ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    สวัสดีตอนเช้าครับคุณคัดเค้าและเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่าน

    คุณคัดเค้าเข้ามาแต่เช้าเชียวนะครับ

    ขอให้มีสุขสดชื่นตลอดทั้งอาทิตย์นะคร้าบ
     
  2. watwa-aram

    watwa-aram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +974
    ได้ค่ะป้าคัดเค้า..แม่นแล้วเนาะเอาหมกหน่อไม้กะได้คะ หนูกะมักหลายคือกัน..ขอบคุณที่เตือนสติ หนูบาปหนาหลายแต่น้อยๆๆ กินสัตว์ทุกชนิดตามยถากรรมเด็กบ้านนอกคอกนา แต่พอโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่า...ชาตินี้จะทำบุญกลบบาปหมดไหมนิ..แมงวี่ แมงวัน จุดจี่ จี่นูน จิป่ม กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด ฯลฯ .........แย่จัง..เป็นตาหน่ายเด้เนาะป้าเนาะ
     
  3. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    kadkao, อ้างว้าง, pk010209, Jhumlongrak, Fon&Hugo, Tua-Lek, kunmeng

    สวัสดีค่ะ คุณคัดเค้าคนงาม, คุณอ้างว้าง, คุณpk, น้องลักษ์, คุณFon&Hugo, น้องตัวเล็ก, และคุณพี่เม้ง

    อนุโมนทนากับคุณคัดเค้าด้วยเจ้าค่ะ สำหรับการคัดกรองรายชื่อสมาชิกในเรือน ได้บุญหลายนะเจ้าค่ะ

    ขอโทษคุณอ้างว้างด้วยนะคะ เมื่อคืนออกจากกระทู้ซะก่อน เลยไม่ได้สวัสดีตอบ สวัสดีเช้านี้แทนละกันนะคะ

    คุณpk, น้องลักษ์, คุณFon&Hugo, น้องตัวเล็ก, คุณพี่เม้ง สบายดีหรือเปล่าค่ะ

    คุณพี่เม้ง ช่วงนี้ไม่มีเรื่องตื่นเต้นขนหัวลุกมาเล่าให้น้อง ๆ ฟังอีกหรือคะ รอฟังอยู่ค่ะ

    ขอให้ทุก ๆ ท่านในเรือนแห่งนี้มีดวงตาเห็นธรรม ละกิเลส ตัณหา อุปาทาน เครื่องเศร้าหมองทั้งหลายทั้งปวงได้ในเร็วพลันค่ะ ^_^
     
  4. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ขยันจริงๆนะคะคุณป้าผู้ใจบุญ

    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  5. watwa-aram

    watwa-aram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +974
    ป.ล.แมงวี่ แมงวัน ไม่ได้กินเด้อคะ เดี๋ยวเข้าใจผิด ทำลายชีวิตเขาอย่างเดียวเลย แมงวี่ก็ชอบมาตอมแผลตอนหนูน้อยๆๆ แมงวันก็ชอบมาตอมปลาร้าสับหนู หนูเลยจัดการเลย เฮ้อ..สงสัยตายไปแมงวี่แมงวัน ต้องมาเจาะหนูในนรกแน่เลย...เศร้า
     
  6. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    สวัสดีค่ะ คุณเมย์ วันนี้มาตอนเช้าเหรอคะ

    ........อุ่นหนาฝาคั่งดีจังวันนี้....
     
  7. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    สวัสดีค่ะ คุณจิน
    แว๊ปมาตั้งตะเมื่อไหร่เนี่ย
    สบายดีนะคะ

    ลืมตอบคำถามของคุณคัดเค้า
    เมย์ไม่ใช่คนพิจิตรหรอกค่ะ
    เป็นคนประจวบแต่กำเนิดค่ะ
    แต่ที่ถามหาคนพิจิตร เพราะอยากได้คาถาปราบจระเข้น่ะค่ะ
    จะเอาไปให้เฮียเม้งท่าน (อ้าว!)
    เห็นคุณคัดเค้าทำบุญไม่ขาดสายเช่นนี้ อิ่มใจไปด้วยค่ะ
    รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
     
  8. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ที่สุด ในเรือนพญานาค (ฉบับคิดเองนะจ๊า)
    ;40
    ใจดีและสุภาพที่สุด.............. พี่ชาติ
    ทำบุญเก่งที่สุด..................คุณป้าคัดเค้า
    เป็นเด็กมหัศจรรย์ที่สุด..........น้องธีร์วินท์

    ความรู้กว้างขวาง(ทางธรรม)ที่สุด .......เฮียเม้ง
    ฉลาดลึกซึ้งทางธรรมที่สุด ...............คุณอ้างว้าง

    ชอบเผยแพร่ธรรมะที่สุด ................คุณ Aodzilla
    อาโนเนะที่สุด ..........................น้องจิ๊บจัง
    น่ารักเหมือนจินที่สุด ...................คุณเมย์ (ฮ่าๆๆ ล้อเล่ง)

    เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักที่สุด ................พี่ดีดี
    อารมณ์ดี (แต่น่ากลัว)ที่สุด ...........ป้าแน็ต

    ที่สุดของที่สุด ............พี่ศศิริยะ
    (แฮ่ะๆ...มิกล้าวิจารณ์ คนนี้ต้องยกไว้)

    ;aa24
     
  9. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    มีบทความน่าสนใจของคุณดังตฤณ นำมาฝากค่ะ อาจจะกินพื้นที่เยอะนิดหนึ่ง ขออนุญาตนะคะ
    ----------------------------------------------------------------------------------------

    <TABLE class="contentpaneopen top-"><TBODY><TR><TD class="contentheading " width="100%">ฝึกสติรู้ลมหายใจ </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]


    โดย ดังตฤณ


    ต้องเจริญสติไปถึงไหนมือใหม่จึงจะมั่นใจว่ามาถูกทาง? นี่คือข้อกังขาสามัญที่ต้องเกิดขึ้นกับมือใหม่ทุกคน ซึ่งผมก็เช่นกัน
    บนเส้นทางสายนี้ คุณจะไม่รู้สึกมั่นใจจนกว่าจะมีใจมั่น นั่นคือจิตอยู่ในสภาพตั้งมั่นรู้ มากกว่าที่จะซัดส่ายคิดไปเรื่อย
    ภาวะที่จิตฟุ้งซ่านซัดส่ายไปเรื่อยนั่นแหละ ต้นเหตุสำคัญของความไม่แน่ใจ แม้จะเกิดสติรู้เห็นกายใจบ้างแล้ว ก็เหมือนมีคลื่นรบกวน แทรกแซงความรู้เห็น ตลอดจนชะล้างความมั่นใจให้หายเกลี้ยงร่ำไป
    ช่วงสามเดือนแรกของการฝึกตามตำรา คอยระลึกเท่าที่จะนึกได้ว่าตอนนี้กำลังหายใจออก ตอนนี้กำลังหายใจเข้าผมไม่มีความมั่นใจเลยว่ามาถูกทาง บางครั้งคัดแน่นอึดอัดไปหมด บางครั้งถามตัวเองว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่ บางครั้งสงสัยว่าจะต้องเห็นลมหายใจให้เป็นภาพหรือเอาแค่รู้ว่าหายใจ บางครั้งงงว่าต้องรู้เฉพาะจุดกระทบของลมตรงไหน ฯลฯ
    ผมมีแต่ศรัทธาว่าทำตามพระพุทธเจ้าสอนเป็นหลักใจอย่างเดียว เรียกว่ามีความสว่างหนุนหลัง ที่เหลือในหัวเต็มไปด้วยความสงสัยคลางแคลง เรียกว่าเดินหน้าอยู่บนก้าวย่างที่เป๋ไปเป๋มาเกือบตลอด
    อย่างไรก็ตาม ส่วนลึกมีความเชื่อว่าเราทำตามพระพุทธเจ้าสอน แล้วเราก็สังเกตไปเรื่อยๆว่าอย่างไหนก้าวหน้าอย่างไหนก้าวหลัง อย่างไหนเทียบเคียงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสได้ ก็น่าจะเป็นการเพียงพอ ผมไม่พยายามแสวงหาครูบาอาจารย์ อาจเป็นเพราะไม่รู้จะไปหาที่ไหน และสมัยนั้นสื่อประชาสัมพันธ์สถานฝึกกรรมฐานก็ไม่แพร่หลายเหมือนเดี๋ยวนี้
    ผมมักนั่งหลับตาระลึกถึงลมหายใจเป็นชั่วโมง เพียงเพื่อตอนลืมตากลับ รู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกได้แจ่มชัดกว่าเป็นไหนๆ หลายเดือนกว่าจะฉุกคิด พยายามใช้ปัญญาสำรวจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นไปได้
    ผมจับสังเกตได้ทีละนิดทีละหน่อยว่าทุกครั้งเมื่อปิดตาลง จะเกิดอาการเล็งจิตเข้าไปที่จมูก หรือบางทีก็หว่างคิ้ว หรือบางทีก็ตรงกลางๆบริเวณส่วนที่กลวงๆในตัว ด้วยความคาดหวังว่าจะสงบลงทันใด เข้าใจว่าความคิดเป็นสิ่งบังคับให้สงบระงับกันได้
    ส่วนลมหายใจ ผมก็ไปสำคัญว่ามันต้องยาว ต้องลึกทุกครั้ง ถึงจะนับว่าดี ผลคือเกิดความอึดอัดคัดแน่น คับแคบตั้งแต่แรกเริ่มปิดตาตั้งใจทำสมาธิกันเลยทีเดียว
    เทียบกับตอนลืมตา สายตาผมจะแลไปตรงๆ ไม่โฟกัสที่จุดจุดหนึ่งข้างหน้า ทำให้จิตไม่เล็งสั้นๆแคบๆ มีความเปิดกว้างยิ่งกว่าตอนปิดตาเล็งจมูกเยอะ จากนั้นจึงนึกถึงลมหายใจเล่นๆ ไม่เอาจริงเอาจัง ไม่พยายามบังคับว่าต้องเลิกฟุ้งซ่านในทันที อีกทั้งไม่คาดหวังว่าลมจะต้องดี ต้องยาวท่าเดียว จุดเริ่มต้นจึงสบายใจกว่ากันเยอะ
