ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

พระพุทธรูปที่อยู่ภายในวัดหลิงจิวซาน

 

รีบส่งก่อนที่จะไม่ว่าง...รูปเสาไฟ(รูปสุดท้าย) ถ่ายหน้าบ้าน ตอนเช้าวันนี้(4 ก.พ.52 มีรูปเดียว ที่ต่างวันเวลา) เปรียบเทียบกับ เสาไฟฟ้า ที่ถ่ายได้ เมื่อคืน 3 ก.พ.52 เวลา 09.30 น.(รูปก่อนสุดท้าย) รูปพระจันทร์ ถ่ายในวันเวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกัน ไยออกมาไม่เหมือนกัน
ภาพกลางคืน ถ่ายวัน-เวลาเดียวกันหมด ส่วนภาพแรก ๆ ถ่ายที่บ้าน ตอนเช้า ประมาณ 8 โมงกว่า ในวันที่ 3 ก.พ.52 เช่นกัน

 

ภาพภายในวัดหลิงจิวซาน

 

ภาพภายในวัดหลิงจิวซาน

 

พระพุทธรูปที่อยู่ภายในวัดหลิงจิวซาน

 

ภาพสวยงามมากครับ มีโอกาสต้องไปเยี่ยมสักครั้งแว้ว...

 

พระพุทธรูปประจำวันเกิด

 

ยินดีต้อนรับ คุณ tro สู่ห้องกลุ่มประสานงานฯ(เขากะลา) ครับ

 

เจ้าหน้าที่ประจำวัดชั่วคราว

 

สำหรับการเลือกซื้อชุดสังฆทาน ขอแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

จากการสำรวจของในถังสังฆทานสำเร็จรูป หรือถังเหลืองที่เห็นวางขายกันอยู่ทั่วไป พบว่า กว่า 50 % เป็นของที่ไม่มีคุณภาพ ใช้งานจริงไม่ได้ เช่น กระดาษชำระที่แข็งและหยาบ เช่นเดียวกับแปรงสีฟัน สบู่ แชมพู ที่มีกลิ่น เครื่องชงดื่มหมดอายุ ถ่านไฟฉายหมดอายุ หรือแม้แต่ตัวภาชนะที่ใส่

สำหรับสิ่งของที่จำเป็นเพิ่มเติม ที่พระท่านน่าจะต้องการใช้ เช่น

เครื่องเขียน อย่างเช่น สมุด ปากกา ดินสอ เนื่องจากพระสมัยนี้ต้องเรียนพระปริยัติธรรม และจดกำหนดนัดหมายต่างๆ ช่วยจำ บางรูปท่านเป็นเหรัญญิกดูแลค่าใช้จ่าย ยิ่งต้องใช้มาก แต่ไม่ค่อยมีใครถวายเครื่องเขียนเหล่านี้ พระท่านจึงต้องไปเดินหาซื้อเองเสมอ

ผ้าไตรจีวร ที่มีความยาวพอที่จะนุ่งห่มได้ มีความหนาพอเหมาะสม

หนังสือธรรมะ สารคดี นิตยสาร หรือที่ให้ความรู้ด้านอื่นๆ เนื่องจากพระสงฆ์ มีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ที่แตกฉาน ทั้งทางธรรม และรู้ทันข่าวสารบ้านเมือง เพื่อจะได้ยกตัวอย่างให้ชาวบ้านเข้าใจได้แจ่มแจ้ง การถวายหนังสือเหล่านี้ จึงถือเป็นต้นทุนแห่งธรรมทาน ให้พระท่านได้นำไปกระจายสู่ผู้คนได้อีกมาก ทั้งยังถือเป็นการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยง แถมได้ผลตอบแทนสูง
"

ผ้าขนหนูสีสุภาพ เพราะผ้าขนหนูที่ติดมากับถังเหลืองมักมีคุณภาพต่ำ จนใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง

ชุดคอมพิวเตอร์ ข้อนี้สำหรับผู้ที่สามารถรวบรวมเงินได้เป็นกอบเป็นกำอย่างกองกฐิน หรือผ้าป่า ก็น่าพิจารณาถวายคอมพิวเตอร์แก่วัดที่ขาดแคลน

การทำสังฆทาน นอกจากจะถวายเป็นสิ่งของแล้วอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ การบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลสงฆ์เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุที่อาพาธ

 

พระพุทธรูปที่อยู่ภายในวัดหลิงจิวซาน

 

ภาพภายในวัดหลิงจิวซาน

 

อ้างอิง:

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สุดใจเขากะลา

......ปฏิบัติเพื่อละการยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ห้าเหล่านั้น

