รวมพลคนสัมผัสญาณ"เจ้าแม่กวนอิม" 觀世音菩薩 結緣

โมทนาบุญด้วยครับ
ในตอนวัยรุ่น กำลังเติบใหญ่เข้าสู่วัยฉกรรจ์
คุณแม่ผมบอกว่า เอ็งต้องเลิกทานเนื้อ เพราะไปดูเจ้าเข้าทรงหลายแห่งแล้ว
ถ้ายังไม่เลิกทานเนื้อจะต้องประสบเคราะห์กรรมทำมาหากินไม่ขึ้น
ในวัยขณะนั้น ก็ยังไม่รับฟัง ยังคงทานเนื้อไปเรื่อยๆแทบทุกวันจนกระทั่ง
เกิดหมดทางทำมาหากิน
และเกิดระลึกถึง คำสั่งสอน ของคุณแม่ได้
ก็เริ่มทำตามจนกระทั่งครอบครัวมีความผาสุข มีภรรยาและลูกชาย
แต่ยังไม่หมดกรรม คือ เลิก ทานเนื้อสัตว์ใหญ่
แต่ต้องมาทำงานในโรงงาน ที่เห็นแต่ ซากสัตว์ กระดูกวัว กระดูกควาย

 

มูลนิธิไท่หลินเทิดคุณธรรม
ขอเรียนเชิญสาธูชนทุกท่าน

ร่วมพิธีเบิกพระเนตร
พระโพธิสัตว์กวนอิม
ประทับยืนหลังพญามังกร
ณ สถานธรรมไท่หลิน
62 ถนนวงแหวนรอบกลาง ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง เชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2551
เวลา 09.00-12.00 น.​

​

 

จัดวางแยกกันค่ะ แยกโต๊ะหรือหิ้ง แต่ตำแหน่งของพระมหาโพธิสัตว์กวนอิมควรอยู่สูงกว่าเทพค่ะ พระแม่อุมาเป็นฝ่ายเทพน่ะค่ะ

 

ถ้าบอกว่า เคยเห็นท่าน ด้วยตาเนื้อมาแล้ว จะมีใครเชื่อไหมเนี่ย เมื่อก่อนในฝันเจอบ่อยมาก ในหลายรูปแบบ ไม่ได้สวมองค์ของท่านนะ ไม่ได้สวดมนต์จริง ๆ มานานมากแล้ว ยอมรับว่า บางครั้ง คิดถึงมาก จนอยากจะร้องไห้เลย ตลกดีเนอะ

 

ค่ะ

 

รีวิวอุทยานศาสนาพระโพธิ์สัตว์กวนอิม ที่แก่งกระจาน มีโอกาศไปกราบท่านนะครับ

http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F7372678/F7372678.html

 

อนุโมทนาสาธุคะ ดิฉันเคยมีประสบการณ์แค่ฝันคะ ฝันว่าเห็นท่านประทับนั้งอยู่บนฐานที่มีดอกบัวคะ บริเวณนั้นเป็นคล้ายๆ ลำธารคะ แต่มีดอกบัวเต็มไปหมดเลย ส่วนดิฉันเหมือนจะพายเรืออยู่หรือทำอะไรสักอย่าง แล้วก็กราบท่านหรือไหว้ก็จำไม่ได้แล้ว แล้วรู้สึกตัวว่าจะบอกขออะไรท่านสักอย่าง แล้วท่านก็ให้พรคะ ประมาณว่าสิ่งที่เราขอจะประสบความสำเร็จคะ

เป็นฝันครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตคะเมือปะมาณ 2-3 ปี ที่แล้วคะ ไม่ทราบว่าจะเป็นการสัมผัสญาณหรือป่าวนะคะ

 

<embed src="http://vdo.palungjit.org/player.swf" width="360" height="270" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" flashvars="width=360&height=270&file=http://vdo.palungjit.org/flvideo/1590.flvℑ=http://vdo.palungjit.org/thumb/1_1590.jpg&displayheight=270&link=http://vdo.palungjit.org/video/1590/การปฏิบัติธรรมที่ศูนย์พลาญข่อย-1&searchbar=false&linkfromdisplay=true&recommendations=http://vdo.palungjit.org/feed_embed.php?v=63c6848a1d760f26c28a" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" type="application/x-shockwave-flash" />

 

คุณเข้าใจผิดแล้ว ทั้งสองพระองค์คือองค์เดียวกันครับ
ซึ่งจะว่าไปแล้ว พระแม่กวนอิม พระแม่ตารา พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวดี ก็คือ ศักติ องค์เดียวกันทั้งหมด นะครับ

