเป็นผู้ทรงฌาน แผ่เมตตาระดับไม่มีประมาณไปทั่วอนันตจักรวาลได้ หรือเป็นอริยบุคคลที่บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสแล้วสิ้นเชิง ฉะนั้นชั่วชีวิตคนทั่วไปยากจะมีประสบการณ์รับคำอวยพรแล้วได้ผลทันตาน่าทึ่ง

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอย้ำว่าหากฝ่ายของผู้รับพรไม่มีเหตุปัจจัยอันเหมาะสม ต่อให้คำอวยพรของพระอินทร์หรือท้าวมหาพรหมก็ไม่มีทางสัมฤทธิ์ผลได้ เช่นคนไม่มีงานทำ ไม่มีความรู้ ไม่มีเงินทุน แต่ขอให้ได้รวยร้อยล้าน เงินร้อยล้านจะถูกเนรมิตมาแต่ไหน ในเมื่อระบบการเงินในโลกต้องมีทางมาทางไปที่สมเหตุสมผล คนต้องทำธุรกิจ ต้องขายของ ของต้องเป็นที่นิยมและจำหน่ายไปสู่คนจำนวนมาก หรือต่อให้คิดรวยทางลัดอย่างซื้อล็อตเตอรี่ ก็ต้องลงทุนซื้อแพงๆและถูกรางวัลที่ ๑ ซึ่งคำอวยพรใดๆก็ไม่มีอภิสิทธิ์ไปตัดหน้าบุญของผู้มีสิทธิ์จริงๆในแต่ละงวด

กรณีที่บางคนอวยพรไม่ขึ้น แต่กลับแช่งแล้วได้ผลสำเร็จนั้น ก็เป็นไปได้ครับว่าผู้นั้นมีเหตุปัจจัยคือ

๑) เป็นผู้ไร้ศีลบางข้อแต่มีสัตย์สมบูรณ์ เช่นยังฆ่าสัตว์เป็นนิตย์ ยังกินเหล้าเป็นอาจิณ จึงไม่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์พอจะอำนวยพรให้ใครได้ดีถนัดนัก อย่างไรก็ตาม เขาเป็นผู้รักษาสัตย์ยิ่งชีพ พูดคำไหนเป็นคำนั้น ไม่เคยบิดพลิ้ว ไม่เคยเบี้ยวสัญญาใคร ไม่เคยโกหกหลอกลวงหวังประโยชน์ส่วนตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเคยมีเรื่องพิสูจน์ใจหลายครั้ง เขายอมทนลำบากหรือเสียผลประโยชน์เพียงเพื่อรักษาคำพูด คนประเภทนี้จะมีจิตใจแน่วแน่ หนักแน่น และเฉียบคม เมื่อถึงจังหวะมาประกอบกับโทสะ หลุดคำสาปแช่งศัตรู ก็มักมีพลังลึกลับไปกระทำศัตรูให้เกิดความเดือดร้อนในทางใดทางหนึ่งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าศัตรูเป็นฝ่ายทำร้ายเขาก่อน กับทั้งศัตรูเป็นผู้ไม่มีบุญญาธิการคุ้มครอง คำแช่งจึงมักสัมฤทธิ์ผลเร็วราวกับเล่นไสยศาสตร์

๒) เคยมีบุญคุณกับคนโดนสาปแช่ง และอ้างบุญคุณนั้นเป็นตัวตั้งในการสาปแช่ง เช่นพ่อแม่ทนเคียดแค้นลูกจอมไถและทำร้ายร่างกายตนไม่ไหว โพล่งบ่อยๆทำนองเลี้ยงให้โตมายังเนรคุณอย่างนี้ก็ขอให้วิบัติเถอะ ความวิบัติก็เร่งเวลามาปรากฏกับลูกทันตา แทนที่จะรอจังหวะให้ผลเองอยู่แล้วในกาลต่อไป

ขอให้ทำความเข้าใจว่าคำสาปแช่งเกิดจากโทสะเป็นมูล เป็นมหาอกุศลจิต มีวิบากรุนแรง แม้จะน่าเห็นใจเพียงใด เช่นพ่อแม่สาปแช่งลูกนั้น เมื่อความหายนะเกิดขึ้นกับลูกจริงๆก็มักต้องเศร้าซ้ำเป็นทวีคูณ แม้ไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นก็ต้องน้ำตาตกในไปชั่วนาตาปี

นอกจากนั้นนักสาปแช่งทั้งหลายยังเป็นผู้มีจิตใจเศร้าหมองด้วยโทสะที่คุกรุ่นอยู่เป็นนิตย์ โอกาสจะเป็นโรคลึกลับรักษาไม่หาย และโอกาสจะต้องเสวยทุกข์ในอบายภูมินั้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าชอบอ้างบุญคุณมาสาปแช่งและย่ามใจว่าเห็นผลเร็วนั้น มีส่วนให้บุญบารมีแห่งตนพลอยพินาศย่อยยับไปด้วย ทำนองเดียวกับคนมีเงิน แทนที่จะเก็บไว้ซื้อของให้เกิดประโยชน์ กลับนำไปซื้อไฟมาล้อมศัตรูและล้อมตนให้เกิดความเร่าร้อน แม้ได้หัวเราะที่เห็นศัตรูมอดไหม้ไปก่อน แต่หัวเราะไม่นานก็ย่อมรู้สึกถึงไอร้อนที่ลามมาถึงตนและไม่อาจหนีการถูกย่างสดได้พ้นเช่นกัน

ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าชีวิตคนเราเป็นไปตามกรรม ก็เพราะทุกสิ่งถูกจัดสรรด้วยอำนาจกรรม แม้แต่ตัวช่วยและตัวฉุดทั้งหลายในชีวิตคุณ ก็จะไม่ปรากฏเลยหากปราศจากฐานกรรมที่เหมาะสม เช่นหากจิตถูกห่อหุ้มอยู่ด้วยม่านบาปอกุศลหนาทึบ ก็จะไม่มีทางพบพระอริยเจ้าและรับพรอันเป็นมงคลด้วยความเต็มใจ ด้วยความมีศรัทธาปสาทะน้อมใส่เกล้า เมื่อไม่รับอาหารก็ย่อมไม่อาจเป็นผู้กินอาหาร

อีกประการ คำอวยพรก็ไม่ใช่เหตุปัจจัยเดียวที่จะทำให้ใครเจริญขึ้นได้ คุณจะหมดความคลางแคลง หากเลิกมองแบบตายตัวว่าคนนั้นคนนี้รุ่งโรจน์ทันตาเพราะคำอวยพรล้วนๆ หันมามองอย่างผู้ที่ทราบตามจริงว่าความเสื่อมและความเจริญทั้งหลาย มีเหตุปัจจัยหลักและเหตุปัจจัยสมทบ กรรมของเจ้าตัวนั่นเองคือเหตุปัจจัยหลัก ส่วนคำอวยพรและรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆคือเหตุปัจจัยสมทบ

สรุปคือคำสาปแช่งและคำอวยพร ไม่ได้ขัดกับหลักของกรรมวิบาก ทุกคนย่อมมีกรรมของตนเป็นที่พึ่ง ย่อมมีกรรมของตนบันดาลผลดีร้าย ผู้อวยพรย่อมได้รับพร ผู้สาปแช่งย่อมได้รับการสาปแช่ง ถ้ามนุษย์ด้วยกันไม่ทำ ธรรมชาติก็จัดให้อยู่ดี

ขณะที่คุณอวยพรใครด้วยใจจริง จิตของคุณจะเป็นเมตตา คุณจะเป็นคนแรกที่ได้รับความฉ่ำเย็นจากเมตตาของตน แต่ขณะที่คุณสาปแช่งใครด้วยความพิโรธโกรธกริ้ว จิตของคุณเป็นพยาบาท คุณจะเป็นคนแรกที่ได้รับความเร่าร้อนจากโทสะของตนเช่นกันครับ

ที่มา http://dungtrin.com/newsletter/prepare072.htm

 

(cry)

ผมไม่ยอมแพ้ ผมจะกัดฟันสู้ต่อไป ผมไม่แพ้ .... ผมไม่แพ้ ... เจ็บก็แค่เวทนาขันธ์
ตัดสมองออกไป ตัดสัญญาออกไป ... ผมไม่แพ้ ผมไม่เคยแพ้ ผมจะตัดสังขาร์ออก

สุดท้าย หากจำเป็นที่จะตัดวิญญาณ์ ผมก็จะตัด .. ไม่มีอะไร ... แต่ มัน ตัด ยาก ...

อภัยให้ผมเถิดครับ ... ผมหัวดื้อ หัวรั้น และผมไม่ยอมใคร ... แต่ ผม ..เจ็บ .อ่ะนะ


ผมไม่ยอมใคร ผมไม่เคยแพ้ ผมคือ . . ... ... ผู้ ... ชนะ ... ตลอดกัปป์กาล ....

ผมไม่ยอม .. ไม่ยอม .... ไม่ .. ยอม .............................................

 

เกิดแผ่นดินไหวในจีน 2 ระลอกเจ็บ 16 คน​

​

27 ธ.ค.-เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นในมณฑลยูนนาน ของจีนถึง 2 ระลอก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 คน ขณะที่หลายหมื่นคนต้องอพยพหนีภัย

สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีน รายงานว่าเหตุแผ่นดินไหวระลอกแรกเกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวานนี้ เวลา 02.19 น. ที่เขตอี้เหลียง ในเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.3 ริกเตอร์ ที่เมืองรุ่ยหลี่ ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับพม่า แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

จากนั้น ก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกระลอก เมื่อวเลา 04.20 น.วัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ 4.9 ริกเตอร์ แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ทำให้บ้านเรือน โรงเรียน และอาคารสำนักงานของรัฐบาลท้องถิ่นได้รับความเสียหายจำนวนมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 16 คน นอกจากนี้ ยังทำให้ชาวบ้าน 5 หมื่นคน ต้องอพยพหนีภัย ทางการท้องถิ่นได้จัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประสพภัยแผ่นดินไหวแล้ว 44,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 1,620,000 บาท และกำลังจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้ผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 13:11:21

ปากีสถานเริ่มเคลื่อนกำลังทหารหลายพันประชิดพรมแดนอินเดีย​

​

ปากีสถาน 27 ธ.ค.-ปากีสถานเริ่มเคลื่อนกำลังทหารหลายพันนายเข้าประชิดพรมแดนอินเดีย เพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองชาติหลังเหตุโจมตีนครมุมไบ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพปากีสถาน ระบุว่ากองกำลังหลายพันนายจากกองกำลังที่ 14 เคลื่อนกำลังจากที่ตั้งใกล้พรมแดนอัฟกานิสถาน ไปยังเมืองคาซูร์และเซียลค็อต ใกล้พรมแดนอินเดีย และว่ากองกำลังอีกกว่า 20,000 นาย พร้อมที่จะเคลื่อนพลเข้าไปสมทบได้อีกทันที

