เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    ถึง อ.สามตา


    ข้อแรก...ที่ไปหา อ.สามตาครั้งนั้น มีคนอยากรู้เกี่ยวกับดอกไม้สวรรค์ที่ เอาไปบูชา บอกข้อมูลอีกทีค่ะ


    ข้อสอง..เรื่องดอกไม้สวรรค์ ตั้งแต่ความ #1496 ขออนุญาต เอาไปลงในบอร์ดให้พี่ๆ เค้าอ่าน อ.สามตา อนุญาติรึป่าวคะ


    ขอบคุณค่า!!
     
  2. เต๊ะจุ๊ย

    เต๊ะจุ๊ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +695
    ผมว่า ไม่เอาไปกระจายดีกว่ามั้งครับ
    คนที่มีบุญเหมาะสมจะได้รู้เรื่องเหล่านี้ บุญคงชักนำให้เค้าได้อ่านเองครับ

    เอาไปโพสต์ที่อื่น ที่เค้าไม่ค่อยเชื่อกัน เดี๋ยวอ.จะถูกลบหลู่เปล่าๆ
    ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกครับ..
     
  3. sawasdeebangkok

    sawasdeebangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +100
    เห็นด้วยกับคุณ เต๊ะจุ๊ย ถ้าคนไม่เชื่ออ่านแล้ว จะถูกวิจารณ์ในทางเสียได้
     
  4. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914




    อ่อ..ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็รับทราบค่ะ....ขอบคุณสองท่านที่ให้คำแนะนำค่า


    rabbit_scary
     
  5. อาจารย์เตี้ย

    อาจารย์เตี้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +603
    อาจารย์ครับถ้าหนังสือที่ได้พิมพ์ขึ้นจากประสบการณ์ของอาจารย์ผมอยากอ่านแต่

    ผมไม่สามารถไปได้ อยากทราบว่า พอจะสั่งชื้อทางจดหมายได้ไหมครับ

    ส่งทางวัสดุได้ไหมครับ จะจัดส่งยังไงครับ เล่มละเท่าไร ตอนนี้ออกมากี่เล่มแล้วครับ

    ผมอยากได้ข้อมูลทางนี้ครับ ขอบคุณครับ ปล.เขียนไปสะนีไม่ถูกใครเขียนถูกบอกผ๊มที
     
  6. เต๊ะจุ๊ย

    เต๊ะจุ๊ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +695
    ไปรษณีย์ ครับ
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ช่วงบ่ายๆวันศุกร์ สักสองอาทิตย์ที่แล้ว ได้แวะไปหา อ.สามตา ที่บูทต์ ก่อนขึ้นรถทัวร์ไปพิษณุโลก
    ไปถึงก็นั่งเสวนากัน ท่าน อ. เล่าว่าได้ไปเที่ยวทีวัดไลย์มา มีของประหลาดมาเพียบ
    ว่าแล้วก็หยิบมาโชว์ให้สุวิดูทีละชิ้น มีใบใม้ และดอกไม้แห้งๆ หลายๆชิ้น และให้สุวิลองแยกแยะดู ว่าอะไรเป็นอะไร

    ชิ้นแรกที่นำมาให้ดู เป็นเหมือนชิ้นส่วนของพืชแห้งๆ เป็นทรงกลม ค่อนข้างแบบนิดๆ ตรงกลางเว้าเข้าไป มีขนขึ้นอยูข้างในโดยรอบ
    สรุบดูแล้วเหมือนซากของดอกไม้แห้ง ที่กลีบดอกหลุดล่วงหมดแล้ว มีกระปุกตรงกลางที่เว้าเข้าไปก็มีเกษรแห้งติดอยู่เล็กน้อย

    ใจนึกถึงดอกไม้สวรรค์ที่กำลังโด่งดังอยู่ในเวปขณะนั้น อ้อเป็นอย่างนี้เอง
    เอาวะลองดูมันพาขึ้นสวรรค์ยังไง
    พอกำหนดจิตเข้าเกาะเกี่ยวกับดออกไม้แห้งนั้น แล้วว่าพร้อมไปกันเลย
    แหม.. พวกพาพุ่งจู๊ดขึ้ฟ้าไปเลยนะ
    แต่เอ...เขาว่ามีบันไดให้เดินนะ แต่ไหง มันพาขึ้นบินร่อน อย่างกะนั่งเครื่องร่อนนะ

    พวกพาเที่ยวชมวิว ยอดเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ ท้องฟ้า ป่าเขา น้ำตก ทะเลสาบ ฯลฯ
    เออ..แปลกวุ้ย ไม่ยักพาขึ้นไปสวรรค์ แต่กลับพาทัวร์รอบโลกซะนี่
    แต่การเที่ยวแบบนี้ สุวิชินแล้ว ขึ้นเครื่องร่อน(นกอินทรีย์) เที่ยวบ่อย ใจเลยเฉยๆ

    อ.สามตาคงอ่านจิตเราออก ว่าเราไม่ตื่นเต้ลลลลล
    จึงให้เราลองกลับด้านของดอกไม้แห้ง เอาด้านบนคว่ำลง แล้วลองดูใหม่

    เออโว้ย....คราวนี้พวกพาเราดำดิ่งลงสู่ใต้พิภพ ดำมืดเดี๋ยวหนึงแล้วก็เห็นหุบเหว
    เต็มไปด้วยลาวาร้อนๆไหลกระฉอกไปมา พวกก็พาเราร่อนดู ไปตามสายธารแห่งลาวาร้อนละอุ
    เราก็ดูเฉยๆ เพราะเราเคยลงมาเที่ยวบ่อย และใช้ลาวา เป็นส่วนหนึ่งของการขู่เข็ญ(รักษา)โรคภัยไข้เจ็บบางอย่างให้มันตกกาจาย หนีกระเจิงไป

