สืบสานบูรพาจารย์หลวงปู่แสวง อริโย(ฝังตะกรุดทองคำและแบ่งปันประสบการณ์)

นานนนนนนนนนนนนนนนนๆๆๆ ท่านรักปู่จะเข้ามาโพสต์ซักที

หายไปเลยนะครับ

 

อ่านผ่านๆนึกว่า"ระทึก"

ยิ่งพักนี้รู้สึกว่ากระทู้นี้มีอะไรให้"ระทึก"กันเป็นระยะๆ 555

 

สวัสดีครับท่านรักปู่หายเงียบไปนานมากๆ นานๆกลับมาให้ข้อมูลแนวความคิดที่เฉียบคมสมกับที่ครูอาจารย์หลายๆท่านให้ความเมตตาโดยตลอด พอดีเลยครับมีท่านผู้ใจบุญอยากทราบข้อมูลเหรียญหลวงพ่อบุญคุ้มที่องค์หลวงปู่ได้ร่วมอธิษฐานจิตไว้มีรายละเอียดอย่างไร รบกวนนำข้อมูลมาลงให้ทราบโดยทั่วกันครับ;aa30

 

พอดีผมมีหลวงพ่อบุญคุ้มรุ่น 2 อยู่4-5เหรียญ ทราบมาว่ารุ่น 1 หลวงปู่แสวงท่านได้ร่วมอธิษฐานจิตด้วยแน่ ส่วนรุ่น 2 รุ่นนี่ท่านได้ร่วมอธิษฐานจิตด้วยหรือไม่ครับ

ปล.ผมว่าเหรียญหลวงพ่อบุญค้มนี่จัดสร้างได้สวยงามดีครับ แถมเล่นหากันไม่แรงด้วย(หลักร้อย) และถ้าหลวงปู่แสวงท่านร่วมอธิษฐานจิตด้วยจริงๆนี่ยิ่งหน้าเก็บมากๆเลยครับ

 

ส่วนเรื่องก่อกวนด้านบนนี่ถ้าท่านคิดอย่างนั้นจริงๆไม่ใช่มาเพื่อก่อกวนนี่มีกระทู้ในห้องพระเครื่องมากมายครับที่มีการไห้บูชาวัตถุมงคลทำไมท่านไม่เข้าไปบ้างละ กระทู้นี้ไม่ได้ไห้เช่าวัตถุมงคลแต่อย่างได มีแต่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่หลวงพ่อแสวงท่านทำไว้ ใครอ่านข้อมูลแล้วพอใจจะเช่าหามาเก็บไว้ก็ต้องเดินทางไปเช่าที่วัดเอง เพราะงั้นอย่ามาก่อกวนกันอีกเลย คนในนี้เค้าหยุดกันนานแล้วแต่ท่านนี่ไม่ยอมหยุดเสียทีเป็นเพราะอะไรก็คงมีแต่ตัวท่านเองละมั้งครับที่จะรู้ว่าที่เล่นไม่เลิกนี่เพราะอะไร เพราะงั้นไปเสียเถิดครับอย่ามาก่อกวนกันเลย มันน่าเบื่อครับเพราะถ้าท่านยังทำนิสัยแบบนี้อยู่ก็อย่ามาสอนคนอื่นเลยครับ

 

"หลวงปู่แสวง" ถึงแม้ว่าท่านจะร่ำเรียนวิชาต่างๆมามากมาย แต่อาจารย์เทพ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด และเป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาของหลวงปู่มามากที่สุด เมตตาเล่าให้ฟังว่า....
สมัยก่อนเวลาอาจารย์ไปกราบหลวงปู่ ถ้าไปคุยไปถามหลวงปู่เกี่ยวกับการสร้างวัตถุมงคล ไปคุยเรื่องอิทธฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หลวงปู่ท่านจะไม่ค่อยชอบคุยด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์แล้ว หลวงปู่จะอารมณ์ดีและพูดะรรมให้ฟังทั้งวันทั้งคืน....เหมือนดังเช่นในคืนหนึ่ง หลวงปู่ได้พูดถึงข้อธรรมเกี่ยวกับพระเครื่องวัตถุมงคลว่า....