ผลจากการปฏิบัติ ก็จะพบว่าความทุกข์ลดน้อยลง

เพราะความทุกข์เหล่านั้นเกิดจาก อุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า เห็นว่าเป็นตัวตน จึงมีเรา มีเขา มีสุข มีทุกข์ ตามการยึดมั่นถือมั่นนั่นเอง

เมื่อไม่มีอุปาทาน ก็จะไม่มีใครสุข ไม่มีใครทุกข์

แต่การเกิดอารมณ์ต่าง ๆ ในขันธ์ห้า ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ตามปกติ อารมณ์ชอบใจ พอใจ อารมณ์เบื่อหน่าย เศร้าหมองหดหู่ วิตกกังวล ยังคงมีให้เห็นในเวทนาของขันธ์ห้า

แต่เมื่อเห็นว่ามันเป็นเพียงกลไก ที่ต้องแสดงไปตามเหตุปัจจัยของขันธ์ห้า อย่างนั้น อย่างนั้น เป็นธรรมดาแล้ว

ก็จะไม่เข้าไปแทรกแซง เข้าไปเปลี่ยนแปลง เข้าไปบังคับบัญชาให้มันเลิกเบื่อหน่าย เลิกหดหู่ เลิกเศร้าหมอง เลิกดีใจ เลิกเสียใจ

มีแต่จะคอยดู คอยมอง คอยสังเกตุอารมณ์เหล่านั้นที่เกิดขึ้นในขันธ์ห้า ณ ขณะอย่างเงียบ ๆ ด้วยความเข้าใจ แต่ไม่เข้าไปแตะต้อง ไม่เข้าไปบังคับให้มันเป็นอย่างโน้นอย่างนี้

จึงมีสติในการตามดู ตามรู้เท่าทันในอารมณ์เหล่านั้น ในกลไกของขันธ์ห้าเหล่านั้น เมื่อเห็นว่ามันกำลังคิด กำลังร้อนรน กำลังกังวล กำลังห่อเหี่ยวใจ

เมื่อดูไป แล้วจะเห็นว่าขันธ์ห้า มันแก้ปัญหาของมันได้ โดยใช้กลไกในร่างกาย ในขันธ์ห้าของมันนั่นแหละ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ปัญหาที่ขันธ์ห้ามันก่อขึ้นมา

มันทำมาอย่างนี้หลายภพหลายชาติ ที่ไม่หลุดพ้นกันสักทีก็เพราะไปมีอุปาทานว่าเป็นตัวเราผู้ทำ ผู้สุข ผู้ทุกข์ หรือแม้แต่ในชาตินี้ มันก็ทำอย่างนี้ของมันเองมาหลายปีแล้ว เท่าที่เราเกิดมา มันสร้างปัญหา มันแก้ปัญหา มาทำมาหากิน มันสุข มันทุกข์ ด้วยกลไกของมันเองมาตลอด

แต่ด้วยความไม่รู้ อุปาทานว่ามีตัวเราอยู่ในขันธ์ห้า จึงไปรับภาระ ไปแบก ไปยึด ไปร่วมสุข ร่วมทุกข์กับมัน

ทั้ง ๆ ที่ ถ้าถอยออกมาดูขันธ์ห้ามันทำงานไปตามกลไกของมัน ออกมาจากการยึดมั่นว่าเป็นตัวเราแล้ว มันก็ยังปรุงสุข ปรุงทุกข์ของมันได้เองอย่างเดิม แม้ไม่มีใครไปสนใจร่วมสุข ร่วมทุกข์ด้วยก็ตาม

นี่เอง ที่เมื่อมีเราในขันธ์ห้า ก็จะมีเราเกาะไปสุข ไปทุกข์ ตามกลไกที่มันทำของมันเอง จึงต้องมีเราผู้ขึ้นลงไปตามอารมณ์ของการปรุงตามเหตุปัจจัยที่ขันธ์ห้ามันปรุงขึ้นมา กระเด็นกระดอนไปตามอารมณ์เหล่านั้น เพราะความไม่รู้ไปยึดไปเกาะมันนั่นเอง

เราจึงต้องมาเรียนรู้ มาทำความรู้จัก มูลเหตุแห่งทุกข์ ที่เรียกว่า ตัวอุปาทาน กันให้มากกว่านี้สักหน่อยแล้ว

จึงจะออกมาเป็นผู้ดูได้ และออกมาจากอุปาทานขันธ์ห้า ด้วยการเห็นว่า มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง


ความหมายของ ..... อุปาทาน

อุปาทาน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา







อุปาทาน คือ การยึดมั่นถือมั่นทางจิตใจ เช่น

• ยึดมั่นถือมั่นในเบญจขันธ์ คือร่างกายและจิตใจรวมกันว่าเป็น"ตัวตน" และยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ถูกใจ อันมาเกี่ยวข้องด้วยว่าเป็น"ของตน"
• หรือที่ละเอียดลงไปกว่านั้นก็คือยึดถือจิตส่วนหนึ่งว่าเป็น"ตัวเรา" แล้วยึดถือเอารูปร่างกาย ความรู้สึก ความจำ และความนึกคิด ๔ อย่างนี้ว่าเป็น"ของเรา"