    พอพวกเห็นเราเฉยไม่แสดงความยินดียินร้ายหรือแปลกใจ
    ก็พาดำดิ่งลึดลงไปอีก จนถึงก้อนทรงกลมทะมึนแล้วแทรกลงไปในก้อนทรงกลมนั้น
    พอเปลือกทรงกลมกะเทาะออก แสงสีม่วงปนชมภูใสๆ(สีม่วงแดงใสๆ-คล้ายสีดอกบานไม่รู้โรยนะ) ก็กระจายเจิดจ้าออกมาอาบต้วรา

    ตรงนี้เราก็ยังเฉยๆ เพราะเคยลงมาอาบแสง ไฟแห่งพิภพ อันเป็นไฟอมตะ อยู่บ่อยๆ(ใช้รักษาโรคให้ตัวเองที่กระทบจากผู้ป่วย)
    แสงนี้เป็นแสงที่พวยพุ่งขึ้นที่ตรงกลีบดอกบัว ที่เขาพนมรุ้ง (ตรงที่เขาล้อมรั้วไว้นะ)
    สัตรีทั้งหลาย หรือผู้ที่ได้อาบแสงนี้-อย่างถูกวิธี จะเป็นผู้มีอายุยืน (เป็นสาว ๒,๐๐๐ ปีนะ)

    พวกเห็นเรายังเฉยอีก คราวนี้ปักหัวพาเราดิ่งหาแกนกลางเลย
    เอ...ตรงกลางนี่เรายั้งไม่เคยมาวุ้ย ด้วยอนุมานว่าก็คงเหมือนๆกับที่เรากะเทาะเปลื่อกทรงกลมออก ที่เปลือกกับตรงกลางก็คงเหมือนกัน
    เราก็ตั้งจิตเฝ้าดู
    อ้อ... ยิ่งใกล้ศูนย์กลาง แสงสีม่วใสกลับกลายเป็นขาวสว่างใสขึ้นทุกที จนเจิดจ้า
    มองไปเบื้องหน้า เอ..มันน่าจะถึงจุดศูนย์กลางแล้ว แต่ทางเบื้องหน้างมันยังอีกไกล ตกดิ่งลึกเข้าไปในกลางของกลางไม่สิ้นสุด
    แสงสว่างขาวใสก็ยิ่งเจิดจ้า
    อ้อเป็นอย่างนี้เอง
    อ.สามตาติดตามจิตเราตลอด พูดว่าเอ้อ..ตรงกลางนี่สว่างใสดีนะ
    แล้วถามว่า รู้ไหม๊ดอกอะไร ไอ้เราก็ขยับจะถามว่า นี่ดอกมณฑาทิพย์(ดอกไม้สวรรค์)เหรอ
    อ.สามตาก็เฉลยซะก่อนว่า นี่ดอกบัวสวรรค์นะ คนละดอกกันกับ ดอกไม้สวรรค์(มณฑาทิพย์)
    แปลกดีไม๊ พาเทวร์ได้ทั้งใต้ดินบนดิน

    คุยกันไปอีกเดี๋ยวเรื่องดอกบัวสวรรค์นี่ สักพัก
    อ.สามตาพูดลอยๆขึ้นว่า ดอกบัวสวรรค์นี่ทำยาได้หรือเปล่าหว่า แก้โรคอะไรได้บ้าง
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คุยกันไปอีกเดี๋ยวเรื่องดอกบัวสวรรค์นี่ สักพัก
    อ.สามตาพูดลอยๆขึ้นว่า ดอกบัวสวรรค์นี่ทำยาได้หรือเปล่าหว่า แก้โรคอะไรได้บ้าง

    ไอ้เราก็เป็นหมอยาด้วยนี่หว่า พอเป็นวิชาคุยก๋าต้นไม้ใบหญ้า ว่าเอ็งเป็นยารักษาอะไรได้บ้าง
    เอาทั้นที่...ตั้งจิตกำหนดไปที่ดอกบัวสวรรค์ ขออำนาจส่วนที่เป็นยารักษาให้พวบพุ่งขึ้น แล้วซึมซาบเข้าไปในตัว
    แล้วกำหนดจิตเฝ้าดู การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ระบบ อวัยวะ สะแกนดูตั้งแต่ปลายผมลงมาฝ่าเท้า
    อ.สามตาก็เฝ้าอ่านจิต ติดตามเราทุกระยะ
    เอ้อ...โล่งๆดีเว้ย

    เสียง อ.สามตาว่า ระบบหายใจโล่ง คอโล่ง อกโล่ง ท้องโล่ง แต่ท้องอืดๆนิดหน่อนนะ
    เราสะแกนซ้ำอีกรอบ แล้วถาม อ.สามตาว่า
    สุวิ -อ..ไซนัส นั้นมันโล่งด้วยนะ
    อ. -ใช่
    สุวิ -เองั้นมันรักษาไซนัสได้ด้วยซิ แต่ไซนัสอักเสพนี่ มันมีเชื้อโรคด้วยนะ ต้องใส่ยาแก้อักเสพด้วย ว่าแล้วก็ใส่ฟ้าทะทายโจรลงไปอีกตัว
    สุวิ - เอ้ อ. คอที่โล่งๆนะ ไอ้พวก ไทรอยด์ ที่เป็นต่มเป็นก้อนที่คอนะน่าจะได้ด้วยนา
    อ. - ใช่ยุบ -แห้งไปเลย หลอดลมก็โล่งนะ
    สุวิ - ใส่ฟ้าทะลายโจรแล้ว หลอดลมอักเสพก็ดีขึ้นนะ
    อ. - เอ์อหวะ...แต่ท้องแย่หวะ ท้องอืดซะไม่มีละ เป็นมากกว่าตะกี้อีก
    สุวิ -เอ้า..ใส่ ขมิ้นชั้นเข้าไปอีกส่วน (ท้องที่อืดเพิ่มขึ้นเป็นเพราะรสเย็นของฟ้าทะลายโจร-ขมิ้นชันจะแก้ได้)
    อ. -เอ้อ..ดีขึ้น
    สุวิ- ใส่พริกไทยขับลมอีกนิด
    อ. - โอ้...เจ๋วเลย แต่มันยังติดๆอีกนิด
    สุวิ -งั้นใส่ กระชาย อีกส่วน
    อ. - ว้าว...โล่งกระจายไปทั้งตัวเลย สุดยอด

