แจกแผ่นยันต์หนุนดวงชะตาฟรี

วันพรุ่งนี้ผมดีใจมากครับที่จะได้พบกับญาติธรรมท่านนึงที่จะเดินทางมาหาผมแต่เป็นห่วงอยู่ว่าจะออกมาได้อย่างไรถ้าถนนถูกปิด ผมรอมานานแล้วครับอยากคุยอยากเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง และที่สำคัญนะครับมีหลวงปู่หลวงพ่อสั่งให้ผมให้ความสงเคาระห์ญาติธรรมท่านี้หลายอย่างครับเขายังไม่ทันมาเลยครับแต่ครูบาอาจารย์ผมบอกแล้วว่าจะให้สงเคราะห์เขาเช่นไร แม้แต่หลวงปู่สัมฤทธิ์วัดถ้ำแฝดที่ท่านได้เมตตาสอนวิชาการปฏิบัติต่างๆในนิมิตยังมาบอกผมเลยว่าให้ทำพิธีสาวน้ำตาเทียนครอบมงกฎพระพุทธเจ้าให้กับญาติธรรมท่านนี้พร้อมทั้งหลวงปู่ในโลกทิพย์ยังบอกว่าช่วยสงเคราะห์วิญญาณลูกที่ติดตามตัวเขาอยู่ด้วยให้เขาได้มีโอกาสกลับมาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันอีก ผมมาดูตัวเองเราจะไหวไหมนี่พลังยังไม่เต็มร้อย ท่านบอกว่าเดี๋ยวท่านส่งพลังมาให้เองไม่ต้องค่อยนี่ผมก็เฝ้ารออย่างใจจดจ่ออยู่อีกอย่างท่านนี้ร่วมทำบุญให้ความช่วยเหลือผมมามากครับมิน่าเทวดาเทพพรหมครูบาอาจารย์ท่านถึงได้มีคำสั่งเมตตาให้ช่วยสงเคราะห์มากขนาดนี้ขออนุโมทนาบุญในการทำดีกับญาตฺธรรมท่านนี้ด้วยครับบารมีดีมากๆ

 

สาธุๆ ทั้งคุณและญาติคุณคนในครอบครัวคุณเคยเป็นญาติธรรมของหลวงปู่ท่านมาก่อนครับรวมทั้งเคยช่วยเหลือแม่ทามาในกาลก่อนด้วยครับเหมือนเป็นญาติธรรมกันมาแต่ปางก่อนเรื่องนี้หลวงปู่ท่านบอกนะครับผมอดใจไว้ไม่ไหวก็เลยไปตอบให้คุณในกระทู้จริงๆแล้วผมจะไม่ค่อยเข้าไปยุ่งในกระทู้อื่นเท่าไหร่ครับจะมาอยู่ในกระทู้นี้เท่านั้น

 

ขอความกรุณาอาจารย์เล่าให้ฟังอีกสักหน่อยได้มั้ยค่ะ พอได้อ่านข้อความของอาจารย์แล้วรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ รีบโทรไปบอกสามี เค้าก็รู้สึกขนลุกเช่นกันค่ะ มีความรู้สึกปิติอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ดิฉันไม่เคยได้รับรู้เรื่องอย่างนี้ แต่มีความรู้สึกยินดี และอยากรู้และเหมือนคุ้นเคย บอกไม่ถูกจริงๆค่ะอาจารย์ ตอนนี้ก็รู้สึกขนลุก และใจเต้นเร็วมากๆค่ะ

 

นั่นนะซิผมถึงบอกว่าให้คูณขอถ้าคุณขอแม่ท่านก็ให้เลยละ ขนาดผมไปท่านคุยกับผมเรื่องการปฏิธรรมคุยกันอยู่ดีๆท่านหยิบลูกแก้วเท่ากำปั้นมาให้บอกแม่ให้ไว้เก็บไว้ก่อนถึงเวลาจะมีญาติธรรมของเรามารับเอาไปเอง

 