"พระเครื่อง"หรือ"วัตถุมงคล" สำหรับหลวงปู่แล้ว ท่านใช้คำว่า "เปรียบเหมือนกับเป็นร่มเงาแห่งหนึ่งของพระพุทธศาสนา" พระสงฆ์เป็นส่วนหนึ่งของสังคม หลวงปู่ท่านเน้นเสมอว่า "พระสงฆ์" ก็ต้องเป็นที่พึ่งของสังคม (สมัยก่อนอยากมีวิชาความรู้ก็ต้องไปหาพระ จะแต่งงานก็ต้องพึ่งพระ ไม่มีลูกก็ไปอะษฐาณขอกับพระ ลูกเกิดมาเลี้ยงยากก็ไปขอให้เป็นลูกพระ เป็นไข้ไม่สบายก็ไปหาพระ ไปทำนาทำสวนกลัวงูก็ต้องไปขอของดีจากพระ โจรชุกชุมพึ่งตำรวจอย่างเดียวไม่ได้ก็ต้องไปพึ่งพระ ฯลฯ ...-ผู้เขียน) หลวงปู่ท่านบอกว่า คนเรามีจริตนิสัยแตกต่างกัน การจะสอนคนทุกคนเข้าสุ่โลกุตรโดยใช้ธรรมะล้วนๆจึงเป็นเรื่องยาก บางครั้งจึงต้องมีกุศโลบาย หรือหาสิ่งใดมาเป็นสิ่งที่ริเริ่มให้คนเกิดความศรัทธา ศรัทธาในการที่จะเข้าวัด ศรัทธาในการที่จะทำบุญ ศรัทธาในการรักษาศีล ศรัทธาในการเจริญภาวนา

"ถ้าไม่เริ่มต้นที่การเดินเข้าหาวัด แล้วคนจะเริ่มศรัทธาศึกษาพระธรรม(แท้ๆ)ได้อย่างไร" ฉันใดก็ฉันนั้น "ถ้าเราไม่เริ่มตั้งแต่ค่อยๆเจาะเปลือกหรือกระพี้ แล้วจะเข้าไปเจอแก่นได้อย่างไร"
หลวงปู่จึงสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล(ตามคำขอร้อง รบเร้าของลูกศิษย์) เพื่อเป็นกุศโลบาย เป็นที่พึ่ง เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นกำลัง ให้เราได้เข้าถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์
หลวงปู่ยังเมตตาเปรียบเทียบให้ฟังอีกว่า นักเดินทางในระหว่างทางถ้ายังไม่ถึงจุดมุ่งหมายก็ต้องแวะนั่นแวะนี่ บางวันอากาศร้อนหากนักเดินทางผู้นั้นบังเอิญไปเจอศาลา ก็คงต้องแอบหลบเข้าไปพักร้อน เพื่อให้เย็นกายเย็นใจ พอให้เป็นที่พึ่งที่อาศัย พอให้มีพลังในการที่จะก้าวเดินไปสู่จุดหมายต่อไป ดีกว่าเดินต่อไปอย่างซังกะตายไม่พบอะไรเลย แต่อย่างไรเสียเมื่อนักเดินทางพักจนหายเหนื่อยเย็นกายเย็นใจแล้ว สักวันนักเดินทางทุกคนก็ต้องจากศาลาพักร้อนนี้...แล้วเดินทางต่อไป...จนกว่าจะถึงซึ่งจุดหมายปลายทาง...

และพระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่นี่แหล่ะครับ ที่ในตอนนี้ พวกผมได้อาศัยเป็นร่มเงา และในวันข้างหน้าพวกผมก็ต้องจากร่มเงาแห่งนี้ไป เพื่อเดินไปสู่จุดหมายปลายทาง แต่ผมเชื่อครับว่าตลอดการเดินทางพวกเราจะมีหลวงปู่แสวงเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจพวกเราตลอดไป พวกเราคงไม่มีใครที่จะลืมความชุ่มชื่นใจ เย็นใจ สบายใจ อบอุ่นใจ ของร่มเงาแห่งนี้...

