ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    คุณโนอาร์ ก็กล่าวไม่ผิด
    สิ่งที่ตามติดตัวเราไปตลอด...สมัยพระพุทธเจ้า พระองค์เรียกว่า "ตัวกระทำ"
    แต่สมัยนี้...
    บางคนเรียกว่า กรรม
    บางคนก็เรียกว่า ผลของกรรม
    ปัญหาที่พบ .... คือ ภาษาที่จะสื่อความหมาย

    สิ่งที่ท่านกล่าวข้างต้น....
    "ผลกรรมที่ทำไว้ในทุกชาติ มีผลติดตามไปทุกๆชาติ ไม่ว่าผลกรรมดี กรรมชั่ว"
    ผลกรรม ที่กล่าวนี้...ก็คือ ตัวกระทำ ที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึง
    ซึ่งตรงกับ หลักสัจจะธรรม....ที่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ คือ
    "ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "

    พระพุทธเจ้า พบสัจจะธรรมว่า...ตัวตนของการกระทำ มันมีจริง
    แต่เป็นตัวตน....ที่ล่องหน อยู่ตลอดเวลา คือ มองไม่เห็นด้วยตา

    หลังการกระทำ...จบไปแล้ว ก็เกิดเป็น ตัวกระทำขึ้นมา
    ตัวกระทำนี้....จะติดจิตวิญญาณเราไป ตลอดกาล ข้ามภพข้ามชาติ
    เหมือนที่ท่านกล่าวไว้..."ผลกรรมที่ทำไว้ในทุกชาติ มีผลติดตามไปทุกๆชาติ "
    ต่างกันเพียง...ภาษา คำที่ใช้เรียก

    แล้วเมื่อ "ผลของกรรม" มันปรากฏผล...เป็นเหตุการณ์ขึ้นมา
    ท่านเรียกว่าอะไร คนอื่นเรียกว่าอะไร.... เรียกเหมือนกันหรือไม่

    หากนำ คำที่เกี่ยวกับการกระทำและกรรม
    มาเรียงลำดับตามระยะเวลา...อาจจะได้ดังนี้ เช่น
    การกระทำ....กรรม...ผลกรรม
    การกระทำ...ตัวกระทำ....กรรม
    หรือ ท่านอื่นก็อาจจะมีคำพูด คำเรียกอื่นๆ ได้อีก

    ประเด็นของ ภาษาคำที่ใช้เรียก...เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกันได้
    เพราะ เท่าที่แต่ละท่านกล่าวมา ก็ตรงตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจ... เพียงแต่ คำเรียก ต่างกัน


    ชาวพุทธในไทย...ก็ใช้ภาษาต่างกัน
    สิ่งเดียวกัน....แต่เรียกต่างกัน ก็มีมาก
    ขอบคุณทุกท่าน ที่ทำให้เห็นปัญหา...ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "



    พระพุทธเจ้า...ตรัสไว้
    ให้เราพิจารณา ก่อนที่จะเชื่อสิ่งต่างๆ....

    เห็นแล้ว...อย่าพึ่งเชื่อ
    อ่านแล้ว....อย่าพึ่งเชื่อ
    ขนาดบางครั้ง...เรายังโกหกตัวเองได้เลย
    ใจไม่อยากไป....แต่ปาก ก็บอกว่าไป กายก็เลยไปด้วย

    เป็นสิ่งที่ดี ที่คนเราใจกว้างรับฟังหลายๆด้าน...จะได้นำไปพิจารณากันให้มาก
    สัจจะธรรม ความจริงมีหนึ่งเดียว
    พิจารณาเหตุผลความจริงให้มาก...ก็จะพบเอง เห็นเอง เข้าใจเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2009
  2. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6697 ข่าวสดรายวัน


    ปากีฯเดือดซ้ำ-ถล่มเย้ยร.ร.ตำรวจ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ดงกระสุน - ตำรวจปากีสถานหิ้วเพื่อนตำรวจที่บาดเจ็บไปหลบกระสุน ระหว่างเกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกยึดโรงเรียนตำรวจในเมืองละฮอร์และดวลปืนกับฝ่ายทางการอย่างดุเดือด มีผู้เสียชีวิตหลาบสิบนาย บาดเจ็บกว่าร้อย เมื่อ 30 มี.ค. (เอพี)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 30 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นครละฮอร์ ประเทศปากีสถาน ตกเป็นเป้าก่อการร้ายครั้งที่ 2 ภายในเดือนเดียวกัน เป้าหมายล่าสุดผู้ก่อการเหิมเกริมถึงขั้นบุกถล่มโรงเรียนตำรวจในเขตมานาวานและจับนักเรียนตำรวจเป็นตัวประกัน ทางการระดมทหารหน่วยจู่โจมและตำรวจเข้าปะทะกับคนร้ายและควบคุมสถานการณ์ได้สำเร็จช่วงหัวค่ำ ตัวเลขผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 20-40 ราย บาดเจ็บ 90 ราย และจับเป็นกลุ่มคนร้ายได้ 3 ราย วิสามัญฆาตกรรมไป 4 ราย

    ผู้ก่อการร้ายมี 10-15 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกสวมเครื่องแบบตำรวจ ส่วนอีกกลุ่มสวมชุดไอ้โม่ง และขนอาวุธหนักทั้งระเบิด ปืน และอาร์พีจี บุกถล่มโรงเรียนตำรวจมานาวานพร้อมๆ กันจากสองฟากฝั่ง แสดงให้เห็นว่าเตรียมวางแผนมาดีมาก คล้ายกับกับปฏิบัติการก่อการร้ายดักซุ่มโจมตีขบวนรถโดยสารคณะนักกีฬาคริกเกตศรีลังกา ซึ่งเพิ่งเดินทางมาแข่งในละฮอร์เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ทำให้ตำรวจอารักขาเสียชีวิต 6 นาย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ปากีฯเดือด - ตำรวจปากีสถานล็อกตัวหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อการร้ายสิบกว่าคนที่ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามบุกถล่มโรงเรียนตำรวจชานเมืองละฮอร์ จำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่แน่ชัด อยู่ระหว่าง 20-40 นาย เมื่อวันที่ 30 มี.ค. (เอพี)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขณะเกิดเหตุมีนักเรียนตำรวจอยู่ในโรงเรียนประมาณ 850 คน ช่วงแรกหลบหนีออกมาได้ครึ่งหนึ่ง จนถึงช่วงเย็นหลบหนีออกมาได้เกือบหมด ขณะนี้รัฐบาลปากีสถานยังมืดแปดด้านไม่รู้ว่าผู้ก่อร้ายกลุ่มนี้มาจากไหน แต่นายเราะห์มาน มาลิก รัฐมนตรีมหาดไทย ชี้ว่าน่าจะเป็นผู้ก่อการร้ายในปากีสถานเองมีอยู่ 3 กลุ่มหลัก คือ ลัชการ์-อี-ยังวี ลังการ์-อี-โมฮัมหมด และลัชการ์-อี-ไทบา ซึ่งกลุ่มหลังสุดเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมไล่ยิงนักท่องเที่ยวในนครมุมไบ ประเทศอินเดีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน รวมถึงเหตุโจมตีนักกีฬาคริกเกตจากศรีลังกา

    "ในปากีสถานมีสมาชิกกองกำลังท้องถิ่นที่ถูกรัฐบาลขึ้นบัญชีดำนับพันคน ซึ่งกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีจากนอกประเทศสามารถดึงไปใช้ก่อเหตุได้ คำถามสำคัญก็คือผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ไปได้อาวุธหนักจำนวนมากมาจากไหน" นายมาลิก กล่าว

    นายทิม มาร์แชล ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวสกายนิวส์ ประเทศอังกฤษ รายงานสดจากละฮอร์ว่า ทางการปากีสถานต้องใช้ความรุนแรงจัดการกับผู้ก่อเหตุถล่มโรงเรียนตำรวจอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจปลุกกระแสทำให้ชาวบ้านไม่พอใจรัฐบาลและกองทัพมากขึ้นฐานไร้ประสิทธิภาพ

    โอบามาบีบซีอีโอจีเอ็ม-ออก



    บีบีซีรายงานเมื่อ 30 มี.ค. ว่า นายริก แวกอนเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐจำต้องลาออกจากตำแหน่งตามความต้องการประธานาธิบดีบารัก โอบามาที่ให้เปลี่ยนผู้บริหารและแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการใหม่ แลกกับการขอเงินกู้เพิ่มเติมเกือบ 584,500 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น โอบามายังให้บริษัทไครสเลอร์ ผู้ผลิตรถรายใหญ่อีกค่าย ยื่นแผนฟื้นฟูใหม่ ก่อนรัฐบาลจะตัดสินใจว่าจะอนุมัติเงินกู้ก้อนใหม่ 175,000 ล้านดอลลาร์หรือไม่ หลังจากทั้งสองบริษัทรับเงินช่วยเหลือไปแล้วถึง 609,000 ล้านดอลลาร์

    ผู้ดีรวบ5ต้องสงสัย หวั่นบึ้มป่วน"จี20"



    หนังสือพิมพ์เดลี่เมล์อังกฤษรายงานเมื่อ 30 มี.ค. ว่า ตำรวจอังกฤษจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย 5 ราย วางแผนก่อเหตุวางระเบิดคุกคามการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่กรุงลอนดอน ผู้ต้องสงสัย 5 รายนี้ เป็นชาย 3 ราย อายุ 25, 19, 16 ปี หญิง 2 ราย อายุ 20 ปีทั้งคู่ ถูกควบคุมตัวในพลีมัธ ภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย

    การจับกุมผู้ต้องสงสัย 5 รายครั้งนี้ขยายผลมาจากการจับกุมชายหนุ่มวัย 25 ปีเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังตำรวจตรวจพบอาวุธและวัสดุต้องสงสัยเกี่ยวโยงถึงลัทธิรุนแรงทางการเมือง ในการค้นบ้านชายคนดังกล่าว

    สำหรับการรักษาความปลอดภัยในกรุงลอนดอนขณะนี้ ตำรวจเพิ่มกำลังและมาตรการขึ้นอีก หลังจากมีการชุมนุมประท้วงกลุ่มจี 20 ที่เกรงว่าจะบานปลายเป็นเหตุการณ์รุนแรง ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดแจ้งให้ชาวบ้านที่อาศัยในเขตเอกเซล เซ็นเตอร์ สถานที่จัดประชุม พกเอกสารแสดงตน เช่นบัตรประชาชน รวมถึงรูปถ่ายให้ตำรวจตรวจได้ตลอดเวลา เพราะเป็นเขตที่มีผู้นำระดับโลก รวมถึงนาย บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางมาประชุมด้วย


    ภัยแล้งพ่นพิษเกษตรกรเลี้ยงกุ้งอ่วม น้ำไม่พอเลิกกิจการ-หัวอาหารแพง-ทิ้งบ่อร้าง



    กาฬสินธุ์ - นายไพฑูรย์ คันธนาม ประธานสมาพันธ์ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าจากสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมทั้งปัญหาฝนทิ้งช่วงมานาน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้พื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ส่วนใหญ่เกษตรกรจะเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม เพราะเป็นพื้นที่เขตชลประทานแต่ขณะนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ได้หยุดและชะลอการเพาะเลี้ยงกุ้งลงจำนวนมาก เนื่องจากเกษตรกรไม่มั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอต่อการเลี้ยงกุ้ง และเกรงว่ากุ้งจะน็อกตายเพราะอากาศร้อนจัด และแล้งยาวนานกว่าทุกๆ ปี ทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามเลิกการเพาะเลี้ยงกุ้ง และส่วนใหญ่ได้ล้างบ่อทิ้งไว้ ปล่อยบ่อให้ว่างเปล่า ซึ่งจากการสำรวจมีอยู่กว่าร้อยละ 70 จากจำนวนบ่อกุ้งกว่าเดิม 8,000 บ่อ ก็เหลืออยู่เพียง 1,500 บ่อเท่านั้น