    สุวิ- เอ้าตั้งเป็นสูตรยาเลยนะ ดอกบัวสวรรค์ ๑ ส่วน ฟ้าทะลายโจร ๑ ส่วน กระชาย ๑ ส่วน ขมิ้นขัน ๑ ส่วน พริกไทย ๑ ส่วน
    สุวิ - เอ้า ดึงอำนาจของยาสูตรนี้ขึ้นมาทั้งชุด ซึมซาบเข้าในตัวทั้นที
    อ. -เอ้ดีนะ โล่งไปหมดทั้งตัว
    สุวิ -อ. ทีว่าโล่งมันโรคอะไร ดูเหมือนๆภูมิแพ้นะ
    อ. -ใช่แก้ระบบภูมิแพ้ ได้ทั้งตัวเลย แต่รู้สึกยาจะแรงไปนะ ลองลดยาบางอย่างดู เอ้าลดฟ้าฯซัก ครึ่งส่วนนะ
    สุวิ-...
    อ.-...

    สุวิ. -เอ อ. ตัวเรานี่ไม่เป็นอะไรนะ ยาที่ใช้เลยขาดๆเกิน เอาคนที่เป็นโรคมาดีกว่า แล้วดูยาว่ารักษาเขาหายใหม
    อ.-เอ้อจริง ... เอ้า กำหนดจิตดึงคนมีอาการโรคภูมิแพ้มานั่งอยู่ข้างหน้า แล้วก๊อปปี้อาการแล้วเฝ้าดูผลการรักษาของยา
    สุวิ- เอ้อ...ดีขึ้นเว้ย ดีขึ้นทั้งระบบเลย
    อ. - ยาดี ยาดี ปรับอีกนิด เป็นยาที่สุดยอด

    แล้วงานนี้เราก็ได้ยารักษาโรคที่สุดยอดอีกตัว
    ไว้หาส่วนประกอบของยาครบ(โดยเฉพาะดอกบัวสวรรค์)
    จะทำไปให้ อ.สามตา แจก(บูชาครู)
     
  9. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    เมื่อวานได้แวะไปเยี่ยมเยียนบูธ042 เลยเอาเจ้ากุ๊กๆ เหมียวหม่าว กับแอ่นฟ้า มาช่วยจัดระเบียบ
    ปลวก หนู และยุง อาจารย์ก็มักจะบอกว่า ถ้าคนสัมผัสไม่ได้ไม่อยากให้เอาไป และสอนให้ลองพลัง
    ของที่เอาไปก่อน ส่วนแพ็คเก็จ ที่ข้างกล่อง มีวิธีดูแลให้เสร็จสรรพ ทำได้เรียบร้อย พกพาง่าย
    ต้องขอบคุณคุณบาสที่ช่วยจัดการให้อาจารย์นะคะ เช้านี้เลยมีกิจกรรมให้ยัยตัวเล็กประกอบพิธี
    และหาสถานที่วาง เหะๆ ใช้เด็ก

    อาจารย์สามตา กับอาจารย์สุวิเล่าเรื่องทัวร์กับบัวสวรรค์ได้สุดยอดเลย เหมือนกำลังภายใน
    วิทยายุทธ เวลาอาจารย์ 2ท่านเจอกัน คุยเรื่องยา ประมาณที่เล่าค่ะ ตัวกลมๆเลยได้ยา
    ประจำตัวมาแบบนี้แหละ แถมเมื่อวาน อ.สามตาให้เกียรติข้าน้อย เป็นนางแบบลองยา
    ประมาณว่าให้คนน้ำหนัก 60(ดีใจมั้ยเนีย) มาลองชา(Natural Tea) ระบายจนน้ำหนัก
    สมมติลดฮวบๆไป 15 กก. ง่ะ โฆษณาให้อ.สุวิเลย เพราะมีขายที่เดียว 55555

    ในเรื่องยา อาจารย์สุวิ กำลังคิดค้นยาตัวใหม่ เห็นลองพลัง เปรียบเทียบระหว่าง ดอกไม้จากวัดไลย์
    กับสวนสมุนไพร ซึ่งมีพลังเหมือนกัน แต่ที่วัดมีมากกว่า และยาตัวใหม่ที่ลองกับอ.สามตา
    น่าจะดีมากๆ คิดถึงหนังจีนอีกแล้ว ที่หมอยาเทวดาต้องไปปีนเขาหา ดอกบัวสวรรค์
    ยาแก้แพ้ที่ว่า ถ้าเรียบร้อยเมื่อใด เดี๋ยวมีคนไข้รอเป็นหมูทดลองยาค่ะ แล้วถ้าเป็นไปได้ด้วยดี
    ก็อยากเอาไปช่วยเหลือ เด็กที่ติดเอดส์ หรือคนป่วยที่วัดพระบาทน้ำพุ