เชิญครับถ้าท่านเดินทางมาไกล แล้วต้องการพักให้หายเหนื่อยภายใต้ร่มเงาเดียวกับพวกเรา เชิญครับถ้าท่านรีบเร่ง ต้องการรีบเดินทางให้ไปสู่จุดหมายโดยไม่อยากแวะพักรับความร่มเย็นจากศาลาแห่งนี้ กับพวกเรา...เชิญครับ...

 

นี่แหละธาตุแท้ ของ คนธรรมะธรรมโม แต่ ปาก

ส่วนจิตใจ.........(คิดเอาเอง)

 

ได้ครับคุณกีรดาราด้วยความเต็มใจเลยครับผมมีเก็บอยู่5เหรียญได้มั้ง ยิ่งได้รู้ว่าหลวงพ่อแสวงได้ร่วมอธิษฐานจิตด้วนนี่ดีใจมากเลยครับ เอาเป็นผมขอมอบหลวงพ่อบุญคุ้มรุ่น2นี้เพื่อเป็นกำลังใจ และขอไห้บุญคุ้มไห้ชนะผ่านหมูมารที่ตามมาราวีไม่จบไม่สิ้นด้วยนะครับ ขอที่อยู่มาทางpmแล้วจะจัดส่งไปไห้ถึงบ้านเลยครับ

 

ขอบคุณ สำหรับ คำทักทายที่ยังรู้สึกอบอุ่น สวัสดี คุณโชคแสนดี เจ้าของกระทู้ คุณกีรดาราที่ให้ข้อมูลดีๆเสมอ คุณดีเด่นที่มีประสบการณ์ดีๆมาเล่าให้ฟัง และคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Liverpatที่ได้กล่าวทักทายและยังไม่ลืมกัน<O</O
<O</O
หากกล่าวถึงเหรียญ หลวงปู่แสวง ที่เป็นที่นิยมกันก็ เหรียญ16และเหรียญเหรียญหลวงพ่ออู่ทอง ที่คุณดีเด่นและคุณโชคแสนดีนำเสนอไปนั้นล่ะ เป็นเหรียญพื้นที่หรือท้องที่ แต่ราคาไปไกลแล้ว รักปู่จะไม่ขอกล่าวถึง<O</O
<O</O
ความหมายและหลักธรรม พระนามของหลวงพ่อ “บุญคุ้ม” กล่าวถึงบุญกุศลที่คุ้มครองผู้ปฎิบัติ ผู้ประพฤติธรรม ศีล ,ทาน , ภาวนา เป็นต้น สร้างไว้ตัวเราเองได้ประโยชน์ ส่วนเหรียญก็เป็นสิ่งระลึกน้อมนำเป็นกำลังใจ แต่เหรียญนี้สร้างดีจริงลองอ่านดู <O</O
รายละเอียดที่บันทึกไว้มีดังนี้<O</O
เหรียญหลวงพ่อบุญคุ้มรุ่น1 มูลนิธิร.ร.บุญคุ้มราษฎร์บำรุง