อยากเล่าก็อยากเล่าให้ฟังนะครับแต่ก็กลัวว่าจะเป็นนิยายไปอีกอย่างผมไม่กล้าบอกอะไรมากกว่านี้ครับ ผมบอกแค่นี้หลวงปู่ท่านก็มองๆแล้วท่านคงอยากให้คุณรู้ด้วยตัวคุณเองมากกว่า ท่านสั่งเมื่อวานนี้ว่าทิดเซียงไปตอบอีหล้าน้อยหน่อยเด้อ มันซิอยากได้แฮงๆ (ท่านว่าแค่นี้) เหมือนตอนที่ผมไปนั่งหน้าลูกแก้วต่อหน้าท่านที่บ้านแม่ทา แล้วท่านสั่งให้ทำยันต์ปลดหนี้แจกนั่นแหละท่านก็พูดไม่มากเป็นภาษาอีสาน แต่แปลกมากๆท่านมาจะมีเสียงเหมือนไม้เท้าเคาะกับพื้นโปกๆๆมาก่อนทุกครั้ง บางคนบอกว่าท่านอยู่แดนนิพพานแล้วจะติดต่อได้อย่างไรเขายังไม่เข้าใจก็เลยไม่รู้เป็นเรื่องอจินไตยมากๆ

 

ค่ะดิฉันเองก็ได้รับความเมตตาจากท่าน ได้รับพลอยพญานาค และพระสมเด็จ มา 2 องค์ ดิฉันก็เลยช่วยทำบุญสร้างซุ้มประตูค่ะ และทุกครั้งที่มีงานกฐิน ผ้าป่า ก็จะนำซองมาช่วยแจกทุกครั้ง ซึ่งดิฉันเองก็มีเพชรพญานาค(ตามรูป) อยู่แล้ว นำไปให้ท่านดูท่านก็บอกว่าเป็นของพญานาค แล้วท่านก็ไม่ได้พูดอะไร ดิฉันก็เลยไม่กล้าถามค่ะ แต่ท่านจะยิ้มและมีเมตตามากๆ ค่ะ ส่วนเรื่องพระธาตุดิฉันรู้สึกอยากได้มากๆ ก็ตอนเริ่มปฏิบัติธรรม สวดมนต์อย่างจริงจังนี่หล่ะค่ะ จะรู้สึกนึกถึงหลวงปู่มั่นตลอดค่ะ

 

