ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD background=../../pic_rec/m11.gif></TD><TD width=12></TD></TR><TR><TD width=12 background=../../pic_rec/m44.gif></TD><TD vAlign=top>

<TABLE width=700 border=0><TBODY><TR class=thai><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="75%" align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>เทศน์ช้าไปหน่อย <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>

คำเทศน์ของพระพยอม (สนุกๆ ได้แง่คิด) ​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

​

เทศน์ช้าไปหน่อย

วันก่อนอาตมาไปเทศน์ในคุก.....
อาตมาบอกว่า..พวกเราที่มาติดอยู่ในคุกเนี่ย...
เราไม่ได้ติดคนเดียวนะ..
เราเอาพ่อเอาแม่มาติดด้วย
พ่อแม่ต้องลำบากตรากตรำ หาเงินมาซื้อข้าวปลาอาหาร ข้าวของเครื่องใช้และค่ารถค่าเดินทางที่จะมาเยี่ยมเราทุกอาทิตย์...
และเรายังทำร้ายจิตใจท่านให้ต้องทุกข์ทรมานตลอดเวลาจนกว่าเราจะพ้นโทษ

นักโทษคนหนึ่งมันสำนึกบาป ร้องไห้โฮ อย่างไม่อายใคร
ท่านทำไมเพิ่งจะมาเทศน์ตอนนี้
ทำไมท่านไม่เทศน์ก่อนที่ผมจะทำชั่ว

ไอ้พวกนี้..เวลามันทำชั่ว
ทำอะไรไม่ดี มันโยนให้พระหมด
อาตมาเทศน์มาตั้งนานแล้ว
โยมไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่มาฟังเอง.....

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา : ขอขอบคุณ meepooh9639 จากwww.http://www.arip.co.th/

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แจ้งเรื่องพระหลวงปู่สรวง

ท่านใดจองพระไว้ไปรับที่โรงพยาบาลสงฆ์ไว้เจอกันวันอาทิตย์นี้ครับ ส่วนท่านใดจองพระให้ส่งทางไปรษณีย์ กรุณาโอนเงินและแจ้งที่อยู่ผมทางpmก่อนวันอังคารที่20นี้ครับ ถ้าเลยไปแล้วถือว่าสละสิทธิ์จะนำพระให้ท่านอื่นต่อไป ส่วนท่านที่โอนเงินและแจ้งที่อยู่มาแล้วจะจัดส่งให้ในสัปดาห์หน้าครับ

 

พันวฤทธิ์เกริ่นนำมาพอสมควร ต่อไปผมจะเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับประสบการณ์พระรุ่นนี้ให้ท่านได้รับทราบกัน พระสมเด็จรุ่นนี้ผมได้มาทีแรกหนึ่งองค์ ด้านหลังซองพระเขียนเลข 4 ไว้ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ผลว่างวดนั้นหวยออก 434 ต่อมาไปให้พี่ใหญ่เช็คก็บอกว่าดีครบ เลยหามาให้พี่ๆอีกคนละองค์สององค์ พระส่งมาหลายองค์แต่มีเพียงองค์เดียวที่ซองพระเขียนเลข 4 ไว้อีก ผลงวดนั้นก็ออก 114 และล่าสุดเมื่องานทำบุญของทุนนิธิฯที่ผ่านมาหลายท่านฝากให้หาพระรุ่นนี้ ก็หามาให้ได้แค่สี่องค์มีคนจองไว้แล้วทุกองค์ ในสี่องค์ที่ซองพระเขียนเลข 5 หนึ่งซอง เลข 6หรือ9หนึ่งซอง และ เลข2หนึ่งซอง ผลปรากฏว่าหวยงวดนี้ออก บน 596 และล่าง 22 เหมือนกับเลขในซองพระทั้งหมด น่าประหลาดใจไหมครับ หรือว่าบังเอิญถึงสามงวด แล้วแต่ท่านจะพิจารณากันครับ แต่งวดนี้ผมได้เงินใช้นิดหน่อยจากเลขพระของท่าน


<CENTER></CENTER>

กราบหลวงปู่สรวงครับ ล่วงเกินใดๆไว้ข้าพเจ้ากราบขอขมาครับ


<CENTER></CENTER>เลขด้านหลังซองใส่พระหลวงปู่สรวงที่เจ้าของส่งมาให้ผมทางไปรษณีย์

<CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>

องค์นี้มีเลขสองกับอะไรไม่ทราบ แต่เท่าที่รู้ออก 22​

<CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER>

เรื่องหวยกับพระหลวงปู่สรวงเป็นเรื่องที่กล่าวขานกันมาก สำหรับพระที่ผมได้มาให้เลขที่นำโชคกันตามข้อความข้างบนมาแล้วถึง3งวด สำหรับงวดนี้ผมได้รับพระมาใหม่สำหรับให้ท่านที่จองกันไว้สิบสององค์ มีเลขติดมาในซองพระแค่สององค์คือเลข 1 และ เลข 2 ผมเห็นแล้วก็รู้ว่าน่าเป็นเลขโชคลาภอีก แต่ไม่รู้ว่าอย่างไรไม่ได้สนใจจะนำไปเล่น ผลว่าหวยสามตัวบนออก 212 เป็นงวดที่4ที่พระหลวงปู่ให้เลขผ่านทางเลขซองพระ
<CENTER></CENTER><CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER></CENTER></CENTER></CENTER>

วันนี้เลยโทรไปถามคนที่หาพระมาให้ผม ปรากฏว่ามีหลายท่านที่ได้รับพระหลวงปู่สรวงไปถูกหวยกันทั้งแผนก ของอย่างนี้เป็นของเล่นสนุกๆนะครับ นำมาเล่าสู่กันฟัง ทั้งหมดก็ไม่เกินทำมาหากินสุจริต ขยัน ประหยัด ครับ​

<CENTER> </CENTER>
​

 