    ผมสังเกตต่อว่าพอสบายใจแล้วระลึกเท่าที่จะนึกออกว่า ลมหายใจกำลังเข้า ออก หรือหยุด แค่นั้นเอง เดี๋ยวก็กลายเป็นความเคยชิน แม้จะเหม่อลอยไปบ้าง ลมหายใจก็เหมือนปรากฏอยู่ในความรับรู้เอง ไม่ต้องเพ่งพยายามให้เหนื่อย
    ต่อมาผมอ่านจากหลายแห่ง พบว่ากล่าวไว้ตรงกันว่าหลักการทำสมาธิที่ถูกนั้น จะต้องได้ความรู้สึกเป็นสุข อิ่มใจ สบายตัว ไม่ใช่เป็นทุกข์ แห้งเหี่ยว เนื้อตัวแข็งกระด้างแต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าการเริ่มต้นที่ดี ควรทำอย่างไรก็ได้ให้ห่างไกลจากความเคร่ง เพ่ง และเกร็ง
    จับหลักได้เช่นนั้น ผมก็สนุกกับการทำสมาธิมากขึ้น ไม่ดันทุรังนั่งหลับตาขัดสมาธินานๆ เมื่อใดมีโอกาสนั่งเก้าอี้ได้ก็เอาเลย จะอยู่ในห้องนอนหรือรอใครในที่สาธารณะก็ตาม ผมเริ่มด้วยการสำรวจสังเกตว่าฝ่าเท้างองุ้มไหม ถ้างุ้มหรือเกร็งอยู่ก็คลายออกเสีย วางเท้าแบราบกับพื้นอย่างสบาย
    มันได้ผลทุกครั้ง พอฝ่าเท้าสบาย พื้นจิตพื้นใจก็พลอยสบายตาม แสดงให้เห็นชัดว่าอาการของฝ่าเท้าสะท้อนได้ว่าสภาพจิตของเราเครียดหรือสบายอยู่ เมื่อทำให้เท้าสบาย จิตก็หายเครียดไปเยอะ
    จากนั้นจึงสำรวจว่าฝ่ามือผ่อนคลายหรือกำอยู่ ถ้ากำก็คลายเสีย ให้เกิดความรู้สึกผ่อนพักสบายไม่ต่างจากฝ่าเท้า และถึงที่สุด ผมสำรวจขั้นสุดท้ายว่าทั่วใบหน้าผ่อนคลาย หายขมวด หายตึงหรือยัง แค่สำรวจเฉยๆก็เป็นเหตุให้กล้ามเนื้อทั้งใบหน้าคลายออกหมดได้
    เมื่อฝ่าเท้า ฝ่ามือ และใบหน้าคลายจากความฝืนทั้งหมด อุปสรรคของสมาธิก็หายไป จิตเปิดกว้างสบาย พร้อมจะรู้ พร้อมจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับกายใจบ้างแล้ว คุณลองดูตอนนี้ก็จะเห็นจริงตอนนี้เลยเช่นเดียวกัน
    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมใช้ความสบายตัวสบายใจเป็นฐานในการรู้ลมตามจริงเสมอ กล่าวคือเมื่อแน่ใจแล้วว่าใจเปิด ใจสบาย ค่อยถามตัวเองว่าตอนนี้ร่างกายต้องการเรียกลมเข้าหรือยัง ตอนนี้ร่างกายต้องการระบายลมออกหรือเปล่า ตอนนี้ร่างกายต้องการพักลมหรือไม่
    ด้วยอุบายสังเกตความต้องการของร่างกายเช่นนี้ ช่วยให้ผมหายใจตามจริง ไม่ใช่หายใจตามอยาก กับทั้งปล่อยให้ลมเกิดขึ้นตามควร ไม่ใช่บังคับลมยาวอยู่ตลอด ผิดจากความต้องการจริงของร่างกาย
    ผลของการรู้ลมไปเรื่อยๆด้วยความสบาย คือ จิตจะพอใจ ไม่อยากคิดถึงเรื่องอื่น เห็นเรื่องอื่นสำคัญน้อยกว่าลมหายใจเฉพาะหน้า
    และความที่เริ่มฝึกจิตด้วยการมีพระพุทธเจ้าเป็นครูสอน เมื่อตระหนักว่าท่านสอนให้หมั่นพิจารณาความไม่เที่ยง ผมก็ฝึกดูลมโดยความเป็นของไม่เที่ยง ตรงนี้ต้องใช้เวลาจับจุดอยู่นานว่าเมื่อใดจึงควรพิจารณาว่าลมเป็นของไม่เที่ยง เพราะเมื่อพยายามคิดๆนึกๆเอา เช่น ลมเป็นของภายนอก เข้ามาข้างในเดี๋ยวเดียวก็ต้องคืนกลับไป ไม่นานก็กลายเป็นฟุ้งซ่าน และไม่รู้สึกเลยว่าลมหายใจไม่เที่ยง
    ต่อเมื่อสังเกตออกว่าถ้าเฝ้ารู้ลมว่าเดี๋ยวออก เดี๋ยวเข้า เดี๋ยวสั้น เดี๋ยวยาว โดยไม่คิดอะไรเพิ่มเติม กระทั่งจิตสงบลงบ้าง จึงรู้สึกได้เองว่าลมหายใจไม่เที่ยง และแม้ไม่พิจารณาว่าลมหายใจสักแต่เป็นธาตุลม มีเพียงลักษณะพัดไหว ไม่มีบุคคลอยู่ในอาการพัดไหว ในที่สุดก็เกิดความเข้าใจขึ้นมาเช่นนั้นได้เอง
    แม้จิตยังไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิขั้นสูง ผมก็เกิดประสบการณ์การรับรู้ที่แตกต่างไป หน้าตาและตัวตนคล้ายล่องหน มีแต่ความรู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกตามจริง และคล้ายกับว่าลมหายใจรู้ตัวเองว่าเป็นสภาวะชั่วคราวอะไรอย่างหนึ่ง ไหลเข้าแล้วต้องไหลออก ชุดหนึ่งยาว อีกชุดหนึ่งสั้น เอาแน่เอานอนไม่ได้
