พุทธภูมิ: ปรารถนาแรงกล้า ก็อาจไม่ได้ดังฝัน...

พระโพธิสัตว์ ท่าเดียว ยิ้ม..ม...กริ้ม....

 

ฮาม๊าก มาก มียังงี้ด้วยเหรอ

 

นับเป็นอสงไขย อันนี้ข้อนี้ผมคิดว่า อธิบายหน่อย เดี่ยวคนที่เข้ามาอ่านไม่เข้าใจในเจตนาเจตสิก เหอๆ

 

อันนี้ถูก "รู้ธรรม" กับ "มีธรรม" นั้นต่างกัน

 

ถ้าท่านคิดว่าท่านตรัสรู้แล้วท่านจะไม่สอนใคร
ท่านก็ พระปัจเจกพุทธเจ้า

คิดว่าท่านตรัสรู้แล้วท่านจะสอน

ท่านก็เป็นพระพุทธเจ้า
และเราก็ไม่อายด้วยว่าทางโลกเราจบแค่ มอ.6

แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่เก้อเขินในหมู่บัญฑิตทางธรรม

เราเรียนจบโลกุตตระธรรมทั้ง ๙ ประการ

ส่วนว่าโลกุตตรธรรมทั้ง ๙ ประการนี้ ชื่อว่าเป็นของมีอยู่โดยสภาวะจริง ๆ ชื่อว่าเป็นสภาพบริสุทธิ์ เหมือนดวงจันทร์วันเพ็ญบนอากาศที่ปราศจากเมฆ และ

เหมือนชาติแก้วมณีที่วางไว้บนกัมพลเหลือง ด้วยเหตุนั้น โลกุตตรธรรมย่อมควรแก่วิธีที่จะเชิญให้มาดูเพราะเป็นสภาพที่มีอยู่จริงอย่างหนึ่ง เพราะเป็นสภาพที่

บริสุทธิ์อย่างหนึ่ง ฉะนั้นจึงชื่อว่า เอหิปสสิโก ควรแก่วิธีที่จะเชิญให้มาดู

ท่านระลึกชาติได้หลายชาติ และ ท่านก็เล่าแต่ชาติที่ท่านเสวยพระชาติ เป็นพระมหากษัตริย์อย่างเดียว จึงทำให้เวไนยสัตว์

ไม่เห็นทุกข์กลับเพลิดเพลินเจริญใจในวัฏฏะทุกข์ ทางที่ถูกท่านควรเล่าชาติที่ท่านไปตกทุกข์เป็นคนจนเข็นใจบ้าง เพื่อให้เวไนยสัตว์ไม่ไปติดสุขในสมาธิด้านเดียว

ควรให้เห็นทั้งสุข และ ทุกข์ เพื่อเป็นสเบียงไว้สำหรับการตรัสรู้ในอนาคตอันใกล้นี้

เหมือนอย่างที่เราไม่ปิดบังความรู้เราจบแค่มอ. 6

ความรู้เกิดจากการเข้าสมาธิ ความรู้ที่มีจะเกิดจากตนเอง
จึงรู้แจ้งแทงตลอดศาสนาทั้งหลายอย่างแท้จริง

 

ผมมีความเห็นว่า ทุกๆคน ทุกๆสรรพสัตว์ ที่ตั้งจิตปรารถนาตรัสรู้พระโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากวัฏฏะสงสารนั้น มีความเป็นไปได้ในทุกคน

ผู้ที่จะได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ไม่ได้เกิดจากการเลือกของสวรรค์หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆไม่ แต่ได้รับพุทธยากรณ์เพราะความอุตสาหะ พากเพียรสร้างบารมี เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์จริงๆ มีความเด็ดเดี่ยวตั้งใจจริง

เฉพาะคนที่ตั้งใจจริง พากเพียรจริง และสร้างบารมีมากพอ (ต้องมากจริงๆ)ที่จะเหมาะสมเป็นมหาบุรุษเท่านั้นที่ควรจะได้รับการยอมรับว่าควรเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต

 

เมื่อได้รับพุทธะพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง แล้ว

มนุษย์ เทพเทวาทุกชั้นฟ้า ก็จะรับรองคุณธรรมแต่นั้นมา

จนถึงวันที่ท่านตรัสรู้เป็นครูของเทพเทวา และ มนุษย์

 

*** เป็นอะไรก็สามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคมได้ หากเป็นพระโพธิสัตว์ก็จะต้องไม่มาน้อยใจกับเรื่องที่กล่าวว่า จิตที่เป็นพระพุทธเจ้านั้นเป็นจิตที่ต่างจากจิตทั่วไป ทุกคนจะปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ได้ แต่พระโพธิสัตว์จะได้เป็นพระพุทธเจ้าไม่ทุกคน...


*** แม้ท้ายที่สุดพระโพธิสัตว์ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า แต่ด้วยบารมีที่สั่งสมมามากก ย่อม ช่วยเหลือผู้คนที่ผ่านมาทุกภพทุกชาตินับไม่ถ้วน และยังจักได้บรรลุธรรมแม้เป็นสาวก ก็ต้องได้ช่วยสั่งสอนศิษย์ได้บรรลุธรรมจำนวนมาก เพราะเป็นกลุ่มที่ร่วมสร้างบารมีกันมานานอีกด้วย ทำต่อไปไม่เห็นต้องคิดมาก... ทำนี่ดีกว่าคิดเยอะ

 

สาธุ ท่านอาวุโส เป็นจริงตามนั้น

ปล.เข้าถึงความรู้สึกเปลี่ยนแปลงตลอดไม่มีวันสิ้นสุด จะหลุดออกจากธรรมคู่

สามัญโพธิสัตว์ก็ยังเข้าใจว่าการเป็นพระพุทธเจ้าเป็นได้ตามใจ เป็นได้ตามธรรม เป็นได้ตามบารมี ไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกครับ

แค่บทประโยคตอบของผม ก็ทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจได้ เล็กน้อย ปานกลาง ถึงมากที่สุดแล้ว เพราะไม่เข้าใจในเงื่อนไขอีกมากมายในความเป็นจริง

ถ้าจะพูดให้ถูกใจสามัญโพธิสัตว์ขึ้นมาหน่อย เพื่อเป็นการฟูใจ ไม่ทำลายความกลัวที่หมักดองอยู่ในจิตนั้นก็ควรจะพูดว่า โดยธรรมชาติของพระโพธิสัตว์ผู้สั่งสมบารมี หรือ ผู้มีบารมีเต็มแล้ว ก็สามารถที่จะตรัสรู้ธรรมได้ จะเอาความเป็นพระอรหันต์ก็ได้ หรือ แม้กระทั้งจะเอาความเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าก็ได้ การตรัสรู้นี้เป็นการตรัสรู้แบบไม่มีเงื่อนไข ตามใจ ตามธรรมที่สั่งสมมาดีแล้ว เป็นสาธารณะการตรัสรู้ เพียงเท่านี้ก็คงมีการยอมรับ และแช่มชื่นใจกันมากโข...ทั้งหมดนี้เรียกว่า ท่านมีโอกาส ท่านมีทางเลือก มากกว่าเหล่าชนปกติ

สาธุ สั้นๆแต่ได้ใจความ ทำดีกว่าคิดมาก

 

ยึดติดกับคำสอนมากไปเลยไม่ดูความจริง
สัจจะแปลว่าความจริง
ถามว่าทำไมต้องกินของพิศดารคือกินความจริงที่มีอยู่ล้วนแต่เครื่องเหม็นมีอาการเป็นทุกข์ต่างๆ

 

สาธุ

 

เท่าที่สังเกตุดู
ส่วนใหญ่พระโพธิสัตว์จะเป็นบุคคลสำคัญ ทั้งเป็นพระสงฆ์และฆราวาสมีบารมีสูง เช่น

