คนมีญานมีพลังจิตถอดจิตฯลฯที่อยู่ในเว็บนี้ ช่วยผมหน่อยนะครับ

สวัสดีครับ ท่าน ศรีฯ

 

เอาละว้า กระทู้ล่อเป้า อิอิ

 

ใคร จะ ยิงก่อน เอ้า....

 

ระวังจะไม่มีแรงกลับบ้านนะ จะหาว่าไม่เตือนอิอิ

 

สิ่งที่ท่านนั้นอยากรู้นั้นเปรียบได้กับใบไม้ทั้งป่า องค์พระสัมมาท่านได้เคยกล่าว ความรู้นั้นมีมากมายดั่งใบไม้ทั้งป่าแต่สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสสอนนั้นเป็นเพียงใบไม้ในกำมือที่สามารถทำให้เรานั้นพ้นทุกข์ ที่กล่าวมา เพียงอยากเตือนทุกๆท่านได้คิดถึง ความสำคัญของแก่นของพุทธ ที่ทุกคนมองข้ามไป เมื่อใดที่ท่านได้เข้าถึง ท่านจะรู้ว่าใบไม้ทั้งป่า นั้นสู้ความรู้ที่ท่านสอนไม่ได้เลย
ขอท่านทั้งหลายจงตื่นเทิด

 

" ใบไม้ในกำมือ " ก็พอแล้ว

 

เข้าไปดูเวบนี้สิครับ http://www.geocities.com/flare333/ เข้าไปกระทู้ถามได้เลยครับ(น่าน..เห็นเขาว่างั้นนะ)

 

มนุษย์นะ ก็แค่อยากรู้ในสิ่งที่ตนเองไม่รู้ แต่ความอยากของมนุษย์แต่ละคนไม่เท่ากันหรอก ขึ้นอยู่กับว่าใครอยากมาก ใครอยากน้อย สุดท้ายนะ ก็แค่รู้ของตนเองก็พอแล้ว
มนุษย์ที่หวังอะไร เกินตัว เพราะความอยาก ก็จะอยากรู้โดยไม่รู้จักคำว่า "พอดี" กับปัญญาของตนเอง ที่จะรู้แจ้งได้ เพราะหวังมากเกินตัว ไม่ได้หวังแต่เพียง พ้นทุกข์ อย่างเดียว แต่ความหวังที่ตัวเองหวังไว้ ส่วนมากที่เห็นจะเจือไปด้วยสัญญา ภพชาติ และยังไม่รู้ตัวเองว่า กำลังหลงภพชาติอยู่ นั่นแหล่ะ เกิดจากการอยากที่เกินตัวเอง " ใบไม้นอกกำมือ " แล้วถามว่าจะรู้ไปทำไม ก็แค่ความอยากนั่นแหล่ะ สนองตัณหาและความอยากโดยไม่รู้ตัว นี่แหล่ะ โมหะ ของจริง
พระท่านก็บอกว่า ให้เจริญสติอยู่แค่ปัจจุบันเท่านั้น แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

 

ถ้าอยากก็ไม่จบ ถ้าไม่อยาก ก็แจ้งในนิพพาน เท่านั้นเอง ทุกอย่างจะแจ้งกระจ่าง และเข้าใจเอง เมื่อวางมันลง นั่นคือ การวางความอยาก หรือความหวังที่ปรารถนากันนั่นแหล่ะ การปรารถนากันนั่นแหล่ะ ความอยากอย่างมาก ไม่รู้กี่ภพ กี่ชาติ กี่กัลป์ ถ้าอยากเกิดอีก ก็หวังกันต่อไป เตือนได้เท่านี้ อิอิ

 

ความอยากนั่นแหล่ะ กิเลศ และอัตตา เห็น ๆ อิอิ

 

วางลงสิจ๊ะ ถือให้หนักทำมัย
อยากก็คือกิเลศ วางความอยาก ก็วางกิเลศได้งัย ง๊าย ง่าย
;aa26

 

มนุษย์นะ เกิดมาคู่กับความอยาก และกิเลศ อยู่แล้ว ใครบ้างไม่มีกิเลศ มีมาก มีน้อยแค่นั้นเอง
พระพุทธองค์ก็สอน ให้เจริญสติ อยู่กับปัจจุบัน เพื่อให้รู้ความจริงในอริยะสัจ 4
ท่านให้มนุษย์ เจริญสติ เพื่อให้รู้เท่าทันกิเลศงัย และกิเลศตัวที่ร้ายที่สุด คือโมหะ ที่น่ากลัวที่สุด คือการปรารถนาของมนุษย์นี่งัย ไม่รู้จักจบสิ้น มันก็เกินปัญญาของตัวเองที่จะรู้แจ้งเห็นจริงใจสัจจธรรม งัย เค้าเรียก เสี้ยวของเส้นผมบังภูเขา อิอิ

 

ถามว่า อยากรู้ว่าสวรรค์เป็นงัย อยากได้ทิพย์ อยากได้อภิญญา อยากได้ แล้วถามว่าตอนตาย เอาไปได้ซักอย่างมั้ย

 

อิอิ

 

น่าจะลองอธิบายมากกว่านี้นะค่ะ

 

ว่างเปล่า ว่างเปล่าแต่เข้าใจดีครับ ขอบคุณท่านผู้เจริญที่แนะนำความจริงอันง่ายดายแต่คนทั้งหลายมักมองไม่เห็น

 

การเป็นพระโพธิสัตว์คือเรียนวิชาครูถ้าครูไม่ฉลาดก็สอนคนอื่นไม่ได้สวัสดีครับ ท่านวิษณุ

 

รออ่านอยู่เหมือนกันครับ....

 

แล้วตัวเธอยังอยากไปเกิดอยู่ไหมละ
ถ้า khajonsak9999 ไม่อยากเกิดก็ทำให้หมด ๆ ซะแต่ยังมีลมหายใจอยู่ จะได้ไม่ต้องไปเกิดในยุคพระศรีอาริย์คับ หรือถ้าไม่พบยุคพระศรีอาริย์ก็คือ หลงไปเกิดในพรหมโลกเป็นอรูปพรหมไปเสียก่อน สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว

 

มีแต่ อยาก ตายเร็วๆ เพื่ออะไร อยู่ก่อนจะได้ช่วยกันสงเคราะห์สรรพสัตว์
เห็นมีอยู่องค์เดียวนะที่ฆ่าตัวตาย พอจะยังมีประวัติจักไม่แสดงโดยพิสดารหาอ่านเอาเอง
ก็คือ พระโคธิกะเชือดคอตายไป นิพพานเลย แต่ว่าฆ่าแบบพระโคธิกะกับ ฆ่าแบบคนทั่วไปมันต่างกันมหาศาล<O</O