บางรูปเคารพจะมีทั้งพระแม่กวนอิมและพระแม่อุมา (ครึ่งกวนอิมครึ่งอุมา) ในองค์เดียวกันก็มี
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านบิดเบือนกายได้หลากหลายครับ แต่ด้วยอำนาจแห่งพระญาณบารมี นั่นก็คือ สิ่งเดียวกัน ไม่มีใครสูงกว่ากันครับ

 

แต่มั่นใจ พระแม่กวนอิมเป็นศักติกับพระแม่ลักษมี ค่ะ..
วันนั้นไปเจอท่านสวดมนต์อยู่เป็นภาษาธิเบต ก็เลยเผลอสวดกรุณาธารณีสูตรภาษาจีนกลาง ท่านบ่นว่าให้หยุด...สวดเพี้ยนๆๆ ทำลายสมาธิ
...โฮ...โฮ..พยายามฝึกแล้วนะสวดไม่ถูกต้อง

แต่ท่านก็สุดแสนจะใจดี (พระเมตตาหาที่เปรียบไม่ได้ น้ำตาไหล ซึ้งจิงๆๆ..)
ขนาดข้าพเจ้าไม่ใช่ศิษย์แต่เนื่องด้วยไม่สบายจากการนั่งสมาธิผิดแนวทางก็เป็นมาร่วม 2 อาทิตย์แล้ว ท่านได้ยินเสียงและทราบด้วยญาณว่าทรมานมากทั้งๆที่อยู่ห่างไกลกัน ก็ฝากให้คนอื่นเรียกให้ไปหาเพื่อรักษาอาการบอบช้ำทางจิตต้องส่งผ่านญาณบารมีช่วย

 

ระวังนะครับท่านอาจถูกเทวปุตมาร เปรต อสูรกาย เจ้ากรรมนายเวรหลอกให้ท่านไม่มีโอกาสบรรลุมรรคผลนิพพานในชาตินี้ ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกนับภพนับชาติไม่ได้ และที่สำคัญท่านลองคิดดูนะครับพระพุทธเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ที่ผ่านมาทั้ง28 องค์ไม่มีสตรีเพศเลยนะครับ ฉนั้นเจ้าแม่กวนอินเป็นการ์ตูนที่เทวปุตมารสร้างขึ้นมาหลอกคนมีปํญญาน้อยให้หลงเชื่อ ท่านลองพิจารณาดูก็ได้ว่าสิ่งที่อาจารย์ท่านสอนดับทุกข์ได้ไหม ถ้าดับทุกข์ไม่ได้ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Astro Neemo
...เวลาท่านสอนธรรมะให้กับเรา ..ท่านจะสอนให้เป็นไปทีละขั้น ทีละตอน บางครั้งมักจะมีการส่งสัญญาณหรือสัญลักษณ์มาให้แปลความหมาย ..ท่านสอนแบบจิตต่อจิต..



</TD></TR></TBODY></TABLE>

เห็นด้วยกับคุณวีระพงษ์อาจถูกเทวปุตมารหลอกพวกนี้เก่งมาก สอนธรรมได้เหมือนกัน มีหลายรูปแบบทั้งมาแบบสวยงามให้หลงและก็ทำตามแบบผิดๆๆ ไม่หลงก็รอดด้วยการมีสติและปัญญา
มาแบบน่ากลัวใช้ในการบังค้บขู่เข็ญให้ยอมจำนน แต่ถ้าไม่กลัวตายก็รอด
ด้วยการปล่อยวาง การตายไม่ใช่จุดจบของชีวิต

ส่วนเปรต อสูรกาย ส่วนมากก็แค่หลอกล่อ เจ้ากรรมนายเวรหลอกก็แค่ขัดขวางไม่ให้ทำสำเร็จเพราะถ้าท่านทำสำเร็จเจ้ากรรมนายเวรก็จะตามจองล้างจองผลาญท่านไม่ทัน เขาก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้าเป็นกรรมไม่หนักแผ่เมตตาอุทิศหรือขออโหสิกรรมต่อกันน่าจะเลิกแล้วกันได้ ทำสำเร็จก็รอดเห็นหลายคนเขาก็ทำได้กัน