    นายไพฑูรย์กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ปริมาณการส่งออกกุ้งไปยังตลาดทั่วทุกแห่งลดน้อยลง อาจถึงขั้นขาดแคลนและจะทำให้ราคากุ้งพุ่งสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหากุ้งก้ามกรามขาดตลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อความอยู่รอดของเกษตรกรเอง อย่างไรก็ตามแนวทางการช่วยเหลือรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ควรหามาตรการในการลดต้นทุนการผลิต เช่น พันธุ์ลูกกุ้ง อาหารกุ้ง เพื่อรองรับการเพาะเลี้ยงต่อไป เนื่องจากปัจจุบันพันธุ์กุ้ง อาหารกุ้ง มีราคาแพงและไม่มีคุณภาพ อีกทั้งยังมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เกษตรกรยังขายกุ้งที่เลี้ยงมานานราคาเท่าเดิมอยู่

    นายสัมฤทธิ์ ภูโอบ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สภาพอากาศที่แห้งแล้งและร้อนจัดจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามเป็นอย่างมาก เนื่องจากกุ้งนั้นชอบอากาศชื้น มีน้ำถ่ายเทสะดวก ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาจากภัยแล้งและสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้กุ้งตาย เกษตรกรขาดทุนเป็นจำนวนมาก เลี้ยงกุ้งมานาน 20 กว่าปีแล้ว แต่ปัจจุบันได้เลิกเลี้ยงไปแล้ว พร้อมทั้งขายบ่อกุ้งไป 8 ไร่ เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่กู้ยืมมาลงทุน ส่วนสาเหตุเนื่องจากน้ำขาดแคลนและไม่เพียงพอ ประกอบกับอากาศร้อนจัด พันธุ์กุ้งและหัวอาหารแพง ทำให้กุ้งตายและขาดทุนทุกปี ทำให้ไม่มีเงินทุนที่จะซื้อพันธุ์กุ้งมาเลี้ยงต่อไปอีก

    ด้านนายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้นายอำเภอยางตลาดลงพื้นที่ไปดูแลอย่างเต็มที่และใกล้ชิด เบื้องต้นจะจัดงบประมาณและเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร และต่อไปจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามและรับทราบปัญหา จากนั้นจะนำมาแก้ไขต่อไป


    พบคำพูดไม่ดีทำเด็กเครียด-ติดยา



    เชียงราย - นายจักรพงศ์ บุญเลิศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เชียงราย เขต 3 เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สพท.เชียงราย เขต 3 ร่วมกับองค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ สำนักงานพื้นที่ภาคเหนือ ได้เปิดตัวโครงการรณรงค์เลิกความรุนแรงต่อเด็กในโรงเรียน เพราะในปัจจุบันเราให้ความสำคัญเรื่องความรุนแรงที่มีต่อเด็ก เพราะพื้นที่ซึ่งมีอยู่ 5 อำเภอมีความหลากหลาย โดยบางส่วนประสบปัญหาเรื่องไร้สัญชาติกว่า 14,000 คน จนก่อให้เกิดการกระทำความรุนแรงกับเด็ก ดังนั้น โครงการจึงมุ่งช่วยเหลือเด็กหลายด้าน เช่น ส่งเสริมศิลปะ กีฬา เพื่อควบคุมไม่ให้เข้าสู่อบายมุข เช่น ยาเสพติด การพนัน เป็นต้น

    ด้านนายพรวิชญ์ ธราธร ผู้จัดการองค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ สำนักงานพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวว่า ผลการวิจัยในเด็กพื้นที่ สพท.เชียงราย เขต 3 พบข้อมูลที่น่าสนใจอย่างมากว่าความรุนแรงที่ทำให้เด็กเกิดความเครียดและเห็นว่ามีความรุนแรงมากที่สุดคือการใช้คำพูดที่ไม่ดีกับเด็ก กล่าวดูถูก เหยียดหยาม จนทำให้เด็กคิดว่าถูกมองว่าต่ำชั้นกว่าหรือไม่ใช่มนุษย์ รองลงมาคือความรุนแรงอันเกิดจากปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งจะเห็นได้ว่าเด็กให้ความสำคัญกับจิตใจมากกว่าร่างกาย ดังนั้น เมื่อได้รับความรุนแรงก็จะเกิดความเครียด และพาไปสู่การปลดปล่อยเป็นอบายมุขต่างๆ เช่น ยาเสพติด การออกจากการเรียนก่อนวัยเรียน เป็นต้น

    นายพรวิชญ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงเรียนใน สพท.เชียงราย เขต 3 จำนวน 176 แห่ง มีนักเรียนประมาณ 53,000 คน ซึ่งตามโครงการนี้ทางองค์การแพลนฯ จะร่วมกับ สพท.เชียงราย เขต 3 และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องระดมกำลังกันดำเนินการตลอดระยะเวลา 5 ปีนี้ โดยปีแรกจะเน้นเรื่องการให้ความรู้กับฝ่ายต่างๆ เป็นการนำร่อง จากนั้นช่วงที่ 2 จะมีการรวมเป็นกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มครู ผู้ปกครอง นักเรียน ฯลฯ เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จากนั้นช่วงที่ 3 จะผลักดันในระดับนโยบายของรัฐบาลต่อไป


    พบ"กระยางขาว"นับพันเปลียนวิถีชีวต เฝ้ากองขยะนาจอมเทียน-จิกกินหนอนเป็นอาหาร



    ผู้สื่อข่าวจ.ชลบุรีรับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า ทุกๆ วันจะเห็นฝูงนกกระยางขาวฝูงใหญ่ บินวนเวียนอยู่บริเวณยอดเขา หลังวัดเขาบำเพ็ญบุญ หมู่ที่ 4 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นเขตที่ทิ้งขยะของเทศบาลต.จอมเทียน และเทศบาลต.บาง เสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่นกกระยางแทนที่จะต้องไปหากินอยู่ตามหนองน้ำ คลอง บึง ที่มีปลาหรือกุ้ง เพื่อเป็นแหล่งอาหาร แต่กลับมาอาศัยอยู่ตามกองขยะ

    ผู้สื่อข่าวจึงรุดไปตรวจสอบที่กองขยะของเทศ บาลตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ ปรากฏว่าไม่มีนกกระ ยางขาวบิน หรืออาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงเข้าไปตรวจสอบยังซอยนาจอมเทียน 28 ข้างวัดเขาบำเพ็ญบุญ หมู่ที่ 4 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ซึ่งเป็นเนินภูเขาที่จัดให้เป็นสถานที่ทิ้งขยะของเทศบาลต.นาจอมเทียน ปรากฏว่าพบนกกระยางสีขาวเกาะอยู่บนต้นไม้ขาวโพนไปหมด บางส่วนลงมาอยู่บนกองขยะเพื่อจิกกินหนอนกันอย่างเพลิดเพลิน แต่เมื่อมีเสียงหรือสิ่งผิดปกติก็จะพากันบินขึ้นเหนือกองขยะเพื่อรอดูว่ามีภัยหรือไม่ หรือบางครั้งเมื่อมีคนเดินเข้ามาบริเวณกองขยะจะมีนกกาดำ คอยส่งเสียงร้องดังๆ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้กับเพื่อนนกด้วยกันให้หนีไปจากบริเวณดังกล่าว

    นายบุญช่วย แจ้งกระจ่าง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ที่ 8 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ได้ยึดอาชีพเก็บขยะที่บนกองขยะของเทศบาลตำบลนาจอมเทียนขายเลี้ยงครอบครัวมานานกว่ายี่สิบปี เห็นนกกระยางขาวใช้ชีวิตอยู่ที่บริเวณกองขยะของเทศบาลตำบลบางเสร่ เพราะมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ แต่ปรากฏว่านกกระยางขาวได้เปลี่ยนวิถีมาอาศัยอยู่บนต้นไม้เนินภูเขาที่ทิ้งขยะ จำนวนมากนับพันตัว โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกตอนเช้าตรู่จะบินออกไปหากินนอกพื้นที่ ตอนเย็นจะบินกลับมานอนบนต้นไม้บนภูเขา ส่วนอีกกลุ่มไม่ยอมไปไหนวนเวียนจิกกินหนอนบนกองขยะ และถ้าจะเห็นว่านกกระยางมีมากเพียงใดก็ต้องรอดูหลังฝนตก หรืออากาศค่อนข้างชื้น เพราะจะมีหนอนขึ้นมาจากกองขยะจำนวนมาก นกกระยางจะมาจิกกินมองเห็นขาวโพนเต็มพื้นที่


    ดีนะที่มันไม่เปลี่ยนวิถีชีวิตแบบว่ามาอ่านพลังจิตอะไรแบบนี้นะ คนจะได้อายกันบ้างนะ

    ดร.สุเมธแนะขรก.ปฏิบัติตามเบื้องพระยุคลบาท

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง การเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาทสู่การปฏิบัติ ในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายนนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและประโยชน์ของประชาชน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับข้าราชการ ได้แก่ 1. การทำงานอย่างรู้จริง เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงศึกษาปัญหาต่างๆ เพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ 2.ความอดทน มุ่งมั่น ยึดธรรมะ ความถูกต้อง 3.อ่อนน้อมถ่อมตน เรียบง่ายประหยัด 4.ซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู
    5.ตั้งใจจริง ขยันหมั่นเพียร แม้จะใช้วิธีที่ยากลำบาก ก็ต้องไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย 6.รับฟังความคิดเห็นผู้อื่นที่มีความแตกต่าง 7.มุ่งประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นหลัก 8.เน้นความต้องการของประชาชนและรักประชาชน 9. ส่งเสริมคนดีและคนเก่ง และ 10.เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ไม่เห็นแก่ตัว


    พายุฤดูร้อนถล่ม-ลูกเห็บตกกลางกรุง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 31 มี.ค. เจ้าหน้าที่สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการเกิดลูกเห็บตกในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 แห่ง คือ บริเวณกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ(ICT) ถ.แจ้งวัฒนะ และที่บริเวณ ซ.อ่อนนุช 44 ย่านพระโขนง ช่วงเวลาประมาณ 12.30-13.00 น. ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวขณะนั้นเกิดฝนฟ้าคะนองอันเนื่องจากพายุฤดูร้อน
    "เราได้รับแจ้งจากประชาชนเข้ามา 2 ที่ในช่วงเที่ยงครึ่งถึงบ่ายโมง ว่ามีลูกเห็บตกในกรุงเทพฯ ขนาดไม่ใหญ่มาก แค่เม็ดข้าวโพดคือที่กระทรวงไอซี และที่ซอยอ่อนนุช 44, 46" เจ้าหน้าที่สำนักพยากรณ์อากาศ กล่าว

    ล่าสุดวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 5 เตือนภัยพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย โดยบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน
    ลักษณะเช่นนี้จะทำให้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.52 จึงขอให้ประชาชนในบริเวณที่กล่าวมาระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้สูงเด่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรงดใช้เครื่องมือสื่อสารหรือวัตถุที่อาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
    สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไปถึง จ.นราธิวาส ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.52 มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือ

    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>โจรใต้ลอบเผาตู้สัญญาณมือถือทรูมูฟสูญ1ล.