พระสงฆ์มีบารมีสูง
หลวงปู่ทวด
สมเด็จพุฒจารย์โต
ครูบาศรีวิชัย
หลวงพ่ออุตตมะ
ครูบาวัง
หลวงตาม้า

ทั้ง 4 องค์ ถอนพุทธภูมิ เพื่อเข้าอรหันตภูมิ
หลวงปู่มั่น
หลวงปู่เสาร์
หลวงปู่แหวน
หลวงพ่อฤาษี

ฆราวาสมีบารมีสูง
พระเจ้าปเสนทิโกศล
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

คนทั่วๆไป..ไม่พึงในเรื่อง..การจะคิดเข้าข้างตนเอง
ควรตรวจดู ศีล สมาธิ ปัญญา ของตนอย่างละเอียดแจ่มแจ้ง
และบารมี 30 ทัศน์ พึงกระทำด้วยความมุ่งมั่นเช่นไร

 

ทุกท่านลองไปศึกษาพระไตรปิฎกอีกทีจะมีความตอนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งใน28พระองค์ผมจำพระนามท่านไม่ได้แล้วได้มีการประกาศศาสนาและได้ตรัสสอนสาวกจำนวนหนึ่งให้รู้ตามมิได้มีการบันทึกพระธรรมคำสั่งสอนเพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้ตาม
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพระวิปัสสีนะครับอาจจะจำผิดก็ได้เพราะเคยอ่านผ่านตามานานแล้ว

 

ขอบคุณคุณขอมจำแลงนะครับปัจจุบันผมก็ทั้งทำและทั้งธรรมอยู่แล้วเพราะผมมีภรรยาแล้วครับ

 

มีความสุขกับภรรยาดีหรือป่าวครับ ฮึฮึฮึ

แต่ผมสิเป็นชายนอนเดี่ยวมาแต่เกิด ว่าจะหาไว้สร้างบารมีสักคน เผื่อทีจะได้มีบารมีแข็งขึ้นก็ได้นะว่าป่าว ฮาฮาฮา

 

กิเลสทั้งนั้น

ว่าตนดีแล้ว การยกย่องผู้อื่นก็คือยกย่องตนเอง

ส่วนอำนาจบางตระกูลได้มาจากการใช้กำลัง

แต่อำนาจของเราไม่ใช่การใช้กำลัง แต่เป็นการแก้ปัญหาให้

เค้า บารมีที่ดีก็มี แต่ มีน้อย ส่วนมากบารมีเลวนั้นมีมาก

บัณฑิตพึงตั้งตนไว้ในคุณอันสมควรก่อน สอนผู้อื่นภายหลัง จึงไม่มัวหมอง

 

วาจาคมคาย....ยิ้ม...ม...กริ้ม...(good)

ท่านประชุมกายะอักษรสำเร็จเป็นกายะประโยค บทหนึ่งๆ ที่ท่านพิมพ์มา แฝงไปด้วยวิญญาณขัดเคืองละเอียดยิบเลยนะครับ

ปล.ทิฏฐิที่ตายแล้ว ย่อมไม่มีพื้นที่ว่างมากพอ พอที่ให้ตนเองเป็นอมตะ

 

หามิได้ท่านข้าพเจ้ามิได้แฝงไปด้วยวิญญาณขัดเคือง

กลับกันคือ ตีเคาะกระทบทุกคนด้วยโลกุตตระ วาทะศิลป์

นำพาให้มนุษยชาติพบหนทางหลุดพ้นเส้นทางใหม่

 

คุณsriarayaคุณตีความหมายของสัจจะให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ
แล้วเส้นทางใหม่คืออะไรครับ กับของจริงที่มีอยู่บนโลกนี่นะหรือเส้นทางใหม่
ว่าแต่ว่าคุณsriarayaช่วยใช้อภิญญาดูผมหน่อยได้ไหมครับว่าผมกับคุณมีวาสนาตรงกันหรือเปล่าทำไมได้เจอกันบ่อยทั้งที่ผมไม่เคยทักคุณก่อน