เป็นเรื่องเล่าจากคุณพ่อผมเองครับ


คุณพ่อเคยไปกราบท่านเมื่อหลายปีมาแล้ว ไปถึงเห็นท่านนั่งยองๆอยู่กลางทุ่งนา เมื่อคุณพ่อเดินไปกราบท่าน ท่านก็ดึงแขนมาแล้วเอาถ่าน(หากจำไม่ผิด)มาเขียนเลข 3 ตัว แล้วท่านก็โบกมือให้กลับ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย


ปรากฏว่างวดนั้น ออก 3 ตัวนั้นเอง


ผมว่าจะไม่เล่า เพราะเกี่ยวกับเรื่องตัวเลข แต่พอรู้จาก พี่ว่า หลายคนมีโชค ก็เลยคิดว่าเล่าได้กระมัง


คนแถวบ้าน(อีสานล่าง) ถ้าได้พระหลวงปู่ เหมือนได้อัญมณีกันเลยทีเดียวครับ

 

วันนี้โอนเงินบริจาค จากตู้ ATM พัทยาครับ โอนเสร็จก็จบใบสลิปอธิฐานเรียกร้อยแล้วครับ
ผมโอนมา 500 บาทครับ ตอนบ่าย 2- 3 ไม่แน่ใจครับ

 

ขอจองบ้างได้ไหมครับ

โอนเงินเข้าบัญชีไหนครับ เท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ

 

พระมีคนจองหมดแล้วครับ ไว้มีพระมาอีกจะแจ้งให้ทราบในกระทู้ครับ

 

พรุ่งนี้มีพระสงฆ์อาพาธที่ทุนนิธิฯ เตรียมถวายสังฆทานภัตตาหารเช้าทั้งสิ้น เท่าที่เช็คยอดตอนเช้าวันนี้ ราวๆ 140 รูปครับ ส่วนกิจกรรมคราวนี้อาจจะมีน้อยไปหน่อย แต่ก็พอคุยกันได้ โดยหลังจากที่ขึ้นไปถวายสังฆทานแล้ว ลงมาเจอกันที่ห้องพิธีสงฆ์ (ห้องจัดงานแต่งด้านล่าง) เพื่อมาทานของว่างและพบปะสนทนา หรือมารับพระของหลวงปู่สรวงที่จองไว้กัน ใครอยากรู้เรื่องอจินไตยของท่าน ถามคุณโสระเอา ส่วนในเรื่องการขอบริจาคเครื่องดูดเสมหะ ในเดือนนี้ ยังไม่มี รพ.ใด แจ้งความจำนงมาครับ

พันวฤทธิ์
17/1/52

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" summary="structure table" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="78%"></TD><TD class=mainMenu vAlign=top align=right width="20%" rowSpan=2>









</TD><TD width=20 rowSpan=2></TD></TR><TR><TD class=mainBody vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD vAlign=center bgColor=#e0ffff>เสี่ยงเซียมซี.... </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="10%"></TD><TD width="90%">คำทำนายของ เทพเจ้าแห่งยา "หั่วท้อเซียงซือ"
หากท่านปรารถนาจะ เสี่ยงเซียมซี เพื่อทราบโชคชะตา จงหลับตา ทำจิตใจให้มั่นคง ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส เทพเจ้าแห่งยา "หั่วท้อเซียงซือ" หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพบูชา ขอให้เซียมซีที่ได้ ทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ สมความปรารถนา ด้วยเทอญ
เมื่อพร้อมแล้วคลิก [ เริ่มคำทำนาย ]


</TD></TR><TR><TD background=basic/pics/hr_dot.gif colSpan=2></TD></TR><TR><TD width="10%"></TD><TD width="90%">คำทำนายของ พระประธาน วัดเล่งเน่ยยี่
หากท่านปรารถนาจะ เสี่ยงเซียมซี เพื่อทราบโชคชะตา จงหลับตา ทำจิตใจให้มั่นคง ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกถึง พระประธาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพบูชา ขอให้เซียมซีที่ได้ ทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ สมความปรารถนา ด้วยเทอญ
เมื่อพร้อมแล้วคลิก [ เริ่มคำทำนาย ]


</TD></TR><TR><TD background=basic/pics/hr_dot.gif colSpan=2></TD></TR><TR><TD width="10%"></TD><TD width="90%">คำทำนายของ เจ้าแม่กวนอิม วัดเล่งเน่ยยี่
หากท่านปรารถนาจะ เสี่ยงเซียมซี เพื่อทราบโชคชะตา จงหลับตา ทำจิตใจให้มั่นคง ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกถึง เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดเล่งเน่ยยี่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพบูชา ขอให้เซียมซีที่ได้ ทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ สมความปรารถนา ด้วยเทอญ
เมื่อพร้อมแล้วคลิก [ เริ่มคำทำนาย ]


</TD></TR><TR><TD background=basic/pics/hr_dot.gif colSpan=2></TD></TR><TR><TD width="10%"></TD><TD width="90%">คำทำนายของ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์
หากท่านปรารถนาจะ เสี่ยงเซียมซี เพื่อทราบโชคชะตา จงหลับตา ทำจิตใจให้มั่นคง ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกถึง มหาเทพทั้งหลาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเทวสถาน โบสถ์พราหมณืแห่งนี้ ขอให้เซียมซีที่ได้ ทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ สมความปรารถนา ด้วยเทอญ
เมื่อพร้อมแล้วคลิก [ เริ่มคำทำนาย ]


</TD></TR><TR><TD background=basic/pics/hr_dot.gif colSpan=2></TD></TR><TR><TD width="10%"></TD><TD width="90%">คำทำนายของ วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม
หากท่านปรารถนาจะ เสี่ยงเซียมซี เพื่อทราบโชคชะตา จงหลับตา ทำจิตใจให้มั่นคง ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกถึง พระบรมสารีริกธาตุ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่บรรจุในเจดีย์พระธาตุพนมแห่งนี้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอให้เซียมซีที่ได้ ทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ สมความปรารถนา ด้วยเทอญ
เมื่อพร้อมแล้วคลิก [ เริ่มคำทำนาย ]