    พี่ที่บูธ เล่าเรื่องที่ไปทัวร์ระหว่างดูฮวงจุ้ย มีเรื่องแปลกๆมากมาย ถ้าให้อาจารย์เขียนคนเดียว
    คงพิมพ์จนนิ้วล็อคเป็นแน่ เพราะขนาดวัดไลย์ยังมีเนื้อเรื่องให้ติดตามต่อ ยังไม่จบ
    ใครไปบ้างก็ช่วยบรรยายให้ได้อ่านหน่อยนะคะ พี่ชุมพล ก็ไม่มีล็อคอินเลยรอดตัว
    หุๆ เหลือคนโพสรูปน่ะแหละ

    [​IMG]

    แค่รูปนี้รูปเดียวก็มีที่มา ถ้าไม่มีใครบอก ก็นึกว่า มีเหตุการณ์รถเสีย พี่ที่บูธและอาจารย์บอกคร่าวๆ
    ว่า รถแต่ละคันมีแม่ย่านาง บางคันก็แรงมาก รถคันนี้เขามีพญานาค?? เห็นเป็นรอยรอบรถ
    และเกาะติดใต้ยางรถ?? ฉะนั้นเลยไม่ใช่รถเสีย หรือแสดงวิธีขูดเลข ขอหวย(หรือมีใครแอบขอ)
    ส่วนรายละเอียดจริงๆ ก็มาเล่าเน้อ เหลืออีกตั้งหลายรูปยังมิได้บรรยาย

    ระหว่างดูฮวงจุ้ย อาจารย์เหลือบไปเห็นรถแม็คโค(ภาษาชาวบ้านเรียกอย่างนี้จริงๆจ้าาา
    ป๋มก็เรียกแต่เด็ก ถึงมันจะเขียนbackhoeก็เถอะ แบ็คโฮ ร้องไห้ไปซะงั้น) เตือนว่าให้ระวัง
    ปรากฏว่า เมื่อวานเขาโทรมาบอกว่า มีขโมยมา"ลัก"เอาเครื่อง เหลือแต่โครงรถ แย่จังเลย
    สมัยก่อนจอดยังไง ก็ไม่หาย หายเบาๆ ก็ พวกน้ำมันเครื่อง น้ำมันรถ
    (รูปแทน) เผื่อใครคิดภาพไม่ออก
    [​IMG]
     
  10. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG]

    ครับจะมาอธิบายแล้วกันครับ คือที่เห็นในรูปนะรถคันนี้มีประวัติฺแต่เดิมคนขับไม่ทราบ
    อยู่มาวันหนึงมีรอยเหมือนงูเลื้อยพันรอบรถอาจารย์เลยเรียกพญานาคที่อยู่ภายใต้ด้านหลัง
    ของตัวรถมาให้ทุกคนสัมผัสกันก็ เลยเป็นภาพที่เห็นครับ
    ที่ยังไม่เล่าหรือเขียนอะไรเพราะ เรื้องมันเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดและมีความเกี่ยวพันธ์กัน
    จึงต้องรอให้อาจารย์เล่าเรื่องก่อนแล้วจึงลงรายละเอียดอีกที ถ้าเป็นคนที่พึ่งมาเปิดอ่าน
    เห็นรูปละคำบรรยายไม่กี่คำก็จะเกิดความเข้าใจพิดเพราะคนเราคิดไม่เหมือนกันครับ
    อยากให้อ่านอย่างครบถ้วนจะได้ วิเคราะเหตุและผลได้ครับ ทุกสิ่งมีที่มาที่ไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2009
  11. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    สามตาหยุดเข้าเวบไปสองวัน...มีกระทู้เข้ามาหลาย ที่ ต้องอธิบาย
    สามตาเล่นในเวบที่ มีคนที่เข้าใจ เรื่องพลังจิต..เมื่อมาอ่าน ก็จะเข้าใจ
    อย่างพวกเรากลุ่มใหญ่กำลังเล่นอย่..สนุกกันหรือเปล่าก็ไม่รู้

    เวบอื่น อย่าง ห้องลึกลับ เป็น คนอีกกลุ่ม ที่ ไม่เข้าใจเรื่อง พลังจิต
    และการมีตาที่สาม...และรวมกลุ่ม ที่เรียกกันว่า "เกรียน" โจมตีสามตา
    อย่างเดียว..ผู้ที่ ติดตมมาตลอด ก็คงเคยได้ เห็น การด่าทอ กันในครั้งนั้น
    โดยขณะนั้น ผู้ดูแลเวบ ปล่อยให้ มีเรื่องกัน...สามตาจึงเลิกเล่น ไปพักใหญ่
    และกลับมาอีกเมื่อไม่นานนี้...ดังนั้นจึงอยกจะขอร้อง อย่า ได้ โหลด ไป ใส่ที่เวบ
    หรือ ห้องอื่น ที่ไม่เข้าใจ จะมีแต่ผลเสีย
    ในเวบนี้ เมื่อ สองวัน มีคนที่ใช้ชื่อ xxxxxxxxx..ขึ้นมาด่าว่า
    " คนโกหกตอแหล มาอยู่ที่ นี่หรือ ยังหลอกลวงล้างสมองคนอยู่อีกหรือ."..
    ดีที่คุณ แวนโก..ลบออกทันทีตาม กฏที่ ว่าไว้
    ขอ ขอบคุณ มาอีกครั้ง
     