<O</O
1. พระครูถาวรการโกวิท (หลวงปู่รอด) วัดบางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เสก 6 เดือนเศษ ซึ่งรวมตลอดพรรษาของปี พ.ศ. 2529
2. หลวงพ่อบุญเย็น ฐานธัมโม วัดพระเจ้าพรหมมหาราช อ.หางดง จ.เชียงใหม่
เสกให้นาน 30 นาที
3. หลวงปู่เส็ง วัดบางนา อ.สามโคก จ.ปทุมธานีเสกนาน 1 ช.ม.
4. หลวงพ่อพรหม ติสสเทโว วัดขนอนเหนือ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
เสกนาน 2 ช.ม.
5. พระครูปทุมกิจโกศล (หลวงพ่อแสวง) วัดสว่างภพ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เสกครั้งแรกนาน 17 วัน เสกครั้งที่สองตลอดพรรษา ปี 2533 และครั้งที่ 3 ปลุกเสก วันเสาร์ 5 ปี 2534<O</O
6. พระครูธัญญเขมคุณ (หลวงพ่อทองพูล) วัดแสงสรรค์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานีเสกนาน 3 วัน
7. พระอาจารย์เล็ก วัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ เสกนาน 15 วัน
8. หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
อธิษฐานจิตนาน 30 นาที
9. หลวงปู่จู วัดเขียนเขต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เสกนาน 30 นาที
10. หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ อ.หนองแซง จ.สระบุรี
อธิษฐานจิตนาน 2 ช.ม. 30 นาที
11. หลวงพ่อสอน วัดศาลเจ้าอ.เมือง จ.ปทุมธานี
เสกนาน 5 เดือน 15 นาที
12. พระอาจารย์มหาถาวร จิตตถาวโร วัดปทุมวนาราม ปทุมวัน กรุงเทพฯ
เสก 11 เดือน รวมถึงตลอดพรรษา ปี พ.ศ. 2532
13. หลวงปู่เจ๊ก อาจารสุโภ วัดระนามอ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
เสกนาน 30 นาที
14. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
อธิษฐานจิตให้ 14 วัน
15. หลวงพ่อหมื่น อุดม วัดตูม จ.พระนครศรีอยุธยา
เสกนาน 15 นาที
16. หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญานเสน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาอธิษฐานจิตนาน 10 นาที
17. หลวงพ่อสิริ วัดตาลอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี<O</O
นั่น คือการนำเหรียญไปรับการปลุกเสกเดี่ยวในแต่ละองค์ฯ ต่อไปคือการปลุกเสกแบบ “พุทธาภิเษก” ในพิธีที่จัดว่ายิ่งใหญ่พอสมควรเป็นจำนวนถึง 10 พิธี ด้วยกัน<O</O
1. “สวดไซ” ณ วัดสว่างภพ อ.คลองหวง จ.ปทุมธานีดำเนินพิธีโดยศิษย์หลวงพ่อเคน วัดเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี ที่ว่ากันว่าเป็นเทพเจ้าของไซมหาลาภในพิธีเสกยังประกอบไปด้วยหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี หวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน มีนบุรี กรุงเทพฯ หลวงปู่รส วัดสอนดีศรีเจริญ จ.ปทุมธานี หลวงพ่อเล็ก วัดกลางคลองสาม จ.ปทุมธานี พระอาจารย์ประสิทธ์ประสิทธิโก วัดหนองผักชี บางเขน
2. นำเข้าร่วมในพิธี “มังคลาภิเษก” รูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงพ่อปานโสนันโทร วัดบางนมโค ณ.วัดนก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ มีพระสายหลวงพ่อปานมาร่วมงานมากมาย อาทิ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา หลวงพ่อทิม วัดพระขาว <O</O
หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย หลวงพ่ออุไร วัดบางนมโค หลวงพ่อไวทย์ วัดรมวงศ์ ซึ่งทุกรูปที่กล่าวมาล้วนอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งสิ้น ในกรุงเทพฯ มี หลวงพ่อมหามหาประยงค์ วัดบางพลัดใน หลวงพ่อมหาเวก วัดดาวดึงส์ หลวงพ่อแสวง วัดนก
3. นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษก พระสมเด็จวัดเกษไชโย ณ วัดไชโยวรวิหาร<O</O
จ.อ่างทอง มีพระคณาจารย์ในพิธี อาทิตย์ พระธรรมปัญญาบดี วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พระพุทธพจน์วราภรณ์ วัดราชบพิธ กรุงเทพฯ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อเสงี่ยมวัดสุวรรณเจดีย์ จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อสอน วัดศาลเจ้า หลวงพ่อใหญ่ วัดสุวรรณภูมิ จ.สุพรรณบุรี <O</O
หลวงพ่อจำเนียร วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง จะสระบุรี หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย จ.นครปฐม หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ จ.ชลบุรี หลวงพ่อชม (ศิษย์หลวงพ่ออี๋) วัดโป่ง นาเกลือ จ.ชลบุรี หลวงพ่อทิม วัดคีรีวงศ์ จ.เพชรบุรี หลวงพ่อเล็ก วัดทำนบ จ.อ่างทอง หลวงพ่อเกรียง วัดวังน้ำเย็น จ.อ่างทอง หลวงพ่อทองใบ
วัดอบทม จ.อ่างทอง หลวงพ่อยิ่งยง วัดนางแลว จ.อ่างทอง<O</O

4. นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษก พระปิดตาบรรจุกระดาษสา ณ วัดศาลเจ้า อ.เมือง<O</O
จ.ปทุมธานี เมื่อวันมาฆบูชา ตรงกับวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 พระสงฆ์ <O</O
16 รูปเจริญพระพุทธคุณ 108 จบ ชินบัญชร 108 จบ ตอนกลางคืนเกิดจันทรคราส<O</O
หลวงพ่อสอนปลุกเสกเดี่ยว
5. นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี
รุ่นเสาร์ 5 เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2533
6. นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี
รุ่นเสาร์ 5 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2536<O</O

7. นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2537<O</O

8. นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกรูปหล่อหลวงพ่อแสวง อริโย เจ้าอาวาสวัดว่างภาพ <O</O
อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 3-5 มีนาคม พ.ศ. 2538 มีพระคณาจารย์มาร่วมพิธี 14 องค์ 1 ในนั้นคือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขนุทด จ.นครราชสีมา<O</O

9. นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2538 หลวงพ่อสอนปลุกเสกเดี่ยวในฤกษ์“จันทรคราส”
10. ข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2538 หลวงพ่อสอนปลุกเสกเดี่ยวในฤกษ์ “สุริยคราส”<O</O
<O</O
แต่วัตถุมงคลที่หลวงปู่แสวงได้อธิษฐานจิตยังมีอีกมากที่ไม่ได้มีการบันทึกไว้เพราะท่านก็ได้รับเชิญไปปลุกเสกอธิษฐานจิตต่างวัดต่างจังหวัดก็มาก
รุ่น1 รุ่น2 ดีครับ รักปู่นำลายละเอียดมาลงเสริมคุณกีรดารา ถ้าจะเก็บก็แนะนำ 2 รุ่น เพราะต่างกรรมต่างวาระ ที่สำคัญ เงินเขามูลนิธิมูลนิธิร.ร.บุญคุ้มราษฎร์บำรุง ไปเอาถึงที่เลยนะ <O</O

 

อธิบายความได้กระจ่างอย่างยิ่งเลยครับ ช่วยเพิ่มสติปัญญาให้รู้ได้ว่าพระเครื่องมีความสำคัญอย่างไร แต่ต้องอ่านด้วยหัวใจและปัญญาเปิดใจให้กว้างๆก็จะสามารถพิจารณาข้อธรรมที่กล่าวยกขึ้นมาได้ครับ

คำโบราณที่ผู้แก่ผู้เฒ่าได้สอนลูกสอนหลานสืบๆกันมาในการศึกษาหาความรู้ใดๆที่ลืมไม่ได้นั้น เป็นวลีที่ว่า " ดีแต่ปาก ดีกว่า ปากไม่ดี " นะลูกนะหลานจำไว้ให้ดี;aa7

 

อนุโมทนากับข้อมูลที่ละเอียดมากๆ สมกับที่ตั้งตารอชมไม่ผิดหวังเลยครับ

ขอบคุณมากๆนะครับท่านรักปู่ ว่าแต่มีข้อมูลอะไรดีๆที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่มาลงให้ชมอีกนะครับ พวกพ้องผู้ใจบุญรอชมอยู่นะครับ

 

อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลครับ...