</TD></TR><TR><TD background=basic/pics/hr_dot.gif colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>หากคลิ๊กเริ่มคำทำนายแล้วเข้าไม่ได้ อาจเกิดจากระบบการบล๊อกของเครื่อง ให้เข้าไปในลิงค์เวบด้านล่างนี้แทนครับ</TD></TR></TBODY></TABLE>


ขอขอบคุณ
http://www.formumandme.com/astro_index.php

 

ขอเรียนพี่ๆ ทราบว่าพระที่มอบให้เนื่องบุญผ้าห่มผมได้แจกให้พี่ๆ ที่ทำงานหมดเรียบร้อยนานแล้วและองค์พิเศษ องค์เดียว ก็ให้อาจารย์ไปแล้วครับพรุ้งนี้พบกันครับ ทำบุญสาธุครับ

 

<CENTER> คำสอนพ่อหลวง


</CENTER><CENTER><TABLE borderColor=#ff0000 width="30%" border=1><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๒๔
ข้าราชการทุกฝ่ายมีหน้าที่เหมือนกัน ที่จะต้องตั้งใจขวนขวายปฏิบัติงานด้วยความฉลาดรอบคอบ ให้สำเร็จลุล่วงตรงตามเป้าหมายโดยไม่ชักช้า และที่จะต้องร่วมกับชาวไทยทุคนในอันที่จะอุ้มชูรักษาความดีในชาติให้ยืนยงมั่นคงอยู่คู่กับผืนแผ่นดินไทย. ยิ่งเป็นผู้ใหญ่มีตำแหน่งสำคัญ ยิ่งจะต้องปฏิบัติให้ดี ให้หนักแน่น ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผลงานที่สำเร็จขึ้นจากความร่วมมือและจากความบริสุทธิ์ใจ จักได้แผ่ไพศาลสูงขึ้น ผลงานที่สำเร็จขึ้นจากความร่วมมือและจากความบริสุทธิ์ใจ จักได้แผ่ไพศาลไปตลอดทั่วทุกหนแห่ง ยังความสุขความเจริญที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้นได้ตามที่ปรารภปรารถนา

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๔​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๒๕
การปฏิบัติราชการในปัจจุบันนี้มุ่งหมายเอาประสิทธิภาพ ปริมาณงานและความรวดเร็วเป็นสำคัญ. ผู้ปฏิบัติราชการจึงพากันเอาวิทยาการก้าวหน้าพร้อมทั้งเครื่องกลที่ทรงประสิทธิภาพสูงต่างๆ มาใช้กันอย่างกว้างขวาง . วิทยาการเครื่องกลเหล่านี้ เมื่อนำมาปฏิบัติการแล้ว จะต้องได้ผลอย่างสูงทุกครั้งไป คือถ้าใช้ถูก ก็ทำให้ได้ประโยชน์มาก ถ้าใช้ไม่ถูกก็ทำให้เสียหายได้มากเท่าๆ กัน. การจะนำเอาสิ่งเหล่านั้นมาใช้งาน จึงต้องระมัดระวังศึกษาให้ทราบแน่แท้โดยตลอดก่อนทั้งโครงงานที่จะทำ ทั้งเครื่องปฏิบัติงานที่จะใช้. มิฉะนั้นจะเกิดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่าได้ง่ายดายที่สุด