  12. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    หลังจาก ทดสอบกับ ดอกบัวสวรค์ ว่า สามารถใช้เป็น
    ยานบินแบบอวกาศ พาจิต ออกไป ท่องจักรวาลได้
    ไปท่องเที่ยว ตามดวงดาวต่างๆๆได้ เช่นเดียวกับที่ ท่านฤาษีลิงดำ
    เคยเล่าใว้ ในเรื่อง "จุไรรัตน์ ท่อง ดวงดาว"
    ลองเข้าไป แล้ว ถอดจิตไป ดาวเสาร์ ไป ดูวงแหวน และดวงจันทร์
    ของ ดาวเสาร์ได้ อย่างสวยงาม
    ...................................................................
    ลองเอาใบของ ต้นดอกบัวสวรรค์ มา ทำจิตดูบ้าง
    พบว่ามีความแรงพลังสูงเช่นกัน...พอเพ่ง เห็นเป็นแถบกำแพง
    คอบตัวเรือนยานอวกาศ ส่วนที่เป็นดอกได้..
    ทำให้ปลอดภัยอย่างแน่นอน..จากภัยที่จะมาจากอวกาศ
    ...........................................................
    ใบไม้ของ ต้นดอกไม้ สวรรค์..จะบูชาได้ อย่างไร
    ใบมีขนาดเท่าใบมะม่วง..พอตากแห้ง ก็ คงรูปเดิม
    ปกป้อง บ้านและคน เหมือนมีกำแพงเหลี่ยม ล้อมบ้าน
    ในรัศมี 4 เมตร และกำแพงหนา 4 เมตรเช่นกัน
    เป็นรูปลักษณ์และพลัง แบบเดียวกับที่ ต้นได้ ปกป้อง
    อุโบสถ แห่ง วัด พระศรีอริยะเมตไตร ที่ ลพบุรี
    ..........................................................
    ใบมีขนาดใหญ่ จึงทำได้ สามแบบ ในการบูชา
    1. ในเดียวโดดๆๆตั้งไว้บนหิ้งพระ..ปกป้องได้ ทั้ง บ้าน
    2. ตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆๆ ใสกรอบแขวนหรือ ห้อยคอ..
    มีพลังด้านคงกระพัน แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม
    3. บดเป็นผงแล้วบรรจุใน ตระกรุดแก้ว ขนาดยาวไม่เกิน 3.5 ซม
    ขนาดกลม 6 มม.ห้อยคอ..ได้ผลเช่นเดียวกับ การตัดใบสี่เหลี่ยม

    วันนี้ ที่ 28 มีค. 52 มีนักพลังจิตที่ เก่งระดับเซียนมาที่บู๊ธ 042
    ประมาณ 3-4 คน...เซียนทั้งนั้น...ต่างก็มาดู ตระกรุด ใบไม้ดอกสวรรค์
    ลองกันไป ลองกันมา พบว่า..เวลาเอามาส่องที่ ตัว ตามแขนขา
    หรือ ผิวหนัง ทั้งตัว..ตระกรุดเหมือนไฟส่อง แรงแบบแสงเลเซ่อร์
    ......................................................................
    เป็นแสงแห่งความเย็น กดลึกลงไปใต้ผิวหนัง
    เวลาเลื่อนตระกรุดไป..พลังเคลื่อนที่ ตาม..รู้สึก จั๊กจี้
    ดูสรรพคุณ อีกที...อ้าว พลังนี้ รักษาโรคได้ ด้วย..
    โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับ เลือด และ น้ำเหลือง
    .......................................................
    เขาทดลองเล่นกัน โดยที่ สามตา ไม่ได้ อยู่ด้วย
    พอ ท้ายๆๆก็แห่กันมา บอกว่า " ขอเช่าตระกรุดเลเซอร์"
    ไอ้เราก็งง..เพราะไม่รู้ต้นสาปลายเหตุ..
    ..........................................................
    พอเห็นเรางง เขาก็ ชี้ "นั่นไง"
    อ้อ !!! ตระกรุด ดอกไม้สวรรค์ หรือ..ก็เลยถึงบางอ้อ
    ปกติ ตระกรุด จะยาวไม่เกิน 3.5 ซม. ขนาด 6 มม.
    .......................................................................
    เลยต้องรับออเด่อร์..ขนาด 8 มม.. และยาว เท่าแท่งปากกาดินสอ
    เพื่อ เอาไปจับลากตามเส้นเลือด บนผิวหนัง เพื่อ รักษาโรคเลือด
    เห็นจะต้องอด นอน เอาใบไม้ดอกไม้สวรค์ มาตำ ป่นเป็นผง
    เอายัดในหลอด ตระกรุดแก้ว เป็น การใหญ่....... เสีย ละ มั๊ง!!!!
    ...................................................................
     
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คำถามเดิม ที่ ค้างตอบ/ไว้..คือว่า วันที่ไปที่ วัด ไลย์
    ทำไมสามตาจึงไม่เช่ารูปหล่อบูชาของพระศรีอริยเมตไตร
    ..............................................................
    ก่อนตอบคำถามเรื่อง นี้ ต้องรู้เรื่องที่ มา ที่ไป
    ของ องค์ พระศรีอริย์ฯ ก่อน
    ...........................................................
    มนุษย์ เริ่มมีการปรากฏตัว เมื่อไม่กี่แสนปี
    ไดโนเสาร์พันธุ์ ต่างๆๆ...สูญพันธ์ไป นานกว่า 70 ล้านปี
    การที่มีคนเล่า หรือ สร้างหนัง คน พบ หรือ ผจญภัยกับไดโนเสาร์
    จึงเป็นเรื่อง โกหก ทั้ งสิ้น..ยกเว้นหนังประเภท คลาสสิค
    สร้างขึ้นมาจาก การโคลนนิ่ง...หรือ หลุดเข้าไปในอีกมิติ
    ...................................................................
    มนุษย์ ยุคแรกจึงเป็น มนุษย์ ถ้ำ /นับถือ ผี /แม่ย่า/วิญญาณแห่งป่า
    ต่อเจริญ ขึ้นก็ นับถือ เทพ แห่งธรรมชาติ ที่ พบเห็น
    คือ สายฟ้า /ดวงอาทิตย์.สุริยเทพ/เจ้าป่า /เจ้าเขา ฯลฯ
    .....................................................................
    พอเข้ายุคเหล็ก..มนุษย์เริ่มรู้จัก การใช้โลหะ /การสร้างอาวุธ
    มนุษย์เริ่มรู้จักการอยู่เป็นกลุ่ม.การมีผู้นำ /การอยากมีอำนาจ
    จึงเริ่มมีสงคราม ระหว่างกลุ่ม..ใครใหญ่กว่า ก็เป็นผู้ชนะ
    ...................................................................
    พระพุทธองค์ จึง อุบัติ ขึ้น หลังยุคเหล็ก
    เพื่อ ให้ มนุษย์รู้จัก ความสงบและสันติ
    โดยกำหนดการถือศีล โดยเฉพาะ ศีล ห้า
    ถ้าทุกคนถือ ศีลห้า ครบถ้วนและจริงจัง ก็จะไม่มีสงคราม
    .......................................................
    ข้อแรก ปาณา... ห้าม ฆ่า...ถ้าไม่ฆ่า ย่อมไม่มีการศึก
    ข้อ อทินนา..........ห้ามขโมย...ถ้าไม่อยากได้ ของคนอื่น
    ก็ไม่ต้องไปปล้นเมืองเขา
    ข้อมุสา ..............ห้ามพูดโกหก...คนก็จะไม่โกรธกัน
    ข้อกาเม..............ห้ามผิดลูกเมียคนอื่น...ก็จะไม่มีคนหมู่บ้านหนึ่งไป
    ปล้น จับผู้หญิง อีกหมู่หนึ่ง มาทำเมีย
    แบบในอาฟริยุคเก่า
    ข้อสุรา...............ห้ามดื่มของเมา...จะครองสติไม่อยู่..
    เป็นอันตรายต่อ ตัวเองและผู้อื่น
    ..........................................................................
     
