ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** เรื่อง เศษกรรม ****

    คำว่า "เศษกรรม" ที่ใช้พูดถึง กรรมที่เกิดในชาติปัจจุบัน
    เมื่อ พิจารณาด้วย หลักสัจจะธรรม
    พบว่า...เศษกรรม คือ ตัวกระทำ(หรือกรรม)ในชาติก่อน
    เป็นตัวกระทำที่ไม่ตาย .... จึงแผลงมาเป็น"นิสัย" ที่ติดตัวมนุษย์เรามาตั้งแต่เกิด

    นิสัยที่เหลืออยู่นี้...จะพาให้เราเกิดอารมณ์ต่างๆ เมื่อพบกับเหตุการณ์ กับบุคคล ต่างๆ กับสิ่งต่างๆ

    คนสองคน....เจอกันครั้งแรก ยังไม่ได้พูดคุยอะไรเลย
    ความรู้สึก อารมณ์ก็เกิดขึ้นมาได้...ชอบ รู้สึกดี
    อารมณ์เหล่านี้....เป็นเพราะ นิสัยที่ติดอยู่กับตัวเรา
    ในอดีตชาติ...เรามี "นิสัย" เคยชอบรูปหน้าตาแบบนี้ ชอบสำเนียงเสียงแบบนี้ ชอบรสชาติแบบนี้ ชอบกลิ่นแบบนี้
    เมื่อมาถึง ชาติปัจจุบัน....พอเราเจอ รูป รส กลิ่น เสียง แบบที่เคยชอบในอดีต
    เจอครั้งแรกๆ ก็ชอบแล้ว

    แต่ถ้าในอดีตชาติ...เรามี "นิสัย" ไม่ชอบรูปหน้าตาแบบนี้ ไม่ชอบสำเนียงเสียงแบบนี้ ไม่ชอบคำพูดประเภทนี้ ไม่ชอบรสชาติแบบนี้ ไม่ชอบกลิ่นแบบนี้
    เมื่อมาถึง ชาติปัจจุบัน....พอเราเจอ รูป รส กลิ่น เสียง แบบที่ไม่ชอบในอดีต
    พอเจอเข้าครั้งแรก ก็ไม่เอา เบือนหน้าหนี ซะแล้ว

    คราวนี้...ถ้า พระพุทธเจ้ามีหน้าตา อยู่ในป่า ตากแดดตากฝน
    ไม่งดงาม จีวรเก่าขาด ดูมอมแมม
    บางคนอาจจะ....ตำหนิติเตียนขึ้นมาในใจก็ได้
    บางคนที่พอมีปัญญา...ก็อาจมาสอบถามพูดคุย พิจารณาก่อน
    คือ เคยมี "สัญญาในอดีต" ต่อกัน....จึงได้พบกัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว ก็อย่าใช้ภาษาเรียก ให้แตกต่างไปจากพระไตรปิฏกอีกเลยครับ การแสดงธรรม ต้องสื่อสารกับคนหมู่มาก ต้องใช้ภาษาที่คนหมู่มากเข้าใจได้ตรงกัน อย่าใช้ภาษาที่ตนเองเข้าใจเพียงคนเดียว

    การทำให้คนที่รับฟังเข้าใจผิด เขาก็จะเชื่อแบบผิดๆ จำแบบผิดๆ แล้วไปบอกต่อคนอื่นแบบผิดๆต่อไปอีก อันจะเป็นบาปกรรมต่อผู้บอกกล่าวนั้นด้วย

    การแสดงธรรมต้องชัดแจ้ง ไม่คลุมเครือ ต้องคอยหมั่นตรวจสอบความถูกต้องกับพระไตรปิฏกอยู่เสมอ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นศิษย์ของพระตถาคตอย่างแท้จริงครับ


    ************************************************​
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
    อเมริกันชนต้องการให้โอบามาปล่อยธนาคารล้ม-ยึดเป็นของรัฐ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    </TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>
    1 เมษายน 2552 04:37 น.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    [​IMG]
    โอบามาและภริยา เดินทางถึงกรุงลอนดอนเพื่อประชุมจี20

    เอเอฟพี - อเมริกันชนมากกว่าครึ่งต้องการให้รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ถอดปลั๊กธนาคารที่มีปัญหาโดยปราศจากเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมใดๆอีก โพลแห่งหนึ่งระบุเมื่อวันอังคาร(31)

    สัญญาณแห่งเสียงคัดค้านแผน 1 ล้านล้านดอลลาร์ของโอบามา เพื่อเข้าซื้อหนี้เสียของธนาคารต่างๆ ผู้ตอบแบบสอบถามของซอกบีโพลถึง 51 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าไม่ควรมีเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอีกต่อไปแล้วแม้ว่านั่นหมายถึงธนาคารเหล่านั้นต้องยุติกิจการก็ตาม

    มีเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่าควรให้เงินช่วยเหลือต่อไปในระหว่างที่รัฐบาลเข้าซื้อทรัพย์สินที่มีปัญหาของธนาคารเหล่านั้น ขณะที่อีก 32 เปอร์เซ็นต์รัฐบาลควรเข้ายึดธนาคารเหล่านั้นที่เสี่ยงต่อการล้มละลายมาเป็นของรัฐชั่วคราว

    "แผนช่วยเหลือธนาคารไม่เป็นที่ชื่นชมนัก" จอห์น ซอกบี ผู้จัดทำโพลกล่าว โดยผลสำรวจนี้มีขึ้นหลังจากทีโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯเปิดเผยแผนช่วยเหลือธนาคารใหม่เมื่อสัปดาห์ก่อน

    ซอกบี ระบุต่อว่า "แต่มีข้อสังเกตว่า มีถึง 1 ใน 3 ที่ต้องการให้ยึดบางธนาคารมาเป็นของรัฐ เป็นหลักฐานสนับสนุนว่ารัฐบาลโอบามาควรเลือกเส้นทางนี้และพยายามขายมันต่อประชาชน"

    ขณะที่คะแนนประเมินสำหรับตัวโอบามาเองนั้น ในโพลพบว่ามี 38 เปอร์เซ็นต์ ที่บอกว่าแนวทางการทำงานของประธานาธิบดีรายนี้ต่อวิกฤตเศรษฐกิจที่เล่นงานสหรัฐฯเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

    แต่มีถึง 32 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นพ้องกับรีพับลิกันซึ่งตำหนิผู้นำจากพรรคเดโมแครตว่าพยายามยัดเยียดให้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าโอบามาขี้ขลาดเกินไป

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000036744
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ปัญหาของศาสนาพระโคดม ****

    พระพุทธเจ้า สอนในแก่นสารการกระทำ
    แต่เมื่อเริ่มสังคายนา ก็เริ่มมีความเชื่อนอกศาสนาเข้ามาปะปนมากขึ้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. tdelphi

    tdelphi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +97
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px; FONT-WEIGHT: normal; FONT-SIZE: 14px; MARGIN: 0px; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-FAMILY: thonburi, 'MS Sans Serif'; TEXT-DECORATION: none">ทอร์นาโดถล่มอินเดีย คร่าชีวิตอย่างน้อย8ศพ-เจ็บกว่า100 [1 เม.ย. 52 - 07:42]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text style="FONT-WEIGHT: normal; FONT-SIZE: 14px; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-FAMILY: thonburi, 'MS Sans Serif'; TEXT-DECORATION: none" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="FONT-WEIGHT: normal; FONT-SIZE: 14px; MARGIN: 0px; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-FAMILY: thonburi, 'MS Sans Serif'; TEXT-DECORATION: none" align=middle><TABLE class=text style="FONT-WEIGHT: normal; FONT-SIZE: 14px; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-FAMILY: thonburi, 'MS Sans Serif'; TEXT-DECORATION: none" cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="FONT-WEIGHT: normal; FONT-SIZE: 14px; MARGIN: 0px; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-FAMILY: thonburi, 'MS Sans Serif'; TEXT-DECORATION: none">
    <?xml:namespace prefix = o /><o:p></o:p>
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (1 เม.ย.) ว่า เกิดพายุทอร์นาโดกำลังลมแรง พัดถล่มพื้นที่หลายหมู่บ้านในรัฐโอริสสา ทางภาคตะวันออกของประเทศอินเดียเมื่อวันอังคาร คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 8ศพ บาดเจ็บมากกว่า 100 คน บ้านเรือนราษฎรพังเสียหายมากกว่า 300 หลัง ทางการอยู่ระหว่างเร่งช่วยเหลือชาวบ้าน โดยช่วยย้ายถิ่นพำนักไปอาศัยชั่วคราวตามอาคารโรงเรียนในท้องถิ่น<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    รายงานระบุด้วยว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่ระหว่างเร่งค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังสูญหายอีกจำนวน หนึ่ง คาดว่าเหยื่อเคราะห์ร้ายยังถูกฝังอยู่ภายใต้บ้านหรืออาคาร
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=130756
     