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๕​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๒๖
การทำงานสร้างเกียรติยศขื่อเสียงและความเจริญก้าวหน้า นอกจากจะต้องใช้วิชาความรู้ที่ดีแล้ว แต่ละคนยังต้องมีจิตใจที่มั่นคงในความสุจริตและมุ่งมั่นต่อความสำเร็จเป็นรากฐานรองรับ กับต้องอาศัยกุศโลบายหรือวิธีการอันแยบคายในการประพฤติปฏิบัติเข้าประกอบอีกหลายประการ. ประการแรก ได้แก่การสร้างศรัทธาความเชื่อถือในงานที่กระทำ ซึ่งเป็นพละกำลังส่งเสริมให้เกิดความพอใจและความเพียรพยายามอย่างสำคัญ ในอันที่จะทำการงานให้บรรลุผลเลิศ. ประการที่สอง ได้แก่การไม่ประมาทปัญญาความรู้ ความฉลาดสามารถทั้งของตนเองทั้งของผู้อื่น ซึ่งเป็นเครื่องช่วยทำงานได้ก้าวหน้า กว้างไกล. ประการที่สาม ได้แก่ การตามรักษาความจริงใจ ทั้งต่อตัวเอง ซึ่งเป็นเครื่องทำให้ไว้วางใจร่วมมือกัน และทำให้งานสำเร็จได้โดยราบรื่น. ประการที่สี่ ได้แก่การกำจัดจิตใจที่ต่ำทราม รวมทั้งสร้างเสริมความคิดจิตใจที่สะอาดเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ฝักใฝ่แต่ในการที่จะปฏิบัติดี ให้เกิดความก้าวหน้า. ประการที่ห้า ได้แก่การรู้จักสงบใจ ซึ่งเป็นเครื่องช่วยให้ยั้งคิดได้ในเมื่อมีเหตุทำให้เกิดความหวั่นไหวฟุ้งซ่าน และสามารถพิจารณาแก้ไขปัญหาได้โดยถูกต้อง. คุณสมบัติหรือคุณธรรมที่กล่าวแล้ว ทั้งที่เป็นส่วนรากฐาน ทั้งที่เป็นส่วนวิธีการ ต่างเป็นเหตุเป็นผลอาศัยกัน และเกื้อกูลส่งเสริมกันอยู่ทั้งหมด จะอาศัยเพียงข้อหนึ่งข้อใด หรือเพียงบางส่วนบางข้อมิได้ เพราะจะไม่ช่วยให้เกิดผลหรือได้ผลน้อย. ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องพยายามอบรมสร้างเสริมให้บริบูรณ์ขึ้นแต่ละข้อ และทุกข้อ. เมื่อคุณสมบัติดังกล่าวประชุมพร้อมกันขึ้นแล้ว จึงจะบันดาลผลเลิศให้เกิดขึ้นสมบูรณ์บริบูรณ์ เป็นประโยชน์ช่วยตัวช่วยผู้อื่นได้อย่างแท้จริง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๐๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๖​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๒๗
คนทำงานดีคือคนมีระเบียบ ได้แก่ระเบียบในการคิดและในการทำ. ผู้ไม่ฝึกระเบียบไว้ ถึงจะมีวิชา มีเรี่ยวแรง มีความกระตือรือร้นอยู่เพียงไร ก็มักทำงานให้สำเร็จดีไม่ได้ เพราะความคิดอ่านสับสนว้าวุ่น ทำอะไรก็ไม่ถูกลำดับขั้นตอน มีแต่ความลังเลและขัดแย้งทั้งในความคิด ทั้งในการปฏิบัติงาน ข้าราชการจึงจำเป็นต้องฝึกระเบียบในตนเองขึ้น. ระเบียบนั้นจักได้ช่วยประคับประคองส่งเสริมให้ทำตนทำงานได้ดีขึ้น และประสบความเจริญมั่นคงในราชการ.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๒๘
การทำงานให้สำเร็จขึ้นอยู่กับความสามารถสองอย่างเป็นสำคัญ คือสามารถในการใช้วิชาความรู้อย่างหนึ่ง สามารถในการประสานสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกอย่างหนึ่ง. ทั้งสองประการนี้ ต้องดำเนินคู่กันไป และจำเป็นต้องกระทำด้วยความสุจริตกาย สุจริตใจ ด้วยความคิดความเห็นที่เป็นอิสระปราศจากอคติ และด้วยความถูกต้องตามเหตุตามผลด้วย จึงจะช่วยให้งานบรรลุจุดหมายและประโยชน์ที่พึงประสงค์โดยครบถ้วยแท้จริง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๒๙
ผู้เป็นข้าราชการพึงสำเหนียกตระหนักเป็นนิตย์ถึงความรับผิดชอบ ที่จะต้องปฏิบัติงานของตัวร่วมกับงานของผู้อื่น และประสานประโยชน์กับทุกฝ่ายให้ได้ผลสมบูรณ์ทุกส่วน เพื่อนำพาประเทศชาติให้ก้าวไปถึงความเจริญมั่นคง ซึ่งเป็นจุดประสงค์แท้จริง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๒๙​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๐
ข้าราชการที่สามารถต้องมีความรู้ครบสามส่วน คือ ความรู้วิชาการ ความรู้ปฏิบัติการ และความรู้คิดอ่านตามเหตุผลตามความเป็นจริง ต้องมีความจริงใจ และความบริสุทธิ์ใจในงาน ในผู้ร่วมงาน ในการรักษาระเบียบแบบแผน ความดีงาม ความถูกต้องทุกอย่างในแผ่นดิน ต้องมีความสงบและหนักแน่นทั้งในกาย ในใจ ในคำพูด ต้องสำรวจดูความบกพร่องของตนเองอยู่สมำเสมอ และปฏิบัติแก้ไขเสียโดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เจริญงอกงาม ทำความเสียหายให้แก่การกระทำ ความคิดและการงาน.

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
วันที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑
เกียรติและความสำเร็จเกิดจากผลการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตัวของแต่ละคน ที่สามารถปฏิบัติงานในความรับผิดชอบให้ได้ผลสมบูรณ์ตรงตามวัตถุประสงค์และปฏิบัติตัวให้สุจริต เที่ยงตรง พอควรพอดีแก่ตำแหน่งหน้าที่ที่ดำรงอยู่.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๑​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๒
เมื่อทำงาน ต้องมุ่งถึงจุดหมายที่แท้ของงาน งานจึงจะสำเร็จได้รับประโยชน์ครบถ้วน ทั้งประโยชน์ของงานและประโยชน์ของผู้ทำ ถ้าทำงานเพื่อจุดมุ่งหมายอื่นๆ เช่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แม้จะได้ผลมากมายเพียงใด งานก็ไม่สำเร็จ แต่ทำให้เสียทั้งงานเสียทั้งคน.

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
วันที่ ๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๒​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๓
ในการปฏิบัติงานนั้นขอให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อย่านึกถึงบำเหน็จรางวัลหรือผลประโยชน์ให้มาก. ขอให้ถือว่าการทำหน้าที่ได้สมบูรณ์เป็นทั้งรางวัลและประโยชน์อย่างประเสริฐ จะทำให้บ้านเมืองไทยของเราอยู่เย็นเป็นสุขและมั่นคง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๔
การปฏิบัติราชการให้ดีนั้น กล่าวอย่างสั้น ง่ายและตรงที่สุด คือทำให้สำเร็จทันการ และให้ได้ผลเป็นประโยชน์แต่ทางเดียว ซึ่งจะทำได้เมื่อบุคคลมีวิชาความสามารถ และมีปัญญาความรู้คิดพิจารณา เห็นสิ่งที่เป็นคุณเป็นโทษ เป็นประโยชน์ มิใช่ประโยชน์อย่างชัดเจน ถูก ตรง.

ภูพิงคราชนิเวศน์
วันที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๔​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕
ความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำ ทั้งทางลึกและกว้างประการหนึ่ง ความคิดเห็นที่เป็นสัมมาทิฐิ ถูกต้องด้วยเหตุผลหลักวิชาและความชอบธรรม ประการหนึ่งความสามารถในการปฏิบัติกิจการงานให้สำเร็จผลตรงตามจุดมุ่งหมาย อีกประการหนึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญของการทำงาน. ผู้ปฏิบัติราชการโดยอาศัยปัจจัยสามส่วนนี้โดยครบถ้วนสม่ำเสมอ จะประสบความสำเร็จและความเจริญรุ่งโรจน์ ทั้งจะทำให้ราชการและชาติบ้านเมืองพัฒนาก้าวหน้าไปได้ด้วยความมั่นคงสวัสดี.