  14. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ต่อมา ชุมชนใหญ่ขึ้น นักการมือง และผู้มีอำนาจแสวงหา
    จึงทำให้ เกิด สภาวะ ของ สงคราม ทั้ง อาวุธ และเศรษฐกิจ
    ความปลอดภัยในการเดินทาง /การผจญกับวิญญาณ ร้าย พวกผี
    ....................................................................
    เราจึงได้ มี วัตถุนิยม ที่ ยิงไม่เข้า/ แคล้วคลาด/เมตตามหานิยม/
    โชคลาภ/ ป้องกันคุณไสย /พุทธบารมี..กันแทบทุกตัวคนและทุกบ้าน
    .......................................................................
    บนหิ้งพระ ของ แต่ละคนก็มากมาย บางบ้านก็พอประมาณ 5-20 องค์
    บางบ้านมีเป็น ร้อยๆๆ กองเต็มหน้า แท่นวางบูชา สองชั้นบ้าง
    สามชั้นบ้างแล้ว แต่จำนวน ที่อยากจะมี...เรียงกันเป็นแถว
    ...................................................................
    และแน่นอน ต้องมีรูปพระเกจิ อาจารย์ ต่างๆๆมากมาย
    อยู่ด้วย เช่น หลวงปู่ ทวด/ หลวงปู่โต พรหมรังสี/
    หลวงปู่ ศุข วัดมะขามเฒ่า/ ชุด หลวงพ่อ จาด จง คง อี๋..ฯลฯ
    ...............................................................
     
  15. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ปัจจุบันเราอยู่ในยุค ท้ายๆๆ ของ พระพุทธองค์ โคตะมะ
    และกำลังอยู่ในยุคทับซ้อน ของ องค์พระศรีอริยเมตไตร.
    จึงเริ่มจะมีการกวาดล้าง..ให้ คนดีคง อยู่ คนชั่วจงไป
    ..........................................................
    นับแต่ต่อนี้ ไป โลกก็จะเริ่มมีการกวาดล้าง คนทำดี มีบุญ จะรอด
    คนชั่วก็จะต้อง ตายลงไป..สักสามสี่ ชาติ..
    ผู้คนก็จะมีสัดส่วนคนดี เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
    ...............................................................
    พอใกล้เวลาของ องค์พระศรีอริย์ฯ
    ผู้คนจะเกิดมา จะมีแต่ คนดี มีบุญ ไม่มีคนเลว
    เมื่อไม่คนเลว มีแต่คนมีศีล อย่างแรง
    เราก็จะไม่มีปัญหา สังคม และการดำรงชีวิต
    ไม่มีคุก/ ไม่มีตำรวจ/ไม่มีโจร/ไม่มีการปล้นและฆ่ากัน
    เศรษฐกิจ อีก หลายปีข้างหน้า จะดี
    มนุษย์ ทั้งโลก จะมีแค่พันธ์เดียว
    ...........................................................
    เราจึงไม่ต้องพึ่งพา วัตถุทางใจและวิญญาณ
    ไม่ต้องมีพระเคริ่อง /ไม่ต้องมีรปปั้น/รูปหล่อ
    ของ บรดา เกจิอาจารย์...ทั้งหลายอย่างเช่นในปัจจุบัน
    ................................................................
    ในยุคนั้น ถ้าจะมีการบูชา..
    ก็จะบูชา รูป พระศรีอริยเมตไตร เพียงองค์เดียว..ไม่มีรูปอื่น
    แต่ตอนนี้ ถ้า นำท่านมาบูชา..เท่ากับเป็นการบูชาล่วงหน้า
    ก็ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ นั้น.คือบูชาเพียงองค์เดียว..ไม่มีอย่างอื่น.
    ...................................................................
    ดังนั้น ถ้าใครจะบูชาองค์พระศรีอริย์ฯ ในขณะนี้
    จะต้อง ตั้งรูปบูชา ไว้ในที่สูงสุด..สูงกว่า อย่างอื่นใด
    ไม่มีรูปอื่นมาวางข้างๆๆ หรือ บนแท่นเดียวกัน
    .........................................................
    การบูชาองค์พระศรีอริยเมตไตร ต้อง บูชาด้วยดอกไม้ขาวเท่า นั้น
    เช่น มะลิซ้อน/พุดซ้อน/พลับพลึง...สีอื่นไม่ถูกต้อง
    .................................................................
    บ้าน ของสามตา มีพระบูชาอยู่แล้ว..ไม่มีที่วางโดด
    และไม่มีที่ใดในบ้านที่เหมาะแก่การวางรูปบูชา
    องค์พระศรีอริย์ฯ แต่อย่างใด..จึงไม่ได้ เช่า มาบูชา
    ...............................................................
    ใครที่จะบูชา รูปปั้น/ รูปหล่อบูชา..พระศรีอริย์ฯ
    ขอให้ สังวรและระวังเรื่องนี้ ด้วย.
    ..............................................................
    (มีต่อ)
     