Tip: อันนี้เป็นการ Cross Check วิธีการส่วนบุคคลอาจใช้ไม่ได้กับบางคนแค่เล่าเป็นประสบการณ์เผื่อบางคนอยากจะลองทำดู มีทั้งข้อดีและก็ข้อเสียปะปนกันไป
..เริ่มแรกต้องหาแนวร่วมหรือประธานที่เป็นทั้งสมณะเทพและเทวะเทพ
ในการเรียนรู้ ข้าพเจ้าให้ฝ่ายพุทธะ (สมณะ) เป็นหลักก่อน เพราะไม่เชื่อซะทีเดียวก็กลัวโดนหลอกเหมือนกัน

ฝ่ายพราหมณ์(ฮินดู) สอนนำไปตรวจสอบกับฝ่ายพุทธะ (สมณะ)
ฝ่ายพุทธะสอนก็นำไปตรวจสอบกับฝ่ายวัชรยาน (พระโพธิสัตว์)
ฝ่ายวัชรยาน (พระโพธิสัตว์) สอนก็นำมาตรวจสอบกับพุทธะ (สมณะ)
ข้อดี.. ก็ต้องตรวจสอบกันหน่อยไม่งั้นเวลารู้ว่าโดนหลอกจะได้ไม่เสียใจมากต้องโทษทีปัญญาเรามันทึบเอง...สร้างบุญบารมีก็อธิษฐานขอปัญญาเพื่อเข้าสู่พระนิพพาน...อย่ามัวแต่ขอรวย ขอสวยก็เท่านั้นแหละ
ข้อเสีย..ตรวจสอบไปตรวจสอบมาก็โดนตำหนิก็เท่านั้นแหละเพราะมันอยู่ในนิวรณ์ 5 ความลังเลสงสัยความฟุ้งซ่านของจิตทำให้เรียนรูเพิ่มเติมและก้าวหน้าไม่ได้ก็เหมือนว่ายวนอยู่ในอ่าง...มึนตึบและก็ปวดหัวอาจได้โรคประสาทแถมมาเพราะการเชื่อมจิตแต่ละครั้งต้องใช้พลังงานมาก ร่างรับไม่ไหวก็สติแตกเป็นบ้าที่เขาเรียก ก็ต้องคอยระวังมาก ถ้าไม่ไหวจริงๆๆ ก็ต้องหยุดนั่งสมาธิสักพัก

เคยมีพระป่าองค์หนึ่งเจอตอนท่านไปรอหลวงพ่อปราโมทย์ท่านก็เตือนเหมือนกันว่า " รีบๆ ทำให้สำเร็จนะโยม ทำบ้าง..ไม่ทำบ้าง ขี้เกียจ..ครูบาอาจารย์ไปกันหมด.. เขาไม่อยู่ด้วยตลอดนะ หรือมานั่งสอนนะ...คราวนี้จะไปถามใครกันละทีนี้..." ข้าพเจ้าก็เป็นผู้หญิงอุปสรรคหลักเหมือนกันเพราะพระป่าไม่พบไม่คุยถ้าเป็นผู้หญิง ...นี่แหละกรรมของการเกิดเป็นผู้หญิง...

ก็เลยต้องพึ่งตนเองตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า " ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ......ก็ต้องก้าวเดินกันต่อไป ขอเป็นกำลังใจสำหรับทุกคน สิ่งเหล่านี้รู้ได้เฉพาะตน ผู้อื่นก็แค่แนะแนวทาง ตัวเรานั่นเองที่จะเลือกปฏิบัติ และรับผลของการปฏิบัตินั้นๆ ผิดๆๆ ถูกๆๆ ก็ทำกันไป สักวันเราก็จะรู้ทางที่ถูกต้องด้วยตัวของเราเอง สาธุ..สาธุ...

"ท่านว่ากว่าจะบรรลุกันนะเกือบตาย ทนทุกขเวทนากันนะไม่รู้ตั้งเท่าไร ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วแต่บุญแต่กรรม ช่วยตลอดนะไม่ได้ ต้องพึ่งตนเอง"

 