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรียูซุฟ ลาซา กิลานี ของปากีสถาน ประกาศว่าปากีสถานจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าว หากถูกอินเดียโจมตี แต่ยืนยันว่าปากีสถานจะไม่เป็นฝ่ายโจมตีอินเดียก่อน ขณะที่มีรายงานว่า ทางการอินเดียได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และนายทหารระดับสูง เพื่อเตรียมรับมือการที่ปากีสถานเคลื่อนกำลังพลเข้าใกล้พรมแดนของอินเดียแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 03:15:56

นายกฯ ปากีสถานย้ำจะตอบโต้ชาติที่รุกรานก่อนเท่านั้น​

​

27 ธ.ค.-นายกรัฐมนตรีปากีสถานย้ำ ปากีสถานจะไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุอินเดีย หลังมีข่าวว่าปากีสถานเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังพล เข้าไปประชิดยังพรมแดนอินเดีย

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของปากีสถาน เผยว่า ปากีสถานได้เริ่มเคลื่อนย้ายกำลังทหารกองพันทหารราบที่ 14 จากแนวชายแดนติดอัฟกานิสถาน ไปประชิดยังเขตชายแดนอินเดียตั้งแต่วันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้ ถูกมองว่าเป็นเสมือนคำเตือนว่า ปากีสถานพร้อมจะตอบโต้ หากอินเดียยิงขีปนาวุธหรือปฏิบัติการทางอากาศโจมตีเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธในดินแดนของปากีสถาน มากกว่าจะเป็นการประกาศเปิดศึกกับอินเดีย ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของปากีสถานปฏิเสธข่าวนี้ โดยบอกว่า เป็นการย้ายกำลังพลออกจากพื้นที่ที่ไม่มีการปฏิบัติการใด ๆ รวมทั้งถอนกำลังออกจากพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักเท่านั้น

ด้านนายกรัฐมนตรี ยูซุฟ ราซา กิลานี ย้ำว่า ปากีสถานเป็นชาติที่รักสงบ มีความรับผิดชอบ จะตอบโต้ก็ต่อเมื่อประเทศอื่นเป็นฝ่ายรุกรานก่อนเท่านั้น และปากีสถานจะไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุอินเดีย.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 11:15:34

ผู้เสียชีวิตจากเหตุมือปืนชุดซานตาคลอสกราดยิงเพิ่มเป็น 8 คน​

​

สหรัฐ 27 ธ.ค.-ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุมือปืนสวมชุดซานตาคลอส กราดยิงกลางงานฉลองวันคริสต์มาสอีฟ นอกเมืองลอสแองเจลิส เพิ่มขึ้นเป็น 8 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า นอกจากผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คนแล้ว ยังอาจมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 3 คน จากเหตุการณ์ที่ นายบรูซ เจฟฟรีย์ พาร์โด ชายวัย 45 ปี สวมชุดซานตาคลอสก่อเหตุกราดยิงกลางงานฉลองวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งมีคนในงานเลี้ยงเกือบ 30 คน ที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองโควินา นอกนครลอสแองเจลิส ก่อนที่มือปืนจะโยนระเบิดเข้าไปในบ้าน ส่งผลให้บ้านเกิดเพลิงลุกไหม้

ภายหลังเจ้าหน้าที่พบว่า มือปืนยิงตัวตายที่บ้านพี่ชายห่างไปจากที่เกิดเหตุไม่กี่กิโลเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแรงจูงใจของการก่อเหตุ แต่ทราบว่ามือปืนเพิ่งหย่าขาดกับภรรยาและกำลังตกงาน ขณะที่ผู้ร่วมงานเลี้ยงหลายคนมีสมาชิกของครอบครัวภรรยาเก่ารวมอยู่ด้วย.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 02:12:31

แฉมือปืนซานต้าเตรียมหนีไปแคนาดา แต่พลาดตอนวางเพลิงเลยจบชีวิตตนเอง​

​

แคลิฟอร์เนีย 27 ธ.ค. -ตำรวจพบหลักฐานระบุมือปืนในชุดซานตาคลอสที่เปิดฉากยิง 6 ศพในงานฉลองคริสต์มาส ชานนครลอสแองเจลิสวางแผนหนีไปยังประเทศแคนาดาหลังก่อเหตุ แต่เกิดพลาดขณะจุดไฟเผาบ้านแล้วไฟลามไหม้ชุดที่สวมใส่จนบาดเจ็บ จึงตัดสินใจเด็ดชีพหนีความผิด

ตำรวจได้ค้นพบตั๋วเครื่องบินไปแคนาดาอยู่กับศพ นายบรูซ เจฟฟรีย์ พาร์โด มือปืนในชุดซานตาคลอส แต่ไม่พบหลักฐานว่าไปพักที่ใด นอกจากนั้นยังพบเงินที่ศพอีก 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ ห่อพลาสติกอย่างดีมัดไว้กับขาทั้ง 2 ข้าง ตำรวจเผยอีกว่าในการลงมือนายพาร์โดพกปืนไปถึง 4 กระบอก และกระสุนนัดแรกที่ลั่นออกไปได้เจาะใบหน้าของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายวัย 8 ปี ที่เปิดประตูต้อนรับตนเป็นคนแรก หลังจากนั้นก็ยิงแบบไม่เลือกหน้า และเลือกยิงญาติของอดีตภรรยาที่หย่าร้างไปขณะที่แขกอื่น ๆ พากันหนีเอาตัวรอด บางคนล้มลงไปแล้ว นายพาร์โดได้ยืนจ่อยิงเหมือนการประหารชีวิต