  16. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    เข้ามา รับทราบอีกครั้ง...ค่ะ
     
  17. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166
    เมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา
    ผม กับเพื่อนรุ่นน้อง อีกสองคน คือ เจ้าแชมป์ กับดำรงค์
    แวะ ไปหาอาจารย์ ที่บูธ จตุจักร์ มา
    ไปถึง ก็ บ่ายๆแล้ว
    มีคน มาดู ออร่า ตรวจพระเครื่องบ้าง เหมือนปกติ ระหว่างนั่งรอ อยู่ พี่จิรศักดิ์
    ถามว่า เห็น ตะกุดใบไม้สวรรค์ หรือยัง แล้ว ก็หยิบ มาให้พวกเราดู กัน
    ตามนิสัย ก็ ดูพลัง กัน วัดพลัง กันไป ตามปกติ ตะกุด อะไรๆ ก็จะมี ขั้ว มีหัวมีท้าย เป็นธรรมชาติ
    ( เป็นหลักการของ แผ่กระจายคลื่น แบบเสาอากาศ วิทยุ นั่นแหละ รายละเอียด ใคร สนใจ ไปหาอ่าน ลองศึกษาดู เรื่องเสาอากาศ ธรรมชาติ
    แบบแท่งไดโพล การแผ่กระจายคลื่น จะเป็นแบบรอบตัว รูปร่างแผ่ออกไปเหมือนผลแอปเปิ้ล
    และ เมื่อ จับ แท่งไดโพล มาโค้งงอ จนเป็นวงกลม รูปร่างการแผ่กระจายคลื่น ก็จะเปลื่ยนแปลงไป เป็นแบบมีทิศทาง หน้า และหลังตามทิศที่วงกลมหน้าหน้าไป )

    พอหาขั้วหัวท้าย ของตะกุด ได้ แล้ว รู้สึกได้ว่า เวลา เอาตะกุดมา ส่องตามตัวเรา เหมือน มี กระแสลมเย็นๆ พ่นออกมา
    เล่นกันอยุ่พักใหญ่
    ลองกัน ไปมา กับเพื่อน ถอยห่างออกมา ยังส่องถึง เอ้..... เขา ท่า นะ
    ปิ๊ง.... ปิ๊ง ..... อิคิวซัง เลย
    ได้ไอเดีย.
    เอาไป ใช้เป็นปากกา เลเซอร์ ดีไหม นี่......... 55
    คิดไปคิดมา
    เอามาทำ เป็นไม้เท้าเลเซอร์ ไว้รักษาโรค ให้แก่คนป่วย คนเจ็บ น่าจะเข้าท่า นิ..

    ได้การละ......
    บอก อาจารย์ ครับ ..... ๆ.....
    ทำ ให้ ยาวๆ กว่านี้ หน่อยได้ไหม จะได้ จับ ถนัดๆ หน่อย....


    นี่แหละครับ ที่มา ของ ตะกุดเลเซอร์

    แต่ อาจารย์ พอรู้ว่าจะเอาไปใช้รักษาคนเจ็บป่วย จึง บอกว่า ........ ถ้างั้น เอาเป็นดอกไม้สวรรค์ ใส่ไปจะดีกว่า
    จึงต้อง มีการ โมดิฟราย นิดหน่อย

    ขออนุโมธนาบุญ กับ อาจารย์ ด้วยครับ
    ที่ช่วยสร้างตะกุดเลเซอร์ เอาไว้ ให้ผม ใช้รักษาคนเจ็บป่วย สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2009
  18. surapar

    surapar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,408
    มีเรื่องฝันขำๆ จะเล่าให้ฟังค่ะ

    ประมาณ 3 วันก่อนฝันว่าเห็นคนๆหนึ่งที่เก่งในเรื่องของการส่งวิญญาณไปเกิด กำลังเจรจาต่อรองกับวิญญาณโบราณ 2 ตนว่าถ้าบอกในสิ่งที่รู้เกี่ยวกับพระศรีอาริย์ จะส่งไปเกิด (เหมือนกับว่าเขามีหน้าที่ตามรอยพระศรีอารย์อยู่)

    เขาถามวิญญาณนั้นว่า "เมื่อไหร่พระศรีอาริย์จึงจะปรากฏตัว"

    วิญาณตนหนึ่งตอบว่า "เมื่อนางนาคาชื่อ.....(จำไม่ได้)มาเกิดเสียก่อน จึงจะได้พบพระศรีอาริย์"
    คนๆ นั้นถามต่อว่า "แล้วตอนนี้นางนาคาตนนั้นอยู่ที่ไหน"

    วิญญาณนั้นตอบว่า "หนทางไปอเวจีมหานรกนั้นสุดคดเคี้ยว แต่ที่นั่นยังมีทางสายหนึ่งที่แยกออกไป นางอยู่ที่นั่น ในถ้ำสีแดง" (รู้สึกคล้ายกับว่า นางถูกกักขังไว้ เหตุเพราะความรัก เวลานั้นรู้สึกถึงความเศร้า)