    แม้จับทางถูก จิตของผมก็ใช่จะมีกำลังสามารถรู้ลมได้ตลอดเวลา ก็ตกลงกับตัวเองว่ารู้ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น นึกได้เมื่อไรก็สังเกตไปเล่นๆเมื่อนั้น ไม่บังคับว่าต้องถี่ห่างขนาดไหน ปล่อยให้พัฒนาไปตามธรรมชาติดีกว่า
    ผมพบว่าในชีวิตประจำวันมีโอกาสทำสมาธิได้บ่อย โดยเฉพาะเวลานั่งรถเมล์กลับบ้าน หรือต้องนั่งรถยาวๆข้ามจังหวัด ผมไม่เกี่ยงว่าจะต้องนั่งสมาธิแบบหลับตาหรือลืมตา แค่ปล่อยให้ใจไปผูกอยู่กับลมเป็นสำคัญ แม้กระทั่งก่อนนอนก็นึกถึงลมเรื่อยๆ ฟุ้งซ่านบ้าง ปลอดโปร่งบ้าง ขอให้บอกตัวเองได้ว่า ยังเต็มใจอยู่กับลมเป็นพอ
    บางคืนผมมีประสบการณ์ไม่ดี ไปเพ่งจับลมหายใจแน่นเกินไป เกิดความอึดอัด ตาแข็ง นอนหลับไม่สนิท ผมก็จำไว้เป็นบทเรียน คืนต่อมาฝึกใหม่ สังเกตที่ใจเป็นหลักว่าขณะรู้ลมอยู่นั้น มีความสบายหรืออึดอัด และค้นพบว่าความแข็งขืนฝืนตัวจะเริ่มเกิดเมื่อตั้งอกตั้งใจเกินพอดี แทนที่จะ รับรู้เฉยๆกลับไป เพ่งจ้องให้รู้ชัดๆเอา
    ผมได้ข้อสรุปว่าถ้าจะมีสติรู้ลมก่อนนอน ต้องระวังเรื่องอาการจดจ้อง และการระวังที่ดีที่สุด ก็คือสังเกตตั้งแต่แรกว่ากายใจยังสบายอยู่ไหม เมื่อไรอึดอัดไม่สบาย ต้องรู้เท่าทัน ก่อนมันจะลุกลามใหญ่โต
    ตามธรรมชาตินะครับ เมื่อก่อนนอนหลับเราเอาใจไปผูกอยู่กับลมหายใจหลายๆคืนเข้า พอตื่นนอนใจจะนึกถึงลมหายใจเองโดยอัตโนมัติ ผมจำได้ดีว่าช่วงแรกๆที่ฝึกสติรู้ลมหายใจ ตื่นนอนเมื่อไร กายจะลุกขึ้นนั่งตรง ลากลมหายใจยาว และจิตจะทำงานเป็นอัตโนมัติ ตื่นตัวรับรู้แบบที่ไม่ฝืน ไม่เพ่งเล็ง ไม่บังคับแม้แต่นิดเดียว ปลอดโปร่งเป็นสุขดีแท้
    ความเชื่อมั่นจริงๆว่ามาถูกทาง เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อจิตตั้งมั่นเป็นอุปจารสมาธิ เช้าตรู่นั้นผมนอนอยู่ในบ้านริมทะเลของคุณพ่อ และตื่นขึ้นด้วยความเคยชินที่จะระลึกถึงลมหายใจ ทว่าครั้งนั้นแปลกและแตกต่างตรงที่จิตส่องสว่าง เหมือนกลายเป็นดวงแสงนวลขนาดใหญ่ กระจายรัศมีอาภาเป็นวงกว้าง รู้สึกถึงความแช่มชื่นปรีดา ยิ่งกว่าที่เราอยากยิ้มกว้างที่สุดด้วยเรื่องน่ายินดีที่สุด รสวิเวกแห่งจิตที่ได้ลิ้มยามนั้นมันแปลก หน้าท้องคล้ายพองออกได้มากกว่าปกติเป็นสองเท่า ลมหายใจที่ถูกลากยาวเข้ามา ปรากฏกระจ่างเป็นทางชัดราวกับสายน้ำตกกลางอากาศว่าง สติเต็มตื่น รับรู้ ณ ขณะแรกสุดแห่งต้นลมเข้าไปจนกระทั่ง ณ ขณะท้ายสุดแห่งปลายลมออก
    จิตตั้งมั่นเด่นดวงเป็นผู้รู้ผู้เห็นว่าสายลมมีอยู่ แต่ไม่มีบุคคล!
    ผมมาทราบในภายหลังว่าที่เห็นลมหายใจอย่างชัดเจน ประดุจนิมิตสายน้ำเช่นนั้น ตำราเรียก อุคหนิมิตซึ่งปรากฏในสมาธิเฉียดฌาน และนิมิตนั้นก็เกิดจากของจริง สัมผัสจริง ซึ่งตาเนื้อเห็นไม่ได้ ต้องอาศัย ตาในคือสัมผัสทางจิตเข้าไปรู้เห็น
    ประโยชน์ของการรู้ลมหายใจโดยความเป็นอุคหนิมิตในขั้นอุปจารสมาธิ คือทราบขณะแห่งความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของลมหายใจอย่างแจ่มแจ้ง จิตเฝ้ารู้เฝ้าดูความเกิดดับอย่างถนัด และ ณ ขณะแห่งความรู้ชัดเช่นนั้นเอง ไม่มีใครมาหลอกได้ว่าลมหายใจเป็นเรา เราเป็นเจ้าของลมหายใจ
    ตราบเท่าที่จิตตั้งมั่นรู้เห็นอยู่เช่นนั้นเอง คือขณะแห่งความเป็นสัมมาสมาธิ ผมไม่เคยเข้าใจคำว่า สัมมาสมาธิกระทั่งเกิดประสบการณ์ตรงในเช้าตรู่ดังกล่าว และเมื่อเข้าใจแล้ว ก็เกิดกำลังใจที่จะเดินหน้าหาความคืบหน้ากันต่อไป
    ก็เมื่อใจมั่น กระทั่งมั่นใจแล้วว่ามาถูกทาง ใครล่ะจะอยากถอยหลังหรือกระทั่งคิดหยุดเดินหน้า
     