ภูพิงคราชนิเวศน์
วันที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๖
ข้าราชการที่มีหน้าที่สำคัญส่วนหนึ่ง ที่จะต้องประพฤติปฏิบัติต่อบุคคลทั้งปวงด้วยความสุจริตจริงใจ วางตัวให้พอเหมาะพอสมกับฐานะตำแหน่ง พร้อมกับรักษาความสุภาพอ่อนโยนไว้ให้เหนียวแน่นสม่ำเสมอ. นอกจากนั้น ยังจะต้องมีความเสียสละ อดทน รู้จักเกรงใจ ให้อภัย ทั้งโอนอ่อนผ่อนตามกันและกันด้วยเหตุผล. และสำคัญที่สุด จะต้องหัดทำใจให้กว้างขวางหนักแน่น รู้จักรับฟังความคิดความเห็นแม้กระทั่งคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อื่นอย่างฉลาด เพราะการรู้จักรับฟังอย่างฉลาดนั้นแท้จริงคือ การระดมสติปัญญาและประสบการณ์อันหลายหลาก มาอำนวยประโยชน์ในการปฏิบัติบริหารงานให้ประสบความสำเร็จที่สมบูรณ์นั่นเอง.

ภูพิงคราชนิเวศน์
วันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๖​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๗
ข้าราชการเป็นผู้มีหน้าที่การงานกว้างขวางต้องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก และการเกี่ยวข้องประสานประโยชน์กันนั้นต้องอาศัยมิตรจิตและความเข้าใจอันดีต่อกันเป็นพื้นฐาน. ผู้ฉลาดจึงควรปรับปรุงการกระทำความคิดของตัวให้สุจริตผ่องใส พยายามสร้างเสริมความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีต่อผู้อื่นให้สมบูรณ์ ทั้งพึงระลึกอยู่เสมอด้วยว่า ผู้อื่นเขาก็มีความมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์ความดีความเจริญเช่นเดี่ยวกันกับเรา. ถ้าหากทุกฝ่ายทุกคนมีความเข้าใจดีต่อกัน การร่วมมือประสานงานย่อมจะเป็นไปได้โดยสะดวก และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่การแก้ปัญหาของบ้านเมือง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๘
การปฏิบัติราชการให้สำเร็จผลที่พึงประสงค์นั้น นอกจากจะอาศัยความรู้ความสามารถในทางวิชาการแล้วแต่ละบุคคลยังจะต้องมีรากฐานทางจิตใจที่ดี คือความหนักแน่นมั่นคงในสุจริตธรรม และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้จนเสร็จ ทั้งต้องมีกุศโลบายหรือวิธีการอันแยบคายในการปฏิบัติงานประกอบกันพร้อมด้วย จึงจะสัมฤทธิ์ผลที่แน่นอนและบังเกิดประโยชน์อันยั่งยืนทั้งแก่ตนเองและแผ่นดิน.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๓๙
การยึดมั่นในผลประโยชน์ของแผ่นดิน และความถูกต้องเป็นธรรม เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการเพราะการยึดมั่นดังกล่าว จะทำให้มีจิตใจมั่นคงเด็ดเดี่ยวในอันที่จะพากเพียรปฏิบัติหน้าที่ให้จนบรรลุผลสำเร็จ และสามารถป้องกันความผิดพลาดเสียหายอันจะเกิดแก่ตนแก่งานได้อย่างแท้จริง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๙​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๔๐
งานของชาตินั้นเป็นงานที่กว้างขวาง ประกอบด้ยงานทุกด้านทุกระดับอันสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องถึงกันหมด โดยแต่ละอย่างต่างต้องอาศัยและเกื้อกูลสนับสนุนกันอย่างสอดคล้องพอเหมาะพอดี จึงจะสัมฤทธิ์ผลที่ทำให้ชาติบ้านเมืองมั่นคงและเจริญก้าวหน้าไปได้. ดังนั้นข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน จึงต้องพยายามปฏิบัติงานให้สัมพันธ์ประสานกับบุคคลอื่น ฝ่ายอื่นให้ได้.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๐​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๔๑
การปฏิบัติงานทุกอย่างของข้าราชการ มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง และประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่ข้าราชการทุกคนจะต้องทำหน้าที่ทุกๆ ประการให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ โดยเต็มกำลังสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เพื่อผลการปฏิบัติราชการทุกอย่างจักได้บรรลุความสำเร็จอย่างสูงและบังเกิดประโยชน์อย่างดีที่สุดแก่ตน แก่หน้าที่ และแก่แผ่นดิน.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๑​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๔๒
ความเจริญของประเทศชาติเป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ. ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดินควรจะได้คำนึงในข้อนี้ให้มาก พิจารณาให้เห็นความสำคัญของผู้อื่น ให้รู้จักนับถือผู้อื่น ใช้ความมีเหตุผลและความร่วมมือกัน ในการปฏิบัติบริหารงานทั้งปวง เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตนเอง และจรรโลงประเทศชาติของเราให้ดำรงมั่งคงอยู่ตลอดไป.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๔๓
ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน จะต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกำลังความสามารถ ด้วยอุดมคติ ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ และระมัดระวังให้การทุกอย่างในหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้อง และเที่ยงตรงเป็นกลาง ด้วยความระลึกรู้ตัวอยู่เสมอว่า การปฏิบัติตัวปฏิบัติงานของตนมีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมืองและของประชาชนทุกคน.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๔๔
การปฏิบัติราชการนั้น นอกจากมุ่งกระทำเพื่อให้งานสำเร็จไปโดยเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว ยังจะต้องกระทำด้วยสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดว่าสิ่งใดเป็นความเจริญ สิ่งใดเป็นความเสื่อม อะไรเป็นสิ่งที่ต้องทำ อะไรเป็นสิ่งที่ต้องละเว้นหรือกำจัด. ผลที่เกิดขึ้นจึงจะเป็นประโยชน์ที่แท้และยั่งยืนทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม.