  6. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    คมชัดลึก :โตเกียว-สภาสูงญี่ปุ่นลงมติประท้วงเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียม ชี้คุกคามสันติภาพภูมิภาค

    วุฒิสภาญี่ปุ่นออกมติเมื่อวันอังคาร (31 มี.ค.) ประท้วงเกาหลีเหนือที่มีแผนจะยิงจรวดปล่อยดาวเทียมสื่อสารขึ้นสู่อวกาศระหว่างวันที่ 4-8 เมษายนนี้ โดยมองว่าการทดลองนี้ไม่เพียงคุกคามสันติภาพญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังคุกคามภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือด้วย พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือระงับการยิงจรวด ขณะที่นายกรัฐมนตรีทาโร อะโซ แถลงต่อรัฐสภาว่าจะร้องเรียนไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) หากเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าปล่อยจรวด ซึ่งทางญี่ปุ่นและสหรัฐสงสัยว่าอาจเป็นการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล
    การประท้วงมีขึ้นหลังจากโสมแดงยืนยันว่าจรวดบรรทุกดาวเทียมสื่อสารจะผ่านน่านฟ้าทางเหนือของญี่ปุ่น และจรวดท่อนแรกอาจตกลงในทะเลญี่ปุ่นนอกจังหวัดอากิตะ ทางเหนือของประเทศ ส่วนจรวดท่อนที่สองอาจตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและรัฐฮาวายในสหรัฐ
    ขณะเดียวกัน เรือพิฆาตติดขีปนาวุธของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐ ได้ออกเดินทางไปเฝ้าระวังการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแล้ว โดยญี่ปุ่นส่งเรือรบติดอาวุธสกัดขีปนาวุธ สหรัฐส่งเรือพิฆาตยูเอสเอสแมคเคน และยูเอสเอสชาฟีที่เพิ่งเสร็จจากการซ้อมรบร่วมกับกองทัพเรือเกาหลีใต้ที่ส่งเรือพิฆาตติดระบบเอจิสลำหนึ่งไปเฝ้าดูความเคลื่อนไหวในน่านน้ำใกล้เกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 ประเทศไม่มีทีท่าว่าจะใช้วิธีทางทหารเพราะจะส่งผลเสียต่อการเจรจาให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
    วันเดียวกัน นายแดเนียล พิงค์สตัน นักวิเคราะห์อาวุโสของอินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่าเกาหลีเหนือประกอบหัวรบนิวเคลียร์ 5-8 หัวเข้ากับขีปนาวุธพิสัยกลางโรดองที่สามารถเล็งเป้าไปยังญี่ปุ่นได้ โดยถูกเก็บไว้ใต้ดินใกล้ฐานยิงขีปนาวุธโรดอง แต่ไม่ยืนยันว่าข้อมูลนี้ถูกต้องหรือไม่

    ฮอนด้าเปิดตัวหุ่นบังคับด้วยจิตมนุษย์<!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT><!-- AddThis Button END -->
    <SCRIPT type=text/javascript>var id='7733';function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('จำนวนคนอ่าน '+counter_+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก :โตเกียว-ฮอนด้าเปิดตัวหุ่นอาซิโมรุ่นใหม่ บังคับด้วยความคิดมนุษย์

    บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ได้เปิดตัวหุ่นยนต์อาซิโมรุ่นล่าสุดที่บังคับด้วยความคิดของมนุษย์ขึ้นเมื่อวันอังคาร (31 มี.ค.) โดยผู้ที่บังคับจะต้องสวมอุปกรณ์ลักษณะคล้ายหมวกกันน็อกซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจจับความคิดที่เกิดขึ้นในสมองของผู้สวมใส่ แล้วส่งสัญญาณไปยังหุ่นยนต์ให้ทำตามความต้องการดังกล่าว
    อาซิโมเป็นฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของค่ายฮอนด้า สามารถเต้นรำ วิ่ง และรับแขกได้ แต่อาซิโมรุ่นล่าสุด ซึ่งติดเครื่องเชื่อมสัญญาณกับสมองที่เรียกว่า "เบรน แมชีน อินเตอร์เฟซ" หรือ "บีเอ็มไอ" เอาไว้ จะทำให้หุ่นสามารถทำการเคลื่อนไหวพื้นฐาน 4 อย่างได้ด้วยแขน ขา และลิ้นตามคำสั่งที่ส่งมาถึงผ่านทางสมองของมนุษย์ โดยผู้ที่จะสั่งอาซิโมจะต้องคิดว่าตัวเองจะกระทำการเคลื่อนไหวในแบบที่ต้องการให้หุ่นทำ แล้วเครื่องจะแปลงเป็นสัญญาณส่งไปให้อาซิโมทำแทน
    นายเท็ตสึยะ โอคาเบะ จากสถาบันวิจัยฮอนด้าญี่ปุ่น ได้ยกตัวให้ฟังว่าถ้าผู้ที่สวมเครื่องบีเอ็มไอคิดภาพในหัวว่ากำลังขยับมือขวาของตัวเอง ก็จะทำให้มือขวาของหุ่นอาซิโมเคลื่อนตามไปด้วย โดยหุ่นจะเคลื่อนไหวตามความคิดของคนได้แม่นยำแค่ไหนนั้นต้องขึ้นอยู่กับว่าคนผู้นั้นมีสมาธิดีแค่ไหนเวลาสั่งหุ่น ซึ่งผลจากการทดลองพบว่าอาซิโมสามารถเคลื่อนไหวตามความคิดมนุษย์ได้ถูกต้องถึง 90.6% เลยทีเดียว
    คณะนักวิจัยตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสร้างหุ่นยนต์เพื่อช่วยมนุษย์ทำงานบ้าน อาทิ ล้างจาน และรดน้ำต้นไม้ แต่นายยาสุฮิสะ อาราอิ ประธานสถาบันวิจัยฮอนด้ายอมรับว่า สิ่งที่บริษัททำอยู่ยังถือว่าเป็นการวิจัยขั้นพื้นฐานอยู่ แต่ก็ยังมุ่งมั่นทำงานด้วยความฝันว่าจะสามารถผลิตหุ่นยนต์ออกขายในเชิงพาณิชย์ได้ แม้ว่าหนทางจะยังอีกยาวไกลมากก็ตาม

    สังหารหมู่อีกแล้ว[​IMG]ถี่ยิบ
    คมชัดลึก : มือปืนบุกสังหาร 8 ศพ ที่ศูนย์สุขภาพและฟื้นฟูในรัฐนอร์ท คาโรไลน่าของสหรัฐ

    (30มี.ค.) มีผู้เสียชีวิต 8 คนในเหตุบุกยิงในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ที่ศูนย์สุขภาพและฟื้นฟู"ไพน์เลค" ในเมืองคาร์ทาจ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองราเลห์ เมืองเอกของรัฐนอร์ท คาโรไลน่าของสหรัฐฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยผู้ป่วย 6 คน วัยตั้งแต่ 78 ถึง 98 ปี กับพยาบาล 1 คน และผู้ไปเยี่ยมผู้ป่วย 1คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน ที่ปัจจุบัน กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ตำรวจได้ปิดกั้นโรงพยาบาลดังกล่าวด้วยเพื่อความปลอดภัย
    คริส แมคเคนซี่ หัวหน้าตำรวจเมืองคาร์ทาจเปิดเผยว่า มือปืนคือนายโรเบิร์ต สจ๊วต วัย 45 ปีผู้บุกเข้าไปที่ศูนย์ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในช่วงเช้า และเปิดฉากยิงเขาถูกตั้งข้อหากระทำฆาตกรรมโดยเจตนา 8 กระทง ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดเหตุน่าสลดใจครั้งนี้ แต่ทางตำรวจจะแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเวลา 14 .00 น.ตามเวลามาตรฐานสากลของวันจันทร์ หรือ 21.00 น. คืนนี้ตามเวลาในไทย รายงานข่าวระบุด้วยว่า ศูนย์สุขภาพฯแห่งนี้มีผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้มีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษประมาณ 90 คน และหลายคนป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์

    อ้างอิงhttp://www.komchadluek.net/section/ต่างประเทศ.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** กรรม ****

    กรรม...เป็น ตัวตนของการกระทำ ที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    ติดตัวผู้กระทำไปตลอด และมีผลตอบแทนต่อผู้กระทำ