 

"ศีล๕"<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o></o>
สมัยก่อนมีลูกศิษย์ลูกหาเข้าไปที่วัดเพื่อจะกราบขอวัตถุมงคลของหลวงปู่หรือไปคุยเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารริย์ หลวงปู่ท่านจะไม่ชอบคุยด้วยเท่าไหร่ แต่ถ้าถามท่านเรื่องธรรมะแล้วท่านจะอารมณ์ดีเล่าให้ฟังได้โดยไม่รู้จักเหนื่อย ดังเช่นวันหนึ่ง....หลวงปู่ท่านได้สอนลูกศิษย์ท่านหนึ่งว่าเวลาตื่นนอนมาทุกวันให้พยายามอาราธนาศีล๕ เพราะคนมีศีล ศีลจะเป็นเครื่องคุ้มตัวเราได้ตลอดไป ลูกศิษย์ท่านนั้นจึงกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า ถ้าเราอาราธนาศีล๕ไปแล้วเมื่อเรายังเป็นปุถุชนในระหว่างวันศีลย่อมต้องขาดแน่นอน...หลวงปู่เมตตาตอบว่าขาดก็ไม่เป็นไรตื่นเช้าก็อาราธนาใหม่ ถึงศีลจะขาดไป๑หรือ๒ข้อก็ยังเหลือศีลอีกตั้ง๓ข้อ คนเราถ้ามีศีลครองตัวก็ถือเป็นศริมงคลสำหรับตนเอง หมั่นถือศีลเข้าไว้สักวันเราก็จะถือได้ครบบริบูรณ์ทั้ง๕ข้อเอง
"อาจารย์เทพ"เล่าให้ฟังว่า ตอนเรียนจารตะกรุดกับหลวงปู่ใหม่ๆ ถามท่านว่า ก่อนเริ่มจารต้องอาราธนาคาถาบทใดมั้ย
หลวงปู่ท่านตอบว่า...."ไม่ต้อง แค่อาราธนาศีล๕ก็พอ ผู้มีศีลบริสุทธิ์จะทำอะไรก็ขลังทั้งนั้น"....
<o> </o>

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับเพราะเรื่องนี้เป็นที่ทราบโดยทั่วกันในบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่แสวง ท่านจะเมตตาสอนวิธีปฏิบัติให้เคร่งครัดในการรักษาศีล ๕ ให้บริบูรณ์อยู่เสมอ ท่านเมตตาสอนไว้ให้ทำทุกวัน ตื่นนอนตอนเช้าและเข้านออนตอนค่ำให้กราบพระน้อมจิตน้อมใจถึงพระรัตนตรัย อาราธนาศีล สวดอิติปิโสให้เป็นนิสัยทำอย่างนี้ได้เมื่อไหร่จะพ้นอบายภูมิและสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจทำตั้งใจศึกษาในสรรพวิชาต่างๆ โดยจะวัดกันที่ความเพียรของแต่คนว่ามีมากน้อยต่างกันเท่าไหร่ ที่สำคัญหลวงปู่ท่านได้เมตตาสอนมาว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างให้ทำของเราไปใช่ว่าเราจะรู้คนเดียวซะเมื่อไหร่ ไม่ต้องไปพูดเพื่ออวดตัว"

 

ขอถามหน่อยนะครับท่านผู้รู้จริงข้อมูลจริงๆนะครับอย่าเอาแบบว่าน่าจะหรือคงน่าจะใช้หรือเดา

อุปมานอุปมัย............

พอดีวันนี้ผมมีโอกาสครั้งแรกได้ไปกราบทำบุญกับหลวงปู่แสวงไปกราบหลวงพ่ออู่ทอง

และทำบุญสร้างศาลา....