คุยเรื่องนี้ดีกว่า สัตรูที่ร้ายกาจในร่างกายตัวตนคือความหิว
เรื่องความหิวนี่คนเรามีความหิวสารพัด บางคนหิวอาหารอยากกินนั่นกินนี่อยู่ตลอดบางคนหิวอาหารทางตา บางคนหิวอาหารทางใจ บางคนหิวเรื่องทางโลกมากมาย บางคนหิวเงินทองกินไม่รู้จักอิ่มจักพอ ว่าแต่ว่าความหิวที่เรามีนั้นมันอยู่ในขอบเขตไหม ถ้าหิวอยู่ในขอบเขตตามความพอเพียงก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าหิวมากเกินไปก็ทำให้ทุกข์ละ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องเวลาหิวขึ้นมาต้องหาทางกินแล้วไม่กินตายคนเราอดอาหารได้ไม่กี่วันอดน้ำได้ได้ไม่กี่วันขาดอาหารก้ตายไม่หิวกินไม่ได้ก้ตาย เห็นไหมความหิวมันสำคัญนัก สร้างกิเลสได้สารพัดสารพัน แค่หิวข้าวยังกล้าฆ่าบุพการีได้เลยเหมือนก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ดูเอาเองเถอะ
ส่วนมากเวลาที่เราหิวไม่ว่าเราจะหิวอะไรแบบไหนเรามักจะต้องตามใจมันอยากกินอยากได้อยากเอาอะไรต้องรีบหาให้มันไม่งั้นทุกข์ตาย แต่เคยมีบ้างไหมที่เราทั้งหลายจะกินให้พอดีกินให้พอเพียงกินแต่สิ่งที่ดีไม่มากจนเกินไป มีแต่ปรนเปรอตามความหิวกันไปเรื่อยๆแค่หิวอาหารพอดีรู้ว่าที่นั่นที่นี่อร่อย ไกลขนาดไหนราคาแพงขนาดไหนก็ต้องรีบบึ่งไปหากิน
บางคนกินอาหารจานละหลายพัน ตามความหิวความอยากแต่เคยคิดไหมว่าเราไม่จำเป็นต้องกินอาหารแพงมากขนาดนั้น เอาพอดีๆ กินเข้าไปไม่ว่าอะไรมันก้อิ่มเหมือนกันนั่นแหละ แต่พวกเราไม่ค่อยใช้สติคิดกัน เลยปล่อยให้ความหิวมันทำลาย บางคนอยากกินของบางอย่างไม่ได้อย่างใจก้ไม่พอใจถึงขนาดทำลายกันและกัน ดูเอาเอง
เรากินเพื่อดำรงสภาพกายธาตูขันธืให้อยู่ได้ เท่านั้น เวลาหิวก่อนหาของกินแก้หิวคิดก่อนว่าเราควรกินอะไรกินได้เท่าไหร่กินแล้วดีงามหรือไม่ถึงจะดี นี่กล่าวถึงความหิวหมดทุกอย่างนะไม่ใช่แค่หิวอาหารอย่างเดียว
มีเรื่องนึง ตอนบวชอยู่มีครอบครัวนึงพ่อเป้นคนติดบุหรี่กับน้ำแข็งมากไม่กินไม่สูบไม่ได้โดยเฉพาะหลังกินข้าวต้องมีบุหรี่สูบมีน้ำแข็งเย็นๆใส่นำกินขนาดน้ำแช่ตู้เย็นยังไม่พอใจ วันนั้นฝนตกเวลาโพล้เพ้แล้วครอบครัวนี้มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากวัดคนละฝั่งถนนนั่งกินข้าวกัน ฝนมันตกแรงมากเวลาตอนนั้นรู้สึกว่าประมาณเกือบจะทุ่มนึงแล้ว พ่อบ้านพอกินข้าวเสร็จอยากบุหรี่พอดีบุหรี่มันหมดน้ำแข็งก้ไม่มีก็เลยโวยวายแล้วสั่งให้ลูกสาวอายุประมาณ13 14 ปีเดินกลางร่มออกไปซื้อทั้งๆที่ฝนก็ตกแรงมาก เวลานั้นผมกำลังจะจุดธุปเทียนทำวัตรเย็น ได้ยินเสียงเบรคของรถเสียงชนอะไรบางอย่างออกมาดูหน้ากุฏิพบว่ารถที่วิ่งมาด้วยความเร็วกลางสายฝนได้พุ่งเข้าชนเด็กสาวผู้นั้นที่กำลังเดินอยู่ข้างทางเพื่อออกไปซื้อบุหรี่และน้ำแข็งตามความอยากของพ่อ ผลปรากฏว่าเจ็บหนักอาการบางตาย พ่อแม่เด็กรู้เข้าแทบช็อค ทุกวันนี้เลยเลิกสูบบุหรี่เลิกหิวตามกิเลสเลยเข็ดดีที่ลูกหายเจ็บมีร่างกายที่ปกติได้ นี่ศัตรูร้ายความหิวเห็นไหม

 