  10. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    สวัสดีเพื่อนๆกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ

    ไม่ได้เข้ามาทักทายทุกท่านทุกวัน แต่ก็แว็บมานั่งเล่น ที่เรือนในยามว่างนะคะ ขอบพระคุณคุณปฏิสัมภิทัปปัตโต

    สำหรับธรรมทานด้านบนด้วยนะคะ สาธุ
     
  11. Jhumlongrak

    Jhumlongrak สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดี ทุก ๆท่านเช่นกันนะคะ คุณป้าคัดเค้าอย่าลืมลักษ์อีกคนนะคะ
    ป้าคัดเค้าอย่าลืมไขข้อข้องใจด้วยนะคะคำว่า ยกเว้นเทพนิมิตคะ ลักษ์ก็สงสัยเหมือนกัน[​IMG]
    พี่เมย์เอาบุญมาฝากแต่เช้าเลยนะคะ สาธุ อนุโมทนาคะ
     
  12. ceta64

    ceta64 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +87
    อนุโมทนาครับ
    สักวันต้องได้ใช้ประโยชน์แน่ครับ
     
  13. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240

    ...ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรแน่เจ้าค่ะ...
    คัดเค้าแยกแลอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุก่อน...เรียบร้อย
    ทุกผอบงดงามแวววาวเป็นประกายจับตายิ่งนัก