จากนั้นได้นำน้ำมันเชื้อเพลิงมาฉีดใส่จุดต่าง ๆ ของห้องก่อนจุดไฟเผา และเกิดระเบิดขึ้น โดยไฟได้ลวกตามร่างของนายพาร์โดด้วย แต่นายพาร์โดขับรถหนีไปยังบ้านของน้องชายในเขตซิลมาร์ และหลบซ่อนตลอดคืนก่อนปลิดชีพตนเองในตอนเช้าตรู่ และก่อนที่จะงัดเข้าไปในบ้าน ยังวางกับระเบิดไว้ที่รถยนต์เพื่อให้กระสุนจำนวนหลายร้อยนัดที่อยู่ในรถเกิดระเบิดทันที โดยใช้เศษชุดซานตาคลอสที่สวมใส่อยู่ทำเป็นสายชนวนระเบิด และได้เกิดระเบิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหลักฐาน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 10:57:33

พายุหิมะและน้ำแข็งถล่มภาคตะวันตก และแถบมิดเวสต์ของสหรัฐ ​

​

เรโน, เนวาดา 27 ธ.ค.

 

อุตุฯ เตือนใต้ฝนหนัก อีสาน-กลาง-กทม.-ตะวันออก ฝนตกเล็กน้อยอีก 1-2 วัน​

​

สำนักข่าวไทย 27 ธ.ค.-ยังคงมีฝนตกเล็กน้อยต่อไปอีก 1-2 วัน ในตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศระยะนี้ว่า มีคลื่นกระแสลมตะวันตกที่ปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทย เคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือมีฝนลดน้อยลง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ยังจะมีฝนตกเล็กน้อยต่อไปอีก 1-2 วัน

ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่อ่าวไทยและภาคใต้ยังมีกำลังปานกลาง ทำให้ตั้งแต่ จ.สุราษฎรธานี ลงไปมีฝนตกหนักได้ในระยะ 1-2 วันนี้ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก 1-2 วันนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 08:30:43

โคราชขยายผลบุกแหล่งผลิตแบงก์ปลอมกลางกรุงเทพฯ​

​

นครราชสีมา 26 ธ.ค. - ผบช.ภ.3 เร่งขยายผลทลายขบวนการทำธนบัตรปลอมรายใหญ่ หลังจับกุมเพิ่มอีก 3 ผู้ต้องหา พร้อมค้นโรงพิมพ์ย่านดินแดง กทม. ยึดของกลางจำนวนมาก ด้านผู้ต้องหาสารภาพมีคนจ้างผลิตแบงก์พัน จำนวน 10,000 ใบ ทำมานานแล้ว 4 เดือน

พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แถลงการจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 คน ขบวนการปลอมธนบัตรรายใหญ่ คือ นายวิทยา บัวรอด อายุ 28 ปี ชาว จ.ลพบุรี นายสนอง เงินจันทร์ อายุ 54 ปี ชาว จ.พิษณุโลก และนายดำรงชัย มะยมหิน อายุ 35 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร พร้อมตรวจค้นโรงพิมพ์ย่าน ถ.จตุรทิศ เขตดินแดง กรุงเทพฯ ยึดของกลางอุปกรณ์ปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 17 รายการ เช่น กระดาษอาร์ตมัน แผ่นใหญ่ 800 แผ่น ธนบัตรรัฐบาลไทย (ปลอม) ฉบับราคา 1,000 บาท จำนวน 4 ฉบับ แผ่นแถบสะท้อนแสง แท่นพิมพ์ 2 เครื่อง แผ่นเพลต คอมพิวเตอร์ และเครื่องพรินเตอร์

ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายดำรงชัย เป็นช่างสแกนเนอร์และช่างพิมพ์ของโรงพิมพ์ดังกล่าว ให้การว่า มีคนมาติดต่อว่าจ้าง (ขอปิดชื่อ) ให้ผลิตธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 10,000 ใบ และทำมานานกว่า 4 เดือน ก่อนถูกจับกุม โดยจุดสังเกตสำคัญของธนบัตรปลอม มีสีเหลือง ไม่คมชัดเหมือนของจริง มีความลื่นมันเงากว่าธนบัตรจริง และของปลอมไม่มีลายนูน

พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่จับกุมนายธงชัย ประเสริฐ นายสมบัติ บุญจรัญ และนายสัญชิต เทศนา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนำธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 46 ใบ ตระเวนจับจ่ายใน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา. - สำนักข่าวไทย

2008-12-26 16:19:18

เครื่องตรวจธนบัตรใน อ.แม่สอดขาดตลาด​

​

ตาก 27 ธ.ค.-เครื่องตรวจธนบัตรในอำเภอแม่สอด จังหวัดตากเริ่มขาดตลาด ร้านค้าต้องนำเครื่องเก่ามาซ่อมใช้แทน

ตำรวจภูธร สภ.แม่สอด จังหวัดตาก ออกรณรงค์แจกแผ่นพับ แนะนำวิธีการตรวจธนบัตรให้แก่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่บริเวณตลาดสดในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด และบริเวณตลาดริมเมย หลังจากเริ่มพบการแพร่ระบาดธนบัตรปลอมในพื้นที่ ทำให้กลุ่มพ่อค้าชาวไทยและชาวพม่า ฝั่งจังหวัดเมียวดี หาซื้อเครื่องตรวจสอบธนบัตรกันจนขาดตลาด ต้องจองคิวสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก

บางคนนำเครื่องตรวจธนบัตรของเก่าที่ชำรุดนำมาซ่อมใช้ สร้างรายได้ให้แก่ร้านรับซ่อมเครื่องตรวจธนบัตรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ส่วนบริเวณตลาดริมเมย มีกลุ่มพ่อค้าหัวใสได้ผลิตไฟฉายแสงเลเซอร์สำหรับส่องตรวจสอบแบงก์ปลอม นำมาวางจำหน่าย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 10:37:15

เตือน 10 จุดอันตราย คืนเคานท์ดาวน์ปีใหม่​

​

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค. - สันติบาลแจ้งเตือนตำรวจนครบาล ระวัง 10 จุดอันตราย คนร้ายมุ่งก่อเหตุคืนเคานท์ดาวน์ปีใหม่ โดยเฉพาะงานบางกอก-เคานท์ดาวน์ 2009 ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์

พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมตำรวจผู้กำกับการขึ้นไป เพื่อวางมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเปิดเผยว่ามีหนังสือแจ้งเตือนทางลับจากตำรวจสันติบาลมายังกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ให้เฝ้าระวัง 10 จุดอันตราย ที่อาจเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะคืนวันที่ 31 ธ.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งไม่สามารถบอกให้ทราบได้ เพราะเกรงจะเกิดความตื่นตระหนก แต่ได้สั่งกำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่เผ้าระวังเป็นพิเศษไปแล้ว มุ่งเน้นตามสถานที่ที่มีการจัดงานเคานท์ดาวน์ปีใหม่ โดยเฉพาะงานบางกอก-เคานท์ดาวน์ 2009 ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ขอให้มั่นใจว่าตำรวจจะสามารถดูแลใหเกิดความสงบเรียบร้อยและปลอดภัย สำหรับประชาชนได้อย่างแน่นอน

ด้าน พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตำรวจได้สนธิกำลังกับทหาร และเจ้าหน้าที่เทศกิจรวมกว่า 1,000 นาย สำหรับดูแลงานบางกอก-เคานท์ดาวน์ 2009 โดยจะตรวจวัตถุระเบิดในจุดทุกประตูเข้า-ออก / เตรียมพร้อมหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดไว้ปฏิบัติงาน 5 ชุด / และใช้กล้องซีซีทีวีของห้าง และตำรวจ คอยตรวจตราดูแลสิ่งผิดปกติและบุคคลต้องสงสัย โดยจะปิดการจราจรตั้งแต่แยกราชประสงค์ถึงแยกประตูน้ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. ไปจนถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. ประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมงาน ควรใช้บริการรถสาธารณะเพื่อความสะดวก.-สำนักข่าวไทย

2008-12-26 11:40:33

สุราษฎร์ธานีประกาศให้ อ.เมืองเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน​

​

สุราษฎร์ธานี 27 ธ.ค.-ล่าสุดจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ประกาศให้อำเภอเมือง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว

หลังเกิดเหตุฝนตกหนักต่อเนื่องนานกว่า 8 ชั่วโมง จนถึงขณะนี้ ทำให้หลายพื้นที่ในอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีมีสภาพจมอยู่ใต้บาดาล โดยน้ำป่าจากเขาท่าเพชร ได้ไหลลงมาสมทบกับปริมาณน้ำที่ท่วมขังในตัวเมือง ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนราษฎร ร้านค้า และถนนสายต่าง ๆ มีน้ำท่วมขังสูงตั้งแต่ 30 ถึง 70 เซนติเมตร

ทำให้ทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์รถจักรยานยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย และประกาศให้พื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 13:09:46

ภูเก็ตมั่นใจศักยภาพหอเตือนภัยรับภัยพิบัติสึนามิ​

​

ภูเก็ต 26 ธ.ค.- ญาติผู้เสียชีวิต- ผู้ได้รับบาดเจ็บร่วมงานรำลึกสึนามิถล่มครบรอบ 4 ปี ที่ภูเก็ต ผู้ว่าฯ ห่วงปัญหาเด็กกำพร้าต้องเร่งฟื้นฟูการศึกษาและความเป็นอยู่ พร้อมยืนยันหอเตือนภัย 19 แห่ง เต็มประสิทธิภาพ

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวาระครบรอบ 4 ปีเหตุการสึนามิถล่ม และวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2551 ที่สวนสาธารณหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า แม้เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 4 ปี แต่จังหวัดภูเก็ตยังให้ความสำคัญจัดงานรำลึก-อาลัยผู้เสียชีวิตและการซ้อมแผนอพยพหนีภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา และมั่นใจว่าภูเก็ตมีศักยภาพรับมือกับอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะหอเตือนภัยทั้ง 19 แห่ง สามารถส่งสัญญาณเตือนภัยได้ดี เพราะตรวจสอบทุกระยะ และสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญคือ เด็กที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิถล่มและสูญเสียผู้ปกครอง ซึ่งเด็กเหล่านี้มีอยู่จำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องของการศึกษาและความเป็นอยู่

