ที่นี่มีใครบรรลุธรรมตั้งแต่ขั้นโคตรภูญาณขึ้นไปบ้าง PMมาหน่อยดิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เทพอาถรรพ์, 12 สิงหาคม 2009.

  1. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    รู้ได้ไงว่า..ไม่ใช่ผู้รู้ ...ผู้ตอบได้ อธิบายได้ ... โดยอาศัยประสบการณ์เกิดขึ้นจริง ย่อมเป็นผู้รู้ อย่างแท้จริง
    (บอกก่อนว่า..ผู้ถามก็ไม่รู้...จึงได้ถาม เพราะกระทู้นี้กล่าวถึงผู้บรรลุโคตรภูญาณ...ดังนั้นจึงต้องผ่าน มรรควิถี...มาแล้ว อิอิ)

    ถามเพื่อประเทืองปัญญา...แต่ผู้ใดผ่านจริงหรือไม่นั้น...ขึ้นกับวิจารณญานผู้อ่าน ผู้ฟัง...อย่าปรามาสผู้อื่นก็แล้วกันนะคะ... สาธุๆๆ
     
  2. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ขอตอบ แบบโคตะระแมนว่า ไม่รู้เรื่องงะ - -
     
  3. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ไม่เป็นไร...รอผู้รู้ท่านอื่นมาตอบแล้วกันนะคะ...

    ขออธิบายแบบชัดๆ...ตั้งแต่ขั้นตอนพิจาณาไตรลักษ์...อุปาทานขันธ์ 5 และจิตเห็นอริยมรรค...จนเข้าสู่วิถี มรรคจิต...มรรคญาณ...(ตามประสบการณ์จริงที่ไม่ต้องอิงตำราใด...เพราะการเข้าสู่สภาวะนี้ คิดว่าแต่ละคนน่าจะเข้าไปไม่เหมือนกัน...ตามที่ครูบาอาจารย์กล่าวไว้)
     
  4. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    หมายความว่าจะไห้อธิบายขั้นตอนการปฏิบัติหนะหรือ ต้งแต่ไตลักษ์ไปเรื่อยเลยหรือ . . .
     
  5. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    อธิบายว่า มรรควิถี คืออะไร ? สภาวะจิตตอนขณะเข้าสู่มรรควิถีเป็นไง?

    ผู้ใดอ่านประสบการณ์ปฏิบัติของผู้อื่นแล้ว...ก็อย่าปรามาสผู้อื่น...จิตเค้าจะเข้าแล้วหรือไม่ ก็ใช่กิจที่เราจะไปประเมิน
    ปล่อยให้ท่านผู้นั้น...อธิบายความเองเถิดว่า...เห็นสิ่งใด...ขบวนการและขั้นตอนเป็นอย่างไร?
    อ่านแล้วพิจารณาเอาเอง...ว่าควรจะเชื่อหรือไม่?
    อย่าปรามาสกันเลยนะ เดี๋ยวไม่มีใครกล้ามาตอบ...ไม่ได้ประโยชน์ และไม่สนุกเลย (ขอร้องนะคะ..ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย)
     
  6. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ผมเลือกเข้าทางอนัตตาครับ เดี้ยวค่ำๆจะมาคุยด้วยครับ
     
  7. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    กลับบ้านก่อนนะ..พรุ่งนี้มาฟังคำตอบ
    (อย่าแอบด่าลับหลังนะ...ไม่ดีเลย...)
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    PM ไปแล้วก็หายเงียบ
     
  9. dabos29

    dabos29 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +53
    แสดงความคิดเห็นเท่านั้น

    เส้นทางชีวิตของมนุษยบรรพบุรุษค้นหาและทำแผนที่ไว้แล้ว
    หากเรามัศรทธาจงตั้งใจเดินทางเดี่ยวก็ถึงจุดหมายเอง
    ผู้มีปัญญาแล้วย่อมไม่เสวนาเรื่องราวนอกทางเดินนี้