    โลกุตตระธรรม ที่พระพุทธเจ้าสอน....เรียก ตัวตนของการกระทำ ว่า "ตัวกระทำ"
    พระพุทธเจ้า สอนในหลักสัจจะธรรม...ให้ชาววัง ชาวเมือง ชาวบ้าน เข้าใจง่าย
    จึงเรียก ตัวตนของการกระทำที่มีอยู่จริง....ว่า "ตัวกระทำ"

    พระองค์ จึงสรุป "หลักสัจจะธรรม"...ให้จดจำ เข้าใจได้ง่าย คือ
    ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

    เรื่องสัจจะธรรม ... เป็นเรื่องของตัวตนที่มีอยู่จริง แต่มองไม่เห็น
    การนำความเชื่อนอกศาสนามาสอนบางอย่าง....จึงขัดกับหลักสัจจะธรรมความจริง
    เพราะ สัจจะธรรม...เป็นเรื่องตัวตนของการกระทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การสังคายนาพระพุทธศาสนา เป็นหน้าที่ของพระอรหันต์ ในยุคสมัยของพระเจ้าจักรพรรดิศรีอาริย์ ในยุคนั้นจะมีพระอรหันต์มากมาย คล้ายในสมัยที่พระพุทธเจ้า ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ พระอรหันต์เหล่านี้จะมาคอยทำหน้าที่ชำระสะสางความเศร้าหมองของพระพุทธศาสนาที่มีอยู่นี้ ให้หมดสิ้นไปครับ

    พวกเรามีหน้าที่นำสาร แจ้งข่าวเตือนภัย ก็ทำแต่หน้าที่ของพวกเราดีกว่า อย่าไปก้าวก่ายหน้าที่ของพระศรีอาริย์ หรือที่คุณหนุมานเรียกว่า "บุรุษที่ทำได้" นั่นเลยครับ หน้าที่หลักของพระศรีอาริย์ที่ต้องมาเกิดกายในยุคนี้ ก็คือมาฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ให้กลับมารุ่งเรีองขึ้นอีกครั้ง

    ถ้าเรามาทำผิดหน้าที่กัน มันก็จะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายกันมา ก่อนที่พวกเราจะลงมาเกิดกันในยุคนี้ มันสับสนยุ่งเหยิงกันไปหมด งานของใครก็ย่อมเหมาะสมกับบุญบารมีของผู้นั้น งานฟื้นฟูพระพุทธศาสนาก็ต้องให้พระโพธิสัตว์ ผู้มีบุญบารมี มากที่สุดในขณะนี้เป็นผู้กระทำ จึงจะประสบกับความสำเร็จ

    ถ้าเราไปก้าวก่ายหน้าที่ของท่าน แทนที่จะช่วยให้ดี มันกลับจะไปเพิ่มความลำบาก ยุ่งยาก ให้กับพระโพธิสัตว์ ที่จะต้องมาคอยแก้ไข ชำระสะสางงานที่ทำผิดหน้าที่กันในตอนนี้ ให้กลับมาดำเนินไปในหนทางที่ถูกต้อง ตามที่พระโพธิสัตว์ได้วางแผนงานกันเอาไว้ครับ


    ***********************************************​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  9. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    หาข่าว รูปปั้นปริศนาโผล่แถวๆ กระบี่หรือพังงานี่แหละ
    คล้ายสฟิงส์ ใครมีภาพข่าวบ้าง เห็นข่าวตัววิ่ง เมื่อก่อนกลางเดือนที่แล้ว
     
  10. ann

    ann เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    246
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +2,291
    'อียู'ตื่นป้องกันโลกร้อน แห่ซื้อสินค้าปล่อยคาร์บอนต่ำ บีบสายการบินลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD class=difcursor vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    "สหภาพยุโรป" ตื่นตัวปัญหาโลกร้อน ตั้งเป้าลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ใช้พลังงานทดแทนเพิ่ม 20% ในปี 2020 เตรียมออกมาตรการบังคับบรรจุภัณฑ์สินค้า ติดฉลากค่าก๊าซเรือนกระจก คุมรถยนต์-สายการบินเข้ายุโรปต้องลดปล่อยคาร์บอน ผู้บริโภคในอียูเกือบ 70% พร้อมจ่ายเงินซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : รายงานข่าวจากคณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรป เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปหรืออียูตื่นตัวสูงมากเกี่ยวกับประเด็นโลกร้อน เตรียมที่จะออกมาตรการปกป้องสิ่งแวดล้อมและลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยช่วงต้นเดือน ธ.ค.2551 ได้ลงมติเห็นชอบร่างระเบียบเกี่ยวกับกิจการพลังงานและโลกร้อน โดยปรับความเข้มงวดจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อประนีประนอมข้อกังวลจากประเทศสมาชิกอียู ที่เกรงว่าภาคอุตสาหกรรมยุโรป จะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
    ร่างระเบียบดังกล่าวมุ่งประเด็นลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% เพิ่มการใช้พลังงานทดแทน 20% และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 20% โดยอาจเพิ่มเป้าหมายการลดปล่อยก๊าซเป็น 30% หากประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ตกลงด้วยภายในปี 2020 <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD class=difcursor vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD class=difcursor vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เดินหน้าลดคาร์บอนภาคอุตสาหกรรม
    มาตรการหลักจากร่างระเบียบดังกล่าวคือ การลดคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรม หรือ "คาร์บอน ลีคเคจ" หากการเจรจาจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ หลังพิธีสารเกียวโตไม่สามารถบรรลุผล ในการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซ ภาคอุตสาหกรรมยุโรปที่มีความเสี่ยงว่า จะถูกย้ายฐานไปภูมิภาคอื่น (ซึ่งมีการกำหนดวิธีการคำนวณจากค่าใช้จ่ายในการผลิต) จะได้รับสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจกฟรี ในช่วงปี 2013-2020

    สำหรับภาคอุตสาหกรรมที่ไม่มีความเสี่ยงในการเกิดคาร์บอน ลีคเคจ จะใช้ระบบการประมูลปล่อยก๊าซ 70% ภายในปี 2020 และใช้ระบบการประมูลสำหรับการปล่อยก๊าซทั้งหมดภายในปี 2027

    นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกอียูที่มีจีดีพีต่ำ ประเทศสมาชิกทั้ง 19 ประเทศ จะได้รับจัดสรรการปล่อยก๊าซเพิ่มเติมสำหรับการประมูลอีก 10% (เพิ่มจาก 88% ที่จะได้รับจัดสรรระหว่าง 27 ประเทศสมาชิก) และอีก 2% ให้พิเศษสำหรับประเทศสมาชิกใหม่ที่เข้าร่วมเมื่อปี 2004 ซึ่งเปรียบเสมือนการให้เงินอุดหนุน ที่ได้พยายามลดการปล่อยก๊าซในช่วงปี 1999-2005 นอกจากนี้ในช่วงปี 2013-2016 งบประมาณ 15% ที่ได้รับจากการประมูลสิทธิการปล่อยก๊าซ สามารถนำไปใช้ลงทุนในโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังสูงได้


    เล็งปรับรถยนต์ปล่อยก๊าซเกินกำหนด
    นอกจากนี้ มีความคืบหน้าของกฎระเบียบอียูด้านสิ่งแวดล้อม 1.ร่างข้อเสนอการส่งเสริมพลังงานทดแทน คงเป้าหมายเดิมใช้พลังงานทดแทน 20% รวมทั้งเป้าหมายใช้พลังงานทดแทน 10% สำหรับการขนส่งทางบก โดยให้เครดิตเพิ่มสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นสอง อาทิ ผลิตจากของเสีย หรือ NON-FOOD CELLULOSIC หรือ LINGO-CELLULOSIC BIOMASS

    และพลังงานไฟฟ้าทดแทนที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ พลังงานทดแทนดังกล่าวจะต้องมีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าพลังงานฟอสซิล 35%
    2.ร่างข้อเสนอเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรถยนต์รุ่นใหม่ คงเป้าหมายเดิมลดปริมาณปล่อยก๊าซเหลือ 130 กรัมต่อกม.แต่ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการ จากที่กำหนดไว้ปี 2012 เป็นอัตราก้าวหน้าในปี 2012-2015 โดย 65% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในปี 2012 เพิ่มเป็น 75% 80% และ 100% ตามลำดับ เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์มีโอกาสปรับตัว โดยมีเป้าหมายระยะยาวให้ลดการปล่อยก๊าซเหลือ 96 กรัมต่อกม.ในปี 2020 และจะทบทวนอีกครั้งในปี 2013

