คนมีญานมีพลังจิตถอดจิตฯลฯที่อยู่ในเว็บนี้ ช่วยผมหน่อยนะครับ

แล้วทำไมต้องเอามาเกี่ยวข้องกับศาสนาละครับ ในเมื่อศาสนามุ่งเน้นที่จะบ่มเพาะจิตใจมนุษย์ให้มีคุณธรรมที่สูงขึ้น

ขณะที่เรื่องนี้เป็นแนววิทยาศาสตร์ ที่ต้องการพิสูจน์ตามแหลักการวิทยาศาสตร์
เกรงว่าปะปนกันไปแล้ว ดูมันจะขัดๆ อย่างไงชอบกลนะครับ

 

ในเมื่อท่านรู้ความจริงแท้ในสิ่งนี้ ก็ขอให้เล่ามาเถอะ เราจะฟังท่าน
หากมีข้อสงสัย เราจะถามท่านผู้มีปัญญาญาณ

 

สหายไม่พึงกล่าวเช่นนั้น

วิทยาศาสตร์ทางจิต ก็เป็นอีกแขนงวิชาหนึ่ง

ที่มวลมนุษยชาติ ต้องไปกันให้ถึงที่สุดแห่งทางปัญญาญาณ

 

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรียกว่า จิตวิทยา (อังกฤษ: psychology) คือศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ (กระบวนการของจิต),
กระบวนความคิด, และพฤติกรรม ของมนุษย์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ...

งั้นท่านช่วยเล่าสู่กับฟังให้หน่อยได้ไหม
การกำเนิดเอกภพ?
การกำเนิดสรรพสิ่ง?
การกำเนิดจิตวิญญาณ?

 

sriaraya5<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1823653", true); </SCRIPT>

นามเรียกขานท่าน ศรีอาริย์ หรอ หากท่านรับรู้ถึงสิ่งนี้ ก็ขอให้ได้เล่าเรื่องราวของท่านสู่กันฟังได้บ้างไหม ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้แบบมีส่วนร่วม นะครับ

 

ถ้าอย่างนั้น คุณ จขกท. ก็จงแสวงหาไปเถิดนะ

หวังว่าคงจะค้นพบได้ในเร็ววันนี้..เอาใจช่วยจ้ะ

หึหึ

 

ดูก่อน ภราดรภาพ
เราศึกษาเซ็นประวัติอริยะครู ศิษย์โง่ไปเรียนเซ็นเห็นธรรมะจิตสงบไว ไม่วุ่นวาย ไม่ร้อนรน ทั่งภายใน ภายนอก เกิดปัญญาโดยการพิจารณาอย่างเรียบง่าย
และ ได้บรรลุธรรม
อย่างฉับพลัน เราเป็นอิสระจากสิ่งที่ได้เล่าเรียนมาทั้งหมดทันที และได้รับความปราโมทย์ในธรรมอันแท้จริง

การกำเนิดเอกภพ?
การกำเนิดสรรพสิ่ง?
การกำเนิดจิตวิญญาณ?

ฟู่ซี อริยกษัตริย์เริ่มเปิดศักราชการใช้ อักษรของชาวโลกด้วยอักษรหนึ่งขีดเป็นสัญลักษณ์ว่า ฟ้า เรื่อยมา จนเป็น“สัพสิ่งคือทุกอย่าง” ซึ่งเปรียบเสมือนข้อมูลคอมพิวเตอร์ และยังใช้เป็น หลักคำนวณการต่าง ๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ดูก่อน ภราดรภาพ ทันที่ ที่เธอบรรลุธรรม เธอจะไม่ถามปัญหานี้
เรื่องโลก ฌาน ญาณ นิพาน

ทุกสิ่งเกิดจากหนึ่ง แล้วจึงกลาย หลายหมื่นแสน
จนจบแดน จากไม่มี จนมีถ้วน
ความลี้ลับ วิเศษเหลือ เหนือกระบวน
ไม่อาจถ้วน อธิบาย แม้เทพไทผู้จบเจน
มีคือไม่มี ไม่มีคือมี มีไม่มีเริ่มที่เดียวกัน
รูปคือว่าง ว่างคือรูป ไม่ใช่รูปไม่ใช่ว่าง
โลกครั้งนั้น แยกไม่ออก เป็นแบบอย่าง
เป็นกลุ่มพลัง ปราศกลิ่นเสียง รูปลักษณ์ใด