    แล้วก้อจำไม่ได้แล้วค่ะ อิอิ ที่บอกว่าขำก็คือ เป็นตุเป็นตะสุดๆ 555555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2009
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ วัดไลย์ (ต่อ)
    ..........................................................
    ช่วงหนึ่งที่อยู่ในอุโบสถเก่า ที่ มีองค์พระศรีอริยเมตไตร เป็นพระประธาน
    ขณะที่ สามตา นั่งทำสมาธิ ข้างหน้า..ก็เห็นสองหนุ่ม ค่อยๆๆย่องตามกันไป
    หายไปด้านหลัง ท้ายอุโบสถ.
    ..............................................................................
    วิษณุ หายไป ก่อน สักพัก ก็เดิน ยิ้ม ออกมา..ท่าทางพอใจมากๆๆ
    อีกสักพัก สมาชิกชมรม อีก คน คุณ จิรศักดิ์..ก็ ย่อง ตามไป อีก
    แล้วก็เดินกลับออกมา..ยิ้ม อย่างสะบายใจ
    ...................................................................
    ทั้งคู่ ยิ้มอย่างสะบายใจ..เราก็เอะใจ..
    ก็ไม่ได้ถาม เพราะ กำลัง นั่งทำสมาธิ
    ..................................................................
    ตอนขากลับนั่งมาในรถ ก็ถามเขาว่า ไปทำอะไร ที่หลังโบสถ
    ถึงได้ มีอาการ ยิ้มย่อง ทั้ง สอง คน...
    วิษณุ ตอบก่อน.
    ."ผมมีความรู้สึกว่า องค์พระศรีอริยเมตไตร..ที่ นี่ ไม่ธรรมดา
    จิตบอกว่า มีอภิญญา พิเศษ..จึงลอง มายืนจับ ชายผ้าเหลือง ของท่าน
    และทำจิตดู...ปรากฏว่า ชายผ้าเหลือง ของ ท่าน
    พาจิตขึ้นเบื้องบน สู่สวรรค์..อย่างรวดเร็ว...
    ขึ้นไป ข้างบนเห็นอะไร ๆๆ ที่อยากรู้ หมด
    เร็วกว่า การนำโดยดอกไม้สวรรค์ เสียอีก
    .....................................................
    คุณ จิรศักดิ์ ก็เหมือนกัน..บอกว่า
    .."เห็นวิษณุ เขาจับชายผ้าเหลือง นิ่งๆๆ ยิ้มๆๆ ท่าจะดี
    พอเขาออกไป.. ผมก็ลอง จับชายผ้าเหลือง ลองทำจิตดู บ้าง
    เออ !!!! ดีแฮะ..เขาพาขึ้นข้างบน เห็นสวรรค์ สวยงามดี ปลอด โปร่ง
    .........................................................................
    ฟังสองคนเชาเล่า..คราวหน้า มาอีกที เห็น จะต้อง มาลองมั่ง
    ก็อยากจะดูสวรรค์ เหมือนกัน...เพราะเราก็คน
    ..........................................................................
    มาถึงเริ่องนี้..คิดถึง ประเพณี บวชของหนุ่มที่ครบเบณจเพศ
    หรือ อายุ 25 ปี...ที่ พ่อ-แม่ อยาก จะให้ บวช..
    ก็เพื่อ ที่ จะได้ จับ ชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ นั่นเอง
    .........................................................................
    ดังนั้น บรรดาลูกชาย ทั้งหลาย ถ้าเป็นไปได้ ควรจะ บวช
    เพื่อ ทดแทนบุญคุณ พ่อ-แม่..ที่ท่านต้องหนักและเหนื่อย เพราะเรา
    ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ให้ไปหา เพลง "ค่าน้ำนม" มาฟัง..ก็จะซึ้งเอง
    .............................................................................
     
  20. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    สำหรับผู้ที่ไม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว สวยๆๆแยะ
    ก็ อาจจะต้อง ลองใช้วิธีที่ แบบสอง หนุ่ม เขาทำ
    โดยไป ที่ โบสถวัดที่เชื่อว่า ศักดิ์ สิทธิ์ และดี
    ......................................................
    จับชายผ้าเหลืององค์พระประธานในโบสถ นั้น
    แล้ว ทำสมาธิ..ดูว่า มีมิติใดๆๆเกิด ขึ้นหรือ ไม่
    คิดว่า ถ้าไปทำที่ องค์พระศรีอริยเมตไตรที่ วัดไลย์ ต.ท่าโขลง จ.ลพบุรี
    คงได้ ขึ้นข้างบนแน่ๆๆ..
    .........................................................................
    แต่ถ้าไปจับชายผ้าเหลือง องค์พระประธาน
    ที่ วัดใกล้ บ้าน หรือ วัด ประจำครอบครัว
    จะได้ หรือ เปล่า..ต้องให้สองหนุ่ม ที่ มีประสบการณ์ เช่นนั้น
    ไป ลอง ทำดู...แล้วมาเล่าสู่กันฟัง
    ......................................................................
    จบเรื่อง เล่า คืนนี้ "เรื่อง วัดไลย์".
    ก่อนนอน คืนนี้..ขอองค์พระศรีอริยเมตไตร
    ทรง คุ้ม กัน รักษา ผู้ปฏิบัติดี ด้วยเทอญ
    ..........................................................................
    พุทธังคุ้ม.... ธรรมมังกัน...สังฆังรักษา
    อิติเมตตา นะโมพุทธายะ
    ขอกำแพงแก้ว เจ็ด ชั้น คุ้ม ครอง ลูกด้วยเถิด
    .............................................................................
    ราตรีสวัสดี ครับ
    ...........................................................................
    สามตา /The Third Eyes
     

แชร์หน้านี้

Loading...