ผมอยากทราบประวัติพระกริ่งที่มีให้บูชาอยู่กับทั้งเนื้อทองแดงและเนื้อทองเหลืองรวมถึงพระ

กริ่งตั๊กแตนพิพ์คล้ายๆหลวงปู่อยู่ วัดใหม่หนองพะอง...พระท่านที่ตู้หลวงน้าท่านก็บอกว่าใช้

ผมจับแล้วจับอีกแต่ไม่ทราบประวัติที่มาที่ไปซึ่งมันผิดวิสัยของผมที่ต้องรู้ข้อมูลก่อนบูชาเพื่อนำ

มาให้ศรัทธาก่อน....รบกวนขอข้อมูลลึกๆไม่ลับหน่อยครับ....ถ้ารู้แล้วถูกใจจะกลับเข้าไปบูชา

อีกครั้งครับ...ส่วนเรื่องการทำบุญไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นทำอยู่แล้ว...

แต่ตอนนี้ว่าด้วยวัตถุล้วนๆครับเห็นแล้วชอบพระกริ่งกระแสสวยดีครับ.....แต่อยากรู้ข้อมูลก่อน

ถ้าข้อความไม่เหมาะสมประการใดบอกนะครับจะลบทันที

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

ขอบคุณครับงั้นเนื้อทองเหลืองที่มีให้บูชาน่าสนใจที่สุดเพราะหลักฐานข้อมูล

มีที่มาที่ไป...........

แต่อีกนิดครับ เนื้อทองแดงนั้นก็หลวงปู่ทองอยู่หรือหลวงปู่แสวงครับที่ไม่ใช้กริ่งตั๊กแตนนะครับ

 

ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ......................

วันนี้ได้คุยกับคุณรักปู่แล้วข้อมูลเยี่ยมครับ ขอบคุณทุกท่านครับที่

ให้ข้อมูล...................

มีโอกาสจะเข้าไปกราบทำบุญกับหลงปู่อีกครั้งครับ....ขอบคุณครับ

 

วันอาทิตย์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๒

เป็นวันครบรอบ ๒ ปี วันมรณภาพหลวงปู่แสวง กลางคืนมีโขนสดแสดงเนื่องจากหลวงปู่แสวงท่านชอบในศิลปะการแสดงแขนงนี้มากครับ

เชิญเข้ามาร่วมทำบุญแสดงมุฑิตาจิตบูชาหลวงปู่แสวง พร้อมการลงน้ำมันตามสายวิชาที่หลวงปู่ได้ถ่ายทอดให้กับท่านอาจารย์เทพไว้เป็นกรณีพิเศษ ประกอบกับท่านอาจารย์ทอง แห่งวัดพระญาติ ผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากหลวงปู่เฉลิมให้จารตะกรุดมหาระงับอันลือชื่อ มาช่วยสักยันต์ตามสายวิชาวัดพระญาติ เรียกได้ว่าการลงเข็มสักของอาจารย์ทองสวยคมมากๆจนบรรดาลูกศิษย์และผู้ที่เคยเห็นฝีมือขนานนามท่านว่า "อาจารย์ทองเลเซอร์ปริ้นต์"
(deejai)
แล้วพบกันที่วัดนะครับทุกๆท่าน;aa10(deejai)(deejai)(deejai)

 

เหรียญ๒๔
เหรียญแจ่ม
"เหรียญที่หลวงปู่เสกจนกระโดดได้"