พุทธภาษิตมีอยู่ว่า "เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว เบญจขันธ์ที่ประกอบอยู่ด้วยอุปาทานนั่นแหละเป็นตัวทุกข์"

ดังนั้น เบญจขันธ์ที่ไม่มีอุปาทานครอบงำนั้นหาเป็นทุกข์ไม่ ฉะนั้น คำว่าบริสุทธิ์หรือหลุดพ้นจึงหมายถึง การหลุดพ้นจากอุปาทานว่า"ตัวเรา" ว่า"ของเรา"นี้โดยตรง ดังมีพุทธภาษิตว่า "คนทั้งหลายย่อมหลุดพ้นเพราะไม่ยึดมั่นถือมั่นด้วยอุปาทาน"



อ้างอิงจาก

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...B8%B2%E0%B8%99


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันเสาร์ที่ 7 ก.พ. 2552 เวลา 10.00 น.
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
จะเดินทางไปร่วมกันถวายสังฆทาน ที่วัดมหาบุศย์
โดยมีสังฆทานหลัก ของคุณแตง
เนื่องในวันครบรอบ 11 ปี
ของการก่อตั้งกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว

จึงขอเรียนเชิญสมาชิกและผู้สนใจที่มีเวลา
มาร่วมถวายสังฆทาน หรือร่วมอนุโมทนา ในครั้งนี้
หรือท่านใด สะดวกซื้อของจำเป็นสำหรับสงฆ์
ก็สามารถซื้อมาร่วมรวมกันถวายเป็นสังฆทานชุดใหญ่
พร้อมๆกันได้ครับ

หลังจากนั้น เราจะเดินทางไปที่วัดหลิงจิวซาน
ประมาณเวลา 11.00 น. เพื่อปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิ
ขยายระบบ ขออโหสิกรรม และ เชื่อมระบบ

เวลา 12.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน

เวลา 14.00 น. กลับวัดสนทนาธรรม ขยายระบบ (ต่อ) ฯลฯ

แจ้งมาเพื่อทราบครับ

 

ถามนิดนะครับ สำหรับท่านที่รู้เรื่องนี้ คนที่มีจิตของมนุษย์ต่างดาวมาซ้อนอยู่ในตัว เขามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับมนุษย์ต่างดาว และมนุษย์ต่างดาวจะมาช่วยอะไรได้บ้างอย่างไรครับ (สมมุติว่ายังสื่อสารกันไม่ได้ครับ) จะเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติหรือเปล่าครับ

 

<TABLE class=tborder id=post1859118 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> เมื่อวานนี้, 10:13 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1084 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>The Third Eyes<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1859118", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม



วันที่สมัคร: Mar 2005
ข้อความ: 1,895
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 3480




</TD><TD class=alt1 id=td_post_1859118 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->มหาเทพ มาจาก ฝากฟ้า อันไกลโพ้น..จักรวาลและ อวกาศ
มนุษย์ ต่างดาว จาก หลายพันหมื่นโลก..
ย่อม พัฒนา มาก่อน มนุษย์ โลก มากมาย นัก
มีพลัง จิต พลัง ภายในสูง มากๆๆ..
มนุษย์ โลก แทบจะพูดได้ ว่า พลัง จิต อ่อนแอ ที่ สุด แห่ง จักรวาล
........................................................................
มนุษย์ ต่างดาว หรือ มหาเทพ อื่นๆๆ อีกมาก
ที่ มีพลัง มหาศาล นับ หลายหมื่น เมตร
พลัง นั้นใช้ ในการเดินทาง / การขับเคลื่อน ยานอวกาศ
วิ่งไป เร็ว มากๆๆ เกือบ เท่า ความเร็วแสง
ไม่มีมวล..จึง หักเลี้ยว หักศอก ได้ อย่าง สบาย
ในขณะที่ มนุษย์ ยัง ต้อง มีการ แหก โค้ง..หลุด โค้ง เป็น ประจำ
.....................................................................
การที่เขามีพลัง อัดมาก..เขาจึงไม่เข้าใกล้ มนุษย์
เพราะ ถ้า เข้าใกล้..มนุษย์ จะเป็น อันตาย ถึง ตาย
เพราะ อวัยวะ ภายใน จะแตก..เสียหาย
การติด ต่อ กับ มนุษย์ ต่างดาว ที่ มีพลัง แรงๆๆ
จึง ต้องใช้ โทรจิต เพียง อย่างเดียว
............................................................
จะเห็นว่า ตามเวบ ต่างๆๆ ที่ เล่าถึง มนุษย์ ต่างดาว
มี ผู้คน ที่พอจะเข้าใจว่า..น่าจะเป็นอะไร
แต่มีบางคน..ที่ อวิชชา..รู้ น้อย..มักจะขึ้น กระทู้ ว่า
มนุษย์ ต่างดาว เป็น เรื่อง โกหก..ถ้า มีจริง ก็ ต้อง ลงมาจอด
และเดิน ออกมาให้ ดู ตัว เป็นๆๆ จึง จะเชื่อ
...............................................................
วอน ตาย ซะแล้ว มั๊ย ล่ะ..เพราะ ไม่มีความรู้เรื่อ งพลัง จิต
แล้ว ก็ยังมานั่ง อ่านกระทู้ พลังจิต..และ ขวางคนอื่นอยู่ได้
..................................................................