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 มี.ค. พ.ต.อ.จำลอง งามเนตย์ ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจชุดวิทยา การ ตำรวจภูธร นราธิวาสเข้าตรวจสอบเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือยี่ห้อทรูมูฟ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม เส้นทางระหว่าง จ.ปัตตานี- จ.นราธิวาส บ้านอีโย๊ะหมู่ 5 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ ซึ่งถูกคนร้ายใช้ยางรถจักรยานยนต์เป็นเชื้อเพลิง ลอบเผาตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้เป็นอาคารเก็บเครื่องมืออีเล็คโทรนิกส์ในระบบการส่งสัญญาณของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ระบบอีเล็คโทรนิกส์และระบบสายส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
    จากการสอบสวน นายสะแปอิง ปิ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านอีโย๊ะ หมู่ 5 ต.บาเร๊ะเหนืออ.บาเจาะ ให้การว่า เสาส่งสัญญาณโทร ศัพท์มือถือแห่งนี้ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเมื่อเวลา 01.00 น.-02.00 น. คืนวันที่ 31 มีนาคมและไม่มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ด้วย ในส่วนของตนนั้นเพิ่งทราบข่าวเรื่องนี้เมื่อช่วงเช้า จึงเข้าแจ้งกับ พ.ต.ท.เฉลิมชัย บุญศิริ สารวัตรเวร สภ.บาเจาะ และได้นำกำลังมาตรวจจุดเกิดเหตุดังกล่าว


    </TD><TD vAlign=top align=left>




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผู้นำลิเบียฉุนขาดออกจากที่ประชุมสันนิบาตอาหรับ

    [​IMG]

    กาตาร์ 31 มี.ค. - พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย หุนหันออกจากที่ประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับ ที่ประเทศกาตาร์ ภายหลังวิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบียว่าใกล้ชิดสนิทสนมกับชาติตะวันตก

    พันเอกกัดดาฟี กล่าวระหว่างเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสันนิบาตอาหรับ ที่กรุงโดฮา โดยระบุว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบีย ว่าเป็นเพียงผลผลิตของอังกฤษ และเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของสหรัฐ ทั้งที่อยู่ในตะวันออกกลาง ก่อนที่เขาจะหุนหันออกจากที่ประชุมไปในทันที พันเอกกัดดาฟีมักจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์อับดุลเลาะห์ แห่งซาอุดีอาระเบียอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายเกิดการตอบโต้กันระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาหรับเมื่อปี 2546 ก่อนที่สหรัฐจะยกกำลังบุกอิรักไม่นาน

    ทั้งนี้ ยังมีการเรียกร้องให้ผู้นำในที่ประชุมสุดยอดสันนิบาติอาหรับที่กาตาร์ ให้ปฏิเสธท่าทีของศาลระหว่างประเทศ ที่ออกหมายจับประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ ผู้นำซูดาน ในข้อหาอาชญากรรมสงครามในแคว้นดาร์ฟัวร์ด้วย. -สำนักข่าวไทย

    2009-03-31 03:06:06

    เรือผู้อพยพชาวแอฟริกันไปอิตาลีอับปาง ตาย 21 หายเป็นร้อย

    [​IMG]

    ทริโปลี 31 มี.ค.- เจ้าหน้าที่ลิเบียแจ้งว่า เรือบรรทุกผู้อพยพชาวแอฟริกันมุ่งหน้าไปอิตาลีอับปางนอกชายฝั่งลิเบีย 2 ลำ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คน สูญหายอีกหลายร้อยคน

    เจ้าหน้าที่เผยว่า เรือลำแรกมีผู้อพยพ 253 คน พบศพแล้ว 21 ศพ ที่เหลือยังไม่ทราบชะตากรรม ส่วนเรือลำที่ 2 เจ้าหน้าที่ยามฝั่งลิเบียช่วยชีวิตไว้ได้ 23 คน ที่เหลือ 342 คนยังสูญหาย เหตุเรืออับปางเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป ผู้อพยพมีทั้งชาวอียิปต์และลิเบีย

    ลิเบียเพิ่งลงนามข้อตกลงกับอิตาลีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ร่วมกันสกัดกั้นไม่ให้ผู้อพยพลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายโดยขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของยุโรป เนื่องจากผู้ลอบเข้าเมืองจากหลายประเทศของแอฟริกานิยมใช้ลิเบียเป็นจุดลักลอบเดินทางไปยุโรป โดยจะหางานที่ลิเบียทำจนกระทั่งเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งไว้ซื้อที่นั่งในเรือเพื่อลอบเดินทางไปอิตาลี.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-31 09:04:41

    เกิดแผ่นดินไหวปานกลางที่รัฐอะแลสกา

    [​IMG]

    วอชิงตัน 30 มี.ค.- รัฐบาลสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลาง 5.6 ริกเตอร์ใกล้เกาะโกดิแอกบริเวณชายฝั่งทางใต้ของรัฐอะแลสกาในสหรัฐ

    ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.13 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 14.13 น.ในไทย มีศูนย์กลางอยู่ห่างเป็นระยะทาง 111 กิโลเมตร ทางใต้ถึงตะวันออกเฉียงใต้ของโอลด์ ฮาร์เบอร์ในรัฐอะแลสกา แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-30 16:36:52

    น้ำในแม่น้ำแดงแถบมิดเวสต์เริ่มลดระดับลง

    [​IMG]

    สหรัฐ 30 มี.ค. - ชาวอเมริกันในแถบมิดเวสต์เริ่มหายใจทั่วท้อง เมื่อน้ำในแม่น้ำแดงเริ่มลดระดับลง

    ผู้คนในเมืองฟาร์โก และมัวร์เฮด ในรัฐนอร์ทดาโกตา สหรัฐ ต่างโล่งอกมากขึ้น เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำแดงลดลงไปอยู่ที่ 12.1 เมตร หลังน้ำขึ้นสูงสุดเมื่อวันก่อน ชาวเมืองยังหวังด้วยว่าระดับน้ำจะลดลงอีก ขณะที่ชาวบ้านพากันสูบน้ำออกจากบ้าน รวมทั้งเสริมคันกั้นน้ำให้พร้อมรับมือกับระดับน้ำ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ได้นำคอนกรีตน้ำหนัก 1.36 ตัน ทิ้งใส่ก้อนน้ำแข็งที่รวมตัวปิดกั้นทางน้ำ และเป็นเหตุให้น้ำในแม่น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น

    นอกจากผู้คนแล้ว ม้าทั้งของเอกชนและของภาครัฐ ยังได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย โดยทางมหาวิทยาลัยนอร์ทดาโกตา ได้เปิดรับดูแลม้าที่คอกถูกน้ำท่วมขัง ซึ่งในขณะนี้มหาวิทยาลัยฯ มีม้าอยู่ในความดูแลราว 120 ตัว. - สำนักข่าวไทย

    2009-03-30 16:14:55

    กองกำลังปากีสถานประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มมือปืนโจมตีโรงเรียนตำรวจ

    [​IMG]

    มานาวาน 30 มี.ค.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ท่านเชื่อไหม....
    มนุษย์ต่างจากสัตว์...มนุษย์สามารถเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆได้
    มนุษย์ต้องพึ่งการกระทำ....สัตว์ต้องพึ่งกรรม รอผู้อื่นเขาเมตตา
    เกิดเป็นมนุษย์....มีโอกาศหลุดพ้นทุกข์ได้จริง เมื่อทำตามพระพุทธเจ้า

    ท่านเชื่อไหม...
    พระพุทธเจ้า....เป็นมนุษย์ปกติธรรมดาเหมือนท่าน
    แต่เมื่อถึงเวลา...ก็จะต้องมาทำหน้าที่ของพระพุทธเจ้า

    ท่านเชื่อไหมว่า....
    พระพุทธเจ้า....ตรัสรู้ได้ด้วยสัจจะบางข้อ ที่ทำได้จริง
    ถ้าท่านปฏิบัติตนด้วยสัจจะ...เมื่อทำได้จริง ท่านก็สามารถพบความจริงต่างๆได้เอง

    ปัญญาเกิดจาก....สัจจะที่ตัดลดนิสัยได้จริง
    ท่านเชื่อไหมว่า...
    ความเชื่อที่ไม่ตรงความจริง...ทำให้เราเสียโอกาสเรียนรู้ความจริง

    ท่านไม่ต้องเชื่อทันที...แต่ขอให้พิจารณาให้มากๆ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2009
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ขอสอบถาม...พระไตรปิฎก กล่าวถึงอย่างไรบ้างในเรื่องนี้
    ขอบคุณล่วงหน้า

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การเมืองไทยกำลังจะเดินตามรอยการเมืองสหรัฐอเมริกา?

    ย้อนยุคสงครามกลางเมืองสหรัฐ (civil war) กับ Stone Mountain

    <!--Main-->[SIZE=-1][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]ประธานาธิบดี Lincoln แห่ง United States of America [/SIZE]​

    [SIZE=-1]เมือง Atlanta และรัฐ Georgia เป็นปราการด่านสำคัญ อันเป็นหัวใจนำไปสู่จุดแตกหักของสงครามกลางเมือง หรือ civil war ระหว่างฝ่ายเหนือ (Union) กับฝ่ายใต้ (Confederacy) ของสหรัฐฯ เลยทีเดียว [/SIZE]​

    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]ประธานาธิบดี Jefferson Davis แห่ง Confederate States of America [/SIZE]​

    [SIZE=-1]ฝ่ายเหนือคือรัฐบาลสหรัฐ ในขณะนั้นเรียกว่า Union ที่ต้องการรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง ในรูปแบบของ Federation หรือ สหพันธรัฐ ในยุคประธานาบดี Abraham Lincoln มีนายพล Ulysses S. Grant เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (Military commander-in-chief) ในขณะที่ฝ่ายใต้ ซึ่งปฏิเสธนโยบายเลิกทาส เพราะเมืองฝ่ายใต้อาศัยแรงงานทาสในขณะนั้น (ค.ศ. ๑๘๖๐) มีประมาณ ๓,๕๐๐,๐๐๐ คน ต้องการมีอิสระในการปกครอง โดยให้รัฐแต่ละรัฐมีอิสระมากที่สุด รัฐบาลกลางมีอำนาจน้อยสุด ในรูปแบบ Confederation หรือ สมาพันธรัฐ ได้สถาปนาประธานาธิบดี Jefferson Davis ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนแรก เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๑๘๖๑ [/SIZE]​

    [SIZE=-1]Jefferson Davis มีบ้านเกิดในรัฐเคนตักกี้ ไม่ไกลจาก Lincoln สักเท่าใดนัก เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรก คนเดียว และคนสุดท้าย มีนายพล Robert E. Lee เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคู่ใจ โดยได้สถาปนาเมือง Richmond รัฐ Virginia เป็นเมืองหลวงของสมาพันธรัฐฝ่ายใต้ (Confederate States) สงครามกลางเมืองสหรัฐฯนี้ หลังจากต่อสู้กันยาวนาน กองกำลังฝ่ายเหนือได้บดขยี้กองกำลังทหารฝ่ายใต้ในหลายสุมรภูมิรบ เพราะมีกำลังทหารมากกว่า ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก หลายท่านว่า คงเป็นเพราะเวรกรรมตามสนองกรณีที่คนขาวได้เข่นฆ่า ชนชาวพื้นเมืองของสหรัฐฯ ไว้อย่างทารุณจำนวนมากนั่นเอง [/SIZE]​

    [SIZE=-1]ที่มา http://www.bloggang.com[/SIZE]

    [SIZE=-1]“ประเทศไทยเหนือ...ประเทศไทยใต้”[/SIZE]
    [SIZE=-1]โดย หมอนิด[/SIZE]​


    [SIZE=-1]ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน ผมรู้สึกเป็นห่วงประเทศไทยของพวกเราทุกคนเหลือเกิน เพราะประเทศไทยของเราที่เคยร่มเย็นเป็นสุข และ ประชาชนที่เคยรักใคร่สามัคคีกันมาตลอดนั้น [/SIZE]

    [SIZE=-1]อีกไม่นานประเทศของพวกเราคงจะต้องแบ่งเป็น “ประเทศไทยเหนือ...ประเทศไทยใต้ [/SIZE]

    [SIZE=-1]ซ้ำร้ายไปกว่านั้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราอาจจะต้องกลายเป็นเขตปกครองพิเศษหรือรัฐอิสระไป ขอให้ทุกท่านทุกฝ่ายรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองทุกหน่วยงานทุกองค์กร รีบหาทางป้องกันและวางแผนจัดการให้ดีอย่างรีบด่วน โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นต้องรีบหาข่าวในทางลับโดยด่วน!! อันตรายครั้งใหญ่กำลังจะเกิด!! [/SIZE]

    [SIZE=-1]เพราะเป็นแผนดึงความสนใจให้ออกจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอย่างหนึ่ง มันเป็น “กับระเบิด” ครั้งยิ่งใหญ่ที่มีการวางแผนไว้อย่างน่ากลัว “อย่าหลงเชื่อ” แต่ใจหนึ่งก็ภาวนาขอให้เกิดสันติสุขขึ้นจริงๆ ไม่รู้ทำไมใจผม “ไม่เชื่อ” ก็ไม่รู้ซ้ำยังสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายรุนแรงขึ้นในเร็วๆนี้ “หนักมาก” และเกรงว่าจะลามไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย [/SIZE]