ด้าน Mrs. Paulette และ Mr.Balke Vendenwgngard สองสามีภรรยาชาวฮอลแลนด์ ผู้ประสบภัยสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 กล่าวว่า มาร่วมงานรำลึกที่จังหวัดภูเก็ตจัดขึ้นทุกปี เหตุการณ์ครั้งนั้นกำลังจะลงเล่นน้ำที่หาดป่าตอง แต่เห็นน้ำแห้งผิดสังเกต จึงยืนลังเลอยู่ จากนั้นไม่นานคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง ต้องพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่วิ่งไปได้ระยะหนึ่ง ก็ถูกคลื่นซัดแยกกันไป โดยฝ่ายสามีปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ส่วนภรรยาได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยและบาดเจ็บเล็กน้อย

สำหรับบรรยากาศงานดังกล่าวที่จัดขึ้นในช่วงเช้าบริเวณสวนสาธารณหาดป่าตอง อ.กะทู้ มีตัวแทนสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิถล่ม ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและรอดชีวิตจากเหตุการณ์ร่วมทำบุญตักบาตรจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่หาดกมลา อ.กะทู้ ที่มีนายสมิทธิ์ ปาลวัฒนวิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน นอกจากนี้ สมาคมชาวญี่ปุ่นในจังหวัดภูเก็ตยังร่วมจัดกิจกรรมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตบริเวณอนุสรณ์รำลึกสึนามิ

ส่วน อ.ถลาง จัดพิธีรำลึก 2 จุด คือ บริเวณกำแพงรำลึกสึนามิ สุสานไม้ขาว มีนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีวางดอกไม้รำลึกถึงผู้เสียชีวิตบริเวณกำแพงรำลึก 46 ประเทศ และสถานที่ประดิษฐานพระอุปคุต ณ เขาบางดุก ที่มีนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่สภา กันตสีโล พระเกจิชื่อดังของจังหวัดภูเก็ต และพุทธศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย.-สำนักข่าวไทย

2008-12-26 14:26:59

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

เศรษฐกิจย่อยยับ - ได้นายกคนกลาง
ทำนายโดย​

 

ขอพระรัตนตรัยและพระสยามเทวาธิราช คุ้มครองสยามและพ่อหลวงให้พระองค์มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

สาธุครับ อยากให้พวกเราชาวไทยทุกๆคนช่วยกันอธิฐานถวายพระพรแด่พระองค์ท่านกันทุกๆเช้าค่ำครับ

 

อูยส์ ... เจ็บโว้ย ... เจ็บๆๆ

คนจะข้ามถนน รถต้องหยุด ดิ
ผมเดี้ยงไปแล้ว อูยส์เจ็บจริงๆ
ขาซ้ายเดี้ยง แขนซ้ายเดี้ยง
แต่ปากผมยังดีอยู่ ด่าได้เรื่อยๆ

สะใจมั๊ย ที่ผมโดนรถเฉี่ยว ... สะใจหล่ะสิท่า
ดีใจมั๊ย ... ดีใจหล่ะสิท่า ... แต่ผมหนังเหนียว
ใครที่แช่งผมไว้ ผมรู้นะ ... ผมรู้ว่าเป็นผู้หญิง
เป็นหยิ๋งคนหนึ่ง ที่ใช้พลังจิตกับผม .... ผมรู้


ผมไม่ตายง่ายๆหรอกจ้ะ พี่น้องที่รัก ผมกลัวผี และผมไม่อยากเป็นผี
ถ้าผมตายเป็นผี ผมจะมาให้หวยกับพี่น้องน๊า .. ว๊ะ ฮ่าๆๆๆ .. เหอๆๆ

ว่าไง ... หมอดู หมอเด้าก็เว้ากันไป ขอหมอดูแบบแจ่มๆ ได้มั๊ย?

นี่จะสิ้นปีอยู่แล้ว ทายเข้าเป้าสักดอกมั๊ย? หือ ทำนายถูกบ้างมั๊ย?

ไหนหล่ะ ที่บอกว่าจะเกิดแผ่นดินไหว ใจกลางกรุง เดือน สค.51
ไหนหล่ะ ที่บอกว่าจะเกิดสตอมเซิร์จ เดือน สค. กย. ตค. 2551
ไหนหล่ะ ที่บอกว่าจะมีหิมะตก ในปลายปี 2551
ไหนหล่ะ ที่บอกว่าเขื่อนใหญ่แห่งเมืองกาญจน์ฯ จะแตกในปี 51

สรุปแล้ว .... หมอดูหมอเด้า ขี้โม้นี่หว่า ทายไม่เข้าเป้า ขี้จุ๊ ขี้โม้

ปล. อูยส์ ๆๆๆ ซี๊ดดดด ... เจ็บแผลโว้ย เจ็บๆ เจ็บจริงนะเนี่ย
(cry)

 

chdhorn <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1757372", true); </script>
ทีมพลังจิตสากล



วันที่สมัคร: Oct 2007
สถานที่: (ฝันเอานะ) อยากไปตามป่า เขา ถ้ำ ลำเนาไพร... ไปจนทั่วอนันตจักรวาลนี้... จบที่พระนิพพาน...ค่ะ...
ข้อความ: 1,065
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 476