    ทำตามขั้นตอนด้วยความเคารพบูชา
    ตั้งแต่การชำระร่างกาย แต่งชุดขาว
    เชิญดอกมะลิมาบูชาก่อน แล้วจึงค่อยๆ แยกลงผอบ
    พอมาซองสุดท้ายของพระแม่กวนอิม
    คัดเค้าพอจะมองเห็นพระธาตุเพียง 2 เม็ด
    นอกนั้นมองไม่เห็น ต้องใช้มือสัมผัสบีบซองดู
    พอสัมผัสได้บ้าง เริ่มหนักใจเล็กๆ เอ...เอาไงดี
    หากใช้สำลีจะแทรกตัวอยู่ในสำลี(คัตตันบัด)
    ประเดี๋ยวหายทิ้งไปอีก ตั้งท่าอัญเชิญอยู่นาน
    ลองเปิดซองดูก็แล้ว ลองค่อยๆ ตะแคงดูก็แล้ว
    กลับมองเห็น 2-3 เม็ดนั้นติดอยู่ไม่หล่นลงมาในผอบ
    บอกตรงๆ ว่ากลัวหล่นหายมากเลย กล่าวอธิษฐานอัญเชิญท่านเสด็จ
    ท่านก็ยังลอยเด่นอยู่ในซอง เทก็ไม่ออก เหงื่อเริ่มหยด
    เพราะเริ่มร้อนแล้ว นั่งห่างจากพัดลม กลัวปลิวด้วยเจ้าค่ะ
    หลานปิงปองก็เข้ามาถาม คุณย่าค้าบ...ทำอะไรน่ะ...
    ถามอย่างเดียวไม่พอ เข้ามาใกล้ชิดเราอีก จะช่วยอีกแน่ะ

    หมดปัญญากับคราแรกของการอัญเชิญพระธาตุของคัดเค้า
    จึงกราบอัญเชิญท่านทั้งซองพับเล็กๆ ให้สถิตในผอบในเจดีย์ก่อน
    คืนแรกที่มวลหมู่พระบรมสารีริกธาตุแลพระธาตุเสด็จถึงเรือนนี้
    บรรยากาศเงียบเชียบเรียบร้อยดีทุกประการ ...เงียบที่แปลก

    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุกวันคืนเวลานั่งปฏิบัติธรรม
    สารพัดสรรพสำเนียงจะมาทักทายรอบตัว
    แต่ก่อนไม่เคยได้ยินมาปีล่าสุดเริ่มจับเสียงได้
    แต่เดือนนี้มาเริ่มมีเสียงแบบไม่ใช่ภพภูมิเรา
    แต่จับใจความไม่ได้เท่านั้นเอง เหมือนลอยมาตามลม

    พอออกจากสมาธิตาก็มองที่พระเจดีย์ของพระธาตุฯ
    ให้แปลกใจที่มีแสงรำไรน้อยๆ เรื่อเรืองอยู่ด้านใน
    ขยี้ตากระพริบใหม่คงฝาดไปกระมัง เช่นทุกคืนผ่านไป 2 คืน

    เมื่อคืนๆ ที่สามดูแล้วท่านคงต้องการสื่อเราละนะ
    ว่า 3 วันพอจะเสด็จออกล่ะ เสร็จภารกิจน้องปิงปองทานข้าวแล้ว
    เราก็อาบน้ำแต่งตัวเต็มยศพร้อมสะไบเหมือนเคย เข้าห้องพระ
    อัญเชิญออกมาก่อนในห้องแสงน้อย ตั้งจิตอธิษฐานอยู่ 3 เพลา
    เตรียมนานาวัสดุที่จะช่วยให้เรียบร้อย แล้วก็มาจบลงที่นิ้วมือเรานี่เอง

    นิ้วสัมผัสออกมาแล้วเมื่อลงผอบได้ประมาณ 9 เม็ดเห็นจะได้
    โอมายก้อดข้าน้อยนับผิดหรือไม่มิอาจทราบได้เพราะเล็กมาก
    สายตาวัยรุ่นด้วยคงนับผิดแน่ๆ ...เฮ้อ...ลมหายใจถูกผ่อนออกเบาๆ
    พร้อมยกมือสาธุกะน้องปิงปอง คืนที่ 3 ท่านจึงเสด็จด้วยความเรียบร้อยเจ้าค่ะ

    ต่อไปวันหน้าคัดเค้าจะแบ่งต่อไปให้กัลยาณมิตรได้มีโอกาสเคารพบูชา
    แบบคัดเค้าบ้าง โดยคัดเค้าจะจัดใส่ผอบน้อยให้เลย พร้อมพระเจดีย์
    ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะ สำหรับคนสายตายาว(ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล) ...

    ผู้มีบุญท่านใดจะโชคดีต่อจากคัดเค้าในอนาคตอันใกล้
    ได้ทราบแน่นอนเจ้าค่ะ....