    [SIZE=-1]ขอให้ตรวจเข้มขึ้นกว่าเดิมทุกที่ทุกแห่งรวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวด้วย ผมไม่ได้เขียนเพื่อให้ทุกคนกลัว แต่ขอเตือนให้ระวัง!ขอความกรุณาอย่าได้ตำหนิติเตียนผมเลยในช่วงนี้ ผมห่วงด้วยใจจริงถึงผมจะถูกตำหนิ แต่เหตุการณ์สงบได้จริงๆผมก็ดีใจยิ่ง ผมขอเอาใจช่วยครับ(มันมีนัยแอบแฝงที่น่ากลัว)[/SIZE]

    [SIZE=-1]ประเทศไทยเหนือ-ประเทศไทยใต้ ผมเคยเขียนมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2548-2549 แล้วและกำลังจะกลายเป็นจริงในอีกไม่นาน.... “ถ้า”....? ไม่รีบตัดไฟแต่ต้นลม!! “รีบตื่นเถิด”[/SIZE]

    [SIZE=-1]ด้วยความเคารพ[/SIZE]
    [SIZE=-1]หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)[/SIZE]
    [SIZE=-1]1 ก.ย. 2551[/SIZE]

    [SIZE=-1]http://www.mornid.com[/SIZE]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2009
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <CENTER><TABLE><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD align=middle>พระสูตร
    มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ วิภังควรรค
    จูฬกัมมวิภังคสูตร

    ว่าด้วย กฎแห่งกรรม
    พระไตรปีฎกภาษาไทย ฉบับหลวง พ.ศ. ๒๕๒๕
    เล่ม ๑๔ ข้อ ๕๗๙-๕๙๗ หน้า ๒๘๗-๒๙๒
    ดูพระสูตรความย่อตอนเดียวกัน โดยคลิกที่ [​IMG] </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] </CENTER>

    [​IMG] {น.๒๘๗}[๕๗๙] ข้าพเจัาได้สดับมาอย่างนี้ :-
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี สมัยนั้นแล สุภมาณพ โตเทยยบุตร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ แล้วได้ทักทายปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านคำทักทายปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว ได้นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
    [๕๘๐] สุภมาณพ โตเทยยบุตร พอนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอแล เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ ปรากฏความเลวและความประณีต คือ มนุษย์ทั้งหลายย่อมปรากฏ มีอายุสั้น มีอายุยืน มีโรคมาก มีโรคน้อย มีผิวพรรณทราม มีผิวพรรณงาม มีศักดาน้อย มีศักดามาก มีโภคะน้อย มีโภคะมาก เกิดในสกุลต่ำ เกิดในสกุลสูง ไร้ปัญญา มีปัญญา ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอแล เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ ปรากฏความเลว และความประณีต ?
    [​IMG] [๕๘๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้
    ส. ข้าพระองค์ย่อมไม่ทราบเนื้อความโดยพิสดารของอุเทศที่พระโคดมผู้เจริญ ตรัสโดยย่อ มิได้จำแนกเนื้อความโดยพิสดารนึ้ได้ ขอพระโคดมผู้เจริญ ได้โปรดแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ โดยประการที่ข้าพระองค์ จะพึงทราบเนื้อความแห่งอุเทศโดยพิสดารได้เถิด
    พ. ดูกรมาณพ ถ้าอย่างนั้น ท่านจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจะกล่าวต่อไป
    สุภมาณพ โตเทยยบุตร ทูลรับพระผู้มีพระภาคว่า ชอบแล้ว พระเจ้าข้า
    <A href="http://www.navy.mi.th/newwww/code/special/budham/tps/tps1435.htm#๓" target=contents>[​IMG] {น.๒๘๘}[๕๘๒] พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคนเหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีอายุสั้น ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้นนี้ คือ เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคนเหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต
    [๕๘๓] ดูกรมาณพ ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม ละปาณาติบาตแล้ว เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต วางอาชญา วางศาสตราได้ มีความละอาย ถึงความเอ็นดู อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์และภูตอยู่ เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีอายุยืน ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุยืนนี้ คือ ละปาณาติบาตแล้ว เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต วางอาชญา วางศาสตราได้ มีความละอาย ถึงความเอ็นดู อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์และภูตอยู่
    [๕๘๔] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นผู้มีปกติเบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโรคมาก ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมากนี้ คือ เป็นผู้มีปกติเบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือ ก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา
    [๕๘๕] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นผู้มีปกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโรค ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคน้อย คือ เป็นผู้มีปกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา
    {น.๒๘๙} [๕๘๖] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย ทำความโกรธ ความร้าย และขึ้งเคียดให้ปรากฏ เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีผิวพรรณทราม ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมากนี้ คือ เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย ทำความโกรธ ความร้าย และขึ้งเคียดให้ปรากฏ
    [๕๘๗] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย ไม่ทำความโกรธ ความร้าย และความขึ้งเคียดให้ปรากฏ เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนน่าเลื่อมใส ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใสนี้ คือ เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่ามาก ก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย ไม่ทำความโกรธ ความร้าย ความขึ้งเคียดให้ปรากฏ
    [๕๘๘] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม มีใจริษยา ย่อมริษยา มุ่งร้าย ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีศักดาน้อย ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดาน้อย คือ มีใจริษยา ย่อมริษยา มุ่งร้าย ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น
    [๕๘๙] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นผู้มีใจไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย ไม่ผูกใจอิจฉา ในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การ{น.๒๙๐}ไหว้ และการบูชาของคนอื่น เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีศักดามาก ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดามากนี้ คือ มีใจไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย ไม่ผูกใจอิจฉา ในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น
    [๕๙๐] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม ย่อมไม่เป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้า ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะหรือพราหมณ์ เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโภคะน้อย ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อยนี้ คือ ไม่ให้ข้าว น้ำ ผ้า ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะหรือพราหมณ์
    [๕๙๑] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม ย่อมเป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้า ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะหรือพราหมณ์ เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึง สุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโภคะมาก ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะมากนี้ คือ ให้ข้าว น้ำ ผ้า ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะ หรือพราหมณ์
    [๕๙๒] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรไหว้ ไม่ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ไม่ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง ไม่สักการะ คนที่ควรสักการะ ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ ไม่บูชาคนที่ควรบูชา เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำนี้ คือ เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรไหว้ ไม่ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ {น.๒๙๑}ไม่ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง ไม่สักการะคนที่ควรสักการะ ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ ไม่บูชาคนที่ควรบูชา
    [๕๙๓] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง ย่อมกราบไหว้คนที่ควรไหว้ ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง สักการะคนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลสูง ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลสูงนี้ คือ เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง ย่อมกราบไหว้คนที่ควรไหว้ ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง สักการะคนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา
    [๕๙๔] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม ย่อมไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญาทราม ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทรามนี้ คือ ไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะ หรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน
    [๕๙๕] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม ย่อมเป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญามาก ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญา{น.๒๙๒}มากนี้ คือ เป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์ แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน
    [๕๙๖] ดูกรมาณพ ด้วยประการฉะนี้แล ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้น ย่อม นำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุสั้น ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุยืน ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุยืน ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคมาก ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคน้อย ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีผิวพรรณทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณทราม ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีผิวพรรณงาม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณงาม ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดาน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดาน้อย ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดามาก ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะน้อย ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะมาก ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำ ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลสูง ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลสูง ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญาทราม ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญามาก
    ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรม เป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีต [​IMG] [๕๙๗] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ สุภมาณพ โตเทยยบุตร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า แจ่มแจ้งแล้ว พระเจ้าข้า แจ่มแจ้งแล้ว พระเจ้าข้า พระโคดมผู้เจริญทรงประกาศธรรมโดยปริยายมิใช่น้อย เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ หรือเปิดของที่ปิด หรือบอกทางแก่คนหลงทาง หรือตามประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า ผู้มีตาดีจักเห็นรูปได้ฉะนั้น ข้าพระองค์ขอถึงท่านพระโคดมผู้เจริญ พระธรรม และภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระโคดมผู้เจริญ จงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    ที่มา http://www.navy.mi.th

     
  8. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    <TABLE class=tborder id=post135 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" colSpan=2>[​IMG] 30-03-2009 until 01-04-2009 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>WebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_135", true); </SCRIPT>
    เว็บมาสเตอร์, ผู้ก่อตั้ง (วีระชัย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2003
    สถานที่: London, England
    ข้อความ: 6,898
    <IF condition="">
    </IF>Groans: 20
    Groaned at 51 Times in 24 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,888
    ได้รับอนุโมทนา 53,436 ครั้ง ใน 4,608 โพส
    พลังการให้คะแนน: 50000 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_135 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title --><CENTER>วันพุธที่ 1 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น เป็นต้นไปจนถึง 3 ทุ่ม เว็บจะปิด

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ประกาศจากเว็บพลังจิต วันพุธที่ 1 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น เป็นต้นไปจนถึง 3 ทุ่ม เว็บจะปิด เนื่องจากจะทำการย้ายตู้เซิฟเวอร์ แต่เอาจจะเสร็จก่อน 3 ทุ่ม จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เขาจะปิดเว็บแล้วแระ จงขอบอกให้ทราบโดยทั่วหน้า
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ความเข้าใจเรื่องกรรมและผลของกรรม
    - โดยคุณดังตฤณ -

    [​IMG]

    ถาม – จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นกรรมเก่าหรือกรรมใหม่คะ?

    ตอบ - สำหรับคนธรรมดาทั่วไป ก็ต้องตัดสินเอาจากสิ่งที่เห็นง่ายสุดโต่งก่อนครับ เช่นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นซ้ำๆในชีวิตโดยไม่เคยทำในปัจจุบัน อันนั้นแหละผลของอดีตกรรม ยกตัวอย่างเช่นเด็กทารกยังไม่มีมือมีเท้าไปรบกวนใคร แต่ถูกตัดมือตัดเท้าไปนั่งขอทาน อันนั้นชัดเจนว่าเป็นแรงส่งอันหนักแน่นของกรรมเก่า คือเอาตัวไปอยู่ในมือทรชนคนโหด

    และหากคุณเป็นคนหน้าตาหมองคล้ำมาแต่ไหนแต่ไร พอหันมาศรัทธากรรมวิบาก ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ กับทั้งมีใจคิดเจือจานโดยหวังผลเพียงให้ใจชุ่มชื่น ตั้งสติให้รู้จักกระตือรือร้นกับคุณค่าของปัจจุบันขณะ ทำๆไป จนรู้สึกสว่างอบอุ่นขึ้นมาจากข้างใน ส่องกระจกแล้วเห็นหน้าตาผ่องใสสดชื่นผิดสังเกต อันนั้นแหละครับผลที่ชัดเจนของกรรมใหม่ แถมเรื่องดีๆจะเรียงคิวตามมา ไม่ใช่แค่หน้าตาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    อย่างไรก็ตาม กรรมวิบากไม่ใช่ของตื้น กับทั้งไม่ใช่สิ่งที่มีองค์ประกอบเพียงเล็กน้อย เหตุการณ์ในชีวิตพวกเราเป็นผลอันเกิดจากการผสมปนเประหว่างกรรมเก่ากับกรรมใหม่ยุ่งเหยิง คุณไม่มีทางรู้ได้ด้วยความนึกคิดธรรมดา ว่าทำดีแทบตาย ไฉนจึงไม่มั่งมีศรีสุขอย่างคนชั่วๆบ้าง หรือทำกิจการประเภทหนึ่งล้มเหลว แต่พอเปลี่ยนไปทำกิจการอีกประเภทหนึ่งกลับรุ่งเรือง ชนิดหาเหตุผลใดๆมาอธิบายยาก

    อีกประการหนึ่ง กรรมมีระยะเวลาให้ผลหลายระยะ ทำแล้วเห็นผลทันตาในชาติปัจจุบันก็มี ทำแล้วให้ผลในชาติถัดไปแบบเหมารวมรวดเดียวก็มี ทำแล้วกว่าจะออกดอกออกผลต้องเข้าคิวรอไปถึงชาติถัดๆไปก็มี