<!-- message -->

สวัสดีวันคริสต์มาส และสุขสันต์วันปีใหม่ ขอ อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมามีองค์พระครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ละไม หลวงปู่จิตติ หลวงปู่ปาน (วัดบางนมโค) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วัดท่าซุง) อีกทั้งเหล่าพระอภิญญาที่เป็นสัมมาทิฐิทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน... ขอได้โปรดอำนวยพรประเสริฐทั้งหลาย ให้ทุกๆ ท่าน... ขอให้ทุกๆ ท่าน มีความสุขกาย สุขใจ... ปราศจาก ทุกข์ โศก โรค ภัย... ขอให้มีความเจริญทั้งทางโลก ทางธรรม นับแต่นี้เป็นต้นไปตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ...
<!-- / message --> <!-- sig --> __________________
"บุญกุศลและความดีทั้งหลายที่ข้าพเจ้าและสมาชิกพลังจิตพิชิตภัยพิบัติได้ สร้างได้บำเพ็ญมานับแต่อดีต ปัจจุบัน และจะบำเพ็ญต่อไปในอนาคต

ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายแทบพระบาทองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงเป็นพระ มหาธรรมมิกราชามหาโพธิสัตว์ผู้ทรงเปี่ยมล้นไปด้วยพระคุณอันประเสริฐ อีกทั้งองค์สมเด็จพระสังฆราช ผู้ทรงเป็นองค์พระประมุขแห่งพุทธศาสนจักร

ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนไตรและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล ได้โปรดอภิบาลทั้งสองพระองค์ท่านให้ทรงพระเกษมสำราญมีพระพลานามัยที่แข็งแรง ทรงพระชนมายุยิ่งยืนนาน แผ่พระบารมีปกเกล้าชาวไทยตลอดไปด้วยเทอญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"

 

อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 155 คน​

​

กาซาซิตี 27 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า มีชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 155 คน จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของอิสราเอล ขณะที่ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์ กล่าวประณามการโจมตีของอิสราเอล พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าแทรกแซงเพื่อยุติสถานการณ์

นายบาสเซม นาอิม รัฐมนตรีสาธารณสุขฮามาส กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้นอกจากมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 155 คนแล้ว ยังมีผู้ได้รับาดเจ็บอีกกว่า 100 คน รายงานระบุว่า เฉพาะในเมืองกาซาซิตี มีประชาชนอย่างน้อย 70 คน เสียชีวิต และเชื่อว่าคนเหล่านั้นส่วนใหญ่อยู่ภายในกองบัญชาการตำรวจฮามาส

ขณะเดียวกัน โฆษกทหารอิสราเอลกล่าวผ่านวิทยุกองทัพบกว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในครั้งนี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น และมีขึ้นหลังการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้อาจต้องใช้เวลา แต่ก็ไม่ได้กำหนดกรอบเวลา เนื่องจากขึ้นอยู่กับสถานการณ์บนภาคพื้นดิน

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากกลุ่มหัวรุนแรงในฉนวนกาซายิงจรวดและปืน ค. เข้าใส่ดินแดนของอิสราเอลเมื่อหลายวันก่อน และอิสราเอลได้เตือนว่าจะต้องได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรง กองทัพอิสราเอลอ้างว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นความพยายามสกัดกั้นการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายจากดินแดนภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาส และจะยังคงดำเนินต่อไป และอาจขยายปฏิบัติการในกรณีจำเป็น. -สำนักข่าวไทย

2008-12-27 18:42:46

แผ่นดินไหวยูนนานล่าสุดกระทบประชาชน 95,000 คน​

​

ปักกิ่ง 27 ธ.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า มีประชาชนกว่า 95,000 คน ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว 2 ระลอกในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักกิจการพลเรือนมณฑลยูนนาน กล่าวว่า มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 19 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 4 คน นอกจากนี้ยังมีประชาชนราว 10,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ในวันนี้ แผ่นดินไหว 2 ระลอก มีขนาด 4.3 และ 4.9 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันศุกร์ ในหลายพื้นที่ของมณฑลยูนนาน นอกจากนี้ ยังเกิดแผ่นดินไหวอีกระลอกในมณฑลกุ้ยโจว แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ. -สำนักข่าวไทย

2008-12-27 17:36:05

ศรีลังกาเพิ่มโจมตีทางอากาศ หลังระเบิดศึกใหญ่ภาคพื้นดิน​

​

โคลัมโบ 27 ธ.ค. - เครื่องบินรบศรีลังกาได้ระดมโจมตีทางอากาศเป้าหมายที่มั่นกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม บนเกาะอัน เป็นที่ตั้งของเมืองคิลินอชชี ทางเหนือของศรีลังกา หลังจากกองกำลังภาคพื้นดินรุกคืบเข้ายึดดินแดนคืนได้จากฝ่ายกองโจรหลังเปิดศึกหนัก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหาย แต่จากการดักฟังการติดต่อทางวิทยุระหว่างผู้บัญชาการกองโจรพยัคฆ์ทมิฬกับนักรบ ระบุว่าได้รับความเสียหายอย่างหนัก กองทัพได้ชิงเมืองมัลลิยาวาลัยมาได้หลังจากสู้รบอย่างหนัก ซึ่งเว็บไซต์ของทมิฬ ระบุว่า เครื่องบินรบของรัฐบาลโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย กระทั่งโรงพยาบาลก็ไม่ละเว้น ทำลายอาคารของโรงพยาบาลไป 3 หลัง เมืองคิลินอชชี และเมืองมัลไลติวู เป็นเมืองใหญ่ 2 แห่ง ที่อยู่ในอิทธิพลของกองโจรกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม

อย่างไรก็ตาม ทั้งกองทัพศรีลังกา และฝ่ายกบฏพยัคฆ์ทมิฬ ต่างก็ยังไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขความสูญเสียจากการสู้รบในระยะ2-3 วันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม รัฐบาลศรีลังกาได้ถอนตัวจากการหยุดยิงกับฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬ ซึ่งมีนอร์เวย์เป็นคนกลาง. -สำนักข่าวไทย

2008-12-27 17:05:12

พายุหิมะพัดถล่มสหรัฐอย่างหนัก​

​

สหรัฐ 27 ธ.ค.-พื้นที่ภาคตะวันตกของสหรัฐ ยังต้องเผชิญกับพายุหิมะที่พัดถล่มอย่างหนัก ทำให้การจราจรหลังวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสไม่ปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ของสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ เตือนว่า จะเกิดพายุหิมะในพื้นที่บางส่วนของรัฐยูทาห์ แอริโซนา นิวเม็กซิโก โคโลราโด ไวโอมิง มอนแทนา นอร์ทดาโคตา และเซาท์ดาโคตา ขณะที่แถบเทือกเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐโคโลราโด จะได้รับผลกระทบจากพายุหิมะ คาดว่าพื้นที่บางส่วนของเทือกเขาร็อกกี้ จะมีหิมะหนาถึง 20 นิ้ว และมีความเร็วลมสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ส่วนในแถบมิดเวสต์ หรือตะวันตกตอนกลาง มีถนน และทางหลวงส่วนใหญ่ ถูกน้ำแข็งปกคลุม จนต้องปิดถนนนหลายสายลงชั่วคราว ทั้งในนครชิคาโก รัฐยูทาห์ โคโลราโด ไอดาโฮ อินดีแอนา และเนวาดา โดยเฉพาะทางหลวงในเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา ที่มีหิมะตกหนัก จนทางการต้องปิดการจราจรบนทางหลวง ที่เป็นทางเชื่อมหลักระหว่างตอนเหนือของรัฐเนวาดา กับตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย.-สำนักข่าวไทย

2008-12-27 16:13:00 ​

นายกฯปากีสถานย้ำไม่ต้องการทำสงครามกับอินเดีย​

​

อิสลามาบัด 27 ธ.ค.– นายกรัฐมนตรียูซุฟ ราซา กิลานี แห่งปากีสถาน กล่าวย้ำในวันเสาร์นี้ว่าปากีสถานไม่ต้องการที่จะทำสงครามกับอินเดีย แต่ถ้าหากมีการยั่วยุก็อาจจะต้องทำสงคราม

นายกิลานีกล่าวย้ำในระหว่างพิธีทางศาสนาที่บ้านพักอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นเกียรติแก่ นางเบนาซีร์ บุตโต อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยที่ถูกลอบสังหารเมื่อปีก่อน โดยระบุว่าปากีสถานไม่ต้องการที่จะทำสงคราม กับอินเดีย แต่ต้องการที่จะผูกสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับเพื่อนบ้านมากกว่า

2008-12-27 16:01:18

บังกลาเทศเรียกทูตอินเดียประท้วงกรณีพิพาทแหล่งก๊าซ​

​

ธากา 27 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่บังกลาเทศเปิดเผยว่า บังกลาเทศได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตอินเดียเข้าพบ เพื่อประท้วงกรณีอินเดียส่งเรือสำรวจน่านน้ำที่เป็นแหล่งอุดมด้วยก๊าซธรรมชาติ และเป็นพื้นที่ที่ทั้งสองประเทศอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง

นายทูฮิด ฮอสเซน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศบังกลาเทศ เรียกนายปินัค รันจัน จักราวาร์ตี เอกอัครราชทูตอินเดีย เข้าพบเพื่อยื่นหนังสือประท้วง และเรียกร้องให้อินเดียหยุดการสำรวจพื้นที่ในทันที เจ้าหน้าที่กองทัพเรือบังกลาเทศพบเห็นเรือสำรวจของอินเดียและเรือสนับสนุนอีก 2 ลำ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในน่านน้ำอ่าวเบงกอลส่วนที่บังกลาเทศอ้างกรรมสิทธ์ และบังกลาเทศได้ขอร้องให้อินเดียนำเรือออกไปจากน่านน้ำดังกล่าว แต่กลับได้รับการบอกว่าเป็นน่านน้ำของอินเดีย

ด้านนายอิฟเตคาร์ อาหมัด เชาดูรี รัฐมนตรีต่างประเทศบังกลาเทศ ออกแถลงการณ์อีกฉบับ เรียกร้องให้อินเดียเลื่อนการสำรวจออกไปจนกว่าจะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับพื้นที่ดังกล่าว และว่า บังกลาเทศเชื่อมั่นว่า มาตรการทางการทูตจะนำไปสู่ทางออกของปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้. -สำนักข่าวไทย

2008-12-27 14:52:32

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

ทำไมท่านหัวหน้าฯ ต้องขอด้วยหล่ะ

เห็นบทความนี้แล้วมี แต่ ขอ กับ ขอ

ท่านหัวหน้าต้องให้ก่อน ก่อนที่จะขอ

ไม่ใช่เอะอะ อะไรๆ มีแต่ขอ อยู่ร่ำไป

ขอไปเรื่อยเปื่อย ขอ เหมือนขอทาน!!

ใช่มั๊ย?

 

หายเจ็บเร็ว ๆ น่ะ
จะได้สบายกาย สบายใจ สนชื่น สดใส
ให้มีกำลังใจ ดี ๆ ต่อไปให้ได้น่ะ ^^

สาธุ สาธุ สาธุ