---ผมกำลังฝึกเพ่งกสิณไฟอยู่ครับแต่เห็นเขาบอกว่ามันมีโทษได้ถ้ากสิณให้โทษจะมีอาการอย่างไรครับและมีวิธีแก้ไขอย่างใดได้บ้างครับ
ตอบ กสิณไฟฝึกแล้วมีฤทธิอภิญญาได้เร็วครับแล้วก็มีตาทิพย์ได้เร็วด้วยครับ แต่ต้องฝึกอย่างพอเพียงไม่มากจนเกินไป ครับ
โทษของกสิณนั้น มีครับแต่ทุกคนอาจได้รับไม่เหมือนกันครับ
1 เพ่งมากๆ ตามตัวจะร้อนครับ ตาจะแดงกลำ
2 มีอาการเหมือนเป็นไข้ร้อนในตัวรุมๆครับ กินยาแก้ไข้ก้ไม่หายครับ
3 มีอาการโทสะโมโหมากแบบผิดปกติครับ จึงเป็นข้อห้ามว่าคนที่แรงโทสะมากๆไม่ควรฝึกเพ่งกสิณไฟมากนักควรฝึกเพ่งกสิณน้ำหรือกสิณสีอื่นๆจะดีกว่าครับ
ที่กล่าวมาคืออาการบางอย่างเท่านั้นครับที่แสดงให้เห็นว่ากสิณเกิดโทษแล้ว
วิธีการแก้ไขครับ
1 ให้หยุดฝึกเพ่งกสิณไฟซักระยะนึงครับ
2 ฝึกเพ่งกสิณน้ำแทนครับเพื่อปรับธาตุในตัวให้มีระดับที่สมดุลกันครับ
3 เวลาฝึกครั้งต่อไปเพื่อไม่ให้กสิณไฟให้โทษมากนักให้จุดเทียนขึ้นแล้วเอาแก้วใสใส่น้ำวางบังไว้หน้าเทียนครับเวลาฝึกให้มองผ่านแก้วใสที่ใส่น้ำไปหาเปลวไฟครับกสิณไฟจะไม่ให้โทษมากนักและเผลอๆอาจได้กสิณสองอย่างควบคู่กันไปเลยก็มีครับ
ลองทำตามนี้ดูก่อนนะครับ เป็นการแก้ไขเบื้องต้น

 

- ,มีคำถามอยากถามอาจารย์ครับ เมืองไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากประกอบกับมีพระผู้ทรงคุณมากและเป็นเมืองพุทธแต่ทำไมตอนนี้ดูเหมือนจะวุ่นวายกันมากจังเลยครับเราขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยท่านจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหนครับ แล้วทำไมถึงเป้นเช่นนี้ครับ
ตอบ แหมคำถามนี้เหมาะเจาะเสียเหลือเกินนะครับ แต่ตอบยากครับผมก้ไม่ใช่ผู้ที่ล่วงรู้อะไรมากนักหรอกครับเป็นคนเดินดินกินข้าวแกงธรรมดา
คำถามที่คุณถามจัดอยู่ในหมวดที่ว่าถึงเรื่องที่ไม่ควรสงสัยเพราะจะทำให้ฟุ้งซ่านครับเรื่องที่ไม่ควรสงสัยเช่น เรื่องกรรม เรื่องวิสัยของผู้ได้ญาณ เรื่องทางโลกต่างๆเป็นต้นครับ แต่เมื่อคุณถามมาผมก้จะตอบให้ตามความรู้ที่ผมมีแค่กรวดหินดินเล็กๆน้อยๆแค่หางอึ่ง
1 สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงครับ และท่านก้ดูแลรักษาปกป้องอยู่จริงครับ
2 ท่านดูแลแต่ท่านไม่ใช่บังคับให้เป็นไปตามนั่นตามนี้ได้ครับเพราะทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้ของกฎแห่งกรรมทั้งกรรมในอดีตประกอบกับกรรมปัจจุบันครับ
3สังคมจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนครับที่นึกถึงส่วนรวมตามธรรมมากว่าส่วนตัวครับ
4 สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหามาจากกิเลสตัวใหญ่ คือ โลภะ โทสะ โมหะ ครับ
5 สิ่งศักดิสิทธิ์แม้ท่านจะพยามยามดูแลอย่างไรก็ตาม แต่ก้มีกฏอยู่สองอย่างครับที่ต้องคิดครับ คือ 1 กฏแห่งกรรมครับ 2 กฏของธรรมชาติครับ
6 สังคมจะดีนั้นจะดีได้ถ้าเปลี่ยนจิตสำนึกกันใหม่แม้จะไม่สามารถทำได้หมดทุกคนก็ตามแต่ถ้าทำดี คิดดี พูดดี มีใจเป้นธรรมให้แก่กันและกัน นั่นแหละครับ ถึงเปลี่ยนกรรมดำเป็นกรรมขาวได้ เปลี่ยนความร้อนในแรงกิเลสนี้เป็นความเย็นในเมตตาธรรมได้
7 เมื่อสังคมเป็นไปในทางที่ดีแล้วเบื้องบนก้พร้อมจะส่งเสริมครับ แต่ถ้าไหลตกไปในทางที่ตำท่านจะห้ามปรามไว้ ถ้าห้ามถึง3 ครั้งแล้วยังทำต่อ ท่านจะปล่อยให้มนุษย์โลกเลือกทางเดินเอาเองครับเป็นเรื่องของวิบากกรรมในส่วนนั้นๆครับแก้ไม่ค่อยได้จะแก้ได้ต้องเปลี่ยนกรรมดำให้เป้นกรรมขาวครับ
8 ขอให้คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้มีความไม่เที่ยงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาครับมีเสื่อมก็มีเจริญ มีดีก็มีชั่วได้ครับเป็นของธรรมดาครับ