    ทั้งนี้ ค่าปรับผู้ผลิตรถยนต์ ที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายและปล่อยก๊าซเกินกว่ากำหนดไว้ มีอัตราลดลงเช่นกัน เป็นมูลค่า 5-95 ยูโร โดยตั้งแต่ปี 2019 ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องจ่ายค่าปรับ 95 ยูโรต่อกรัมสำหรับปริมาณก๊าซที่ปล่อยเกินกำหนด


    บีบสายการบินลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    นอกจากนี้คณะกรรมาธิการยุโรปด้านสิ่งแวดล้อม เตรียมประกาศแผนระยะยาว ที่จะรวมภาคการบินเข้าในแผนการลดมลภาวะ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.2548 ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    แผนดังกล่าวจะจำกัดเพดานก๊าซคาร์บอนที่เครื่องบินปล่อยออกมา หากครบโควตาที่อนุญาตแล้ว สายการบินอาจจะซื้อยอดคาร์บอนคงเหลือ ที่ยังไม่ถึงเพดานกำหนดจากสายการบินอื่น ซึ่งภาระค่าใช้จ่ายนี้จะตกอยู่ที่ผู้โดยสาร การศึกษาถึงผลกระทบของคณะกรรมาธิการ ได้เสนอว่าราคาตั๋วโดยสารน่าจะเพิ่มไม่เกิน 40 ยูโรสำหรับเที่ยวบินระยะไกล

    คณะกรรมาธิการให้เหตุผลว่า หากไม่ดำเนินการในตอนนี้แล้ว การปล่อยอากาศเสียจากการบินจะเพิ่มขึ้น 150% เหนือระดับของปี 2533 ภายในปี 2555 โดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเดินอากาศมีการเติบโตเร็วที่สุด เนื่องจากการเกิดขึ้นจำนวนมากของสายการบินต้นทุนต่ำ

    อย่างไรก็ตาม สหรัฐได้แสดงท่าทีจะดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมาย เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์ 11 ก.ย.2544 โดยเห็นว่า การกระทำของยุโรปจะเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ทางการค้า และขัดแย้งกับอนุสัญญาชิคาโกว่าด้วยการบินพลเรือนสากล ซึ่งเป็นเสมือนธรรมนูญของภาคอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่คณะกรรมาธิการยืนยันว่า แผนการนี้สอดคล้องกับกฎของสมาคมการขนส่งทางอากาศสากล (IATA)
    ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจการบินระหว่างประเทศ รวมถึงไทยต่อไปได้ในอนาคต จึงเป็นประเด็นที่ภาคการบินของไทยควรจับตาอย่างใกล้ชิด


    เดินหน้าคุ้มครองสิ่งแวดล้อมครบวงจร

    นอกจากนี้ ต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา รมต.สิ่งแวดล้อมอียูมีมติเกี่ยวกับ "แผนปฏิบัติการนโยบายส่งเสริมการบริโภค และการผลิตอย่างยั่งยืน และนโยบายอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน" ซึ่งมีข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมาธิการยุโรป ดังนี้

    1.แสวงหาแนวทางเพิ่มเติม จากระบบการติดฉลากด้านสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่แล้ว
    2.จัดทำข้อเสนอแผนปฏิบัติการเร่งสร้างระบบเศรษฐกิจที่ปลอดภัยและยั่งยืน โดยใช้คาร์บอนต่ำและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้มาตรการสมัครใจและบังคับควบคู่กัน

    3.พัฒนาวิธีประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การผลิต การใช้ การทำลาย หรือย่อยสลาย ตลอดสายการผลิตและผลกระทบในระดับระหว่างประเทศ

    4.ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างโดยภาครัฐที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

    5.การออกแบบผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน ควรมีกำหนดเวลา ข้อกำหนดขั้นต่ำและค่ากลางที่คาดการณ์ได้เพื่อให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว

    6.การติดฉลากควรขยายให้ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท

    7.กฎระเบียบเรื่องฉลากพลังงาน ให้เพิ่มข้อมูลตัวชี้วัดสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรตลอดช่วงวงจรผลิตภัณฑ์

    8.การเพิ่มความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม

    9.สนับสนุนการค้าระหว่างประเทศสำหรับสินค้าและบริการที่รักษาสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำมาตรฐานสินค้าของอียู มีส่วนร่วมกำหนดมาตรฐานสินค้าระหว่างประเทศด้วย

    ผู้บริโภคอียูพร้อมซื้อสินค้าเป็นมิตร สวล.
    เมื่อเร็วๆ นี้ในงานประชุมแพค-วิชัน ในฝรั่งเศส ได้เผยแพร่ผลสำรวจผู้บริโภคในยุโรป พบว่า 75% ของผู้บริโภค ต้องการทราบถึงพฤติกรรมด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและคุณธรรม ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และ 67% ของผู้บริโภคระบุจะเลือกซื้อสินค้าที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนปริมาณต่ำ

    บริษัท ENVIRO-STRATEGIES ของฝรั่งเศส ที่ให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ระบุด้วยว่าภาพรวมผู้บริโภคในยุโรปให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม และสนใจเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณาจากข้อมูลหรือเครื่องหมายต่างๆ บนฉลากและบรรจุภัณฑ์ ขณะนี้บริษัทชั้นนำและห้างสรรพสินค้าในยุโรป จัดทำโครงการฉลากคาร์บอนแล้ว

    เช่น ห้างกาสิโนของฝรั่งเศสซึ่งเป็นรายแรก และปัจจุบันสินค้าอาหารกว่า 3,000 ประเภท ติดข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอน ตลอดทั้งวงจรการผลิต ห้างไอเคอีเอของสวีเดน และห้างมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ของสหราชอาณาจักร ได้ริเริ่มจัดทำโครงการกระตุ้นจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อมในระดับท้องถิ่น

    แนะผู้ผลิตไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม
    แม้ว่าห้างร้านในยุโรปจะชูเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็น
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** หลักสัจจธรรม ****

    ถ้าเราบอกว่า...โลกนี้ไม่มีตัว ไม่มีตน
    ก็จะไปขัดกับ....หลักสัจจธรรม ความจริงในธรรมชาติ
    จะไปขัดกับ...กรรม ที่เป็นตัวตน ข้ามภพข้ามชาติ
    พระพุทธเจ้า....เห็นอนาคตยาวไกล จึงเตือนให้เราทุกคนพิจารณาก่อนที่จะเชื่อสิ่งใด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    ถึงเวลาแล้ว คุณเกษม
    ถ้าไม่ช่วยกันดูแลศาสนา ไม่ช่วยกันทำ ไม่ช่วยกันพิจารณา แล้วใครจะกล้าทำ
    พอมีคนจะทำ ก็บอกว่าไปก้าวก่าย แล้วใครเขาจะกล้าเข้ามาช่วยคิดช่วยทำ

    สงสารศาสนาพระโคดม
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ลองหาดูพักใหญ่แล้วครับ จะมีแต่พบวัตถุโบราณ จำพวกลูกปัด และเครื่องใช้ต่างๆอายุเก่าแก่ แต่เป็นทางตอนกลาง ถึง ตอนเหนือของประเทศเป็นส่วนใหญ่ครับ
     
  14. firstman

    firstman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +116
    มาให้กำลังใจคุณเกษม แอบอ่านมานาน
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** อนาคตอยู่ในมือทุกคน ****

    ถ้าความจริงในศาสนาพุทธ ถูกเปิดเผยขึ้นมาวันนี้
    วันพรุ่งนี้ ก็จะมีผู้คนเร่มปฏิบัติตนด้วย ข้อสัจจะตัดลดนิสัย มากขึ้น
    วันต่อไป กรรมปรากฏ ผู้มีสัจจะก็มีมากขึ้น ตัวกระทำก็จะช่วยเบี่ยงเบี่ยงกรรมประเทศได้มากขึ้น
    ไม่ต้องรอให้ฆ่ากันตายมากก่อน ไม่ต้องรอให้ถล่มทลายก่อน
    อนาคต เหมือนอยู่ในมือทุกคน จะทำหรือไม่ทำ ต้องตัดสินใจ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. สายน้ำผึ้ง

    สายน้ำผึ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +379
  17. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ...เอ้อ...ตรงนี้ ถูกใจผมครับ... คือ ผม เกิดไม่ทันยุคที่มีการสังคายนา ครั้งแรกอย่างที่ว่า..เลยไม่ทราบจริงๆ ว่า การสังคายนา ครั้งนั้น ขนาดเป็นครั้งแรก ยังมีของเทียม ปนอยู่ด้วย...อย่างไร หากไม่ขัดข้อง...ก็ อยากจะทราบว่า ความเชื่อนอกศาสนาที่เข้ามาปะปนนั้น ท่าน พอจะยกตัวอย่างให้เป็นวิทยาทาน ให้แก่ ผู้น้อยอย่างผม ได้บ้างใหม? ขอบคุณ ล่วงหน้า ครับ
     