    ...เล็กๆ น้อยๆ....จากใจคัดเค้า
    ด้วยความเคารพเจ้าค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a01.jpg
      a01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.3 KB
      เปิดดู:
      46
    • a02.jpg
      a02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.2 KB
      เปิดดู:
      39
    • a03.jpg
      a03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.4 KB
      เปิดดู:
      43
    • a05.jpg
      a05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.3 KB
      เปิดดู:
      37
    • a06.jpg
      a06.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.4 KB
      เปิดดู:
      50
    • a07.jpg
      a07.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.2 KB
      เปิดดู:
      40
    • a04.jpg
      a04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.6 KB
      เปิดดู:
      58
  14. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    ภาพสุดท้ายออกมาอย่างที่เห็น ทั้งที่คัดเค้าก็ถ่ายใช้แฟรชปกติ
    เหมือนทุกภาพที่ถ่ายให้ชม เพียงแปลกใจเจ้าค่ะ เห็นแสงแฟรช
    ในภาพไหมเจ้าคะ แต่ภาพมืดเพียงภาพเดียวเท่านั้นเอง...

    ต้องขอประทานโทษคุณเม้งนะเจ้าคะ ที่คัดเค้าอัญเชิญพระธาตุ
    ช้าไป 3 วันตามที่เล่าให้ฟังเจ้าค่ะ...ขอคำแนะนำด้วยนะเจ้าคะ...สาธุ
     
  15. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357
    ;aa52สวัสดีค่ะคุณพี่คัดเค้าคนงาม อย่าลืมน้องJenny ลูกดกคนนี้อีกหนึ่งคนนะคะ (แหมเสนอหน้าเชียว) 55555... บอกชื่อเล่นเลยดีกว่า(วันหลังจะใช้ชื่อเล่นเรียกแทนตัวเองแล้วดีกว่า ตั้งแต่พิมพ์มาใช้แทนตัวเองว่าดิฉันตลอดเลย เห็นท่านอื่นๆใช้ชื่อเล่นกัน ขอใช้มั่งดีกว่า ชื่อเล่นว่า หุ่ยเจ็ง ค่ะ เรียกสั้นๆว่าเจ็ง อาม่าตั้งให้ค่ะ(คุณย่า) ออกจะจีนซักหน่อยนะคะ ตอนเด็กๆโดนเพื่อนล้อว่า เจ็งกิสข่าน และก็เจ็งขายถ่าน อะไรทำนองนี้เรื่อยเลยค่ะ และที่มาของชื่อ Jenny_Lee ก็มาจากชื่อเจ็งนี่หละค่ะ เพราะตอนจบมหาวิทยาลัยเสร็จแล้ว ก็ไปอเมริกากันเค้าก็ถามชื่อก็บอกว่าชื่อเจ็ง เค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน สามีก็เลยตั้งให้ว่า Jenny ค่ะ แล้วแซ่ลี้ ก็เลยเป็น Jenny Lee ค่ะ แหมเล่าซะยาวเชียวพี่คัดเค้า จะอยากรู้มั๊ยเนี่ย......;38-love mode-(kiss)(kiss)(kiss)
     
  16. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357
    love_แหมคุณจินลืมคนนี้ไปอีกคนนะคะ คุณแม่ลูกดกที่สุด ไงค่ะ;aa8
     
  17. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    เจ้าค่ะ...หนู Aneka ชื่อเล่นอะไรเจ้าคะ
    น้องใหม่ขอลงชื่อในทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
    ก็ตามความสมัครใจเจ้าค่ะ ส่งที่อยู่ มาหลังไมค์เด้อค่า
    ท่านใดจะลงทะเบียนก็เรียนเชิญเฉพาะกิจเรือนนี้เท่านั้น
    มีโชคจากคัดเค้าด้วยเจ้าค่ะ...ธรรมล้วนๆ ที่หมุนในเรือนแห่งนี้

    ขอบพระคุณคุณไพฑูรย์เจ้าค่ะ
    หนูวัชราหันมาทานผักดีต่อสุขภาพที่สุดนะลูก-กก
    หนูเมย์อยู่ประจวบฯ คัดเค้าไปเขาตะเกียบมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน
    ลิงเยอะจัง ขอบคุณสำหรับธรรมะนะเจ้าคะ เห็นประโยชน์จากการอ่าน
    ก็จะได้เห็นคุณค่าแบบนี้ล่ะ คือ อ่านแล้วเกิดปัญญา เห็นช่องทาง
    นำมาปฏิบัติแล้วก็ยิ่งทั้งสติสัมปะชัญญะแลปัญญามากขึ้น...

    หนูจินคงผ่อนคลายลงบ้างแล้วนะเจ้าคะ ช่างคิดจริงเจียวแม่คุณ...
    เห็นด้วยเจ้าค่ะ...หนูจินก็คือ ยอดคุณแม่แห่งเรือนนี้เลย รู้มะ...