    การที่กรรมแต่ละแบบออกดอกออกผลได้หลายระยะนี่แหละ ทำให้คนไม่เชื่อกฎแห่งกรรมวิบาก คือต้องให้ทำปุ๊บแล้วได้ผลปั๊บ ฆ่าใครแล้วถูกฆ่าคืนทันที โกงใครแล้วถูกโกงตอบทันที เผาบ้านใครแล้วโดนเผาบ้านกลับทันที อย่างนี้จะไม่เป็นที่สงสัย แต่ที่สงสัยก็เพราะกว่าจะถูกฆ่าคืน กว่าจะถูกโกงตอบ หรือกว่าจะถูกเผาบ้านกลับ อาจกินเวลาหลายปี หรือกระทั่งต้องรอกันเป็นชาติๆได้

    อย่างไรก็ตาม มีผลกรรมที่มองด้วยตาเปล่าได้ประการหนึ่ง คือหากกรรมเก่าบันดาลเหตุการณ์ดีร้ายอย่างต่อเนื่อง โอบอุ้มหรือเล่นงานเราอย่างหนักแน่น เอาชนะยาก อย่างนั้นแปลว่าคุณทำกรรมเก่าในทำนองนั้นไว้กับคนอื่นอย่างต่อเนื่องยาวนาน อาจจะทั้งชีวิต เช่นมีนิสัยชอบรบกวนชาวบ้านด้วยเรื่องจุกจิก แกล้งกวนโมโหใครต่อใครตลอดเวลาด้วยความเห็นเป็นเรื่องสนุก อย่างนี้โอกาสที่คุณจะตกไปอยู่ในวงล้อมของพวกขี้แกล้งก็สูงมาก หรือถึงแม้คนรอบตัวของคุณแสนดี ก็จะมีดินฟ้าอากาศ บ้านช่อง ทรัพย์สิน หรือความบังเอิญต่างๆนานามารบกวนไม่หยุดหย่อน เป็นต้น

    และกรรมที่ให้ผลปัจจุบันทันใจที่สุดคือความเป็นผู้ศึกษาให้เห็นถูก เห็นชอบ กระทั่งเกิดศรัทธาปสาทะในกรรมวิบาก ศรัทธาหนทางดำเนินเพื่อลดละความยึดมั่นถือมั่นทั้งเรื่องภายนอกและภายใน ต่อให้คุณโดนรบกวนจากวิบากของกรรมเก่าหรือวิบากของกรรมใหม่ย่ำแย่เพียงใด ใจก็จะไม่เป็นทุกข์ หรืออย่างน้อยที่สุดก็บรรเทาทุกข์ทางใจให้ลดลง มีพื้นที่ของความสุขเพิ่มขึ้นได้

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    เรื่องวิบากของกรรมนั้นเป็นอจินไตย หมายถึงคนทั่วไปคิดนึกคาดคะเนไม่ได้ หรือแม้ใช้เหตุผลตามกำลังสติปัญญาสามัญก็ไม่ได้ แต่อจินไตยนั้นใช่ว่าจะไม่มีสิทธิ์รู้เอาเสียเลย และต่อไปนี้จะเป็นคำตอบที่แท้จริงสำหรับคำถามนะครับ เพื่อทราบเรื่องกรรมวิบากอย่างกระจ่าง ไม่สงสัยว่าเป็นผลของกรรมเก่าหรือกรรมใหม่ คุณต้อง

    ๑) เป็นผู้รู้จักเจตนาของตนเองและผู้อื่น เช่นที่พูดๆหรือทำๆไปนั้น เกิดจากพื้นฐานความคิดมุ่งหมายอย่างไร เป็นดีหรือเป็นร้าย เป็นบุญหรือเป็นบาป พูดง่ายๆว่าเป็นกรรมขาวหรือกรรมดำ

    ๒) ประมาณน้ำหนักเจตนาได้ถูกว่ามีน้ำหนักอย่างอ่อน อย่างกลาง หรืออย่างแก่กล้า ถ้าอย่างอ่อนหมายถึงคิดไม่จริงจังหรือคนอื่นไหว้วานให้ทำ ถ้าอย่างกลางหมายถึงคิดเองแต่มียั้งๆชั่งใจหวั่นไหวอยู่ ถ้าอย่างแก่กล้าหมายถึงคิดริเริ่มเองด้วยความหนักแน่นและมีความยินดีขนาดยิ้มสะใจได้ในการลงมือทำ

    ๓) เป็นผู้รู้จักบุญญาธิการของตนเองและผู้อื่น กล่าวคือมองออกว่าบุคคลอันเป็นเป้ากระทบของการคิด การพูด การทำนั้น กำลังอยู่ในจังหวะมีบุญคุ้มหรือไม่มีบุญคุ้ม

    ๔) ประมาณน้ำหนักบุญญาธิการถูก ว่าเป็นอย่างน้อย อย่างกลาง หรืออย่างมาก วัดกันที่บารมีว่าเป็นผู้เกื้อกูลมากหรือเบียดเบียนมาก ตามหลักแล้ว ผู้เกื้อกูลคนอื่นมากจะเป็นภาคขยายผลกรรมขนาดใหญ่ ใครทำอะไรมาจะมีผลสวนคืนรวดเร็วและรุนแรง

    ๕) เป็นผู้รู้จักวัตถุ หมายถึงทราบว่าเครื่องมือในการประกอบกรรมนั้น มีคุณหรือมีโทษ

    ๖) ประมาณน้ำหนักคุณและโทษของวัตถุได้ถูก กล่าวคือรู้ชัดว่าเอามาใช้กับบุคคลใดในจังหวะไหนแล้วเป็นมงคลหรืออัปมงคลเพียงใด เช่นวัตถุบางชิ้นเป็นของสำคัญและจำเป็นมาก ถ้าขโมยมาจะก่อความเดือดร้อนสาหัสแก่เจ้าของ เป็นต้น

    เมื่ออ่านออกว่าองค์ประกอบหลักๆของการทำกรรมมีอยู่ดังกล่าว พอมองปราดเดียวก็จะประมาณน้ำหนักถูกว่าการคิด การพูด การทำในแต่ละครั้งของตนเองและผู้อื่น จัดเป็นบุญหรือเป็นบาปใหญ่ จะให้ผลเร็วทันตาหรือทอดระยะเวลาช้าออกไป

    ขอกล่าวโดยสรุปว่าองค์ประกอบที่จะบันดาลผลอย่างรวดเร็ว คือค่อนข้างแน่นอนว่าจะปรากฏเหตุการณ์สะท้อนตอบภายในชาติปัจจุบัน หรือกระทั่งภายใน ๓ วัน ๗ วันมีดังต่อไปนี้

    ๑) ทำด้วยความหนักแน่น มีความยินดีเต็มใจ หรือกระทั่งเกิดโสมนัสในการทำ ไม่ว่าในเชิงกุศลหรือเชิงอกุศล

    ๒) บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับแรงกระทำจากเรา เป็นบุคคลผู้ทรงศีล หรือเป็นผู้สงเคราะห์สังคมไว้มาก

    ๓) วัตถุที่เป็นเครื่องมือกระทำการมีคุณมาก

    ๔) ไม่มีกรรมเก่าที่เป็นตรงข้ามมาหน่วงเหนี่ยวการให้ผลไว้

    จิตที่ทรงอภิญญาหรือรู้ยิ่งในกรรมวิบากนั้น จะไม่มานั่งแยกแยะเป็นข้อๆอย่างข้างต้นนะครับ พอจะรู้ก็รู้เลยแบบเหมารวมเบ็ดเสร็จทีเดียว อย่างเช่นถ้าหยั่งทราบว่ากรรมดีในอดีตยังให้ผลคุ้มกันภัย ก็จะรู้ว่าบาปใหม่ในปัจจุบันแม้อุกฤษฏ์ ก็ยังเข้าถึงตัวไม่ได้ถนัด หรือต้องรอเวลาระยะหนึ่งก่อน จะรู้ชัดว่าตรงนี้ไปใช้เหตุผลหรือความชอบชังส่วนตัวมาตัดสินไม่ได้

    เมื่อสามารถพยากรณ์วิบากจากกรรมในปัจจุบันถูก คุณก็จะเขยิบไปล่วงรู้สิ่งที่ลี้ลับกว่านั้น นั่นคือทราบได้ว่าเหตุการณ์หรือสภาพหนึ่งที่กำลังปรากฏต่อหน้าต่อตานั้น เป็นผลมาจากบุญบาปในอดีตใกล้หรืออดีตไกลเพียงใด

    หากอุเบกขาธรรมอย่างใหญ่ระดับผู้ทรงฌาน สามารถรู้ซอกซอนทั่วตลอดสายทั้งกรรมเล็กกรรมใหญ่ คุณก็จะทราบชัดและอธิบายได้ละเอียดลออว่าอะไรเป็นอะไร ขนาดจำแนกได้ทีเดียวว่าภาพใหญ่ของชีวิตเกิดจากการจู่โจมของบาปในอดีตแบบไหน อวัยวะใหญ่น้อยในร่างกายเกิดจากการตกแต่งของบุญในอดีตทางใด

    แต่หากมีเพียงอุเบกขาธรรมอย่างเล็ก ไม่อาจทรงฌานเป็นปกติ รู้จักเพียงองค์ประกอบธรรมเบื้องต้น คุณจะทราบเพียงว่ากรรมวิบากมีจริง และเห็นคร่าวๆว่าทำบุญใหญ่ๆแล้วเป็นกรรมขาวดวงใหญ่ ให้ผลน่าชื่นใจรวดเร็ว ทำบาปใหญ่ๆแล้วเป็นกรรมดำดวงใหญ่ ให้ผลเดือดเนื้อร้อนใจในไม่ช้า กับทั้งอาจจับพลัดจับผลูจับคู่กรรมวิบากยิบย่อยต่างๆได้ถูกเป็นบางเวลา แต่ไม่สม่ำเสมอ และหากไม่มีอุเบกขาธรรมเลย เป็นผู้มีอคติ รักแรง เกลียดแรง ต่อให้คุณศรัทธาว่ากรรมวิบากมีจริง คุณก็จะไม่ตระหนักเลยว่าทำดีได้ดีได้อย่างไร ทำชั่วได้ชั่วได้เมื่อไหร่ เพียงแต่ใจจะไม่ถลำไปในบาปลึกนัก และถ้าทำบุญก็จะทำด้วยความเลื่อมใสและมีใจเบิกบาน

    ส่วนพวกที่แม้ศรัทธาในกรรมวิบากก็ยังไม่มี อย่างนี้จิตจะถูกปกคลุมหนาแน่นด้วยโมหะ อย่าว่าแต่เห็นว่าบุญเป็นบุญ เห็นบาปเป็นบาป แม้กระทั่งบาปก็อาจไพล่เห็นเป็นบุญ และแม้กระทั่งบุญก็อาจไพล่เห็นเป็นบาป จากนั้นก็หลงเพ้อผิดพลาดแหวกแนวจากความจริงไปได้เรื่อยเปื่อยไม่มีที่สิ้นสุด พูดแล้วหลอกตัวเองให้เชื่อว่าไม่พูด ทำแล้วหลอกตัวเองว่าไม่ทำก็ยังได้

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    นอกจากนี้คุณยังเข้าใจชัด ว่าคนเราทำอาชีพแบบหนึ่งๆประสบความสำเร็จก็ด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ เช่นเคยทำอาชีพนั้นมาก่อนในอดีต และทำอย่างที่จะก่อประโยชน์ ก่อความรุ่งเรืองให้ผู้อื่น หรือเคยทำบุญในด้านนั้นๆมาก่อน เช่นถ้าเคยทำขนมถวายพระบ่อยๆ ชาตินี้เปิดกิจการร้านขนมจะรุ่งเรืองมาก เป็นผู้มีรสนิยมและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขนมดีมาก เป็นต้น

    ในแง่ของการประกอบอาชีพได้สำเร็จหรือล้มเหลวนั้น เป็นตัวอย่างอันดีของการจับมือกันระหว่างกรรมเก่ากับกรรมใหม่ การจะสำเร็จในอาชีพอย่างรวดเร็วนั้น คุณจะงอมืองอเท้ารอทะเลบุญหนุนเนื่องอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีอิทธิบาท ๔ คือรักงานหนึ่ง ขยันต่อเนื่องหนึ่ง ฝักใฝ่งานแทบทุกลมหายใจเข้าออกหนึ่ง ฉลาดประเมินหรือพัฒนางานเก่งหนึ่ง