วังไกลกังวล
วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ff0000 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff00>พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๔๕
ผู้ที่ทำงานให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม ย่อมเป็นคุณแก่ตนด้วย. ผู้ที่ทำงานโดยเห็นแก่ตัวเบียดเบียนประโยชน์ส่วมรวม ย่อมบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติและที่สุดก็จะเอาตัวไม่รอด. ข้าราชการทุกคนจึงต้องทำงานทุกอย่าง ด้วยสติสำนึกถึงหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ.

วังไกลกังวล
วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอน้อมนบ แนบพระบาททรง องค์ภูมี
พันวฤทธิ์
17/1/52

http://www.suputtee.th.gs/web-s/uputtee/ht7.html

 

อย่าเพิ่งเบื่อในคำอธิบายในหลักธรรมของสมถะ และวิปัสสนา หลายท่านเคยอ่านมาบทความในเรื่องนี้มาบ้างแล้ว ลองอ่านดูอีกสักครั้ง แล้วเปรียบเทียบดู เหมือนเรากินก๋วยเตี๋ยวไม่ซ้ำเจ้า ดื่มน้ำอัดลมไม่ซ้ำยี่ห้อ เมื่อเราจับถูกคู่กันเมื่อใด ทั้งก๋วยเตี๋ยวต้มยำชามนั้น และน้ำอัดลมยี่ห้อนั้น ย่อมเป็นที่สาแก่ใจเราเองครับ​

​

สมถะ วิปัสสนา
<!--Main-->[SIZE=-1]ขอกราบนมัสการนำธรรมะของพ่อหลวงมาแบ่งปันอีกค่ะ

[/SIZE]การจะพูด ข้าวสุกในจาน ควรรู้ที่มาของด้วย ถ้าไม่รู้จะได้แต่กินเท่านั้น ได้แต่เสวย เป็นผลเท่านั้น มีแต่ความอยาก แต่ไม่รู้จักทำ ถ้าจะกินให้อิ่ม ต้องพูดให้จบ ต้องมีขั้นตอนกว่าจะมาเป็นข้าวสุกในจานได้ ต้องมีอุปกรณ์ ข้าว ดิน น้ำ ข้าวเปลือก แล้วมีการหว่าน การไถนาด้วย ต้นข้าวเป็นอย่างไร แล้วเป็นข้าวสุกในนา กลายเป็นข้าวเปลือก เป็นข้าวสาร ถึงจะเอามาหุงจนเป็นข้าวสุกในหม้อ ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆก่อน จึงเป็นข้าวสุกในจาน

สมถะ เหมือนเขาถะไม้ ต้องมีอะไรบ้าง ต้องมีคน มีเครื่องมือ มาถะ ถะไปตรงๆ อย่าไปคด อย่าไปโค้ง ถะจนเป็นรูปตรง ตัดออกๆ ให้ตรง

วิปัสสนา เหมือน การปัดกวาดศาลา ปัดกวาดบ้านเรือน เค้าปัดกวาดอย่างไร ปัดกวาดบ้านเรือนแบบไหน ถูอย่างไร จึงจะสะอาด ต้องรู้จัก ไม้กวาด กับ สกปรก ต้องให้ถึงกัน ถ้ากวาดไม่ถูกที่ สกปรกก็ไม่ออก ต้องทำความรู้สึกกับสกปรกนั้น ต้องทำความรู้สึกให้ถึงที่สุด มันถึงจะออกหมด เราปัดอยู่ๆ ถ้าเราถูไม่หมดมันก็ไม่ออก มันอยู่ที่เราปัดเรากวาด

คำว่าวิปัสสนามาจากไหน ต้องไล่ลงไปให้ถึงที่มาจะได้เข้าใจ
พระพุทธเจ้าสอน รู้ง่าย เห็นง่าย เข้าใจง่าย และทำได้ง่ายๆ เพราะมันเข้าใจ เข้าถึง รู้จริงขึ้นมา เพราะความจริงมีอยู่แล้ว มากำจัดให้มันถูกต้อง บอกให้ทำอย่างนั้นๆ ไม่ได้ควบคุม เพราะเขามีอยู่แล้ว ให้ใช้ตนเป็นประโยชน์แก่ตน จึงมาสอนเป็นอัตตาหิ อัตตโนนาโถ สอนทำตนเป็นที่พึ่งของตน เพราะตนมีอยู่แล้ว เอาตนเป็นเกาะ เอาตนเป็นที่พึ่ง เอาตนเป็นที่อาศัย เหมือนแผ่นดิน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์มีอยู่แล้ว เราเกิดมา ถ้าเราขยัน สิ่งที่มีอยู่แล้ว ถ้าเราขยันเก็บหอมรอมริบ ไม่ขี้เกียจ ขี้คล้าน ไม่รอตะวันตกดินแล้วจึงทำงาน เราก็ย่อมได้ทรัพย์สมบัติเยอะ แต่ถ้าเราไม่ทำ เรามักง่าย เราก็ไม่ได้อะไร พระอาทิตย์ ดวงจันทร์ก็ยังโคจรอยู่เหมือนเดิม แผ่นดินก็คงที่ ฝนตกก็เหมือนกัน คนไหนขยันก็ได้คนนั้น

เรามีกายเป็นฐาน มีใจเป็นผู้รู้สึก เราจะทำงานหรือปล่าว ส่วนใหญ่คนมักศึกษาเรื่องนอกตน เราไม่รู้เรื่องเรา