จากที่เคยสัมผัสมาพระอาจารย์...ท่านมาโปรดหลากหลายรูปแบบ...หรือที่มนุษย์เราเรียกว่าหลายพระภาคนั่นแหละ...ท่านสอนมากมายเนื่องจากท่านไม่ต้องการให้เรายึดติดรูปลักษณ์...ท่านสอนให้ปล่อยวางสังขารหรือร่างกายของเรา...ให้แยกจิตแยกกายออกจากกัน...และสอนวิธิรวมจิตรวมกายให้เป็นหนึ่งได้...ท่านสอนธรรมะทางจิตโดยส่งเป็นกระแสมาเป็นความคิดของเรา...เห็นอะไรจะสามารถพิจารณารู้ได้โดยอัตโนมัติ...ที่สำคัญท่านไม่สอนให้ยึดติดท่าน...ท่านจะให้เราค้นหาตัวเอง...แต่ให้เจริญรอยทางธรรมของท่าน...
ส่วนท่านใดที่พระอาจารย์สอนอยู่...ก็สามารถนำความรู้มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ...
เราเป็นศิษย์พระอาจารย์เช่นกัน...อ้อลืมไป...ท่านบอกว่าให้เรียกท่านว่าโพธิสัตว์...ส่วนมนุษย์เรียกท่านหลากหลาย...คำภาวนาที่เราได้มาจากกระแสระหว่างนั่งสมาธิ...
นะโม อารยวโลกิเตศวร พุทธิ สวาหา...ท่านให้ภาวนาในใจระหว่างปฏิบัติสมาธิ...

 

กระทู้เย็นจริง ๆ อนุโมทนาสาธุ ทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ ปราการค่ะ ... ดังคำคุณ Astro Neemo กล่าวไว้นะคะ

 

"รูปคือความว่างความว่างคือรูป" ทุกอย่างล้วนเป็นมายา ฟองน้ำ เกลียวคลื่น หมอกควัน ชายหญิงล้วนเป็นสมมติ พญามารย่อมแฝงอยู่ในเรา กิเลสมาร ขันธมาร เทวบุตรมารฯลฯ พวกเราหาได้หลีกพ้นไม่
มีแต่พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งปวงจึงจะมีปัญญาปราบมารเหล่านี้ได้

 

"รูปคือความว่างความว่างคือรูป" ว่างจากการยึดเกาะ ว่างจากการให้ค่าให้ความหมาย รูป นาม ว่าง หาได้ต่างกันหากไม่ให้ค่าความหมายใดๆ

โดยแท้แล้ว หาได้มีพระ มี มาร ไม่ พระมารหาได้ต่างกันไม่ มีแต่ใจเราที่แบ่งแยกให้ค่าความหมายไปเอง แม้มดหรือมารก็มีพุทธะ เพียงถูกบดบังหลงไปชั่วขณะ
พระองคุลีมาร มหาโจรยังกลายเป็นอริยะได้ในพริบตา
พระเทวทัตผู้ถูกตราหน้ายังกลายเป็นพระปัจเจกได้ในอนาคต
แม้องค์พระศาสดายังเคยถูกเรียกว่า มาร ในอดีตชาติที่ไปขัดขวางพระองค์อื่น สุดท้ายยังบรรลุโพธิญาณ
พญาปรนิมมิตสวัสวตีมารคือพระพุทธะผู้ประเสริฐในอนาคตกาล สาธุๆๆ

 

เจ้าแม่กวนอิม พระแม่อุมาฯ พระแม่กาลี เทพลิ้มกอเหนี่ยว เป็นองค์เดียวกันครับ แต่เป็นคนละปางครับ
ปล.ให้ข้อสังเกตผู้นับถือจะไม่้ทานเนื้อวัวเนื้อควายเหมือนกันครับ

อีกนิดครับ ผมก็นับถืออย่างที่ท่านนับถือกันคือนับถือเทพ ควบคู่กับพระศาสนา ครับ นับถือได้ร่วมกันครับไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สรณะสูงสุดที่กระผมเคารพคือพระรัตนตรัย
ผมมีทางด้านนี้คือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แต่ก็ทำงานศาสนาพุทธเหมือนกันครับคือนำธรรมดีๆของครูบาอาจารย์หลายท่านมาโพสท์ต่อ ทั้งที่นี้และเว็บพันทิปครับ