 

-,มีเคล้ดลับในการทำสมาธิแบบง่ายไหมครับผมฝึกนั่งมานานแล้วแต่ไม่ไปไหนเลยเอาแบบง่ายๆนะครับตามที่อาจารย์ฝึกก้ได้
ตอบ 555ผมฟังคำถามแล้วผมงงครับที่คุณบอกว่านั่งมานานยังไม่ไปไหนคุณจะไปที่ไหนครับ ถ้าคุณฝึกถอดจิตอยู่แต่ยังทำไม่ได้ก็ว่าไปอย่างแต่ที่ว่านั่งมานานแล้วยังไม่ไปไหนนี่ผมไม่ค่อยเข้าใจครับ เพราะเรานั่งไม่ใช่เพื่อที่จะไปที่นั่นที่นี่ไปเห็นนั่นเห็นนี่ การนั่งแบบนั้นเป็นการฝึกให้เกิดอภิญญาครับ เราก็สามารถฝึกได้ไปได้เหมือนกันครับ แต่การนั่งจริงๆนั้นมีจุดประสงค์เดียวคือทำให้จิตสะอาดตั่งมั่นสงบเยือกเย็นครับเมื่อจิตนิ่งสงบแล้วจะเกิดปัญญาหรือที่เรียกว่าวิปัสนากันนั่นแหละครับคือการเกิดปัญญารู้แจ้งตามธรรมตามจริงครับ เข้าเรื่องดีกว่านะครับ
วิธีฝึกจิตง่ายๆเหมือนกินกล้วย
1 ให้ฝึกประคองสติอยู่บ่อยๆ เช่น ถ้าเราถนัดทางการมอง สมมุติว่าเรามองเห็นสภาพความวุ่นวายบนท้องถนน ก้ให้เปลี่ยนภาพเป็นท้องทะเล เป้นสวนดอกไม้ เป็นท้องฟ้าแทน จนกว่าจิตจะเริ่มนิ่งและว่าง ดังนี้เป็นต้น หรือว่าเราถนัดทางเสียงลองเปลี่ยนเสียงอึกทึกวุ่นวายเป็นเสียงสวดมนต์ในความคิดดูเช่น เมื่อได้ยินเสียงเพลงร็อคดังๆถ้ารู้สึกรำคาญเราก็รีบเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงสวดมนต์ บทสั้นๆในสมองเราก็ได้เช่น พุทโธ อะระหังฯลฯ
2 .ให้รู้จักชำระใจของเราบ่อยๆให้สะอาดและสงบ โดยใช้ศีลเป็นตัวหลัก ให้รู้เท่าทันอาการทางใจที่มากระทบเราแล้วรีบเปลี่ยนอาการทางใจให้ได้โดยเร็ว เช่น มีใครทำให้เราโกรธ เมื่อสติรู้ว่าโกรธแล้วต้องรีบเปลี่ยนอาการทางใจเป็นอย่างอื่น เหมือนที่หลวงพ่อ จรัญท่านสอน ให้เรามีสติกำหนดรู้เท่าทันอาการทางใจ เช่นเวลาโกรธก้ให้กำหนดว่าโกรธหนอๆจนกว่าอาการทางใจมันจะหายไปแล้วเมื่อมีอาการทางใจแล้วอย่าให้มีอาการทางกายร่วมด้วยจะได้ผลดีมาก
3 เมื่อทำสองอย่างได้แล้วจะรู้ว่าการฝึกจิตมีสติการทำสมาธิทำได้ทุกเวลาและไม่ยากจนเกินไปนัก และเมื่อเราทำได้ดีแล้วเรามานั่งกรรมฐานใหม่จะเห็นว่าจิตเรามีสมาธิมากขึ้นครับ ลองทำตามดูนะเผื่อได้ผลดี