  18. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    http://palungjit.org/showthread.php?t=179741

    พบรูปสลักแผ่นหินคล้าย ฟาโรห์ ริมอันดามัน! ร้องผู้เชี่ยวชาญเร่งพิสูจน์

    "หมอบัญชา"เผยพบรูปสลักบนแผ่นหินคล้ายใบหน้าฟาโรห์อียิปต์โบราณ ในพังงา-ระนอง ชี้ยังพบหินสีแกะสลักรูปสัตว์ คล้ายในสุสานลุ่มน้ำเวียดนาม เร่งค้นคว้าหาร่องรอยประวัติศาสตร์

    ผู้สื่อข่าวภูมิภาค "มติชน" รายงานว่า ในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ จ.กระบี่ สุราษฎร์ธานี พังงา ระนอง และชุมพร ที่มีการขุดพบลูกปัดเป็นจำนวนมาก คาดว่าน่าจะเป็นแหล่งผลิตและการค้าลูกปัดในยุคโบราณเมื่อสองพันปีก่อนนั้น ยังพบหลักฐานหลายชิ้นที่มีลักษณะคล้ายกับวัตถุโบราณที่ผลิตขึ้นจากอียิปต์เป็นแหล่งอารยธรรมโลกอีกด้วย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.บัญชา พงษ์พานิช เลขานุการสุธีรัตนามูลนิธิ เขียนไว้ในหนังสือ "รอยลูกปัด" ระบุหลักฐานดังกล่าวที่ขุดพบในพื้นที่ของภาคใต้ สร้างความแปลกใจในแวดวงคนสนใจประวัติศาสตร์โบราณคดีเป็นอย่างมากคือ รูปสลักหินที่แกะสลักเป็นใบหน้าคน มีใบหน้าหนึ่งคล้ายใบหน้าของฟาโรห์ในอารยธรรมอียิปต์โบราณ โดยรูปสลักหินมีลักษณะเป็นแผ่นหินแบนสีน้ำตาลแก่ แกะตัดเป็นรูปใบหน้าที่มีเคราบริเวณคางกับทรงผมเป็นกระพุ่ม และใบหน้ามีรอยขีดเห็นดวงตาและเส้นผม

    นอกจากนี้ ยังพบรูปคนคล้ายนักรบแกะบนแผ่นหินมีเครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับศีรษะ อาวุธและสิ่งที่ถือในมือเปล่งเป็นประกาย คล้ายๆ กับภาพนักรบที่เคยปรากฏในประติมากรรมขนาดใหญ่ของทั้งอียิปต์และเปอร์เซียโบราณ

    นพ.บัญชาให้สัมภาษณ์ว่า แรกพบเห็นประติมากรรมขนาดเล็กเหล่านี้เชื่อว่าน่าจะเป็นของทำขึ้นใหม่ แต่เมื่อได้ติดตามศึกษาโดยเฉพาะจากชุมชนที่พบและรวบรวมรักษาไว้นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการค้นพบสิ่งเหล่านี้มานานแล้ว แต่ไม่มีการเห็นคุณค่า เนื่องจากแต่ก่อนผู้คนมีความสนใจแต่เพียงลูกปัดเท่านั้น

    "เมื่อผมลงไปศึกษาค้นคว้า จึงมีชาวบ้านนำสิ่งของเหล่านี้ที่พบและเก็บเอาไว้ในบ้านบ้าง บนหิ้งพระบ้าง หรือกระทั่งทิ้งขว้างหรือเก็บในกล่องไว้บ้าง ออกมาให้ดูเพราะต่างก็แปลกใจ ไม่แน่ใจว่าคืออะไร สอบถามหลายฝ่ายต่างน่าเชื่อได้ว่าเป็นของเก่าที่ถูกพบจากใต้ดินมาแต่เดิมจริง จึงตัดสินใจขอเก็บรวบรวมไว้ก่อน เพื่อรอการตรวจสอบพิสูจน์โดยได้ตัดสินใจเขียนและตีพิมพ์ในหนังสือ เพื่อการเชิญชวนสาธารณะได้ช่วยกันศึกษาค้นคว้าและตรวจสอบด้วย" นพ.บัญชากล่าว

    นพ.บัญชากล่าวอีกว่า เนื่องจากในประเทศไทยไม่ทราบว่าจะปรึกษาเรื่องนี้กับใคร ตลอดจนเคยสอบถามนักวิชาการต่างประเทศที่เข้ามาขอศึกษาค้นคว้าต่างตอบว่าไม่มีความรู้และสันทัดพอในด้านนี้ มีนายไมเคิล ไรท อดีตนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษเพียงคนเดียวที่แสดงทรรศนะในเรื่องนี้ไว้ในสองประเด็นว่า

    "ถ้าเป็นของปลอมที่ทำขึ้นมาใหม่ ก็น่าแปลกใจว่าใครทำ และทำขึ้นมาทำไม ทำมาตั้งแต่เมื่อไร ในเมื่อพื้นที่ที่พบประติมากรรมเหล่านี้ก็มิได้เป็นพื้นที่แหล่งลูกปัดที่มีชื่อเสียงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่บางกล้วยในกิ่ง อ.สุขสำราญ จ.ระนอง และที่ควนบางโร ใน อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่สำคัญสิ่งเหล่านี้มิได้เป็นที่ต้องการ มีมูลค่ามาแต่ก่อนเลย แต่ถ้าเป็นของเก่ามาแต่ก่อนจริง ก็จะเป็นหลักฐานสำคัญมากที่ต้องศึกษาค้นคว้ากันอย่างจริงจัง" นพ.บัญชากล่าว

    นพ.บัญชากล่าวว่า ในเบื้องต้นนายไมเคิล ไรท ให้ความเห็นว่าจากรูปลักษณะที่เห็น คล้ายกับรูปเคารพของกลุ่มอารยธรรมย่อย (Minor Civilisation) ในเขตพื้นที่แอฟริกาและตะวันออกกลางโบราณที่นิยมผลิตสิ่งของที่ผสมผสานอารยธรรมของตนเข้ากับอารยธรรมใหญ่ (Major Civilisation) คืออียิปต์ในลุ่มแม่น้ำไนล์ และเปอร์เซียตะวันออกกลางและดินแดนเมโสโปเตเมีย

    นอกจากนี้ ในพื้นที่ทั้งสองแห่ง ยังพบหินและหินสีมีค่าแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปช้าง ม้า ปลา เต่า สิงห์ มกร โดยมีสัตว์ลักษณะแปลกชนิดหนึ่งคล้ายหนู มีสี่ขา หางสั้น จมูกแหลม คล้ายที่เคยมีรายงานการพบในสุสานสมัยฮั่น-เวียด (พ.ศ.432-586) ในลุ่มน้ำแดงของเวียดนามปัจจุบัน รวมทั้งมีการพบกลุ่มหินแกะสลักเป็นหัวแหวนและตราประทับ (Intaglios) เป็นจำนวนมาก โดบพบมีทั้งรูปอย่างอินเดียและโรมัน ตลอดจนอักขระสมัยพราหมีและปัลลวะด้วย

    นพ.บัญชากล่าวว่า หลักฐานเหล่านี้ล้วนเหลือเชื่อ หากศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบและถูกต้องตามหลักวิชาโบราณคดีก็จะบอกอะไรอีกหลายอย่าง โดยเห็นว่าข้อเสนอสำคัญเรื่องโบราณคดีชุมชนที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะชุมชนชาวบ้านและท้องถิ่นมีส่วนเป็นบทบาทสำคัญ

    http://news.sanook.com/read/2009/พบร...ิสูจน์/376872/

    อ.คุระบุรี จ.พังงา พื้นที่เกือบตลอดทั้ง อำเภอ เป็น เมืองเก่า ,ชุมชนเก่ามากมาย ทั้งที่มีการขุดพบลูกปัด หลุมกว้างใหญ่ ตามภาพ บนเนินเขาหน้าบ้าน น้องชาย ผมเอง

    (ซึ่งตอนนี้ ทราบข่าว ว่า... มีการทำถนน ขึ้นเขา เพื่อ เปิดเป็น แหล่ง ศึกษา ตามธรรมชาติ เชิง อนุรักษ์ )
    พื้นที่ ที่ใกล้ กับ สร้างภาพยนตร์ เรื่อง เหมืองแร่.... ใกล้ๆ สำนักสงฆ์ จะมีการค้นพบ ลูกปัด เช่นกัน