คำว่าวิปัสสนา คือ มาศึกษาเรื่องเรา รู้เรื่องเรา เราเป็นนา เราเป็นพื้น เราเป็นโลก เราเป็นโลกธาตุ ความรู้สึกตั้งอยู่บนโลก อาศัยรูปเหล่านั้น นามตั้งอยู่บนรูป รูป กับ นาม คู่กัน สัตว์โลก กับ โลก แยกกันไม่ได้ เกาะกันอยู่ตลอด ต้องเข้าใจ หลักวิปัสสนา คือ รูป กับ นาม ที่เกิดของความรู้สึก ฐานของความรู้สึก

พระพุทธเจ้าก็เป็นคนเหมือนเรา กินข้าวเหมือนเรา มีจมูกไว้หายใจเหมือนเรา มีตาไว้ดูรูป มีหูไว้ฟังเสียง มีใจทำความรู้สึก มีทวาร(รู)ทั้งเก้าเท่ากับเรา(ตา 2, หู 2, จมูก 2, ปาก 1, ทวารหนัก, ทวารเบา) เหมือนกันไม่ผิด ธรรมะ
เสมอภาคกัน หูฟังเสียงดีก็รู้ เสียงไม่ดีก็รู้ รูปดีไม่ดีรู้หมด กลิ่นอย่างไร จมูกเหมือนกัน พูดได้เหมือนกัน อาศัยเกิดจากแม่เหมือนกัน ทวาร(จักรวาฬ) ทั้งเก้าเนี่ยแหละ ฐานของวิปัสสนา

ทุกคนเกิดมาต้องการพ้นทุกข์ ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ ความทุกข์มันอยู่ที่ไหน ที่เราจะพ้น เราจะเป็นคนอย่างไร จะแก้ไขอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ อยู่ให้สบาย อยู่ให้พ้นทุกข์

เพราะพระพุทธเจ้าก็มีตรงนี้ก่อน จึงมาทำความรู้สึกตรงนี้ก่อน แล้วจึงพ้นจากตรงนี้ ไม่ได้พ้นจากที่อื่น เพราะทุกข์มันอยู่ที่นี้ เกิดที่นี้ แล้วก็ดับลงตรงนี้ ถ้ารู้ตรงนี้ ทำตรงนี้ เข้าใจตรงนี้ เข้าถึงตรงนี้ วาง ตรัสรู้ เบื่อหน่ายตรงนี้ ก็หมดปัญหามันพ้นอยู่ที่ตรงนี้ ไม่ได้พ้นที่อื่น

ดังนั้นเราจะพ้นจากตรงนี้ได้ เราจึงต้องศึกษาตรงนี้ เรียนตรงนี้ให้รู้จัก ให้เข้าใจ ให้เข้าถึง เข้าถึงก็จะได้เบื่อหน่าย เบื่อหน่ายก็จะพ้นจากตรงนี้ ไม่เอาตรงนี้ เพราะเห็นเป็นโทษตรงนี้ สังเกตรู้จักรวาฬทั้งเก้าว่าเป็นที่ไหลเข้า ไหลออกตลอด เป็นรูปะ รูปังอยู่ตลอด ไม่มีวันจบ ไม่มีวันสิ้น ไม่มีวันสุด (เป็นที่ไหลเข้าไหลออกของทั้งรูป และ นาม)เมื่อเกิดรูปขึ้นมาแล้ว ก็ต้องทำความรู้สึกอยู่ตลอด แล้วมันได้อะไร ได้อะไรมา ได้อะไรไป ที่เราไม่พ้นทุกข์เพราะเราไม่เรียน ภาวนา ก็เป็นพาวน เป็นภาวนาเพื่อได้ พระพุทธเจ้าให้เอาออก ไม่ต้องการความได้ ให้เอาออกอย่างเดียว ได้มากทุกข์มาก ได้น้อยทุกข์น้อย รู้มาก ทุกข์มาก รู้น้อย ทุกข์น้อย ไม่รู้เลย ไม่ทุกข์เลย ทำอย่างไร ให้มันหมดตรงนั้น ทำตรงนั้นให้มันจบๆ จบที่ตรงนั้น การศึกษาพุทธศาสนาจบการศึกษาที่ตรงนั้น

ถ้าไม่เข้าใจตรงนั้น เขาเรียกว่าหลง ไม่รู้ คนหลงหู หลงตา หลงจมูก หลงกาย หลงใจตน จึงพาวนอยู่ตลอด พาเกิด พาแก่ พาเจ็บ พาตาย เกิดมาทั้งชาติไม่รู้เรื่องตน จึงชื่อว่าหลง

เลยมาศึกษาให้เข้าใจ ความเกิดขึ้น ความตั้งอยู่ ความดับไป ของเรา อะไรมันเกิดขึ้น อะไรมันตั้งอยู่ อะไรมันดับไป มีอะไรบ้างที่จะเป็นหลักเป็นเกณฑ์ว่าเกิดขึ้นแล้วไม่ดับไป ไม่สูญ ไม่หาย ไม่สลาย ไม่แปรปรวน ไม่เปลี่ยนแปลง มีอะไรบ้างที่เป็นตน เป็นของเรา ค้นหาตัวตนของตนให้มันเจอ อย่าไปหลงกับตน ให้รู้ว่าตนอยู่ตรงไหน จะได้เข้าใจ มิฉะนั้นจะสูญเปล่า หลงเสียเปล่าเกิดมา หาตนให้เจอ อะไรเป็นเราตั้งแต่หัวแม่ตีน ถึงปลายผม (ตอบ ไม่มี) ตอบอย่างนั้นเลยไม่ได้ ต้องสาธยายเป็นเครื่องอยู่ จะรู้ก่อนไม่ได้ มันกินรวบไม่ได้ทำกิน เกิดก่อนตั้งครรภ์ไม่ได้ ต้องท้องก่อน จึงจะเกิดเป็นคน รู้ซะก่อน โดยยังไม่ได้ทำกิน เรียก แม่ครัวแกงถุง ไม่ใช่แม่ครัวปลูกผักกินเอง แม่ครัวซื้อของจากตลาด ถ้าจะเป็นแม่ครัวปรุงเองต้องรู้ที่มา เมื่อรู้ที่มาจึงจะได้เห็นโทษ เห็นโทษจะได้เหนื่อย กว่าจะมาเป็นแกงได้มันเหนื่อย จึงจะเบื่อ ถ้าแม่ครัวแกงถุง มันก็ไม่เบื่อเสียที ไม่เกิดสังเวส ไม่เกิดทุเรศ เพราะมันไม่เหนื่อย กว่าจะได้ผักมาสักเส้น มันเหนื่อย มันจะได้เห็นโทษ