 

รจนาเป็นกลอนสัมผัสได้ดีทีเดียวครับ
มีเทพเจ้าองค์หนึ่ง มักจะคำกลอนสอนคน ขี้เมาด้วยนะครับ

ไร้รูป ไร้มิติ ไร้กาลเวลา
ไม่มีจุดเริ่มต้น ท่ามกลาง และสิ้นสุด
สภาวะว่าง บังเกิดพลัง อันศักดิ์สิทธิ์
คลื่นความถี่ สร้างมวลสาร เอกภพ

 

ผมว่าท่านสามารถทำได้ครับโดยไม่ต้องถามคนอื่นเลย.....เมื่อทำได้แล้วท่านจะเข้าใจเอง...การถามใน ณ.ที่นี่ไม่เกิดประโยชน์....รังแต่จะเกิดความฟุ้งซ่านแห่งจิต....ทั้งเรา และเขา.....ท่านเคยลองหรือยังครับ....แต่ต้องใช้กำลังใจสูงนะ....

 

จุดประสงค์ของผู้ถาม ขอให้ช่วยไขปริศนา เปิดใจกว้างก็ดีนะครับ
ถือว่าร่วมแชร์ความรู้และประสบการณ์ จะได้มีมุมมองกว้างไกลยิ่งขึ้น
แต่ก้ขอให้กำลังใจ จขกท. อยากจะรู้เรื่องนี้ ก็ต้องหล่อหลอมจิตวิญญาณตน
ให้ถึงความเป็นเอกภพ ขอให้โชคดี

 

พระพุทธเจ้าอยู่ที่ใจบริสุทธิ์
นิทราสู่มรรคผล อรหันต์นิทรา

ดังเช่นพระอานนท์เถระเจ้า

 

เซ็น มีบรรลุการบรรลุธรรม แบบจิตพุทธะด้วยหรือ
ปกติเซ็น มุ่งเน้นการเข้าถึงธรรมชาติ หรือเปล่าครับ
หากเราไม่ใช่พุทธะ เราก็ไม่สามารถบรรลุได้ จริงหรือเปล่า
ทำไมเรามาจากธรรมชาติ เราก็ต้องกลับไปสู่ธรรมชาติ ไม่ใช่หรือ
การบรรลุเป็นเพียงแค่อุดมคติอย่างนั้นหรือ
ขอคำชี้แนะหน่อย อาจฟุ้งเกินไปหรือเปล่าไม่รู้

 

" ควรรู้ทุกอย่างในบางสิ่ง ควรรู้ทุกสิ่งในบางอย่าง "

ข้อปฏิบัติเล่าใด หากไม่เป็นไปเพื่อความ หลุดพ้น จากวัฏฏะ ก้อจงอย่าพึงน้อมนำมาใส่ตัวเลยนะครับ เสียเวลาเปล่า ชีวิตคนเรามันสั้นนัก .......

อนุโมทนา สาธุ

 

รู้จักคำว่าอจินไตยมั้ย

 

ภราดรภาพเซ็นมีแต่ คำว่าให้มองคนอื่นเป็นพุทธะ
แล้วเรา ก็จะแจ้งในพุทธะอย่างเค้า

พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้มาแล้ว มากกว่า เม็ดทรายในมหาสมุทร
พระพุทธเจ้าที่บังเกิดขึ้นในโลกมีมากดั่งเม็ดทราย

ถือรวมเอาพุทธะทั้งหมดทั้งสิ้น

หากเราไม่ใช่พุทธะ เราไม่สามารถทำลายความไม่รู้ให้หมดสิ้นไปได้

การบรรลุเป็นสิ่งสามารถทำให้มี ให้เป็นได้ในท่านที่เจริญแล้ว
ถ้ารู้ว่าฟุ้งนั่นภราดรภาพอยู่กับสติ