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    คำตอบทั้งหมดคงทำให้เข้าใจว่าคนธรรมดาไม่อาจพยากรณ์วิบากกรรม หากต้องการทราบเรื่องกรรมวิบากให้กระจ่าง คุณต้องเอาสติมารู้ มาดูความจริงเกี่ยวกับกายใจนี้มากๆ เพราะกายใจนี้แหละวิบากของกรรมเก่า และเป็นฐานที่ตั้งของกรรมใหม่ เมื่อใดรู้เรื่องกายใจนี้ดีโดยไม่มีอคติ เมื่อนั้นก็เท่ากับคุณรู้แจ้งเรื่องกรรมวิบากไปด้วย

    การรู้กายใจตามจริงก็คือปฏิบัติธรรมตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสแสดงแจกแจงเป็นขั้นๆไว้ดีแล้วนั่นเองครับ (ต้องเข้าใจสติปัฏฐาน ๔ แบบพระพุทธเจ้าจริงๆด้วยนะครับ ไม่ใช่อ้างนามสติปัฏฐาน ๔ แต่คิดวิธีเอาเองตามอัตโนมัติ) พระเถระทั้งอดีตและปัจจุบันยืนยันกันถ้วนหน้าว่า วิชาของพระพุทธเจ้านี้ดีจริง ทำให้เป็นผู้รู้แจ้งเรื่องกรรมวิบากได้จริง ฉะนั้นหากปรารถนาจะรู้จักกรรมวิบากถ่องแท้ ก็ขอให้ศึกษาและฝึกฝนสติปัฏฐาน ๔ เอาเถิด ไม่ยากเกินกำลังของมนุษย์คนหนึ่งหรอกครับ

    ที่มา http://dungtrin.com/newsletter/prepare041.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2009
  10. pat3112

    pat3112 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +2,904
    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม [​IMG]
    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ (หลังจากเกิดมาแล้ว) ...เป็นผลจากตัวกระทำในชาตินี้ ทั้งสิ้นไม่ใช่ผลจาก การกระทำในชาติที่แล้วมา

    หรือเห็นว่า;-

    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ (หลังจากเกิดมาแล้ว) ...เป็นผลจากตัวกระทำในชาติที่แล้วมาทั้งสิ้น ไม่ใช่ผลจากการกระทำในชาตินี้

    ทั้งสองความคิดเห็นนี้ เป็นความเห็นที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ แท้จริงแล้ว ทั้งกรรมในอดีตชาติและกรรมในปัจจุบันชาติ ล้วนส่งผลต่อชีวิตของคนเราในชาติปัจจุบันนี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    ขอสอบถาม...พระไตรปิฎก กล่าวถึงอย่างไรบ้างในเรื่องนี้
    ขอบคุณล่วงหน้า

    - " หนุมาน ผู้นำสาร
    ผมเองก็ต้องการให้ความเห็น
    แต่คนเรามีเกิดดับ สับไปสับมานับชาติไม่ถ้วน เป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกายสัตว์ คน เทวดา มาร พรหม เมื่อยังไม่ถึงนิพพานและก็ทำบาปและบุญคละเคล้ากันไปกรรมบางอย่างให้ผลชาติปัจจุบัน บางอย่างให้ผลชาติสุดท้าย(นิพพาน)
    ผมขอยกตัวอย่าง การทำความ(กรรม)ดีอย่างสังฆทานให้ผลเป็นมหาเศรษฐี
    หากทำทุกวัน(ประจำ)ก็ให้ผลการเป็นมหาเศรษฐีในชาติถัดไป หาความจนยาก การสนองของผลความดี
    แต่ถ้าการทำบุญให้ผลทันทีเช่นการทำบุญกับพระที่ออกนิโรธสมาบัติ
    ผลบุญ(มากมหาศาล)ให้ผลเป็นมหาเศรษฐีชาติปัจุจุบัน
    กรรมบางอย่าง อาจให้ผลชาติสุดท้าย
    เช่น สมัยพระพุทธเจ้า เสด็จโปรดเวนัยสัตว์ ในป่า ครั้นท่านกระหายน้ำจึงดำรัสให้ท่านอานนท์ไปตักน้ำให้ พระอานนท์ไปเห็นน้าขุ่น จึงไปตรัสว่าน้ำขุ่นจึงมิได้นำมา คถาคตว่าให้ไปดูใหม่ ปรากฏว่าน้ำไม่ขุ่นเช่นดังก่อน
    คถาคตจึงตรัสว่ากรรมนี้เพราะเรา(คถาคต)สมัยก่อนเคยเกิดเป็นลูกชาวนาพาควายไปกินน้ำในบ่อ บ่อน้ำมันขุ่นท่าจึงลากควายไปอีกบ่อที่ใสกว่าจึงให้กินน้ำ เพราะกรรมอันนี้สงผลคถาคตดังชาติปัจจุบัน(ชาติสุดท้าย) หรืออย่างเช่นพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวก ท่านเคยฆ่าพ่อแม่ในอดีต ต่อมา ท่านตกอเวจีมหานรกยาวนานเป็นเปรต อสุรกายจนมาเกิดเป็นคนชาติสุดท้ายท่านถูกโจรไล่ตามจะฆ่าท่านเหาะหนีไป2ครั้งจึงตรวจด้วยณานทราบว่าเป็นเศษกรรมการฆ่าพ่อฆ่าแม่ชาตินั้นท่านต้องถูกทุบจนร่างกายแหลก
    ท่านจึงไม่เหาะหนีให้โจรทุบจนร่างแหลก และใช้ผลอภิญญาต่อร่างกายแล้วเหาะไปลาพระพุทธเจ้านิพพาน
    กรรมเป็นดังกงล้อตามเราตลอดตราบเท่ายังไม่นิพพาน จะให้ผลปัจจุบัน(ติดจรวด) ชาติต่อไป อีกพันชาติ ชาติสุดท้ายเท่านั้น ทุกๆอย่างมีเหตุและผลทั้งสิ้น กฏที่ยุติธรรมที่สุดคือกฏแห่งกรรม ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนผลปัจจุบันเราทำอะไรมาก่อน

    ขอให้ทุกท่านขอขมาพระรัตนไตร สิ่งศักดิ์สิทธิ(ผู้ทรงความดี)ที่ปรามาสท่านด้วยกายวาจาหรือใจ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่
    เจตนาหรือไม่เจตนานับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทำเป็นประจำทกวันครับ
    เพื่อความไม่ประมาท
    อย่าลืมชำระศีลให้บริสุทธ์(ศีลไม่ขาด)ทุกวัน หมั่นภาวนา พิจารณาอริยสัจหรือ กฎไตรลักษณ์ หรือวิปัสนาณานเป็นประจำนะครับ
    ให้ใจใสสะอาดเป็นประกายอยู่เสมออย่างน้อยพิจารณาความตาย อธิษฐานยังไม่นิพพานขอเป็นผู้มีคิด พูด ทำอย่างสัมมาทิฐฑิ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาอาชีพ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2009
  11. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    ที่ 31 มีนาคม 2552
    จำนวนคนอ่าน 14 คน[​IMG] ส่งต่อให้ผู้อื่น [​IMG] พิมพ์ข่าวหน้านี้ [​IMG] ขนาดตัวอักษร [​IMG] [​IMG] Reset
    <!-- end news_detail_info div here -->คมชัดลึก > ภูมิภาค-ประชาคมท้องถิ่น > ข่าวทั่วไป













    เตือน44จังหวัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน

    <!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT>[​IMG]<SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js" type=text/javascript></SCRIPT> <!-- AddThis Button END -->
    <SCRIPT type=text/javascript>var id='7684';function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('จำนวนคนอ่าน '+counter_+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก :ปภ. เตือนประชาชน 44 จังหวัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนช่วง 4 วันนี้

    นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เปิดเผยจากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา โดยคาดว่า ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม - 3 เมษายนนี้ จะมีความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย เกิดสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนได้ ดังนั้นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้ 44 จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรีฉะเชิงเทรา สระแก้ว นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร หนองคาย เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่
    ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากสภาวะอากาศแปรปรวน และพายุฤดูร้อนที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินในระยะ 3-4 วันนี้ ผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่อย่างรวดเร็ว พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
    นายอนุชา กล่าวต่อว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ แจ้งเตือนประชาชน รวมทั้งรายงานข้อมูลสถานการณ์ภัยให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
    นอกจากนี้ ยังได้กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของป้ายโฆษณา สิ่งปลูกสร้าง และต้นไม้ริมสองข้างทาง หากพบว่า ไม่ปลอดภัย ให้ดำเนินการรื้อถอน หรือแก้ไขปรับปรุงให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ทั้งนี้หากสถานการณ์รุนแรง ให้จัดเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์เครื่องจักรกล เข้าควบคุมสถานการณ์ในทันที
    อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 44 จังหวัด ติดตามพยากรณ์อากาศและระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อน โดยดูแลบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ เสาไฟฟ้าที่อยู่บริเวณรอบบ้านให้อยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง ตัดต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจหักโค่นมาทับบ้านเรือนได้
    ตลอดจนจัดเก็บสิ่งที่สามารถปลิวได้ในที่มิดชิด โดยเฉพาะในขณะที่เกิดพายุ ไม่ควรอยู่กลางแจ้ง ไม่หลบพายุใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างหรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ เพราะเสี่ยงต่อการถูกล้มทับ ให้หลบในอาคารที่มั่นคงแข็งแรง รวมทั้งอยู่ให้ห่างจากวัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าทุกชนิด งดใช้เครื่องมือสื่อสาร เครื่องใช้ไฟฟ้าในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า
    ส่วนเกษตรกรให้ดูแลและจัดทำที่ค้ำยันต้นไม้ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วน


    คมชัดลึก :กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นช่วง 1-2 วันนี้ ขณะที่กรุงเทพฝนตกหนักช่วงเที่ยง ทำผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงรอบทำเนียบ ต่างวิ่งหนีหลบฝนกระเจิง ขอนแก่นพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านพังนับร้อย

    (31มี.ค.) ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4 เรื่องพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 31 มีนาคม - 1 เมษายนนี้ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณที่กล่าวมาระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้
    โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง หรือใต้ต้นไม้สูงเด่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรงดใช้เครื่องมือสื่อสาร หรือวัตถุที่อาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าในขณะที่ เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
    สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ลงไปถึงนราธิวาส มีกำลังค่อนข้างแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือช่วงวันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายนนี้ด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้(31มี.ค.) เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทั่วกรุงเทพ และมีฟ้าร้องเป็นช่วงๆ ทำให้ผู้ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาล และยังเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งฝนหลงฤดูตกลงมาทำให้ผู้ชุมนุม พ่อค้าแม่ค้าที่เข็นรถเข็นเข้ามาขายของ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างหนีหาที่หลบฝนตามเต็นท์ที่ตั้งเอาไว้