    คุณสาวปีใหม่นานทีมาที คิดถึงเด้อค่าเด้อ
    หนูลักษณ์ไปทำบุญที่ไหนมาล่ะน้องหล่า...
    ซีต้ามาพิดโลกอีกหรือเปล่าเจ้าคะ หากมีข้อมูลก็แจ้งได้เจ้าค่ะ

    ข้อมูลเหล่านี้ คัดเค้าเก็บไว้เองไม่ได้เผยแพร่ดอกเจ้าค่ะ
    วางใจได้ สำหรับประโยชน์พี่น้องลูกหลานในวันนี้แลวันหน้าแล...
    เราอาจมีกิจกรรมร่วมกันทำก็ได้ โดยที่เราก็อยู่บ้านตามปกติ
    หรืออาจมีพบกันแบบทางคอนเฟอร์เรนซ์(Conference)
    แหม...อันนี้ค่อนข้างไฮเทคโนโลยีไปหน่อยเจ้าค่ะ

    ...พบกันตัวเป็นๆ เลยเป็นไงเจ้าคะ...นางฟ้าผู้ใจดีของเราทั้งสอง...
     
  18. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    ยินดีที่ได้รู้จักคุณเจ็งนี่ ลี เจ้าค่ะ...อิอิ...
    เราเชื้อสายใกล้เคียงกันเลย คนละแซ่เท่านั้นเอง...
    พี่คัดเค้าชื่อเล่น...น้าง/นั้ง แปลว่า คน
    ตึ่งนั้ง ฮวงนั้ง กากี่นั้ง....อ่ะ...บอกชื่อไปซะแล้ว
     
  19. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    น้องบอยเจ้าขา...เรียนคุณแม่ให้ทราบด้วยนะเจ้าคะ
    ป้าคัดเค้าจะส่งของทำบุญถวายหลวงปู่บุญฤทธิ์
    ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ปากเกร็ด นนทบุรี ในสัปดาห์นี้ละเจ้าค่ะ

    บอกมาเพื่อร่วมกันอนุโมทนามีส่วนในกุศลที่คัดเค้าสร้างด้วยกันนะเจ้าคะ
    วันสองวันนี้จะส่งภาพที่จะจัดของใส่กล่องใหญ่มาให้โมทนา
    ด้วยกันเจ้าค่ะ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2009
  20. pk010209

    pk010209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    973
    ค่าพลัง:
    +2,634
    ต้องเจริญสติไปถึงไหนมือใหม่จึงจะมั่นใจว่ามาถูกทาง? นี่คือข้อกังขาสามัญที่ต้องเกิดขึ้นกับมือใหม่ทุกคน ซึ่งผมก็เช่นกัน
    บนเส้นทางสายนี้ คุณจะไม่รู้สึกมั่นใจจนกว่าจะมีใจมั่น นั่นคือจิตอยู่ในสภาพตั้งมั่นรู้ มากกว่าที่จะซัดส่ายคิดไปเรื่อย

    ภาวะที่จิตฟุ้งซ่านซัดส่ายไปเรื่อยนั่นแหละ ต้นเหตุสำคัญของความไม่แน่ใจ แม้จะเกิดสติรู้เห็นกายใจบ้างแล้ว ก็เหมือนมีคลื่นรบกวน แทรกแซงความรู้เห็น ตลอดจนชะล้างความมั่นใจให้หายเกลี้ยงร่ำไป
    ช่วงสามเดือนแรกของการฝึกตามตำรา คอยระลึกเท่าที่จะนึกได้ว่าตอนนี้กำลังหายใจออก ตอนนี้กำลังหายใจเข้าผมไม่มีความมั่นใจเลยว่ามาถูกทาง บางครั้งคัดแน่นอึดอัดไปหมด บางครั้งถามตัวเองว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่ บางครั้งสงสัยว่าจะต้องเห็นลมหายใจให้เป็นภาพหรือเอาแค่รู้ว่าหายใจ บางครั้งงงว่าต้องรู้เฉพาะจุดกระทบของลมตรงไหน ฯลฯ
    ผมมีแต่ศรัทธาว่าทำตามพระพุทธเจ้าสอนเป็นหลักใจอย่างเดียว เรียกว่ามีความสว่างหนุนหลัง ที่เหลือในหัวเต็มไปด้วยความสงสัยคลางแคลง เรียกว่าเดินหน้าอยู่บนก้าวย่างที่เป๋ไปเป๋มาเกือบตลอด

    ตอนนี้กำลังเป็นแบบนี้เลยอะคะ นึกอยากรู้คำตอบมากมายก็ได้รู้มันช่างบังเอิญจริงๆเลยค่ะ จะพยายามต่อไปค่ะ สู้ๆ
    ;aa6
    ;aa59 ป้าคัดเค้าขา อย่าลืมนู๋นะ ;aa57 ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...