ปกติเซ็น มุ่งเน้นการเข้าถึงธรรมชาติ เพื่อให้ใกล้เคียงกับ
ธรรมชาติดวงเดิม ที่เป็นของบริสุทธิ์ ไม่คงสถานะใด ๆ
แต่พอเอาจิตไปจับ กลับเป็นมีมหาศาล พอทำใจนิ่ง กลับไม่มีเบื้องต้นและเบื้องปลาย

 

ผมเดา ว่า คนที่เค้ามีความสามารถ ถึงขั้นนั้น เค้าก็ไม่อยากรู้อะไรมั้งครับ ผมมันชัดเจน แจ่มแจ้งแล้ว ถ้าถามใกล้ตัวลงมาหน่อย เช่น
เรื่อง วิญญาณ เรื่องผี นี่ เผื่อใครได้มโนจะได้ตอบได้มั้ง

 

อ่ะได้ๆ เอา บทแรกไปก่อนนะครับ


E = mc^2


E = พลังงาน (ธาตุไฟ)

m = สสาร (ธาตุดิน)


ทั้ง E และ m ไม่คงที่ มีเพิ่ม มีลด มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นมันจึงเป็น สังขตธรรม

c^2 เป็นค่าคงที่ ไอสไตน์ กลับมาเกิดใหม่อีกกี่ชาติๆ ยังไงๆ ก็คำนวนได้ค่าเดิม
ดังนั้นมันจึงเป็น อสังขตธรรม

ธาตุน้ำ = การเคลื่อนไหวของพลังงาน มี 2 แบบ คือ แผ่ซ่านซึมซาบ หรือการแผ่รังสี
และ ยึดเหนี่ยวเกาะกุม หรือแรงดึงดูด

ธาตุลม = การเคลื่อนที่ของสสาร (อยู่ในกฎของนิวตั้น)


E = mc^2 : หมายความว่า สสารเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงจะกลายเป็นพลังงาน

E/c^2 = m : หมายความว่า พลังงานที่ถูกขัง หรือ แสงที่หยุดเคลื่อนที่ จะกลายเป็น
สสาร และสิ่งเดียวที่หยุดแสงได้คือหลุมดำ

E/m = c^2 : หมายความว่า พลังงานที่ถูกสสารขังเอาไว้ นั่นคือ สิ่งมีชีวิต และ
ชีวิตคือ นิพพาน

E = จิต

m = รูป

E = mc^2 : อีกความหมายหนึ่งก็คือ จิต -->รู้--> รูป และ นิพพาน
หรือ ประสบการณ์นิพพาน นั่นเอง


บทต่อไปเป็นกำเนิดจักรวาล ไว้คราวหน้าจะมาต่อนะครับ

 

รอบท ที่สอง อยู่นะคับ ॐ

 

ใช่เค้าไม่ต้อง แสวงหาแนวทาง อะไรมาเพื่อการตรัสรู้


แต่เพื่อจะได้อยู่ช่วยเหล่าพระมหาโพธิสัตย์กันสงเคราะห์สรรพสัตว์รื้อสัตว์ขนสัตว์เข้านิพาน<O


อยู่ยับยั้งสังขารอินทรีย์เป็นวิหาร ธรรมเพื่อเมตตาสั่งสอนแลแนะนำสัตว์โลกให้สิ้นสังสารวัฏตามอำนาจวาสนาของแต่ละบุคคล ๆ หรืออยู่เป็นไปด้วยธรรมดาสามัญ ตามอุปนิสัยแลวาสนาของตน<O


ถ้าเรื่องของผี เรื่องของวิญญาน ต้องออกเยี่ยมป่าช้า<O


นอนในโลงศพ เข้าไปในป่ากันดาน อยู่ในถ้ำลึก ๆ<O


ที่ผ่านมาก็ได้ถือปฏิบัติมาก่อนแล้วทั้งสิ้น จิตมันถึงจะพึ่งตนเองอย่างเต็มที่ ในเวลาตกอยู่ที่อันตราย<O


ต.ย. มีลูกศิษย์ถามจริงไหมโลกาวินาศปี ค.ศ.๒๐๐๐<O


ชีเหลืองก็ไม่ตอบ<O


แกมีแต่บอกให้นั่งกรรมฐาน ให้ไปนั่งเอง ให้รู้เอง ไม่ต้องมายืมหูยืมตาของใคร<O​

<O​