    รวมทั้ง อ.ตะกั่วป่า ที่มีการค้นพบ เทวรูปพระนาราย์ (อุทยานพระนาราย์ )
    เกาะคอเขา มีการพบำแพงเมืองบนเกาะ ทั้งที่ จมอยู่ในทะเล และ บนเกาะ (สึนามิ รอบที่.... , ธันวา 2547 )
    [​IMG] [​IMG]
    เมษา52 นี้ จะ ลองขึ้นไปดู+ อาจจะ นั่งแผ่พลังเมตตา อีกครั้ง
    เวลาประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ เมื่อคืนวานนี้ 31/12/2007 น้องชาย +น้องสาว ถ่ายภาพใด้ จากหน้าบ้านครับ เขต อ.คุระบุรี จ.พังงา
    ข่าวล่าสุด เมื่อไม่นาน มานี้ ครับ ประมาณ ปลายเดือน มีนา 2008

    คนในพื้นที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา ใด้ เห็น วัตถุ ประหลาด คล้ายจานกระด้ง บินลอย จากยอดเขา ยา (แถวๆ เทือกเขาสก )ผ่านมา ในตลาดตัวอำเภอ แล้ว ลอยหายไป

    [​IMG]

    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  19. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    http://palungjit.org/showthread.php?t=179569
    สัตบุรุษ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1981000", true); </SCRIPT>

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หมายเหตุ - เรียบเรียงจากข้อมูล "หนังสือเมืองคลองท่อม" บนเส้นทางสายไหมอาจารย์กลิ่น คงเหมือนเพชร" ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกระบี่

    ทำเลที่เป็นที่ตั้งอำเภอคลองท่อม จ.กระบี่ ในปัจจุบันหรือที่เรียกกันว่า "ควนลูกปัด" มีร่องรอยที่บ่งบอกว่าเคยเป็นที่ตั้งชุมชนโบราณมาก่อน หลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดพบมีเป็นจำนวนมาก มีความเกี่ยวพันกับทางอียิปต์ อีนเดีย กรีก อาหรับ และจีน ทั้งนี้ พระครูอาทรสังวรกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองท่อม เก็บรักษาสมบัติอันล้ำค่าไว้อีกส่วนหนึ่งในพิพิธภัณฑสถานคลองท่อม

    คนกระบี่ไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก แต่คลองท่อมเป็นที่รู้จักของนักโบราณคดีทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาศึกษาจากหลักฐานดังกล่าว นับได้ว่าพระครูอาทรสังวรกิจเป็นคนแรกที่เปิดประตูโบราณให้คนทั่วโลกรู้จัก

    จากการศึกษาพบว่า คลองท่อมมีวัฒนธรรมซับซ้อนมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยเริ่มต้นประวัติศาสตร์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโบราณวัตถุมีโบราณสถานที่เป็นสิ่งก่อสร้างถาวร นักโบราณคดีให้ความเห็นว่า คลองท่อมเป็นเพียงท่าเรือขนส่งสินค้าเป็นประตูทางการค้า (Gate Way) ทางฝั่งตะวันตกที่เปิดข้ามฝั่งมหาสมุทรไปสู่ชุมชนโบราณที่เมืองเวียงสระ และอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ในสมัยเดียวกัน

    ปัจจุบันมีคนพูดถึงเส้นทางการค้าที่สำคัญสายหนึ่งที่เรียกกันว่า "เส้นทางสายไหม" เป็นเส้นทางค้าไหมและเครื่องลายครามของจีน ถ้าหากว่าคลองท่อมเป็นท่าเรือและประตูการค้าเชื่อมสองฝากฝั่งทะเลก็ย่อมที่จะเป็นเส้นทางของบรรดาพ่อค้าวานิชทั้งหลายทุกชาติภาษา รวมทั้งพ่อค้าจีนด้วยอย่างแน่นอน จึงสันนิษฐานว่าบนเส้นทางสายนี้จัดอยู่ในเส้นทางค้าไหมทางทะเลด้วย

    เส้นทางสายไหมกระจายออกไปหลายทาง ทางหนึ่งจะผ่านไปทางคาราคอรัม มีทางบกลงสู่ปากีสถานและอินเดีย เส้นทางนี้นอกจากใช้เป็นเส้นทางการค้าแล้ว ยังเป็นเส้นทางเผยแพร่ศาสตรพุทธจากอินเดียไปสู่จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ร่องรอยพุทธศาสนาปรากฏตามถ้ำหลายแห่ง

    การเดินทางไปสืบพระศาสนาของหลวงจีนฟาเหียน พระถังซำจั๋ง ก็ใช้เป็นเส้นทางนี้เดินทางทั้งสิ้น ขากลับได้อาศัยเรือพ่อค้าซึ่งใช้เส้นทางทะเลสำหรับดินแดนทางสุวรรณภูมิ ได้รับศาสนาพรามหมณ์และศาสนาพุทธก่อน ร่องรอยการเข้ามาของพุทธศาสนาผ่านเข้ามาบริเวณนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น พระโสณะ และพระอุตระ มาเผยแผ่พุทธศาสนา ตามหลักฐานที่ปรากฏทางนครปฐม มหาสถูปบรมพุทโธในชวา พระบรมธาตุไชยา และนครศรีธรรมราช

    นอกจากนี้ยังพบวัตถุทางพุทธศาสนาตามแหล่งถ้ำต่างๆ อีกมากมาย เช่น พบพระพิมพ์ดินดิบที่เขาขนาบน้ำ จ.กระบี่ นับเป็นพระพิมพ์ดินดิบที่เก่าแก่ที่สุดในภาคใต้ นอกจากนี้ยังพบวัตถุอื่นๆ เช่น สถูปเล็กๆ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "กรอบแก้ว" ในบริเวณคลองท่อมและถ้ำอื่นๆ อีกด้วย

    เป็นที่ยอมรับกันว่าวัฒนธรรมไทยหลายอย่างมีรากฐานมาจากความเชื่อจากวัฒนธรรมอินเดีย คนอินเดียมาสู่สุวรรณภูมิตั้งแต่เมื่อใดนั้น ไม่สามารถบอกได้แน่ชัด คิดเอาว่าตั้งแต่ผู้คนแถบนั้นค้นพบความลับเรื่องลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้นั่นเอง

    นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางโบราณคดีหลายอย่างที่บ่งบอกว่า บรรดาผู้คนหรือพ่อค้าที่เดินทางมาแถบทะเลใต้นี้ มิได้มีเฉพาะชาวอินเดียเท่านั้น ยังมีอาหรับ กรีก โรมัน และชาวจีนอีกด้วย การเดินทางของบรรดาเรือพ่อค้าต้องผ่านช่องแคบมลายูแต่ภายหลังเกิดมีโจรสลัดชุกชุมคอยปล้นสะดมเรือสินค้า พ่อค้าจึงเปลี่ยนเส้นทางเป็นการขนส่งสินค้าข้ามฝั่งทางบกแทนฝั่งตะวันออก

    เส้นทางข้ามแหลมที่สำคัญเฉพาะในส่วนประเทศไทย เช่น 1) เส้นทางเสียบยวน-ปากจั่น-กระบุรี-เขาสามแก้ว (ชุมพร) 2) เส้นทางกำพวน-อ่าวบ้านดอน-นางย่อน-อ่าวบ้านดอน-คุระบุรี อ่าวบ้านดอน (สุราษฎร์ธานี) 3) เส้นทางตะกั่วป่า-ข้ามเขาศก-อ่าวบ้านดอน 4) เส้นทางปากลาว-เขาต่อคลองพุมดวง-อ่าวบ้านดอน

    5) เส้นทางคลองท่อม-คลองสินปุน-เวียงสระ-อ่าวบ้านดอน 6) เส้นทางสายตรัง-ยะรังหรือจากไทรบุรี-ผ่านปัตตานี และ 8) เส้นทางปะเหลียน-ข้ามช่องเขาบรรทัด-บางแก้ว ทะเลสาบสงขลา

    จากการศึกษาร่องรอยทางโบราณคดี พบว่า จ.กระบี่ มีร่องรอยการเดินทางข้ามฝั่ง ได้แก่ 1) เส้นทางคลองปากลาวขึ้นไปทางนาเหนือ-เขาต่อ ลงคลองชะอุ่น ผ่านปากพนัง-คลองพุมดวง-พุนพิน ออกทะเลที่ปากพันคูหาอ่าวบ้านดอน (สายนี้จะไปตามคลองมะลุ่ยเขตต่อจังหวัดพังงาก็ได้ จะไปบรรจบทางเดียวกัน 2) เส้นทางคลองหินสุกปลายคลองไปต่อคลองหนุนไปออกคลองอีปันออกแม่น้ำหลวง (ตาปี) ที่บ้านย่านดินแดง ออกอ่าวบ้านดอน