    ศรัทธาผู้นำทาง
    เพียรย่ำเดิน
    ถึงไหนแล้วรู้เอง

    หนอนน้อยมักกล่าวกับหนอนด้วยกันว่าอาจมนี้รสดีนักแล

    ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านเถิด
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    จริง ๆ การถามตอบ เพื่อ ให้อธิบาย ไม่ใช่เป็นการปรามาสหรอกนะครับ
    ...คนนึงปฏิบัติมาอย่างไร ก้ตอบตามที่เข้าใจอย่างนั้น
    ..แต่หาก กลัวการถาม และเข้าใจว่าการถาม เป็นการไปปรามาส มิใจแคบไปหน่อยเหรอ เอะ อะ อะไร ก็ปรามาส .. การถูก ถาม หากพลิกมาดูกิเลสในใจตนได้เนืองๆ บ่อยๆ ว่าโดนกระทบแล้ว เกิด ขุ่นมัว มี ราคะ โทษะ โมหะ ประกอบไหม อย่างนี้จะเป็นการพัฒนา ในการอบรม ฝึก สติ ที่ ต่อเนื่อง ยิ่งๆ ขึ้นๆ
    ..แต่หากถูกถาม แล้ว ไม่ทัน ราคะ โทษะ โมหะ ในใจ ตน ก็จะเริ่ม ออกอาการ จนกลายไปเป็น ทะเลาะ เบาะแว้งกันไปได้
    อยู่ที่การ น้อม นมสิการครับ ควรฝึกไว้ เวลาอ่าน บอร์ด จะไม่เสียเวลาไปฟรีๆ
     
  11. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    น่าจะกล่าวอย่างนี้มากกว่า เคยฟังหลวงพ่อสมชาติ ธรรมโชโต กล่าว เรื่อง สองสหาย คือ มีเพื่อนสองคนรักกันมากอต่อีกคนหนึ่งชอบทำทานมีศีล อีกคนหนึ่งไม่เคยทำพอทำกาละ คือ ตาย คนที่มีศีลไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ มีดำริว่า เพื่อนเราอยู่ไหนหนออยากเจอจังจึงมองหาด้วยทิพย์จักษุ พบว่าเป็นหนอนอยู่บนมูถคูถ เทวดาผู้เพื่อนจึงเข้าไปทัก ท่านมาอยู่กับเราดีกว่าอย่าอยู่เลยอย่าเป็นเลยหนอนนั้น มันไม่ดีหรอก เจ้าหนอนผู้เพื่อนนั้นตอบกลับไปว่า ไม่ดียังไง ในเมื่อท่านเวลาจะกินจะดื่มยังต้องนึกอยู่ แต่เราผู้เป็นหนอนตื่นมาแค่อ้าปากก็ได้กินแล้ว เห็นไหมไม่ต้องนึกเลย ดีกว่าตั้งเยอะ ผู้เป็นเทพบุตรอึ้ง
    สอนอะไรเราคิดเอาเองนะครับ อนุโมทนาครับ
     
  12. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ตั้งกระทู้ไหม่เลยสิ เดี๋ยวจะไปโม้บ้างแต่กระทู้นี้มัน คงจะจบละ
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    pig_cryy2.
     
  14. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ทิฏฐิมานะอัตตา
    รู้แต่ว่าก่อนจะถึงขั้นโครตภูญาณนั้น
    ต้องผ่านสังขารุเบกขาญาณ
    เมื่อเทียบตามบัญญัติไตรยางค์ทางคณิตศาสตร์แล้ว 100%

    [​IMG]
     
  15. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ภาคต่อพิศดาร

    ขณะที่เทพบุตรอึ้งไปชั่วครู่ ก็กำลังจะอ้าปากทักอีกสักสองวาระ หากครบ
    สามก็คงเป็นอันว่า ไม่มีวาสนาต่อกันอีกต่อไป แต่พอจะอ้าปาก

    "ดูกะระ เพทบุตรผู้ไม่รู้จักง้วนดิน ท่านไม่รู้รสหวานของง้วนดินหรอกนะ อย่าไปทักเขาเลย"

    "ใคร ใคร ท่านเป็นใคร ใยเรามองไม่เห็น" เทพบุตรเอ็ดใส่คนที่มาขวางแต่มองไปแล้วก็ไม่เห็น

    "ท่านมองไม่เห็นเราหลอก เราเป็นอาภัสราพรหม"

    ทั้งเทพบุตร หนอน และ คนเล่า ต่างก็นิ่งอึ้ง...............(ไม่รู้จะเขียนอะไรต่ออะดิ )
     
  16. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    โห้.. บร๊ะดาญาณ

    [​IMG]
     
  17. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    สาธุ..ด้วยที่แก้อาการโด่บ่อยมากลงได้