ถ้าหากถามลูกศิษย์หลวงปู่รุ่นเก่าๆว่าเหรียญรู่นใดของหลวงปู่ที่ถือว่าสุดยอดที่สุด....ความสูสีที่ลูกศิษย์ทุกคนคงตอบใกล้เคียงกันคงมีเพียงแค่สองเหรียญ หนึ่งคือเหรียญ๑๖ และอีกหนึ่งคงจะหนีไม่พ้น"เหรียญ๒๔" หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า เหรียญ"แจ่ม"
ที่เรียกกันว่าเหรียญ๒๔ เพราะสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช๒๕๒๔ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไว้แจกในงานฌาปรกิจศพโยมมารดาของหลวงปู่ มีลูกศิษย์ที่เคยบวชอยู่กับหลวงปู่เป็นเวลานานเล่าให้ฟังว่า จะได้ยินหลวงปู่พูดถึงเหรียญ๒๔นี้บ่อยมากๆๆๆ(ท่านจะพูดถึงมากกว่าเหรียญ๑๖ซะอีก) หลวงปู่ท่านว่าสรรพวิชาใดที่ฉันร่ำเรียนมาทั้งหมดอยู่ในเหรียญ๒๔นี้ ฉันทำเหรียญนี้ขึ้นมาเพื่อบูชาคุณโยมมารดาของฉันเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจึงอธิษฐานจิตเหรียญรุ่นนี้อย่างดีที่สุด ในสมัยราวปี๔๐ต้นๆ เหรียญนี้ที่วัดหาชมไม่ค่อยได้เพราะใครมาทำบุญหลวงปู่ก็แจกให้ญาติโยมไปจนหมด จนบางครั้งท่านพูดเปรยๆกับลูกศิษย์ว่า ถ้าไปเจอเหรียญ๒๔ที่ไหนให้บูชากลับมาให้ท่านด้วย มีผู้เคยถามหลวงปู่ว่าพุทธคุณในเหรียญ๑๖และ๒๔ต่างกันอย่างไร ท่านเมตตาตอบว่า "เหรียญ๑๖" เป็นเหรียญร้อนจะมีด้านคงกระพันแคล้วคลาดเป็นตัวนำ สำหรับ"เหรียญ๒๔"เป็นเหรียญเย็น จะดีด้านเมตตามหานิยม เพราะหลวงปู่ทำเหรียญรุ่นนี้ด้วยความรักความกตัญญูต่อโยมมารดาของท่าน ท่านบอกว่าเหรียญ๒๔ของท่านนี้เทียบเท่าสมเด็จเกศไชยโยเลยทีเดียว

สำหรับเรื่องที่มีผู้ยืนยันและเล่าขานขานกันมาว่าหลวงปู่เสกเหรียญรุ่นนี้จนเหรียญกระโดดได้ มีลูกสิษย์รุ่นหลังไปถามหลวงปู่ หลวงปู่ท่านตอบว่า...
"ไม่รู้เหมือนกัน ตอนฉันเสกฉันนั่งหลับตา จึงมองไม่เห็น!!!"

สำหรับชื่อเหรียญ"แจ่ม" ซึ่งเป็นชื่อที่ลูกศิษย์บางท่านเรียกเหรียญรุ่นนี้ ก็เนื่องมาจาก ด้านหน้าของเหรียญใต้องค์หลวงปู่เขียนว่า...พระครูปทุมกิจโกศล(แจ่ม) ชื่อแจ่มในวงเล็บคือนามเดิมของหลวงปู่(มูลเหตุที่หลวงปู่เปลี่ยนชื่อจาก"แจ่ม"เป็น"แสวง"ผมขออนุญาตนำมาลงภายหลังครับ)
มีลูกศิษย์ถามหลวงปู่(อีกแล้ว)ว่าเหรียญ๒๔นี้ดีอย่างไร ทำไมได้ยินหลวงปู่พูดถึงบ๊อยบ่อย หลวงปู่เมตตาตอบลูกศิษย์ท่านนั้นว่า...

..."เหรียญนี้ใครมีไว้ก็"แจ่ม""...

พอผมได้ฟังลูกศิษย์ท่านนั้นพูดให้ฟังผมถึงกับหัวเราะก๊าก แล้วหน้าของตลกท่านหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในมโนภาพ พร้อมกับถ้อยคำของตลกท่านนั้นก็ผุดขึ้นมาในมโนสำนึก....

...ถ้ามีเหรียญ๒๔ไว้บูชาล่ะก็"แหล่มเลย"...

 

อ้าว!น้องโชคฯ ขนาดอยู่ระหว่างเดินทางยังเจียดเวลามาดูแลกระทู้ สุดยอดครับ เดินทางโชคดีนะครับ....