 

-การเข้าสมาธิที่เรียกว่ารูปญาณ กับอรูปญาณ คืออะไรครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจรบกวนอาจารย์ตอบด้วย
ตอบ ที่กล่าวมา เขาเรียกว่าระดับของการเข้าสมาธิครับ จริงๆแล้วมีอยู่ระดับใหญ่อยู่ 4 อย่างด้วยกันครับ คือ
1 รูปญาณ ก็คืออาการที่เรายังมีสติรู้อยู่ในรูป เช่น รู้อยู่ในลมหายใจเข้าออก รู้อยู่ในสี หรืออะไรก็ตามที่เป็นอุปกรณ์เป็นรูปเป็นร่าง เรามีสติเกาะอยู่กับสิ่งนั้นๆ เขาเรียกว่ารูปญาณครับ
2 อรูปญาณ คือมีสติเกาะอยู่กับสิ่งที่ไม่มีรูป เช่น จิตเกาะอยู่จิต จิตมันรวมตัวจนเกิดความซาบช่านมองเห็นได้ถึงแสงส่วางของจิตที่เป้นประภัสสร แม้จะไม่มีรูปก้เห้นได้ มันอยู่ของมันโดยไม่มีรูปทรงใดๆ นั่นเรียกว่าอรูปญาณ หรือมีอาการว่างไปหมดไม่มีตัวตนไม่มีอะไรเลย
3 นิโรธสมาบัติ ญาณนี้เป็นของพระอริยะชั้นสูงที่ดับกามราคะได้แล้ว เป็นญาณของพระอริยเจ้าในระดับอนาคามี
4 โลกุตระญาณ ญาณนี้จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติได้เองเมื่อใครก็ตามที่สามารถชำระจิตใจของตนเองให้สะอาดจนถึงขั้นระดับอริยเจ้า ตั้งแต่โสดาบันจนถึงอรหัตผล ญาณในขั้นพระอริยเจ้านี้จะไม่มีทางเสื่อมครับเพราะใจท่านชำระสอาดอยู่ตลอดเวลา เป็นธรรมชาติของจิต
3

 

-,มีความสับสนในเรื่องเกี่ยวกับผู้ที่สอนธรรมะ บางทีก็บอกว่าคนนั้นสอนผิดบางทีก็บอกว่าคนนั้นสอนถูกก็เลยไม่รู้จะเชื่อใครดีอย่างนี้ควรทำอย่างใรแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนสอนผิดคนไหนสอนถูก
ตอบ ในเรื่องนี้ถ้ามัวไปหาว่าคนไหนผิดถูกก็คงใช้เวลานานเพราะบางคนอาจถูกตรงนี้แต่อาจผิดตรงนั้นก้ได้ไม่มีใครที่จะผิดเสมอไปหรือถูกเสมอไปยกเว้นผู้ทรงธรรมในระดับสูงเท่านั้น เอาวิธีง่ายๆเลยถ้าเราสับสนไม่รู้จะเชื่อใคร ให้เชื่อพระพุทธองค์เป็นหลักเอาคำสอนของพระพุทธองค์เป็นหลักนั่นถูกต้องที่สุด ง่ายดี เหมือนกันใหม่ๆผมสับสนเราจะฟังใครดีทำไปทำมาเรามาคิดเรากำลังศึกษาอะไรใครเป็นผู้สอนค้นพบว่าพระพุทธองค์เป็นผู้สอนก็เลยคิดว่าเราเชื่อพระพุทธองค์ท่านเป็นหลักดีกว่าถ้าสงสัยอะไรก็ตาม