    ว่าไปโด๊ป ม้ากระทืบโลง หรือไปเป็นศิดพะกระโดดข้ามกำแพงมารึท่าน
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ก็นั่นแหละ ให้ระลึกรู้อีกทีว่า จิตมันอยู่ข้างนอก มันไม่ย้อมเข้ามารู้กายรู้ใจ

    อะไรที่ออกไปจากการรู้กายรู้ใจ เรียกว่า ผิดมรรค

    ที่มองเห็นไตรลักษณ์ไปหมด ไม่ว่ามองอะไรก็ว่างเปล่าหมด กินใจเราไม่ได้
    เพราะเอา จิตไปแปะไว้นอกกายนอกใจ ไปรู้อยู่นอกๆ เห็นทุกอย่างไม่เที่ยง
    ยกเว้นส่วนที่จิตไปเกาะมีความเที่ยงแท้ถาวร และสบาย เกิดความพอใจ(ราคะเจตสิก
    แทรก)สภาวะนี้ ทำให้เกิดภพรองรับ หากเป็นพวกเล่นกสิณก็จะสร้างภพนี้ให้สวยงาม
    ดั่งเมือง ไม่ได้หลุดพ้นไปไหน

    ทีนี้เราก็ฝึกไปอย่างเดิม แต่ฝึกสติให้ไวยิ่งขึ้นกว่านี้อีก โดยเวลาที่เกิดความสบายใจ
    โชยขึ้นมา ไม่รับรู้โลก เวทนากายขึ้นมา ให้ระลึกดูว่า จิตมันอยู่ข้างนอกหรือเปล่า ให้
    ระลึกรู้สภาวะนั้นเฉยๆ เพื่อให้จิตมันจดจำสภาวะ พอจิตมันจดจำสภาวะภพนี้ได้ มันจะ
    เกิดสติระลึกได้เอง ...แล้วจิตมันจะกลับเข้าฐานที่ถูกต้องให้เห็น

    พอจิตกลับเข้าฐานแล้ว เกิดการเห็นธรรมบางอย่างแล้ว อย่าเข้าไปประครองการรู้ตัว
    นี้ อย่าเผลอไปทำอะไรให้จิตเที่ยงอีก ก็อาจจะเห็นสภาวะที่อยู่นอกเหนือภพได้...
    [ ตรงจังหวะนี้จะเรียกว่า การเจริญปัญญาของจริง ]

    ลองดูสักหน่อยนะพี่พายุ
     
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    พี่พายุได้สังเกตหรือเปล่า ตอนที่มันขัน มันโก่งคอขัน

    จะมีทิฏฐิสลายไปจากจิตที่อยู่ข้างนอก วิ่งกลับเข้าไปจับอาการขัน

    หลังจากนั้นจะเกิดความเจ็บปวดผุดขึ้นเป็นสัญญาบางอย่าง แล้วทิฏฐิตัว
    นั้นมันก็แปลงออกมาเป็นความคิด ความวิตก ความกังขา ความสงยสัย
    ความทนไม่ได้ที่จะไม่มีตัวตน ความทนไม่ได้ที่จะไม่ได้กระทำความเจ็บ
    ปวด มาถึงตรงนี้ก็จะเกิดทิฏฐิขึ้นอีกว่า ความเจ็บปวดนี้เป็นเรื่องธรรมดา
    ของเรา มีเราผุดขึ้นมาแล้ว หลังจากนั้นมันก็จะดึงเรากลับไปทำ ไปเสพ
    ความเจ็บปวด .......ปรุงภพนรกขึ้นมาอยู่ชัดๆ !!!

    แล้วแก้ง่ายๆ จะเห็นเลยว่าแก้ง่ายๆ คือ อย่าไปเชื่อมัน ตัวไหนก็ได้ในสอง
    จังหวะของ ทิฏฐิ ที่มันเกิด ไม่เชื่อทิฏฐิตัวแรกเรียกว่า ดูอยาตนะ หาก
    มาดู ทิฏฐิ ตัวที่สองเรียกว่า มาดูตัณหา ถ้าหลุดไปจากนี้จะเกิดการสะสม
    ของจิตเรียกว่ากดด้วยสมาธิ....จะเห็นรสธรรมที่แตกต่างระหว่าง สมาธิ
    กับ ปัญญา ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  20. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ไม่ได้ปรุงภพไปอยู่บนวิมานฉิมพลีหรอกรึ
     

แชร์หน้านี้

Loading...