    3) เส้นทางคลองกระบี่น้อยขึ้นไปบรรจบกับคลองอีปันได้เหมือนกันแล้วออกแม่น้ำหลวง 4) เส้นทางคลองปกาไสออกคลองอีปัน หรือจะแยกจากปลายคลองไปพรุดินนา ลำทับ ทุ่งใหญ่ ออกแม่น้ำหลวงออกอ่าวบ้านดอนหรือแยกไปนครศรีธรรมราชก็ได้

    5) เส้นทางเดินบกไปลำทับออกคลองสินปุน ออกแม่น้ำหลวงที่บ้านหนองปลาตาย แล้วล่องเรือผ่านพระแสง เวียงสระออกอ่าวบ้านดอน หรือแยกจากทุ่งใหญ่ไปนครศรีธรรมราชได้เหมือนกัน

    สภาพทะเลกระบี่ เมื่อ 1,000 ปีก่อน เป็นที่ยอมรับกับสภาพทางภูมิศาสตร์แถบดินแดนทะเลใต้ว่าไม่ได้มีสภาพเช่นทุกวันนี้ ทะเลได้กินลึกเข้าไปในแผ่นดินใหญ่มาก ทั้งนี้ พิจารณาจากสภาพทางธรณีวิทยาที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ เช่น สภาพอ่าวไทยแต่เดิมอาจจะลึกขึ้นไปถึงบริเวณปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์

    สภาพภูมิศาสตร์ของ จ.กระบี่ ถ้าสังเกตจะเห็นร่องรอยทะเลลึกเข้าไปมาก ภูเขาหินปูนที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ล้วนเคยอยู่ในทะเลทั้งสิ้นมีคนพบสมอเรือขนาดใหญ่เขาปราบปัจจุบันอยู่ห่างจากทะเลมาก

    ร่องรอยหนองน้ำที่ชาวบ้านเรียกว่า "ลุ่มฝังยักษ์" สันนิษฐานว่าน่าจะมีซากเรือจมอยู่เพราะปรากฏว่าน้ำมีสีแดงคล้ายสนิมเรือ

    หรือแม้แต่ที่ ต.คลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แม้จะไม่มีใครพบร่องรอยการก่อสร้างอาคารโบราณสถานใหญ่โตเหมือนเมืองโบราณอื่นๆ แต่ทว่าพบหลักฐานต่างๆ มากมายที่แสดงว่าในอดีตเคยเป็นชุมชน

    นักโบราณคดีระบุว่า "คลองท่อม" เป็นสถานีการค้า หรือเมือง "ตักโกลา" เป็นชื่อชุมชนโบราณบนทะเลตะวันตก บันทึกไว้ในจดหมายเหตุนายคลอดิอุส ปโตเลมี นักดาราศาสตร์และนักภูมิศาสตร์ชาวกรีก เมื่อราว พ.ศ.800

    สันนิษฐานว่า เมืองตักโกลาทำหน้าที่เป็นประตูทางฝั่งทะเลตะวันตกที่เปิดไปสู่ทะเลฝั่งตะวันออกที่อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี

    ส่วนที่ตั้งแหล่งโบราณคดีคลองท่อมเหมาะจะเป็นที่ตั้งแหล่งอาศัยคือ สามารถติดต่อทางทะเลได้สะดวก โดยอาศัยลำคลองท่อมซึ่งสมัยก่อนคงลึกเข้าไปในแผ่นดินอีกมาก เรือขนาดใหญ่สามารถเข้าจอดพื่อขนถ่ายสินค้า สังเกตจากการขุดพบซากเรือหลายลำที่จม หลักฐานต่างๆ ที่ล้วนพบมีความเกี่ยวกันกับกรีก โรมัน อินเดีย อาหรับ จีน และไกลออกไปถึงอียิปต์

    หลักฐานที่***สัดคลองท่อมเก็บรวบรวมไว้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี อาทิ วัตถุที่ทำด้วยหิน เช่น เครื่องมือหิน หินดุ หินสลัก แม่พิมพ์ ตราประทับ ลูกปัดหิน ก้อนรัตนชาติ วัตถุทำด้วยแก้ว เช่น ลูกปัดแก้ว กำไล แก้วหล่อ แหวน เศษภาชนะ วัตถุที่ทำด้วยดินเผา อาทิ ภาชนะดินเผา ตะคันดินเผา แม่พิมพ์ลายประทับ วัตถุที่ทำด้วยสำริด เช่น แหวน กำไล ตุ้มหู รูปสัตว์ต่างๆ เหรียญรูปสัตว์ต่างๆ วัตถุที่ทำด้วยทอง เช่น ลูกปัดทองคำแท่งหรือแผ่นแหวนทองคำ

    หลักฐานอีกส่วนหนึ่งที่บ่งบอกถึงความมั่งคั่งของชุมชนแห่งนี้ในอดีตที่นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า "คลองท่อม" เป็นตลาดการค้าเมื่อพิจารณาตามหลักฐานไม่ว่าจะเป็นการพบซากไม้กระดาน สมอเรือจมอยู่ในลำคลองหลายลำบ่งบอกว่าเป็นเรือสินค้า หรือการพบตราประทับหลายชิ้นบันทึกด้วยอักษรปัลลวะภาษาสันสฤกต คำนวณอายุระหว่าง พุทธศตวรรษที่ 10-12 ข้อความเกี่ยวข้องกับการค้า เมื่อเป็นท่าเทียบเรือหรือตลาดกลางแลกปลี่ยนน่าจะมีการตรวจตรา อนุญาต เก็บกักตุนสินค้าและการชำระภาษี

    นักโบราณคดีระบุว่า นักเดินเรือจะตั้งทิศทางในแนวละติจูดที่ 7 อาศา หรือกว่าเล็กน้อย แต่ไม่เกินละติจูดที่ 8 องศา ซึ่งพิกัดดังกล่าวนี้จะอยู่ระหว่างตรังถึงพังงา เนื่องจากประสิทธิภาพของเรือสินค้าที่พัฒนาไม่เพียงพอที่จะเดินทางไกลมากได้ จึงจำเป็นต้องมีสถานีจอดพักเรือเพื่อซ่อมแซมหาเสบียงและน้ำจืด ซึ่งคลองท่อมอยู่ในพิกัดที่เหมาะสมเรื่องทิศทางลมมรสุมนั่นเอง

    http://www.matichon.co.th/matichon/v...day=2009-03-20
     
  20. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ร่องรอยประวัติศาสตร์ ในถ้ำ (ซึ่งสรุปใด้ ว่า เมืองไทย เรานี้ มีชนเก่าแก่ อาศัยมานานแสนนาน และ ร่องรอยการค้นพบ ภาพเขียนบนผนังถ้ำมากมาย แม้..กระทั่งภาพแปลกๆ จานบิน , คนร่างประหลาด )
    http://www.era.su.ac.th/RockPainting/south/phihuoto/index.html