</TD></TR></TBODY></TABLE>


http://palungjit.org/showthread.php?t=158289&page=55

 

เห็นเณรน้อยแล้ว ทำให้ คิดถึงจารโม่ แต่งชุดแบบเดียวกันเลย








<TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY id=threadbits_forum_2><TR><TD class=alt1 id=td_threadtitle_86674 title="-ขอขอบคุณ webmaster.palungjit.org ที่ตอบรับพี่สุดใจ จากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เป็นสมาชิกใหม่ในวันนี้

-และขอขอบคุณท่านที่สนใจติดตามข้อมูลข่าวสารของกลุ่มเขากะลา(เดิม) อย่างต่อเนื่องตลอดมา ซึ่งกลุ่มเขากะลา ได้เสร็จสิ้นการฝึกจิต และฝึกสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวแล้ว...">แนะนำ ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) (29 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
สุดใจเขากะลา
</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 6,668, จำนวนอ่าน: 320,109">

วันนี้ 04:33 PM
โดย MOUNTAIN ​

</TD><TD class=alt1 align=middle>6,668</TD><TD class=alt2 align=middle>320,109</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขณะที่กำลังอ่าน..อยู่ เวลาหน้าจอ 22.45 น.โดยประมาณ ลูกสาวคนโตเดินมาเรียกให้มาช่วยดูบางอย่างที่กำลังบินเงียบ ๆ อยู่ เลยอดเรียก ลูกสาวคนเล็กมาดูอีกคนไม่ได้
ดูเสร็จทุกคน ก็แยกย้ายกันกลับมาทำภาระกิจหน้าคอมฯ ของตัวเอง (แบบว่า ชักชินแล้วกับสิ่งที่บินไห้เห็นบ่อย ๆ ตอนกลางคืน)

แต่ที่ต้องเรียกมาดูกันคืนนี้ เพราะ รูปทรงต่างจากปกติ คือ ไม่เป็นเครื่องบิน แต่เป็นทรงจานบิน บินต่ำ ช้า ๆ แต่เสียดายลูกชายวิ่งมาดูไม่ทัน ชะโงกยังไงก็ไม่เห็น เพราะบินไปเหนือหลังคาบ้านแล้ว

เพิ่งพูดกับคุณพีท เมื่อวันที่เจอกันที่ In house (30 ม.ค.52) ว่า ทรงจานบิน ที่เขาเจอน่ะ เราไม่เคยเจอ เจอแต่ทรงคล้ายเครื่องบิน อยากเจอสักที คืนนี้เลยได้เจอจริง ๆ สมปรารถนา เฮ้อ...ต้องเร่งความเพียร ...ฝึกโทรจิต เอาไว้สื่อสารกันหน่อยแล้วมัง/.

 

วันนี้ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นวันครบรอบ 11 ปี เปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา พี่สมจิตร และครอบครัว ได้เดินทางไป ถวายสังฆทาน ที่วัดเขาพนมฉัตร หรือ(เขาล้อ) ซึ่งอยู่ใน อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ โดยมี คุณวิเชียร ขลิบทองรอด และ คุณชนกนันท์ ขลิบทองรอด ให้การต้อนรับ และขับรถพาไปที่วัดซึ่งอยู่บนยอดเขาค่อนข้างสูงมาก บนยอดเขามีสิ่งก่อสร้างสวยงามมาก แต่ยังไม่เสร็จดี จึงยังไม่ค่อยมีบุคคลทั่วไปขึ้นไปชม เพราะเป็นเขาที่สูงมาก ขึ้นลำบาก ต้องใช้รถยนต์ที่สถาพดี และคนขับรถต้องชำนาญทางจริง ๆ จึงจะขึ้นได้

พี่สมจิตรต้องขอบคุณ คุณวิเชียร ขลิบทองรอด เป็นอย่างมาก ที่ได้กรุณาขับรถพาไปชมวิวด้านบนของเขาพนมฉัตร มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
​