    ฝนกระหน่ำ2ชม.น้ำท่วมกทม.หลายจุด
    นายสัญญา ชีนิมิตร รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า จากที่พายุฝนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ใน กทม.เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้(31มี.ค.) เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่สะสมมากสุดอยู่บริเวณสถานีสูบน้ำคลองมอญ ฝั่งธนบุรี มีปริมาณน้ำฝน 110 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง และที่สถานีสูบน้ำเทเวศร์ มีปริมาณน้ำฝน 70 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
    อย่างไรก็ตามสภาพฝนที่ตกลงมาอย่างหนักบวกกับมีพายุพัดกระหน่ำ ทำให้มีน้ำเอ่อล้นถนนราชวงศ์ ถนนลาดหญ้า โดยจุดที่ท่วมระดับเดียวกับฟุตบาธ คือ ถนนสุขุม ซอย 62 พื้นที่ฝนตกอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การระบายน้ำบนถนนดังกล่าวเป็นไปอย่างล่าช้า เบื้องต้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่พร่องน้ำในคลองต่างๆ ของพื้นที่ชั้นในแล้ว เช่น คลองผดุงกรุงเกษม คลองหลอด คลองวัดราชนัดดา คลองแสนแสบ และคลองบางซื่อ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาแล้ว
    รายงานข่าวจากศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร ( ศูนย์วิทยุฯจราจร ) แจ้งว่า หลังจากฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เกิดน้ำท่วมขังบนผิวจราจรหลายจุด อาทิ แยกถนนเจริญกรุง แยกเสือป่า จุดกลับรถถนนบรมราชชนนี ใต้สะพานบริเวณสายใต้เก่า เกิดไฟฟ้าดับหลายจุด อาทิ ย่านทองหล่อ อโศก และในเขตปทุมวันหลายจุด นอกจากนี้ยังเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ชนกันบนถนนพระราม 4 รวม 14 คันรวด เนื่องจากถนนลื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจจุดเกิดเหตุ ทำให้การจราจรบนถนนพระราม 4 กลับสู่สภาพปกติแล้ว
    ขอนแก่นพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านพังนับร้อย
    เมื่อช่วงดึกวันที่ 31 มี.ค.52 ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เป็นเหตุให้บ้านเรือนชาวบ้านพังเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.พระลับ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 19 อ.เมือง จ.ขอนแก่น ถูกพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำบ้านเรือนชาวบ้านพังเสียหายนับร้อยหลังคาเรือน บางบ้านถูกพายุพัดบ้านพังทับรุยนต์และรถจักรยานยนต์พังยับ ชาวบ้านต้องช่วยกันรื้อบ้านเพื่อนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกมา
    นายสมประสงค์ สีทาโส ผญบ.บ้านผือ หมู่ที่ 2 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงจนเกิดพายุลมหนุนพัดบ้านเรือนชาวบ้านในหมู่บ้านพังนับร้อยหลังคาเรือน บางบ้านถูกพายุพัดเอาหลังคาออกทั้งหลัง ปลิวว่อนตกใส่บ้านเรือนชาวบ้านใกล้เคียง จนทำให้ชาวบ้านวุ่นทั้งหมู่บ้าน ต้องหนีออกมาจากบ้านเพื่อหาที่หลบซ่อน เนื่องจากลมแรงมาหวั่นเกรงว่าบ้านจะพังทับจนมีอันตรายเกิดขึ้น
    ในขณะเดียวกันขณะที่เกิดพายุพัดกระหน่ำในหมู่บ้าน ก็ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านหลายรายพังลงมาทั้งหลัง ทับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างภายในบ้านพังเสียหายจำนวนมาก โชคดีที่ชาวบ้านหลบหนีออกมาจากมาทันไม่มีใครได้รับอันตราย เช่นบ้านเลขที่ 271 ม.2 ของ นางติ๋ม เมืองกลั่น ที่อยู่ท้ายหมู่บ้านถูกพายุพัดพังทั้งหลังทับรถยนต์ ฟอร์ด เรนเจอร์ โฟวิลว์ และรถจัหรยานยนต์ ที่จอดอยู่ใต้ถุนบ้านพังเสียหายจำนวนมาก
    ทั้งนี้จากการสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนชาวบ้านที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำนั้น คาดว่าคงไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน เนื่องจากบ้านหลายหลังถูกพายุพัดล้มลง หากมีการสร้างขึ้นใหม่ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ได้เร่งสำรวจความเสียหายเบื้อต้นแล้ว เพื่อนำเรื่องเสนอต่อเทศบาลตำบลพระลับและผู้ว่าฯขอนแก่น เพื่อยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยในครั้งนี้
    ด้าน นางติ๋ม กล่าวว่า ขณะที่เกิดพายุหมุนพัดบ้านได้ยินเสียงลมกระทบกับหลังคาบ้านแรงมาก หวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงได้เรียกลูกๆออกจากบ้านไปหลบอยู่ในครัวหลังบ้าน และไม่พายุก็พัดบ้านพังลงทั้งหลังทับรถยนต์และจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ ซึ่งโชคดีมากที่พาลูกๆหลบหนีออกมาก่อน ไม่เช่นนั้นทุกคนคงถูกบ้านทับและได้รับอันตรายแน่ ซึ่งความเสียหายในครั้งนี้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท
    ขณะที่ นางสุพรรัตน์ แสงมาลี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภายุในครั้งนี้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหาย โดยหากบ้านไหนถูกพายุพัดพังเสียหายมากเกือบทั้งหลัง ก็จะนำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่ออนุมัติงบประมาณให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

    พายุพัดถล่ม3อำเภอในจังหวัดพิษณุโลก
    เมื่ช่วงเวลา 08.00-09.00 น.วันที่ 31 มีนาคม เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอวัดโบสถ์ และอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก หลังจากคืนที่ผ่านอากาศร้อนอบอ้าว ด้วยอิทธิพลหย่อมความกดอากาศสูง แรงลมส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหลายหลายจุด

    โดย ที่อำเภอวัดโบสถ์ มีต้นไม้ล้มขวางเส้นทางท่างาม - บ้านยาง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เลื่อยยนต์เคลียร์พื้นที่ให้รถสามารถสัญจรได้ ขณะที่แรงลมได้พัดหลังคาโรงจอดรถโรงพยาบาลวัดโบสถ์พังลงมา เสียหายใช้การไม่ได้

    ขณะที่ นายอำเภอวัดโบสถ์ได้ให้ฝ่ายป้องกันเร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนราษฏรที่ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า มีบ้านถูกต้นไม้ล้มทับ 2 หลังในเขตหมู่ที่ 5 ตำบลบ้านยาง อำเภอวัดโบสถ์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุได้พัดผ่านจากอำเภอวัดโบสถ์ เข้าสู่อำเภอวังทอง แรงลมส่งผลให้ต้นสะเดาขนาดใหญ่ โค่นทับบ้านนายเชาวลิต เถื่อนศรี อายุ 52 ปี เลขที่ 99 / 2 หมู่ที่ 7 บ้านเนินคลี ตำบลชัยนาม อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ส่งผลให้หลังคากระเบื้องได้รับความเสียหาย ข้าวของเครื่องใช้ถูกพายุฝนพัดเปียกเสียหายเช่นกัน

    โดยเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน นายปรีชา เรืองจันทน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายกิตติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางมาตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ

    โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านนายเชาวลิต ช่วยใช้ขวานตัดทอนกิ่งไม้บนหลังคา และช่วยนำรถเครนมาเคลียร์ซากกิ่งไม้ออกจากหลังคาบ้านนายเชาวลิต พร้อมกับสั่งการให้ อบต.ชัยนาม และนายอำเภอวังทอง เร่งให้ความช่วยเหลือจัดหาอุปกรณ์ก่อสร้างมาซ่อมแซมบ้านให้

    นายปรีชา กล่าวว่า พายุฤดูร้อนเช้าวันที่ 31 มีนาคม กำลังให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายและรายงานเข้ามาที่จังหวัดเพื่อเร่งออกช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน และช่วงนี้ยาวไปจนถึงช่วงสงกรานต์ ขอฝากเตือนให้ประชาชนระมัดระวังพายุฤดูร้อนเป็นพิเศษ เพราะมีหย่อมความกดอากาศสูงจากจีนแผ่เข้ามามีอิทธิพลกับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน โดยเฉพาะการระวังต้นไม้ ที่อยู่ใกล้บ้านและมีสภาพผุกร่อน ให้เร่งตัดทอนกิ่งหรือโค่นทิ้ง จะช่วยลดความเสียหายได้มาก
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พระพุทธเจ้า สอนให้เราพิจารณาก่อนเชื่อ ****

    {น.๒๘๗}[๕๗๙] เป็นบันทึกของผู้ฟัง ถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว
    [๕๘๐] ถามพระพุทธเจ้า เกี่ยวกับสาเหตุการเกิดของมนุษย์ ที่มีความแตกต่างกัน
    [๕๘๑] พระพุทธเจ้าให้คำตอบ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้

    การพิจารณา : หนุมาน ผู้นำสาร
    สัตว์โลก มีกรรมที่เป็นตัวเป็นตน และเป็นของตนเอง (โลกุตตระธรรม เรียกว่า ตัวกระทำ)
    รรม(ตัวกระทำ)เป็นผู้กำหนดรูปสังขารของการเกิด
    กรรม(ตัวกระทำ)กำหนดเผ่าพันธ์ ที่จะไปเกิดในที่ต่างๆ
    กรรม(ตัวกระทำ)กำหนดที่พึ่งอาศัย ตั้งแต่เจ้าของครรภ์จนถึงผู้เลี้ยงดูให้ความปลอดภัย(ซึ่งจะต้องผจญกับนิสัยของผู้เกี่ยวข้องเลี้ยงดู)
    กรรม(แปลงเป็นนิสัย)จะจำแนกสัตว์ให้มีนิสัยเลวและนิสัยประณีตได้

    {น.๒๘๘}[๕๘๒] [๕๘๓] [๕๘๔] [๕๘๕] ... [๕๙๖]
    กล่าวถึง มนุษย์ไม่ว่าหญิงหรือชาย
    กล่าวถึง การกระทำในชาติก่อน
    กล่าวถึง นิสัยในชาติก่อน
    กล่าวถึง มีผลกรรม(ตัวกระทำ)ชั่วไม่มาก ผลกรรม(ตัวกระทำ)ดีไม่มาก แล้วเกิดเป็นมนุษย์
    กล่าวถึง กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)จะกำหนดอายุ
    กล่าวถึง กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)ที่ปรากฏในรูปของโรคพยาธิต่างๆ
    เช่น ร่างกายพิการผิดปกติ ทุกข์ทรมานตั้งแต่เกิด
    กล่าวถึง กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)จะกำหนดนิสัย (คือ นิสัยที่หลงเหลือจากชาติก่อน)
    กล่าวถึง กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)จะกำหนดลักษณะรูปโฉมภายนอก
    กล่าวถึง กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)จะกำหนดบุคลิกท่าทาง
    กล่าวถึง กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)จะกำหนดสถานะในสังคม
    กล่าวถึง กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)จะกำหนดปัญญาความฉลาดไหวพริบ

    สรุปได้ว่า
    กรรม(ตัวกระทำในชาติก่อน)จะกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างในการเกิดใหม่
    เป็นไปตามหลักสัจจะธรรม...คือ ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

    กิเลสนิสัยต่างๆ ที่ยังหลงเหลือ....จึงเป็นสิ่งที่ต้องพยายามตัดลดทอนลงให้ได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คนอเมริกันแห่ปลูกพืชผักสวนครัวกันมากขึ้น

    [​IMG]

    วอชิงตัน 31 มี.ค.-คนอเมริกันกว่า 1 ใน 3 รวมถึงสุภาพสตรีหมายเลข 1 อย่างนางมิเชล โอบามา หันมาปลูกผักสวนครัวภายในบ้านมากขึ้น ทั้งมะเขือเทศ แตงกวา และถั่ว

    จากการสำรวจของสมาคมทำสวนแห่งชาติพบว่า การปลูกผักสวนครัวภายในบ้านเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในสหรัฐ โดยพบคนอเมริกันถึงร้อยละ 37 ที่ปลูกผักกินเองภายในบ้าน ทั้งที่เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วตัวเลขดังกล่าวยังอยู่แค่ร้อยละ 19 การปลูกผักกินเองทำให้เมล็ดพันธุ์พืชในสหรัฐมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20-30 ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลินี้

    มีหลายปัจจัยที่โน้มนำให้คนอเมริกันหันมาปลูกผักกินเอง นักวิจัยของสมาคมทำสวนแห่งชาติระบุว่า ปัจจัยแรกก็คือความรู้สึกที่ว่าผักผลไม้ที่ปลูกเองมีรสชาติดีกว่าที่ซื้อตามท้องตลาด อันดับต่อมาคือความต้องการประหยัดเงินในการซื้ออาหาร ส่วนปัจจัยสุดท้ายคือเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย

    นางโอบามา ให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงการลงมือปลูกผักสวนครัวภายในทำเนียบขาวว่า ต้องการให้ครอบครัวของเธอ เจ้าหน้าที่และคนทั่วไปที่ได้มากินอาหารร่วมกัน สามารถรับรู้ได้ถึงความสดสะอาดของพืชผักผลไม้ที่ปลูกในทำเนียบขาว การปลูกผักยังเป็นกิจกรรมที่สร้างเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

    ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปีที่มีการปลูกผักสวนครัวอย่างเต็มรูปแบบในสนามของทำเนียบขาว หลังอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 คือ นางเอลีนอร์ รูสเวลท์ ที่ได้ลงมือปลูกพืชผักในทำเนียบขาวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการสนองตอบโครงการ Victory Garden ของรัฐบาลสหรัฐในยุคนั้นที่ส่งเสริมให้คนอเมริกันปลูกผักและอาหารบริโภคเอง จึงทำให้มีสวนผักในเมืองกว่า 20 ล้านแห่ง และผลิตอาหารได้มากกว่า 8 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-31 15:26:12

    สิงคโปร์ผุดแนวคิดให้ประชาชนมีความสุภาพอ่อนโยนให้มากขึ้น

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 31 มี.ค.- สิงคโปร์ผุดแนวคิดส่งเสริมให้ประชาชนเป็นคนใจดีและสุภาพอ่อนโยนต่อญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมชั้นเรียนและเพื่อนบ้าน

    The Singapore Kindness Movement(SKM) องค์กรการกุศลซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ให้การสนับสนุน มีแผนจะให้บุคคลทั่วไปและดาราภาพยนตร์มาช่วยประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว ขณะที่ครู-อาจารย์ก็ต้องสอนนักเรียนให้เป็นผู้ที่มีกิริยามารยาทสุภาพอ่อนโยน

    ผลสำรวจของ SKM พบว่า มีคนสิงคโปร์ไม่ถึงครึ่งที่รู้สึกว่า เพื่อนร่วมชาติของตนเองเป็นคนใจดีและสุภาพอ่อนโยน ประธาน SKM บอกว่า สังคมสิงคโปร์เป็นสังคมของคนใจดีมีน้ำใจ แต่ติดที่คนสิงคโปร์เขินอายเกินกว่าจะแสดงความอ่อนโยนออกมาให้เห็น ดังนั้น ทางการจึงผุดแนวคิดให้คนสิงคโปร์แสดงความสุภาพอ่อนโยนต่อกันให้มากๆ จะได้เหมือนชาวญี่ปุ่น ซึ่งเต็มไปด้วยความอ่อนโยน สุภาพ และเป็นมิตร

    สิงคโปร์เป็นประเทศที่มักออกกฎเกณฑ์กำหนดให้ประชาชนมีพฤติกรรมตามอย่างที่รัฐต้องการ เช่น ต้องให้ประชาชนพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ให้ประชาชนยิ้มให้บ่อยขึ้น หรือให้ประชาชนจับคู่แต่งงานให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนประชากร เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว สิงคโปร์ยังผุดแนวคิดให้ประชาชนมางานเลี้ยงแต่งงานให้ตรงเวลามากขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-31 17:16:25

    ตอลีบานในปากีสถานเป็นผู้โจมตี รร.นายร้อยตำรวจในละฮอร์

    [​IMG]

    ละฮอร์ 31 มี.ค. - นายไบตุลเลาะห์ เมซุด หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธตอลีบานในปากีสถาน ระบุวันนี้ว่ากลุ่มของเขาเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีโรงเรียนนายร้อยตำรวจปากีสถานในเมืองละฮอร์ ทางภาคตะวันออก เมื่อวานนี้

    นายเมซุด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์จากเขตวาซิริสถาน พื้นที่หุบเขาในปากีสถาน ยอมรับว่ากลุ่มติดอาวุธตอลีบานในปากีสถานเป็นผู้ลงมือโจมตีโรงเรียนนายร้อยตำรวจเมืองละฮอร์เมื่อวานนี้ เป็นเหตุให้นักเรียนนายร้อยเสียชีวิต 8 นาย และมีตำรวจบาดเจ็บ 89 นาย ซึ่งเขาจะเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบภายหลัง

    นายเมซุด เป็นผู้นำกลุ่มเตห์ริกอีตอลีบานปากีสถาน หรือกลุ่มเคลื่อนไหวตอลีบานในปากีสถาน ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มตอลีบานในอัฟกานิสถาน มักก่อเหตุโจมตีทั่วปากีสถาน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทั้งยังส่งสมาชิกกลุ่มข้ามพรมแดนไปสู้รบกับกองกำลังของชาติตะวันตกในอัฟกานิสถานด้วย

    นายเรห์มาน มาลิค รัฐมนตรีมหาดไทยปากีสถาน ระบุเมื่อวานนี้เชื่อว่า กลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุเป็นนักรบผู้ภักดีต่อนายเมซุด และเดินทางมาจากเขตเซาท์วาซิริสถาน โดยหนึ่งในคนร้ายที่ถูกจับได้เป็นชาวอัฟกานิสถานที่เดินทางเข้าไปในเมืองละฮอร์ก่อนที่จะก่อเหตุ 15 วัน. -สำนักข่าวไทย

    2009-03-31 15:45:10

    เกาหลีเหนือมีหัวรบนิวเคลียร์หลายหัว

    [​IMG]

    โซล 31 มี.ค.-ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงระหว่างประเทศ เชื่อว่า เกาหลีเหนือมีหัวรบนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองหลายหัวรบและสามารถนำมาติดตั้งบนขีปนาวุธได้

    อย่างไรก็ตาม นายแดเนียล พิงค์สตัน ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือของ International Crisis Group ย้ำว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าเกาหลีเหนือมีเทคโนโลยีที่สามารถนำหัวรบติดตั้งบนขีปนาวุธได้แล้วหรือยัง แต่ระบุว่า เกาหลีเหนือมีโรงเก็บหัวรบนิวเคลียร์ 2 โรงอยู่ใต้ดินใกล้ ๆ กับฐานยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ประกาศเตือนภัย
    "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย"


    [​IMG]

    ฉบับที่ 6 (64/2552) ลงวันที่ 31 มีนาคม 2552

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วง วันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายน 2552 นี้ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณที่กล่าวมา ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

    โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้สูงเด่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรงดใช้เครื่องมือสื่อสารหรือวัตถุที่อาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

    สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไปถึงนราธิวาส มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายน 2552 ไว้ด้วย

    ที่มา http://www.tmd.go.th/list_warning.php
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พายุลูกเห็บ

    [​IMG]

    ลูกเห็บ (hail) เป็นก้อนน้ำแข็งรูปร่างกลม (หรือรูปกรวย หรืออื่นๆ) ที่ตกมาจากเมฆพายุฟ้าคะนอง ที่นักอุตุนิยมวิทยาเรียกว่า เมฆคิวมูโลนิมบัส หรือเมฆ Cb ลูกเห็บมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 5 ถึง 50 มิลลิเมตร หรือใหญ่กว่าก็พบได้บ้าง และถ้าผ่าดูจะประกอบด้วยน้ำแข็งเป็นชั้นๆ คล้ายหัวหอม ตามปกติมักจะเกิดในฤดูร้อน เนื่องจากอากาศมีความร้อนสูง จึงลอยตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและถ้าอากาศมีไอน้ำมาก ก็จะพาเอาไอน้ำลอยสูงขึ้นไป แต่เนื่องจาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    สวัสดีค่ะ ...ซันหายไปนานเลย งานเยอะค่ะ ตอนนี้พอว่างแล้ว

    กลับมาอีกที เพิ่งทราบว่า ...ถ้าใช้ Internet Explorer เท่านั้นถึงจะมองเห็นปุ่ม อนุโมทนา

    -*-
     
  17. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากไทยรัฐ


    กรมขนส่งเตือนนั่งรถตู้โดยสารเถื่อนอันตราย

    กรมการขนส่งทางบก เตือน ใช้รถตู้ป้ายดำอันตราย ย้ำเพื่อความปลอดภัยขอให้ผู้ใช้บริการเลือกใช้รถตู้ถูกกฎหมาย พื้นแผ่นป้ายสีเหลือง ตัวเลขทะเบียนสีดำ พร้อมระบุชื่อเส้นทางและเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมบริการ

    นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 เรื่องการให้บริการของรถตู้ป้ายดำที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงระหว่างจังหวัด ในเรื่องสภาพตัวรถที่ไม่ปลอดภัย และการให้บริการที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ขับรถที่ไม่เหมาะสม เช่น สภาพตัวรถที่เก่า การเพิ่มที่นั่งเกินจากที่กำหนด การเก็บค่าโดยสารเกินจริง การขับรถด้วยความประมาท หรือการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ

    ผลการตรวจสอบของกรมการขนส่งทางบก พบว่ารถตู้ป้ายดำที่ได้รับการร้องเรียนดังกล่าว เป็นรถตู้ผิดกฎหมายที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งเป็นรถโดยสารประจำทาง ซึ่งยากต่อการตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย

    การนำรถตู้ผิดกฎหมายออกรับส่งผู้โดยสาร มีความผิดฐานประกอบการขนส่งโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

    ส่วนการนำรถตู้โดยสารออกให้บริการรับส่งนอกท้องที่ที่ได้รับอนุญาต หรือออกนอกเส้นทางจากที่กำหนดไว้ จะมีความผิด ต้องระวางโทษปรับคันละไม่เกิน 5,000 บาท

    กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการเข้มงวดตรวจสอบและลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจัง ดังนั้นเจ้าของรถและผู้ครอบครองรถ หรือผู้ประกอบการขนส่งที่นำรถมาประกอบการขนส่งโดยผิดกฎหมายดังกล่าวยุติการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และเพื่อความปลอดภัยขอให้ประชาชนเลือกใช้แต่รถตู้ถูกกฎหมาย ซึ่งสังเกตได้จากสีพื้นแผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นสีเหลือง หมายเลขทะเบียนรถสีดำ และเป็นตัวเลขทั้งหมด เช่น 10-1234

    ส่วนด้านข้างตัวรถต้องระบุชื่อผู้ประกอบการขนส่ง หรือเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมบริการ พร้อมชื่อเส้นทางและหมายเลขเส้นทาง เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้บริการ

    ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20090401/7739/เธ
     
  18. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    เอ...ผมใช้ Firefox 3 ก็เห็นปุ่ม ครับ
     
  19. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864

    เอ... !?!?!?
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พระพุทธเจ้า สอนให้เราพิจารณาก่อนเชื่อ ****

    การพิจารณา : หนุมาน ผู้นำสาร
    ปฏิปทา...คือ ความประพฤติ
    ปฏิปทา....หมายถึง นิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ก่อให้เกิดการกระทำ

    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีอายุสั้น ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุสั้น
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีอายุยืน ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุยืน
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีโรคมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคมาก
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีโรคน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคน้อย
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีผิวพรรณทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณทราม
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีผิวพรรณงาม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณงาม
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีศักดาน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดาน้อย
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีศักดามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดามาก
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีโภคะน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะน้อย
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีโภคะมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะมาก
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำ ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อเกิดในสกุลสูง ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลสูง
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีปัญญาทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญาทราม
    ปฏิปทา(นิสัย)เป็นไปเพื่อมีปัญญามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญามาก

    นิสัย...เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
    นิสัย....เป็นของใครของมัน
    นิสัย...ส่งผลถึงความคิด การตัดสินใจ และการกระทำในชาติปัจจุบัน


    เมื่อพิจารณาด้วย หลักสัจจะธรรม
    การกระทำของมนุษย์....ก่อให้เกิดตัวกระทำ ก็คือกรรม
    ตัวกระทำ...เป็นสิ่งไม่ตาย มีผลตอบแทนทั้งปัจจุบันและอนาคต
    ตัวกระทำหรือกรรมในชาติก่อน.... จะกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างในการเกิดใหม่

    นิสัย...ก็คือ กรรม(ตัวกระทำ)ที่ติดมาจากชาติก่อน

    นิสัย...ก็คือ ตัวกระทำจากชาติก่อน ที่แผลงมาเป็นนิสัยในชาติต่อไป
    นิสัยของมนุษย์ในชาตินี้.... คือ นิสัยที่หลงเหลือจากการเกิดเป็นมนุษย์ในชาติที่แล้วมา

    การเกิดเป็นสัตว์...คือ ชาติที่ชดใช้กรรม ไม่สามารถคิดเลือกทำอย่างมนุษย์ได้
    เกิดเป็นมนุษย์....คือ การได้มีโอกาสมาตัดลดนิสัย ให้หมดไป

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...