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">ที่ตั้ง</TD></TR><TR><TD width="100%">หมู่ที่ 2 บ้านบ่อท่อ ตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก
    </TD></TR><TR><TD width="100%">พิกัดทางภูมิศาสตร์</TD></TR><TR><TD width="100%">เส้นรุ้งที่ 08<SUP>o</SUP> 22' 40" เหนือ เส้นแวงที่ 98<SUP>o</SUP> 40' 25" ตะวันออก พิกัดกริดที่ 47 RMK 658262 ระวางที่ 4725 IV
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom width="75%">สภาพที่ตั้ง</TD><TD width="25%" rowSpan=2>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="75%">ถ้ำอยู่ในเขาของกลุ่มเขาถ้ำลอดใต้ เป็นภูเขาหินปูนในอ่าวพังงาในแนวเทือกเขาภูเก็ต ตัวถ้ำอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 10 เมตร ภูมิประเทศโดยรอบถ้ำเป็นป่าชายเลน มีลักษณะเป็นอ่าวภายใน
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="75%">ลักษณะของถ้ำ </TD><TD width="25%" rowSpan=2>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="75%">เป็นถ้ำโปร่งมีอากาศและแสงสว่างเข้าไปในถ้ำได้หลายทิศทาง ลมพัดผ่านตลอด มีหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ มีลักษณะเป็นถ้ำที่แท้จริง ทางเข้าถ้ำหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือมีความลาดชันประมาณ 45 องศา หน้าถ้ำกว้างพอควร ภายในแบ่งเป็น 2 คูหาใหญ่ มีทางเข้า 2 ทาง ทั้งสองคูหาเดินทะลุถึงกันได้ มีความกว้างขวางและเพดานสูง
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">หลักฐานทางโบราณคดี </TD></TR><TR><TD width="100%">พบเศษกระดูกมนุษย์ และกองเปลือกหอยแครง (Arcidae) จำนวนมากกองสุมอยู่บริเวณพื้นถ้ำ
    </TD></TR><TR><TD width="100%">-
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">ภาพเขียนสี</TD><TD width="50%" rowSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width="50%">ภาพเขียนมีปรากฏในถ้ำทั้งสองคูหาตาม
    ฝาผนังถ้ำและเพดานเป็นจุดๆ ไปภาพเขียนกลุ่มใหญ่อยู่บนฝาผนังถ้ำด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ในคูหา 2 เขียนต่อเนื่องกันตลอดแนวยาวผนัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">-
    </TD></TR><TR><TD width="100%">ลักษณะภาพเขียนสีที่ถ้ำผีหัวโตนี้แตกต่างไปจากภาพเขียนสีที่พบในที่อื่นๆ ในประเทศไทย ภาพที่ปรากฏเป็นภาพคน ภาพสัตว์ประเภท นก ไก่ ปลา ปลาหมึก จระเข้? เม่น? และกุ้ง ภาพมือและเท้า? และภาพลายเส้น ซึ่งอาจเป็นภาพเครื่องมือเครื่องใช้ เช่น แห หรืออวน และเรือ เป็นต้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="33%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="33%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="34%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="33%">-
    </TD><TD width="33%"></TD><TD width="34%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="25%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="25%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="25%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="25%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="25%">-
    </TD><TD width="25%"></TD><TD width="25%"></TD><TD width="25%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">ภาพทั้งหมดนั้นมีประมาณ 163 ภาพ ภาพคนนั้นมีจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยพบ (ประมาณ 40 ภาพ) มีหลายขนาดด้วยกัน สูงตั้งแต่ 15 ซม. จนถึง 95 ซม. และมีวิธีการเขียนรายละเอียดแตกต่างไม่ซ้ำแบบกันเลย แสดงให้เห็นใบหน้าและเส้นผม ประดับตกแต่งร่างกายหรือมีการแต่งตัวไม่ซ้ำแบบกันเลย แสดงอาการเคลื่อนไหวและอยู่นิ่งเฉยๆ
    </TD></TR><TR><TD width="100%">-
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="25%">[​IMG]</TD><TD align=middle width="25%">[​IMG]</TD><TD align=middle width="25%">[​IMG]</TD><TD align=middle width="25%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">-
    </TD></TR><TR><TD width="100%">ภาพปลาก็มีจำนวนมากเช่นกัน เขียนเหมือนธรรมชาติมาก มีรายละเอียดไม่เหมือนกันจนทำให้สามารถบอกได้ว่าภาพปลาบางตัวนั้นเป็นปลาชนิดใด
    </TD></TR><TR><TD width="100%">-
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="50%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="50%">-
    </TD><TD width="50%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="33%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="33%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="34%">
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">-
    </TD></TR><TR><TD width="100%">ภาพเขียนเหล่านั้นเขียนด้วยสีแดง น้ำตาลแดง สีดำ และสีเหลือง เขียนในแบบต่างๆ กัน คือ
    แบบระบายเงาทึบ (silhouette) แบบโครงร่างรอบนอก (outline) และเขียนแบบเค้าโครงร่างรอบนอก แล้วตกแต่งหรือเขียนลวดลายภายในด้วยลายเรขาคณิตเป็นเส้น หรือจุดสี จึงทำให้ภาพมีความ
    หลากหลายแตกต่างกัน โดยเฉพาะภาพคน มีลักษณะคล้ายภาพคนตามจินตนาการของเด็กๆ ซึ่งเรามักจะพบเห็นในภาพเขียนของเด็กๆในปัจจุบัน
    </TD></TR><TR><TD width="100%">
    <CENTER><TABLE width="50%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="50%">
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="70%">ถ้ำผีหัวโตนี้ ภาพที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นของถ้ำนี้ คือภาพที่อยู่บนเพดานใกล้ปากทางเข้าเป็นภาพคนคล้ายสวมเสื้อลายขวางยาวถึงข้อเท้า มีเขา กำลังเดินหันข้าง ซึ่งอาจเป็นคนแต่งกายเลียนแบบสัตว์ อาจเป็นหมอผีหรือผู้ประกอบพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ภาพสูงประมาณ 80 ซม.
    </TD><TD width="30%">
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="65%">อีกกลุ่มภาพหนึ่ง อยู่บนเพดานถัดเข้าไปในคูหา 1 ทางขวามือ มีภาพ 4 ภาพเรียงกัน มือซ้ายมี 6 นิ้วและมือขวา 5 นิ้ว แบบเงาทึบ ภาพลายเส้นกรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และภาพกุ้ง ?ระบายสีทึบ แต่ภาพที่น่าสังเกตที่ถ้ำผีหัวโตนี้คือภาพคนแทบทุกภาพมีภาพนกเกาะอยู่บนแขนหรือข้อมือซ้ายเสมอ
    </TD></TR><TR><TD width="65%">-
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="34%">[​IMG]</TD><TD align=middle width="33%">[​IMG]</TD><TD align=middle width="33%">[​IMG]</TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=3>-
    </TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=3>สิ่งที่สะท้อนให้เราได้เห็นเจตนาของผู้ที่เขียนภาพที่ถ้ำผีหัวโตนี้ ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความงาม แต่เป็นความต้องการที่จะบอกเล่าถึงสิ่งที่พบเห็น และ/ หรือ อาจมีความเชื่อบางอย่างแฝงอยู่ด้วย เช่น ภาพปลาที่มีเป็นจำนวนมากและมีลักษณะแตกต่างกันไป ดูเหมือนพยายามอธิบายชนิดของปลา ซึ่งอาจหมายถึงแหล่งอาหาร ปลาชนิดที่กินได้ หรือปลาที่หายาก หรือเกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมบางอย่างเพื่อความมั่นใจในการหาปลา หรือแสดงความเคารพต่อ (ปลา) สิ่งที่ช่วยให้พวกตนดำรงชีวิตอยู่ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="30%">[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="70%" rowSpan=2>ภาพคนกับภาพสัตว ์(รวมทั้งภาพคนแต่งกายเลียนแบบสัตว์?) หรือกับสิ่งของมักจะเขียนอยู่ร่วมกัน หรือใกล้ๆ กันน่าจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันทางใดทางหนึ่ง ดังเช่น ภาพคนที่มีนกเกาะอยู่บนแขนข้างซ้ายแทบทุกภาพและมีจำนวนมาก บางภาพเขียนร่วมอยู่กับภาพเรืออาจต้องการแสดง ให้เห็นว่านก (หรือเหยี่ยว) ที่เกาะอยู่บนแขนนั้นเป็นสัตว์เลี้ยง อาจช่วยในการจับปลาหรือหาปลา หรือนำทางไปหาแหล่งอาหาร หรือเป็นสัตว์นำโชค (ถือโชคลาง) หรืออาจมีความหมายเนื่องในพิธีกรรมความเชื่อ ดังเช่น พวกชาวเลหรือชาวทะเลอื่นๆ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่ท่องเที่ยวเดินทางร่อนเร่อยู่ตามหมู่เกาะต่างๆ และท้องทะเลในทะเลอันดามันมาช้านานมาก เชื่อว่าบรรพบุรุษของเขาตายไปจะอยู่ในร่างนก คอยคุ้มครองและบอกเหตุอันตรายแก่พวกเขา และเชื่อในโลกสวรรค์และนรก เมื่อมีคนตาย "นก" จะนำวิญญาณของผู้ตายหรือบรรพบุรุษของตนไปสู่สวรรค์โดยใช้เรือเป็นพาหนะเดินทาง
    </TD></TR><TR><TD align=middle width="30%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">จากรูปลักษณ์ของภาพที่มีแตกต่างปะปนกันหลายแบบและภาพมีความซ้อนทับกัน เป็นไปได้ว่ามีกลุ่มคนที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการจับสัตว์น้ำเป็นหลัก โดยใช้เรือแพเป็นพาหนะเดินทาง เข้ามาใช้ถ้ำนี้พักอาศัยและประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ หรือทำกิจกรรมสำคัญบางอย่างเป็นครั้งคราว และดำเนินการติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจมีคนหลายกลุ่มเข้ามาใช้ประโยชน์จากถ้ำนี้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ผลงานเขียนภาพที่ถ้ำผีหัวโตนี้แสดงถึงจินตนาการของผู้วาดภาพที่ถ่ายทอดและสื่อความหมายออกมาเป็นรูปแบบของภาพที่แตกต่างจากแหล่งภาพเขียนแหล่งอื่นๆ เท่าที่พบในประเทศไทย
    </TD></TR><TR><TD width="100%">-
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...