ผมอยากฝากข้อคิดไว้อีกอย่างนะครับ ว่า การพูดเนี่ยถ้าพูดถูก(เรื่องที่เราพูดวิจารณ์เป็นเรื่องจริง) อันนี้เสมอตัว แต่ถ้าพูดผิด โดยเฉพาะกับผู้ที่ทรงคุณ มีความดีมากกว่าเราเนี่ยอันนี้เข้าตัวนะครับ ผมไม่่อยากให้ทุกท่านได้รับกรรมตรงนี้ ผมเองก็เคยครับ ถึงแม้จะขอขมาฯ มาแล้วแต่เศษกรรมทำให้ ฟันมีปัญหา เหงือกมีหนองเลยครับ ทรมานมากครับ อันนี้รวมถึงการไปวิจารณ์ศาสนาอื่นด้วยนะครับ
การติเตียนกรรมผู้ือื่นกล่าวได้ว่าเป็นการไปผูกกรรมเวรกับเขาด้วย ถ้าทางด้านดีเราอนุโมทนาสาธุกับสิ่งดีๆของเขาเราได้บุญด้วย ทางด้านไม่ดีเราไปเห็นด้วยเออออไปกับเขาเราก็ได้บาปกรรมไปกับเขาด้วยครับ วิจารณ์มากไปอาจติดลบได้นะครับ ทำให้ตกนรกได้ (ส่วนตัวผมเองพยายามอยู่ครับ แม้บางครั้งอาจจะอดไปวิจารณ์กับเขาเสียมิได้ก็ตามครับ) ละได้พึงละครับ เรื่องไหนเราช่วยได้ก็ช่วยไป เรื่องไหนเกินวิสัย ไปยุ่งกับกรรมของผู้อื่นมากเกินกำลังก็วางอุเบกขาครับ
ให้ตรงกับหลักพรหมวิหาร4 เมตตา (มีึความเมตตา) กรุณา (ช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้) มุฑิตา(เขาได้ดีเราก็ยินดีไปกับเขา) อุเบกขา (เรื่องที่เขาผิดพลาด และเราเองไม่สามารถช่วยเหลือเข้าได้ ก็ให้ปล่อยวาง ให้ถือว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ขนาดพระอรหันต์ผู้มีบุญบารมีมาก เช่นพระโมคคัลลานะ ท่านยังหนีไม่พ้น แล้วเราคนธรรมดาบุญไม่มากไปกว่าท่านจะรอดจากกฏแห่งกรรมนี้ได้อย่างไร ) แล้วมาตระหนักถึงหลักไตรลักษณ์ อนิิจจัง ทุกขัง อนัตตา

 

ขอสมัครด้วยคนค่ะ

เพราะหนูก็เป็นอีกคน ที่ศรัทธาในพระแม่กวงอิมมากๆค่ะ

 

สนับสนุนกับท่านด้วยจริงๆๆ เพียงถูกบดบังไปชั่วขณะ ทำให้นึกถึงเรื่องๆ หนึ่งเป็นเรื่องสมัยพระธิดาเมี่ยวซ่าน บ้างก็ว่าถูกขัดขวางโดยพระราชบิดาไม่ให้บวชในพระพุทธศาสนา บ้างก็ว่าถูกพระราชบิดาทรงพิโรธมีพระราชโองการให้นำพระธิดาไปประหาร...และฮ่องเต้องค์นี้ก็ทำลายพระพุทธศาสนา
ความเป็นจริงๆๆ แล้ว ท่านมีจิตใจที่เป็นพุทธะตั้งแต่เริ่มต้นและบำรุงพระพุทธศาสนาแต่เนื่องด้วยถูกจิตมารเข้าสิงเพราะจิตหลักนั้นพลังไม่พอที่จะต่อต้าน พระธิดาทรงรับรู้ด้วยพระญาณบารมีว่าต้องช่วยให้เสด็จพ่อนั้นกลับมาเป็นพุทธะเหมือนเดิม ไม่มีใครอยากเป็นมารหรอก

ก็เหมือนกับท่านtripoomบอกพญาปรนิมมิตสวัสวตีมารทั้งที่มีฤทธานุภาพสูงก็ยังเป็นมารที่กลับใจและช่วยดำรงพระพุทธศาสนาได้เลย (ชั้นปรนิมมิตสวัสวตี)

 

เห็นด้วยกับข้อคิดที่ท่านทิ้งไว้เป็นอุทาหรณ์
....พูดถูกเสมอตัว
.....พูดผิดโดยเฉพาะกับผู้ที่ทรงคุณ..เข้าตัว ท่านไม่เคยสาบแช่งใครกลับ แต่กรรมที่เกิดโดยธรรมชาติ (อธิบายไม่ถูกใช่ศัพท์ยากเหลือเกิน) ทำให้คนที่พูดต้องรับผลกรรมที่ได้กล่าวปรามาสไว้

ข้าพเจ้าก็เดินตามแบบท่านว่าเลือกเฉพาะที่รับรู้หรือท่านอยากให้เขียนเท่านั้น
ไม่มีการวิจารณ์ต่างศาสนาในทางไม่ดี มันไม่ใช่กิจของเราต้องดูที่ตัวเองก่อนที่จะติเตียนผู้อื่น

ท่าเขาเขียนถูกก็อนุโมทนาสาธุจะได้ไม่มีปัญหา ..ถูกจริต..ถูกใจอะไรทำนองนั้นแหละ..