ดังนั้นวิปัสสนาจึงเป็นการปฏิบัติให้รู้ที่มาที่ไป จะได้เห็นโทษของกาย พระพุทธเจ้าจึงสอนกรรมฐาน สอนให้เห็นความสกปรกของร่างกาย เห็นทุกข์ ให้เกิดปฏิเวธ เกิดความสังเวสขึ้นมาในตน ว่ามาหลงในเรื่องไร้สาระ ไม่มีประโยชน์อะไร เกิดเพราะเจ้าของเข้าถึงความเป็นจริงที่เจ้าของปฏิบัติ เกิดความรู้สึก เห็นความเป็นจริงในปรากฏการณ์ สติของเราเรียกปฏิบัติ เมื่อสติ เข้าถึง รู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น รู้ทันสิ่งที่ไหลที่ผ่านเข้าผ่านออกทวารทั้งเก้า เข้าถึงฐานที่ตั้งของความรู้สึก เห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นความเป็นจริง ของความไม่เที่ยง ปล่อยวาง เกิดความสุขเพราะอยู่เหนืออารมณ์ ทำอย่างนี้แหละเรียกวิปัสสนา

พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ตรัสรู้ ทุกข์ทั้งนั้น อริยสัจสี่เป็นเรื่องของทุกข์ทั้งสิ้น

เราต้องศึกษาจึงจะได้เข้าใจ เรียนให้รู้ เรียนให้จบ จึงจะได้วิชชา ไม่เป็นอวิชชา ได้เป็นผู้รู้

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=kingmaithai&month=10-01-2009&group=14&gblog=15

 

​

โถอยากได้อีกใช่มั๊ย...ไม่ต้องน้อยใจ เดี๋ยวพี่ฝากองค์นี้ให้อีกองค์นึง เอาม๊ะ เนี่ยทำเป็นพิเศษให้เลยน๊ะเนี่ย...เอิ๊ก​

 

พี่ครับ

​

โถอยากได้อีกใช่มั๊ย...ไม่ต้องน้อยใจ เดี๋ยวพี่ฝากองค์นี้ให้อีกองค์นึง เอาม๊ะ เนี่ยทำเป็นพิเศษให้เลยน๊ะเนี่ย...เอิ๊ก

พระท่านในรูป ประดิษฐาน อยู่ที่ไหนครับ​

 

ตอบคำถามแทนพี่พันวฤทธิ์ พระในรูปน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่วัดม่วง จังหวัดอ่างทองครับ ผมเคยไปร่วมถวายเงินบริจาคสร้างพระเกศาด้งรูป



นี้แค่เกศาเส้นเดียวยังใหญ่ขนาดนี้ องค์จริงทั้งองค์จะขนาดใหญ่แค่ไหนคิดดูครับ

 

พระพักตร์ท่านยิ้มมากและมีความสุขใช่หรือเปล่าล่ะ พิจารณาดีๆ จะเหมือนกับโก๊ะตี๋ (ขอประทานอภัย) เพราะไม่ทราบผู้ปั้นได้แรงบันดาลใจมากไปหรือเปล่า เพราะอยู่อ่างทองเหมือนกัน พระประธานท่านมีชื่อตามนี้และอยู่ที่วัดนี้ครับ


พระะพุทธมหานวมินทร์ศากยะมุนี
พระใหญ่ วัดม่วง จ.อ่างทอง

 

โอ้ โฮ..... พึ่งเคยเห็นเลยครับเนี่ย สาธุ

 

วันนี้ได้โอนเงินทำบุญเข้าบัญชีทุนนิธิฯจำนวน6000บาท โดยมีรายนามผู้บริจาคดังนี้ครับ
คุณอนันต์และคุณสุนารี ตั้งธาราวิวัฒน์ 1000บาท
คุณรัดเกล้า ศิริมาตร และครอบครัว 400 บาท
คุณนาลดา อมรพัชระ และบุตร 400 บาท
คุณชมพู ดิษฐ์ประเสริฐ 200 บาท
คุณสงวนชัย อัครวิทยาภูมิ 1000 บาท
คุณปิยะวัฒน์ วรัทเศรษฐ์ 1000บาท
คุณวิศัลย์ ณ ระนอง 1000 บาท
คุณพลภัทร ตั้งธาราวิวัฒน์ และเงินที่เหลือจากค่าดำเนินการจัดหาและจัดส่งพระหลวงปู่สรวง1000บาท

รวมเป็นเงินทั้งหมด 6000บาท

โมทนากับทุกๆท่านที่ได้บริจาคสงเคราะห์สงฆ์อาพาธครับ

 

ขอเรียนแจ้งภาพถ่ายทำบุญประจำเดือนมกราคม 2552 ครับ

1. เริ่มต้นด้วยการจัดอาหารถวายพระครับ





2. ร่วมกันบริจาคให้โรงพยาบาล 20,000.- บาท





สาธุครับ

 

3. ช่วยกันนำไปถวายพระที่ตึกครับ





4. ถ่ายรูปร่วมกันหน้าตึกครับ



5. ร่วมกันอธิฐานจิตครับ



6. ร่วมกันสวดมนต์ขอถวายสังฆทานครับ



สาธุครับ