 

-มีความสับสนเวลาทำบุญบางคนบอกว่าทำบุญวัดนี้ดีได้บุญมากทำบุญวัดนั้นไม่ดีได้บุญน้อยก็เลยรู้สึกสับสนมากอย่างนี้ต้องทำอย่างไรคะ
ตอบ ต้นตอของบุญอยู่ที่ใจแล้วบุญนั้นเกิดได้ทั้ง10อย่างที่เราเรียกกันว่าบุญกิริยาวัตถุ10แต่พรุพุทธองค์ท่านทรงรวบรัดอยู่แค่สามอย่าง คือการให้ทาน การรักษาศีล การทำกรรมฐาน เราควรที่จะทำให้ครบทั้งสามอย่างถึงจะดี บางคนทำทานอย่างเดียวผลที่ได้ร่ำรวยมีอยู่มีกินไม่อดไม่อยาก แต่หน้าตาไม่งามไม่หล่อไม่สวย ไม่มีปัญญา
บางคนรักษาศีลอย่างเดียว แต่ทานไม่ทำก้ส่งผลให้มีผิวพรรณรูปร่างหน้าตาที่ดี แต่ยากจนและไม่มีปัญญา บางคนทำกรรมฐานมีปัญญามากแต่จนไม่สวยหล่อ ดังนั้นเราต้องทำทั้งสามอย่างนี้รวมกันถึงจะดี
แต่ที่คุณถามมานั้น คุณต้องเข้าใจว่าองค์ประกอบของทานที่ทำนั้นจะเกิดผลมากประกอบด้วยอะไรบ้าง คือ
1 วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์ 2 ผู้ให้ต้องบริสุทธิ์ 3 ผู้รับต้องบริสุทธิ์ ผลบุญนั้นถึงจะเต็มเปี่ยม
และอาการทางใจก่อนให้ เวลาให้ หลังจากให้ทานต้องดีด้วย
ปัญหาของคุณคือกำลังใจในการทำทานถูกตัดรอนไป จิตตกเพราะกลัวว่าทำไปแล้วได้บุญหรือไม่ ดังนั้นผลทานจึงไม่ค่อยมีผลมากนักเพราะขาดอาการทางใจที่ดีคือจิตตกกังวล
ดังนั้นคุณต้องเลิกกังวลเลิกสับสน ทำใจของคุณให้มีอากรทางใจที่เลื่อมใส ยินดี ปลื้มใจทั้งก่อนให้ทาน ในขณะที่ให้ทาน และหลังที่ให้ทาน ให้ได้ผลบุญนั้นจะส่งผลมหาศาล
แล้วยิ่งถ้าตัวผู้ให้มีคุณธรรมสูงถึงแม้จะเอาไปให้กับผู้ทุศีลก็มีบุญมากเพราะตัวผู้ให้มีคุณธรรมสูงกว่าอยู่ในตัว

 

กระทู้ของผมมีครบทุกเรื่องทั้งทางธรรมสอนกรรมฐานสอนกฎแห่งกรรมสอนวิชาแก้ไขแก้เคล้ดต่างๆแล้วทุกท่านคิดว่าน่าจะเอาเรื่องใดมาเสริมมาเติมมาต่อกันอีกครับขอความคิดเห็นด้วย จะได้ปรับปรุงให้อ่านกันได้ทุกรสทุกวัยทุกความต้องการ แบบว่าอยากอัพเดทให้ทันสมัยหน่อย55ว่าเข้าไปนั้น ผมมีความสุขกับการให้ธรรมทานครับไม่เหนื่อยไม่เบื่อครับทำแล้วปลื้มปิติใจมากครับที่ให้สิ่งดีๆแก่ทุกท่านแม้จะไม่มากนักก็ตามเพียงแต่ว่าจะมองเห็นสิ่งที่ดีที่ผมมอบให้หรือไม่ก้เท่านั้นครับ

 

แนะนำให้อาจารย์ดูดวงและดูกรรมแต่ละคนค่ะเพื่อการใช้ชีวิตจะได้ไม่ประมาท จะขอจองเป็นคนแรกเลยค่ะ555

 

"ไม่ให้ขัดโลก ไม่ให้ฝืนธรรม
โลกก็ไม่ให้ช้ำ ธรรมก็ไม่ให้เสีย"

ครบทุกเรื่องจริงๆ ครับ

โมทนาบุญกับท่านอาจารย์ด้วย ครับ

 

อ.ครับเอาเป็นว่าวันอาทิตย์นี้ (12)ผมไปหาแล้วกันนะครับ ไม่ทราบอ.ว่างหรือเปล่า คงจะพาเจ้าตัวเล็กไปด้วยครับ อาจจะทำให้ได้คุยกับอ.ไม่ได้นานนัก

 

วันที่ 12 -13 ทางเหนือทางล้านนาถือว่าเป้นวันพญาวันครับผู้ที่เรียนวิชาทางล้านนาหรือทางพม่าต้องทำพิธีบูชาสาไหว้ครูยกครูแต่งขัน ถือเป็นธรรมเนียมของแต่ละสำนักที่สืบทอดกันมา ผมคงไม่สดวกในวันดังกล่าวนี้ทั้งสองวันครับอย่างไรให้โทรสอบถามผมอีกครั้งครับ วันพรุ่งนี้ผมจะแอบไปพักที่บ้านหลังเล็กๆสมถะนอกตัวเมืองครับบ้านหลังนี้ผมจะใช้พักผ่อนครับเวลาที่เหนื่อยมากๆไม่ค่อยมีใครทราบเท่าใดครับนอกจากคนที่สนิทกันเท่านั้นถึงจะทราบได้ครับอย่างไรหลังวันที่13โทรมาหาผมอีกครั้งแล้วกันนะครับ

 

วันนี้ผมจะเข้ามาในเว็ปตอนเย็นๆครับ มีญาติธรรมท่านนึงเดินทางมาหาผมครับ และก็มีลูกศิษย์นัดไว้อีกหลายท่านครับ อย่างไรเย็นๆจะเข้ามาครับ

 

บทสวดเมตตามหาจักรวาล
นะโมตัสสะ ภะคะวะโตอะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
พุทธังเมตตาคุณังอะระหัง ธัมมาเจโตวิมุตติ
ธัมมัง เมตาคุณังอะระหัง ธัมมาเจโตวิมุตติ
สังฆังเมตตาคุณังอะระหัง ธัมมาเจโตวิมุตติ
สัพเพ มนุสโส ปุริโส อิตถึโย เจโตวิมุตติ
สัพเพมนุญยัง ปุริโส อิตถีโย เจโตวิมุตติ
เมตตาคุณังอะระหังเมตตา โลโภ โทโส โมหะเวโร สัพพะอันตรายัง วินาศสันตุ
เทวะตะโย พรหมโม อะระหะโต สะทาโสตถี ภะวันตุเต
ให้สวดตามกำลังวันเพื่อบรรเทาทุกข์บนโลกมนุษย์ บรรเทาทุกข์เหตุการบ้านเมือง
(บทสวดนี้ได้มาจากครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์)
ขอให้ช่วยกันสวดจนกว่าจะถึงวันที่22เมษายนนี้ เพื่อความสงบสุขโดยทั่วกันใต้ฟ้า